ครีม รักษา กระ ทำเองได้ ง่ายจัง

 

… ทุกครั้งที่ออกไปเผชิญกับแสงแดดนอกบ้านบ่อยๆ ในระยะเวลานานๆ คุณสาวๆบางคนอาจจะสังเกตเห็นว่า ผิวใบหน้าของตัวเองในบริเวณที่ถูกแสงแดดอยู่เป็นประจำนั้น เริ่มปรากฏจุดสีน้ำตาลกระจายไปทั่วใบหน้า บริเวณแก้มทั้งสองข้าง ซึ่งทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆ ดูสะดุดตาไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณสาวๆ ที่มีผิวขาว ชนิดที่เรียกว่าผิวเกิดจุดสนใจที่ดูขัดตากันเลยทีเดียว

เจ้าจุดเล็กๆ สีน้ำตาลเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณสาวๆ รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปออกไปพบปะผู้คนนอกบ้าน ซึ่งเจ้าจุดสีน้ำตาลดังกล่าว ก็คือ สิ่งที่ถูกเรียกว่า “กระ” นั่นเอง…

กระคืออะไร?

“กระ” เป็นความผิดปกติของสีผิว มีลักษณะเป็นจุด (Macule) สีน้ำตาล มักเกิดกระจายอยู่ทั่วไปหน้า กระเป็นสิ่งที่สามารถพบทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และมักที่จะเกิดขึ้นบนผิวในบริเวณที่ถูกแสงแดด เช่น ใบหน้า ลำคอ แขน เป็นต้น หรือเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ กระมักที่จะมีสีเข้ม ซึ่งจะมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นในฤดูร้อนที่มีแสงแดดแรง และจางลงในฤดูหนาว

ประเภทของกระ

            กระสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ตามลักษณะของจุดสีน้ำตาลที่เกิดขึ้น ดังต่อไปนี้

1. กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักมีขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร มักเกิดขึ้นกระจายอยู่ทั่วบนใบหน้า เมื่อถูกแสงแดดมักจะมีสีที่เข้มขึ้น แต่หากไม่โดนแสงแดดในระยะเวลานาน สีของกระจะเริ่มจางลงไปได้เอง

2. กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา เห็นเป็นเงาลึก ส่วนใหญ่มักจะพบว่าขึ้นอยู่ในบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง

3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาล หรืออาจเป็นสีดำ เป็นก้อนเล็กๆ อาจจะมีผิวที่เรียบหรือผิวที่ขรุขระก็ได้ บางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายกับหูด มักพบในบริเวณใบหน้า หรือลำคอ

          4. กระแดด มีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ ส่วนใหญ่มักพบว่าเกิดขึ้นในกลุ่มของผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องทำงานท่ามกลางแสงแดดในระยะเวลานานๆ นอกจากนี้กระแดดมักที่จะพบมากในกลุ่มผู้หญิงเอเชียเนื่องจากเกิดการสร้างเซลล์เม็ดสีขึ้นผิดที่

การที่เกิดกระขึ้นบนใบหน้า คงไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์นักสำหรับคุณสาวๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกระมักขึ้น มักจะเป็นเพราะการที่ผิวหนังถูกแสงแดดสะสมอยู่เป็นประจำ

ดังนั้น วิธีการป้องกันการเกิดกระขึ้นที่ง่ายที่สุด คือ การพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวถูกแสงแดดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าจำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกในตอนกลางวัน ก็ควรที่จะทาครีมกันแดด และสวมใส่เสื้อผ้าที่มิชิดเพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดให้มากที่สุด

สำหรับคุณสาวๆ ที่เกิดกระขึ้นมาบนใบหน้าแล้วก็อย่าพึ่งรู้สึกท้อแท้ไป เพราะในวันนี้เรามีเคล็ดลับในการรักษา ลดเลือนรอยกระที่เกิดขึ้น ด้วยสูตรครีมจากสมุนไพรที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ด้วยตัวคุณสาวๆเองมาฝากกัน

สูตรสมุนไพรลดเลือนรอยกระอย่างง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

            1. สูตรกระเทียม นำกระเทียมมาฝานให้มีขนาดเท่ากับเม็ดถั่วเขียว จากนั้นนำไปวางไว้บนบริเวณที่เป็นจุดกระ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง แล้วล้างออก และควรทำซ้ำทุกๆ 3 วัน

2. สูตรว่านหางจระเข้ นำเอาวุ้นข้างในของว่านหางจระเข้ มาปั่นให้ละเอียดแล้วทาบริเวณที่เกิดกระขึ้น หรืออาจใช้เจลว่านหางจระเข้แทนก็จะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5-10 นาที ทำวันละสองครั้งในตอนเช้า และก่อนนอน

3. สูตรใบกระเพราะแห้ง นำใบกระเพราแห้งมาปั่น จนกระทั่งได้ปริมาณประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเติมน้ำที่ผ่านการต้มลงไปประมาณ 100 มิลลิลิตร คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปแช่เย็น จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทาในบริเวณที่เป็นกระวันละ 2 ครั้ง

4. สูตรน้ำมะนาว นำน้ำมะนาวแต้มบริเวณที่เป็นกระทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก จากนั้นทำการซับใบหน้าให้แห้ง

5. สูตรนมเปรี้ยว แนะนำให้เลือกใช้นมเปรี้ยวรสธรรมชาติ เนื่องจากมีปริมาณของกรดแลคติกที่สูงมากกว่านมเปรี้ยวรสอื่นๆ จากนั้นนำนมเปรี้ยวแต้มลงไปในบริเวณที่เกิดกระเล็กน้อย ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก

6. สูตรหัวไชเท้า นำหัวไชเท้ามาล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นนำไปถูบริเวณที่เป็นกระ วันละ 5-10 นาที แล้วล้างออก

7. สูตรนำมันมะพร้าว+น้ำมะนาว นำน้ำมันมะพร้าวมาผสมรวมกับน้ำมะนาวในปริมาณที่เท่าๆกัน ทำการคนผสมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปแต้มในบริเวณที่เป็นกระเป็นประจำทุกวัน จะสามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยจากกระให้ลดน้อยลง

          8. สูตรน้ำมะขามเปียก+น้ำผึ้ง ทำการคั้นเอาน้ำมะขามเปียก แล้วนำไปตั้งไฟอ่อนจนสุก แล้วผสมเข้ากับน้ำผึ้งคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาทาในบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก

9. สูตรข้าวโอ๊ต+มะม่วงหิมพานต์ นำข้าวโอ๊ตและมะม่วงหิมพานต์มาบดผสมให้เข้ากัน ผสมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยแล้วคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกหน้าทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก

10. สูตรหัวผักกาด นำหัวผักกาดมาหั่นให้เป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปทาในบริเวณที่เป็นกระให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น กระจะค่อยๆจางลงไปภายใน 10-15 วัน

11. สูตรไข่ขาวดิบ นำไข่ขาวดิบ โดยเฉพาะไข่ขาวที่อยู่รอบๆบริเวณไข่แดงซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการช่วยลดรอยจากกระได้มากที่สุด ทาลงบนใบหน้าบริเวณที่เป็นกระวันละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            12. สูตรแตงกวา นำแตงกวามาฝานให้เป็นแว่น ให้บางมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ จากนั้นให้นำมาวางบนใบหน้าในบริเวณที่เป็นกระ

            13. สูตรมะเขือเทศ+น้ำมะนาว นำมะเขือเทศมาคั้นน้ำให้ได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปผสมกับน้ำมะนาวในปริมาณที่เท่ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นล้างหน้าให้สะอาดพร้อมกับซับหน้าให้แห้ง แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาลงไปในบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

14. เบบี้ออย+น้ำมะนาว นำเบบี้ออยผสมเข้ากับน้ำมะนาวในปริมาณที่เท่ากัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาในบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

15. สูตรน้ำผึ้งอุ่นๆ นำน้ำผึ้งไปทำการอุ่น และควรระวังอย่าให้อุณภูมิของน้ำผึ้งสูงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้หน้าไหม้เมื่อทำการทาได้ จากนั้นนำวีทเจิร์มมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าพร้อมกับนวดด้วยนิ้วเบาๆ หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น และตามด้วยน้ำเย็น

            16. สูตรหอมแดง นำหอมแดงมาหั่นครึ่ง แล้วนำไปถูบนบริเวณที่เป็นกระ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หอมแดงจะช่วยทำการขจัดจุดกระและรอยด่างดำให้จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

17. สูตรขมิ้น+งา ผสมขมิ้นและงาในสัดส่วนที่เท่ากัน แล้วนำไปบดผสมกับน้ำเปล่าจำนวนเล็กน้อยให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปใช้ในการพอกหน้า ทิ้งเอาไว้ให้แห้งประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

18. สูตรแครอทต้ม+น้ำมะนาว นำหัวแครอทไปทำการต้มในน้ำเดือดประมาณ 15 นาที แล้วนำมาผสมกับน้ำมะนาวให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

19. สูตรน้ำส้มสายชู นำน้ำส้มสายชู ผสมเข้ากับน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่ากัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการทำความสะอาดใบหน้าในบริเวณที่เป็นกระ ซึ่งควรเลือกใช้น้ำส้มสายชูที่ผลิตจากแอปเปิ้ลหรือน้ำส้มสายชูที่ผลิตจากธรรมชาติ

20. สูตรมะละกอ นำเนื้อมะละกอสุกมาปันให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้า โดยเว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อควรระวัง : เนื่องจากในส่วนผสมในสูตรต่างๆที่ใช้ในการรักษากระมักมีส่วนผสมของน้ำมะนาว ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด การใช้น้ำมะนาวกับบริเวณใบหน้าจึงควรที่ทดลองใช้กับจุดเล็กๆก่อน เพื่อเป็นการทดสอบว่าผิวของคุณสาวๆ มีอาการแพ้น้ำมะนาวหรือไม่

ถ้าหากไม่เกิดอาการแพ้ หรือปวดแสบ ปวดร้อน มากจนผิดปกติ จึงค่อยๆ เพิ่มการใช้ในจุดอื่นๆ ต่อไป เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพผิวที่ดีของตัวคุณสาวๆ เอง

            ถ้าหากคุณสาวๆ ทำตามวิธีการเคล็ดลับที่ได้แนะนำไปในข้างต้นอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอแล้ว ในระยะเวลาที่ไม่นานนักก็จะสามารถเห็นผลว่าเจ้ากระตัวดีจะเริ่มจางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินและเสียเวลาในการไปรักษาตามสถาบันเสริมความงาม อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย มีราคาที่ไม่แพง อีกทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้สารเคมีเพื่อช่วยในการรักษาอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้ากระ ที่จะแนะนำให้ใช้ เรียงลำดับการทำความสะอาดผิวหน้า ตั้งแต่ การขัดหน้า ล้างหน้า ใช้เซรั่มกระชับรูขุมขน และก็ครีมหน้าใสเพื่อผิวเรียบเนียนเป็นการตบท้ายการบำรุงผิวพรรณเพื่อห่างไกล ฝ้ากระ กลับมาเยือนอีก

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

@kwang

by @kwang

@kwang. แอดมินกวาง ผู้คร่ำหวอดในวงการ สุขภาพ ลดน้ำหนัก อาหารเสริม และ สินค้าความงามตั้งแต่ปี 2010 อยากรู้เรื่องอะไรสอบถามได้เลยค่ะ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเตรียมตอบคำถามให้คุณ Line: @beauty24store / Tel: 092-254-8284


"ติดต่อสอบถามสินค้าและบริการ" Call center: 092-254-8284 แอดไลน์ : @beauty24store หรือกดลิ้งเลยค่ะ Line@ คลิ๊ก


Leave a Reply