อยากทำเลเซอร์หลุมสิว ราคาต้องจ่ายเท่าไหร่ไปดูกัน

         ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากที่จะให้เกิดรอยหลุมสิวขึ้นมาบนใหบหน้า หลังจากที่สิวได้ถูกรักษาหายไปแล้วอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายๆคนเกิดปัญหาหลุมสิวที่ส่งผลต่อความงามขึ้นมาแล้ว ก็คงอยากที่จะรีบกำจัดหลุมสิวออกไปให้รวดเร็วมากที่สุด ซึ่งวิธีการรักษาหลุมสิวนั้นก็มีอยู่อย่างมากมายหลายวิธีให้เลือกสรรเลยทีเดียว ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การใช้เลเซอร์หลุมสิว ในการรักษาหลุมสิวนั่นเอง แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเข้ารับการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ก็คงจะมีคำถามภายในใจเหมือนๆกันว่า เลเซอร์หลุมสิว ราคาที่ต้องจ่ายนั้น มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากใครกำลังมีคำถามดั่งกล่าวอยู่ในใจล่ะก็ สามารถติดตามอ่านบทความชิ้นนี้เพื่อคลายความสงสัยว่า การทำเลเซอร์หลุมสิว ราคา ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด ไปดูกันเลย

เลเซอร์หลุมสิว ราคาแพงไหม?
ด้วยความเชื่อพื้นฐานที่ว่า การรักษาแบบเลเซอร์หลุมสิว ราคาต้องแพงมากกว่าการรักษาหลุมสิวประเภทอื่นๆ ทำให้มีคนจำนวนมากต้องพลาดโอกาสรับการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอันหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย แต่สำหรับหลายๆคนก็คงจำเป็นที่จะต้องคิดเผื่อในเรื่องของค่าคอร์สในการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ราคาให้อยู่ในระดับที่สามารถจ่ายได้ไหว ซึ่งในวันนี้จะขอพาไปดูว่าเหล่าสถาบัน และโรงพยาบาลเสริมความงามชื่อดัง เขามีค่าคอร์สในการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ราคาล่าสุด เท่าไหร่กันบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ที่กำลังสนใจการรักษาเลเซอร์หลุมสิวอยู่
1.ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม คอร์ส Miracle Bright Laser ราคาค่าคอร์สเลเซอร์หลุมสิวแบบเบ็ดเสร็จไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 8 ครั้ง อยู่ที่ราคา 1,2000 บาท เป็นการใช้เลเซอร์ระบบลำแสง IPL หรือ ฟลูออเรสเซนต์ ที่มีความเข้มข้นสูงเข้ามาช่วยในการรักษาให้หลุมสิวมีความตื้นมากขึ้นกว่าเดิม
 2.พรเกษมคลินิก ราคาคอร์สในการรักษาหลุมสิวด้วยแสงเลเซอร์อยู่ที่ปรมาณ 10,500 บาท ต่อคอร์ส
 3.ราชเทวีคลินิก อัตราค่าบริการรักษาหลุมสิวด้วย SM Technique หรือการรักษาด้วยเลเซอณืต่างๆ เฉพาะส่วนเริ่มต้นที่ราคา 1,000 บาท ทั่วใบหน้าเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณ หรือพื้นที่ของหลุมและจำนวนช่องของเลเซอร์ที่ยิง

         4.สถาบันโรคผิวหนัง อนุเสาว์รีชัย ราคาค่ารักษาเลเซอร์หลุมสิวแบบ Fraxel Laser แก้มข้างละ 3,000 บาท แก้ม+ขมับ ข้างละ 4,000 บาท หน้าผาก 4,000 บาท คาง+จมูก 3,000 บาท ทั่วหน้า 15,000 บาท
5.ราชพฤกษ์คลินิก คอร์ส Smooth Blink ใช้เลเซอร์ในการรักษาแผลเป็น หลุมสิว และรักษารูขุมขนกว้าง ทั่วหน้าครั้งละ 5,000 บาท คอร์ส 5 ครั้ง 20,000 บาท แก้มสองข้างครั้งละ 3,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เลเซอร์หลุมสิวไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อคอร์สทั้งหมดก็ได้ (1 คอร์สประมาณ 8-10 ครั้ง) สำหรับบางคนที่ต้องการเพียงแค่ให้หลุมสิวตื้นขึ้น อาจจะใช้การจ่ายซื้อรายครั้ง ประมาณครั้งละ 1,500-2,000 บาท หลังจากนั้นเมื่อได้ผลลัพธ์ที่ตื้นขึ้นจนพอใจแล้ว ก็สามารถที่จะใช้วิธีการบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุง หรือวิธีการทางธรรมชาติอื่นๆ เข้ามาช่วยเติมเต็มผิวหน้าของคุณหให้กลับมาเรียบเนียน แข็งแรง สมบูรณ์เหมือนเดิมก็ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

10 เคล็ดลับลดรอยสิวเร่งด่วน คืนเดียวเห็นผล

         แน่นอนว่าไม่มีใครอยากที่จะให้มีสิวปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของตัวเอง แต่ด้วยการใช้ชีวิตอันเร่งรีบ ไม่ถูกสุขลักษณะ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษอันเลวร้าย ก็มักจะทำให้เจ้าสิวตัวร้ายหาช่องทางปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคุณจนได้ แต่การจะสู้รบปรบมือกับเจ้าสิวเหล่านี้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักกับลดรอยสิวเร่งด่วนอย่างได้ผลแบบยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น โดยเฉพาะในวันสำคัญๆ อย่างการแต่งงาน งานปริญญา หรืออื่นๆที่จะมาเยือนเพียงครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งในวันนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาลดรอยสิวเร่งด่วนแบบคืนเดียวเห็นผล สามารถปฎิบัติตามเคล็ดลับที่กำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลย

ลดรอยสิวเร่งด่วน หายวับในคืนเดียว
 สิวตัวร้ายเป็นสิ่งที่ชอบโผล่มาขัดขวางการถ่ายรูปใบหน้าที่เรียบเนียนของคุณในวันสำคัญๆอย่างเด่นชัด ที่แม้แต่การแต่งหน้าหนาๆก็ไม่อาจปกปิดซ่อนพวกมันเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากคุณทราบลดรอยสิวเร่งด่วนด้วยตัวเองที่บ้านแล้วล่ะก็ สิวก็จะไม่เป็นปัญหากวนใจคุณอีกต่อไป แถมวัตถุดิบในการต่อสู้กับสิวเหล่านี้ก็สามารถหาได้ง่ายในบ้านของคุณจนน่าตกใจเลยทีเดียว
   1.เบรกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำนำมาพอกในบริเวณที่เป็นสิวคล้ายกับหน้ากากก่อนเข้านอน จากนันจึงค่อยล้างออกในตอนเช้า
         2.ยาสีฟัน คุณสามารถพอกยาสีฟันไว้รอบๆบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที หรือมากกว่านั้น หรือพอกทิ้งเอาไว้พันด้วยผ้าผันแผลทิ้งไว้หนึ่งคืน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งยาสีฟันพยายามหลีกเลี่ยงสูตรไวท์เทนนิ่งที่มีความซับซ้อน และมักมีปฎิกริยากับผิวที่มีความบอบบาง
 3.ครีมโกนหนวด เป็นวิธีลดรอยสิวเร่งด่วนที่น่าสนใจ ด้วยการทาครีมโกนหนวดลงไปบนสิวแล้วปล่อบให้แห้ง จากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
   4.แป้งข้าวโพด ผสมเข้ากับน้ำให้ข้นแล้วนำมาพอกหน้า หรืออาจจะนำมาใช้ขัดผิวหน้าได้นิดๆหน่อยๆด้วย
 5.น้ำกระเทียม เพียงแค่น้ำกระเทียมแปะลงบนสิว และปล่อยให้แห้ง แต่คุณอาจจะต้องทนกลิ่นฉุนของกระเทียมให้ได้บ้าง
 6.เปลือกส้ม ทุบเปลือกส้มและผสมเข้ากับน้ำเล็กน้อยสามารถนำไปใช้ทาในบริเวณที่เป็นสิวได้เลยทันที
7.น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ การทาน้ำผึ้งที่หัวสิวให้เร็วที่สุดทันทีที่พวกมันปรากฏตัวแล้วไปเข้านอน เมื่อตื่นขึ้นมาคุณก็จะพบว่าพวกมันได้หายวับไปแล้ว แต่อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วด้วย

         8.มะนาว น้ำมะนาวสดแต้มทิ้งไว้ที่หัวสิว แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดในตอนเช้าจะช่วยลดขนาดและการอักเสบรุนแรงของสิวได้เป็นอย่างดี
 9.ข้าวโอ๊ต ต้มข้าวโอ๊ตให้ร้อนแล้วพักทิ้งเอาไว้ให้อุ่นพอที่จะสามารถนำไปใช้ได้ จากนั้นให้ให้นำข้าวโอ๊ตไปพอกในบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาการบวมและอักเสบของสิวจะหายไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
10.แตงกวา คุณสามารลองใช้ลดรอยสิวเร่งด่วนด้วยการใช้แตงกวาขูดให้ทั่วใบหน้า และลำคอ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการรักษาสิว รวมไปถึงเหล่าสิวหัวดำ กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด และอาจเพิ่มเติมส่วนประกอบอื่นๆเข้าไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น น้ำมะนาว เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ กับสิ่งที่คุณควรรู้

         การรักษาหลุมสิวเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจคุณสาวๆมาอย่างช้านานเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ อีกทั้งยังใช้ทั้งเงิน และเวลาในการดูแลรักษากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในแผนการรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั่นเอง แต่ก่อนที่คุณสาวๆจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ควรทำการศึกาข้อดี ข้อเสีย ให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้เสียก่อน ซึ่งบทความในวันนี้ก็ได้ทำการรวบรวมเกี่ยวกับวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เอามาฝากผู้ที่กำลังสนใจอยากศึกษาในเรื่องนี้ได้อ่านกัน

สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิว
การพัฒนาตัวเองของเชื้อแบคทีเรียในสิว มักจะทำให้ร่างกายของคนเราเกิดกลไกป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ แอนติบอดี้ในเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมุ่งเข้าไปสู่รูขุมขนที่อุดตันเหล่านั้น พร้อมกับเริ่มทำการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย แต่ในขณะที่กำลังทำการฆ่าเชื้ออยู่นั้น แอนติบอดี้จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น พร้อมกับทลายผิวหนังที่อยู่โดยรอบทำให้เกิดหลุมสิวขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะกับคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอก็จะยิ่งได้รับรอยแผลเป็นจากสิวที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ดีอย่างไร?
 คลินิกศูนย์รักษาสิวในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ประมาณว่า 50% ของผู้มีปัญหาเรื่องสิว มักจบลงด้วยการที่มีหลุมสิว หรือรอยเผลเป็นเกิดขึ้นบนใบหน้า และเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยกมือยอมแพ้ให้กับพวกมันอีกด้วย แต่การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เป็นหนึ่งในมาตรฐานทองคำ และเป็นการรักษาที่รวดเร็วที่สุดในการซ่อมแซมรอยแผลเป็น ซึ่งดีกว่าวิธีการรักษาสิวแบบเดิมๆ ที่นิยมใช้การผ่าตัดชั้นบนสุดของผิวที่ได้รับผลกระทบจากหลุมสิว
จากการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้กับสิว รวมไปถึงหลุวที่เจ้าสิวตัวร้ายได้ทิ้งเอาไว้ให้ดูเสมือนกับเป็นของต่างหน้าบนใบหน้าพบว่า เลเซอร์ สามารถนำมาใช้ในการช่วยรักษาสิวทุกประเภท รวมไปถึงหลุมสิวได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้เลเซอร์ความเข้มข้นสูงในการรักษารอยแผลเป็นที่เห็นอย่างเด่นชัด และการใช้เลเซอร์แบบมาตรฐานในการส่งสัญญานเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เกิดการผลิตคอลลาเจนใหม่ ที่ช่วยในการซ่อมแซมหลุมสิว รวมไปถึงรอยแผลเป็นต่างๆ ด้วยวิธีดังกล่าวจะช่วยทำให้ผิวหนังได้รับการเติมเต็มให้กลับมามีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นภายใน 4-5 วัน นับจากวันที่เข้ารับการรักษา โดยผลลัพธ์ในการปรับปรุงผิวที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 30-70% และสภาพของหลุมสิวจะดีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเข้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ประมาณ 4-6 สัปดาห์

         อย่างไรก็ตาม การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ยิ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องลดโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ผิวพรรณของคุณให้น้อยลงเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์
ถึงแม้ว่าการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์จะส่งผลดีต่อหลุมสิวอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่แนวโน้มในการรักษาอาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด คุณสาวๆอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ยารักษาสิวร่วมกับผิวของคุณ นอกจากนี้การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์อาจจะมีราคาแพง และยังจำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจในการดูแลผิวพรรณให้ดีหลังจากที่ได้รับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งในบางคนที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ อาจจะเกิดผลข้างเคียงในลักษณะของผื่นแดง อาการบวมเกิดขึ้น อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักที่จะหายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน แต่ในบางครั้งผลข้างเคียงเหล่านี้ก็อาจจะรุนแรงขึ้นในบางครั้งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามโอกาสเกิดผลข้างเคียงเนื่องจากวิธีการรักษาสิวด้วยเลเซอร์นี้เกิดขึ้นได้น้อยมากทีดัยว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ปัญหาหลุมสิว แก้ไม่ได้จริงๆหร๊อ…

ปัญหาหลุมสิว ยังคงเป็นปัญหาที่ใครหลายคนกังวลใจและพยายามหาวิธีแก้

เพื่อกำจัดไอ้เจ้าตัวปัญหาให้หมดสิ้นเสียที บางคนเจอปัญหาหลุมสิวที่มีขนาดลึก

ก็ต้องใช้เวลารักษากันนานเลยละ

ปัญหาหลุมสิวจริงๆแล้วมันก็เกิดจากฝีมือของเรานี่แหละ บางคนเห็นสิวเป็นไม่ได้

ต้องคันไม้คันมือไปบีบ ไปแคะ ไปแกะ แต่ในกรณีที่บางครั้งที่เราเป็นสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่

เมื่อสิวยุบหายไปก็สามารถทิ้งร่องรอยปัญหาหลุมสิวไว้เป็นที่ระลึกให้คอยตามกวนใจเราก็เป็นได้

การรักษาปัญหาหลุมสิว ต้องใช้เวลา และค่าใช้จ่ายในการรักษาปัญหาหลุมสิว

ก็มีราคาแพงเลยทีเดียว เพราะกว่าที่จะรักษาให้กลับมาเป็นปกติต้องใช้เวลาและการรักษาดูแล

เป็นอย่างดี ทางที่ดี เมื่อเกิดปัญหาบนใบหน้าขึ้น เช่นเกิดสิวขึ้นบนใบหน้า คุณไม่ควรไป บีบ แกะ สิว

จะช่วยลดปัญหาการเกิดปัญหาหลุมสิวขึ้นได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่บอกการเกิดสิวอักเสบ

ที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาหลุมสิวได้เช่นกัน
เอาเป็นว่าไม่ว่าปัญหาหลุมสิวจะเกิดขึ้นเพราะความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราก็ควรดูแลรักษาผิวหน้า

เราให้ดี โดยการทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้งหลังการแต่งหน้า  ระวังรักษาใบหน้าไม่ให้เกิดเป็นสิว

เพราะเมื่อใบหน้าเราเกิดเป็นสิวขึ้นมาก็ย่อมเท่ากับเรากำลังจะมีปัญหาตามมา นั่นคือ ปัญหาหลุมสิว

ที่เป็นปัญหาใหญ่พอๆกับปัญหาสิวเลย

ดีไม่ดีบางครั้งการเกิดปัญหาหลุมสิวนี่อาจเป็นปัญหาที่ทำให้คุณหนักใจกว่าการเป็นสิวอีก

หลุมสิว รักษาได้ ต้องดูแลกันตั้งแต่เนิ่นๆ

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

หลุมสิว หายได้ เพียงแค่ ??

เป็นสิวก็ว่าหนักแล้ว นี่หลังจากหายจากสิวกลับต้องมาพบกับหลุมสิวที่ทิ้งรอยไว้บนใบหน้าเราอีก 

หนักใจไหมคะ…. อย่าเพิ่งคิดมากคะ  มาดูว่าจะมีวิธีไหนในการดูแล และรักษาหลุมสิวได้บ้าง

ทำอย่างไร หลุมสิว จะหายไป  จะ รักษา อย่างไรให้หายไปจากหน้าของเรา มันขึ้นอยู่กับความลึกของหลุมสิว  หากมีความลึกมากก็อาจไม่หายขาดและจะลดลงโดยในประเทศไทย เราก็มีหลากหลายวิธีในการรักษา

–  การใช้ยาทา  แต่วิธีนี้ไม่ค่อยจะได้ผล  เพียงแต่อาจจะมียาบางตัวที่ใช้ทาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งอาจจะใช้ร่วมกับ non-pharmacological treatment โดยที่พบบ่อยๆ ได้แก่ vitamin C และ pentapeptide

– การกินยา  วิธีนี้ก็รักษาได้แต่กินยาอย่างเดียวคงไม่เห็นผล เพราะไม่มียากินตัวไหนสามารถตัด ผังผืดใต้ผิวหนังได้  วิตามินซี เป็นตัวยาที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่รักษาหลุมสิวทุก เนื่องจากวิตามินซี มีประสิทธิภาพในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือไม่เกิน 3,000 มิลลิกรัมต่อวันและยาอีกตัวก็คือ  Collagen hydrolyzate เป็นตัวยานึงที่มีการวิจัยว่า สามารถเพิ่มการสร้างคอลลาเจนได้

–  รักษาด้วยวิธีการยิงเลเซอร์  ซึ่งค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงในการรักษาต่อครั้ง  ซึ่งหากมีหลุมสิวที่ลึกมากอาจต้องใช้การยิงเลเซอร์หลายครั้ง  ซึ่งก็สิ้นเปลืองมากทีเดียว  และบางรายอาจได้ผลที่ไม่น่าพอใจ แต่ถือว่าเป็นวิธีที่นิยมกันมากในการรักษาหลุมสิว  ที่สำคัญอีกอย่างในการทำเลเซอร์ ก็คือหมอที่ยิงเลเซอร์ให้ดังนั้นต้องเลือกหมอที่ไว้ใจได้ด้วยค่ะ

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุดยอด การรักษาหลุมสิว ราคาถูก และได้ผลเร็ว

 

สิว.. เป็นปัญหาที่กว่าจะรักษาหาย ก็ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แถมเมื่อมันจากไปก็ยังคงไม่วายทิ้งปัญหาร่องรอยด่างดำ และหลุมสิวชวนน่ารำคาญเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมสิวบนใบหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษายาก แถมอยู่นานเสียยิ่งกว่าตัวสิวเอง

หลุมสิวคืออะไร?

หลุมสิว คือ การอักเสบของสิวอย่างรุนแรงถึงชั้นหนังแท้ มักที่จะมีหนองเกิดขึ้นด้วยทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย จึงมักที่จะมีแผลเป็นเกิดขึ้นหลังสิวหาย แผลเป็นใต้ผิวหนัง จะทำให้ พังผืด ที่ดึงรั้งผิวหนังจนทำให้กลายเป็นหลุม

ลักษณะรอยแผลเป็นหลังจากการเป็นสิว

ประเภทของหลุมสิว

1. Rolling Scars หลุมสิวจะมีลักษณะคล้ายกับแอ่งกระทะ ขอบรอบๆดูคล้ายกับรอยเหี่ยวย่น มักเกิดขึ้นจากการอักเสบของสิวขนาดใหญ่ ที่ได้รับการรักษามาบ้าง แต่การยุบตัวของสิวไม่สัมพันธ์กับการสมานตัวกับผิว เป็นรอยหลุมสิวที่สามารถรักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวประเภทอื่น

2. Box Scars หลุมสิวจะมีลักษณะคล้ายกับหลุมกล่องวงรี ขนาดประมาณ 3-4 มิลลิเมตร เป็นทรงตรงลึกลงไป มักเกิดขึ้นมาจากการอักเสบของสิวขนาดใหญ่ๆ หรือเกิดขึ้นจากการเป็นอีสุกอีใส เป็นลักษณะหลุมสิวที่ค่อนข้างรักษาได้ยาก

3. Ice Pick Scars หลุมสิวจะมีลักษณะเหมือนถูกที่เจาะน้ำแข็งทิ่มลงไป ขนาดมักจะไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร ดูเหมือนรูจะเล็ก แต่ลึก ซึ่งรักษายากมากที่สุด

สาเหตุของการเกิดหลุมสิว

1. การบีบ แคะ แกะ เกา ทำให้สิวอักเสบมากขึ้น พร้อมกับทิ้งรอยคล้ำ และหลุมสิว

2. สิวอักเสบรุนแรง

3. การติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม

4. กรรมพันธุ์ ถ้าหากคนในครอบครัวมีประวัติการเกิดหลุมสิวหลังจากที่เป็นสิงอย่างรุนแรง ก็มีโอกาสที่เมื่อเราเป็นสิวจะเกิดหลุมสิวทันทีเมื่อหาย

การรักษาหลุมสิว

การรักษาหลุมสิว ที่กำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ เป็นวิธีการรักษาที่รวบรวมมาเป็นความรู้ เพื่อช่วยให้คุณสาวๆ มีแนวทางในการรักษาหลุมสิวได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทุกวิธีสามารถช่วยทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนที่สามารถได้ผล 100 % สำหรับวิธีการรักษาหลุมสิว มีดังต่อไปนี้

1. ทาครีมลบรอยแผลเป็น ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E , AHA , BHA เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

2. การทายา ควรเลือกทายากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามิน A เช่น Retin A เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

3. การทานยา ควรทานยาที่สกัดจากอนุพันธ์วิตามิน A (Retinoids) เช่น Roaccutance, Acnotim , Lsortretinoin เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

4. การลอกผิวหนังด้วยกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AHA , BHA, PHA เป็นการทำให้เซลล์ผิวหนังด้านบนหลุดออกมา และเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ดีขึ้น

5. แต้มกรด TCA เป็นการทำให้เซลล์ผิวหนังด้านบนหลุดออกมา และเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ดีขึ้นใหม่

6. งดแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอลล์ มีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่กำลังรักษาหลุมสิว จึงควรที่จะงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

การป้องกันการเกิดหลุมสิว

การรักษาหลุมสิวที่ดีนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันการเกิดหลุมสิวใหม่ขึ้น เมื่อเกิดสิวอักเสบขึ้น ต้องรักษาให้หายจากอาการอักเสบให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งสิวอักเสบอยู่บนใบหน้าเรามากท่าไหร่ โอกาสในการที่จะเกิดแผลเป็นบนใบหน้าก็จะมีมากเท่านั้น โดยการทายาฆ่าเชื้อสิว เช่น Benzac, Panoxly การฉีด Steroid หรือทานยาปฏิชีวนะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่ควรรู้ ดังต่อไปนี้

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นละออง ควันรถ หรือควันมากๆ เพราะจะมีแบคทีเรียและคราบสกปรกมาอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น

2. อย่าเอามือไปยุ่งกับใบหน้าเกินความจำเป็น เช่น การล้วง แคะ แกะ เกา ควรสัมผัสกับใบหน้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะมือของเรามักเต็มไปด้วยคราบสกปรก และเชื้อแบคทีเรีย

3. ห้ามใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้เกิดสิวอักเสบได้ง่ายขึ้น

4. กำจัดความมันบนใบหน้า โดยใช้กระดาษซับมัน ควรทำเฉพาะเมื่อใบหน้ามีความมันมากๆเท่านั้น

5. สระผมทุกวัน โดยเฉพาะคนที่ผมยาวปิดหน้าผาก หรือแก้มทั้งสองข้าง เพราะผมของเราก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และสิ่งสกปรกเช่นกัน

6. ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม เพราะยิ่งนอนดึกมากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

7. อย่าล้างหน้าบ่อย ควรล้างเพียงวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และตอนเย็นเท่านั้น ในช่วงกลางวันหากหน้ามันมาก ควรใช้กระดาษซับมันแทนการล้างหน้า

8. ทำความสะอาดผิวหน้าทุกครั้งก่อนนอน

9. ถ้าหากเป็นสิวบ่อยๆ ควรทายาฆ่าเชื้อหัวสิว เช่น clindamycin, mupirocin, erythromycin +

ที่สำคัญที่สุดคือ พึงท่องเอาไว้ในใจเสมอเวลาเกิดสิวขึ้นบนใบหน้าว่า การรักษาสิวนั้น ถูกกว่าการรักษาแผลเป็น หรือหลุมที่เกิดขึ้นจากสิวหลายเท่านัก เพราะการรักษาหลุมสิว โดยส่วนใหญ่ต้องใช้เวลานาน อาจจะเป็นปี กว่าที่คอลลาเจนจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทนแทน

10. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า การลดความมันบนใบหน้าโดยการใช้กระดาษซับมัน สามารถช่วยลดความมันได้เพียงชั่วคราว เพราะต่อมไขมันก็จะผลิตไขมันออกมาทดแทนในส่วนที่หายไปอยู่ดี วิธีแก้ไขที่ถูกต้องคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดไขมัน ที่สำคัญคือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้การผลิตไขมันน้อยลงไปด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.