มาลดไขมันที่แก้มกัน!

       ใบหน้าที่ดูอวบอ้วนอาจะเป็นปัญหาที่ชวนกังวลใจสำหรับสาวๆหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้ดูอ้วนแล้ว ยังทำให้เซลฟี่แล้วดูออกมาชวนไม่มั่นใจ แน่นอนว่าการลดไขมันที่แก้มเป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวยได้ แต่ด้วยวิธีการลดไขมันที่แก้มในปัจจุบันมีอยู่สองวิธีใหญ่ๆ คือการฉีดสลายไขมันที่แก้ม กับการออกกำลังกาย โดยเราจะมาทำความรู้จักกับวิธีลดไขมันที่แก้มทั้งสองวิธีนี้กัน

1.ลดไขมันที่แก้มด้วยการฉีด

วิธีนี้เป็นวิธีลดไขมันที่แก้มแบบเร่งด่วนและสะดวกสบาย ซึ่งสารที่ใช้ฉีดนั้นก็มีหลายประเภทซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคลินิกที่ให้บริการว่าจะใช้ยาอะไร โดยจะใช้เข็มเล็กๆฉีดเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังลึกประมาณ 0.1 มม. – 12 มม. จากนั้นตัวยาก็จะทำให้ผนังไขมันที่แก้มสลายเป็นไขมันเลว แล้วจากนั้นก็จะถูกขับออกจากทางปัสสาวะ โดยบางครั้งนั้นหลังจากการฉีดส่วนใหญ่มักจะมีอาการบวมที่แก้ม แต่หลังจากนั้นก็จะหายเป็นปกติ โดยจะนานหรือไม่ก็แล้วแต่ปริมาณยาและตัวยา ส่วนมากจะไม่เกิน 15 วัน ซึ่งต้องถามหมอให้แน่ชัดอีกที

        อีกทั้งวิธีการลดไขมันที่แก้มด้วยวิธีการฉีดนั้น ไม่ได้เห็นผลภายใน 1-2 วัน แต่กินเวลาเป็นสัปดาห์ โดยส่วนมากจะเริ่มเห็นผลเมื่อเวลาผ่านไป 1-2 สัปดาห์ และค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ โดยต้องกินยาที่หมอให้ควบคู่ไปด้วยเพื่อการลดไขมันที่แก้มจะได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งราคาค่าบริการแต่ละครั้งนั้นขึ้นอยู่กับคลินิก โดยจะอยู่ประมาณที่ 4,000 – 7,000 บาทต่อการฉีดหนึ่งครั้ง

 ข้อควรระวังสำหรับการลดไขมันที่แก้มด้วยวิธีการฉีดนั้น คือการทำกับแพทย์ที่น่าเชื่อถือได้ อย่าหลงทำเพียงเพราะราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะได้ผลข้างเคียงเป็นของแถมหลังบริการก็ได้

2. ลดไขมันที่แก้มด้วยวิธีการออกกำลังกาย

 นอกจากจะมีวิธีทางการแพทย์แล้ว ก็ยังมีวิธีออกกำลังกายนี่แหล่ะที่ช่วยลดไขมันที่แก้มได้ แต่หลายคนอาจจะจินตนาการไม่ออกว่าแก้มเรานั้นจะออกกำลังกายได้อย่างไร แต่ถ้าได้รู้วิธีก็จะถึงกับบางอ้อเลยทันใด  โดยท่าบริหารแก้มที่จะแนะนำนั้นมีง่ายๆ 3 วิธีด้วยกัน

  วิธีที่ 1 อ้าปากให้กว้างที่สุด จากนั้นก็ดึงปากมาหุ้มฟันเอาไว้ แล้วพยายามยิ้มให้กว้างที่สุดโดยไม่หุบปาก โดยวิธีนี้ถ้าทำบ่อยๆจะทำให้หน้ารู้สึกตึง ซึ่งเป็นวิธีกระตุ้นแก้มได้ดีทีเดียว

       วิธีที่ 2 ยกมุมปากข้างใดก็ได้ให้ขึ้นสูงที่สุด เมื่อยกสุดแล้วก็ให้หลับตาพร้อมเกร็งบริเวณมุมปากค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จากนั้นค่อยๆมุมปากลง แล้วทำสลับกับอีกข้าง โดยวิธีนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อตั้งแต่ใต้ตาจนถึงมุมปาก มีการเคลื่อนไหว โดยหากทำบ่อยๆ ก็จะช่วยลดไขมันที่แก้มได้

วิธีที่ 3  ทำปาจู๋เหมือนปลาแล้วดูแก้มให้บุ๋มแบบพอประมาณทั้งสองข้าง จากนั้นก็พยายามยกมุมปากที่สองข้างขึ้นเหมือนยิ้มค้างเอาไว้ 5 วินาที จากนั้นก็ค่อยๆลดลง

       สามวิธีนี้เป็นการบริหารแก้มที่ต้องอาศัยเวลาและความอดทนในการทำบ่อยๆ โดยทำวิธีละ 10 ครั้งโดยประมาณ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่าง และต้องการประหยัดเงิน และเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเสี่ยงกับผลข้างเคียงของยาด้วย

เมื่อได้รู้วิธีการลดไขมันที่แก้มทั้งสองวิธีแล้ว ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของสาวๆว่าจะเลือกวิธีไหน โดยทั้งสองวิธีนั้น จะอาศัยเพียงแค่วิธีการอย่างเดียวไม่ได้ หากจะต้องอาศัยการควบคุมอาหารที่ดี เพราะไขมันส่วนเกินนั้นล้วนมาจากการกินที่เกินพอดี ขอให้มีความสุขกับการรักษาสุขภาพใบหน้าที่ดี และขอให้เซลฟี่ดูดีทุกมุมนะครับ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมสุดยอดวิธีลดเหนียงจากต่างประเทศ

       คุณสาวๆหลายคนอาจจะไม่อ้วน สมส่วน แต่กลับมี “เหนียง” หรือไขมันสะสมที่คออยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เวลาที่ถ่ายรูปออกมาครั้งใด ก็ทำให้ใบหน้าดูหลอกตาเหมือนจะอ้วนกลม หรือสำหรับคุณสาวๆที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้ามาก จนกระทั่งทำให้เหนียงใต้คางปรากฏตัวออกมาอย่างชัดเจน และกำลังมองหาวิธีลดเหนียงกันอยู่นั้น ในบทความชิ้นนี้เราได้ทำการรวบรวมวิธีลดเหนียงจากต่างประเทศ มาไว้เพื่อช่วยขจัดความกังวลของคุณสาวๆให้หมดไป

วิธีการลดเหนียงจากผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ

คุณสาวๆหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีลดเหนียงที่ได้ผลดีมากที่สุด เพราะเมื่อคุณออกกำลังกาย ไขมันที่สะสมอยู่บริเวณคาง หรือเหนียงนั้น ก็จะถูกเผาผลาญออกไป นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความกระชับเต่งตึงต้นคอที่หย่อนยานจากการสูญเสียไขมันให้มากขึ้นได้อีกด้วย สำหรับวิธีลดเหนียงโดยการบริหารออกกำลังกายนั้น มีท่ากายบริหารง่ายๆที่คุณสาวๆสามารถนำไปใช้ได้โดยใช้เวลาเพียงวันละไม่นานก็จะช่วยลดการสะสมของไขมัน และการปรากฏตัวของเหนียงได้เป็นอย่างดี ดังต่อไปนี้

       1.ท่ายืน การยืนชองคุณมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการปรากฏตัวของเหนียง และยังช่วยทำให้การออกกำลังกายเพื่อลดเหนียงของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การปรับปรุงท่ายืนให้ดี ด้วยการยืนตัวตรง จะช่วยค่อยๆยกชายโครงกระดูก หรือในขณะที่นั่งอยู่ ก็ควรที่จะทำการนั่งตัวตรง เชิดหัวขึ้น แต่ไม่ต้องยืดคออกมากกว่าที่จำเป็น พร้อมกับพยายามยกคางเชิดสูงขึ้นเล็กน้อย จนเกิดความรู้สึกตึงๆบริเวณคอ แต่อย่าพยายามให้รู้สึกตึงจนแน่นเกินไป ถ้าหากคุณสามารถเตรียมท่าทางที่ถูกต้องนี้ได้ในขณะที่กำลังทำกายบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอ ก็จะเป็นการช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับวิธีลดเหนียงได้มากยิ่งขึ้น

       2.เอียงคอ เป็นท่าการออกกำลังกายลดเหนียงแบบพื้นฐาน โดยเพียงแค่ทำการเอียงคอขึ้น-ลงในขณะที่นอน เพื่อให้คางเกิดการยืดตัวออกเล็กน้อย และเมื่อผ่านการฝึกฝนในระดับหนึ่ง คุณสาวๆก็จะสามารถนอนหลับไปในท่าดังกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีลดเหนียงโดยที่ไม่รู้ตัวขณะกำลังนอนหลับอยู่

   3.ตบคาง ในภาพยนตร์เก่าๆ คุณสาวๆอาจจะเคยเห็นนักแสดงนิยมใช้วิธีการตบคางของตัวเองเพื่อเสริมความงาม ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วมันสามารถใช้เป็นวิธีลดเหนียงได้เป็นอย่างดี เพียงแค่การใช้หลังมือตบเข้าไปที่บริเวณรอบๆคางเบาๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

       4. ยืดคอ ทำการยกหัวของคุณจากหน้าอก และยืดออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ สายตาของคุณให้มองไปที่เพดาน หรือสถานที่สูงๆที่ไกลออกไป ในขณะที่กำลังทำการยืดคอ ให้เม้มปาก เพื่อให้รู้สึกถึงกล้ามเนื้อในคอเกิดอาการยึดและกระชับมากยิ่งขึ้น ทำค้างเอาไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วผ่นอคลายกลับสู่ท่าปกติ จากนั้นให้ทำซ้ำอีกอย่างน้อยประมาณ 10 ครั้ง ต่อวัน

       5.ดึงริมฝีปาก เริ่มต้นจากการยืนสบายๆ จากนั้นให้พยายามยกริมฝีปากด้านล่างให้สูงขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ทำค้างเอาไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วผ่อนคลายกลับสู่ท่าปกติ ให้ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง คุณสาวๆจะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อภายในคางที่เกิดการบิดและยึดมากขึ้น 

6.ดึงลิ้น อาจจะดูเป็นวิธีที่หยาบคาย แต่มันก็เป็นวิธีที่นับว่าดีที่สุดในการทำงานของกล้ามเนื้อของคอ และคางของคุณสาวๆ สำหรับวิธีลดเหนียงท่านี้ ให้เริ่มต้นจากการเปิดปากให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แล้วดึงเอาลิ้นออกมาให้มากที่สุด ทำค้างเอาไว้ 10 วินาที แล้วผ่อนคลายกลับสู่ท่าปกติ ก่อนที่จะเริ่มต้นทำซ้ำอีกประมาณ 10 ครั้ง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดคางย้อย แบบธรรมชาติ


คางย้อย คางสองชั้น ปัญหาจุกจิกกวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ดูแลรักษาหน้าเป็นอย่างดี แต่ต้องมาสะดุดกับบริเวณคางที่ไม่เข้ารูป ย้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก บทความนี้จะนำไปสู่วิธีการขจัดปัญหาคางย้อยให้หมดไปจากใบหน้าแสนงามของเราโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมให้เจ็บตัว แถมเจ็บใจเมื่อออกมาไม่ได้อย่างที่หวัง ที่สำคัญเป็นวิธีแบบธรรมชาติ รับรองปลอดภัยไร้กังวล ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินในกระเป๋า ขอแค่มีเวลาพร้อมกับหัวใจที่มุ่งมั่น รับรอบว่าวิธีลดคางย้อยจะได้ผล บริเวณคางกลับมากระชับ รับใบหน้าเรียวสวย พร้อมอวดโฉมให้โลกเห็น

วิธีที่ 1 ไข่ไก่กระชับคาง

เป็นวิธีง่ายๆ ใช้เพียงวัตถุดิบอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือไข่ไก่ วิธีนี้อาจเมื่อยกันสักหน่อย แต่ความอดทนย่อมเอาชนะได้ทุกอย่าง และเชื่อว่าทุกคนต้องทำได้ เพราะวิธีนี้ช่วยกระชับผิวบริเวณคาง ลดคางสองชั้น คางห้อย คางหย่อนได้ดี ทำให้คางกระชับเข้ารูปหน้า

 เริ่มจากตอกไข่ 1 ฟองใส่ถ้วยชาม คัดเอาแต่ไข่ขาวล้วนๆ แล้วตีไข่เบาๆ จากนั้นนำมาทาใต้คางและแก้มส่วนล่างที่หย่อนยาน เริ่มจากใต้ใบหูข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง โดยใช้หัวแม่มือแตะใต้กกหู แล้วค่อยๆยกขึ้น วนไปตามแก้มและคาง กดและยกเบาๆ อยู่ประมาณ 15 นาที หากกลัวเมื่อยก็เอาข้อศอกเท้าโต๊ะไว้รอจนไข่ขาวแห้งสนิทค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีลดคางย้อยนี้ควรทำเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์

วิธีที่ 2 บริหารแก้มกระชับใบหน้า

 ถามว่าการบริหารแก้มเกี่ยวอะไรกับวิธีลดคางย้อย คำตอบคือ มนุษย์เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าก็หย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา เมื่อกล้ามเนื้อหน้าหย่อน ส่งผลต่อกล้ามเนื้อคาง เพราะทุกส่วนของใบหน้าจะตกลงมาอิงกับกล้ามเนื้อบริเวณคาง ทำให้เกิดภาวะคางสองชั้น การบริหารแก้มเพื่อกระชับกล้ามเนื้อแก้มและใบหน้าส่วนอื่นๆ ช่วยลดภาระกล้ามเนื้อคางที่คอยพยุงกล้ามเนื้อที่ห้อยย้อยลงมาได้

       วิธีบริหารง่ายๆ คือนั่งลง หันใบหน้าให้ตรง และเอียงศีรษะไปทางไหล่ซ้าย ผ่อนคลายใบหน้า คอ ไหล่ทั้งหมด เริ่มปล่อยให้แก้มซ้ายคลายจนรู้สึกได้ จากนั้นหดกล้ามเนื้อแก้มขวาเข้ามา จะรู้สึกแก้มที่คล้อยกระชับตัวยิ่งขึ้น กรณีที่แก้มห้อยย้อยมาก ให้ใช้มือผลักแก้มให้ยกขึ้นอีกแรง กดฝ่ามือให้แรงและแน่นขึ้นสู้กับกล้ามเนื้อแก้มที่กำลังหดตัว ค้างไว้แบบนั้น นับ 1-5 แล้วค่อยๆ ผ่อนคลาย เอียงศีรษะมาทางไหล่ขวา หดกล้ามเนื้อแก้มซ้ายเข้ามา แล้วทำซ้ำลักษณะเดียวกัน โดยบริหารด้วยท่านี้ วันละ 30-50 ครั้ง ถ้าเมื้อยก็แก้ด้วยการหายใจลึกๆ เข้าออก 2-3 ครั้ง
และควรเสริมด้วยการบริหารโดยการทำรูปทรงริมฝีปากซึ่งจะส่งผลต่อลิ้นโดยอัตโนมัต เริ่มจากการยืนหน้ากระจก ทำปากเป็นรูปตัวโอ แต่ต้องไม่ให่ริมฝีปากบนย่น ขณะเดียวกันก็ให้พยายามยิ้มด้วย จากนั้นค่อยๆยกมุมปากขึ้น ปลายมุมปากชี้ไปทางหูทั้งสองข้าง ปล่อยให้กล้ามเนื้อทุกส่วนผ่อนคลาย การบริหารส่วนนี้เป็นการช่วยแก้ปัญหาคางสองชั้นโดยตรง เพราะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อตั้งแต่ปลายจนถึงโคนลิ้น

วิธีที่ 3 บริหารขากรรไกร

การบริหารขากรรไกรเป็นวิธีลดคางย้อยที่มีประสิทธิภาพ และเป็นวิธีที่ง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากเปิดปากให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นขยับขากรรไกรช้าๆ ด้วยการดันปากขึ้นและดันลงสลับไปมา โดยให้ฟันติดกับริมฝีปากบนด้วย ทำอย่างนี้วันละ 15 ครั้งเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดคางได้

       อีกท่าที่ช่วยบริหารขากรรไกรได้ดีคือท่าเคี้ยวหมากฝรั่ง โดยขยับขากรรไกรให้เหมือนกับว่ากำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่ การทำเช่นนี้เป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร หลังและคอ ทำให้ไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางลดลงได้

วิธีที่ 4 ควบคุมอาหาร

สาเหตุสำคัญของการเกิดคางย้อย คางสองชั้น คือน้ำหนักที่มากเกินไป เพราะไขมันส่วนเกินจะไปสะสมที่บริเวณคาง ทำให้ใบหน้าดูอ้วนกลม ซึ่งเกิดจากการไม่ใส่ใจเรื่องคุณค่าของอาหารที่รับประทานนั่นเอง ของที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น อาหารจำพวกทอด จังก์ฟู้ด น้ำอัดลม เป็นต้น ฉะนั้น วิธีนี้สุดท้ายนี้ก็คือ การรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักใบเขียว พืชตระกูลถั่วต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะอาหารเหล่านี้ช่วยย่อยสลายไขมันได้เป็นอย่างดี แถมยังให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดเนียงใต้คางแบบไม่ต้องศัลยกรรม

       สำหรับคุณสาวๆที่กินไม่ยั้ง โดยไม่แคร์ต่อความอ้วนที่จะเกิดขึ้นนั้น ต้องระมัดระวังตัวเอาไว้ให้ดี เพราะในเช้าวันหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วอาจจะพบว่าใบหน้าของตัวเองในกระจก ได้แปรเปลี่ยนผิดรูปผิดไปจากเดิม โดยเฉพาะบริเวณคางที่อาจจะเกิดเนียงใต้คางขึ้นหลายชั้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อความมั่นใจของคุณสาวๆ ในยามเมื่อจำเป็นต้องออกไปพบปะเข้าสังคมกับคนอื่นๆนอกบ้าน 

บทความในครั้งนี้ ได้ทำการรวบรวมวิธีลดเนียงใต้คางอย่างประหยัด ซึ่งคุณสาวๆทุกคนสามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องลงทุนไปทำศัลยกรรมให้เจ็บปวด  และไม่ต้องกลัวผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมผิดพลาด สำหรับวิธีลดเหนียงใต้คาง ที่จะช่วยนำใบหน้าเรียวงามของคุณ ให้กลับมาสวยได้ดั่งเดิมอีกครั้งมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านวิธีลดเนียงใต้คางได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย 

เหนียงใต้คางเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ?   

เหนียงใต้คาง คือ ไขมันที่ไปพอกอยู่บริเวณใต้คางจนกลายเป็น “คางหมู” เกิดขึ้นจากที่คุณสาวๆละเลยปล่อยตัวเอง ไม่ควบคุมอาหารการกิน ไม่ออกกำลังกาย ซึ่งในระยะเวลาที่ไม่นานนัก เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ เกิดเนียงใต้คางเป็นชั้นๆ ซึ่งวิธีลดเหนียงใต้คางที่ดีที่สุดก็คือ การออกกำลังกาย และการควบคุมอาหารอย่างถูกวิธีนั่นเอง

สำหรับศาสตร์ของการออกกำลังกายนั้น ถ้าหากต้องการลดส่วนไหน ก็ต้องออกกำลังของร่างกาย เช่น อยากต้น ขาเรียวงาม เพื่อที่จะได้ดินเนอร์ใส่ชุดเดรสโชว์ขาขาวงาม คุณจะต้องปั่นจักรยานเป็นประจำ แต่ถ้าคุณอยากต้นแขนกระชับ เพื่อใส่ชุดเดรสเปิดแขน ก็ควรเน้นไปทางตีแบตมินตัน และดารเล่นเวท ถ้าหากอยากมีเอวสวย ต้องชิดอัพ วิดพื้น หรือเล่นฮูลาฮูป เป็นต้น การออกกำลังกายที่ถูกต้องในบริเวณที่ต้องการ จะช่วยทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ของการลดบริเวณนั้นได้ดี และเห็นผลเร็วขึ้น

5 เทคนิค วิธีการลดเนียงใต้คาง แบบสุดประหยัด

1.ก้ม  เงย แหงน  

เริ่มต้นจากการตั้งศีรษะให้ตรง ก้มหน้าลงให้ต่ำสุด แล้วเงยหน้าขึ้นช้าๆ แหงนอย่างเต็มที่จนรู้สึกคอตึงๆ พร้อมกับให้นับ 1 ครั้ง แล้ววนกลับไปท่าเดิม ทำซ้ำๆ ( เป็นจำนวน 20 ชุดต่อวัน ) วิธีลดเหนียงใต้คางนี้สามารถทำได้ตลอด ไม่ว่าเวลาไหน ที่ไหน หรือเมื่อไหร่ เช่น ในห้องน้ำ อยู่ในรถไฟฟ้า เป็นต้น ขอเพียงแค่คุณกล้า ไม่เกรงสายตาใคร

2.ยุบ พอง  

คุณเคยสังเกต บริเวณใต้คางของคางคกที่มีการยุบ – พอง ยุบ-พอง เหมือนหายใจสลับกันไป หรือไม่  ??

การหายใจเข้าออกจนกระทั่งแก้ม และคางเกิดการยุบและพองเหมือนคางคก เป็นวิธีหนึ่งในวิธีสุดมหัศจรรย์ที่จะช่วยลดเนียงใต้คางได้เป็นอย่างดี ส่วนวิธีก็ไม่ยาก เพียงแค่เงยหน้าขึ้นแล้วเริ่มทำการสูดลมหายใจเข้าภายในปาก จากนั้นกักมันเอาไว้ให้แก้มพองตัวขึ้น กักเอาไว้สักครู่ จากนั้นจึงปล่อยลมออก ให้เกิดการยุบพอง ยุบพอง วนๆซ้ำๆ ไปมาประมาณ 30 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

3.เคี้ยว

เป็นอีกหนึ่งในวิธีลดเหนียงใต้คางที่น่าสนใจ โดยแนะนำให้คุณสาวๆ ทำการเคี้ยวหมากฝรั่ง วิธีนี้นอกจากจะช่วยบริหารลมปาก แล้วยังเป็นการช่วยบริหารขากรรไกรอีกด้วย แต่สำหรับผู้หญิงส่วนมากมักไม่นิยมใช้วิธีนี้กันเนื่องจากกลัวว่าจะทำให้กรามดูใหญ่ขึ้น หน้าจะบานเหมือนผู้ชาย แต่หน้าบานก็มีจุดเด่นที่มีสเสน่ห์ในตัวของมันเองยกตัวอย่างนางเอก นางเอก ยุค 60’S นางเอกตลอดกาล “ ฮอร์เดย์ เฮปเบิร์น “ ใบหน้าทรงเหลี่ยมของเธองดงามที่สุดในโลกในขณะนั้น ดังนั้นวิธีลดเหนียงใต้คางด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่ง นอกจากจะสามารถช่วยลดเนียงใต้คางแล้ว ยังทำให้กรามดูสวยใบหน้าดูแข็งแรง กลายเป็นสาว แกร่ง ทรงเสน่ห์ ได้เหมือนกัน

4.ลูบ

เป็นวิธีการออกกำลังง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากการแหงนหน้าก่อนจนกระทั่งรู้สึกคอตึง แล้วเอาฝ่ามือประสานกัน สัมผัสลงบนคออย่างบางเบา  แล้วลูบจากล่างขึ้นไปถึงคาง ห้ามทำการลูบจากคาง ลงมาล่าง เพราไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้คอกลายเป็นชั้นบันไดจนดูเหมือนสาวแก่ก่อนวัยอันควร ซึ่งวิธีนี้หากคุณมีผลิตภัณฑ์ลดไขมัน ก็สามารถที่จะนำมาใช้ได้ โดยการทาแล้วลูบจากล่างขึ้นบน ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะทำให้บริเวณที่ทารู้สึกร้อนๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถจะทาครีมบำรุงลงไปบริเวณคอโดยตรงเลยก็ได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นโลชั่นทาผิว ให้ทำการทาตอนเช้าก่อนไปทำงาน และก่อนนอน เพื่อให้คอของคุณสาวๆสวยขาว ชุ่มชื่น และยังช่วยให้เนียงใต้คางหายไปอีกด้วย

 

5.ออก

การออกกำลังกายเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดี และยังช่วยชะลอความแก่วัย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง สุขภาพแข็งแรง และยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ บำบัดความเครียด บางคนอ้วนแล้วลดน้ำหนักเนียงใต้คอก็หายไป แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้สามารถใช้ได้ผลเฉพาะบางคนเท่านั้น เนื่องจากบางคนถึงแม้น้ำหนักจะลดลงแล้ว แต่เหนียงใต้คางก็ไม่ได้หายไป ซึ่งอาจจะมีปัญหาในเรื่องของกรรมพันธุ์

หลักการจำ วิธีการลดเนียงใต้คางนั้นให้คุณท่องดังนี้ “ ก้ม เงย แหงน ยุบ พอง เคี้ยว ลูบ ออก “  ถ้าคุณท่องได้ คุณก็รู้วิธีทำ สามารถนำปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้วค่ะ ถึงเวลาที่หมูน้อยมีเนียงใต้คาง กลับกลายเป็นนางฟ้าได้แล้ว

เห็นไหมค่ะ ว่าวิธีการลดเหนียงใต้คางสามารถทำได้อย่างง่ายๆ ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการทำศัลยกรรม ให้เสียเงินทองในกระเป๋าของคุณ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่สะดวก สามารถทำได้ตลอดตามสะดวก ไม่ว่าที่ไหน เวลาไหน ได้อีกต่างหาก

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เทคนิควิธีหน้าเรียวอย่างง่ายๆ โดยการเปลี่ยนทรงผม

สำหรับคุณสาวๆ ที่ชื่นชอบการแต่งเนื้อแต่งตัว และอยากที่จะมีใบหน้าที่เรียวสวยเข้ารูปเพื่อเป็นการช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับตัวเองมากขึ้นนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบสไตล์ของทรงผมเพียงเล็กน้อย ก็จะสามารถช่วยทำให้รูปหน้าของคุณสาวๆ ดูเรียวเล็กขึ้นได้ทันตาเห็น โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสรรหาสารพัดวิธีหน้าเรียวมาช่วยเสริม อาทิเช่น การนวดหน้า การจัดฟัน การศัลยกรรม เป็นต้น

การเปลี่ยนทรงผมจึงเป็นวิธีหน้าเรียวที่ง่าย และสามารถทำได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก

วิธีการแต่งทรงผมที่ช่วยทำให้คุณสาวๆ หน้าเรียวมากขึ้น

            ก่อนอื่นคุณควรทำการพิจารณาก่อนว่า รูปหน้าของตัวเองนั้นมีลักษณะเป็นเช่นใด เพื่อที่จะได้สามารถที่จะเลือกทรงผมที่เหมาะสมในการช่วยเสริมใบหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

1. คนที่มีแก้มป่อง ถ้าหากมีผมยาว ควรเลือกทรงผมที่เส้นผมปัดแก้มรอบๆใบหน้า แล้วใช้เงาผมช่วย อาจจะใช้วิธีการมัดรวบผมขึ้นด้านหลังแล้วผูกเอาไว้ โดยปล่อยให้ผมข้างๆตกลงมาบังหูเอาไว้ ซึ่งจะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆดูเรียวเล็กมากขึ้น

2. คนที่มีใบหน้าหน้ากลม ใบหน้าในลักษณะนี้ควรไว้ทรงผมที่ช่วยปิดความมนกลมของช่วงกรามเอาไว้ ขอแนะนำว่าให้ทำผมทรงสูง จะช่วยทำให้รูปหน้ายาวมากขึ้น หรือการทำผมทรงแสกข้าง จะเป็นการช่วยลดความกลมของใบหน้าได้

             นอกจากนี้ การสไลด์ผมด้านข้างให้เลเยอร์ก็จะช่วยทำให้คุณสาวๆที่มีใบหน้ากลมดูใบหน้าเรียวขึ้นได้ เช่นกัน ที่สำคัญคือ ไม่ควรเลือกทรงผมที่สั้นจนเกินไป ถ้าหากต้องการจะตัดผมสั้นจริงๆก็ควรที่จะเลือกผมสั้นที่ยาวเลยคาง หรืออาจจะเป็นทรงบ๊อบเทแบบให้ผมด้านหน้ายาวลงมา แต่ห้ามตัดสั้นเสมอระดับคางโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูกลมมากยิ่งขึ้น

            3. คนที่มีใบหน้าแบน ด้านข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรเลือกทรงผมที่ทำให้ผมด้านหลังดูพองขึ้น จะเป็นการช่วยทำให้ใบหน้าดูเล็กลง เช่น ผมทรงหางม้า โดยการผูกให้อยู่ในระดับต่ำๆ ส่วนผมด้านบนทำให้พองๆจะเป็นการช่วยทำให้ผมดูมีวอลลุ่ม และควรปล่อยให้ปลายผมพลิ้วอย่างเป็นธรรมชาติ

4. คนที่มีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม ใบหน้าในลักษณะนี้จะมีช่วงกรามที่เด่นออกมามากกว่าที่ควรจะเป็น คุณสาวๆ จึงควรไว้ผมที่ปรกลงมาข้างๆ เพื่อปิดกรามเอาไว้ หรือถ้าหากสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของออกจากบริเวณกรามได้จะเป็นการดีสุด เช่น การตัดผมหน้าม้า การดัดปลายผมตั้งแต่ช่วงกรามลงมาให้เป็นลอนๆ อ่อนๆ หรือการทำผมทรงปลกหน้าทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เป็นต้น และไม่ควรไว้ทรงผมบ็อบโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูบานมากยิ่งขึ้น

            5. คนที่ใบหน้ารูปสามเหลี่ยม หรือใบหน้าที่มีลักษณะช่วงหน้าผาก แก้มและตาที่แคบมากกว่ากราม สำหรับคุณสาวๆที่มีผมยาวแนะนำว่าให้ควรไว้ผมยาวประบ่าแล้วทำการสไลด์ปลายบางๆ หรือดัดลอนจะเป็นการช่วยทำให้หน้าของคุณสาวๆดูเล็กลงได้

6. คนที่ใบหน้ายาว เหมาะกับการไว้ผมยาว เพราะการตัดผมสั้นจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูยาวมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม การไว้ผมทรงหน้าม้าก็จะสามารถช่วยลดความยาวของใบหน้าลงได้ เพราะเป็นการช่วยปิดบังใบหน้าส่วนหน้าผาก ทำให้สัดส่วนของใบหน้าดูไม่ยาวจนเกินไป หรืออาจจะปล่อยผมให้ยาวลงมาเคลียไหล่ รวมไปถึงการรวบผมเป็นหางม้าไว้ด้านหลังก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้น

            7. คนที่มีใบหน้าเป็นรูปหัวใจ มีลักษณะของช่วงหน้าผากและโหนกแก้มที่กว้าง แต่คางแหลม สำหรับคุณสาวๆที่ต้องการไว้ผมยาว สามารถที่จะตัดผมม้าได้แต่ห้ามตัดมากจนเกินไป ควรตัดให้ยาวประมาณคิ้ว แต่อย่าให้ผมลงมาปิดตา หรือไว้ผมยาวแล้วแสกข้างทำให้ผมดูมีโวลลุ่มเพื่อเปิดเผยใบหน้า

8. คนที่มีใบหน้ารูปเพชร ซึ่งจะมีลักษณะรูปหน้ายาวแต่เล็ก มีช่วงโหนกแก้มที่ค่อนข้างกว้าง ในขณะที่หน้าหากและคางแคบ ควรเลือกทรงผมที่ช่วยพรางโหนกแก้มรวมทั้งเพิ่มความกว้างของหน้าผาก เช่น ทรงผมหน้าม้าที่ซอยสไลซ์ แล้วปัดออกไปด้านข้าง เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มน้ำหนักของผมในช่วงหน้าผากจนถึงบริเวณใบหู เพื่อสร้างความสมดุลให้กับใบหน้า ส่วนบริเวณกรามหรือคางให้งุ้มผมเข้ามาเพื่อช่วยในการปกปิดความกว้าง

การรู้หลักการในการเลือกทรงผมที่เหมาะสมกับตัวเองนั้น สามารถช่วยทำให้คุณดูมีใบหน้าที่เรียวขึ้นได้อย่างง่ายๆ และเป็นธรรมชาติ แต่ที่สำคัญคือ คุณสาวๆ ต้องรู้ด้วยว่ารูปหน้าของตัวเองนั้นไม่เหมาะกับทรงผมแบบใดก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงเสีย เพราะถ้าไม่อยากนั้นแทนที่ใบหน้าของคุณดูเรียวเล็กขึ้นแต่อาจจะให้ผลที่ไม่พึงประสงค์ในทางตรงกันข้ามแทน…

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มาออกกำลังกายเพื่อลดหน้าเรียวให้ถูกวิธีกันเถอะ

สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการลดใบหน้าที่ดูอวบอ้วนเพราะไขมัน หรือบวมน้ำให้กลับมาเรียวเล็กเข้ารูปนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ จึงจะเป็นการช่วยลดหน้าเรียวที่ได้ผลมากที่สุด

ในวันนี้จะพาคุณสาวๆ ไปแนะนำให้รู้จักกับสารพัดวิธีการออกกำลังกายเพื่อลดหน้าเรียว รวมไปถึงการออกกำลังที่ผิดวิธีที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะส่งผลทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆ อวบอูมขึ้น ส่วนจะมีวิธีการอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย….

วิธีการออกกำลังเพื่อลดหน้าเรียวอย่างถูกวิธี

สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดหน้าให้เรียว สามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. การบริหารใบหน้า เป็นวิธีการออกกำลังกายเฉพาะใบหน้าเพื่อช่วยทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลงโดยเฉพาะ ซึ่งมีวิธีการที่หลากหลายเหมาะกับคุณสาวๆ ที่มีปัญหาไขมันหรือการบวมน้ำบนใบหน้า ดังต่อไปนี้

ท่าบริหารเพื่อลดแก้ม เป็นการบริหารใบหน้าเพื่อลดปัญหาการบวมบริเวณแก้ม โดยมีวิธีการบริหารอยู่หลายวิธี ดังต่อไปนี้

การบริหารท่าที่ 1 : เริ่มต้นจากให้คุณอ้าปากให้กว้างมากที่สุด จากนั้นให้ดึงปากมาหุ้มฟันเอาไว้ แล้วยิ้มให้กว้างที่สุด โดยไม่หุบปาก ซึ่งจะทำให้รู้สึกตึงที่ใบหน้า การบริหารในท่าดังกล่าวจะทำให้เนื้อแก้มได้รับการกระตุ้นได้ดีทีเดียว

การบริหารท่าที่ 2 : เริ่มต้นจากให้คุณยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่งจนสุด เพื่อให้กล้ามเนื้อตั้งแต่ใต้ตาจนถึงมุมปากมีการขยับเคลื่อนไหว เมื่อยกขึ้นจนสุดแล้วให้หลับตาค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที พร้อมกับเกร็งบริเวณมุมปากเอาไว้ แล้วค่อยๆ ลดมุมปากลงให้ใบหน้ากลับเข้าสู่สภาพปกติ จากนั้นให้เปลี่ยนสลับไปทำที่มุมแก้มอีกข้าง

การบริหารท่าที่ 3 : เริ่มต้นให้คุณทำปากจู๋ แล้วสูดลมเข้าไปในปากจนกระทั่งแก้มทั้งสองข้างบุ๋มเข้าไป เมื่อเนื้อแก้มทั้งสองข้างหายไป ให้ทำการยกมุมปากทั้ง 2 ข้าง คล้ายกับการฉีกยิ้มค้างเอาไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ลดมุมปากกลับลงตามเดิม

 

ท่าบริหารเพื่อลดไขมันใต้คาง เป็นการบริหารกล้ามเนื้อในบริเวณคาง เพื่อลดปัญหาเรื่องคางสองชั้น โดยมีวิธีการบริหารอยู่หลายวิธี ดังต่อไปนี้

การบริหารท่าที่ 1 : เริ่มจากให้คุณเงยหน้าขึ้นจนสุดแล้วค้างเอาไว้ จากนั้นเอาฝ่ามือจับบริเวณลำคอ แล้วดึงริมฝีปากล่างมาหุ้มริมฝีปากบนให้เยอะที่สุดเป็นเวลา 10 วินาที

การบริหารท่าที่ 2 : เริ่มต้นจากให้คุณยืดหลังให้ตรง จากนั้นให้ค่อยๆ ยกค้างขึ้นให้สุด ค้างเอาไว้ 5 วินาที แล้วแลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุด ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วค่อยๆเก็บลิ้นเข้าที่เดิม

การบริหารท่าที่ 3 : เริ่มต้นจากให้คุณเงยหน้าขึ้น แล้วยกคางขึ้นด้านบนค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที อ้าปากกว้างๆ โดยอ้าแบบแยกปากไปด้านข้างๆ ค้างเอาไว้อีกประมาณ 5 วินาที เมื่อทำจนครบขั้นตอนแล้ว ให้พยายามเกร็งกล้ามเนื้อใต้หูถึงคางโดยระวังอย่าเกร็งมากจนเกินไป แล้วจึงค่อยปิดปากกลับสู่ท่าปกติ

ท่าบริหารเพื่อลดขนาดขากรรไกร เป็นการบริหารเพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อขากรรไกร เพื่อให้ขนาดกล้ามเนื้อของขากรรไกรลดลง เริ่มจากให้คุณสาวๆเม้มปากให้แน่นที่สุด แล้วพยายามยิ้มให้กว้างที่สุด

ท่าบริหารเพื่อกระชับใบหน้า เป็นการบริหารทั้งใบหน้าเพื่อเพิ่มความกระชับให้กับใบหน้า เมื่อใบหน้ากระชับเข้ารูปหน้าก็จะเรียวมากขึ้น โดยมีการบริหาร ดังต่อไปนี้

การบริหารท่าที่ 1 : เริ่มจากให้คุณยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้จนกระทั่งเห็นฟัน จากนั้นให้ยิ้มค้างเอาไว้จนกระทั่งรู้สึกตึงที่ใบหน้า แล้วจึงค่อยๆหุบยิ้มลง

การบริหารท่าที่ 2 : เริ่มจากให้คุณออกเสียงให้หนักๆ ว่า “อะ..เอะ…อิ..เอะ..โอะ..อะ..โอะ” จากนั้นให้ออกเสียงเดิมซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับยกมุมปากและเกร็งปากไปด้วย

การบริหารท่าที่ 3 : เริ่มจากให้คุณยกหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเกร็งใบหูเอาไว้ จากนั้นให้กัดฟันให้แน่นเล็กน้อยๆ ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที กล้ามเนื้อจะเกิดอาการเกร็ง จากนั้นให้ค่อยๆคลายแรงที่กัดฟันออกให้กลับสู่สภาวะปกติ

2. การออกกำลังกายทั้งตัว การออกกำลังกายทั้งตัวเป็นการช่วยสลายไขมัน และลดอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นในทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงใบหน้าด้วย เช่น การวิ่ง โดยเพียงแค่คุณวิ่งอยู่เป็นประจำ วันละประมาณ 30 นาที จากตอนแรกที่หน้าบาน แก้มยุ้ย  สัดส่วนที่ผิดรูป ขันที่คอและคางจะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใบหน้าเรียวขึ้นในที่สุด

การออกกำลังกายบริหารใบหน้าที่ผิดวิธีและควรหลีกเลี่ยง

สำหรับคุณสาวๆ ที่มีพฤติกรรมการออกกำลังกายบนใบหน้าดังต่อไปนี้ ควรที่จะรีบทำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยทันที เพราะจะเป็นการทำให้ใบหน้าของคุณอวบบวมมากขึ้นโดยที่ไม่ทันรู้ตัว

1. การใช้กรามในการบดเคี้ยวอาหารมากๆ โดยเฉพาะอาหารที่หนา เหนียวและเคี้ยวยาก อาทิเช่น หมากฝรั่ง ข้าวเหนียว เนื้อเหนียวๆ เป็นต้น การบดเคี้ยวสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อขากรรไกรได้รับการบริหารจนใหญ่ขึ้นเหมือนกับการเล่นกล้าม ทำให้บริเวณขากรรไกรของคุณใหญ่ขึ้น ทำให้ใบหน้าของคุณกลมบวมไม่เรียวเล็กอย่างที่ควรเป็น

2. ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายหลังการรับประทานอาหาร สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการจะ ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักซึ่งช่วยทำให้หน้าเรียวรวดเร็วขึ้น จากการศึกษาวิจัยพบว่า การออกกำลังกายหลังการรับประทานอาหาร จะทำให้เกิดแก็ซในระบบย่อยอาหารอย่างรวดเร็ว นอกจากแก็ซจะทำให้เกิดอาการท้องอืด อึดอัด แน่นท้องแล้ว แล้วยังทำให้เกิดอาการอ้วนแบบบวมน้ำขึ้นอีกด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากทำหน้าเรียวโดยการศัลยกรรม ต้องทำตรงไหนบ้าง

สำหรับคุณสาวๆ ที่รักสวยรักงาม และอยากมีหน้าเรียวที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วนั้น วิธีการทำศัลยกรรมเพื่อตกแต่งใบหน้าให้เรียวขึ้น ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากที่สุด

ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีสถาบันเสริมความงามที่มีชื่อเสียงในการทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าให้หน้าเรียวขึ้นอยู่มากมาย ให้คุณสาวๆ สามารถเลือกโครงหน้าได้ตามใจชอบอีกต่างหากว่า จะให้ออกมาหน้าเรียวสไตล์ไหน ไม่ว่าจะเป็นแบบตะวันตก ญี่ปุ่น เกาหลี แต่ก่อนที่คุณสาวๆ จะเข้ารับการทำศัลยกรรมนั้น

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การทำศัลยกรรมเพื่อทำให้หน้าเรียวขึ้นนั้น คุณหมอเขาทำอะไร แล้วปรับตรงไหนของใบหน้าของเรากันบ้าง

การปรับโครงหน้าเมื่อทำศัลยกรรมหน้าเรียว

ในการทำศัลยกรรมเพื่อปรับแต่งโครงหน้า เพื่อช่วยทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆ เรียวขึ้น แพทย์จะทำการพิจารณาบริเวณที่จะทำเพื่อความเหมาะสมเป็นรายบุคคล แต่โดยหลักๆ แล้วแพทย์มักที่จะมีการทำศัลยกรรมในบริเวณต่อไปนี้

1. ศัลยกรรมลดกราม หรือการผ่าตัดแก้ไขปัญหาหน้าเหลี่ยม ในกรณีที่บริเวณคางทั้งสองข้างของคุณสาวๆมีกระดูกกรามปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดมาก แพทย์จะทำการผ่าตัดกระดูกกรามที่กว้างออก โดยการปรับรูปกรามให้เกิดความกลมกลืนไปกับคาง เพื่อปรับให้รูปหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะมีวิธีการที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานนักและได้ผลดี  

สำหรับการผ่าตัดกรามให้เล็กลงนั้น โดยทั่วไปจะมีด้วยกัน 2 วิธี คือ

    • การผ่าตัดภายนอกช่องปาก เป็นการผ่าตัดบริเวณมุมกรามเข้าไปที่มุมกระดูกของขากรรไกรทั้งสองข้าง แล้วใช้เครื่องมือแพทย์ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับเลื่อยเล็กๆตัดตรงตำแหน่งที่ต้องการ หลังการผ่าตัดประเภทนี้จะทีรอยแผลผ่าตัดเกิดขึ้นประมาณ 2-3 ซ.ม. และมีอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังการผ่าตัดน้อย และแทบที่จะไม่ต้องดูแลอะไรมากนัก

 

  • การผ่าตัดภายในช่องปาก เป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากกว่าการผ่าตัดภายนอกช่องปาก เพราะไม่ต้องกังวลถึงแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัด โดยผ่านซอกเหงือกด้านหลังของฟันกรามไปยังมุมกระดูกขากรรไกร ทำให้สามารถตัดแต่งกระดูกกรามได้ตามความต้องการ หลังการผ่าตัดในช่องปากจะมีอาการบวมเกิดขึ้น รวมไปถึงอาการอ้าปากไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะใน 5-10 วัน หลังจากการผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป

2. ศัลยกรรมรูปหน้าแบบ V-Line ในกรณีที่ปลายคางของคุณสาวๆมีลักษณะที่กว้าง การผ่าตัดปลายคางให้มีลักษณะเป็น V-Line จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น เป็นเทคนิคการทำหน้าเรียวที่ถูกคิดค้นขึ้นในประเทศเกาหลี เป็นวิธีการทำศัลยกรรมที่มักจะทำต่อจากการผ่าตัดกราม เพราะถึงแม้ว่าการผ่าตัดกรามจะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

สำหรับคุณสาวๆ บางคนใบหน้าก็ยังคงดูอ้วนไม่เป็นใบหน้ารูปไข่ การผ่าตัดในส่วนของคาง จึงมีส่วนช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวเป็นรูปไข่อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนรูปทรงของใบหน้าหลังจากการเฉือนกราม จากรูปตัว U ให้กลายมาเป็นรูปตัว V นั่นเอง

3. ศัลยกรรมลดโหนกแก้ม ในกรณีที่โหนกแก้มของคุณสาวๆยื่นออกมามาก แพทย์จะทำการศัลยกรรมโดยการกรอ หรือตัดนำกระดูกบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างออก โดยคำนึงถึงความสมดุลของโครงสร้างใบหน้า ทำให้โครงหน้าที่ไม่สมส่วนกลับมามีส่วนโค้งเว้าที่เป็นธรรมชาติ

การผ่าตัดจะเป็นการเปิดแผลในช่องปาก หลังจากการผ่าตัดแล้วจะทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง การศัลยกรรมลดโหนกแก้ม เป็นวิธีการที่ง่ายและได้รับความนิยม เนื่องจากใช้เวลาในการผ่าตัดเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรูปทรงของโหนกแก้ม ที่อาจจะใช้เวลาที่เพิ่มมากขึ้นหากมีขั้นตอนที่ซับซ้อน

หลังการผ่าตัดคุณสาวๆ ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่อาจจะมีอาการบวมในบริเวณที่ทำการผ่าตัด ซึ่งอาการเหล่านั้นจะค่อยๆหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป รวมไปถึงอาการเคี้ยวอาหารได้ลำบากในช่วง 2-3 วัน แรกหลังจากการผ่าตัด ซึ่งความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม วิธีการทำหน้าเรียว โดยวิธีศัลยกรรมนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ช่วยทำให้คุณสาวๆสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ก็เป็นวิธีที่มีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และการผ่าตัดบางประเภทที่เป็นการตัดกระดูกออกไปนั้น

ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจากขั้นตอนการผ่าตัด การแก้ไขอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ยาก ดังนั้นคุณสาวๆจึงควรที่จะสามารถยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัด และเลือกการทำศัลยกรรมกับสถาบันเสริมความงามที่มีชื่อเสียง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณสาวๆ เอง

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากฉีดหน้าเรียวให้สวยด้วยโบท็อกซ์ ดีมั้ย

สำหรับคุณสาวๆ ที่อยากหน้าเรียวสวยด้วยวิธีการฉีดโบท็อกซ์นั้น ขอแนะนำว่า ไม่ควรที่จะพลาดการติดตามอ่านเนื้อหาของบทความต่อไปนี้ ซึ่งหวังว่า จะเป็นช่วยสร้างความเข้าในการฉีดสารโบท็อกซ์ ในการเสริมใบหน้าให้เรียวให้กับคุณสาวๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น

ซึ่งเนื้อหาในบทความชิ้นนี้ โดยส่วนใหญ่มาจากคำถามยอดฮิตของคุณสาวๆ นั่นเอง

สารโบท็อกซ์คืออะไร แล้วนำมาใช้ในการฉีดเพื่อทำให้หน้าเรียวได้อย่างไร

โบท็อกซ์ คือ สารโปรตีนชนิดหนึ่งที่ใช้ในการรักษาริ้วรอยที่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งบ่อยๆ หรือทำงานมากเกินไปจนเกิดรอยย่นขึ้น เช่น รอยขมวดคิ้ว เป็นต้น หรือมวลของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น

เนื่องจากมีการใช้งานบ่อยๆ เช่น บริเวณกราม ที่มีการใช้เพื่อบดเคี้ยวอาหารอยู่เป็นประจำ เป็นต้น แพทย์จะทำโดยการฉีดสารโบท็อกซ์เข้าไปทำการยังยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่เกิดปัญหา ทำให้กล้ามเนื้อที่เกิดรอยย่นทำงานน้อยลง หรือกล้ามเนื้อที่มีความหนาแน่นสูงมีขนาดที่เล็กลง ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นนั่นเอง

การฉีดหน้าเรียวด้วยสารโบท็อกซ์ ต้องฉีดบริเวณใดของใบหน้าบ้าง

โดยพื้นฐานแล้ว แพทย์จะทำการฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อทำให้หน้าเรียวลงบนใบหน้าข้างละประมาณ 5 จุด โดยมีหลักการฉีดเพื่อทำให้หน้าเรียวอยู่ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

  • การฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อลดกล้ามเนื้อที่กราม แพทย์จะทำการฉีดสารโบท็อกซ์เข้าที่บริเวณกรามเพื่อลดกล้ามเนื้อให้มีขนาดเล็กลง รูปหน้าจึงสามารถเรียวมากขึ้นตามไปด้วย
  • การฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อยกแก้ม เป็นการช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่ทำการดึงแก้มอยู่นั้นทำงานน้อยลง โดยทำการฉีดสารโบท็อกซ์ที่ขากรรไกร ทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวมากขึ้น

การฉีดสารโบท็อกซ์ใช้เวลาเพียง 5-10 นาที โดยแพทย์จะใช้ยาชา ก่อนการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กที่สุด และสารโบท็อกปริมาณเพียงเล็กน้อย ในขณะฉีดคุณสาวๆอาจจะรู้สึกเจ็บนิดหน่อยคล้ายกับกำลังถูกมดกัด เมื่อฉีดเสร็จแล้วสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องทำการพักฟื้นแต่อย่างใด

สารโบท็อกซ์ออกฤทธิ์เร็วแค่ไหน แล้วช่วยทำหน้าให้เรียวได้นานแค่ไหน

สารโบท็อกซ์ จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากที่ฉีดไปแล้วประมาณ 2-3 วัน และเริ่มเห็นผลผ่านใน 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมไปถึงขนาดของยาที่ฉีดเข้าไปและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย

สารโบท็อกซ์สามารถคงอยู่ออกฤทธิ์ต่อได้ประมาณ 6-8 เดือน เมื่อหมดฤทธิ์แล้ว สามารถทำการฉีดซ้ำได้อีก แต่ไม่ควรทิ้งช่วงห่างหลังจากสารหมดฤทธิ์แล้วนานเกิน 6 เดือน  การวิจัยพบว่า ถ้าหากฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อช่วยในการยุบกรามให้เล็กลงติดต่อกัน 3 ครั้งขึ้นไป จะมีโอกาสทำให้กรามเล็กลงอย่างถาวร

การเลือกสารโบท็อกซ์ในการฉีดหน้าเรียวอย่างปลอดภัย

คุณสาวๆ ควรที่จะเป็นคนที่ทำการเลือกยี่ห้อและสัญชาติของสารโบท็อกซ์ด้วยตัวเอง เพื่อความปลอดภัยจากสารโบท็อกซ์ปลอม ซึ่งในปัจจุบันสารโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย.ในประเทศไทย ก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ยี่ห้องใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

1. BOTOX สารโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา มีราคาแพงมากที่สุด และมีคุณภาพที่ดีที่สุด
2. DYSPORT สารโบท็อกซ์จากยุโรป เห็นผลจากการฉีดได้รวดเร็วมากที่สุด
3. NEURONOX จากประเทศเกาหลี จะมีโมเลกุลที่เล็กกว่า BOTOX จากประเทศอเมริกา ทำให้มีการกระจายตัวได้น้อยกว่า

ข้อควรระมัดระวังที่ควรรู้ก่อนเข้ารับการฉีดสารโบท็อกซ์

1. คุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ ห้ามเข้ารับการฉีดสานโบท็อกซ์โดยเด็ดขาด
2. งดการรับประทานยาประเภทแอสไพรินและยาปฏิชีวนะก่อนการฉีดสารโบท็อกซ์

ข้อห้ามที่สำคัญหลังจากที่ทำการฉีดสารโบท็อกซ์

หลังจากการฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อช่วยทำใบหน้าให้เรียวขึ้นนั้น คุณสาวๆควรที่จะปฏิบัติตัว โดยระมัดระวังข้อห้าม ดังต่อไปนี้

  1. ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ หลังจากฉีดสารโบท็อกซ์ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  2. งดการนวดหน้า หรือการกดจุดบนใบหน้า ประมาณ 2 สัปดาห์
  3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น ประมาณ 2 สัปดาห์
  4. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีเนื้อแข็งๆ หรือเหนียวๆที่เคี้ยวยาก เช่น น้ำแข็ง ซี่โครง กระดูกอ่อน ข้าวเหนียว หมากฝรั่ง เป็นต้น การเคี้ยวสิ่งเหล่านี้มากๆ จะเสมือนเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามเกิดการทำงานมากขึ้น ทำให้มีโอกาสกลับมามีขนาดใหญ่เหมือนเดิมได้อีก
  5. งดดื่มแอลกฮอลล์ เป็นเวลาประมาณ 1 วัน หลังจากการฉีด
  6. หลีกเลี่ยงความร้อน การใช้แสงเลเซอร์ และคลื่นไฟฟ้าในบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของคุณสาวๆ แต่ละคนนั้นจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ก่อนการทำหน้าเรียวโดยการฉีดสารโบท็อกซ์นั้น ควรทำการปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง รวมไปถึง การฉีดสารโบท็อกซ็ ก็ควรที่จะทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณสาวๆ เอง

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เจาะลึกเซรั่มหน้าเรียว ช่วยทำให้หน้าเรียวได้อย่างไร

ในยุคที่วิทยาการเสริมความงามมีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ใบหน้าเรียวเนียนสวยเข้ารูป กลายเป็นสิ่งที่คุณสาวๆสามารถที่จะเป็นเจ้าของได้โดยไม่ยากนัก

ไม่ว่าจะเป็นวิธีทางการแพทย์อย่าง เช่น การทำศัลยกรรมเหลากระดูก หรือการฉีดโบท็อกซ์ เป็นต้น รวมไปถึงสารพัดวิธีการที่ช่วยทำให้หน้าเรียวจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการนวดออกกำลังกายกล้ามเนื้อบริเวณผิวหน้า

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการทำให้ใบหน้าเรียวต่างๆ ซึ่งมีขายอยู่หลายยี่ห้อให้คุณสาวๆได้เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตนเอง สำหรับในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆ มาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้ นั่นคือการใช้ “เซรั่มหน้าเรียว

ส่วนเจ้าเซรั่มหน้าเรียวนี้ จะมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆเรียวขึ้นได้อย่างไรนั้น สามารถหาคำตอบได้จากบทความชิ้นนี้เลย

เซรั่มหน้าเรียวคืออะไร

เซรั่ม ไม่ใช่ชื่อของผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง เซรั่มจะมีเนื้อบางเบา มีลักษณะเหมือนกับเจล ที่สามารถซึมซับลงสู่ผิวได้ลึกสู่ชั้นผิวหนังได้มากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในรูปแบบอื่น รวมไปถึงการมีส่วนผสมในการช่วยบำรุงผิวที่ค่อนข้างสูงกว่าเมื่อเทียบกับแบบที่เป็นเนื้อครีม เนื้อเจล หรือเนื้อโลชั่น

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เซรั่มหน้าเรียว จึงกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มของคุณสาวๆผู้รักความสวยความงาม เนื่องจากไม่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรม และมีส่วนผสมที่เข้มข้น ซึ่งสามารถช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้ดูกระชับ เข้ารูป พร้อมกับลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหนังรอบๆ ใบหน้า หน้าผาก ร่องแก้มข้างจมูก บริเวณข้างและใต้ท้องแก้ม รวมถึงลักษณะคางสองชั้น ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้น

เซรั่มหน้าเรียวช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้อย่างไร

เซรั่มหน้าเรียว โดยส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมที่ช่วยปรับหน้าให้เรียวขึ้นได้จริง แต่สามารถใช้ได้ผลเฉพาะกับคุณสาวๆที่มีปัญหาบนใบหน้าจากบางสาเหตุเท่านั้น ดังต่อไปนี้

1. คุณสาวที่มีปัญหาเรื่องผิวบนใบหน้าเสื่อมสภาพ เนื่องจากหลายๆสาเหตุเช่น อายุ มลภาวะ การขาดบำรุง เป็นต้น เซรั่มหน้าเรียวช่วยในการปรับสภาพผิวให้มีความกระชับ ลดรอยริ้ว หย่อนคล้อยของผิวหนังบนใบหน้าที่เกิดขึ้นจากเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ พร้อมกับช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้น เมื่อผิวหน้ากลับมาเต่งตึงอ่อนเยาว์ จึงทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้น

2. คุณสาวที่มีใบหน้าอวบบวมเนื่องจากมีไขมันหรือน้ำสะสมอยู่บนใบหน้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ใบหน้าดูอวบอ้วนจนทำให้ใบหน้าดูไม่เข้ารูป เซรั่มหน้าเรียวจะการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในบริเวณใบหน้า ทำให้ใบหน้าเล็กเรียวลง

3. คุณสาวๆที่ใบหน้าผิดรูปจากปกติ เนื่องจากสาเหตุบางอย่าง เช่น เมื่อทำการจัดฟันแล้วแก้มเกิดรอยบุ๋มขึ้นเป็นต้น เซรั่มหน้าเรียวจะช่วยในการยกเนื้อในส่วนที่หายไปให้ตึงขึ้นทดแทนในส่วนที่ขาดหายไป ทำให้รอยลึกเหล่านั้นหายไป การสะสมตัวของไขมัน เป็นต้น เมื่อใบหน้ากลับเข้าสู่รูปเดิม ก็จะเป็นการช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น

สำหรับคุณสาวๆ ที่มีปัญหาใบหน้าไม่เรียวสวยเข้ารูปเนื่องจากกระดูกกรามและกระดูกโหนกที่ใหญ่ เพียงแค่การใช้เซรั่มหน้าเรียวคงไม่สามารถที่จะช่วยทำให้ใบหน้าเรียวลงได้นัก เพราะเป็นปัญหาในส่วนของกระดูก

ขอแนะนำว่า ควรจะใช้การทำศัลยกรรมเพื่อเหลาตัดเอากระดูกส่วนเกินออกไป จึงจะสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมหน้าเรียว ช่วยทำให้หน้าเรียวได้จริงหรือ?

ปัญหากรามใหญ่ หน้าบวม คางเหลี่ยม คางสั้น จนทำให้ใบหน้าไม่ได้รูปนั้น ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่บั่นท่อนความมั่นใจของคุณสาวๆ มาช้านาน ปัญหาความผิดปกติเหล่านี้สามารถแก้ไขให้เพื่อทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้

ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีวิธีการช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้มากมายหลายอย่าง เช่น การเสริมคาง การฉีดโบท็อก การศัลยกรรม เป็นต้น แต่มีหนึ่งในวิธีการทำหน้าเรียวที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากราคาที่ไม่แพง และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเจ็บตัว นั่นคือ การใช้ครีมหน้าเรียว

ครีมหน้าเรียวช่วยทำให้ใบหน้าเรียวได้จริงหรือ..!?  เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตตลอดกาลจากคุณสาวๆ ช่างสงสัย? สำหรับในวันนี้จึงจะมาช่วยคุณสาวๆ ทำการไขข้อข้องใจในเรื่องนี้กัน

ครีมหน้าเรียวช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวลงได้จริงๆ หรือ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ครีมหน้าเรียวจะสามารถใช้ได้ผลมากหรือน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของอาการด้วย เช่น ถ้าหากคุณสาวๆ ที่มีปัญหากระดูกกรามใหญ่หรือกระดูกโหนกใหญ่มาตั้งแต่กำเนิด

การใช้เพียงครีมหน้าเรียวก็คงไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ เนื่องจากปัญหาเกิดจากกระดูก ซึ่งตัวครีมไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถละลายกระดูกเพื่อช่วยทำให้หน้าเรียวได้ คุณสาวๆ ควรเลือกที่จะใช้วิธีการศัลยกรรมเพื่อตัดหรือเหลากระดูกที่เป็นส่วนเกินออกไปจึงจะทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ ถึงแม้คุณสาวๆ จะใช้ครีมหน้าเรียวยี่ห้อเดียวกัน แต่กลับมีคุณสาวๆที่ใช้แล้วได้ผล ในขณะที่คุณสาวๆ อีกหลายๆคนกลับใช้แล้วไม่ได้ผล เนื่องจากมีคุณสาวๆบางคนใช้วิธีการแก้ปัญหาใบหน้าที่ไม่เรียวที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองนั่นเอง

ถ้าถามว่าครีมหน้าเรียวช่วยทำให้ใบหน้าเรียวสามารถช่วยทำให้หน้าเรียวขึ้นได้จริงๆ หรือไม่?…. ก็ต้องขอตอบว่า “ได้” เพราะเมื่อทำการทาครีมหน้าเรียวไปแล้ว ครีมหน้าเรียวจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

            1. ครีมหน้าเรียวช่วยทำให้ผิวหน้าดูกระชับมากกว่าเดิม เป็นประโยชน์หลักของครีมหน้าเรียวที่มีผลในการช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้มีความเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ครีมหน้าเรียวบางยี่ห้อยังมีคุณสมบัติในการสามารถช่วยยกเหนียง และเนื้อในบริเวณแก้มขึ้นทำให้ใบหน้ากลับเข้ารูปเดิม ซึ่งเป็นการช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น

2. ครีมหน้าเรียวบางยี่ห้อมีผลในการช่วยสลายไขมันบนใบหน้า สำหรับคุณสาวๆที่มีใบหน้าอวบ บวม ในบริเวณคางหรือแก้มบนใบหน้า จนมีคางสองชั้น หรือแก้มเยอะ การทาครีมหน้าเรียวบางยี่ห้อจะมีผลในการช่วยสลายไขมันในบริเวณดังกล่าวให้ลดน้อยลงหรือหายไป เมื่อไขมันหายไป ใบหน้าที่บวม อวบอ้วน ก็จะเริ่มเล็กลงจนกลับเข้ามาสู่รูปหน้าเดิมในที่สุด ซึ่งเป็นการช่วยทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวมากขึ้น

3. ครีมหน้าเรียวบางยี่ห้อมีการผสมสารที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การไหลเวียนของน้ำเหลือง และน้ำเหลืองที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าให้สามารถไหลย้อนกลับได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยการลดอาการบวมบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้น

            โดยสรุปแล้ว จากข้อมูลที่ได้กล่าวถึงไปในตอนต้น ครีมหน้าเรียวสามารถช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้ แต่เหมาะกับคุณสาวๆที่มีใบหน้าอวบ บวม ซึ่งเกิดจากการไหลเวียนของโลหิต หรือการไหลเวียนของน้ำเหลืองในบริเวณใบหน้าที่ไม่สะดวก รวมไปถึงปัญหาไขมันที่สะสมตัวอยู่ในบริเวณใบหน้า แก้ม คางเป็นจำนวนมาก

คุณสาวๆ ที่มีปัญหาในเรื่องผิวหนัง เนื้อในบริเวณใบหน้าคล้อยต่ำ ไม่กระชับ จนทำให้ใบหน้าไม่เข้ารูปเดิม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยครีมหน้าเรียว แต่อย่างไรก็ตาม ครีมหน้าเรียวนั้นไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาคุณสาวๆ ที่มีใบหน้าใหญ่เพราะมีกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่มากได้ อย่างมากก็เพียงแค่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อได้เท่านั้น

สำหรับคุณสาวๆที่สงสัยว่าแก้มหรือขากรรไกรที่ใหญ่ออกมาจนผิดปกติ จนทำให้ใบหน้าดูบวมไม่เรียวเล็กนั้นเป็นเพราะปัญหาเรื่องไขมัน โลหิต น้ำเหลือง หรือกล้ามเนื้อ สามารถทำการทดสอบได้ด้วยตัวเอง โดยการกัดฟันให้แน่นแล้วใช้มือจับบริเวณกราม และแก้มดูว่า มีกล้ามเนื้อหรือไม่ ถ้าหากมีกล้ามเนื้อมากควรทำการลดกล้ามเนื้อโดยการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อสลายกล้ามเนื้อที่ใบหน้าแทน

การรู้จักคุณสมบัติและทำความเข้าใจในครีมหน้าเรียว จะเป็นการช่วยตอบคำถามที่ว่าครีมหน้าเรียวนั้นสามารถใช้ได้ผลจริงๆหรือไม่  แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณสาวๆ ต้องการที่จะใช้ครีมหน้าเรียว ก็ควรที่จะระมัดระวังหลีกเลี่ยง การใช้ครีมหน้าเรียวที่มีการอวดอ้างสรรพคุณว่า สามารถช่วยทำให้ใบหน้าเรียวสวยขึ้นได้ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน  เพราะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินความเป็นจริง

ที่สำคัญคือ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครีมหน้าเรียว ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณสาวๆเอง ไม่เช่นนั้น ขืนเชื่อคำโฆษณาอวดอ้างมากระวังหน้าจะแหกไม่ทันรู้ตัว จะได้ไม่ต้องมาเสียเงิน เสียเวลาในการรักษา ชนิดที่เรียกได้ว่าขาดทุนยับเยินในภายหลัง

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.