หุ่นสวยดูดีด้วยการกินกล้วยลดความอ้วน

            วิธีการลดน้ำหนักมีหลากหลายวิธีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกระชับหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม หรือรับประทานอาหารในปริมาณน้อย ซึ่งในหนึ่งวันของบางคนแทบจะไม่ได้เอาอะไรลงท้องเลย โดยเชื่อว่าหากไม่ได้รับประทานเข้าไปจะช่วยให้การลดความอ้วนได้ผล จริงๆแล้วน้ำหนักที่ลดลงไม่จำเป็นต้องทรมานขนาดนั้น เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณที่พอเหมาะ ถือเป็นวิธีที่ถูกต้องมากที่สุด วันนี้เราขอนำเสนอการกินกล้วยลดความอ้วน ที่จะช่วยให้หุ่นของเรากลับมาเพรียวขึ้น โดยไม่ต้องทุกข์ระทมกับการอดอาหาร กับแนวทางที่ว่า “กินกล้วยลดความอ้วนกี่ลูกก็ได้ตามใจควบคู่กับน้ำเปล่า”

วิธีลดหุ่นด้วยการกินกล้วย
1.กินกล้วยลดความอ้วน ด้วยการเริ่มจากกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า จะกี่ลูกก็ได้ตามต้องการ โดยควรเคี้ยวให้ละเอียด
2.หลังจากรับประทานกล้วยแล้วหากยังหิวอยู่ ให้เว้นระยะเวลา 15-30 นาที จึงรับประทานอย่างอื่น เช่น ข้าว เป็นต้น
3.ถ้าวันไหนเบื่อกล้วย หรือใครที่ไม่ชอบกล้วยหอมจริงๆ สามารถเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นแทนได้ แต่ขอให้เป็นผลไม้ชนิดเดียวเท่านั้น เพื่อแบ่งเบาภาระกระเพาะของเราไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะผลิตน้ำย่อย
4.ดื่มเฉพาะน้ำเปล่าที่มีอุณหภูมิห้อง และให้ดื่มบ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณ
5.สำหรับมื้อกลางวัน จะรับประทานอะไรก็ได้เต็มที่ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อลดการกินจุบกินจิบระหว่างวัน
6.พอถึงสักบ่ายสามโมง ก็สามารถรับประทานของว่างได้บ้าง โดยเฉพาะอาหารประเภทข้าว ช็อกโกแลต หรือผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น และควรรับประทานอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 6 โมงเย็น ไม่ควรเกิน 2 ทุ่ม ที่สำคัญพยายามรับประทานให้เร็วขึ้นจากปัจจุบันสักครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ต้องงดของหวานหลังอาหารเย็น
7.นอนหลับให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้
8.ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายที่พอเหมาะ ไม่หักโหมจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายสดชื่นอยู่เสมอ

สารอาหารที่ได้จากกล้วย
1.วิตามินบี1 และบี 2 ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันในร่างกาย ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า
2.เกลือแร่ เช่น โปรแตสเซียม ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ รวมถึงแมกนีเซียม ที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต และการทำงานของแคลเซียม
  3.เส้นใยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูกได้ดี
  4.มีฤทธิ์ในการขับพิษสูง เพราะแป้งในกล้วยดิบจะช่วยดีท็อกซ์ ส่วนกล้วยสุกช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานป้องกันหวัดได้ดี
5.สารโพลีฟินอล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่ชะลอความแก่

            6.สารยูจินอล ซึ่งเป็นไฟโตเคมีคัล ที่ช่วยเร่งการพัฒนาสภาพร่างกาย
7.เซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิด โมโหง่าย และทำให้ความอยากอาหารลดลง
8.มีเอ็นไซม์ช่วยย่อย ที่จะทำให้การย่อยเป็นไปอย่างราบรื่น
9.น้ำตาลในกล้วย ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น และส่งผลให้ความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันลดลง
 10.มีผลวิจัยว่ากล้วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ NK ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่จัดการมะเร็ง
 สำหรับผู้ที่สงสัยว่า กล้วยช่วยลดน้ำหนัก ลดความอ้วนได้จริงหรือไม่ สิ่งที่บอกไปข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐาน หากท่านลองพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วจะพบคำตอบที่แท้จริง ซึ่งมีผู้คนมากมายทั่วโลกที่ใช้วิธีกินกล้วยลดความอ้วนแล้วได้ผล โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น วิธีนี้นำมาจากหนังสือของฮามาจิ เรื่อง “ผอมสวย กล้วยช่วยคุณได้” โดยนำเสนอวิธีไดเอ็ทด้วยการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า เป็นวิธีที่แสนง่ายแต่ได้ผล จึงอยากให้ทุกท่านลองนำไปปฏิบัติกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บุกลดน้ำหนักได้ผลจริงหรือ?

       หลายคนอาจสงสัยว่าผงบุกที่โฆษณากันโคมๆว่าสามารถลดน้ำหนักได้ พิสูจน์แล้ว เห็นผลจริง ที่สำคัญหาซื้อง่าย มีขายตามท้องตลาดทั่วไป และเป็นที่นิยมอย่างมากในการซื้อขายกันทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งบุกมักทำออกมาในรูปแบบผงบรรจุแคปซูล จึงเรียกกันติดปากว่า “ผงบุก” จริงๆแล้วบุกนั้นมีทั้งประโยชน์และผลข้างเคียงที่ผู้ต้องการลดน้ำควรรับประทานอย่างระมัดระวัง บทความนี้จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบุกทั้งด้านดีและโทษ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกใช้บุกลดน้ำหนักกัน

บุกคืออะไร

หัวบุกเป็นพืชล้มลุกคล้ายพืชตระกูลมัน มีสารสำคัญที่เรียกว่า “กลูโคแมนแนน” ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นน้ำตาลกลูโคสและแมนโนส เมื่อสกัดแยกออกมาจะเป็นผงแห้ง หากนำไปละลายน้ำจะได้วุ้นใยอาหารธรรมชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม “วุ้นบุก” ซึ่งสามารถพองตัวและดูดน้ำได้มากถึง 200 เท่าที่อุณหภูมิปกติ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่คงทนต่อน้ำย่อยในกระเพาะ จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มมีอาการของโรค หากรับประทานบุกก่อนเวลาอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง การพองตัวของมันจะช่วยให้การรับประทานอาหารได้น้อยลง แต่อิ่มได้นานขึ้น จึงเหมาะสำหรับใช้ลดความอ้วน นอกจากนี้ บุกยังช่วยดูดซับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินจากอาหาร และไปกับเคลือบผนังกระเพาะหรือลำไส้ ลดการดูดซับไขมันและน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อรับประทานพร้อมดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เพราะเมือกวุ้นจะเข้าไปห่อหุ้มกากอาหาร ทำให้เกิดการขับถ่ายของเสีย หรือสารพิษที่ตกค้างในระบบทางเดินอาหารออกจากร่างกาย

ประโยชน์จากบุก

บุกสามารถนำมาปรุงอาหารสำหรับผู้เป็นโรคอ้วน และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดการดูดซับไขมันและน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน น้ำตาลและไขมันในเลือดสูง ทั้งยังช่วยในการขับของเสีย สารพิษออกจากร่างกาย เร่งการเผาผลาญ ที่สำคัญช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากบุกมีคุณสมบัติในการพองตัวและดูดน้ำได้ดี

ผลข้างเคียงจากบุก

ผู้ที่รับประทานบุกลดน้ำหนักจะรู้สึกหิวน้ำ เพราะบุกมีคุณสมบัติดูดน้ำได้มาก หากดื่มน้ำไม่เพียงพอกับการพองตัวของผงบุกอาจทำให้เกิดอาการกระหายน้ำได้ ในบางรายอาจมีอาการคอแห้งปากแห้งด้วย จึงจำเป็นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรืออาจเพิ่มขึ้นอีกตามความเหมาะสม ที่สำคัญ ผงบุกลดน้ำหนักบรรจุแคปซูลควรรับประทานแค่วันละ 1 เม็ดเท่านั้น โดยรับประทานก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง

 อย่างไรก็ดี ผงบุกที่ขายกันทั่วไปอาจไม่มีคุณภาพ หรือเป็นผงบุกปลอมก็ได้ ยิ่งถ้าผู้ใช้บุกลดน้ำหนักมีอาการแพ้ยา ผลข้างเคียงจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก ดังเช่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 รายการครอบครัวข่าวเช้าได้รายงานข่าวว่า พบผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการกินยาลดความอ้วน เป็นหญิงสาวชาวสกลนครที่ซื้อผงบุกแคปซูลจากตลาดนัด แต่เกิดอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง จนผิวหนังหลุดลอกคล้ายถูกไฟไหม้ โดยอาการแพ้ชนิดนี้เรียกว่า  SJS กลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสันซินโดรม เป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง

       และเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 ไทยรัฐออนไลน์ได้เผยแพร่ข่าวเตือนภัยแคปซูลผงบุก ตรวจพบเป็นยาปลอม โดยคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า หญิงสาวที่ซื้อแคปซูลผงบุกมาบริโภคเพื่อต้องการลดความอ้วน มีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง เพราะจากการตรวจสอบโดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พบผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของยาไซบูทรามีน ซึ่งปัจจุบัน อย. ได้เพิกถอนยาไซบูทรามีนออกจากตลาดแล้ว เนื่องจากข้อมูลการทดลองชี้ให้เห็นว่า ยาดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงต่อกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ และระบุว่าเลขทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิกแล้ว จึงถือเป็นยาปลอม

       ดังนั้น ถือได้ว่าบุกลดน้ำหนักมีทั้งคุณประโยชน์ที่แสนพิเศษ และผลข้างเคียงที่ต้องรับประทานกันอย่างระมัดระวัง ยิ่งสังคมสมัยนี้ผู้บริโภคมักถูกเอารัดเอาเปรียบ จะรักสวยรักงามกันเพียงใดก็อย่าให้ถึงขั้นหน้ามืดตามัวทจนไม่มีสติในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ตนเลือกใช้ก็แล้วกัน ที่สำคัญ หากลดหุ่นให้กระชับดูดีภายนอกแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องดูดีจากข้างในด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

​“โยเกิร์ต” เมนูลดน้ำหนักที่ได้ผล

       “โยเกิร์ต” หลายคนอาจยังสงสัยว่ามันคือเมนูลดน้ำหนักที่ได้ผลจริงหรือ? คำตอบคือจริงแท้แน่นอน เพราะโยเกิร์ต (Yogurt) คือ ผลิตภัณฑ์จากนมที่เกิดจากการหมักระหว่างนมและโปรไบโอติกส์ หรือแบคทีเรียชนิดดีที่ยังมีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไป แบคทีเรียเหล่านี้จะไปสร้างความสมดุลให้จุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นเป็นปกติ ทั้งยังเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย

โยเกิร์ตมีประโยชน์อย่างไร

ในโยเกิร์ต 1 ถ้วย (ที่เป็นแบบไขมันต่ำ) นอกจากจะมีแบคทีเรียชนิดดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังมีสารอาหารมากกว่า 11 ชนิด ได้แก่ ไอโอดีน แคลเซียม ฟิสฟอรัส วิตามันบี 2 วิตามันบี 5 วิตามันบี 12 โปรตีน ทริปโทฟาน โปตัสเซียม โมลิปเดนัม และสังกะสี

ทั้งนี้ จากผลวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ผู้หญิงที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของแบคทีเรียในอาหารประเภทโยเกิร์ต สามารถลดน้ำหนักได้ง่ายกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้รับประทานโยเกิร์ต เพราะแบคทีเรียที่พบในอาหารจำพวกนี้ จะช่วยสลายน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต ที่เป็นส่วนสำคัญทำให้ร่างกายสะสมแป้งและน้ำตาลไว้ในรูปไขมัน เมื่อมีแบคทีเรียไปทำลาย ส่งผลให้ไขมันในร่างกายย่อยสลายและขับถ่ายออกมา เป็นผลดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้อง อันเนื่องมาจากอาการท้องอืด ขับถ่ายผิดปกติ

ทำไมรับประทานโยเกิร์ตแล้วน้ำหนักไม่ลด

ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตที่วางเรียงรายหน้าเชลฟ์ หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ คำโฆษณาที่ว่า ไขมัน 0% สูตรธรรมชาติ ไม่มีน้ำตาล ฯลฯ ประโยคชวนเชื่อทั้งหมดทำให้เราวางใจ ฟันธงไปว่าช่วยลดน้ำหนักได้แน่นอน เมื่อได้สัมผัสกับรสหวานนุ่มเย็นๆ จะคิดไปว่ารับประทานโยเกิร์ตยังไงก็ไม่อ้วน หารู้ไม่ว่าในเมนูลดความอ้วนแสนอร่อยนี้ มีสารอาหารไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย

ดังนั้น ถ้าไม่อ่านฉลากส่วนผสมเสียก่อน จะไม่รู้เลยว่าโยเกิร์ตที่บอกว่าทำจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่เสริมเติมแต่ง มันจริงแท้ประการใด ซึ่งส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมอื่นๆมาแล้ว เพื่อให้รสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภคมากขึ้น จึงควรอ่านฉลากก่อนซื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกด้วยคำโฆษณา

โยเกิร์ต 1 ถ้วย โดยประมาณแล้วควรมีสารอาหาร ได้แก่ 80 แคลอรี่ ไขมัน 0 กรัม น้ำตาล 6 กรัม และโปรตีนอีก 15 กรัม ส่วนใหญ่โยเกิร์ตแบบธรรมชาติเพียวๆ มักมีรสชาติไม่น่าพิสมัย แนะนำให้ใส่ผลไม้ที่มีรสหวานลงไปแทน ดีกว่ารับประทานโยเกิร์ตหวานโดยการปรุงแต่ง สำหรับสารอาหารที่ไม่เหมาะสมในโยเกิร์ต 1 ถ้วย ซึ่งผู้ผลิตมักดึงดูดความสนใจด้วยคำว่า Fat Free ไขมันต่ำ หรือไขมัน 0% บนฉลาก พอเห็นเช่นนี้เราก็เชื่อใจ ไม่อ่านส่วนผสม ซึ่งจริงๆแล้วมันซ่อนไขมันอันตรายและน้ำตาลเอาไว้สูงมาก ได้แก่ 170 แคลอรี่ ไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัว 1.5 กรัม น้ำตาล 27 กรัม และโปรตีน 4 กรัม ฉะนั้น เราควรอ่านทุกอย่างให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ

สูตรโยเกิร์ตลดน้ำหนัก

1.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ครึ่งถ้วย ยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อผลไม้

2.นมสดรสจืดแบบ UHT ชนิดที่เป็นนมโคแท้ 1 แก้ว

3. มะนาว ครึ่งลูก

4.น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา

วิธีการคือ เริ่มจากบีบน้ำมะนาวใส่แก้ว จากนั้นเติมน้ำผึ้ง 1- 2 ช้อนชา ตักโยเกิร์ตครึ่งถ้วยลงไป แล้วตามด้วยนมสด คนส่วนผสมทั้ง 4 ให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ยกช้อนขึ้นดูว่าน้ำผึ้งไม่ติดแล้ว เป็นอันเสร็จวิธีทำโยเกิร์ตสูตรเมนูลดน้ำหนัก ที่สำคัญคือควรรับประทานทันที อย่าตั้งทิ้งไว้หรือนำไปแช่ตู้เย็น

 เมนูลดน้ำหนักนี้เป็นสูตร์ไม่ตายตัว หากรสชาติยังไม่ถูกปาก ถึงขนาดรับประทานไม่ได้ สามารถเพิ่มน้ำผึ้งและมะนาวได้อีกตามความชอบ แต่ระวังปริมาณของน้ำผึ้ง เพราะไม่เหมาะกับผู้เป็นเบาหวาน หรือถ้าใครชอบรับประทานผลไม้ ก็สามารถหั่นใส่เพิ่มได้เล็กน้อย อย่างไรก็ดี สูตรโยเกิร์ตนี้เป็นเมนูลดน้ำหนักที่เน้นล้างลำไส้ ให้ขับถ่ายของเสียออกมาได้ดีขึ้นแบบธรรมชาติ แนะนำให้รับประทานตอนเช้าหลังจากดื่มน้ำสัก 1-2 แก้ว และถ้าใช้สูตรโยเกิร์ต ควบคู่กับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ครบถ้วนกระบวนการ เห็นผลชัดขึ้นแน่นอน

นอกจากอาหารประเภทโยเกิร์ตที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักที่น่าสนใจอีกหลายชนิดที่คุณควรทราบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประยุกต์นำไปใช้ในการลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งสารอาหารที่น่าสนใจ ที่ควรเสริมแก่ร่างกายได้แก่ อาทิเช่น

1.สารสกัดชาเขียว มีส่วนประกอบของ “คาเดซิน” ในชาเขียว ช่วยในการกำจัดไขมันในร่างกาย และช่วยให้การออกซิเดชั่นไขมันในร่างกายดีขึ้น และยังช่วยในการเร่งเผาผลาญไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังมีสารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันมะเร็งอีกด้วย
2.สารสกัดจากผลส้มแขก ช่วยในการยับยั่งการสะสมไขมันส่วนเกินใหม่ และลดความอยากอาหารให้น้อยลง
3.สารสกัดจากถั่วขาว มีสารที่ทำให้เอนไซม์ อะไมเลสเป็นกลาง ทำให้เวลาทานอาหารประเภทแป้งเข้าไป จะยับยั้งไม่ให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแป้งให้กลายเป็นน้ำตาล

สารอาหารเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากจากทั่วโลก ในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักหลายชิ้น ที่มีส่วนผสมของสารสกัดเหล่านี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่น่าสนใจมากที่สุด และได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักมากที่สุดในปัจจุบัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กาแฟลดน้ำหนัก ลดชัวร์ หรือมั่วนิ่ม

       ในปัจจุบัน ได้มีการคิดค้นวิธีการลดน้ำหนักออกมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยาลดความอ้วน อาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดของพืช ผัก ผลไม้และสัตว์สารพัดชนิด ซึ่งล่าสุดเองก็ได้มีการคิดค้นกาแฟลดน้ำหนักขึ้นมา เพื่อเอาใจเหล่าสาวๆคอกาแฟ ซึ่งสำหรับในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆ ไปทำการเจาะลึกในเชิงข้อมูลว่า เจ้ากาแฟลดน้ำหนักที่ว่านี้ มันสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้จริงๆ ชัวร์ หรือมั่วนิ่ม?

กาแฟช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างไร

กาแฟ มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และช่วยลดน้ำหนักให้น้อยลงได้  เนื่องจากสารคาเฟอีน สามารถกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้สดใสมากขึ้น และยังช่วยลดความเหนื่อยล้าให้น้อยลงอีกด้วย ในทางการแพทย์ได้รับการยืนยันว่า กาแฟมีคุณสมบัติเป็น Thermogenesis ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ไขมันในส่วนต่างๆของร่างกายถูกสลายตัวให้กลายเป็นพลังงานความร้อน นอกจากนี้ยังช่วยในการขับปัสสาวะทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างชั่วคราว ด้วยสรรพคุณของกาแฟดั่งที่ได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น ทำให้ในปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเสริมลดน้ำหนัก ได้มีการนำเอากาแฟมาเป็นส่วนผสมเพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก จนกระทั่งเกิดกาแฟลดน้ำหนักขึ้น

ผลิตภัณฑ์กาแฟลดน้ำหนักสำเร็จรูปช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่า

ถึงแม้ว่ากาแฟจะมีคุณสมบัติที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย แต่ก็เป็นผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเสมือนเป็นเพียงตัวเสริมที่ช่วยส่งผลให้น้ำหนักลดลงเร็วมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีผลวิจัยใดที่มารับรองว่า การดื่มกาแฟเพียงอย่างเดียวจะสามารถช่วยทำให้ผอมลงได้ โดยที่ไม่ต้องออกกำลังกายเลย ดังนั้น ถ้าหากคุณสาวๆต้องการซื้อหากาแฟลดน้ำหนักมาดื่มจริงๆแล้วล่ะก็ ควรทำการพิจารณาให้ดีก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นมีส่วนผสมอื่นๆอะไรบ้าง เพราะการที่น้ำหนักลดลงได้โดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารควบคู่กันไปเลยนั้น อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของสารสกัดอื่นๆที่ผสมอยู่ในกาแฟลดน้ำหนัก เช่น สารสกัดจากถั่วขาว สารสกัดจากส้มแขก เป็นต้น ซึ่งถ้าหากน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วมากจนผิดธรรมชาติ ให้ทำการตั้งข้อสงสัยเอาไว้ก่อนเลยว่า อาจจะมีการผสมยาลดน้ำหนักลงไปในผลิตภัณฑ์กาแฟลดน้ำหนักชิ้นนั้น ซึ่งนั่นจะยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวคุณสาวๆมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สูตรกาแฟลดน้ำหนักฉบับทำเองง่ายๆที่บ้าน

สำหรับคุณสาวๆคอกาแฟที่อยากลดน้ำหนักโดยวิธีนี้ แนะนำว่าให้ทำการดื่มกาแฟอเมริกาโน่ร้อน 2 ช๊อต ก่อนการทานอาหารเช้า 30 นาที และก่อนออกกำลังกายในตอนเย็นอีก 30 นาที ซึ่งกาแฟลดน้ำหนัก จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการเบิร์นไขมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกายให้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณสาวๆคนไหนที่ยังไม่สามารถดื่มกาแฟอเมริกาโน่ที่มีรสขมได้ ขอแนะนำว่าให้ลองเริ่มต้นจากกาแฟอื่นๆ เช่น ลาเต้ร้อน หรือเย็น จากนั้นจึงค่อยๆลดความหวานขอกาแฟลงทีละน้อยๆ เมื่อเริ่มชินกับรสชาติกาแฟแล้ว คุณสาวๆก็จะสามารถดื่มกาแฟดำได้ในที่สุดอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรที่จะดื่มกาแฟหลังการออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำมากขึ้นกว่าปกติ

ข้อควรระวังในการดื่มกาแฟเพื่อลดน้ำหนัก

ถึงแม้วว่ากาแฟ จะถูกร่างกายดูดซึมอย่างรวดเร็ว และไม่สะสมอยู่ภายในร่างกาย เนื่องจากถูกขับออกไปถึงครึ่งหนึ่งในระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่กับคนที่ชอบใส่ครีมเทียม หรือน้ำตาลลงไปในกาแฟเป็นจำนวนมากๆ หรือเหล่ากาแฟสดที่มักจะมีการผสมน้ำตาล นมข้นหวาน ครีมสด ลงไปเป็นสูตรผสมลับที่จะช่วยทำให้กาแฟมีรสชาติที่กล่อมอร่อยมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณสาวๆคอกาแฟต้องพยายามหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากกาแฟลดน้ำหนักจะไม่ได้ผลแล้ว ก็อาจจะทำให้คุณสาวๆมีน้ำหนักตัวมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีกต่างหาก

      นอกจากนี้ การดื่มกาแฟมากกว่า 2 แก้วต่อวัน อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ในระยะยาว โดยเฉพาะการดื่มกาแฟลดน้ำหนักปริมาณมากๆ ราว 4-7 ในวันเดียว เพราะการดื่มปริมาณมากๆ จะส่งผลข้างเคียง คือ ทำให้นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย สับสน อารมณ์แปรปรวน คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ วิตกกังวล เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ถั่วขาวลดน้ำหนัก ความมหัศจรรย์จากพืชใกล้ตัวคุณ

ในปัจจุบัน ได้เริ่มมีการพูดถึงวิธีการลดน้ำหนักโดยใช้สารสกัดจากพืช ผัก ผลไม้จากธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งนักค้นคว้าพยายามวิจัยหาส่วนประกอบของสารที่ช่วยในการลดน้ำหนักมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเห็นว่าที่จริงแล้ว บรรดาพืชผักใกล้ตัวที่เรามองข้ามไป ก็มีหลายอย่างที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดน้ำหนัก สำหรับบทความในวันนี้ ก็จะขอพาคุณสาวๆไปรู้จักกับพืชใกล้ตัวอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เจ้าพืชดังกล่าวก็คือ ถั่วขาวลดน้ำหนัก นั่นเอง

ถั่วขาว พืชสารพัดประโยชน์

ถั่วขาว เป็นหนึ่งในพืชตระกูลถั่ว มีต้นกำเนิดในแถบประเทศแมกซิโก กัวเตมาลา สามารถเติบโตได้ในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งในประเทศไทยเพิ่งมีการนำมาทดลองปลูกได้ไม่นานนัก ถั่วขาวที่มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ อาทิเช่น โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และมีใยอาหารสูงทำให้รู้สึกอิ่มได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่พิเศษที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า ถั่วขาวลดน้ำหนักของคุณสาวๆให้น้อยลงได้

ถั่วขาวลดน้ำหนักได้อย่างไร

ถั่วขาวลดน้ำหนัก ถ้าฟังเพียงเท่านี้ คุณสาวๆก็คงจะจินตนาการภาพตามไม่ออกว่า ถั่วขาวเม็ดเล็กๆอย่างนั้น มันจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร.? แต่เห็นเม็ดเล็กแบบนี้ก็อย่าพึ่งดูถูก เพราะถั่วขาวลดน้ำหนักของตัวคุณได้จริง จากสรรพคุณ ดังต่อไปนี้

       สารสกัดในถั่วขาว คือ ฟาซีโอลามิน (Phaseolamin) ที่มีคุณสมบัติสำคัญในการยับยั้งการทำงานของเอลไซม์ แอลฟา-อะไมเลส (Alpha – amylase) ซึ่งทำหน้าที่ในการย่อยสลายแป้งให้เล็กลงจนกระทั่งกลายเป็นน้ำตาลหลายโมเลกุล (Oligosacckaride) หรือ น้ำตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharide) เมื่อแป้งผ่านกระบวนการเหล่านี้แล้ว จึงจะเข้าไปสู่กระบวนการย่อยสลายจนกลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว และถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ในท้ายที่สุด สารสกัดจากถั่วขาว จะเข้าไปทำการยับยั้งกระบวนการย่อยสลายดังกล่าว ทำให้การย่อยสลายแป้งใช้ระยะเวลานานขึ้น หรือถูกย่อยสลายได้น้อยลง ทำให้แป้งเหล่านั้นโดยส่วนใหญ่ถูกขับออกจากทางร่างกายทางอุจาระมากขึ้น เมื่อร่างกายได้รับแป้งน้อยลง ทำให้น้ำหนักตัวลดน้อยลงตามไปด้วย หากกล่าวอย่างง่ายๆก็คือ ถั่วขาวจะช่วยจัดการกับคาร์โบไฮเดรตที่เกินความจำเป็นต่อร่างกายนั่นเอง ช่วยลดการสะสมของไขมันใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เนื่องจากมีปริมาณของใยอาหารในถั่วขาวที่สูงมากนั่นเอง

       คุณสาวๆบางคนอาจจะสงสัยว่า สิ่งที่ทำให้เกิดความอ้วนไม่ใช่เฉพาะไขมันหรอกหรือ แต่ที่จริงแล้วการรับคาร์โบไฮเดรตที่แฝงตัวมากับอาหารในมื้อต่างๆ เช่น ข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย เป็นต้น ถ้าหากได้รับในปริมาณที่มากจนเกินความจำเป็น ก็จะส่งผลให้เกิดความอ้วนได้ไม่แตกต่างไปจากการรับประทานไขมันเลย ถ้าหากต้องการควบคุมน้ำหนักจริงๆ จึงจำเป็นที่จะต้องควบคุมปริมาณของคาร์โบไฮเดรตด้วย เมื่อร่างกายได้รับพลังงานจากการเผาผลาญแป้งได้น้อยลงจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ร่างกายก็จะมีการดึงเอาไขมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกายออกมาใช้มากขึ้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักลดลง 

การรับประทานถั่วขาวเพื่อลดน้ำหนัก

ในปัจจุบันถั่วขาวลดน้ำหนัก ในรูปแบบของสารสกัดจากถั่วขาว ได้รับการยอมรับนำไปผสมกับเครื่องดื่ม อาหาร และอาหารเสริมต่างๆ เพื่อใช้ในการควบคุมน้ำหนักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถ้าหากต้องการทาถั่วขาวเพื่อลดแป้งให้เป็นน้ำตาลนั้น จะต้องทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัม ต่อวัน ดังนั้นสำหรับคุณสาวๆที่อยากซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากถั่วขาว ก็ควรที่จะตรวจดูปริมาณส่วนประกอบของถั่วขาวด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม คุณสาวๆไม่ควรที่จะคาดหวังกับการลดน้ำหนัก โดยการรับประทานสารสกัดจากถั่วขาวเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากไม่ลด ละ เลิก พฤติกรรมตามใจปาก ไม่ยอมออกกำลังกาย แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะทานถั่วขาวมากสักเท่าไหร่ ก็คงจะไม่ช่วยทำให้ความอ้วนลดลง และยังกลายเป็นปัญหาสะสมที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

“วิธีลดสัดส่วน ลดน้ำหนัก ดูดีหุ่นสวยใน 1 เดือน “

    คุณสาวๆทราบหรือไม่ว่า เพียงแค่ “การดื่มนม” ก็สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้แล้ว ส่วนเรื่องที่ว่านมจะเป็นวิธีลดน้ำหนักได้อย่างไรนั้น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากภายในบทความชิ้นนี้กันได้เลย

นมช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างไร

นม มีคุณสมบัติในการช่วยเผาผลาญไขมัน โดยดารช่วยควบคุมเมตาโบลิซึม หรือขบวนการเผาผลาญของร่างกานให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น จึงทให้นมกลายมาเป็นหนึ่งในวิธีลดน้ำหนักที่ได่รับความนิยมจากทั่วโลก ดังต่อไปนี้

      1.แคลเซียมในนม จะเข้าไปขัดขวางการสร้าง และสะสมตัวของไขมัน เมื่อการสร้างและสะสมไขมันลดลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญได้ดีมากยิ่งขึ้น 

2.วิตามินดีในนม ที่ช่วยส่งผลต่อดีต่อการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

3.นมช่วยทำให้รู้สึกอิ่ม เกิดความพึงพอใจ จนไม่เกิดความอยากอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีความหวานทั้งหลายอีกด้วย

      4.ฟอสฟอรัสและแมกนีเซียมในนม ยังเป็นแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขัดขวางการสร้าง หรือสะสมตัวของไขมันในร่างกาย

 5.โปรตีนในนม ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราในกระบวนการเมตาบอลิซึ่มให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

       จากการทดลองในสหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาในการทดลอง 24 สัปดาห์ พบว่า วิธีลดน้ำหนักของกลุ่มของผู้ที่บริโภคนมพาสเจอร์ไรซ์ไขมันต่ำในปริมาณ 3-4 ขวด หรือ การดื่มนมสดพาสเจอไรซ์ ชนิดพร่องมันเนยขนาด 180 มิลลิลิตร จำนวน 3-4 ขวด ต่อวัน ช่วยทำให้สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ทำการดื่มนม

       จากการวิจัย โดยการติดตามคนอ้วนกว่า 300 คน ที่มีอายุระหว่าง 40-65 ปี ซึ่งมีการควบคุมน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารไขมันต่ำ คาร์โบไฮเดรตต่ำ หรือการไดเอทแบบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นระยะเวลา 2 ปี พบว่า กลุ่มที่มีการรับประทานแคลเซียมสูง ประมาณ 580 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบได้เท่ากับการดื่มนม 2 แก้ว สามารถทำการลดน้ำหนักได้ถึง 12 ปอนด์ ใน 2 ปี เลยทีเดียว ส่วนกลุ่มที่มีการรับประทานแคลเซียมต่ำ ปริมาณเพียง 150 มิลลิกรัม หรือเทียบได้กับนมปริมาณครึ่งแก้วต่อวัน สามารถลดน้ำหนักไปได้เพียง 7 ปอนด์ ในระยะเวลา 2 ปี เท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอีกชิ้น ที่ทำการศึกษาใน 90 ประเทศ ทั่วโลก ที่ช่วยชี้ให้เห็นว่า การรับประทานผลิตภัณฑ์นม 3-4 หน่วย บริโภคต่อวัน มีผลโดยตรงที่ช่วยทำให้น้ำหนักตัวลดลงอีกด้วย

หลักการลดน้ำหนักที่ถูกต้องสำหรับนักดื่มนม

       สำหรับคุณสาวๆที่อยากจะลองหันมาใช้วิธีการลดน้ำหนักโดยการดื่มนม ขอแนะนำว่าให้ทำความเข้าใจกับวิธีการที่ถูกต้องจากในบทความชิ้นนี้ก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

ในการดื่มนมเพื่อช่วยในการลดความอ้วนนั้น ควรทำการเลือกประเภทของนมที่มีแคลเซียมและโปรตีนสูง แต่ให้ปริมาณพลังงานที่ต่ำ อาทิเช่น นมสูตรพร่องมันเนย นมสูตรแคลเซียม โยเกิร์ตพร้อมดื่มพร่องมันเนย เป็นต้น แต่ถ้าจะให้ดีคุณสาวๆควรจะลองพยายามเลือกหานมประเภทขาดมันเนย ซึ่งจะช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีมากที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเลือกนมที่เป็นรสจืด หรือรสธรรมชาติ เนื่องจากจะปราศจากน้ำตาล

สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มนมในปริมาณมากๆ ให้พยายามเลือกนมในปริมาณที่ให้แคลลอลี่ไม่เกิน 70-80 กิโลแคลอลี่ ต่อหนึ่งกระป๋อง หนึ่งขวด หรือหนึ่งกล่อง เช่น นมตราหมีกระป๋องเล็กๆ เป็นต้น และห้ามดื่มเกินวันละ 1 กระป๋อง หนึ่งขวด หรือหนึ่งกล่อง

คุณสาวๆคงจะเห็นกันแล้วว่า ในน้ำหนมนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามวิธีลดน้ำหนักโดยการดื่มนมนั้น ควรจะดื่มให้เป็นประจำสม่ำเสมอ หรือถ้าจะให้ดีก็ให้ดื่มจนกระทั่งติดกลายเป็นนิสัยเลยจะเป็นการดีที่สุด

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดความอ้วน ด้วยการทานดาร์กช๊อกโกแลต

ช๊อกโกแลต เป็นหนึ่งในขนมหวานที่คุณสาวๆส่วนใหญ่ให้ความชื่นชอบ แต่ขึ้นชื่อว่า “ขนมหวาน” คุณสาวๆส่วนใหญ่ก็มักที่จะเกิดภาพขึ้นในหัวว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อ้วน เนื่องจากอุดมไปด้วยไขมัน และน้ำตาล แต่ที่จริงแล้วสาเหตุที่ทานช๊อกโกแลตแล้วทำให้อ้วนนั้น หลักการมันก็ไม่ได้แตกต่างจากอาหารประเภทอื่นๆโดยทั่วไป ที่เมื่อรับประทานมากจนเกินความพอดี ก็มักที่จะก่อให้เกิดการสะสมจนเกิดเป็นความอ้วนได้เช่นกัน สำหรับการทานช๊อกโกแลตเอง ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายมิใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดคอเรสเตอรอล และความดันโลหิต เป็นต้น โดยเฉพาะเจ้าดาร์กช๊อกโกแลต ที่มีคุณสมบัติพิเศษ และวิธีลดความอ้วนได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

 

ดาร์กช๊อกโกแลตคืออะไร

ดาร์กช๊อกโกแลต (Dark Chocolate) คือ ช๊อกโกแลตดำ ที่มีรสชาติขม เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลและนมผสมอยู่น้อย เป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากต้นโกโก้ ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่อเมริกากลาง รวมไปถึงประเทศแม็กซิโก เมื่อนำเมล็ดโกโก้มาคั่วบดให้เป็นผงแล้วชงดื่ม จะให้รสชาติที่ขมและฝาด

ดาร์กช๊อกโกแลตช่วยในการลดความอ้วนได้อย่างไร

การทานดาร์กช๊อกโกแลต เป็นวิธีลดความอ้วน โดยช่วยลดความอยากอาหารประเภทน้ำตาล แป้ง ให้ลดน้อยลง ดาร์กช๊อกโกแลตยังมีสารฟลาโวนอยด์สูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้เป็นอย่างดี ทำให้เม็ดเลือดไม่จับตัวเป็นก้อนไปอุดเส้นเลือด นอกจากนี้ดาร์กช๊อกโกแลตยังช่วยลดความอยากรับประทานของหวานได้เป็นอย่างดี

การเลือกดาร์กช๊อกโกแลตที่เหมาะสมในการลดความอ้วน

ดาร์กช๊อกโกแลต เป็นวิธีลดความอ้วน ที่เหมาะในการลดน้ำหนัก ควรมีผสมของโกโก้อย่างน้อย 70 %  เพราะถ้าหากมีปริมาณส่วนผสมของโกโก้น้อยกว่านั้น ก็มักที่จะเป็นช๊อกโกแลตธรรมดาที่มีการผสมนม น้ำตาล ครีมเทียมลงไปเป็นจำนวนมาก และสิ่งที่คุณสาวๆจะได้รับกลับคืนมาคือความอ้วน ไม่ใช่การลดความอ้วนเหมือนกับที่ตั้งใจเอาไว้ สำหรับคนที่ชอบทานดาร์กช๊อกโกแลตจริงๆ มักที่เลือกทานดาร์กช๊อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้มากถึง 99% ซึ่งถือว่าเป็นช๊อกโกแลตบริสุทธิ์

ข้อแนะนำในการทานดาร์กช๊อกโกแลต

สำหรับคุณสาวๆที่เพิ่งจะทดลองทานดาร์กช๊อกโกแลตเป็นครั้งแรกอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับรสชาติที่ขมมากกว่าช็อกโกแลตนม ให้ลองจากเริ่มกัดชิ้นเล็กๆ แล้วพยายามให้ดาร์กช๊อกโกแลตละลายช้าๆภายในปาก เพื่อให้รสขมซึมออกมาอย่างช้าๆ แล้วจะเริ่มรู้สึกถึงรสชาติของความหวานจากธรรมชาติ แต่ถ้าหากรับประทานไม่ไหวจริงๆ ให้ลองทำการประยุกต์โดยนำไปโรยลงบนขนปัง หรือใส่ในนมร้อน ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานดาร์กช๊อกโกแลตได้เป็นอย่างดีมากยิ่งขึ้น

       ถึงแม้ดาร์กช๊อกโกแลตจะมีคุณสมบัติ และเป็นหนึ่งในวิธีลดความอ้วนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถรับประทานได้ตามใจปากในปริมาณมากๆเพราะจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้น ขอแนะนำว่าให้รับประทานสักวันละชิ้นเล็กๆ ประมาณ 100 กรัม ก็เพียงพอแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ตามในดาร์กช๊อกโกแลตก็ยังคงมีน้ำตาล และนมเป็นส่วนผสมอยู่บ้าง ถ้าหากรับประทานมากกว่าปริมาณดังกล่าวก็อาจที่จะทำให้อ้วนได้เหมือนกัน 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ลดไขมัน กำจัดโรคอ้วนอย่างง่ายๆ ด้วยน้ำมันมะพร้าว

ในปัจจุบันมีพืช ผัก ผลไม้ ที่อยู่รอบๆตัวเราที่มีฤทธิ์อย่างยอดเยี่ยมในการช่วยสลายไขมันในร่างกาย ซึ่งในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆไปทำความรู้จักกับ “น้ำมันมะพร้าว” หนึ่งในเคล็ดลับวิธีการลดไขมันในร่างกายในร่างกายที่ถูกมองข้ามไป ซึ่งเจ้าน้ำมันมะพร้าวนี้จะมีสรรพคุณในการช่วยลดไขมันกำจัดโรคอ้วนได้อย่างไรนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

 

น้ำมันมะพร้าวคืออะไร

น้ำมันมะพร้าว หรือ Coconut Oil คือ น้ำมันที่ได้มากจากการสกัดแยกน้ำมันของเนื้อผลของมะพร้าว โดยมีองค์ประกอบหลักคือ ไขมันอิ่มตัว หรือ เกิน 90% ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด โดยปกติแล้วน้ำมันมะพร้าวมักที่จะถูกนำไปใช้ในการประกอบอาหารแทนน้ำมันชนิดอื่นๆ หรือบางครั้งก็ถูกนำไปใช้รับประทานในฐานะของอาหารเสริม โดยผู้ใหญ่รับประทานวันละ 3-4 ช้อนชา ส่วนเด็กรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา ซึ่งจะแบ่งการรับประทานออกเป็นมื้อๆจนครบตามจำนวน หรืออาจนำไปใช้ในการผสมเป็นเครื่องดื่มต่างๆ น้ำผักผลไม้ ก็ได้เช่นกัน

น้ำมันมะพร้าวช่วยลดไขมันในร่างกายได้อย่างไร

น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้สูงมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกกันว่าการกระตุ้นเมแทบอลิซึม (Metabolism) เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวจะมีส่วนประกอบของ “ไตรกลีเซอไรด์สายปานกลาง” มากกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ เนื่องจากน้ำมันชนิดอื่นเช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันหมู น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมักที่จะเป็น ไตรกลีเซอไรด์สายปานยาว ด้วยเหตุผลดังกล่าว น้ำมันมะพร้าวจึงสามารถถูกร่างกายทำการย่อยสลายได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นพลังงานให้กับร่างกายได้โดยทันที โดยไม่ถูกนำส่งไปยังตับ หรือสะสมกลายเป็นอาหารสำรองในรูปแบบของไขมัน เหมือนกับน้ำมันชนิดอื่นๆ

       จากการศึกษาพบว่า ไตรกลีเซอไรด์สายปานกลาง จะไปกระตุ้นกระบวนการเมแทบอลึซึม หรือการเผาผลาญให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มการใช้แคลอรี่ในร่างกาย และกระตุ้นอัตราเผาผลาญแคลลอลี่ต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมง เลยทีเดียว

       นอกจากนี้ น้ำมันมะพร้าวยังให้พลังงานแก่ร่างกายที่สูง แม้จะเกิดอัตราการเผาผลาญภายในร่างกายที่สูงขึ้น แต่กลับทำให้เกิดความหิวที่น้อยลง ทำให้ทานอาหารได้ในปริมาณที่น้อยลง และทำให้รู้สึกอิ่มได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความต้องการแป้ง น้ำตาล ที่ลดน้อยลงอีกด้วย

       จากการศึกษาของประเทศบลาซิล เมื่อ พ.ศ.2552 พบว่า น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์เป็นอย่างมากกับผู้หญิงอ้วนที่มีไขมันสะสมอยู่บริเวณช่องท้อง น้ำมันมะพร้าวช่วยลดไขมันเส้นรอบเอว เพิ่มระดับไขมันเอสดีแอลคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็ยไขมันที่มีประโยชน์ และยังช่วยปรับอัตราส่วนระหว่างไขมันชนิด “ร้าย” (แอลดีแอล) กับ ไขมันชนิด “ดี” (แอชดีแอล) นอกจากนี้จากการศึกษาพบว่า ในกลุ่มคนที่ทานน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำนั้น มักไม่ค่อยพบผู้ป่วยคอเลสเตอรอลสูง หรือโลกหัวใจ อีกด้วย

ไขมันอิ่มตัว แม้จะได้ชื่อเสียว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างยิ่งต่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีไขมันอิ่มตัวบางชนิดที่ส่งผลดีต่อร่างกายของเรา อาทิเช่น น้ำมันมะพร้าว ที่ได้นำเสนอข้อมูลไปแล้วในตอนต้น แต่อย่างไรก็ตามเพื่อสุขภาพที่ดี และเป็นการลดไขมันในร่างกายของคุณ คุณสาวๆจึงควรที่จะควบคุมอาหารในแต่ละวัน ให้มีปริมาณของไขมันอิ่มตัวไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนพลังงานทั้งหมด

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สาหร่ายวากาเมะ ลดน้ำหนัก บำรุงผิวได้อย่างไร

สาหร่ายวากาเมะ เป็นพืชทะเลที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากจะนำมาใช้ในการประกอบเป็นอาหารรับประทานในชัวิตประจำวันแล้ว ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายๆ ยี่ห้อ ยังได้เลือกนำสาหร่ายวากาเมะมาใช้เป็นส่วนผสมหลักเพื่อเสริมความงามให้กับคุณสาวๆ

วันนี้เราจะไปร่วมกันทำความรู้จักกับเจ้าสาหร่ายวากาเมะกัน ว่าแท้จริงแล้วมันมีสรรพคุณในการช่วยเสริมความงาม และสุขภาพอย่างไรกันบ้าง?

สาหร่ายวากาเมะ คืออะไร?

สาหร่ายวากาเมะ (Wakame Seaweed)  เป็นสาหร่ายสีน้ำตาลอมเขียวขุ่น หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ผักกาดทะเล”  เป็นสาหร่ายที่พบได้ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในทะเลญี่ปุ่น สามารถเติบโตในน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิเย็นปานกลาง หรือเย็นมาก ชาวญี่ปุ่นนิยมนำสาหร่ายวากาเมะ มาใช้ในการประกอบอาหาร เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย เช่น ซุป สลัด ตากแห้ง รวมไปถึงการทอดกรอบ เป็นต้น

นอกจากนี้ สาหร่ายวากาเมะ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีจำนวนของคาโบไฮเดรตที่น้อยมาก ในขณะที่มีสรรพคุณที่มีคุณค่ากับร่างกายเป็นอย่างมาก สาหร่ายวากาเมะ จึงกลายมาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

สรรพคุณของสาหร่ายวากาเมะ

สาหร่ายวากาเมะ อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการบำรุงร่างกาย ผิวพรรณ ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากกล่าวโดยสรุปแล้ว สาหร่ายวากาเมะจะมีสรรพคุณ ดังต่อไปนี้

สรรคุณในเรื่องความสวยงาม

  • ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ สาหร่ายวากาเมะช่วยในการปรับสภาพผิว และเสริมสร้างกระบวนการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินให้ดียิ้งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงผิวหนังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยในการปกป้องผิว สาหร่ายวากาเมะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ลดอาการระคายเคือง ลดความหยาบกร้านของผิว นอกจากนี้ยังช่วยในการปกป้องผิวจากมลภาวะอีกด้วย
  • ช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาหร่ายวากาเมะจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเผาผลาญไขมันสีขาวตามอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ในบริเวณพุง ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น ซึ่งอวัยวะเหล่านี้มักจะเกิดการสะสมของไขมันสีขาวได้ง่ายกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ

นอกจากนี้ สาหร่ายวากาเมะ มีสารไอโอดีน อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารที่เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบเผาผลาญอาหารในร่างกายให้เป็นปกติ นอกจากนี้สาหร่ายวากาเมะ ยังช่วยป้องกันโรคคอพอกที่เกิดขึ้นจากการขาดสารไอโอดีนอีกด้วย

สรรพคุณในการบำรุงร่างกาย

  • ช่วยในการลดระดับคอลเลตเตอรอลในเลือด และช่วยลดความดันโลหิต พร้อมกับป้องกันภาวะหลอดเลือดในสมองแข็ง (Arteriosclerosis) รวมไปถึงการต่อสู้กับเนื้องอก และยังช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว
  • มีแคลเซียมสูงกว่านมถึง 14 เท่า การรับประทานสาหร่ายวากาเมะปริมาณ 50-100 กรัม จะเป็นการช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้กับร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะใน 1 วัน นอกจากนี้สาหร่ายวากาเมะยังเหมาะสำหรับสตีมีครรภ์ที่ต้องการปริมาณแคลเซียมมากกว่าปกติ
  • ช่วยลดปัญหาท้องผูก สาหร่ายวากาเมะมีสภาพเป็น Salinity มีเกลือแมกนีเซียม หรืออัลคลาไล รวมไปถึงไฟเบอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเหมือนกับยาระบายตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีกรดอาลิกนิคที่ช่วยทำให้ร่างกายเกิดการเร่งขับถ่ายสารพิษต่างๆในทางเดินอาหาร ให้ออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยปรับระดับค่าน้ำตาลกลูโคสในเลือด
  • ช่วยแก้ปัญหาทางอาการปวดอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น อาการปวดบั้นเอวปวดไหล่ บ่าแข็งตึง เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นจากการไหลเวียนของเลือดที่บกพร่องไม่ปกติ
  • ช่วยในการบำรุงเลือด สาหร่ายวากาเมะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุทองแดง และธาตุเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงเลือด
  • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สาหร่ายวากาเมะมีส่วนประกอบของแม็กนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการบำรุงกล้ามเนื้อและระบบประสาท
  • ช่วยในการลดจำนวนกัมมันตภาพรังสีที่สู่ร่างกาย ผ่านการดูดซึมของลำไส้ได้ถึง 50-80% โดยมีกลุ่มตัวอย่างผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่นางาซากิ ที่รับประทานสาหร่ายทะเลเป็นประจำ คนเหล่านี้ไม่มีใครที่เกิดอาการโรคลูคีเมียขึ้นเลย แม้โรงพยาบาลจะอยู่ห่างจากจุดที่เกิดการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เพียง 1 กม เท่านั้น
  • ช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขึ้นใหม่ สาหร่ายวากาเมะมีสารรูติน ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขึ้นใหม่
  • ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส
  • มีวิตามินบี 12 ซึ่งสามารถพบได้น้อยมากในพืชและผัก ซึ่งเป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่รางกายของเราต้องการ

ข้อควรระวังในการบริโภคสาหร่ายวากาเมะ

ด้วยคุณสมบัติดังที่ได้กล่าวมา ทำให้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำนวนมากนิยมนำสาหร่ายวากาเมะ มาใช้เป็นส่วนประกอบ แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานสาหร่ายวากาเมะ ก็มีข้อที่ควรพึงระวังสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพบางประเภท ดังนี้

  • ผู้ที่เป็นโรคไตหรือความดันโลหิตสูง ควรระมักระวังในการบริโภค เนื่องจากสาหร่ายวากาเมะมีปริมาณของโซเดียมสูง
  • หากรับประทานมากจนเกินไปอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เนื่องจากมีปริมาณของไอโอดีนสูง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการใจสั่น กระวนกระวาย และหิวตลอดเวลา อาการดังกล่าวสามารถพบได้ในกลุ่มของผู้ที่รับประทานสาหร่ายทะเลอัดเม็ดติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหลายเดือน เมื่อหยุดทำการรับประทาน อาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มารับประทานอาหารให้ถูก เพื่อให้เป็นอาหารลดน้ำหนัก

         วิธีการลดความอ้วนนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมัน ควบคุมอาหารจำกัดแคลอรี่ หรือใช้อาหารเสริม เป็นต้น และหนึ่งในวิธีการที่ได้ผลมากที่สุด คือการใช้สมุนไพรแบบบ้านๆนั่นเอง อย่างเช่น มะนาว กะเพรา กระเทียม ฯลฯ สมุนไพรเหล่านี้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นอาหารลดน้ำหนักซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยมาช้านาน สมุนไพรที่จะเป็นตัวช่วยในการลดความอ้วนมีอะไรบ้างมาดูกัน

1.ขิง 
เป็นอาหารลดน้ำหนักที่ดีเยี่ยม เมื่อเรารับประทานขิงเข้าไปแล้วรู้สึกร้อนข้างใน นั่นเพราะมันไปเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งจากการศึกษาพบว่า เพิ่มการเผาผลาญได้มากถึงร้อยละ 20 และยังมีเอนไซม์ช่วยเรื่องการย่อยอาหารได้ดี ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ได้มากขึ้น กำจัดของเสียได้มากขึ้น และทำให้ร่างกายนำพลังงานที่เก็บไว้ในรูปแบบของไขมันออกมาใช้ ที่สำคัญทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อันเนื่องมาจากเส้นใยอาหารที่มีอยู่มากในขิง

2.มะนาว
การดื่มน้ำมะนาวช่วยรักษาและทำความสะอาดร่างกาย ขจัดสารพิษออกจากตับ ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย สำหรับภูมิปัญญาไทยมีการใช้มะนาวมาทำเป็นสมุนไพรขับเสมหะ แก้ไขเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม แก้อาการปวดศรีษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงสายตา บำรุงผิว ที่สำคัญคือมีฤทธิ์ในการกำจัดไขมัน และคลอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี
3.กระเทียม
กระเทียมถูกใช้เป็นผักและอาหารมากกว่าด้านอื่น ในครัวไทยอาจกล่าวได้ว่ากระเทียมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเอกลักษณ์ของอาหารไทย ซึ่งสรรพคุณด้านยาของกระเทียมนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแก้กลาก เกลื้อน หิด แก้ความดันเลือดสูง ลดไขมันและโคเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว ใส่แผลสดและแผลเป็นหนอง แก้คออักเสบ แก้ปวดหู และอื่นๆอีกหลายด้าน เรียกได้ว่าเป็นอาหารลดน้ำหนักขั้นเทพเลยทีเดียว

4.กะเพรา
น้อยคนนักที่ทราบว่าผักสิ้นคิดเวลาเรานึกอะไรอออกอย่างกะเพรามีสรรพคุณอะไรบ้าง จริงๆแล้วใบกะเพรามีฤทธิ์ขับลมช่วยแก้จุดเสียด แน่นท้อง แก้ปวดท้องอุจจาระ ส่วนน้ำสกัดทั้งต้น สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร สำหรับเมล็ดกะเพรา ก็สามารถพอกตาให้ผงหรือฝุ่นที่เข้าตาหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ รากกะเพราแห้งๆ ยังนำมาชงกับน้ำร้อนดื่มแก้โรคธาตุพิการได้ และสรรพคุณเด็ดของกะเพราอีกประการก็คือช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งกะเพราจะช่วยขับน้ำดีในตับออกมาให้ช่วยย่อยไขมันได้ดีขึ้นด้วย
5.ตำลึง 
ผักพื้นบ้านริมรั่วคู่ครัวไทย จัดว่าเป็นอาหารลดน้ำหนักชั้นเยี่ยม การรับประทานตำลึงจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยให้เอายอดตำลึงประมาณครึ่งกำมือ โรยเกลือพอให้มีรส ห่อใบตอง นำไปเผาไฟให้สุก รับประทานก่อนนอนติดต่อกัน 3 เดือน น้ำตาลในเลือดก็จะลดลง ทั้งนี้ ตำลึงอุดมไปด้วยสารกลุ่มแอนโทไซยานินที่ต้านอนุมูลอิสระและดูแลผนังหลอดเลือดให้อ่อนนิ่มใช้งานได้ยืนยาว มีบีตาแคโรทีนสูงมาก ทำหน้าที่กรองแสงให้กับดวงตา ป้องกันไฟเบอร์ของเลนส์ตาจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกออกซิไดซ์ด้วยแสง ป้องกันการเกิดต้อ
จะเห็นได้ว่าอาหารลดน้ำหนักทั้ง 5 อย่างเป็นพืชสมุนไพรที่เราใช้ประกอบอาหาร (แบบไทยๆ) กันอยู่แล้ว ดังนั้น หากอยากลดความอ้วนให้สำเร็จ ก็ควรเลือกอาหารการกินที่มีประโยชน์ บริโภคให้ถูกหลัก หลากหลายครบทั้ง 5 หมู่ และที่สำคัญต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะ เพียงแค่นี้การมีรูปร่างเพรียวดูดีก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.