Laser สิว รักษาสิวได้จริงหรือไม่

         “สิว” บนใบหน้า เป็นปัญหาที่เราต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้สิวเห่อไปทั่วบริเวณใบหน้า หรือบางคนต้องเผชิญกับปัญหาสิวขั้นรุนแรงจนหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้เพื่อนล้อกันสนุกปากว่า “ผิวดวงจันทร์” กรณีนี้แค่ครีมรักษาสิวอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่ ดังนั้น การทำ Laser สิว จึงเป็นตัวเลือกอีกทางที่คุณหมอแนะนำ แต่การ Laser สิว ต้องควบคู่กับการรักษาด้วยครีมหรือรับประทานยารักษาสิว จึงจะทำให้ปัญหาสิวค่อยๆหมดไป
 ทีนี้หลายคนกังวลว่าการทำ Laser สิว อาจมีผลข้างเคียงกับใบหน้าแสนอ่อนโยนของเรา ต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีรุดหน้าไปมาก การ Laser สิว ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป แต่การเป็นสิวแล้วปล่อยทิ้งไว้ต่างหากที่น่ากลัวยิ่งกว่า วันนี้เรามาทำความรู้จักการทำ Laser สิวกัน เพื่อให้ทราบว่ามันสามารถรักษาสิวบนใบหน้าของเราได้อย่างไร

การทำ Laser สิว คืออะไร
 Laser สิว คือการทำงานของแสงเลเซอร์ โดยฉายแสงเข้าไปในเซลล์จนทำให้เกิดความร้อนขึ้นในเซลล์นั้นๆ เมื่อโดนความร้อนเซลล์นั้นจะสลายตัวไปในที่สุด ด้วยเทคโนยีนวัตกรรมของเลเซอร์ที่ก้าวหน้าทำให้สามารถปรับการตั้งค่าพลังงานของเครื่องเลเซอร์เพื่อให้เกิดความร้อนขึ้นเฉพาะภายในเซลล์ที่ต้องการเท่านั้น โดยไม่ทำให้ความร้อนนั้นแผ่กระจายไปถูกเนื้อเยื่อที่ดีโดยรอบ การทำ Laser จึงมีประสิทธิภาพในการทำลายสิวเฉพาะเจาะจง โอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย

ประเภทของ Laser กำจัดสิว
1.เลเซอร์ CO2 (Cabondioxide Laser)
 เปรียบเสมือนมีดหมอไร้เลือดออก เนื่องจากในขั้นตอนการยิงเลเซอร์ ถูกนำมาใช้เพื่อเปิดหัวสิว โดยลำแสงเลเซอร์ทำให้ผิวหนังที่หุ้มหัวสิวอยู่เป็นรูเล็กๆ เป็นการระบายสิวออก แล้วจึงกดเอาไขมันที่อุดตันอยู่ใต้ผิวออกมาด้วยอุปกรณ์กดสิว ก่อนยิงเลเซอร์ยังต้องมีการทายาชาบริเวณผิวเป้าหมาย เพื่อไม่ให้รู้สึกแสบร้อนจากพลังงานความร้อน อย่างไรก็ตาม หลังการรักษาแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถูกน้ำ 1 วัน และในช่วง 7 วัน ให้งดเครื่องสำอาง หลีกเลี่ยงแสงแดด เนื่องจากเป็นระยะตกสะเก็ด ซึ่งถ้าดูแลไม่ดีอาจทำให้เกิดรอยดำได้

2.เลเซอร์ไดโอด (Diode Laser)
   เป็นการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน และการลดการอักเสบ กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน จึงเหมาะกับการรักษาสิวอักเสบ รอยแผลเป็นจากสิว ต่อมไขมันโตผิดปกติ เลเซอร์ในกลุ่มนี้ที่นิยมใช้รักษาสิว เลเซอร์ชนิดนี้จะมีชื่อว่า สมูทบีม (Smooth Beam) หลังจากถูกพัฒนาให้มีระบบความเย็นที่ป้องกันผิวชั้นบน หรือระบบ DCD (Dynamic Cooling Device) ลดโอกาสเกิดรอยดำหลังการรักษา เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการกดสิว หรือฉีดยาที่หัวสิว อีกตัวชื่อ วีบีม (V-Beam) เป็น pulsed dye laser มีระบบ DCD เช่นกัน แต่จะโดดเด่นที่ความสามารถลบรอยแดง เนื่องจากช่วยให้เม็ดสีและเส้นเลือดเล็กๆที่ผิดปกติ และกระจายทั่วไปจางหายได้ ส่งผลให้เกิดการจัดเรียงตัวเส้นเลือดใต้ผิวหนังใหม่ หากต้องการให้เห็นผลชัดเจนต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง
3.IPL (Intense Pulse Light)
 เป็นการ Laser ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ช่วงคลื่น 510, 560 ช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ลดรอยแดง รอยดำต่างๆ หลังยิง Laser สิวแบบ IPL ความมันของผิวหน้าจะลดลง รวมถึงอาการอักเสบ รอยดำรอยแดงจากสิวจะจางลง ภาพรวมหน้าจะสว่างสดใสขึ้น
 อย่างไรก็ดี เพื่อทำให้การ Laser สิวได้ผลดีและเร็วยิ่งขึ้น แพทย์จะจ่ายยาและครีมรักษาสิวมาให้ด้วย แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่อยากแก้ไขปัญหาสิวโดยใช้เลเซอร์ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น ฉะนั้นก่อนทำ Laser ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างจริงจังว่าผิวพรรณและปัญหาสิวที่เกิดขึ้น เหมาะกับการทำ Laser แบบใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงมากที่สุด

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

@kwang

by @kwang

@kwang. แอดมินกวาง ผู้คร่ำหวอดในวงการ สุขภาพ ลดน้ำหนัก อาหารเสริม และ สินค้าความงามตั้งแต่ปี 2010 อยากรู้เรื่องอะไรสอบถามได้เลยค่ะ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเตรียมตอบคำถามให้คุณ Line: @beauty24store / Tel: 092-254-8284


"ติดต่อสอบถามสินค้าและบริการ" Call center: 092-254-8284 แอดไลน์ : @beauty24store หรือกดลิ้งเลยค่ะ Line@ คลิ๊ก


Leave a Reply