รอยแตกลาย ทําไงหาย ง่ายนิดเดียว ด้วยครีมที่ดีที่สุด

         รอยแตกลาย ภาษาอังกฤษเรียกว่า Stretch Marks หรือ Striae เกิดจากการยืดขยายต่อเนื่องของผิวหนังและเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ จึงเกิดเป็นรอยแตกลายบนผิวชั้นนอก ซึ่งเชื่อว่าครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง แต่ละคนต่างก็เคยผ่านปัญหารอยแตกลายกันมาแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่าเจ้ารอยแตกลายเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมผิวเนียนสวยจึงต้องเกิดการแตกลาย รวมถึงวิธีการลดรอยแตกลายแบบธรรมชาติ จะทำได้อย่างไร

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกลาย
หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 80-90 พบกับปัญหารอยแตกลาย เนื่องจากระหว่างตั้งครรภ์เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงของไขมันที่มีการสะสมมากขึ้น และยังมมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ทำให้หญิงที่ตั้งครรภ์มีรอยแตกสีแดง บริเวณท้อง สะโพก หลัง และเต้านม จากการศึกษาวิจัย พบว่าหญิงตั้งครรภ์มักจะมีรอยแตกช่วงปลายของการตั้งครรภ์ (เดือนที่ 6-7) ร้อยละ 75-90 เลยทีเดียว และมีการศึกษาหนึ่งของนักวิจัยชาวเยอรมัน ได้นำครีมที่มีส่วนผสมของสาร (Trofolastin) containing Gotu Kola extract and vitamin E มานวดบริเวณท้องของคนตั้งครรภ์ พบว่ามีแค่เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่ไม่เป็นรอยแตกลาย และพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นวัยรุ่นจะมีโอกาสเกิดรอยแตกลาย ขณะท้องได้มากกว่า และรุนแรงกว่า

         ส่วนรอยแตกลายพบในกลุ่มคนอื่นๆ เช่น คนที่เล่นฟิตเนตแล้วมีรอยแตกนั้น มักจะพบสัมพันธ์กับการยืดตัวของกล้ามเนื้อที่รวดเร็วเกินไป และจะพบบ่อยในกลุ่มคนที่ใช้ยา steriod ทั้งประเภทฉีดและกิน เนื่องจากยากลุ่มนี้จะทำให้ผิวหนังแตกได้ และทำให้มีการสะสมของไขมันและกล้ามเนื้อเพิ่มได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีโอกาสเกิดรอยแตกได้มากกว่า และคนอีกประเภทที่พบว่าเป็นรอยแตกลายได้บ่อยคือ วัยรุ่น ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งหญิงชาย มักพบบริเวณหลัง สะโพก เพราะวัยนี้เป็นช่วงเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ทำให้เป็นรอยแตกได้ง่าย
ในช่วงแรกของการเกิดรอยแตกลายจะเป็นรอยสีชมพู แดง และสีม่วง ตามลำดับ ช่วงนี้เรียกว่า รอยแตกลายใหม่ หากอยากหายต้องได้รับการรักษาตั้งแต่ช่วงนี้ เพราะหายได้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้จนรอยแตกนั้นจะค่อยๆกลายเป็นสีขาวซีด เห็นเป็นร่องเป็นรอยแตกระแหง เรียกว่า รอยแตกลายเก่า (Scar like) แบบนี้จะรักษาได้ยากกว่า

วิธีลดรอยแตกลายแบบธรรมชาติ
1.ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ โดยอาหารที่ควรบริโภคนั้นควรมีสารอาหารที่มี วิตามิน A C D และ สังกะสี เนื่องจากเป็นสารสำคัญในการซ่อมแซมแผลที่มักจะเกิดขึ้น รวมถึงช่วยลดรอยแตกลายแบบธรรมชาติได้ โดยเรามักจะเห็นในตำแหน่งที่มีไขมันสะสมมาก เช่น หน้าอก สะโพก หลัง ต้นขา และอีกหนึ่งแหล่งอาหารที่สำคัญคือ “น้ำเปล่า” หากดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 6-8 แก้วขึ้นไป จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง เพราะพบว่าคนที่ดื่มน้ำน้อย มีโอกาสเกิดรอยแตกได้มากกว่า สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ชา กาแฟ และน้ำอัดลม

         2.ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ผิวหนังยืดหยุ่น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นและกระชับชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหนังที่กำลังเป็นหรือเสี่ยงต่อรอยแตกลาย แลดูจางลงได้ ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วจนเกินไป
3.ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จะช่วยให้ผิวชุ่มน้ำ มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิตามินซี และเรตินอยด์ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในช่วงต้น ทำให้รอยแตกลายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรตินอยด์จะไม่มีประสิทธิภาพถ้ารอยแตกลายเป็นสีขาว ที่สำคัญคือคุณแม่ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ต้องหลีกเลี่ยงการใช้เรตินอยด์ เพราะเกิดผลกระทบต่อลูกในท้อง เช่น อาจทำให้ทารกเกิดความพิการได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

HELP! แขนขาโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาอย่างไรไม่ให้มีแผลเป็น

         หลายคนที่เคยมีประสบการณ์ที่ถูกท่อไอเสียไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถมอเตอไซต์นาบเข้าที่ขา หรือแขนคงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า ความร้อนจากท่อไอเสียนั้นมากเพียงพอที่จะเผาไหม้ผิวหนัง ได้มากหลายระดับเลยทีเดียว ถ้านับเพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนที่ประสบอุบัติเหตุโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 50,000 คน เลย และคนที่โดนท่อไอเสีย วิธีรักษาด้วยตัวเองที่บ้านอีกกว่า 1 ล้านคนทีเดียว เรียกได้ว่าชาวอเมริกันนั้น คุ้นเคยกับวิธีรับมือโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาด้วยตัวเองมาอย่างโชกโชนกันเลยทีเดียว ซึ่งบทความในวันนี้ก็จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเคล็ดลับของเหล่าชาวอเมริกันว่า เมื่อพวกเขาโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาจะมีอะไรกันบ้าง

เคล็ดลับการดูแลรักษาตัวเองเมื่อแขนขาถูกท่อไอเสียเผาไหม้
 เมื่อแขน ขา หรืออวัยวะอื่นๆของคุณโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาที่ควรปฎิบติตามอย่างเคร่งครัดจะมีดังต่อไปนี้
 1.ทำการสำรวจดูพื้นผิวที่ถูกสัมผัส เพื่อตรวจสอบความรุนแรงของการเผาไหม้ว่า ผิวหนังมีสีแดงหรือไม่ มีอาการบวมมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงความเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญานพื้นฐานที่ช่วยบ่งบอกระดับความรุนแรงในการเผาไหม้ ถ้าหากอาการเหล่านี้มีเพียงเล็กน้อยแสดงว่าเป็นการเผาไหม้ระดับที่ 1 แต่ถ้าหากมีอาการเจ็บปวดมาก และมีบาดแผล นั่นหมายความว่าความรุนแรงอยู่ในระดับที่ 2 แล้ว
2.วัดพื้นที่ผิวที่ถูกไหม้ ถ้ามีพื้นที่เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3 นิ้ว และมีความลึกไม่มากกว่าผิวชั้นนอก คุณสามารถทำการรักษาได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ามากกว่านั้นคุณจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์
3.แช่บริเวณที่ถูกเผาด้วยน้ำเย็น ประมาณ 15 นาที หรือใช้น้ำแข็งแช่น้ำแข็งเย็นๆ ห่อหุ่มด้วยผ้าอ่อนนุ่มทำการประคบบริเวณที่ถูกเผาไหม้ก็ได้เช่นเดียวกัน
4.เจลว่านหางจระเข้หรือโลชั่น ครีม ยาปฎิชีวะนะ หรือครีมบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน สามารถช่วยปลอบโยนผิว และช่วยทำให้ผิวที่เกิดแผลลวกจากท่อไอเสียไม่ให้แห้ง
5.ป้องกันการติดเชื้อด้วยผ้าผันแผล ผ้าก็อซ ตาข่าย หรือฟิล์มทางการแพทย์ ช่วยปกป้องความเสียหายผิวหนังที่ได้รับความเสียหายไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม หรือติดเชื้อขึ้น
6.บรรเทาความเจ็บปวดดวยยาแอสไพริล acetaminophen หรือ ibuprofen ยาเหล่านี้สามารถช่วยลดความเจ็บปวด และอาการบวมจากแผลลวกของท่อไอเสียได้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรทำการอ่านฉลากข้อแนะนำปริมาณในการใช้ยาอย่างระมัดระวัง

         7.เปลี่ยนผ้าก็อซ หรือผ้าผันแผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อ ซึ่งสัญญานการติดเชื้อมักจะมาพร้อมกับอาการปวด อาการบวม มีไข้ หรือมีน้ำซึมออกมาจากบริเวณที่ถูกลวกอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากคุณสงัเกตเห็นอาการเหล่านี้ ขอแนะนำให้เข้ารับการรักษาจากแพทย์โดยเร็วที่สุด

ข้อแนะนำเพิ่มเติม&ข้อควรระวัง
 เมื่อผิวหนังของคุณโดนท่อไอเสีย วิธีรักษาที่ดีนอกจากการป้องกันแล้ว ยังมีสิ่งอื่นๆทึคุณควรทราบเพื่อพึงระวังอีกหลายข้อ อาทิเช่น
 -ห้ามใช้น้ำแข็ง เนย หรือน้ำมัน สัมผัสลงไปบริเวณผิวที่ถูกเผาไหม้โดยตรง
-อย่าทำการเปิดแผล เพราะผิวหนังบริเวณกำลังอยู่ในระหว่างทำลายและฟื้นฟูตัวเองอยู่
ควรทำความสะอาดพื้นที่รอบๆที่ถูกเผาเบาๆ ด้วยสบู่ และน้ำยาปฎิชีวะนะเป็นประจำ
-เปลี่ยนผ้าผันแผลให้เป็นประจำทุกวัน
 -ถ้าหากการเผาไหม้จากท่ออเสียมีความรุนแรง ขอแนะนำให้รีบไปทำการพบแพทย์โดยทันที

วิธีการฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยแผลเป็นอย่างง่ายๆแต่ได้ผล
         ถึงแม้ว่าคุณจะปฎิบัติตัวตามวิธีที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้นทันทีหลังจากที่ถูกท่อไอเสียเผาไหมผิวหนังแล้วก็ตาม แต่โอกาสที่จะเกิดรอยแผลเป็นขึ้นในบริเวณที่ถูกทำลายด้วยความร้อนก็ยังคงมากอยู่ดี ดังนั้น หลังจากที่ดูแลผิวในเบื้องต้นจนกระทั่งแผลเริ่มแห้งสนิทดีแล้ว คุณก็ควรที่จะทำการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ด้วยครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และมีประสิทธิภาพในการบำรุงเยียวยาผิวพรรณให้กลับมามีสภาพที่ดีดังเดิม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดรอยแตกลาย ขาลาย ให้ได้น่องขาเนียนสวยคืนกลับมา

         ขอเปรยก่อนเลยว่าเกิดมาเป็นลูกผู้หญิงนั้นแสนลำบาก ต้องทุกข์ยากกับปัญหาผิวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อความสวยความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน ฉะนั้น ไม่ว่าปัญหาผิวจะมารุมเร้าสักเพียงไหนก็จงยืนหยัดสู้กับมันให้ตายกันไปข้าง (ฮาาาา) วันนี้เราจะมาชำแหละอีกหนึ่งปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิง นั่นคือรอยแตกลาย ส่วนใหญ่เป็นที่บริเวณหน้าอก ต้นขา แก้มก้น สะโพก หน้าท้อง หรือบริเวณผิวที่เป็นแหล่งสะสมของไขมันส่วนเกินนั่นเอง
โดยเจ้ารอยแตกลายนี้มักเกิดขึ้นในคนที่เคยอ้วนมากๆ แล้วมาผอมในภายหลัง เพราะเมื่อเราอ้วน ผิวหนังของเราจะขยายออกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จึงทำให้คอลลาเจนที่เป็นตัวช่วยในเรื่องความยืดหยุ่นที่อยู่ในผิวหนังของเรานั้นถูกทำลาย และเมื่อมีการยืดขยายมากๆ คอลลาเจนไม่สามารถทนแรงขยายนั้นได้ จึงทำให้เกิดเป็นรอยแตกลายตามผิวหนังนั่นเอง ในทางตรงกันข้ามถ้าเราผอมอยู่แล้วอ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว ผิวหนังที่ขยายเร็วเกินไปก็อาจทำให้เกิดรอยแตกลายได้เช่นกัน

วิธีลดรอยแตกลาย ขาลาย
วิธีลดรอยแตกลาย ขาลาย ให้ได้น่องขาที่เนียนสวยคืนกลับมามีให้เลือกหลายหลายวิธี ซึ่งถ้าจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วขึ้น จำเป็นต้องใช้หลายวิธีผนวกกัน ดังนี้
  1.ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะจะช่วยไม่ให้ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น โดยควรฝึกตัวเองให้พยายามดื่มน้ำเยอะ ๆ ประมาณวันละ 6-8 แก้วขึ้นไป เพื่อป้องกันการเกิดเซลลูไลท์และไม่ให้ผิวแตกลายจนดูน่าเกลียด
2.กินอาหารที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารพวกวิตามินเค วิตามินอี วิตามินซี สังกะสี และซิลิกา เพื่อให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่จำเป็นต่อการยืดหยุ่นของผิวหนัง
  3.ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ผิวหนังยืดหยุ่น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นและกระชับชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน เป็นวิธีลดรอยแตกลาย ขาลายได้ดี ทั้งยังช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสมดุล มีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาผิวแตกลาย ทั้งนี้ ต้องหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

         4.ขัดผิวด้วยสบู่ โดยขัดไปที่ผิวบริเวณที่เป็นรอยแตกลายอย่างเบามือ เพื่อช่วยในกระบวนการยืดหยุ่นและหดตัวของผิวหนัง หลีกเลี่ยงการใช้เกลือขัดตัว เพราะจะทำให้ผิวแห้ง และเกิดปัญหารอยแตกเพิ่มขึ้น
5.ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ผิวที่เป็นรอยแตกลาย หรือมีความเสี่ยงต่อการแตกลาย เช่น บริเวณต้นขา ต้นแขน น่อง ฯลฯ เพื่อทำให้ผิวชุ่มน้ำ เกิดความยืดหยุ่นได้มากขึ้น
6.ทากรดวิตามินเอ เป็นการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่อทาลงในบริเวณที่มีปัญหา จะช่วยลดรอยแตกลาย ขาลาย น่องลายให้จางลงได้ โดยจะทำให้รอยแตกลายสั้นและแคบลงได้ถึง 15-20% หากทาต่อเนื่องนานประมาณ 6 เดือน
7.ใช้สมุนไพร พืชสมุนไพรบางชนิดมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวที่เคยเสียให้กลับมาสุขภาพดีได้ เช่น ว่านหางจระเข้ ให้นำวุ้นของว่านหางจระเข้ที่ทำความสะอาดดีแล้ว มาทำการทาลงในบริเวณที่มีปัญหาน่องลายเป็นประจำทุกเช้าเย็น ผิวที่แตกลายก็จะค่อยๆจางลง หรือจะอีกสมุนไพรที่ช่วยลดรอยแตกลาย ขาลาย คือใบบัวบก โดยให้คั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปทาเป็นประจำทุกเช้าเย็น ผิวที่แตกลายก็จะค่อยๆจางลง
นอกจากนี้ยังมีวิธีลดรอยแตกลาย ขาลายด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อย่างเช่น การรักษาด้วยเลเซอร์ลดรอยแดง ใช้โปรแกรมการรักษาช่วยกระตุ้น Collagen ใช้ Carboxytherapy เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด และออกซิเจนบริเวณดังกล่าว เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน เป็นต้น

         อีกหนึ่งในวิธีการแก้ไขปัญหาขาลายที่น่าสนใจ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และง่ายจนใครๆก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน นั่นคือ การใช้ครีมบำรุงผิว ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยแก้ไขปัญหาขาลายนั่นเอง ซึ่งการเลือกครีมบำรุงผิวที่ช่วยแก้ปัญหาขาลายนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณทำการเลือกครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการแก้ปัญหาผิวแตกลาย และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพียงเท่านี้ปัญหาผิวแตกลายก็จะกลายเป็นอดีตอันแสนห่างไกลของคุณอย่างแน่นอน

การใช้ครีมบำรุงผิวแก้ไขปัญหาผิวแตกลาย ยังสามารถที่จะเลือกใช้ครีมบำรุงผิวแบบสำเร็จรูป โดยเน้นครีมบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน และมีส่วนประกอบหลักจากธรรมชาติ 100% ซึ่งจะเป็นการช่วยฟื้นฟู และบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการช่วยทำให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ของผิวที่กลับมาสวยสดใสเหมือนเดิม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

​ครีมแก้ขาลาย ช่วยได้จริงหรือ?

       ปัญหาขาแตกลาย รอยแผลเป็นจากสิว รอยยุงกัด จุดด่างดำ เป็นปัญหาที่พบมากโดยเฉพาะคุณผู้หญิง เป็นเหตุให้ความมั่นใจถูกลดทอนลง ไม่กล้าสวมใส่เสื้อผ้าโชว์เรียวขาสวยอีกต่อไป ซึ่งปัญหาใหญ่นี้เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นกระทันหันหรืออ้วนขึ้นนั่นเอง หรือแม้แต่ระบบต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ดีก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดปัญหาขาลายได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมากมาย ขั้นแรกเรามาทำความเข้าใจกับปัญหาขาลายก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุที่ทำให้เกิดขาลาย

 ปัญหาขาลายเกิดได้กับทุกคน ทั้งคุณแม่ คุณลูก สาวๆที่เพิ่งลดความอ้วน หรือนักกีฬาที่เล่นกล้าม เพราะการเติบโตและน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการยืดขยายตัวอย่างต่อเนื่องของผิวหนังและเนื้อเยื่อ จึงเกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจน มักพบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ ที่นอกจากผิวหนังจะลายบริเวณท้องและหน้าอกแล้ว ยังพบที่บริเวณขาทั้งสองข้างที่คอยรับน้ำหนักตัวอีกด้วย

ในคนอ้วนหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ หรือในวัยรุ่นที่มีการเจริญเติบโตทางด้านส่วนสูงอย่างรวดเร็ว ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดรอยแตกลายได้อย่างชัดเจน โดยจะพบผิวแตกลายในบริเวณต้นขาด้านนอก แม้แต่ผู้ที่รับประทานยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทาครีมที่มีสเตียรอยด์ความเข้มข้นสูงหรือมากเกินจำเป็น อาจทำให้เกิดขาลายได้

       เมื่อเกิดขาลายจากสาเหตุดังกล่าว ก็อาจจางลงได้หลังคลอด หรือลดความอ้วนลง หรือพ้นช่วงวัยรุ่นไป แต่ในบางรายก็ยังคงปรากฏอยู่อย่างเด่นชัดและเป็นปัญหากวนใจ โดยเฉพาะสาวๆ ที่การเกิดขาลายทำให้ความมั่นใจลดลงไปด้วย

อีกสาเหตุที่แก้ให้หายยากโดยธรรมชาติ และต้องหันไปพึ่งหมอ นั่นคืออาการขาลายที่เกิดจากระบบน้ำเหลืองในร่างกายผิดปกติ เวลาผิวถูกทำให้ระคายเคือง หรือแมลงและยุงกัด จะทำให้เกิดรอยชัดเจน หากเอามือไปแกะเกายิ่งทำให้เกิดรอยแผลเป็น จุดด่างดำชัดขึ้น เช่นนี้ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาให้ถูกต้องเป็นรายกรณี

ผลิตภัณฑ์แก้ขาลายช่วยได้จริงหรือ?

การแก้ปัญหาขาลาย จุดด่างดำ รอยแผลเป็น หรือแม้แต่บาดแผลที่เกิดจากท้อไอเสีย ให้กลับมาเรียบเนียนดังเดิม หรือทำให้ใกล้เคียงกับผิวพรรณโดยปกติมากที่สุด ครีมที่ใช้ควรมีส่วนประกอบ ดังนี้

       1.Vitamin B3 ช่วยยับยั้งการถ่ายโอนเม็ดสีไปแสดงผลยังเซลล์ผิว ให้ผิวแลดูขาว เปล่งปลั่ง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ 

2.Ranexamic ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนัง ทำให้ผิวแลดูขาวขึ้น ฝ้า กระ และจุดด่างดำดูจางลง

3.Odium PCA : ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ไม่แห้งกร้าน

 4.Salicylie Acid : เป็น BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกมาก่อน เพื่อเผยผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม ขาวใส ดูเรียบเนียนขึ้น

 5.Glycolie Acid : เป็นน้ำตาลที่ได้จากอ้อย มีโครงสร้างเล็ก เพื่อลงไปทำงานใต้ผิวได้ลึก ทำให้ผิวเกิดการกระตุ้นให้หลุดลอกออก เผยให้ผิวนุ่ม ขาวใส และริ้วรอยค่อยๆจางลง

6.Hydrolyzed Opuntia Ficus Indica Flower Extract : เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวค่อยๆผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกมา เผยผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์ และนุ่มนวล ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 อย่างไรก็ตาม การใช้ครีมขาลายก็ยังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการใช้งานอย่างง่ายๆ และสามารถทำได้เองที่บ้าน แต่การเลือกซื้อครีมสำหรับช่วยบรรเทาแก้ไขปัญหาขาลาย ท่ามกลางผลิตภัณฑ์จำนวนมากมายในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน ที่จำเป็นจะต้องทำการศึกษาจุดเด่น จุดด้อน ข้อดี ข้อเสีย ของครีมแก้ขาลายแต่ละชิ้นอย่างละเอียดแต่ละชิ้นนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมขาลาย ใช้แล้วเห็นผล

คุณสาวๆ หลายคนคงจะประสบปัญหาในเรื่อง ขาลาย ขามีริ้วรอย หรือเต็มไปด้วยร่องรอยด่างดำ จนทำให้เสียความมั่นใจยามเมื่อที่ต้องใส่กระโปรงสั้น หรือกางเกงขาสั้น ที่ต้องเผยให้เห็นเรียวขา

ซึ่ง ปัญหาขาลายนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หรือมีปัญหาต่อมน้ำเหลืองไม่ดี เป็นต้น

สำหรับวันนี้ เพื่อคุณสาวๆ ที่กำลังมีปัญหาขาลาย และอยากจะโบกมือลาเจ้าปัญหานี้ไปให้เร็วมากที่สุด จะขอพาไปรู้จักกับวิธีการลบเลือนรอยเหล่านั้นอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้คุณสาวๆ ทุกคนได้มีเรียวขาที่สวยงามห่างไกลจากริ้วรอย

ส่วนวิธีการลบรอยขาลายมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า

วิธีรักษา ลบเลือนรอยขาลายอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับสูตรวิธีการรักษาขาลายก็มีอยู่อย่างหลากหลาย ซึ่งคุณสาวๆสามารถที่จะเลือกสูตรที่ชอบหรือเหมาะสมกับตัวเองไปทดลองใช้ได้ทันที โดยไม่มีการสงวนสิทธิ์แต่อย่างไร ดังต่อไปนี้

1. สูตรน้ำมะนาวผสมดินสอพอง โดยการพอกน้ำมะนาวผสมดินสอพองลงบนบริเวณที่ขาลาย ทิ้งเอาไปไว้สักครู่ แล้วใช้ใยบวบขัดล้างผิวบริเวณดังกล่าวเพื่อเอาน้ำมะนาวและดินสอพองออกจากผิว

2. สูตรขมิ้นผง นำขมิ้นผงผสมกับน้ำเล็กน้อยจากนั้นให้นำไปพอกบริเวณที่มีปัญหาขาลายทิ้งเอาไว้สักครู่ จากนั้นใช้ใยบวบขัดผิวในบริเวณดั่งกล่าวพร้อมกับล้างขมิ้นออก

3. สูตรมะขามเปียก น้ำมะขามเปียกมาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปทาพอกบริเวณที่มีปัญหาขาลายทิ้งเอาไว้สักครู่ จากนั้นใช้ใยบวบขัดผิวในบริเวณดั่งกล่าวพร้อมกับล้างขมิ้นออก

4. สูตรมะขามเปียก+ผงขมิ้น+ดินสอพอง โดยเริ่มจากการล้างขาให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วใช้สำลีชุบน้ำเช็ดในบริเวณที่เกิดปัญหาขาลายพอให้ผิวมีความชื้น แล้วนำมะขามเปียก ผงขมิ้น และดินสอพองมาผสมคนรวมกันจนกลายเป็นเนื้อละเอียด

จากนั้นให้นำไปแต้มบางๆในบริเวณที่มีปัญหาขาลาย แล้วนำสำลีวางทับเอาไว้ให้ทั่วบริเวณที่ทาเนื้อครีม ทิ้งเอาไปไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด สำหรับคนที่อยากเห็นผลเร็วสามารถทำได้เป็นประจำทั้งในตอนเช้า – เย็น

5. สูตรมะขามเปียก+ผงขมิ้น+นมสด นำส่วนผสมดังกล่าวมาใช้ในการขัดบริเวณที่มีปัญหาขาลายสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยทำให้ขาเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

6. สูตรขัดผิวด้วยเกลือสปา นำเกลือสปามาขัดผิวในบริเวณที่เกิดปัญหาขาลาย ในขณะที่ทำการอาบน้ำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยทำให้ผิวในบริเวณนั้นขาวเนียนและลดรอยลายของขาลง

7. สูตรมะกรูด นำมะกรูดมาผ่าครึ่ง จากนั้นให้นำส่วนที่ถูกผ่ามาทาลงที่ผิวในบริเวณที่มีปัญหาขาลาย พร้อมกับค่อยๆน้ำภายในผลให้ออกมาเรื่อยๆ เมื่อทาจนทั่วแล้วให้ทิ้งเอาไว้สักครู่ให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

8. สูตรว่านหางจระเข้ ทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ ในบริเวณที่มีปัญหาขาลาย ซึ่งว่านหางจระเข้ที่ใช้อาจจะเป็นแบบครีมสำเร็จรูป หรือเป็นว่านหางจระเข้สดก็ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่มีขายลายเนื่องจากรอยแผลเป็น ซึ่งว่านหางจระเข้จะช่วยในการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์เติมเต็มผิวหนังในบริเวณดังกล่าว

9. สูตร Baby Oil ทาหลังจากการอาบน้ำ โดยการถูและนวดให้ทั่วแล้วทำการเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะช่วยทำให้สีผิวมีความเสมอกันจึงมองไม่ค่อยเห็นบริเวณขาที่ลาย

10. สูตรใบบัวบก+แตงกวา+นมผง นำใบบัวบก 2 กำมือ แตงกวาลูกเล็กปอกเปลือก 2 ลูก นมผง 2 ช้อนโต๊ะ มาปั่นผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทาพอกทิ้งเอาไว้ในบริเวณที่มีปัญหาขาลาย หลังจากการอาบน้ำ ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นประจำทุกวัน

11. หินขัดขี้ไคล ฟอกสบู่ในบริเวณที่เกิดปัญหาขาแตกลายแล้วใช้หินขัดขี้ไคลขัด เพื่อเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วในบริเวณดังกล่าวออก เมื่อเซลล์ผิวหนังเกิดขึ้นมาใหม่ ก็จะเรียบเนียนมากขึ้นกว่าเดิม

12. สูตรกระเทียม+น้ำมะนาว นำกระเทียมมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำมะนาวในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นให้นำไปทาพอกทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น ควรทำการขัดผิวตามด้วยน้ำมะขาม โดยทำการขัดเบาๆ

การรักษาปัญหาขาลายเป็นสิ่งที่ต้องค่อยเป็นค่อยไปที่ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ในการรักษาเรียวขาให้สวยงามอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หลังจากทำการรักษาปัญหาขาลายตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้น

คุณสาวๆ อย่าลืมทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี ในบริเวณที่มีปัญหาขาลาย หรือถ้าจะให้ดีก็ทาให้ทั่วขาไปเลยทั้งในตอนเช้า-เย็น เพื่อเป็นการช่วยบำรุงผิวพรรณของเรียวขาให้สวยงามเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

นอกจากวิธีการไขปัญหาขาลายด้วยตัวเองดังที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้นแล้ว สำหรับคุณสาวๆที่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปตามหาส่วนผสมที่สามารถช่วยขจัดปัญหาหาขาลายดังที่ได้แนะนำไป คุณสาวๆก็ยังสามารถที่จะใช้ครีมบำรุงผิวพรรณ ที่สามารถช่วยลด บรรเทา ฟื้นฟู ปัญหาขาลายอย่างได้ผล โดยขอแนะนำว่าควรให้ความสำคัญในการเลือกส่วนประกอบของครีมบำรุงผิวรักษาปัญหาขาลาย จากธรรมชาติที่ไร้ผลข้างเคียงที่ปราศจากความอันตรายต่อผิว ซึ่งในปัจุบันแม้นจะมีผลิตภัณฑ์รักษาขาลายออกมาให้เลือกสรรกันอย่างมากมาย

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.