ครีมกระชับสัดส่วน ส่วนยี่ห้อไหน เห็นผลกระชับได้รวดเร็วจริง

            ถ้าหากคุณสาวๆกำลังมองหาครีมกระชับสัดส่วนที่ดีที่สุด ที่จะช่วยในการกระชับผิว โดยการต่อต้านแรงโน้มถ่วง หรือความหย่อนคล้อยของผิวที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูโร ซึ่งนำไปสู่การเกิดสัญญาณต่างๆของริ้วรอย และการสะสมตัวของเซลูไลท์ใต้ผิวหนังขึ้น ถึงแม้ว่าครีมกระชับสัดส่วนจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับคุณสาวๆได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ยากคือการมองหาครีมกระชับสัดส่วนที่ดี และเหมาะสมกับตัวคุณเองให้มากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดยอาศัยหลักการดังต่อไปนี้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการเลือกซื้อครีมกระชับสัดส่วน
ครีมกระชับสัดส่วน มักเป็นครีมที่ต้องใช้ในพื้นที่เฉพาะ คุณสาวๆจึงควรเลือกและกำหนดพื้นที่บางส่วนของร่างกายของคุณให้ชัดเจน พร้อมกับเลือกซื้อครีมกระชับสัดส่วนให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการ เช่น ผิวหน้า แขน ก้น น่อง หน้าท้อง และบริเวณต้นขา เป็นต้น ซึ่งครีมกระชับสัดส่วนต้องทำการใช้ติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะเกิดผลลัพธ์ขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน และควรจะเริ่มต้นใช้ในบริเวณที่ต้องการเสียก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้เกิดสัญญาณเตือนต่างๆของผิวขึ้น

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อต้องการซื้อครีมกระชับสัดส่วน
1.มีส่วนประกอบของเคลาติน (Keratin) ครีมกระชับสัดส่วนที่ดี ควรจะมีส่วนผสมของเคลาติน ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นเส้นใยในร่างกายที่จะช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวให้มีความเหมาะสม คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยในความหนาแน่นของผิวไม่เกิดความหย่อนคล้อยลง ในขณะเดียวกันอีลาสตินที่ลดลงก็จะทำให้เกิดเส้นลึก และริ้วรอยขึ้นบนผิว
            2.ควรเลือกครีมกระชับสัดส่วนที่มีส่วนประกอบของนาโนคอลลาเจนและอีลาสติน เนื่องจากมีอนุภาคที่เล็ก ซึ่งทำให้ผิวหนังสามารถเกิดการดูดซึมโดยผิวหนังได้ง่ายมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากเลือกอนุภาคนาโนที่มีขนาดใหญ่มากจนเกินไป ก็จะทำให้เกิดการดูดซึมผ่านผิวหนังได้น้อย ประสิทธิภาพในการกระชับสัดส่วนจึงเกิดขึ้นได้น้อยตามไปด้วย
            3.มีสารต่อต้านเซลูไลท์ เซลูไลท์ใต้ผิวหนังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดรอยบุ๋ม หรือขยายตัวดันผิวหนังขึ้นเป็นก้อนจนดูน่าเกลียดไม่เรียบเนียน ซึ่งมีสารหลายชนิดในครีมกระชับสัดส่วนที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำการต่อต้านเซลูไลท์เหล่านี้โดยเฉพาะ อาทิเช่น คาเฟอีน ที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดความชื้นส่วนเกินออกจากชั้นหนังแท้และชั้นหนังกำพร้า, เรตินอล กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน, L-Carnitine ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน และชาเขียว ที่ช่วยในการปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว เป็นต้น

            4.มีสาร Coenzyme Q10 สารตัวนี้จะมีคุณสมบัติในการทำงานระดับเซลล์ โดยทำการซึมซับเข้าไปในผิวหนังพร้อมกับทำการต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังทำการลดการอักเสบ พร้อมกับต่อต้านรังสี UVA และ UVB อีกด้วย
            5.มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สารสกัดจากพืช ผัก และผลไม้ที่อยู่ในครีมกระชับสัดส่วน สามารถช่วยบำรุงผิวให้เกิดความสมดุลของน้ำมันปกป้องผิวตามธรรมชาติ ซึ่งสารจากธรรมชาติที่ควรพิจารณาเลือกผสมอยู่ภายในครีมกระชับสัดส่วน ได้แก่ สาหร่ายทะเลวากาเมะ ที่ช่วยกระตุ้นระดับการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความกระชับเต่งตึงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังควรมีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน A,C,E ที่ช่วยในการต่อต้านริ้วรอย
            6.ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิว ครีมกระชับสัดส่วนที่ดีควรมีค่า SPF อย่างน้อย 15 และส่วนผสมของมอยเจอไรเซอร์ เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมองหาครีมกระชับสัดส่วน
เพียงแค่รู้ส่วนผสมที่ดีในครีมกระชับสัดส่วนยังถือเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพอ คุณสาวๆยังควรที่จะรู้จักสิ่งที่ส่งผลเสีย รวมไปถึงสารเคมีที่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง เช่น Parabens, น้ำมัน, แอลกฮอล์, ไดออกเซน และกลิ่นหอมสังเคราะห์ต่างๆ รวมไปถึงอาการแพ้ส่วนผสมจากธรรมชาติบางอย่างเป็นการส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมกระชับต้นแขนช่วยได้จริงหรือ?

       ต้นแขนที่ใหญ่เกินพอดีเป็นปัญหาที่สาวๆหลายคนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ผู้หญิงหลายๆคนมีตัวเลือกในการแต่งตัวได้น้อยลง เพราะตัวการใส่เสื้อโชว์แขนจะเป็นเรื่องที่ขยาดสำหรับคนแขนใหญ่ และบางครั้งแขนที่ใหญ่นั้นก็อาจจะทำให้สาวๆสูญเสียความมั่นใจยามที่พวกเธออกไปเที่ยวข้างนอกก็เป็นได้

ด้วยปัญหาเหล่านี้จึงก่อเกิดนวัตกรรมใหม่นั่นก็คือ ครีมกระชับต้นแขน ซึ่งอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาแขนใหญ่สำหรับสาวๆ โดยครีมกระชับต้นแขนแต่ละยี่ห้อนั้นล้วนมีสรรพคุณมากมาย มีส่วนผสมสารนู้นสารนี้ สกัดจากเปลือกผลไม้บ้าง ซึ่งแม่ค้าบางเจ้าก็ให้ดารามายืนยันถึงผลของครีมสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ลึกๆแล้วหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเพียงแค่ทาครีมกระชับต้นแขน แล้วแขนจะเล็กลงจริงหรือ??

ในความเป็นจริงแล้ว ครีมกระชับต้นแขนนั้นไม่ได้ทำให้แขนเราเต่งตึงขึ้น หากแต่ช่วยทำให้ผิวดูกระชับขึ้นต่างหาก จุดไหนที่มีเซลลูไลท์ หรือผิวขรุขระ เนื้อครีมก็จะแทรกซึงเข้าไปทำให้แขนดูเรียบเนียนในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าตัวแขนยังคงใหญ่เหมือนเดิม  และหากต้องการผลระยะยาวก็ต้องไปหาตัวครีมกระชับต้นแขนที่สามารถเข้าไปบำรุงผิวชั้นในได้ เพื่อสร้างคอลลาเจน ขจัดไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ให้ผิวหนัง

       โดยสารที่มีคุณสมบัติสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนังได้ก็จะมีแค่ เรตินอยด์, เรตินอล, ไดเมธิล, ลามีโนเอธานอล และเปปไทด์ (Retinoids, retinols, dimethylaminoethanol and peptide) โดยสารทั้งหมดนั้นจะมีราคาแพง จนทำให้ครีมหลายเจ้า ไม่นิยมลงทุนใช้เป็นส่วนประกอบอย่างจริงจัง ดังนั้นครีมกระชับต้นแขนที่มีราคาถูกจึงให้ผลได้เพียงระยะสั้นเสียส่วนใหญ่

       แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการทาครีมกระชับต้นแขนจะไม่ดีเสียทีเดียว แม้ว่าสรรพคุณหลักๆจะช่วยทำให้ผิวดูดีดีเรียบเนียน แต่ถ้าเราออกกำลังกายกระชับต้นแขนควบคู่ไปด้วย ก็คงจะดีไม่น้อยเพราะถ้ามีทั้งผิวเรียบเนียนและแขนที่กระชับแบบธรรมชาติควบคู่กันไป ความมั่นใจของสาวๆจะต้องมีเพิ่มเป็นทวีคูณแน่นอน

วิธีออกกำลังกายกระชับต้นแขนนั้นแสนง่ายและสามารถทำได้ที่บ้าน เพียงแค่ดัมเบลล์ 1 กิโลกรัม หรือขวดน้ำ 1 ลิตรที่บรรจุน้ำเต็ม ก็สารมารออกกำลังกายกระชับต้นแขนได้แล้ว โดยวิธีการออกกำลังมีดังนี้

       วิธีที่ 1 ยืนกางขาให้พอดีกับหัวไหล่ทั้งสองข้าง ถือดัมเบลล์แบบหงายมือขนาบข้างตัว จากนั้นก็ยกดัมเบลล์ขึ้นโดยการพับข้อซอกช้าๆ แต่แขนท่อนบนยังคงอยู่ที่เดิม ยกจนดัมเบลล์เกือบชิดหัวไหล่ จากนั่นก็ยกดัมเบลล์ลงอย่างช้าๆ ทำแบบนี้สลับกันไป วันละ 30 ครั้ง

วิธีที่ 2 ยืนกางขอให้พอดีเหมือนวิธีแรก แล้วถือดัมเบลล์แบบคว่ำมือ จากนั้นค่อยๆยกดัมเบลล์เหยียดไปข้างหน้าทั้งสองข้าง แบบไม่งอแขนอย่างช้าๆ จนแขนขนานกับพื้น จากนั้นค่อยๆผ่อนลงช้าๆ ทำแบบนี้วันละ 30 ครั้งเช่นกัน

       วิธีที่ 3 ยืนกางขาพอประมาณเช่นเดิม ยกดัมเบลล์ขึ้นเหนือศีรษะช้าๆจนสุดแขน ค้างไว้อย่างนั้นสักพัก จากนั้นค่อยพับแขนไปด้านหลัง ให้เป็นรูปตัว L คว่ำลง โดยขั้นตอนนี้ต้องจับดัมเบลล์ดีๆ เพื่อป้องกันเหตุอันตราย ทำอย่างนี้ 30 ครั้งเช่นเดิม

ทั้งสามวิธีนี้ จะทำสลับวันละวิธี หรือรวบทั้งสามวิธีในวันเดียวก็ได้ แต่ต้องอาศัยการทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อแขนที่ดูเรียว อีกทั้งอย่าลืมมาครีมกระชับต้นแขนเพื่อนให้แขนของสาวๆดูดีขึ้นไปอีก ข้อควรระวังของการดูแลรักษาต้นแขนก็คือการกิน เพราะการที่แขนใหญ่นั้น ส่วนใหญ่มาจากไขมันส่วนเกิน อันเกิดจากการกินที่เยอะเกินพอดี เพราะถ้าไม่ระมัดระวังเรื่องการกินแล้ว ต่อให้สาวๆหักโหมออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ทาครีมกระชับต้นแขนอยู่ทุกวัน ก็ไม่อาจช่วยให้แขนลดลงอย่างจริงจังได้

เมื่อได้รู้สรรพคุณของครีมกระชับต้นแขน และวิธีดูแลรักษาต้นแขนแล้ว อย่าได้รอช้าที่จะดูแลรักษาตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ร่างกายที่ดูดีตามธรรมชาติ ย่อมหมายถึงการเอาใจใส่ของตัวเราเอง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ไม่อยากสะโพกใหญ่ ทำไงดี

       คุณสาวๆหลายคนมีความเชื่อว่า แคลอลี่ที่ได้รับทั้งหมดได้ย้ายไปสะสมรวมกันอยู่ที่สะโพก ซึ่งมันเป็นความจริง ไม่ได้เป็นจินตนาการแต่อย่างใด เพราะก่อนวัยหมดประจำเดือน ร่างกายของคุณสาวๆหลายส่วนจะเกิดการจัดเก็บไขมันส่วนเกินเอาไว้ภายในร่างกาย ในฐานะพลังงานสำรอง ซึ่งเป็นกลไกของร่างกายที่เกิดขึ้นมายาวนานนับตั้งแต่อดีตที่คนเราอาศัยอยู่ภายในถ้ำ เพื่อให้ผู้หญิงสามารถให้กำเนิด และเลี้ยงดูบุตรในช่วงเวลาแห่งคามแห้งแล้ง หน้าหนาว และความอดอยาก ทำให้ร่างกายของผู้หญิงเกิดกระบวนการสะสมไปไปไวที่สะโพกจนกระทั่งใหญ่ขึ้นได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในช่วงเวลาตั้งครรภ์ และให้นมบุตรร่างกายของคุณสาวๆจะต้องการแคลอลี่มากขึ้นถึง 1,000 แคลลอลี่ เลยทีเดียว

ในยุคปัจจุบันที่อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ การกักเก็บพลังงานสำรองเอาไว้เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นนัก แต่การจะกำจัดยีนส์ของบรรพบุรุษตั้งแต่สมัยยุตหิน ก็เป็นสิ่งท้าทายที่ต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้นสำกรับคุณสาวๆที่กำลังประสบปัญหาสะโพกใหญ่ ทำไงดีอยู่นั้น ลองมาติดตามกลเม็ดเคล็ดลับว่าสามารถทำได้อย่างไรนั้น จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ไม่อยากสะโพกใหญ่ โปรดทำตามวิธีดังต่อไปนี้

สะโพกใหญ่ ทำไงดี ถือเป็นปัญหาโลกแตกที่ทำให้คุณสาวๆสูญเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นโชว์สะโพก แทนที่คนอื่นๆจะชื่นชม ก็กลับมองด้วยสายตาแปลกๆให้ชวนอาย แต่ถ้าหากรู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไรแล้วรู้จักวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง ปัญหาสะโพกใหญ่ ทำไงดี ก็หายลับไปจากชีวิตของคุณสาวๆ แบบไปแล้วไปลับเลยทีเดียว

       1.กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณสะโพก โดยปกติแล้วระดับของฮอร์โมนที่สูงเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอให้เกิดเซลูไลท์ที่สะโพก ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า การที่เลือดไหลเวียนไม่ดีจากปัญหาอะไรบางอย่างต่างหาก ที่ทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณนั้นเกิดความเกี่ยวพัน ทำให้เกิดอาการบวม นอกจากนี้ยังทำให้ไขมันเกิดการแทรกตัวผ่านเข้าไปสะสมได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

2.ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงมากกว่าปกติ สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของปริมาณเซลูไลท์ที่สะสมตัวอยู่ในบริเวณสะโพกทุกรูปแบบ ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการพยายามรักษาระดับฮอร์โมนให้เป็นปกติ โดยวิธีง่ายๆ อย่างการรับประทานอาหารจากถั่วเหลือง โดยเฉพาะนมถั่วเหลือง และบล็อกโคลี่ เป็นต้น

       3.การกักเก็บน้ำในร่างกาย คุณสาวๆหลายคนคิดว่า การกักเก็บน้ำนั้นเกิดขึ้นเฉพาะในช่องท้องเท่านั้น ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริง การกักเก็บน้ำที่จริงแล้วจะเกิดขึ้นทั่วร่างกายรวมถึงสะโกด้วย ทำให้เกิดปัญหาสะโพกใหญ่ ทำไงดี ในที่สุด สำหรับวิธีลดอาการบวมน้ำอย่างง่ายๆก็ได้แก่ ไม่ทานอาหารรสเค็มจัด ดื่มน้ำในปริมาณอย่างพอเพียง เพราะยิ่งร่างกายขาดน้ำมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้ภายในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการบวมในส่วนต่างๆมากเท่านั้น และการทานขึ้นฉ่าย เป็นต้น

       4.ความเครียด อารมณ์เครียดมีความสัมพันธ์กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และระดับของฮอร์โมนในร่างกาย การรู้จักผ่อนคลายความเครียด เช่น ทำสิ่งที่ชอบ หางานอดิเรกทำ การเข้าสังคม จะช่วยทำให้การเกิดเซลลูไลท์ที่สะโพกลดน้อยลงอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว

       อย่างไรก็ตาม วิธีการแก้ไขปัญหาสะโพกใหญ่ ทำไงดี ที่ง่าย และดีที่สุดคือ การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที ขึ้นไป หรือจะให้ดีที่สุดคือการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันมีสุขภาพดี ป้องกันอารมณ์ไม่ให้แปรปรวน และสุดท้ายแล้วจะทำให้ปริมาณของไขมันที่ไหลไปกองสะสมอยู่ที่สะโพกของคุณสาวๆนั้นน้อยลงเป็นอย่างมาก

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดแก้ม แก้มบวมเอ๋ยจงหายไป

       คุณรู้สึกเบื่อไหม ที่ต้องมีแก้มอ้วนๆ…!?

แกมอ้วน บวม ใหญ่ เป็นหนึ่งในปัญหาด้านใบหน้าอันดับต้นๆที่ทำให้คุณสาวๆรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะใบหน้าเป็นสิ่งแรกที่เมื่อพบปะกันแล้ว คู่สนทนาจะทำการมองเห็นก่อนเป็นอันดับแรกทำให้ยากต่อการอำพรางปกปิด สำหรับวิธีลดแก้มที่ดีที่สุด คือ การลดน้ำหนักโดยรวมในร่างกายของตัวคุณสาวๆให้น้อยลง บวกกับการออกกำลังผิวหน้า และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของตัวคุณ ซึ่งคุณสามารลดแก้มที่อ้วนๆให้กลับมาผอมเพรียวเข้ารูปได้อย่างง่ายๆ ด้วยวิธีลดแก้ม ดังต่อไปนี้

วิธีลดแก้มอย่างง่ายๆ โดยการปรับพฤติกรรมทานอาหารของคุณ

1.ดื่มน้ำจำนวนมาก หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการดื่มน้ำมากจนเกินไปนั้น จะทำให้แก้มยิ่งอ้วนขึ้น แต่ที่จริงแล้วการได้รับน้ำจำนวนน้อยจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะทำให้ร่างกายของคุณเกิดการสะสมสำรองน้ำเอาไว้บริเวณแก้มและรอบดวงตา ทำให้แก้มของคุณดูอ้วนมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นวิธีลดแก้มที่ดีที่สุด คือการพยายามดื่มน้ำให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย ประมาณอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

2.เลี่ยงอาหารรสเค็มและหวานจัด เกลือและน้ำตาลในอาหารที่มีปริมาณมากจนเกินไป จะทำให้ร่างกายมีแนวโน้มที่จะกักเก็บน้ำเอาไว้ที่บริเวณใบหน้า จนทำให้แก้มของคุณบ่วมป่องขึ้นมา วิธีลดแก้มที่ดีที่สุด คือ การพยายามลดอาหารเหล่านี้ลง แล้วหันไปทานเนื้อสัตว์ติดมัน หรือเพลิดเพลิดกับความหวานจากธรรมชาติโดยการทานผลไม้สุก แทนเหล่าขนมนมเยนที่เต็มไปด้วยน้ำตาล

       3.ลดเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์เป็นจำนวนมาก จะทำให้ร่างกายของคุณเกิดอาการขาดน้ำ และจะเกิดการกักเก็บสำรองน้ำเอาไว้บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้มจนกระทั่งดูบวมป่องมากขึ้น นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยแคลลอลี่ และน้ำตาลอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวิธีลดแก้มที่ดีที่สุด ก็คือการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอล์นั่นเอง

4.ทานผักและผลไม้มากขึ้น การทนผักและผลไม้นอกจากจะทำให้สุขภาพโดยรวมของตัวคุณสาวๆดีมากขึ้นแล้ว พวกมันยังอุดมไปด้วยน้ำ ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยรักษาระดับของน้ำในแก้มของคุณ และมีเส้นใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมากที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว พร้อมลดความอยากทานขนมขบเคี้ยวที่มากไปด้วยน้ำตาลของคุณสาวๆที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีไขมันสะสมที่แก้มให้น้อยลงอีกด้วย

 5.ทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เช่น นม ชีส โยเกิร์ต เป็นต้น สามารถช่วยลดน้ำหนักโดยรวมในร่างกายของคุณให้น้อยลง และยังเป็นวิธีลดแก้มที่ช่วยลดการกักเก็บน้ำเอาไว้บริเวณใบหน้าได้อย่างดี

วิธีการอื่นๆเพิ่มเติม ที่จะช่วยลดแก้มให้เล็กลง

1.การฝึกความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายกล้ามเนื้อโดยการยกดัมเบล ถึงแม้อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับวิธีลดแก้มโดยตรง แต่ที่จริงแล้วมันจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายมีความแข็งแรง ซึ่งรวมไปถึงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า การสร้างกล้ามเนื้อให้มีมากขึ้น จะยิ่งช่วยทำให้การเผาผลาญไขมันง่ายดายมากขึ้นตามไปด้วย

       2.ซักถามเกี่ยวกับยาตามใบสั่งทุกครั้งหลังจากต้องไปพบแพทย์ เพราะตัวยาบางชนิด ทำให้ร่างกายและใบหน้าของคุณเกิดผลข้างเคียงในการกักเก็บน้ำมากยิ่งขึ้น แล้วขอให้เปลี่ยนมาใช้ยาที่ไม่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากตัวยาเหล่านั้นสำคัญต่อการรักษาโรคใดๆของคุณ ก็ขอให้ยอมรับ แล้วจึงค่อยมาทำการลดแก้มหลังจากที่รักษาตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะดีกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดน่องให้เรียวกระชับด้วยท่าบริหาร

            ในปัจจุบันแฟชั่นสวยเพรียวขาเรียวกำลังได้ความนิยมจากคุณสาวๆเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นกระโปรงหรือกางเกงก็ต้องเน้นความสั้นโชว์เรียวขาที่อวบอิ่มเอาไว้เสียก่อน  แต่สำหรับคุณสาวๆที่มีน่องขาใหญ่อวบตัน ดูไม่สมส่วน หรือมีกล้ามขาที่ใหญ่จนดูเหมือนนักกล้ามแล้วล่ะก็ ถ้าคุณสาวๆไม่อยากถูกล้อว่ามีขาใหญ่แล้วแล้วล่ะก็ บทความนี้จะช่วยสอนวิธีลดน่องอย่างถูกต้อง เหมาะสมได้อย่างง่ายดายเสียจนคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ปัจจัยเสี่ยงให้น่องใหญ่
ก่อนที่จะทำการแก้ไขปัญหาน่องโต เราควรทราบสาเหตุกันก่อนว่าปัญหานี้มีปัจจัยเสี่ยงจากอะไร เพื่อที่จะได้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งมีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1.เกิดจากการมีไขมันสะสมมากเกินไป ซึ่งมักจะพบร่วมกับการมีไขมันสะสมที่บริเวณอื่นด้วย เช่น  บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น ผู้ประสบปัญหาน่องใหญ่เพราะไขมันสะสมนี้ ต้องหาวิธีลดน่องสามารถทำได้ด้วยการกำจัดไขมันส่วนเกินออกให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นควบคุมอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างถูกวิธี โดยเฉพาะส่วนขา อย่าหักโหมจนเกินไป ควรบริหารเบาๆ เพื่อเผาผลาญไขมัน เช่น กระโดดเชือกต่ำๆ สัก 10-15 นาทีต่อวัน หรือว่ายน้ำด้วยท่าที่ถูกต้อง
2.เกิดจาการมีขนาดของกล้ามเนื้อน่องใหญ่ พบมากพอสมควร สาเหตุจากการออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อน่องบ่อยๆ เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน แม้กระทั่งชีวิตประจำวันของสาวๆที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูง ก็ทำให้น่องโตได้ อย่างไรก็ตาม พันธุกรรมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีขนาดกล้ามเนื้อใหญ่ตามบรรพบุรุษ วิธีลดน่องในเบื้องต้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงให้เกิดน่องโตจากกล้ามเนื้อ เริ่มจากไม่ใส่ส้นสูงนานจนเกินไป พยายามเดินโดยใช้ส้นเท้าลงก่อนปลายเท้า เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อน่องเกร็ง ที่สำคัญอย่าเขย่ง หรือนั่งยองๆ เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อน่องรับน้ำหนักมากขึ้น

วิธีลดน่องด้วยท่าบริหาร
วิธีลดน่องด้วยท่าบริหารให้ดูเรียวสวย กระชับสัดส่วนมีหลากหลายวิธีด้วยกัน สามารถเลือกได้ตามความถนัด แต่ต้องไม่หักโหมจนเกินไป เพราะอาจกลายเป็นกล้ามเนื้อแข็งๆเหมือนผู้ชายได้ อย่าลืมว่าการบริหารเพื่อลดน่องให้เพรียว กระชับสวยงามเท่านั้น ซึ่งวิธีลดน่องโดยใช้ท่าบริหาร มีดังต่อไปนี้
1.นอนราบกับพื้น แล้วปั่นจักรยานอากาศอยู่กับที่ โดยปั่นแบบเร็วๆ ห้ามปั่นช้า เพราะการปั่นช้าๆจะเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อบริเวณน่องให้โตยิ่งขึ้น หรือกลายเป็นขาหมูไปเลยก็ได้
2.นั่งเอียง 45 องศา วางหรือผูกเวทหนัก 1 กิโลกรัม ไว้บนขาข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นให้เกร็งหน้าท้องพร้อมกับยกขาขึ้นลงเร็วๆ 20 ครั้ง เมื่อครบก็เปลี่ยนเวทไปวางหรือผูกไว้ที่อีกข้างแล้วยกขึ้นลงเหมือนกัน ท่านี้ควรทำ 3 เซต ควรทำสัปดาห์ละ 2-3 วัน ทั้งนี้ ช่วงแรกเริ่มควรทำอย่างช้าๆไปก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวให้เข้ากับเวท
3.นอนราบลงกับพื้น วิธีลดน่องนี้ เริ่มต้นจากการไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน จากนั้นงอเข่ามาให้ชิดบริเวณอกมากที่สุด แล้วยืดออก ต่อมาให้คลายข้อเท้าทั้งสองออกจากกันแล้วกลับมาสู่ท่าเดิม ทำเป็นเซต เซตละ 20 ครั้งทุกวัน วิธีลดน่องด้วยท่าบริหารนี้จะช่วยลดต้นขาด้านในได้ดีอีกด้วย
4.ยืนให้ตัวตรง แล้วกางขาออกพอประมาณ จากนั้นให้เขย่งเท้าขึ้นให้สุดจนรู้สึกว่าตึงที่น่อง นับ 1 ถึง 20 แม้ท่านี้จะทำได้ง่าย แต่ควรทำเพียง 20 ครั้งต่อวัน เพราะอย่าลืมว่าหากปล่อยให้กล้ามเนื้อเกร็งนานมากจนเกินไป อาจเป็นสาเหตุให้น่องใหญ่จากกล้ามเนื้อได้ ซึ่งท่าบริหารนี้จะช่วยกระชับต้นขาและลดน่อง
5.ยืนตรง แล้วเอามือเกาะผนังห้องหรือที่ยึดอื่นๆให้ถนัดและมั่นคง จากนั้นเตะขาข้างหนึ่งให้สุด โดยเหวี่ยงขึ้นลงประมาณ 30 ครั้ง
6.นอนราบลงกับพื้น ยกขาทั้งสองข้างขึ้นด้านบน เหยียดให้ตรงค้างไว้ 3 นาที จากนั้นให้แยกขาออกจากกันแล้วหุบขาชิด แล้วค้างไว้ลักษณะเดิม ทำสลับกับไปมาประมาณ 20 ครั้ง ท่านี้อาจจะทำให้คุณสาวๆรู้สึกเมื่อยกันสักหน่อย แต่เป็นวิธีลดน่องที่ได้ผลดี

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ลดสะโพกอย่างไรให้ได้ผล

       รู้สึกอย่างไรกับการหยิบกางเกงตัวเก่งในตู้เสื้อผ้ามาลองก่อนออกไปโลดแล่นข้างนอก ปรากฎว่ายัดเท่าไหร่ก็ใส่ไม่เข้า ก้นปริ ซิปแตก สาวๆเจอแบบนี้คงเศร้ากันไป แต่อย่าได้ซีเรียส เพราะปัญหาเอวสะบึ้ม สะโพกใหญ่นั้นเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่โดยปกติชีวิตประจำวันแทบไม่ได้ออกกำลังกาย แถมยังรับประทานอาหารตามใจปาก และเพื่อให้สะโพกกลับมาเรียวเล็ก กระชับ งอนสวยได้รูป บทความนี้ขอนำเสนอวิธีลดสะโพกด้วยท่าบริหาร และท่าโยคะให้สะโพกแน่นกระชับได้สัดส่วน หากทำเป็นประจำทุกวันรับรองเห็นผล

ท่าบริหารลดสะโพก

     1.นั่งลงกับพื้น ยกหัวเข่าขึ้น แล้วใช้มือทั้งสองจับข้อเท้าไว้ให้แน่น จากนั้นให้โยกร่างกายท่อนบนไปข้างหน้าและข้างหลัง 20-30 ครั้ง

 2.นั่งลงบนพื้น ยกหัวเข่าขึ้นโดยไม่ใช้มือและขาทั้งสองค้ำยัน สะโพกเท่านั้นที่เคลื่อนย้าย จากนั้นพยายามยืดหัวเข่าให้ตรง ให้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างแนบติดพื้น แล้วค่อยเคลื่อนสะโพกอย่างช้าๆ เริ่มต้นด้วย 20 ครั้ง เมื่อทำคล่องแล้วก็ค่อยๆเพิ่มเป็น 50 ครั้ง

       3.นอนหงายราบไปกับพื้น กางแขนทั้งสองออกเป็นเส้นตรง งอหัวเข่าจากขึ้น พยายามให้ส้นเท้าชิดกับสะโพก ทำค้างไว้และในขณะเดียวกันให้กลับขาทั้งสองมาทางด้านขวาแล้วกลับสู่ตำแหน่งเดิม ต่อจากนั้นให้กลับไปทางซ้ายทำติดต่อกัน 10-15 ครั้ง

4.ยืดหลังให้ตรง เหยียดแขนทั้งสองไปด้านหน้า ค่อยๆคุกเข่าลงแล้วใช้ปลายเท้ายันน้ำหนักของร่างกายไว้ จากนั้นหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเสร็จแล้วกลับคืนสู่ท่าเดิม ทำ 5-10 ครั้ง ท่านี้ต้องให้ร่างกายท่อนบน

5.คว่ำหน้าอยู่ในลักษณะเหมือนคลานโดยมือและเท้าทั้งสองแตะพื้น ยืดขาข้างหนึ่งไปข้างหลัง จากนั้นนับ 1-5 แล้วค่อยๆวางขาลงจนกว่าปลายเท้าจะแตะพื้นและยกขึ้นให้อยู่ในตำแหน่งเดิม ทำกลับไปมาทั้งสองข้าง ข้างละ 5-10 ครั้ง

       6.นอนคว่ำหน้า มือทั้งสองข้างไขว้กันไว้ใต้คาง แล้วยกขาข้างใดข้างหนึ่งให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้หยุดค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จึงค่อยๆวางลง ทำซ้ำกัน 5-10 ครั้ง จากนั้นเปลี่ยนมาทำแบบเดียวกันกับขาอีกข้างหนึ่ง

 7.นอนหงาย แล้วยกหัวเข่าขึ้น ดึงส้นเท้าให้ใกล้กับสะโพกมากที่สุดโดยฝ่าเท้าแนบติดกับพื้น มือทั้งสองแตะพื้นประคองร่างกาย จากนั้นยกสะโพกขึ้นให้สูง แล้วหยุดไว้ประมาณ 5 วินาที จึงค่อยๆวางสะโพกกลับสู่ท่าเดิม ควรทำ 5 ครั้ง

  เพียงท่าบริหารง่ายๆ ก็ช่วยลดสะโพกให้สาวๆได้ แต่อย่าลืมว่าก่อนจะออกกำลังกายบริหารสะโพก ควรมีการอบอุ่นหรือยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้เสียก่อน เพื่อประสิทธิภาพในการลดสะโพกได้สูงสุด

ท่าโยคะลดสะโพก

 1.ท่ากิ่งไม้ โดยนั่งกับพื้น หายใจเข้า ยื่นแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้า จากนั้นประนมมือพร้อมทั้งยืดแขนและขาให้ตึง แล้วค่อยๆหายใจออก

 2.ท่ายืนภูเขา เริ่มจากการยืนตัวตรงกางขาเท่าช่วงไหล่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วกางแขนออกพร้อมยกขาขวาไปด้านหน้า จากนั้นเหยียดขาและแขนให้ตึง แล้วค่อยๆหายใจออก

       3.ท่าต้นตาล ยืนขึ้น หายใจเข้า แล้วยืนด้วยขาขวาเพียงข้างเดียว พร้อมเกร็งตัว และยกแขนทั้งสองข้างชูขึ้นด้านบน เหยียดให้ตรง หายใจออก และลดแขนทั้งสองข้างลงข้างลำตัว จากนั้นกลับสู่ท่ายืนแล้วทำสลับกับขาซ้ายเช่นเดิม

  4.ท่าดวงดาว ยืนตัวตรง หายใจเข้า งอปลายเท้าขวาเอาไว้ให้ตึง จากนั้นวาดขาออกด้านข้าง  ท่อนแขนขวาชูขึ้นด้านบน และค่อยๆหายใจออก ทำสลับกัน

5.ท่าเครื่องบิน ยืนขึ้น หายใจเข้า วาดขาขวาไปทางด้านหลัง พร้อมลดแขนขวาลง จากนั้นกางแขนทั้งสองข้าง แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อยให้ลำตัวขนานกับพื้น และค่อยๆหายใจออก ทำสลับกัน

ท่าโยคะนี้ช่วยลดตั้งแต่ต้นขาจนถึงลดสะโพก และสำหรับผู้ที่น้ำหนักมากหรือพึ่งเริ่มฝึก อาจทุลักทุเลบ้าง ก็ให้ยกขาเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องเกร็งสะโพกและขาติดต่อกัน 3-5 รอบ ที่สำคัญไม่ควรทำท่าโยคะหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

โยคะกระชับต้นแขน

       ต้นแขนใหญ่ หรือผิวหนังบริเวณแขนหย่อนยาน ปัญหากวนใจสาวๆ ที่ทำให้เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่อย่างมั่นใจ ต้องถูกเก็บไว้ในตู้มานาน วันนี้ได้เวลาหยิบเสื้อสายเดี่ยว แขนกุด ออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้ว เพราะเรามีวิธีง่ายๆ เพื่อกระชับต้นแขนอย่างเห็นผล ไม่ต้องพึ่งยา ทาครีม หรือมีดหมอ นั่นคือ “ท่าโยคะกระชับต้นแขน” ขอเพียงมีเวลาสัก 10-15 นาที พร้อมกับหัวใจที่มุ่งมั่น รับรองเตรียมบอกลาปัญหาต้นแขนใหญ่ไม่กระชับไปได้เลย

สาเหตุของการเกิดต้นแขนใหญ่หย่อนยาน

 ก่อนจะกระชับต้นแขนให้เรียวสวย มาทำความรู้จักกับสาเหตุหลักของต้นแขนใหญ่หย่อนยานกันก่อน เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้สาวๆที่สามารถกำจัดปัญหาจุกจิกบนต้นแขนไปได้แล้ว ไม่ให้ย้อนกลับมาเล่นงานได้อีก ถือเป็นการลาขาดกันไปเลย ซึ่งสาเหตุหลักของต้นแขนใหญ่หย่อนยานก็คือ

       1.ต้นแขนใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ เกิดจากการใช้งานแขนอย่างหนัก โดยการออกแรงยกของหนักทำงานหนัก สังเกตง่ายๆโดยจับดูที่ต้นแขนจะรู้สึกตึงมือ ค่อนข้างแข็ง เนื้อแน่น เพราะมีแต่กล้ามเนื้อ ดังนั้น วิธีแก้คือลดน้ำหนักสิ่งของที่ออกแรงยกให้เบาลง หรือลดปริมาณงานที่ต้องทำให้น้อยลงบ้าง

       2.ต้นแขนใหญ่ที่เกิดจากไขมัน เมื่อสังเกตดูด้วยตาจะเห็นว่าเนื้อบริเวณต้นแขนใหญ่ แต่ถ้าใช้มือสัมผัสจะรู้สึกได้ว่าต้นแขนไม่มีความแข็งแรง เนื้อเหลว นุ่มนิ่ม ไม่มีความแน่นของกล้ามเนื้อ เพราะเป็นไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง จัดการได้โดยวิธีการออกกำลังกายเบาๆ ไม่ต้องเน้นที่น้ำหนักแต่เป็นความถี่ คือออกกำลังกายให้บ่อยครั้งเข้าไว้ เช่น การยกดัมเบลเบาๆ การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ฯลฯ

ท่าโยคะง่ายๆ กระชับต้นแขน

ขั้นตอนที่ 1 นั่งลงในท่าสัตว์ 4 ขา ลักษณะเหมือนแมว จากนั้นยื่นมือไปด้านหน้า ให้ข้อมือห่างจากศีรษะไปด้านหน้าประมาณ 6-12 นิ้ว หัวไหล่เหยียดตรง หัวเข่าแยกออกจากกันเล็กน้อยเป็นท่าเตรียม ท่อนขากว้างออกจากกัน และขดเท้ากลับเข้าหาลำตัว

ต่อมาผลักดันพื้นพร้อมๆกับยกหัวเข่าให้สูงขึ้นจากพื้น ยกสะโพกให้สูงขึ้นไปด้านบนเพดาน และดันขาให้เหยียดตึง ทำให้ร่างกายดูเหมือนว่าเป็นตัว V คว่ำ ค่อยทำช้าๆ ไม่ต้องเร่ง แต่ไม่ใช้ทำค้างไว้ เพราะหลังจากอยู่ในท่าตัว V คว่ำ ก็ค่อยๆขยับหน้าอกกลับไปยังต้นขา จนกระทั่งหูแนบกับแขน พยายามอย่าปล่อยศีรษะห้อย จากนั้นอยู่ในท่าค้างไว้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าฝ่ามือและฝ่าเท้าต้องแนบชิดติดกับพื้น

       ขั้นตอนที่ 2 หลังจากฝ่ามือแนบชิดกับพื้น ให้ทำมือเหยียดตึงแล้วค่อยๆลดข้อศอกลงเรื่อยๆ จนแนบชินกับพื้น ทำแบบนี้ค้างไว้ 5-10 ลมหายใจช้าๆ

       ขั้นตอนที่ 3 ค่อยๆยกข้อศอกขึ้นลักษณะเดิม ทำสลับกันไป ประมาณ 10 นาทีจึงแล้วเสร็จ ท่าโยคะนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง กระชับสัดส่วนโดยเฉพาะต้นแขนให้พอดี ได้กล้ามเนื้อและลดไขมันที่ไม่พึงประสงค์บนต้นแขนได้ ซึ่งก่อนจะทำท่าโยคะนี้ควรมีการยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นและมีความพร้อมก่อน

แค่ท่าโยคะ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อพิชิตต้นแขนให้กระชับ เรียวสวย พร้อมอวดสายตาทุกคู่ เชื่อว่าสาวๆคงนำไปปฏิบัติกันได้ แต่อย่าลืมว่าการทำให้ปัญหาจุกจิกกวนใจเหล่านี้หมดไปว่ายากแล้ว การรักษาให้คงไว้นั้นยากยิ่งกว่า ดังนั้น อย่างที่ได้อธิบายสาเหตุของการเกิดต้นแขนใหญ่หย่อนยานไปแล้ว หวังว่าสาวๆคงมีวิธีป้องกันให้ต้นแขนของตัวเองห่างไกลปัญหาต้นแขนเหล่านี้ได้ ที่สำคัญ หากทำท่าโยคะควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ยกของหนักจนเกินไป และควบคุมอาหาร เพียงเท่านี้การกระชับต้นแขนของสาวๆก็จะสำเร็จ กลับมามั่นใจ พร้อมหยิบชุดสวย เปิดแขน สายเดี่ยว คอกว้าง มาสวมใส่ได้อีกครั้ง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

โยคะร้อนลดน่อง กระชับต้นขา

       เป็นที่รู้กันดีว่าตอนนี้เรื่องของความสวยความงาม แค่หน้าเป๊ะอย่างเดียวคงไม่พอ ลองนึกภาพเวลาเดินสวนกับผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก สวยใส ไร้ที่ติ แต่พอมองต่ำลงไป ความจริงที่น่าสะพรึงก็ปรากฎ เพราะสิ่งที่เห็นคือท่อนขาอันอวบอ้วน หรือใหญ่เป็นนักกล้าม ดูไม่รับกับใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอ ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกพิลึกพิลั่น สำหรับหนุ่มๆคงไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่คิดจะเป็นอย่างไร วันนี้เรามีทางออกให้สาวๆที่กำลังประสบปัญหาต้นขาใหญ่ น่องโต ไม่กระชับสัดส่วน นั่นคือวิธีบริหารเพื่อลดน่องด้วยโยคะร้อน

โยคะร้อนคืออะไร

ปัจจุบันโยคะกำลังเป็นที่แพร่หลายอย่างมาก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ก้าวไกลไปทั่วโลก ซึ่งโยคะร้อนถือเป็นอีกหนึ่งวิวัฒนาการของศาสตร์แห่งโยคะ ที่กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยท่าหลักทั้งหมด 26 ท่า ซึ่งฝึกในห้องที่มีอุณหภูมิสูงใกล้เคียงกับอุณหภูมิภายในร่างกายหรือประมาณ 37 องศาเซลเซียส และด้วยอุณหภูมิเช่นนี้ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้ ท่าต่างๆของโยคะร้อน จึงช่วยกระชับกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทั้งยังทำให้ร่างกายสามารถกำจัดของเสียออกมาในรูปเหงื่อได้ดี น้ำหนักลดลง โดยเฉพาะสัดส่วนที่สาวๆมักเป็นกังวลว่าจะใหญ่ สะบึ้ม อาทิเช่น บริเวณสะโพก ต้นขา น่อง ต้นแขน เป็นต้น

โยคะร้อนลดน่อง

ก่อนจะฝึกโยคะร้อนเพื่อกระชับสัดส่วนบริเวณต้นขาไปจนถึงน่องขา หรือเรียกกันง่ายๆว่าโยคะลดน่อง เราควรทำการอบอุ่นร่างกายเสียก่อน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพให้พร้อมที่จะรับการบริหาร โดยใช้ท่า Surya Namaskara

 เริ่มจากยืนตัวตรงแขนแนบลำตัว แล้วชูแขนขึ้นเหยียดตรง ก้มตัว แขนกอดหลังขา ทิ้งศีรษะจรดเข่า จากนั้นใช้มือแตะปลายเท้า ขาเหยียดตรง ยืดศีรษะไปข้างหน้าแล้วสปริงตัวมาอยู่ในท่าวิดพื้นโดยลำตัวขนานกับพื้น แหงนศีรษะไปด้านหลัง ส่วนขาเหยียดตรงกับพื้น ดันสะโพก แขน และลำตัวเป็นเส้นตรง ศีรษะขนานกับแขน ลักษณะเหมือนรูปสามเหลี่ยม เสร็จแล้วกระโดดกลับมาในท่ายืนเข่าตึงมือแตะปลายเท้า ย้อนกลับมาท่ากอดเข่า ยืนตรงชูแขนขึ้น และค่อยๆวางแขนสงแนบลำตัวเช่นเดิม ก่อนฝึกโยคะลดน่อง ควรทำท่านี้ 10 ครั้ง และท่าโยคะลดน่องและกระชับต้นขาที่ได้ผลดี ได้แก่
       1.Half Moon Pose with Hand to Feet Pose ยืนชูแขนเหยียดตรง โดยใช้ฝ่ามือประกบกัน แล้วเอียงตัวไปด้านขวาให้สีข้างด้านซ้ายรู้สึกยืดเหยียดเต็มที่ ค้างไว้ 1 นาที แล้วทำสลับอีกข้างหนึ่งเสร็จจากการบริหารสีข้างแล้วให้มาต่อที่การบริหารส่วนหลัง  โดยยืนเตรียมในท่าเดิมแต่เปลี่ยนมาเอนตัวไปข้างหลัง พร้อมกับหายใจและเก็บหน้าท้องค้างไว้ 1 นาที ตามด้วยท่าเอนตัวไปข้างหน้า โดยดึงหลังตรงขนานไปข้างหน้าทั้งสามท่านี้จัดว่าเป็นท่า warm-up ที่ดี สามารถยืดกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน เช่น กลางลำตัว ขา และ หลัง

       2.Standing Bow Pulling Pose ยืนตรงเข่าตึง ก้มตัวลงมือจับยึดส้นเท้า ต่อด้วยท่าทรงตัวด้วยขาข้างเดียว โดยเริ่มจากยืนด้วยขาซ้าย ยกขาขวา เข่างอ มือจับข้อเท้า ส่วนแขนซ้ายให้คว่ำมือ ปลายนิ้วชิดเหยียดขนานกับพื้นไปข้างหน้า พร้อมกับโน้มตัวไปด้านหน้า และใช้แขนขวาดึงขาให้ยกสูงขึ้น ท่านี้จะสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขา หลัง และสีข้าง

  3.Triangle เริ่มจากยืนกางแขนและขา เอนขาขวามาด้านข้างให้เข่างอตั้งฉากกับพื้น โดยทิ้งน้ำหนักลงที่หัวเข่าขา ซ้ายเหยียดตรง เท้ายึดพื้นเอาไว้ แล้วค่อยๆโน้มตัวไปด้านข้าง แขนซ้ายชี้ขึ้นบนทำมุมตรงกับแขนขวา ปลายนิ้วมือจรดปลายนิ้วเท้า ท่านี้จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อใต้ต้นขา หัวเข่า รวมทั้งสะบักหลัง

       4.Fixed Firm Pose นอนหงายราบกับพื้นพับขาปลายเท้าแนบสะโพก ไขว้แขนเหนือศีรษะมือจับข้อศอก ยกลำตัวขึ้นเก็บหน้าท้อง แต่บริเวณสะบักหลังและหัวไหล่ติดพื้น ท่านี้จะเป็นการเปิดสะโพกทำให้เลือดบริเวณสะโพก หน้าขา และหัวเข่าไหลเวียนได้ดี

 5.Camel Pose ยืนบนเข่าแยกขาขนานกันเล็กน้อย แล้วแอ่นหลังในท่าสะพานโค้ง มือจับยึดกับส้นเท้า แขนเหยียดตรง แหงนหน้าทิ้งศีรษะไปด้านหลัง ท่านี้เป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าขาให้เหยียดตึง และกระชับกล้ามเนื้อก้น ส่วนการแหงนหน้าทิ้งศีรษะจะช่วยนำเลือดไปเลี้ยงสมอง

การเล่นโยคะร้อนในแต่ละท่าจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะใช้เวลา 60 วินาที ส่วนช่วงที่สองจะลดเวลาเหลือ 30 วินาที และถ้าอยากให้ท่าโยคะลดน่อง กระชับต้นขานี้ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ควรฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความพร้อมและปรับตัวของร่างกาย โดยควรฝึกโยคะประมาณ 90 นาทีต่อครั้ง สัปดาห์ละ 2-3 วัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บริหารลดสะโพกด้วยฮูล่าฮูป

       สำหรับคุณสาวๆที่อยากตัวเองให้มีเอวที่เล็กคอดสวยงามเข้ารูปแล้ว ก็คงที่จะพยายามสรรหาวิธีการออกกำลังกายแบบต่างๆ ที่จะสามารถช่วยลดสะโพกรักษาทรวดทรงองค์เอวของตัวเองเอาไว้ ซึ่งในวันนี้เพื่อเอาใจคุณสาวๆที่อยากมีเอวเล็ก จึงอยากจะขอพาคุณสาวๆไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งวิธีการลดสะโพกที่สนุกสุดแสนจะเพลิดเพลิน จนแทบจะลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังออกกำลังกายอยู่ เจ้าวิธีการออกกำลังกายที่กำลังกล่าวถึงก็คือ “การเล่นฮูล่าฮูป” นั่นเอง

การออกกำลังกายลดเอวเล็กโดยใช้ฮูล่าฮูป

การเล่นฮูล่าฮูป ช่วยในการเผาผลาญไขมันจากกล้ามเนื้อมัดใหญ่จากการทำงานอย่างหนัก ทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณไขมันใต้ชั้นผิวหนังลดน้อยลง น้ำหนักของร่างกายจึงลดลงตามไปด้วย จึงเป็นการช่วยในการลดหุ่นของคุณสาวๆให้เล็กลงตั้งแต่บริเวณรอบอก ลงไปจนกระทั่งถึงบริเวณเอว และยังช่วยในการเพิ่มความกระชับแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง หลังส่วนล่าง รวมทั้งกล้ามเนื้อสะโพก เอว และก้น มีความกระชับมากยิ่งขึ้น

การเลือกห่วงฮูล่าฮูปให้เหมาะสมกับตัวเอง

ก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายโดยใช้ฮูล่าฮูป คุณสาวๆควรรู้จักกับห่วงฮูล่าฮูป และทำการเลือกใช้ฮูล่าฮูป ให้เหมาะสมกับตัวเองเสียก่อน ดังต่อไปนี้

1.ฮูล่าฮูปแบบสปริง มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนแรงในการเหวี่ยง ทำให้เกิดการเหวี่ยงได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวของคุณสาวๆจึงดีขึ้นมากตามไปด้วย

       2.ฮูล่าฮูปแบบยาง มีน้ำหนักที่หนักมากกว่าแบบสปริง แต่แรงกดที่เกิดขึ้นจากน้ำหนักลงบนกล้ามเนื้อของร่างกาย จะช่วยทำให้เกิดการเผาผลาญได้มากกว่าแบบสปริง เนื่องจากคุณสาวๆจะต้องเป็นผู้ออกแรงเหวี่ยงด้วยแรงของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการใช้แรงซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญของร่างกายได้มากยิ่งขึ้น

3.ฮูล่าฮูปแบบใส่น้ำ เป็นฮูล่าฮูปที่มีการใส่น้ำเข้าไปภายในห่วงยาง ยาง มีน้ำหนักที่หนักมากกว่าแบบสปริง แต่แรงกดที่เกิดขึ้นจากน้ำหนักลงบนกล้ามเนื้อของร่างกาย จะช่วยทำให้เกิดการเผาผลาญได้มากกว่าแบบสปริง

การออกกำลังกายเพื่อให้เอวเล็กโดยฮูล่าฮูป อย่างถูกวิธี

ควรทำการออกกำลังกายด้วยฮูล่าฮูป อย่างน้อยเป็นเวลาต่อเนื่องกัน 45 นาที ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ร่างกายเริ่มมีการนำไขมันส่วนเกินที่กักเก็บเอาไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เนื่องจากการออกกำลังกายโดยฮูล่าฮูป เป็นเวลาประมาณ 30 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 200 กิโลแคลอลี่ เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องระยะเวลาในการเล่นฮูล่าฮูปที่เหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงสภาพของร่างกายของแต่ละคนด้วย

       สำหรับวิธีการออกกำลังกายโดยใช้ฮูล่าฮูปอย่างถูกวิธี คือ ในขณะที่กำลังทำการส่ายเอว ให้พยายามทำการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆเอว ส่วนข้อเข่าให้ทำการหมุนหรือโยกให้น้อยที่สุด และให้พยายามออกกำลังเพียงบริเวณเอวเป็นหลักเท่านั้น แต่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการลดสะโพกให้เล็กลง คุณสาวๆควรแบ่งเวลามาทำการออกกำลังกายโดยฮูล่าฮูป ให้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายด้วยฮูล่าฮูปให้สนุก

การออกกำลังกายลดสะโพกไปเรื่อยๆในบางครั้ง  อาจจะทำให้คุณสาวๆเกิดความเบื่อหน่าย และเกิดความฟุ้งซ่านท้อแท้อันเนื่องมาจากความเหนื่อยหน่ายจากการออกกำลังกาย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้ คือ ในขณะที่กำลังออกกำลังกายลดสะโพกโดยฮูล่าฮูป ให้ทำการเปิดเพลงที่ชอบดังๆ  แล้วเล่นฮูล่าฮูปคู่ไปพร้อมกับจังหวะเสียงเพลง ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้เกิดความเพลิดเพลิน จนทำให้เล่นฮูล่าฮูปได้นานขึ้น และทำให้เกิดการเผาผลาญได้มากยิ่งขึ้น หรืออาจจะทำการประยุกต์โดยการหมุนฮูล่าฮูปไปด้วย ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ เล่นเกมในโทรศัพท์ ควบคู่กันไปอย่างเพลินๆได้อีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดหน้าท้องอย่างสนุก โดยการเล่นฟิตเนสบอล

    ลูกบอลฟิตเนสกลมๆโตๆ ที่เด้งดึ๋งกลิ้งไปมา ซึ่งคุณสาวๆหลายๆคนคงจะเคยเห็น หรือเคยลองขึ้นไปนั่งเล่นกันมาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า เจ้าฟิตเนสบอลจอมเด้งดึ๋งนี้ จะมีคุณสมบัติที่ช่วยในการลดหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากชนิดที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

ฟิตเนสบอลช่วยลดหน้าท้องได้อย่างไร

       ฟิตเนสบอล เป็นลูกบอลทรงกลมขนาดใหญ่ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการบริหารร่างกายได้อย่างมากมายหลากหลายท่า รวมทั้งเป๋นวิธีลดหน้าท้องให้เรียบกระชับมากยิ่งขึ้น และยังช่วยในการลดไขมันที่สะสมอยู่บริเวณหน้าท้องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ฟิตเนสบอลยังมีความนุ่มนวล ปลอดภัย เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาที่หลัง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดอาการบาดเจ็บขึ้น ในขณะที่กำลังออกกำลังกายบริหารพุงอยู่

       การนั่งทรงตัวอยู่บนฟิตเนสบอลที่มีลักษณะเป็นทรงกลมนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากลำบากเอาการเลยทีเดียว แต่ในความยากลำบากนี้เองที่จะช่วยให้คุณสาวๆเกิดการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องไปโดยอัตโนมัติ จึงทำให้กลายมาเป็นวิธีลดหน้าท้องให้เล็กลงได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกฟิตเนสบอลให้เหมาะสมกับตัวเอง

       เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดพุงอย่างสูงสุด คุณสาวๆจึงควรที่จะเลือกฟิตเนสบอลที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง โดยสามารถใช้ส่วนสูงเป็นเกณฑ์วัดอย่างง่ายๆ ดังต่อไปนี้

       1.คนที่สูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร ควรเลือกฟิตเนสบอลที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 55 เซนติเมตร

       2.คนที่สูงระหว่า 150-170 เซนติเมตร ควรเลือกฟิตเนสบอลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 65 เซนติเมตร

       3.คนที่สูงมากกว่า 170 เซนติเมตร ควรเลือกฟิตเนสบอลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 เซนติเมตร

[BINDING:19] 

วิธีการลดหน้าท้องโดยการเล่นฟิตเนสบอล

        สำหรับคุณสาวๆที่เริ่มจะมองเห็นประโยชน์จากวิธีลดหน้าท้องที่เกิดขึ้นจากฟิตเนสบอล ก็สามารถที่จะทำการออกกำลังกายโดยใช้ฟิตเนสบอล หรือประยุกต์ใช้ฟิตเนสบอลในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยในการลดหน้าท้องได้อย่างง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 

        1.การลดหน้าท้องโดยใช้ฟิตเนสบอลในชีวิตประจำวัน เพียงแค่คุณสาวๆเปลี่ยนการนั่งดูโทรทัศน์จากเก้าอี้มาเป็นฟิตเนสบอลแทน ในระยะเวลานานๆ จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณท้อง และทำให้หน้าท้องแบนราบมากยิ่งขึ้น และในขณะที่กำลังนั่งทรงตัวอยู่บนฟิตเนสบอล ควรทำสมาธิหลับตา เพราะจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อของร่างกายมีการทำงานที่หนักมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้อีกด้วย
 
      2.การออกกำลังกายโดยใช้ฟิตเนสบอล สำหรับท่าออกกำลังกายโดยการใช้ฟิตเนสบอลมีอยู่หลากหลาย ซึ่งคุณสาวๆสามารถเลือกนำไปใช้ในการออกกำลังกายเพื่อลดพุง ดังต่อไปนี้

[BINDING:38] 
       ท่าบริหารลดพุงท่าที่ 1 ครันช์ (Crunch) : เริ่มต้นจากการนอนคว่ำลงไปที่ฟิตเนสบอล โดยให้หน้าท้องสัมผัสที่ตัวลูกบอล เหยียดขาให้ตึง กางขาออกจากกันเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นฐานในการทรงตัว 

       -จากนั้นให้นำมือทั้งสองข้างมาประสานกันที่ท้ายทอย และทำการเกร็งหน้าท้องโดยการหายใจเข้าออก แล้วจึงค่อยๆโยกตัวส่วนบนขึ้น – ลง อย่างช้าๆ โดยพยายามอย่าออกแรงมาก เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเสียสมดุล จนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หลังขึ้นได้ 

     -ทำซ้ำในท่าบริหารดงกล่าวไปเรื่อยๆ หรือจะทำเป็นเซ็ต โดยขยับขึ้นลง 8-10 ครั้ง ให้นับเป็น 1 เซ็ต

      ท่าบริหารลดพุงท่าที่ 2 Lying Crunch on ball : เริ่มต้นจากการนั่งอยู่บนลูกบอล แล้วขยับตัวให้ลูกบอลอยู่ระหว่างสะโพกและหลัง ส่วนเท้าให้แยกออกจากกัน ให้ขาอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับพื้น โดยพยายามประคองร่างกายอยู่บนลูกบอลให้สมดุล จากนั้นให้ประสานมือเอาไว้ที่บริเวณท้ายทอย เกร็งหน้าท้อง แล้วยกตัวขึ้น-ลง คล้ายกับการซิทอัพ

      ท่าบริหารลดพุงท่าที่ 3 Lying Twist with ball : นอนลงกับพื้น จากนั้นให้ทำการดันลูกบอลมาให้ชิดกับสะโพก ให้ขาทั้งสองข้างอยู่บนลูกบอล ประสานมือขึ้นด้านบน จากนั้นพยายามยกลำตัวขึ้น เกร็งหน้าท้องแล้วบิดไปทั้งซ้าย นับ 1-3 ในใจ แล้วจึงบิดไปทางขวา แล้วนับอีกครั้ง แล้วจึงพักด้วยการวางหลังลงที่พื้นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเริ่มต้นทำใหม่อีกครั้ง

       ท่าบริหารลดพุงท่าที่ 4 Plank with Ball : เริ่มจากการนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาลูกบอลใช้ข้อศอกดันลูกบอลเอาไว้ โดยทำมุม 90 องศากับลูกบอล จากนั้นค่อยๆเกร็งหน้าท้องและยกลำตัวขึ้น ค้างเอาไว้ประมาณ 3 วินาที แล้วจึงคลายกล้ามเนื้อ โดยการปล่อยตัวให้หัวเข่ามายันที่พื้นเอาไว้

       เชื่อว่าวิธีลดหน้าท้อง โดยการใช้ฟิตเนสบอลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยากจนเกินความสามารถของคุณสาวๆนัก ขอเพียงแค่มีความตั้งใจจริง และออกกำลังกายโดยการใช้ฟิตเนสบอลอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณสาวๆก็เตรียมโบกมือลา บ๊าบ บาย…. หน้าท้องที่เต็มไปด้วยพุงย้วย พร้อมกับกล่าวสวัสดีหน้าท้องที่สวยงามแบนราบได้แล้ว