บำรุงสายตา อาหารอาหารเสริม เลือกอย่างไรให้วิสัยทัศน์ตาดีที่สุด

         โดยพื้นฐานแล้ว การรักษาดวงตาเอาไว้ด้วยการบํารุงสายตา อาหารเสริมนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เเกี่ยวข้องส่วนใหญ่ มักจะประกอบด้วยวิตามิน และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยในการรักษาสุขภาพของดวงตา และเสริมทัศนวิสัยในการมองเห็นให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คุณควรคำนึงถึงเสมอในการบํารุงสายตา อาหารเสริมนั้น พวกมันไม่ได้สามารถแทนที่สารอาหาร หรือวิตามินที่มีประโยชน์ในการบำรุงดวงตาได้ 100% แต่เป็นเพียงการ “เสริม” ให้สุขภาพของดวงตาดีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าหากคุณยังคงใช้ชีวิตไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ทานอาหารที่ไร้ประโยชน์ อาหารขยะ เป็นจำนวนมากๆในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ปัญหาสุขภาพอื่นๆที่ตามมาจำนวนมาก ก็อาจจะมีสักโรคที่ทำให้คุณต้องสูญเสียการมองเห็นได้เช่นกัน

อะไรคือ อาหารบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพที่ดี
 บํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพที่ดีที่สุด คือ อาหารตามธรรมชาติที่ถูกหลักโภชนาการ ความอุดมสมบูณร์ในการรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์ไขมันฟรี นมไชมันต่ำ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม รวมไปถึงเนื้อสัตว์ติดมัน ไก่ปลา ถั่ว เป็นต้น อาหารเหล่านี้สามารถช่วยทำให้คณเพลิดเพลินไปกับวิสัยทัศน์ในการมองเห็นที่ดี ในขณะที่ทีอาหารจำพวกอาหารขยะนั้น อาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาได้ ถ้าหากคุณทานพวดมันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
 การทานวิตามิน และอาหารเสริมแร่ธาตุ เป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างทางด้านโภชนาการอาหาร ให้เลือกที่ว่างน้อยมากที่สุด ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญว่าทำไม การบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพ จึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยปกป้องคุณจากความเสื่อมสภาพของดวงตา และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคของดวงตา อาทิเช่น โรคตอประสาทตาเสื่ม ต้อกระจก เป็นต้น

อาหารบำรุงสายตาที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบของอะไรบ้าง
 อาหารบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพที่ดี จะต้องสามารถช่วยเติมเต็มโภชนาการอาหารในแต่ละวัน ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งในอาหารบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพ ควรจะต้องมีส่วนประกอบ ดังต่อไปนี้
1.วิตามินเอ จากการค้นคว้าวิจัยพบว่า เหล่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ภายในวิตามินนั้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดระดับ MND ภานในดวงตาข้างใดทางหนึ่งได้มากถึงประมาณร้อยละ 19 เมื่อทำการรัประทานวิตามินเป็นประจำทุกวัน
2.ลูทีน และซีแซนทีน จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ได้รับสารอาหารทั้งสองประเภทนี้เป็นประจำ เป็นระยะเวลา 5 ปี มีความเสี่ยงต่อการเกิดระดับ MND ในดวงตาสูงขึ้น ต่ำกว่าร้อยละ 18

         3.เบต้าแคโรทีน เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อวิสัยทัศน์การมองเห็น การรักษาบาดแผล และส่งเสริมการทำงานที่เหมาะสมของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสื่อมสภาพของดวงตา และโรคต้อกระจกให้น้อยลง
4.วิตามินบี ช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง และป้องกันไม่ให้ระดับ Homocysteine ในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดผลกระต่อหลอดเลือดจอประสาทตา และยังมีบทบาทอย่างมากในการลดความเสื่อมสภาพของดวงตา ที่เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดอาการตาบอดขึ้น
 5.วิตามินซี เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ มีความสัมพันธ์ในการช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกตา
 6.วิตามินดี ช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพเซลล์ในดวงตาได้เป็นอย่างดี
 7.วิตามินอี ช่วยลดตวามเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก
 8.สารต่อต้าอิสระจากธรรมชาติ อาทิเช่น บิลเบอร์รี่ แปะก๊วย ช่วยปกป้องความเครียดภายในดวงตา
 9.โอเมก้า-3 กรดไขมันจำเป็น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตาแห้ง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพตาอื่นๆ
   10. Bioflavonoids พบมากในผัก ผลไม้ มีคุณสมบัติในการช่วยทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมวิตามินซี อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
 การเลือกซื้ออาหารบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพที่ดี นอกจากส่วนประกอบของสารอาหารที่อยู่ภายในแล้ว คุณควรที่จะพิจราณาสุขภาพของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่างๆขึ้น เช่น ในขะณที่ตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวร้ายแรง เป็นต้น ถ้าหากคุณมีความเสี่ยงเหล่านี้ ไม่ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารบํารุงสายตา อาหารเสริมสุขภาพด้วยตัวเอง แต่ขอแนะนำให้ทำการปรึกษากับแพทย์ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุกครั้ง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากรู้ไหมว่า วิตามินอะไรบำรุงสายตา บทความนี้มีคำตอบ

         ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมีความก้าวหน้า และแฝงเข้าไปอยู่ในการใช้ชีวิตทุกระดับ ทุกช่วงอายุ ส่งผลให้คนเราจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรทัศน์ หรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมากในหนึ่งวัน สิ่งเหล่านี้ล่วนแล้วแต่ส่งผลให้สายตาเกิดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ซึ่งถ้าหากไม่ทำการดูแลบำรุงรักษาสายตาให้ดีแล้วล่ะก็ ก็จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพดวงตาที่ไม่ดีตามมาอีกมากมายเลยทีเดียว สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดในการบำรุงสายตา ที่ได้นรับความนิยมในปัจจุบันก็คือการใช้วิตามิน ซึ่งวิตามินอะไรบำรุงสายตากันบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ประโยชน์ของวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ในการช่วยบำรุงรักษาดวงตา
 สำหรับวิตามินอะไรบำรุงสายตา ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ที่ถูกแปลงให้เป็นวิตามินเอในร่างกายภายหลังตามธรรมชาติ วิตามินเอจะทำหน้าที่ช่วยปกป้องพื้นผิวของดวงตา หรือกระจกตา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างวิสัยทัศน์ที่ดีให้กับการมองเห็น สำหรับการใช้วิตามันเอที่ถูกต้องนั้น ในปัจจุบันสามารถนำมาใช้ได้หลากหลายวิธี ดังต่อไปนี้
1.การรับประทาน จากการศึกษาพบว่า เมื่อทำการทานวิตามินเอ รวมกับวิตามินตัวอื่นๆ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ช่วยลดความเสี่ยงของประสาทตาเสื่อมให้น้อยลง ซึ่งแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอที่สำคัญๆ ได้แก่ ตับ พืช ผัก ผลไม้ต่างๆ เป็นต้น
 2.ใช้เป็นยาหยอดตา การศึกษาพบว่า การใฃ้วิตามินเอในฐานะส่วนผสมของยาหยอดตา มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการตาแห้ง และยาหยอดตาประเภทวิตามินเอ นยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาหยอดตาที่มีราคาแพงมากที่สุดในการใช้เพื่อบรรเทาอาการตาแห้งอีกด้วย
นอกจากนี้ จากการวิจัยในปี 2011 ของนักวิจัยในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ค พบว่าวิตามินเอ ช่วยชะลอการลุกลามของโรค Stargardt ซึ่งเป็นโรคทางพันธุ์กรรม อันก่อให้เกิดความสุญเสียในการมองเห็นอย่างรุนแรงของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน ดั้งนั้นถ้าหากถามว่าวิตามินอะไรบำรุงสายตาดีที่สุด วิตามินเอ เห็นจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

การขาดวิตามินเอ กับปัญหาสายตาที่เกิดขึ้นทั่วโลก
   ถึงแม้ราจะทราบกันดีแล้วว่า วิตามินอะไรบำรุงสายตา แต่ในประเทศโลกที่สาม หรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานั้น คาดว่ามีเด็กประมาณ 2-5 แสน คน ทั่วโลก ที่ขาดสารอาหาร ซึ่งรวมไปถึงแหล่งวิตามินเอสำคัญๆ จนกระทั่งนำไปสู่การกลายเป็นคนตาบอด
 หนึ่งในสัญญานแรกของอาการขาดวิตามินเอ คือ อาการตาบอดกลางคืน ในยุคอียปต์โบราณ เชื่อกันว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการกินตับ ซึ่งในภายหลังจากการศึกษาพบว่า ภายในตับนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอเป็นจำนวนมากนั่นเอง
การขาดวิตามินเจะส่งผลให้กระจกตาแห้งมาก นำไปสู่การเกิดอาการขุ่นมัวด้านหน้าจองตา แผลที่กระจกตา และสูญเสียการมองเห็น นอกจากนี้การขาดวิตามินเอ ยังทำใหเกิดความเสียหายกับจอประสาทตา ซึ่งก่อให้เกิดอาการตาบอด วิตามินเอยังเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยต่อต้านอาการติดเชื้อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การขาดวิตามินเอยังนำไปสู่การติดเชื้อทางเดินหายใจ และอื่นๆอีกมากมายอีกเวย

วิตามินเอ ถ้าได้รับมากจนเกินไป อันตรายหรือเปล่า?
 วิตามินอะไรบำรุงสายตา มาถึง ณ จุดนี้ ทุกท่านก็คงจะมีคำตอบภายในใจกันแล้ว สำหรับการได้รับวิตามินเอ ที่เหมาะสมมากที่สุดนั้นคือ การได้รับจากสมดุลอาหารในแต่ละวัน ซึ่งวิตามินเอ ที่พบได้ในผักผลไม้ เป็นวิตามันที่สามารถละลายน้ำได้ และสามารถถูกขับออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไป ทำให้ไม่เสี่ยงต่ออาการเป็นพิษ นอกจากนี้ผักผลไม้ ยังเป็นแหล่งวิตามิน เอชั้นเยี่ยม ของเหล่านักมังสวิรัติที่หาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอได้ยากกว่าคนทั่วไปอีกด้งย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ยาหยอดตา วิตามินบำรุงสายตาสำคัญ ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม

         คนส่วนใหญ่โดยทั่วไปมักจะติดกับภาพเดิมๆว่า การทานวิตามินบำรุงสายตา เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดการฟื้นฟู ดูแล และบรรเทาปัญหาสายตา แต่ที่จริงแบล้วยังมีวิธีการนำวิตามินบำรุงสายตามาใช้ในรูปแบบอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การใช้วิตามินบำรุงสายตาในรูปแบบของยาหยอดตานั่นเอง ส่วนยาหยอดตาวิตามินบำรุงสายตาจะมีประสิทธิภาพช่วยในเรื่องของสายตาได้ดีมากน้อยเพียงใดนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ปัญหาสายตาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ยาหยอดตาวิตามินเอ
 ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสายตาในปัจจุบันมีมากมายหลายประเภท แต่วิตามินเอ ในรูปแบบของยาหยอดตา สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังต่อไปนี้
 1.มองเห็นภาพซ้อน
2.ต้อหิน
3.โรคตาแดง
4.ตาแห้ง
5.ต้อกระจก

ทำไมวิตามินเอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพตา?
 ในปัจจุบัน หลายภูมิภาคของโลกประสบปัญหาขาดแคลนวิตามินบำรุงสายตา อย่างวิตามินเอเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดอาการตาแห้งอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาทำให้เกิดตาบอด เนื่องจากวิตามินเอ จำเป็นอย่างมากในการผลิตน้ำตา และช่วยในการบำรุงรักษาสุขภาพของดวงตา ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสารเคมีที่สคัญในดวงตาที่รู้จักกันในชื่อของ “ภาพสีม่วง” ที่สามารถช่วยให้ตาสามารถมองเห็นได้ดียิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย นอกจากนี้การขาดวิตามินเอ ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสภาพตาโปน ที่นำไปวู่การเกิดโรคตาบอดในตอนกลางคืน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการรักษาด้วยวิตามินเอ

สัญญาเตือนถึงอาการขาดวิตามินเอ
 การขาดวิตามินบำรุงสายตาอย่างวิตามินเอนั้น อาการแรกๆสุดเลยที่คุณอาจจะพบตือ ปัญหาเกี่ยวกับวสัยทัศน์ในการมองเห็น โดยเฉพาะการปรับสภาพของสายตาในที่ที่มีแสงน้อย เมื่ออาการขาดวิตามินเอมากขึ้น คุณจะเริ่มมีปัญหาในการโฟกัสบนท้องถนนในขณะที่กำลังขับรถในช่วงเวลากลางคืน หลังจากที่ไฟรถยนต์เข้ามาในระยะการมองเห็นของคุณ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากในการขับรถตอนกลางคืน ที่นำไปสู่การเกิอุบัตติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก

สาเหตุที่นำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพตาเสื่อมลง
 ปัจจัยดังต่อไปนี้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้สุขภาพของดวงตาโดยรวมลดลง และควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้สุขภาพตาของคุณมีความสมบูรณือย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
 1.อาหารที่อุดมด้วยไขมันเป็นจำนวนมาก
2.การทำงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ
3.การรับชมโทรทัศน์ในระยะใกล้ และเป็นระยะเวลานานๆ
4.การทำงานในพื้นที่ที่มีแสงน้อย
5.รังสีที่ปล่อยออกมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
6.มลพิษ หรือควันบุหรี่

 ยาหยอดตาวิตามินเอ เป็นวิตามินบำรุงสายตาที่ช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ยาหยอดตาวิตามินเอนั้น มีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะการใช้ยาหยอดตาวิตามินเอมากจนเกินไปอาจจะเป็นพิษ และเป็นอันตรายต่อดวงตาได้เช่นกัน ดังนั้นการใช้ยาหยอดตาวิตามินเอ จึงควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ตามที่แพทย์ หรือเภสัชกร ในคำแนะนำอย่างเหมาะสม จะเป็นการดีที่สุด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รู้แล้วอยากบอกต่อ วิธีกินวิตามินซีอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด?

         วิตามินซี เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งพบได้มากในอาหารหลายชนิด ซึ่งวิตามินซีนั้นมีหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายทำการแปลงอาหารที่กินเข้าไปให้กลายเป็นพลังงาน ซึ่งเจ้าอนุมูลอิสระตัวร้ายเหล่านี้ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสภาพแวดล้อมอื่นๆที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นควันบุรี่ มลพิษทางอาอาศ และแสงอัตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ เป็นต้น นอกจากนีวิตามินซี  ยังเป็นที่ต้องการของร่างกายเพื่อนำไปใช้สร้างคอลลาเจน ที่เป็นโปรตีนจำเป็นในการช่วยรักษาแผลให้หาย พร้อมกับช่วยดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร จากพืช และช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ถูกต้องเต็มประสิทธิภาพ และยังเป็นการช่วยเสริมความต้านทานให้แก่ร่างกายจากโรคภัยไข้เจ็บอื่นอีกด้วย

วิธีกินวิตามินซี กินอย่างไรให้ร่างกายได้ประโยชน์สูงสุด
หลาๆยคนเข้าใจผิดว่าจะต้องมีวิธีกินวิตามินซีที่ถูกต้อง จึงจะสามารถช่วยทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด แต่ในความเป็นจริงแล้ววิธีกินวิตามินซีที่ถูกต้องนั้น ไม่มีเคล็ดลับ หรือขั้นตอนที่ยุ่งยากอะไรเลย คุณสามารถกินวิตามินซีได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นอยู่กับข้อจำกัดใดๆ มีเพียงเรื่องเดียวที่คุณจำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจในการทานวิตามินซีก็คือ การกินให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเองในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคุณสามารถเปรียบเทียบปริมาณของวิตามินซีในแต่ละวันของคุณที่บทความชิ้นนี้จะขอแนะนำ ได้จากตารางดังต่อไปนี้
1.เด็กแรกเกิด – 6 เดือน ควรทานวิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม
 2.ทารก 7-12 เดือน ควรทานวิตามินซีวันละ 50 มิลลิกรัม
 3.เด็ก 1-3 ปี ควรทานวิตามินซีวันละ 15 มิลลิกรัม
4.เด็ก 4-8 ปี ควรทานวิตามินซีวันละ 25 มิลลิกรัม
 5.เด็ก 9-13 ปี ควรทานวิตามินซีวันละ 45 มิลลิกรัม
 6.วัยรุ่น 14-18 ปี (ชาย) ควรทานวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม
 7.วัยรุ่น 14-18 ปี (หญิง) ควรทานวิตามินซีวันละ 65 มิลลิกรัม
 8.ผู้ใหญ่ (ชาย) ควรทานวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม
9.ผู้ใหญ่ (หญิง) ควรทานวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม
10.วัยรุ่นตั้งครรภ์ ควรทานวิตามินซีวันละ 80 มิลลิกรัม
 11.หญิงตั้งครรภ์ ควรทานวิตามินซีวันละ 85 มิลลิกรัม
 12.วัยรุ่นเลี้ยงบุตรด้วยนม ควรทานวิตามินซีวันละ 115 มิลลิกรัม
 13.ผู้หญิงเลี้ยงลูกด้วยนม ควรทานวิตามินซีวันละ 120 มิลลิกรัม
 ถ้าหากคุณมีการสูบบุหรี่ ควรทำการเพิ่มปริมาณการกินวิตามินซีให้มากขึ้น โดยทำการบวกเพิ่มจากการทานปกติในแต่ละวันเข้าไปอีกเป็นจำนวน 35 มิลลิกรัม

วิตามินซีสามารถหาได้จากแหล่งใดบ้าง?
การมองหาแหล่งอาหารที่ให้วิตามินซีนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากนัก เพราะเพียงแค่คุณทำการรับประทานผัก และผลไม้บางชนิดอย่างถูกต้อง ก็จะเป็นวิธีกินวิตามินซีตามธรรมชาติอย่างได้ผลแล้ว แต่อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้คุณทานอาหารเหล่านั้นอย่างหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอื่นๆอย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลไม้ที่มีปรมาณของวิตามินซีอยู่เป็นจำนวนมาก มีดังต่อไปนี้
มะนาว ส้มโอ ส้ม และน้ำของผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซีคุณภาพดีจากธรรมชาติ นอกจานี้พืชผักอีกหลายๆชนิดเองก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ไม่ว่าจะเป็นบล็อกโคลี่ สตรอเบอรี่ แคนตาลูป มันฝรั่งอบ มะเขือเทศ เป็นต้น แต่อย่าลืมเสมอว่าวิตามินซีสามารถละลายน้ำได้ และอาจจะเกิดการสูญเสียคุณค่าของวิตามินซีไปจากกการแปรรูปอาหาร การปรุง การนึ่ง หรือการใช้ไมโครเวฟ ถ้าหากคุณต้องการวิธีกินวิตามินซีที่ดีที่สุดจากผักผลไม้จริงๆ ขอแนะนำให้ทำการทานพวกมันสดๆเลยจะดีที่สุด แต่ถ้าหากคุณไม่มีเวลา หรือไม่สามารถหาผัก ผลไม้สดๆ มาเติมเต็มโต๊ะอาหารในช่วงเวลาเร่งด่วนของตัวเองได้จริงๆล่ะก็ การทานสารอาหารเสริมประเภทวิตามินซีเอง ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเฃช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ไม่อยากสายตาแย่ควรทราบ วิตามินบำรุงสายตาดีๆมีอะไรบ้าง?

         หลายคนอาจจะเคยได้ยินผลงานวิจัย หรือคำโฆษณามากมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆว่ามีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสายตา หรือป้องกันกระบวนการเสื่อมของสายตาได้ดีอย่างโน้นดีอย่างนี้มาอย่างมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหล่านั้น ยังไม่ได้รับการวิจัยในเชิงคลีนิกว่าสามารถส่งผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมต่อสายตาได้ตามคำกล่าวอ้างของตัวเองหรือไม่ ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อเป็นการช่วยปกป้องสุขภาพสายตาของตัวเอง ควรทำการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวิตามินบำรุงสายตาประเภทต่างๆ ที่บทความชิ้นนี้ได้ทำการรวบรวมเอามาไว้เพื่อให้เป็นความรู้ เพื่อให้คุณสามารถมองหาอาหาเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินบำรุงสายตาที่ช่วบำรุงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของคุรได้อย่างแท้จริง

วิตามินบำรุงสายตาที่ดี และได้ผลจริงๆมีอะไรบ้าง?
ก่อนที่คุณจะไปเที่ยวถามคนอื่นๆ เภสัชกร หรือแพทย์ในส่วนผสมและปริมาณของวิตามินบำรุงสายตาในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด คุณสามารถศึกษาปริมาณของวิตามินบำรุงสายตาที่เหมาะสมที่ควรมีได้จากปริมาณเปรียบเทียบความเหมาะสม ที่คุณสามารถทำการสังเกตได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆจากฉลากข้างขวดผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ดังต่อไปนี้
 1.วิตามินซี ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 250 มิลลิกรัม
2.วิตามินอี ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 200 มิลลิกรัม
3.เบต้าแคโรทีน ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 5,000 IU
4.สังกะสี ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 25 มิลลิกรัม
5.ซีแซนทีน ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 500 ไมโครกรัม
 6.ลูทีน ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 10 มิลลิกรัม
     7.แคลเซียม ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 500 มิลลิกรัม
8.วิตามินบี ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 2 มิลลิกรัม
9.กรดโฟลิก ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 800 ไมโครกรัม
10.โอเมก้า-3 กรดไขมันที่จำเป็น (รวมถึงน้ำมัน Flaxseed) ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 2,000-3,000 มิลลิกรัม
11.Cysteine N-acetyl ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 100 มิลลิกรัม
12.อัลฟาไลโปอิคกรด ควรมีส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 100 มิลลิกรัม
ในความเป็นจริงแล้ว เป็นไปได้ยากเป็นอย่างมากที่จะหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสักชิ้นที่มีส่วนประกอบของวิตามินบำรุงสายตาทั้งหมดนี้ แต่คุณก็สามารถที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนประกอบของวิตามินบำรุงสายตาให้ได้มากที่สุด และอย่าลืมตรวจสอบฉลากทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ในส่วนผสมที่ต้องการ

การพิจราณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินบำรุงสายตาอย่างดีที่สุด
1.ให้แน่ใจเสมอว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อมีความสดใหม่ และอย่าลืมดูวันหมดอายุทุกครั้ง
2.ผลิตภัณฑ์ หรือขวดบรรจุภัณฑ์ ควรจะปิดสนิท
3.มองหาบริษัทผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่มีคุณภาพได้รับความไววางใจอย่างยาวนาน
4.เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบอินทรีย์ ที่อาจจะมีราคาแพงกว่า แต่คุณภาพที่ได้รับก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ดีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
5.ผลิตภัณฑ์ไม่มีการปนเปื้อนจากสารปรอท ข้าวสาลี ข้าวโพด และนม ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินอาหารของคุณ
 อย่างไรก็ตาม ในการรับวิตามินบำรุงสายตาเข้าไปในร่างกาย คุณควรที่จะทำการตรวจสอบร่างกายของตัวเองก่อนว่าจะมีแนวโน้มที่จะปวดท้องจากการทานอาหารเสริมแบบเม็ด หรือแบบผงเพียวๆหรือไม่ ถ้าหากร่างกายของคุณมีโอกาสเกิดปฎิกริยาดังกล่าวขึ้น การเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบแคปซุล จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สำหรับระบบดูดซับของคุณ ถ้าหากคุณใส่ใจกับข้อแนะนำเหล่านี้อย่างใสใจแล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณจะได้รับวิตามินบำรุงสายตาที่ดี และช่วยในการบำรุงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายเท่าเลยทีเดียว

วิตามินซี หาซื้อง่าย ราคาถูก แถมยังช่วยบำรุงสายตาอย่าวได้ผล
         หลังจากที่ได้ทำการอ่านบทความเกี่ยวกับวิตามินที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงสายตาชิ้นนี้จบแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเห็นถึงคุณสมบัติ แล้ะจำนวนปริมาณที่พอเหมาะต่อร่างกายในแต่ละวัน โดยเฉพาะวิตามินซี ที่ร่างกายต้องการอย่างน้อยมากถึงวันละ 250 มิลลิกรัม เพื่อใช้ในการบำรุงสายตา ผิวพรรณ อวัยวะอื่นๆของร่างกาย และยังช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรคต่างๆได้อย่างมากมาย จนกระทั่งวิตามินซีถูกขนานนามว่า เป็นวิตามินแห่ง “ความงาม” กันเลยทีเดียว ทำให้ในปัจจุบันก็ได้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีสำเร็จรูปออกมาวางขาย สำหรับคนที่อาจจะไม่สามารถเลือกอาหารที่ทานเข้าไปให้มีจำนวนของวิตามินซีอย่างพอเหมาะได้อร
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้น  เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจ นั่นก็คือ  Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวสวย สุขภาพดี เสริมภูมิต้านทานโรค ด้วย nat c 1000

         หลายคนคงสงสัยว่า nat c 1000 คือะไร ขอตอบแบบสั้นๆก่อนว่า nat c 1000 เป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่ให้วิตามินซีกับร่างกาย ซึ่งก่อนจะลึกลงไปในรายละเอียด ต้องเกริ่นก่อนว่าสมัยนี้คนหันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพกันมากขึ้น สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งนี้ ส่วนใหญ่มักเข้าใจกันว่าเพียงแค่การใช้อาหารเสริมก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จริงๆแล้วถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ควรออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่กันไปด้วย
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับอาหารเสริมตัวหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ nat c 1000 ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์จากวิตามินซี โดยมาในรูปแบบบรรจุเม็ด 1,000 มิลลิกรัม ช่วยบำรุงร่างกายมากมาย ทั้งเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันภูมิแพ้ ป้องกันโรคต้อกระจก ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคหวัด ป้องกันอนุมูลอิสระ ต้านความชรา ที่สำคัญคือบำรุงผิวพรรณให้สวยใส ขาวผุดผ่องมากขึ้น

 

ส่วนประกอบของ nat c 1000
nat c 1000 1 เม็ด ประกอบไปด้วยวิตามินซี 1000 มิลลิกรัม จากแอสคอร์บิค แอซิด 400 มิลลิกรัม, โซเดียม แอสคอร์เบท 350 มิลลิกรัม (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 มิลลิกรัม) และแคลเซียม แอสคอร์เบท 400 มิลลิกรัม (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 มิลลิกรัม)
รวมถึงส่วนประกอบอย่าง รูติน 50 มิลลิกรัม, ไบโอฟลาโวนอยด์ 50 มิลลิกรัม, เฮสเพอริดิน 50 มิลลิกรัม, ผงสกัดแห้งโรสฮิป 62.5 มิลลิกรัม (เทียบเท่าโรสฮิป 250 มิลลิกรัม), ผงสกัดแห้งอะซิโรลา 12.5 มิลลิกรัม (เทียบเท่าอะซิโรลา 50 มิลลิกรัม) ที่สำคัญไม่มีสารกันบูด สี หรือกลิ่นสังเคราะห์ใดๆ

nat c 1000 ช่วยให้ผิวสวยได้อย่างไร
 เนื่องจาก nat c 1000 เป็นอาหารเสริมที่ให้วิตามินซีสูง ซึ่งเมื่อได้รับวิตามินชนิดนี้เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีสารอาหารที่เข้าไปกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารและมีระบบการไหลเวียนที่ดีขึ้นก็จะทำงานได้ดีขึ้น ผิวจึงแลดูมีสุขภาพดี เรียบเนียน สดใส มีออร่า และวิตามินซีเป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น มีความยืดหยุ่น จึงทำให้ผิวเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร
 นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เพราะวิตามินซีทำให้ผิวมีกระบวนการซ่อมแซมและรักษาตัวเอง โดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านการอักเสบ นั่นหมายความว่าวิตามินชนิดนี้ช่วยทำให้จุดดำจุดแดง หรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวหายได้เร็วขึ้น

 

nat c 1000 กับการสร้างภูมิต้านทานโรค
วิตามินซีมีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้น วิตามินซียังช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย ศัพท์ทางแพทย์เรียกว่า “ฮิสตามีน” ซึ่งสารก่อภูมิแพ้นี้จะถูกกระตุ้นให้มีปริมาณสูงขึ้น เมื่อร่างกายได้รับสารหรือสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ถ้าร่างกายมีวิตามินซีที่เพียงพอก็จะสามารถบรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส จากคุณสมบัติการเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ
 ไม่เพียงแค่นั้น วิตามินซียังช่วยให้เราห่างไกลจากโรคหวัดอีกด้วย โดยมีการศึกษาวิจัยในปี 1970 โดย ดร.ไลนัส พอลลิ่ง ผู้ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “วิตามินซีกับโรคหวัด” เขากล่าวว่าหากเราได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัด และถ้าเป็นหวัดก็จะหายเร็วกว่า โดยจะมีวันป่วยน้อยกว่าคนปกติถึง 60%

nat c 1000 อันตรายหรือไม่
 เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ดังนั้น จึงถูกขับออกมาทางไต เมื่อได้รับวิตามินชนิดนี้เข้าไป ร่างกายจะขับออกมาทางปัสสาวะ จึงทำให้การรับประทาน nat c 1000 ไม่มีผลข้างเคียงใดๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและมีความปลอดภัยในระยะยาว อีกทั้งยังไม่เคยตรวจพบสารพิษที่เกิดจากการรับประทานวิตามินซี แม้จะรับประทานในปริมาณที่สูง โดยมีผลการวิจัยพบว่า ในคนปกติการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สามารถรับประทานได้สูงถึง 3,000 มิลลิกรัมโดยไม่เป็นอันตราย

 มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารเสริมที่ให้วิตามินซี อย่าง nat c 1000 กันมากขึ้น โดยการใช้อาหารเสริมเพิ่มวิตามินซีนี้ควรรับประทานวันละ 1 เม็ดหลังมื้ออาหาร เพราะอาหารจะเป็นตัวนำพาวิตามินซีให้ร่างกายนำไปใช้ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนต้นว่าการรับประทานอาหารเสริม ควรควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม และอย่าลืมท่องให้ขึ้นใจว่า สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

   นอกจากผลิตภัณฑ์ Nat C ที่มีปริมาณวิตามินซีมากถึง 1000 มิลลิกรัมแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์วิตามินซีอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจ ซึ่งมาจากวิตามินธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ในราคาที่สุดคุ้มย่อมเยา ที่น่าสนใจอีกหลายชิ้นเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้น  เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจ นั่นก็คือ  Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

vitamin c ราคาประหยัด คุณภาพดี ต้องนี่เลย Nat C

         เป็นที่ทราบกันดีว่าสารอาหารอย่าง vitamin c นั้นมีประโยชน์มากกมาย อย่างเช่น การบำรุงผิว แก้โรคหวัด ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ฯลฯ สำหรับแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมักมาในรูปของผักและผลไม้ อันได้แก่ พริกแดงและเขียว ฝรั่ง ส้ม พริกหยวกยักษ์ โหระพาและผักชี บล็อกโคลี่  กีวี่  มะละกอ สตอเบอรี่ ผักใบเขียวต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ vitamin c จะอยู่ได้เต็มที่ในผักผลไม้ที่มีความสดใหม่และลดลงตามเวลา รวมถึงกรรมวิธีการปรุงอาหาร การเก็บรักษาวิตามินซีที่มีอยู่ในผักผลไม้สามารถทำได้โดยการแช่เย็น เพราะจะช่วยลดการเสียวิตามินซีให้น้อยลงได้ เนื่องจาก vitamin c เป็นสารอาหารที่เสื่อมสลายได้ง่ายจากการสัมผัสอากาศ ความร้อน และความชื้น เช่นนี้เอง ผักผลไม้ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันอาจไม่เพียงพอต่อร่างกาย ฉะนั้น วิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมจึงเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค
 บทความนี้จะพูดถึงอาหารเสริม vitamin c ราคาประหยัด และมีคุณภาพดี ที่สำคัญกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน มีการรีวิวมากมายโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ vitamin c ราคาประหยัดนี้ก็คืออาหารเสริม Nat C นั่นเอง

 

Nat C คืออะไร
 Nat C เป็นอาหารเสริม vitamin c ราคาประหยัด โดยมาในรูปแบบเม็ดขนาด 1,000 มิลลิกรัม รับประทานง่าย อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีให้เลือกทั้งแบบบรรจุ 30 เม็ด 60 เม็ด และ 150 เม็ด โดยอาหารเสริม Nat C 1 เม็ด จะประกอบไปด้วยวิตามินซีที่ได้จาก
 – แอสคอร์บิค แอซิด 400 มิลลิกรัม
– โซเดียม แอสคอร์เบท 350 มิลลิกรัม (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 มิลลิกรัม) และ
 – แคลเซียม แอสคอร์เบท 400 มิลลิกรัม (เทียบเท่ากับแอสคอร์บิค แอซิด 300 มิลลิกรัม)
นอกจากนนี้ยังมีส่วนประกอบอย่าง รูติน 50 มิลลิกรัม, ไบโอฟลาโวนอยด์ 50 มิลลิกรัม, เฮสเพอริดิน 50 มิลลิกรัม, ผงสกัดแห้งโรสฮิป 62.5 มิลลิกรัม (เทียบเท่าโรสฮิป 250 มิลลิกรัม), ผงสกัดแห้งอะซิโรลา 12.5 มิลลิกรัม (เทียบเท่าอะซิโรลา 50 มิลลิกรัม) ที่สำคัญไม่มีสารกันบูด สี หรือกลิ่นสังเคราะห์ใดๆ

ประโยชน์ที่จะได้รับจาก Nat C
1.บำรุงผิวพรรณ
 วิตามินซีจาก Nat C ทำให้ผิวสวยด้วยการเข้าไปกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารมากก็จะทำงานดีขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ผิวจึงมีสุขภาพดี เรียบเนียน ยืดหยุ่นไม่เหี่ยวย่น ฟื้นบำรุงให้ผิวสวยสดใส ออร่าจับมากยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะมีการซ่อมแซมตัวเอง
2.ต้านทานโรคหวัด
 หากเริ่มรับประทาน วิตามินซี ตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัด จะช่วยให้อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็วขึ้น การศึกษาวิจัยในปี 1970 โดย ดร.ไลนัส พอลลิ่ง ระบุว่าหากเราได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัด และถ้าเป็นหวัดก็จะหายเร็วกว่า โดยจะมีวันป่วยน้อยกว่าคนปกติถึง 60%
3.ต้านทานโรคหัวใจ
Vitamin c จะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี จะยิ่งลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นที่มาของโรคหัวใจนั่นเอง

4.ป้องกันโรคต้อกระจก
 วิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตร้าไวโอเลตที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก ทั้งยังมีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่รับประทานวิตามินซีมาอย่างน้อย 10 ปี มีความเสี่ยงที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นมัวซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก ลดลงถึงร้อยละ 77
5.บรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส
โดยธรรมชาติแล้ววิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกษรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคไซนัส ที่สำคัญคือมีการศึกษาค้นคว้าพบว่า วิตามินซีช่วยป้องกันและทำให้อาการหอบหืดดีขึ้น
6.ความจำดี
 โดยวิตามินซีจะช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะไบโลบ้า และโคเอนไซม์ Q10

นี่คือประโยชน์หลักๆที่ท่านจะได้จาก vitamin c ราคาประหยัด อย่าง Nat C ทั้งนี้ หากได้รับในปริมาณที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ไม่เป็นโรคลักปิดลักเปิด สุขภาพฟันและเล็บมีความแข็งแรง และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้อย่างดีเยี่ยม

Nat C กินตอนไหนดีที่สุด
 ก่อนจะบอกว่า vitamin c ราคาประหยัดอย่าง nat c ควรรับประทานตอนไหน เบื้องต้นควรทราบว่าการได้รับวิตามินซีขณะท้องว่างจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เนื่องจากวิตามินชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นกรด หากรับมันเข้าสู่ร่างกายตอนท้องว่างอาจทำให้เกิดการกัดกระเพาะได้ และไม่ควรรับประทานวิตามินซีก่อนนอน เนื่องจากมีการค้นคว้าวิจัยพบว่า วิตามินซีอาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งจะทำให้การนอนหลับยากขึ้น ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
 สำหรับการได้รับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายจึงควรเป็นเวลาใด คำตอบคือหลังอาหารเช้า เพราะช่วงเวลาที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีอยู่ในช่วงเช้าของแต่ละวัน เวลาประมาณ 9-10 โมง การรับประทานวิตามินซีหลังอาหาร จะช่วยให้ร่างกายดึงไปใช้ได้ง่าย เพราะวิตามินซีมมีตัวนำพา เช่น อาหาร ผักใบเขียว ผลไม้ต่างๆ หากได้รับวิตามินซีขณะที่ท้องว่าง ร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม สุดท้ายน้ำที่เราดื่มเข้าไปก็จะไปละลายวิตามินซี และโดนขับออกเป็นปัสสาวะ
 ทำความรู้จักกับ vitamin c ราคาประหยัด คุณภาพดี รวมถึงทราบคุณประโยชน์ที่จะได้รับกันแล้ว ท่านผู้อ่านก็อย่าลืมไปหาซื้อกันมารับประทานด้วย จะได้มีผิวสวย สุขภาพดี ปราศจากโรคภัยกันถ้วนหน้า

ผลิตภัณฑ์วิตามินซียี่ห้ออื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Nat c
ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์ Nat C จะมีประสิทธิภาพที่น่าสนใจ แต่ในบางครั้งการหาซื้อ Nat C ในท้องตลาดอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ดังนั้นในบางครั้ง คุณสาวๆก็อาจจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่หาได้สะดวกกว่า ที่มีประสิทธิภาพที่เท่าเทียมกัน หรือดีกว่า สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้น  เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจ นั่นก็คือ  Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทานวิตามินซี ผิวขาวสดใสได้ดังใจต้องการจริงหรือ ?

         สมัยนี้ใครๆก็อยากมีผิวขาวใสเหมือนสาวเกาหลีกันทั้งนั้น และต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เฉพาะคุณผู้หญิงเท่านั้นที่รักสวยรักงาม หากแต่คุณสุภาพบุรุษในปัจจุบันก็หันมาใส่ใจสุขภาพผิวกันมากขึ้น จนบางคนถูกมองว่า “ไม่แมน”
 กระนั้นก็ตาม แต่ละคนก็มีวิธีการทำให้ผิวของตัวเองขาวสวยสดใสที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงราคาแพง บ้างก็ใช้วิธีฉีดสีผิวให้ขาวอย่างรวดเร็วทันใจ หรือบางคนเลือกใช้บีบีครีมทาให้ผิวขาวเนียนมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการดังกล่าวเป็นแค่เพียงการบำรุงผิวให้ขาวจากภายนอกเท่านั้น แล้ววิธีการบำรุงผิวจากภาพในคืออะไร ?
 คำตอบก็คือการได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวนั่นเอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการรับประทานวิตามินซี ผิวขาวสดใส มีออร่ามากขึ้นจริง โดยเป็นการฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกจากภายในสู่ภายนอก แม้ว่าในบางคนต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่การได้รับวิตามินซี ผิวขาวจะคงทน กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าการฉีดสีผิวด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเป็นคนหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ สุขภาพผิวจะมีออร่ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

วิตามินซี ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างไร
การได้รับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีสารอาหารที่เข้าไปกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารและมีระบบการไหลเวียนที่ดีขึ้นก็จะทำงานได้ดีขึ้น ผิวจึงแลดูมีสุขภาพดี เรียบเนียน สดใส ออร่าจับมากขึ้น รวมทั้งวิตามินซีเป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น จึงทำให้ผิวเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร หรือที่เราเรียกกัว่า “ผิวสวยเด้ง” นั่นเอง
 นอกจากนี้ การรับประทานวิตามินซี ผิวขาวสว่างสดใสแล้ว ยังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เพราะวิตามินซีช่วยให้ผิวมีกระบวนการซ่อมแซมและรักษาตัวเองได้ดี โดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านการอักเสบ นั่นหมายความว่าวิตามินชนิดนี้ช่วยทำให้จุดดำจุดแดง หรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวหายได้เร็ว ใบหน้าที่หมองคล้ำ จึงกลับมาสดใสมากขึ้น

ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
  เมื่อทราบกันไปแล้วว่าการรับประทานวิตามินซี ผิวขาวกระจ่างใส อ่อนกว่าวัยมากขึ้น มาดูกันว่าแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างวิตามินซี มีอะไรบ้าง
         1.พริกแดงและเขียว เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินซี โดยพริกเขียว 1 ชิ้น ให้วิตามินซีสูงถึงประมาณ 109.13 มิลลิกรัม พริกแดง 1 ชิ้นให้วิตามินซีประมาณ 65 มิลลิกรัม
         2.ฝรั่ง หนึ่งผลให้วิตามินซีประมาณ 126 มิลลิกรัม
         3.พริกหยวกยักษ์ หนึ่งผลให้วิตามินซีประมาณ 132 มิลลิกรัม
         4.โหระพาและผักชี ให้วิตามินซีประมาณ 160 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
         5.บล็อกโคลี่ ให้วิตามินซีประมาณ 89 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
         6.กีวี่ ให้วิตามินซีประมาณ 84 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 1 ผล
         7.มะละกอ ให้วิตามินซีประมาณ 62 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
         8.ส้ม ให้วิตามินซีประมาณ 59 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
         9.สตอเบอรี่ ให้วิตามินซีประมาณ 59 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม
         10.ผักใบเขียวต่างๆ

 

 ทั้งนี้ วิตามินซีจะอยู่ได้เต็มที่ในผักและผลไม้ที่มีความสดใหม่และลดลงตามเวลา รวมถึงกรรมวิธีการปรุงอาหาร การเก็บรักษาวิตามินซีที่มีอยู่ในผักผลไม้สามารถทำได้โดยการแช่เย็น เพราะจะช่วยลดการสูญเสียวิตามินซีได้ อย่างไรก็ตาม การใช้วิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมกำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากรับประทานง่าย และกำหนดปริมาณที่เหมาะสมซึ่งร่างกายควรจะได้รับได้
สำหรับการใช้วิตามินซี เพื่อช่วยให้ผิวขาวสดใสขึ้นนั้นควรรับประทานในปริมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัมขึ้นไป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง เนื่องจากวิตามินชนิดนี้มีคุณสมบัติละลายในน้ำ ร่างกายจึงขับมันออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และยังไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับพิษภัยร้ายแรงที่เกิดจากการได้รับวิตามินซีมากเกินไป

 

วิตามินซี ยี่ห้อใดบ้างที่มีปริมาณมากกว่า 1,000 มิลลิกรัม
อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วในตอนต้นว่า การบำรุงผิวขาวโดยการทานวิตามินซีนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 1000 มิลลิกรัม แต่ในปัจจุบันก็ใช่ว่าผลิตภัณฑ์วิตามินซีทุกยี่ห้อ จะมีปริมาณที่มากเพียงพอ ดังนั้นการเลือกวิตามินซีจำเป็นที่จะต้องใช้ความพิถีพิถันพอสมควร
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้น  เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจ นั่นก็คือ  Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทราบหรือไม่ ? วิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด อยากรู้มาหาคำตอบกัน

         เป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามินซีคือสารอาหารที่จำเป็น และมีคุณประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยให้แผลหายเร็ว มีสารต้านอนุมูลอิสระยับยั้งเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันเลือกออกตามไรฟัน และอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญวิตามินซีช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยสดใส ทั้งนี้ มักมีคนสงสัยกันว่าวิตามินซี กินตอนไหนจึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากที่สุด วันนี้เรามาคำตอบกัน
   วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายสามารถขับออกได้ตามปกติทางไต หากเรารับประทานวิตามินซีน้อยกว่าที่ร่างกายควรได้รับ ผลเสียที่เห็นได้ชัดก็คือจะมีอาการของโรคเลือกออกตามไรฟัน แผลหายช้า รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา ดังนั้น ทุกคนจึงควรได้รับปริมาณวิตามินซีอย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารอาหารที่เสื่อมสลายได้ง่ายจากการสัมผัสอากาศ ความร้อน และความชื้น จึงควรเลือกรับประทานผักผลไม้ที่สดและใหม่ จะถือเป็นการดีที่สุด กระนั้นก็ดี ในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะในสังคมเมือง เราไม่สามารถเดินไปเด็ดผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง อย่างเช่นฝรั่งหรือส้มได้จากต้นด้วยตัวเอง แต่เราต้องไปหาซื้อผลไม้ดังกล่าวตามท้องตลาด ฉะนั้น เราจึงได้ผลไม้ที่ไม่สดใหม่ ซึ่งทำให้ปริมาณวิตามินซีลดน้อยลงไป วิตามินซีในรูปแบบของอาหารเสริมจึงเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค

 

วิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด
สำหรับคนที่สงสัยว่าวิตามินซี กินตอนไหน ถึงจะเป็นผลดีมากที่สุด การได้รับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายนั้นควรเป็นเวลาหลังอาหารเช้า เนื่องจากช่วงเวลาที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีอยู่ในช่วงเช้าของแต่ละวัน เวลาประมาณ 9-10 โมง และควรรับประทานวิตามินซีหลังอาหาร เพราะวิตามินซีที่ร่างกายดึงไปใช้ได้นั้นจะต้องมีตัวนำพา เช่น อาหาร ผักใบเขียว ผลไม้ต่างๆที่ให้วิตามินซีสูง หากได้รับวิตามินซีขณะที่ท้องว่าง ร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม สุดท้ายน้ำที่เราดื่มเข้าไปก็จะไปละลายวิตามินซี และโดนขับออกเป็นปัสสาวะ
  อีกเหตุผลสำคัญที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามินซีตอนท้องว่าง เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นกรดซึ่งคงไม่ค่อยดีแน่ถ้าเรารับมันเข้าสู่ร่างกายตอนท้องว่าง และไม่ควรรับประทานวิตามินซีก่อนนอน เพราะจากค้นคว้าวิจัยพบว่า วิตามินซีอาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งจะทำให้การนอนหลับยากขึ้น ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ

 

ปริมาณวิตามินซี ที่ควรได้รับต่อวัน
 นอกจากจะทราบกันไปแล้วว่าวิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกันต่อไปก็คือปริมาณวิตามินซีที่ควรจะได้รับในแต่ละวันนั้นแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิต และความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย รวมถึงวัตถุประสงค์ของการใช้วิตามินซี โดยองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปควรได้รับวิตามิน ซี ในปริมาณที่เหมาะสม คืออย่างน้อย 60 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากวิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำและถูกขับออกทางปัสสาวะได้ ดังนั้น จึงควรบริโภคอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
 นอกจากนี้ วิตามินซียังมีบทบาทในเป็นตัวช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ โดยที่มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องกว้างขวาง ในบางรายอาจจะจำเป็นต้องได้รับในปริมาณที่สูงขึ้น อย่างผู้ที่มีอาการเป็นหวัด โรคภูมิแพ้ และร่างกายอ่อนแอ ควรได้รับวิตามินซีวันละ 1,000-2,000 มิลลิกรัม
ผู้ที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะที่เป็นพิษ และต้องอยู่กับความเครียด เช่น การทำงานหนัก ต้องใช้ความคิดมากๆ ควรได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม ขณะเดียวกันคนที่ต้องการดูแลและบำรุงสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค ควรได้รับวิตามันซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมขึ้นไป

โดยสรุปแล้ววิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด คำตอบคือหลังอาหารเช้า เพราะมีอาหารที่รับประทานเข้าไปเป็นตัวนำพาให้ร่างกายนำวิตามินซีไปใช้ และเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายดูดซึมได้ดี ทั้งนี้ ในเรื่องของการรับประทานวิตามินซีเป็นอาหารเสริมก็เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้กระทำ เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและเป็นวิตามินที่ละลายน้ำ ถูกขับออกได้ทางปัสสาวะ และยังไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับพิษภัยร้ายแรงที่เกิดจากการได้รับวิตามินซีมากเกินไป

 

ผลิตภัณฑ์วิตามินซี ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสำหรับหนึ่งวันที่น่าสนใจที่สุด
สำหรับคนที่อยากบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เสริมภูมิต้านทาน และฟื้นฟูผิวพรรณให้มีความเนียนขาวสดใส การทารวิตามินซีเป็นประจำทุกวันนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยที่เดียว เพราะนอกประโยชน์ที่ได้รับแล้ว ราคายังถูกมากเสียจนแทบจะเรียกว่าได้เปล่ากันเลยยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าขึ้นชื่อเป็นวิตามินซีแล้วจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ เพราะการที่จะทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์อย่างครบถ้วนนั้น ก็จำเป็นจะต้องมีเรื่องที่ต้องคำนึงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนมิลลกรัม หรือแหล่งที่มาของวิตามินซี ว่าเป็นการผลิตจากธรรมชาติหรือไม่
หากใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้นที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิตามินที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวพรรณ

     ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า “ผิวพรรณ” สำคัญต่อบุคลิกภาพของหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันมาก ด้วยที่ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูดีและสุขภาพดี คนส่วนมากหันมาใส่ใจการดูแลผิวพรรณเป็นอย่างมาก และเสาะหาวิธีต่างๆนานา

วิตามินเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายและส่งผลให้ผิวพรรณของเราดูสุขภาพดีขึ้น กล่าวได้ว่า “ วิตามิน ” คือ สารอินทรีย์ที่ร่างกายต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยมากในแต่ละวันเพื่อการเจริญเติบโต และการสร้างพลังงานของทุกเซลในร่างกาย จำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพที่ดี เราจำเป็นต้องได้รับวิตามินไม่ว่าจะจากอาหารที่รับประทานหรือจากการได้รับอาหารเสริม วิตามินเป็นสิ่งที่ร่างกายเราไม่มีและไม่ได้สร้างขึ้นเอง มีวิตามินทั้งหมด 13 ชนิด ที่ร่างกายควรจะได้รับ วิตามินไม่ใช่อาหาร และไม่สามารถใช่ทดแทนอาหารได้ วิตามินไม่มีแคลอรี่ และไม่สามารถให้พลังงานโดยตรงกับร่างกาย แต่เราก็ยังจำเป็นต้องได้รับวิตามินเพื่อไปทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน

วิตามินที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เราทานเข้าไป และส่วนหนึ่งร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง วิตามินที่ดีจึงต้องสกัดจากอาหาร ถึงอย่างไร เราก็ไม่กินวิตามินแทนอาหาร และวิตามินไม่ใช่ยา แต่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิต (Organic) ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย  มีหน้าที่ช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ถูกต้อง และช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะถ้าขาดวิตามินแล้วร่างกายจะหยุดทำงาน
วิตามินบำรุงผิว ได้แก่

1.  วิตามิน C
 กุญแจสำคัญในการะบวนการสังเคราะห์โปรตีน “คอลาเจน” ที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง หลอดเลือด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และอวัยวะต่างๆของร่างกาย การขาดวิตามิน C จึงส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้วิตามิน C เป็น วิตามินชนิดละลายน้ำ ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมเอาไว้ได้ ดังนั้นการเติมวิตามิน C ให้ร่างกายเป็นประจำทุกวันจึงจำเป็นต่อการที่เราจะมีสุขภาพที่ดี ความต้องการวิตามิน C พื้นฐานต่อวัน นอกจากนั้น วิตามิน C ยังมีเป็นวิตามินบำรุงผิวชั้นดี เสริมสร้างภูมิต้านทาน สามารถป้องกันและรักษาโรคหวัด ทั้งยังมีส่วนช่วยลดการอักเสบจากการติดเชื้อและระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
วิตามิน C ในรูปแบบอาหารเสริม มีทั้งแบบเม็ดอัด แคปซูล ลูกอม ผสมน้ำหวาน-เครื่องดื่ม หรือผงละลายน้ำ รวมถึงการนำมาทำเป็น ซีรั่ม ครีม โลชั่น เพื่อเป้าหมายหลักในการบำรุงผิวให้ดูขาวใส เปร่งปรั่ง ลดความหมองคล้ำ 

คุณสมบัติของวิตามิน C 
    ต่อต้านการเกิดริ้วรอย วิตามินC ในปริมาณมากพอจะกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจน เป็นวิตามินบำรุงผิวให้ดูสดใสอ่อนเยาว์ และยังช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง โดยการเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้แผลหายเร็ว ลดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิว ทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยสิวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญช่วยปกป้องผิวจากยูวี แต่เนื่องจากเป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำได้ ร่างกายจึงไม่สามารถสะสมวิตามินนี้ไว้ได้นาน เราจึงต้องเติมวิตามินC เข้าสู่ร่างกายเป็นประจำ

2. วิตามิน B รวม
วิตามิน B เป็นสารที่ร่างกายเราขาดไม่ได้ ถ้าขาดจะทำให้สุขภาพเสื่อม วิตามินB แต่ละตัวต่างก็มีหน้าที่หลายอย่างแตกต่างกันในร่างกายของเรา ส่วนมากจะทำหน้าที่ช่วยสร้างพลังงานในเซลล์ของเรา แต่การกินวิตามินB มากเกินจำเป็นก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกาย กินเข้าไปมากเกินไม่มีประโยชน์

กลุ่มวิตามินBรวม ประกอบได้ด้วย 
วิตามินบี 1  ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา ช่วยให้ร่างกายสามารถเผาพลาญคาร์โบไฮเดรตได้ดี
วิตามินบี 2  เป็นวิตามินบำรุงผิวช่วยไม่ให้แห้งแตกและหยาบกร้าน ป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก และช่วยในการเผาพลาญ           คาร์โบไฮเดรตของร่างกาย
วิตามินบี 3  ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี ช่วยให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ และช่วยให้ร่างกายสามารถเผาพลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรตได้ดีขึ้น
โคลีน (Choline)  เป็นหนึ่งในสารที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และจัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีรวม แหล่งอาหารที่พบได้แก่ ไข่แดง เนื้อสัตว์ หัวใจ สมอง ตับ ปลา ผักใบเขียว ยีสต์ จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง ถั่วลิสง กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก

3. วิตามิน E หรือ Tocopherol 
วิตามินชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้  จำเป็นจะต้องได้รับจากการรับประทาน  วิตามิน E มีอยู่ในอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก
หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของวิตามิน E คือ เป็นตัวแอนตีออกซิแดนท์ (Antioxidant)  ซึ่งแปลว่า  เป็นตัวทำให้เกิด ออกซิเดชัน (Oxidation)  หมายถึง การเผาผลาญโดยมีออกซิเจนเข้าทำปฏิกิริยา  การเผาผลาญในร่างกายโดยทั่ว ๆ ไปเป็นการเผาผลาญโดยธรรมชาติ  ก่อให้เกิดประโยชน์และการหมุนเวียนในร่างกายตามปกติ
คุณสมบัติที่ดีต่อผิวมีมากมาย ทั้งเป็นสารวิตามินบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบของสิว และปกป้องผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตอีกด้วย โดยมากวิตามิน E จะถูกใช้ในการป้องกันและรักษาผิวพรรณ เพราะช่วยลดอัตราการทำลายผิวจากแสงแดดที่ทำให้เกิดรอยแดง ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยชะลอการเหี่ยวย่น ลดริ้วรอย และสมานรอยแตกลายบนผิว

วิตามินบำรุงผิวทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ วิตามิน C , วิตามิน B รวม และวิตามิน E ที่ยกตัวอย่างมานั้น ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวให้ดูสดใส ลดริ้วรอย สร้างปฎิกิริยาแก่ชั้นผิวเพื่อให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสได้อย่างแท้จริง หากอยากมีผิวพรรณที่เปล่งประกาย หันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลผิวพรรณโดยการเสริมสร้างร่างกายด้วยการรับประทานวิตามินที่มีประโยชน์

วิตามินเสริมผิวขาวตัวไหนหาซื้อง่าย และมีราคาย่อมเยาว์ที่สุด
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิตามินที่ช่วยบำรุงให้ผิวขาวขึ้นมากมา แต่วิตามินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากหาซื้อง่าย อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงก็เห็นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “วิตามินซี” นั่นเอง แต่การเลือกซื้อวิตามินซีนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจเหมือนกัน ใช่ว่าจะซื้อวิตามินซียี่ห้อไหนก็ได้ เพราะวิตามินซีเอง ก็มีความแตกต่างกันที่น่าสนใจเลยทีเดียว
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซีดีๆสักชิ้นที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงทานวันละ 1 เม็ด ก็พอเพียงสำหรับความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ให้ขาว นุ่มเนียน สดใส ลดรอยเหี่ยวย่น พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.