หนุ่มสาวต้องระวัง! หมอนรองกระดูกทับเส้น

         หมอนรองกระดูกทับเส้น เป็นอีกหนึ่งโรคที่หนุ่มๆสาวๆวัยทำงานต้องระวัง เพราะที่ผ่านมาพบผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังอันเนื่องมากจากหมอนรองกระดูกทับเส้น เพิ่มมากขึ้นในทุกช่วงอายุและในหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงานช่วงอายุตั้งแต่ 25-50 ปี ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการทำงานที่เคร่งเครียด ไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอ่อนล้าและเสื่อมสภาพลงไป
         อย่างไรก็ดี หลายคนคงสงสัยว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นคืออะไร อาการของมันเป็นอย่างไร แล้วจะสามารถทำการป้องกันได้หรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

เกี่ยวกับ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

         โรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท คือภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างกระดูกสันหลัง ซึ่งเกิดจากอายุที่มากขึ้น และการเสื่อมสภาพของร่างกาย การยกของหนัก การสูบบุหรี่ ตลอดจนอุบัติเหตุกระแทกบริเวณกระดูกสันหลังบ่อยๆ ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมเร็วขึ้น จากการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังนี้เองที่ทำให้เกิดการทรุดตัวของโครงสร้างกระดูกตามไปด้วย ร่างกายจะมีการตอบสนองโดยการสร้างกระดูกงอก หรือหินปูนขึ้นมาเพื่อต้านการทรุดตัว แต่โดยปกติแล้วกระดูกงอก ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ แต่บางรายเกิดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท และทำให้เกิดอาการปวดร้าวไปตามเส้นประสาทของร่างกายได้

อาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้น
         อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทขึ้นอยู่กับตำแหน่งของหมอนกระดูกว่ากดทับเส้นประสาทเส้นใด 1) หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 4-5 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้มเนื้อหัวไหล่ แต่ไม่มีอาการชามือ 2) หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 5-6 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อด้านหน้า(bicep ) กล้ามเนื้อที่ใช้กระดกข้อมืออ่อนแรง ชาหรือปวดบริเวณมือฝากนิ้วหัวแม่มือ

         3) หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 6-7 จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อด้านหลัง(triicep ) กล้ามเนื้อที่ใช้เหยียดนิ้วมือ ชาหรือปวดบริเวณริ้วกลาง และ 4) หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่อยู่ระหว่างกระดูกข้อที่ 7-กระดูกหน้าอกข้อที่1 ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อสำหรับการกำมือ ชาบริเวณมือฝากนิ้วก้อย

ป้องกันหมอนรองกระดูกทับเส้นได้อย่างไร
         การป้องกันแต่เนิ่นๆย่อมดีกว่าการรักษา โดยมีหลักการคือการใช้หลังอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หากต้องนั่งนานๆควรหาโอกาสเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ และควรหมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของหมอนรองกระดูกไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรได้ ซึ่งท่าบริหารที่นำไปปฏิบัติ 3-5 ครั้งทุกเช้าเย็น ได้แก่

         ท่าที่ 1 นอนหงาย ยกขาขึ้นข้างหนึ่งให้สูงจากพื้นประมาณ 1 คืบ เข่าเหยียดตรง กระดกปลายเท้าเข้าหาตัว ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับขาอีกข้าง
         ท่าที่ 2 นอนหงาย ใช้มือทั้งสองกอดเข่าข้างหนึ่ง โน้มเข่าลงมาให้ชิดลำตัวค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำสลับกับเข่าอีกข้าง
         ท่าที่ 3 นอนหงาย ชันเข่าขึ้น ประสานมือสองข้างไว้ด้านหลังบริเวณเอว จากนั้นแขม่วท้อง กดหลังลงค้างไว้ 5 วินาที 
         อย่างไรก็ตาม หากเริ่มมีอาการปวดหลัง ไม่ว่าจะปวดมากๆหรือเป็นๆหายๆ เป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อทำงานวินิจฉัยโรคทันที หากเป็นโรคหมอนรองกระดูดทับเส้นประสาท หมอจะให้การรักษาตามลำดับ ได้แก่ กินยาระงับปวดเพื่อลดการอักเสบ ทำกายภาพ และฉีดยาลดการอักเสบที่เส้นประสาท จากนั้นถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นจะทำการผ่าตัด ซึ่งต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายแสนแพง ฉะนั้น จงท่องให้ขึ้นใจว่า “กันไว้ดีกว่าแก้”

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า