สิ่งที่ควรรู้ ก่อนการตัดสินใจพอกหน้าขาว

คุณสาวๆ หลายคน คงชอบที่จะทำการรักษาผิวพรรณของตัวเองให้ขาวเนียนด้วยวิธีการพอกหน้า บางคนอาจจะถึงกับเข้าขั้นเซียนในการพอกหน้าชนิดที่ว่ามีสูตรการพอกหน้าทั้งจากวิธีธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์สำหรับพอกหน้าแบบทีเด็ดเก็บสะสมอยู่ในสต็อกมากมาย

ในความเป็นจริงแล้ว การพอกหน้า นั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ที่คุณสาวๆ อาจจะไม่ทราบ ซึ่งในวันนี้จะขอพาไปรู้จักกับสิ่งที่คุณสาวๆ ควรรู้ ก่อนการตัดสินใจพอกหน้าว่ามีอะไรบ้าง?

ประโยชน์ของการพอกหน้า

การพอกหน้า มีประโยชน์ต่อผิวพรรณในหลายๆ ด้าน เช่น การพอกหน้าช่วยดูดซึมซับเอาสิ่งสกปรกรวมไปถึงไขมันส่วนเกินที่อยู่ตามรูขุมขนออกไป ทำให้ใบหน้ามีความสะอาดมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวใบหน้ากระชับ มีน้ำมีนวล อีกทั้งยังช่วยลบเลือนรอยหมองคล้ำ แต่ที่สำคัญที่สุดและเป็นเหตุผลที่คุณผู้สาวๆ เลือกใช้วิธีพอกหน้าในการรักษาผิวพรรณ เป็นเพราะการพอกหน้าช่วยให้ใบหน้าขาวเนียนใสขึ้นได้นั่นเอง

การเลือกผลิตภัณฑ์หรือสูตรจากพอกหน้าจากธรรมชาติให้เหมาะสมกับตนเอง

           การเลือกผลิตภัณฑ์ในการพอกหน้า หรือสูตรจากการพอกหน้าจากธรรมชาติ คุณสาวๆ ควรทำการพิจารณาถึงสภาพผิวของตัวเอง เพื่อที่จะได้ทำการเลือกวิธีการพอกหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังเป็นการช่วยลดโอกาสเกิดอันตรายต่อผิว โดยสามารถพิจารณาสภาพผิวได้อย่างกว้างๆ ดังต่อไปนี้

1. ผิวมัน มีสิว ควรเลือกครีมพอกหน้าที่ช่วยในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือ AHB หรือส่วนประกอบของพืชธรรมชาติ เช่น แตงกวา ชาเขียว สารสกัดชา เกล็ดรำข้าว รวมไปถึงครีมพอกหน้าที่มีคุณสมบัติในการแทรกตัวเข้าไปเพื่อยับยั้งการขับน้ำมันส่วนเกินจากในเซลล์ผิว หรือ Sebum ที่คั่งค้างอยู่ตามรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความระคายเคือง และการอักเสบของสิวขึ้น

            2. ผิวแห้ง ควรเลือกใช้ครีมพอกหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว เช่น น้ำมัน น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก สาหร่าย เป็นต้น

3. ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกครีมพอกหน้าที่มีส่วนผสมของชาเขียว คาโมมายล์ ใบบัวบก วิชซ์ฮาเซล สาหร่าย เป็นต้น

4. ผิวที่มีปัญหาเรื่องฝ้า จุดด่างดำ ควรเลือกครีมพอกหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ซึ่งจะช่วยทำให้สุขภาพของผิวดีขึ้น และช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

5. ผิวที่มีริ้วรอย ควรเลือกครีมพอกหน้าที่ช่วยเสริมสร้างให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น หรือมีส่วนผสมของคอลลาเจน ซึ่งจะช่วยในการลบเลือนริ้วรอบ ทำให้ผิวเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย

ความถี่ที่เหมาะสมในทำการพอกหน้าขาว

ถ้าหากเป็นครีมพอกหน้าที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า ก็สามารถที่จะทำการพอกหน้าได้ทุกวันโดยที่ไม่มีอันตราย ส่วนครีมพอกหน้าสำหรับช่วยทำให้ผิวขาว หรือช่วยลดความมันของใบหน้า สามารถทำได้ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ข้อควรระวังในการพอกหน้า

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่าการพอกหน้านั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ซึ่งข้อเสียที่คุณสาวๆควรให้ความสนใจพึงระวังเอาไว้เมื่อต้องทำการพอกหน้า เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพผิว โดยข้อควรระวังมีดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ก่อนที่จะทำการพอกหน้าขาว ควรทำการทดสอบก่อนว่าผิวของตัวเองนั้นมีอาการแพ้ครีมพอกหน้าหรือไม่ โดยการทดลองกับผิวหนังส่วนด้านในของข้อพับแขน ทำการพอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากการพอกแล้วไม่เกิดอาการผิดปกติ เช่น อาการแสบ คัน ระคายเคือง ผื่นแดง ตุ่มคัน เป็นต้น ก็สามารถที่จะใช้ครีมดังกล่าวไปทำการพอกหน้าได้

2. ในขณะที่พอกควรเว้นบริเวณดวงตาและปากเอาไว้เสมอ ไม่ควรทำการพอกหน้าทับทั้งสองจุดดังกล่าวโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความบอบบางสูง เพราะในส่วนผสมของครีมพอกหน้าอาจจะมีสารที่ทำให้เกิดความระคายเคืองได้

3. การพอกหน้าบ่อยจนเกินไปมีแต่ข้อเสีย การพอกหน้า โดยสูตรที่มีส่วนของผสมจาก AHA หรือ AHB เป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้ออกไป ถ้าหากทำการพอกหน้าบ่อยจนเกินไปก็จะทำให้ผิวของเรานั้นบางลง ทำให้ผิวเกิดความไวต่อแสงมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผิว

ดังนั้นควรทำการพอกหน้าเพียง 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ แต่ในกรณีที่เป็นการพอกหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ไม่ใช่การผลัดเซลล์ผิวเพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้น สามารถทำการพอกหน้าได้เป็นประจำทุกวันโดยที่ไม่มีผลเสียอะไร

            4. ควรทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้งก่อนการพอกหน้า เพราะถ้าหากไม่ทำความสะอาดก่อนการพอกหน้าลงไปเลยทั้งแบบนั้น อาจจะกลายเป็นการให้อาหารเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนจากส่วนผสมของครีมพอกหน้าโดยที่คุณสาวๆไม่ทันรู้ตัว โดยเฉพาะการพอกด้วยไข่ขาว ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียยิ่งมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้การไม่ทำความสะอาดใบหน้าก่อนการพอกหน้า ยังทำให้ประสิทธิภาพในการพอกหน้าลดลง เนื่องจากเนื้อครีมไม่สามารถซึงลงสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีคราบสกปรกขวางทางอยู่

5. ควรทำความสะอาดใบหน้าหลังจากที่ทำการพอกหน้าทุกครั้ง เพราะถ้าหากไม่ทำความสะอาดใบหน้าหลังจากการพอกหน้าให้ดี หรือปล่อยให้ครีมพอกติดอยู่กับใบหน้าแบบนั้นนานๆ หรือทิ้งเอาไว้ข้ามคืน จะเป็นการทำให้ผิวหยาบแห้งกร้านขึ้น

6. ในขณะที่ทำการพอกควรปล่อยให้ครีมพอกแห้งเองตามธรรมชาติ ไม่ควรทำการเร่งให้ครีมพอกแข็งตัวเร็วขึ้น เช่น การเป่าด้วยเครื่องเป่าแห้ง พัดลม เป็นต้น ควรปล่อยให้เกิดการแห้งไปตามปกติ เพราะจะทำให้ผิวได้ดูดซับรับประโยชน์ในการบำรุงผิวจากส่วนผสมในครีมพอกหน้าได้อย่างเต็มที่

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

@kwang

by @kwang

@kwang. แอดมินกวาง ผู้คร่ำหวอดในวงการ สุขภาพ ลดน้ำหนัก อาหารเสริม และ สินค้าความงามตั้งแต่ปี 2010 อยากรู้เรื่องอะไรสอบถามได้เลยค่ะ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเตรียมตอบคำถามให้คุณ Line: @beauty24store / Tel: 092-254-8284


"ติดต่อสอบถามสินค้าและบริการ" Call center: 092-254-8284 แอดไลน์ : @beauty24store หรือกดลิ้งเลยค่ะ Line@ คลิ๊ก


Leave a Reply