ผิวหน้าแห้ง รู้ให้ทันป้องกันได้

         ผิวแห้ง เป็นสิ่งที่ชวนให้หลายๆคนต้องอึดอัด จากอาการคัน และแตก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แถมยังสามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นตามบริเวณแขน ขา หน้าท้อง และในหลายๆครั้งก็มักที่จะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ส่งผลให้เกิดขุยขึ้นบนใบหน้า และยังทำให้ผิวไม่ชุ่มชื้น ที่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านความงามอีกด้วย

ผิวหน้าแห้งคืออะไร?
 คนส่วนใหญ่มักจะมีสภาพของผิวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้ามัน ผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย ซึ่งผิวหน้าแห้ง ก็เป็นหนึ่งในลักษณะของผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการขาดความชุ่มชื้นในผิวชั้นตื้นที่สุดของผิวกำพร้า ที่จำเป็นจะต้องได้รับการหล่อลื่นอย่างเหมาะสม ซึ่งผิวหน้าแห้งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเพศชาย และเพศหญิงอย่างเท่าเทียมกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มการลดลงของน้ำมันผิวหนังตามธรรมชาติ รวมไปถึงสารหล่อลื่นอื่นๆของผิว แต่ผิวหน้าแห้งก็เป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงดูแลให้ดีขึ้นได้ ด้วยการเยียวยาอย่างง่ายๆด้วยตัวเองที่บ้าน ขอเพียงแค่คุณเข้าใจหลักการเยียวยาดูแลรักษาตัวเองอย่างถูกต้องเท่านั้น

ผิวหน้าแห้งสามารถป้องกันด้วยตัวเองได้อย่างไร
 ผิวหน้าแห้ง เป็นสิ่งที่คุณสามารถป้องกัน และลดโอกาสในการเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
   1.ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาดเป็นประจำทุกวัน ครั้งละอย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
 2.หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น เพราะน้ำร้อน หรือน้ำอุ่นเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างน้ำมันบนผิวหนังตามธรรมชาติ ถ้าหากคุณต้องการที่จะล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ควรทำอย่างรวดเร็วที่สุด
          3.ใช้โฟมล้างหน้า หรือสบู่ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว พร้อมกับหลีกเลี่ยงสบู่ หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักมีสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังมากขึ้น
 4.หลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหนังที่แห้งด้วยการขัด ถู หรือเกา
   5.ไม่ควรเช็ดใบหน้าแรงๆ แต่ควรใช้การซับ หรือลูบใบหน้าด้วยผ้าขนหนูนิ่มๆ
6.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทันทีหลังจากการอาบน้ำ ด้วยครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
 7.เพิ่มความชื้นภายในบ้านให้มากขึ้น ไม่ควรปล่อยให้ในบ้านเต็มไปด้วยอากาศที่แห้งร้อนกลางฤดูร้อน และถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในฤดูหนาวที่อากาศจะเต็มไปด้วยความชื้นมากมาย แต่คุณอาจจะคาดไม่ถึงว่าเครื่องทำความร้อนต่างๆ ที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น ก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่แย่งชิงความชื้นโดยรวมภายในบ้านไป จนทำให้ผิวหน้าแห้งได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
 8.ดื่มน้ำมากๆ

         9.โกนหนวดอย่างชาญฉลาด การโกนหนวด หรือโกนขนบนใหบน้าเป็นการสร้างความระคายเคืองให้กับผิว นอกจากนี้ยังเป็นการขูดน้ำมันตามธรรมชาติทิ้งไปอีกด้วย ถ้าหากต้องการที่จะโนขนบนใบหน้าจริงๆ ควรทำหลังจากการอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ที่ขนนุ่ม ยืดหยุน โกนง่ายกว่าปกติ และควรใช้ครีมโกน หรือเจล โกนไปในทิศทางที่ขนมีการเจริญเติบโต เพื่อเป็นการปกป้องผิวของคุณ และขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้มีดโกนที่เคยแช่ในแอลกฮอลล์ทำความสะอาด เพราะมันจะยิ่งทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองมากขึ้น
10.ป้องกันผิวจากแสงอาทิตย์ หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าแห้ง คุณสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 และการแต่งกายที่ปกปิดผิวหน้าอย่างเหมาะสม
 นอกจากนี้ คุณควรที่จะทำการเลือกครีมบำรุงผิว ที่เหมาะกับผิวหน้าแห้ง ด้วยการเลือกส่วนผสมจากน้ำมันเม็ดองุ่น และสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันให้กับผิวเป็นพิเศษ และควรทำการพิจราณาความเหมาะสม ว่าน้ำมันที่ได้รับเหล่านั้นมากเกินไปหรือไม่ เมื่อฤดูร้อนมาเยือน 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เนรมิตให้ผิวเรืองแสง ด้วยการพอกหน้าด้วยขมิ้น

         การเสริมคงามงามของผิวพรรณด้วยการพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้น ได้รับความนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วทวีปเอเชียมานานหลายศตวรรษ และเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีน และอินเดีย ที่มีระบบแพทย์แบบอายุรเวท ส่วนในแถบเอเชียใต้การพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมตัวของเจ้าสาวเพื่อเข้าวิธีการแต่งงาน เพื่อให้ผิวของพวกเธอดูสะอาดสะอาน และมีสเน่ห์เป็นอย่างยิ่งในวันสำคัญของพวกเธอ

ขมิ้น ช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างไร
ขมิน มีสารเคมีที่เรียกว่า Curcumin ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก ซึ่งพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้นช่วยในการรักษาสิว แผลเปื่อย ลดการอักเสบ และรอยแดงบนผิว นอกจากนี้ขมิ้นยังมีคุณสมบัติสุดยอดเยี่ยมในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้มักถูกนำไปใช้ในการช่วยฟื้นฟูผิว รอยย่น เส้นขูดขีดบนใบหน้าให้ลดน้อยลง ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์มากขึ้น การพอกหน้าด้วยขมิ้น เป็นพื้นฐานของการรักษาสุขภาพผิวหน้าที่ดี ทำได้ง่าย และยังให้คุณสมบัติของมอยเจอไรเซอร์ การขัดผิว ลดเลือนรอยแดง และทำให้ผิวสะอาด ดูสดใสมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมของการพอกหน้าด้วยขมิ้นอย่างง่ายๆด้วยตัวเอง
 พอกหน้าด้วยขมิ้นมีอยู่มากมายหลายสูตร หลายส่วนผสม แต่วิธีที่บทความชิ้นนี้กำลังจะขอทำการแนะนำนั้น เป็นส่วนผสมของการพอกหน้าด้วยขมิ้นแบบพื้นฐาน ซึ่งคุณสามารถที่จะเพิ่มดอกถั่วเขียวข้น หรือน้ำมะนาวจำนวนเล็กน้อยลงไปด้วย เพื่อช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ผิวหน้าที่ใสกระจ่างมากยิ่งขึ้น
ส่วนผสมและวิธีทำพอกหน้าด้วยขมิ้น
-ขมิ้น 1 ช้อนชา
-น้ำผึ้งอินทรีย์ดิบ 1 ช้อนชา
-นม หรือโยเกิร์ตสด 1 ช้อนชา
นำขมิ้นใส่ลงในชามเล็กๆ เติมน้ำผึ้ง นม หรือโยเกิร์ตลงไป ซึ่งปริมาณของส่วนผสมเหล่านี้อาจจะจไม่ถึงกับตายตัวนัก คุณสามารถที่จะทำการปรับเปลี่ยนปริมาณของส่วนผสมให้มากหรือน้อยขึ้นก็ได้ตามความเหมาะสม แต่ควรคำนึงว่าส่วนผสมทั้งหมดจะมีมากเพียงพอที่จะถูกทาให้ติดทั่วทั้งใบหน้าของคุณ หรือเหลวมากจนเกินไป เนื่องจากขมิ้นเป็นหนึ่งในสีย้อมตามธรรมชาติ และสามารถที่จะทิ้งคราบเอาไว้ตามที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆได้ ดังนั้นคุณคงไม่อยากที่จะปล่อยให้พวกมันหยดลงบนพื้น หรือสถานที่ต่างๆในบ้านในขณะที่คุณทำการพอกหน้าอยู่

การเตรียมตัว และเตรียมผิวก่อนการพอกหน้าด้วยขมิ้น
 ล้างทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาด พร้อมกับลบเครื่องสำอางค์ที่ใช้ในการตบแต่งใบหน้าออกให้เกลี้ยงเกลา ถ้าหากคุณมีผมที่ยาว ให้ทำการผูกมันไว้ด้านหลัง สวมเสื้อยืดที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เผื่อในกรณีที่ส่วนผสมจากขมิ้นจะไหลลงไปแปดเปื้อน

การพอกหน้าด้วยขมิ้นอย่างถูกต้อง
ควนทำการทาส่วนผสมให้สม่ำเสมอทั่วใบหน้า ซึ่งหน้ากากขมิ้นสามารถทำการพอกบริเวณใต้ดวงตาได้ เพราะพวกมันมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดการอักเสบ ลดความหมองคล้ำ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการตีบของเส้นเลือด หากคุณมีส่วนผสมเหลืออยู่หลังจากการการทาจนทั่วใบหน้าแล้ว คุณก็สามารถที่จะเก็บส่วนผสมเหล่านั้นเอาไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ ปล่อยให้ส่วนผสมแห้ง ประมาณ 20 นาที จากนั้นทำการล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วซับหน้าของคุณเบาๆให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ
ขมิ้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี และยังช่วยในการต่อต้านอาการอักเสบ เชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ส่วนผสมอย่างน้ำผึ้งยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี นม หรือโยเกิร์ตเอง ก็มีกรดแลคติก ซึ่งเป็นกรดอัลผาไฮดรอกซี และน้ำมันขัดผิวตามธรรมชาติ เมื่อส่วนผสมทั้งสามสิ่งนี้มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ก็จะเป็นการช่วยเนรมิตให้ผิวของคุณสาวย ใส เรืองแสงขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากโบกมือลาปัญหาสิว พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ช่วยคุณได้

         ในศตวรรษนี้ มีคนจำนวนมากมายที่ใช้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มาช่วยในการแก้ไขสารพัดปัญหาเรื่องสิว รวมไปถึงเหล่าแผลเป็น จุดด่างดำจากสิวแบบครบวงจรเลยทีเดียว ซึ่งการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเอง ก็ไม่ได้มีเพียงสูตรตายตัวเดียว ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์มากมายได้ทำการผสมผสานน้ำผึ้ง เข้ากับสมุนไพร และสารอื่นๆ เพื่อให้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับบทความนี้ ก็ได้พยายามที่สรรหาข้อมูลอย่างครอบคลุม ที่เกี่ยวข้องกับการใช้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเพื่อช่วยในการรักษาสิว

พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ดีสำหรับผิวเป็นสิวอย่างไร
การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง เป็นวิธีการรักษาสิวแบบพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงให้ผิวที่บอบบางของคุณเป็นอันตรายจากยารักษาสิว ที่อาจจะมีสารเคมีรุนแรงปนเปื้อนอยู่ อีกทั้งยังไม่ต้องวทนต่อความเจ็บปวดจากการกินยาขมๆ การใช้โลชั่น ครีม หรือยาแต้มอีกต่างหาก ซึ่งในหลายๆครั้งสารเคมีที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นตัวไปกระตุ้นให้สิวมีอาการอักเสบที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติที่ดีในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมในการช่วยรักษาปัญหาสิวลึกถึงต้นเหตุ แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้หลังจากใช้พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง จะไม่แสดงผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืน คุณจึงจำเป็นที่จะต้องทำการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งหลายครั้ง เป็นระยะเวลาหนึ่งกว่าที่จะแสดงผลลัพธ์ในการรักษาสิวให้เห็น

เคล็ดลับการเลือกส่วนผสมในการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง
การรักษาสิวด้วยการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งนั้น จะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเมื่อใช้ส่วนผสมใหม่ๆเสมอ คุณควรใช้ส่วนผสมของสารอินทรีย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ น้ำผึ้งที่นำมาใช้ควรทำการกรอง เพราะน้ำผึ้งดิบที่ยังไม่ผ่านการกรองอาจจะมีฝุ่นละออว เส้นขนเล็กๆ ที่ติดมาจากร่างกายของผึ้ง หรือซากของผึ้งที่ตายแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่อบางคนได้

วิธีการนำน้ำผึ้งมาใช้ในการพอกหน้า
น้ำผึ้งเพียงอย่างเดียว ก็สามารถนำมาใช้ในการพอกหน้าได้แล้ว เนื่องจากน้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวในตัวของมันเอง ทำความสะอาดรูขุมขน ป้องกันไม่ให้เชื้อจุลิทรีย์มีการเจริญเติบโต และต่อต้านเชื้อโรค นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของขี้ผึ้งที่ถูกผสมผสานอยู่ในน้ำผึ้งยังช่วยทำให้ผิวมีความนุ่ม เนียน อย่างมีออร่าอีกด้วย นอกจากการใช้เพียงน้ำผึ้งเดี่ยวๆ ในการรักษาสิวแล้ว คุณยังสามารถทำการผสมส่วนประกอบอื่นๆลงไป เพื่อให้ผลลักธ์การพอกหน้าที่ดีที่สุดได้อีกมากมาย อาทิเช่น

         1.แอปเปิ้ล 4-5 ช้อนโต๊ะ ที่สามารถช่วยขัดทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน กรดไกลโคลิมันจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และทำให้รูขุมขนมีความกระจ่างสดใสขึ้น
 2.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ + โยเกิร์ตสด และน้ำอุ่น กรดซิตริกในน้ำมะนาว และโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โยเกิร์ตยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายที่ดี ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของคุณยืด และแห้งจากการใช้น้ำมะนาวเพียงอย่างเดียว
3.ผงอบเชย มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่ดี และยังช่วยขจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสิว ในขณะที่เม็ดหยาบ และเส้นใยในผงอบเชย ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
 4.น้ำหรือเยื่อว่านหางจระเข้ เหมาะสำหรับผิวมัน ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการช่วยบรรเทา ปรับผิวให้นุ่ม และปรับโทนสีผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อจุลชีพ อนุมูลอิสระที่โดดเด่น ซึ่งส่วนผสมนี้จะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย อักเสบ คัน และระคายเคือง
 5.ผงสาหร่ายทะเล มีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษตามธรรมชาติ และยังช่วยในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดีด้วยแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการขัดผิวที่ตายแล้ว เมื่อนำมารวมกับคุณสมบัติของน้ำผึ้ง ผิวของคุณก็จะชุ่มชื้น ล้างสารพิษ และช่วยบำรุงผิวพรรณ ซึ่งดีเป็นอย่างมากในการต่อต้านสิวบนใบหน้า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมมิตรสูตร DIY พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว อย่างง่ายๆด้วยตัวเอง

         ไม่ว่าจะเป็นยุดคสมัยใด ความต้องการดูแลผิวหน้าให้ขาวเนียนกระจ่างสดใส ก็ยังเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมจากคุณสาวๆ แต่วิธีการดูแลผิวหน้าเองก็จำเป็นที่จะต้องคำนวณงบประมาณรายจ่ายที่ต้องใช้เข้าไปด้วย เพราะถ้าหากไม่ทำการควบคุมให้ดีๆล่ะก็ ถึงแม้ผิวพรรณของคุณจะสวยสดงดงามมากขึ้นจริง แต่เงินในกระเป๋าก็อาจจะลอยล่องออกไปมากจนเกินความจำเป็นได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว การเสริมความงามให้กับตัวเองด้วยวิธี DIY โดยการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างง่ายๆ ที่สามารถหาส่วนผสมได้จากในครัวของคุณเอง อย่างเช่นพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แถมผลลัพธ์ที่ได้ยังจัดว่ายอดเยี่ยมอีกต่างหาก ส่วนสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวจะมีดีอย่างไรนั้น เราไปติดตามอ่านผ่านบทความชิ้นนี้ด้วยกันเลย

พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว ช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างไร?
 การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว มีคุณสมบัติสุดพิเศษในการช่วยทำความสะอาดผิว เพิ่มความชุ่มฃื้นแก่ผิว นอกจากนี้ในมะนาวจะเต็มไปด้วย AHA และ BHA ซึ่งช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการเกิดสิว และปรับสภาพผิวให้ดูเท่าเทียมกันมากขึ้น ในขณะที่น้ำผึ้งเองก็ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ และยังช่วยในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 ก่อนการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว คุณควรเตรียมผิวของตัวเอง ด้วยการเทน้ำร้อนลงในชาม จากนั้นให้ใบหน้าอยู่เหนือชามใบนั้น ปล่อยให้ไอน้ำที่ระเหยขึ้นมาทำการหน้าที่ช่วยเปิดรูขุมขน การทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยให้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวสามารถชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในรูขุมขนได้อย่างสะอาดหมดจดมากยิ่งขึ้น

สูตรการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวยอดนิยม มีอะไรบ้างไปดูกัน?
 สำหรับการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวนั้น ส่วนใหญ่โดยทั่วไปแล้วนิยมใช้ น้ำผึ้งดิบ+มะนาว ส่วนผสมที่ใช้มีมะนาวครึ่งซีก และน้ำผึ้งดิบ 1 ช้อนโต๊ะ ทำการบีบผสมลงในชามในเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วคุณได้ส่วนผสมที่พร้อมใช้ในการพอกใบหน้าแล้ว

วิธีการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวอย่างถูกต้อง
   นำส่วนผสมที่ได้มาทำการทาบางๆให้ทั่วทั้งใบหน้า โดยพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา แล้วปล่อยให้ผิวของคุณดื่มด่ำกับส่วนผสมแท้ๆจากธรรมชาติเหล่านั้นอย่างเต็มอิ่มเป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที พยายามอย่าพูดอะไร จากนั้นจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วราดน้ำเย็นซ้ำอีกครั้งเพื่อช่วยปิดรูขุมขนที่เปิดกว้างอยู่ ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด พักผิวผ่อนผิวหน้าของคุณทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยตบท้ายส่วนที่เหลือด้วยครีม หรือเซรั่มบำรุงผิวชิ้นโปรดของคุณ ซึ่งการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวนั้น สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ ทุกเช้า-เย็น หรือถ้าหากคุณไม่มีเวลามากขนาดนั้น คุณก็สามารถที่จะทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งได้เช่นกัน

ข้อควรระวังในการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว
ผิวของคนเรามีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายๆคนจะเกิดอาการแสบเมื่อทำการพอกหน้าด้วยส่วนผสมที่มีน้ำมะนาว ถ้าหากคุณสาวๆต้องการที่จะพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวจริงๆ แต่เคยมีประวัติว่าผิวแพ้ง่าย หรือบางเป็นพิเศษ ควรลดปริมาณส่วนผสมที่เป็นน้ำมะนาวให้น้อยลง จากมะนาวครึ่งซีกอาจจะเหลือเพียงไม่กี่หยด นอกจากนี้ ก่อนการพอกหน้าทุกครั้งให้มั่นใจอยู่เสมอว่าผิวของคุณไม่ได้ผ่านขัดผิวมาก่อนในระยะเวลาอันสั้น เพราะถ้าไม่เช่นนั้น น้ำมะนาวจะทำให้คุณรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมมะขามพะเยา คืออะไร ดีจริงหรือเปล่า?

         กระปสการเสริมความงามของผิวพรรณบนใบหน้าด้วยการใช้ส่วนผสมจากพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคุณสาวๆผู้รักความสวยคงามงามในปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้ก็จะขอพาคุณสาวๆไปทำความรู้จักกับ “ครีมมะขามพะเยา” หนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาผิวหน้า ที่กำลังได้รับการพูดถึงแบบปากต่อปากถึงสรรพคุณที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในปัจจุบัน ส่วนประสิทธิภาพของเจ้าครีมมะขามพะเยาจะมีอะไรที่น่าสนใจ รวมไปถึงมีส่วนผสมจากธรรมชาติอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ครีมมะขามพะเยา คืออะไร?
ครีมมะขามพะเยา เป็นครีมที่ใช้ความรู้ดั้งเดิมทางด้านสมุนไพรในการบำรุงผิวมาใช้ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ otop จากกลุ่มแม่บ้าน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ที่โด่งดังในฐานะสินค้าโอทอป 5 ดาว ครีมมะขามพะเยามีส่วนผสมหลักของมะขาม ที่คนในอดีตนิยมนำมะขามที่อุดมไปด้วย AHA มาใช้ในการขัดทความสะอาดผิวหน้าเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและลดรอยหมองคล้ำบนผิวหน้า ซึ่งถ้าหากทำการแจกแจงแล้ว มะขามนั้นจะมีสรรพคุณดังต่อไปนี้
 1.มะขามมีสรรพคุณช่วยในการกำจัดความมันบนใบหน้าอย่างล้ำลึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นฝ้า กระและปัญหาเรื่องสิว
 2.มะขามมีส่วนประกอบของสาร AHA ที่ทำหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยำให้ฝ้าจางลง
   3.มะขามช่วยขจัดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน ลดความหมองคล้ำบนใบหน้าให้น้อยลง
 4.มะขามช่วยปรับสภาพสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอ ผิวพรรณจึงดูขาว กระจ่างใส
 5.มะขามยังมีสารเคลือบผิวในลักษณะของฟิล์มบางๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยเคลือบเซลล์ผิวไม่ให้แห้ง ผิวจึงไม่สูญเสียความชุ่มชื้น
 นอกจากมะขามที่เป็นส่วนประกอบหลักแล้ว ภายในครีมมะขามพะเยายังมีส่วนผระกอบสมุนไพรต่างๆ ที่มีคุณสมบัติสุดพิเศษในการบำรุงสุขภาพของผิวพรรณอีกหลายชนิด อาทิเช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้น น้ำผึ้ง นมสด เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือ ครีมมะขามพะเยา ไม่ผสมสารกันบูดอีกด้วย

ครีมมะขามพะเยามีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณอย่างไรบ้าง?
 ด้วยภูมิปัญญาแบบโบราณ ผสมผสานส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติอย่างลงตัวจนกระทั่งกลายมาเป็นครีมมะขามพะเยา ก่อกำเนิดสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณอย่างหลากหลาย ดังต่อไปนี้
1.ช่วยในการปรับสภาพผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง เรียบเนียน
 2.ช่วยขจัดรอยดำบนผิวหน้า หรือตามร่างกาย รอยสิวบนแผ่นหลัง และปรับสภาพสีผิวให้มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ
 3.ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดความเหี่ยวย่น พร้อมชะลอความเหี่ยวย่นของผิว
 4.ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวละเอียด และสดใสมากยิ่งขึ้น
 5.ช่วยลดความมันของผิว พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นตามกลไกการปกป้องผิวตามธรรมชาติ
 6.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว คนที่ผิวเคยแพ้ง่าย ผิวจะมีภูมิต้านทานมากขึ้น

วิธีการใช้ครีมมะขามพะเยาอย่างถูกต้อง       
 ครีมมะขามพะเยา สามารถใช้ขัดและพอกผิวได้อย่างง่ายๆในขั้นตอนเดียว สามารถขัดได้ตามซอกหนีบ หรือบริเวณรักแร้ได้อย่างปลอดภัย และยังช่วยทำให้บริเวณที่เคยดำคล้ำค่อยๆขาวเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีข้อแนะนำในการใช้ครีมมะขามพะเยาตามส่วนต่างๆของร่างกาย ดังต่อไปนี้
 1.ใบหน้า ควรใช้ครีมมะขามพะเยาโดยคำนึงถึงสภาพผิวของตัวเองป็นสำคัญ ดังนี้
 -ผู้ที่มีผิวมัน ควรล้างทำความสะอาดใหบหน้าด้วยสบู่ หรือโฟม จากนั้นนำครีมมะขามพะเยาผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย ขัดเบาๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ขอแนะนำให้ทำในช่วงเย็นวันละ 1 ครั้ง
 -ผู้ที่มีผิวแห้ง สามารถใช้ครีมมะขามพะเยาล้างทำความสะอาดใบหน้าได้เลย ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ขอแนะนำให้ทำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
 2.สันเท้า พอกครีมมะขามพะเยาเอาไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3.ผิวกาย หลังการอาบน้ำด้วยสบู่หรือครีมอาบน้ำ นำครีมมะขามพะเยามาขัดให้ทั่วผิวกาย ตามซอกขาหนีบ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 จากข้อมูลที่กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้นจะเห็นได้ว่า ครีมมะขามพะเยานั้นสามารถนำมาใช้ในการบำรุงผิวกายทั้งในฐานะของโฟมทำความสะอาด และการพอกผิวพรรณได้อย่างง่ายๆในขั้นตอนเดียว สำหรับคุณสาวๆคนใดที่อยากบำรุงผิวกายด้วยวิธีการทางธรรมชาติ แบบง่ายๆจบในขั้นตอนเดียว ครีมมะขามพะเยาก็ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑืทางเลือกที่ดที่เดียว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีม joa รีวิว ชาวพันทิปว่ายังไงกันบ้าง ไปดูกัน

 

ผิวขาวเนียนสดใส เป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากที่จะมี แต่กว่าที่จะมีผิวที่ขาวสมใจดั่งฝันได้ ต้องใช้ทั้งความพยายาม ทุนทรัพย์ และสติในการไต่ตรองข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่จะนำตัวเองไปสู่ความขาวเนียนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งบทความในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆทุกท่านไปรู้จักกับครีมมาร์คหน้ายี่ห้อหนึ่ง ส่งตรงจากเกาหลี ที่กำลังมีกระแสความน่าสนใจอยู่ในเว็บบอร์ด Pantip อย่าง ครีม joa ว่าที่จริงแล้ว เจ้าครีมตัวนี้มีดีในการช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่ และมีประสิทธิภาพจริงๆมากน้อยเพียงใด

ครีม joa มีสรรพคุณที่โดดเด่นน่าสนใจอย่างไรบ้าง?
 ครีม joa หรือ JOA Cream Pack เป็นครีมสัญชาติเกาหลี มีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างสดใสขึ้น โดยไม่ใช่การกัดสีผิวเพื่อให้ขาวขึ้น แต่ประสิทธิภาพของครีม joa จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ขาวเนียนสดใสมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงช่วยในการลดอาการอักเสบของสิวให้น้อยลงอีกด้วย ซึ่งครีม joa สามารถใช้ได้กับผิวพรรณทั่วทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หัวเข่า ข้อศอก สิวยุบตัว สิวหายรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และยังมีผู้ที่เคยใช้ครีม joa ให้ความเห็นว่า สามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าให้น้อยลงได้อีกด้วย ถ้าหากดูสรรพคุณตามฉลากด้านข้างของผลิตภัณฑ์จะพบว่า ครีม joa มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.ช่วยทำความสะอากรูขุมขน ขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส
   2.ผลแคลเซี่ยมช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น
  3.ส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมความยืดหยุ่น และช่วยทำให้ผิวกระชับเต่งตึง
 อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้ครีม joa นั้น คุณสาวๆต้องเข้าใจก่อนว่าขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน การใช้เพียง 1-2 ครั้ง อาจจะไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ ถ้าหากต้องการเห็นผลจริงๆ ควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่งเสียก่อน
สำหรับวิธีการใช้งาน ครีม joa ที่ถูกต้องนั้นคือ สามารถนำไปใช้ในการมาร์คหน้า หรือใช้ผสมกับครีมล้างหน้าก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าหากใช้ในการมาร์คหน้า ขอแนะนำว่าไม่ควรทำการมาร์คทิ้งเอาไว้ไม่เกิน 10 นาที ซึ่งสามารถใช้ได้ 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ แต่ผู้ใช้ ครีม joa ที่มีผิวบอบบางส่วนใหญ่ ไม่นิยมนำไปใช้ทาพอกใหบ้นา แต่ใช้ในการพอกผิวพรรณในบริเวณอื่นๆ เช่น มือ แขน ขา หรือหัวเข่า เป็นต้น

ส่วนผสมหลักของครีม joa
 1.โคเอนไซม์ Q10 ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการแบ่งเซลล์ผิว
2.แคลเซียม เป็นสารที่จำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาทในร่างกาย
3.ดินขาว มีคุณสมบัติในการช่วยทำความสะอาดผิว

ระวัง ครีม joa ของปลอม
 เมื่อมีสินค้าคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของท้องตลาดก็ทำให้บรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ค้าหัวใส แต่ไร้จริยธรรมพยายามสร้างสินค้าลอกเลียนแบบออกมาวางจำหน่ายหลอกลวงผู้ซื้อในราคาถูก ซึ่งครีม joa เอง ในปัจุบันเองก็มีสินค้าปลอมมาวางจำหน่ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรทำการสังเกตทุกครั้งก่อนซื้อว่า ครีม joa ที่อยู่ในมือของคุณสาวๆเป็นของแท้หรือไม่ โดยมีวิธีสังเกตดังต่อไปนี้

จุดสังเกตครีม joa ของปลอม
    1.มีกลิ่นแรง หรือมีกลิ่นแอลกฮออล์
2.ผิวบริเวณที่ใช้เป็นปื้นแดง
3.รู้สึกแสบมากๆ เมื่อทำการมาร์ค ในขณะที่ของแท้เมื่อทำการมาร์คอาจจะรู้สึกแสบๆบ้างที่ผิว แต่ก็เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และอาจจะมีอาการตึงๆที่ผิวบ้างเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อตัดปัญหาเรื่องขแงแท้ของปลอมกวนใจนักช็อป ปัจจุบันครีม joa ก็ได้มีการเปลี่ยนแพคเก็ตใหม่ แล้วทำการวางขายใน 7-11 หลายสาขา ในราคา 100 บาท ต้นๆ เท่านั้นเอง ทำให้คุณสาวๆสามารถหาซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับครีมรกแกะ ที่คุณไม่เคยรู้

         การเสริมความงดงามให้กับผิวพรรณด้วยการเสาะแสวหาวิธีการใหม่ๆ และเทคโนโลยีในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์แก่ผิวเป็นสิ่งที่คุณสาวๆทุกคนพึงปารถนา ซึ่งท่ามกลางวิธีการรักษาความงามไมว่าจะเป็นจากธรรมชาติ หรือสารสกัด สารสังเคราะห์ก็ตาม หนึ่งในส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่โดดเด่นน่าสนใจก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “รกแกะ” หรือ ครีมรกแกะ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สำหรับในวันนี้ บทความชิ้นนี้จะขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับครีมรกแกะกันอย่างเจาะลึกกันเลยว่า มันมีความเป็นมาอย่างไร และมีคุณสมบัติที่สร้างประโยชน์ในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างไรกันบ้าง

ครีมรกแกะคืออะไร และมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างไรบ้าง?
ครีมรกแกะ ถูกพัฒนาและคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยในการรักษาความเสียหายของผิวหนังจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อสัญญานของริ้วรอยและปัญหาผิวแห้ง ซึ่งในครีมรกแกะ จะมี “รก” เป็นส่วนผสมหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรกวัว หรือรกแกะ แต่ถ้าหากเป็นครีมรกแกะที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดแล้วมักจะเป็นการนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ เนื่องจากรกแกะที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของครีมรกแกะจากประเทศเหล่านี้ มีความพิเศษที่โดดเด่นนั่นเอง
 รก มีประโยชน์ในการช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีความอ่อนเยาว์ เนื่องจากรกจะทำหน้าที่ในการถ่ายโอนสิ่งที่มีประโยชน์ และจำเป็นต่างๆในการสร้างสรรค์ชีวิตจากผู้เป็นแม่ ไปยังทารกในครรภ์ที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้นักค้นคว้าวิจัยให้ความสนใจในการศึกษารก ในฐานะตัวแทนของความอ่อนเยาว์ สำหรับสาเหตุที่ครีมรกแกะนิยมใช้รกแกะเป็นส่วนผสมหลักนั้น เนื่องจากแกะเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง และมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีมากนั่นเอง
 ครีมรกแกะ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แต่มีข้อมูลที่กล่าวอ้างหลายกระแสว่า ครีมรกแกะยังมีประสิทธิภาพในการช่วยเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ นอกจากนี้ครีมรกแกะยังช่วยในการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ได้ทำการทาครีม นอกจากนี้ครีมรกแกะยังสามารถมีสรรพคุณที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ขึ้นอยู่กับส่วนผสมเพิ่มเติมต่างๆซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของยี่ห้อครีมเหล่านั้น อาทิเช่น นมแพะ น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว มะละกอ คอลลาเจน วิตามินอี น้ำมันอะโวคาโด เป็นต้น

“ครีมรกแกะ” กับ “ครีมรก” แตกต่างกันอย่างไร?
 ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่า “พืช” หรือ “สัตว์” ต่างก็มีรกเหมือนกัน ในบางครั้งคุณอาจจะหยิบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ “รก” ขึ้นมาพิจราณา แล้วจะสังเกตได้ว่า ครีมบางตัวจะระบุเอาไว้อย่าชัดเจนว่าส่วนผสมหลักที่ใช้คือรกแกะ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อีกหลายๆชิ้นส่วนผสมหลักเป็นเพียง “รก” เท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้รกเป็นส่วนผสม ในทางเทคนิคแล้วจะใช้รกของพืชเป็นส่วนผสม เพราะพืชเองก็มีรกเช่นกันแต่จะมีการใช้งานรวมไปถึงคุณสมบัติที่แตกต่างจากรกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ด้วยการโฆษณาเชิงการตลาดที่อาจก่อให้ความสับสน ทำให้หลายๆคนอาจเผลอซื้อครีมรกไปใช้งาน แล้วเกิดความคาดหวังผิดๆว่าครีมรกที่ตัวเองซื้อไปนั้นคือครีมรกแกะ ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อครีมรกแกะทุกครั้ง ควรทำการอ่านฉลากเพื่อพิจราณาส่วนผสมหลักว่าเป็นรกแกะจริงๆเสียก่อน

ครีมรกแกะมีอันตรายหรือเปล่า?
เป็นที่ทราบกันดีว่าครีมรกแกะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใดๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่มักเกิดขึ้นนั้นมาจากความพยายามในการรักษาเซลล์ของรกแกะ เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมชองผลิตภัณฑ์โดยการฉีดยา และเพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดของผิว ควรใช้รกแกะด้วยการทาลงบนผิวพรรณเท่านั้น ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้รกแกะ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มีความคล้ายคลึงกันในลักษณะของการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ซาเวียร์ เซรั่มบำรุงผิวหน้า ย้อนวัยเหนือนกาลเวลา สัมผัสได้ภายใน 1 ชั่วโมง

            ตราบใดที่ผู้หญิงยังไม่หยุดสวย นวัตกรรมทางด้านความงามเองก็ย่อมไม่เคยหยุดนิ่ง พร้อมกับคิดค้น พัฒนานวัตกรรมในการบำรุงผิวพรรณให้ขาว สวย สดใส แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ที่ให้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วออกมาให้คุณสาวๆเลือกสรรตามความพึงพอใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการแข่งขันเหล่านั้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภค เนื่องจากแบรนด์ด้านความงามต่างพยายามแข่งขันกันในทุกด้านเพื่อให้ถูกเลือก ทั้งในด้านราคา ปริมาณ และคุณภาพที่นับวันจะยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ “ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว” และ “ปลอดภัย” ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่คุณสาวๆต้องการมากที่สุด สำหรับในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้าชิ้นหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าทำการรวบรวม ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย ในราคา ปริมาณ และคุณภาพเอาไว้อย่างครบถ้วนอย่างน่าสนใจ ในชื่อของ ซาเวียร์ ลิปติ้ง เซรั่ม นวัตกรรมเซรั่มบำรุงผิงหน้าแห่งอนาคตที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ซาเวียร์ คืออะไร
ซาเวียร์ หรือ ซเวียร์ ลิปติ้ง เซรั่ม (Xavier Lifting Serum) เป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้าประสิทธิภาพสูง ที่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ลดลง กระชับใบหน้า ลดลเอนจุดด่างดำ ที่เหนือกว่าสารสกัดทุกชนิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานสารสกัดที่ทรงคุณค่าจากธรรมชาติ 100 % สู่คุณสมบัติในการบำรุงผิวหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ย้อนวัยกลับไปสู่ช่วงเวลา 6 ปี ก่อนหน้า ภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ ซาเวียร์ ยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณ แก้ไขปัญหาผิวพรรณได้มากถึง 4 in 1  ดังต่อไปนี้
1.ช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวพรรณ ลดฝ้า กระ ที่เกิดขึ้นจากแสงแดด ลดรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2-4 สัปดาห์ เท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันการเกิดฝ้าขึ้นใหม่อีกด้วย
2.ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอบ กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน แลดูกระจ่างสดใสภายใน 4 สัปดาห์
3.ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น กระชับให้กับเซลล์ผิวเหมือนในช่วงวัยเยาว์ โดยการสร้าง Elastomer
4.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง มีความอ่อนโยนสูง และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยไม่เกี่ยงสภาพอากาศ

ทำไม ซาเวียร์ ถึงได้ชื่อว่าเป็นเซรั่มบำรุงผิว ที่เป็นนวัตกรรมความงามแห่งอนาคต  
คุณสมบัติของซาเวียร์ เซรั่มบำรุงผิวหน้า มีประสิทธิภาพ และคุณสมบัติที่โดดเด่นหลากหลาย โดยสามารถทำการสรุป ออกเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อให้เข้าใจถึงคุณสมบัติ และความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ซาเวียร์ ได้อย่างง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1.ซาเวียร์ สามารถซึมลึก พร้อมกับเริ่มบำรุงผิวพรรณได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่ 15 วินาที หลังการทาเท่านั้น
2.ซาเวียร์ มีคุณสมบัติในการยกกระชับใบหน้าได้มากกว่าเทคโนโลยีการร้อยไหมถึง 100 เท่า ด้วยนวัตกรรมการ “ถักทอบำรุงผิว ด้วยโครงสร้างดุจโครงข่ายใยแมงมุม”

            3.ซาเวียร์ บำรุงผิวอย่างล้ำลึกด้วยอนุภาค 0.01Nano ที่มีขนาดเล็กมากที่สุด ในบรรดาผลิตภัณฑ์เนื้อเซรั่มทั้งหมด
4.ซาเวียร์ ช่วยลดเลือนฝ้าได้ทุกชนิดอย่างตรงจุด อย่างต่อเนื่อง
5.ซาเวียร์ ใช้เทคโนโลยรที่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะ โดยใช้วัตถุดิบชั้นยอดจากประเทศฝรั่งเศส และสวิสเซอร์แลนด์
6.ซาเวียร์ ช่วยลดอายุผิวหน้าให้น้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพใน 4-6 สัปดาห์
นอกจากนี้เนื้อเซรั่มของผลิตภัณฑ์ซาเวียร์ ยังอุดมไปด้วยสารสกัดล้วนๆที่ปราศจากน้ำส่วนเกิน ทำให้ทุกหยดของซาเวียรสามารถบำรุงผิวพรรณที่ถูกสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพสงสุด พร้อมกับใช้เทคโนโลยี “Nano Spider Net” แผ่กระจายเนื้อเซรั่มไปทั่วทั้งใบหน้าอย่างรวดเร็วประดุจดั่งใยแมงมุม ทำให้ผิวทุกส่วนของใบหน้าได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก ถึงระดับเซลล์ทั่วใบหน้า โดยใช้เนื้อเซรั่มปริมาณเพียงไม่กี่หยดเท่านั้น หลังใช้เพียง 15-20 วินาที คุณสาวๆก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ ผิวหน้าที่ยกกระชับได้ด้วยตัวเอง ซึ่งประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ซาเวียร์ เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคำว่า “มหัศจรรย์” อย่างแท้จริง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อบาโลน วีเชฟ ราคาหลักพัน กับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

            เมื่อพูดถึงครีมบำรุงผิวหน้า ณ ขณะนี้ มีวางจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด สนนราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงราคาที่เรียกได้ว่าแพงหูฉี่ ทั้งยังมีหลากยี่ห้อให้เลือกสรร ซึ่งถือเป็นผลดีต่อผู้บริโภค สามารถตัดสินใจได้ว่าผิวหน้าของตนเหมาะกับครีมบำรุงตัวไหน ทั้งนี้ทั้งนี้ ราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่การคัดเลือกส่วนผสมที่ใช้ คุณภาพมาตรฐานของวัตถุดิบ ไปจนถึงกรรมวิธีการผลิตให้ได้มาซึ่งครีมบำรุงผิว จึงไม่แปลกที่บางยี่ห้อกล้าขายในราคาที่เห็นแล้วน่าตกใจ
สำหรับอบาโลน วีเชฟ ราคาหลักพันนี้ หลายคนเห็นแล้วก็คงประหลาดใจปนสงสัยว่า ครีมบำรุงผิวหน้า อบาโลน วีเชฟ ราคาสูง สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้สุขภาพดี ขาวใส อมชมพู พร้อมยกกระชับให้เต่งตึง เรียบเนียน แลดูอ่อนกว่าวัยได้สมกับเงินที่ต้องเสียไปหรือไม่ เพื่อคลายข้อข้องใจนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆกัน

อบาโลน วีเชฟ กับความคุ้มค่าที่ใช้
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเหตุผลที่เจ้าอบาโลน วีเชฟ ราคาแพง เนื่องมาจากส่วนผสมที่ใช้นั้นคัดสรรมาอย่างดี เป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ทำร้ายผิวหน้าแสนบอบบาง ทั้งยัง เข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก มีประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิว ยกกระชับผิวหน้าให้ดูดีแบบที่ทุกคนต้องการ
มาเริ่มกันที่ Abalone extract หรือสารสกัดจากหอยเป๋าฮื้อนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของอบาโลน วีเชฟ ภายในเปลือกหอยชนิดนี้ มีโปรตีนและแคลเซียมที่สลับกันเป็นชั้นๆ ทำให้แสงที่สะท้อนออกมาเหมือนสีรุ้ง การลดลงของอุณหภูมิในท้องทะเลเป็นสาเหตุที่ทำให้หอยเป๋าฮื้อจำศีล หรือนอนหลับ และกว่าชั้นของเปลือกหอยจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต้องใช้เวลานานมาก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหอยเป๋าฮื้อเชื่อว่าสีสันอันหลากหลายอาจเกิดจากสารอาหารที่อยู่ในน้ำทะเล รวมทั้งสีของสาหร่ายชนิดต่างๆที่มันกินเข้าไป จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ อบาโลน วีเชฟ ราคาสูง
ที่สำคัญ อบาโลน วีเชฟ ได้ใช้หอยเป๋าฮื้อมาจากหมู่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารแก่ผิวพรรณ มีคุณสมบัติพิเศษในการนำส่งอาหารผิวและออกซิเจนเข้าสู่ชั้นใต้ผิวได้อย่างล้ำลึก และเป็นที่ยอมรับกันว่าหอยเป๋าฮื้อจากหมู่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ มีความสะอาดมากที่สุด จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
ไม่เพียงแค่นั้น อบาโลน วีเชฟ มีส่วนผสมจาก Snail Secretion Filtrate หรือเมือกหอยทากที่มาจากจังหวัดกังชาน แคว้นชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการรับรองว่าสะอาดปลอดภัยมากที่สุด มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยสมานผิว และลดการระคายเคืองสำหรับผิวที่แพ้ง่าย มีการวิจัยพบว่า ผิวของหอยทากและมนุษย์มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกัน แม้แต่ปริมาณคอลลาเจนและอิลาสติน จึงมีการนำเมือกหอยทากมาใช้กับครีมบำรุง ซึ่งในประเทศเกาหลีใต้ได้นำสารสกัดจากหอยทากมาใช้ในวงการเสริมความงามกันอย่างแพร่หลาย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ครีมอบาโลนได้อย่างปลอดภัย

          อย่างไรก็ดี อบาโลน วีเชฟ ยังมีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ Hydrolyzed Collagen (คอลลาเจน ไฮโดรไลซ์), Trehalose (สารสกัดจากกุหลาบทะเลทราย), Squalane (สารสกัดมาจากดอกบานไม่รู้โรย), Arbutin (สารสกัดจากผลไม้ พืชธรรมชาติ 100%), Niacinamide (Vitamin B3) และ Tocopheryl Acetate (Vitamin-E)
และเมื่อสารสกัดทั้งหมดผสมผสานกันอย่างลงตัวในอบาโลน วีเชฟ จึงทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัยทันทีที่ใช้ เพราะซึมซับได้เร็ว ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นให้จางลง ได้ใบหน้าแสนเนียนนุ่มชุ่มชื่น เงางามเป็นประกาย ผิวพรรณกระชับ เนียนใส เปล่งปลั่ง สว่างสดใส แต่งหน้าติดทนนานมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับผิว และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ในการสังเคราะห์คอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยอุ้มน้ำใต้ผิวป้องกันผิวขาดน้ำและลดอาการผิวหมองคล้ำ และเนื่องจากมีคอลลาเจนที่ผ่านการสกัดด้วยกระบวนการนาโนเทคโนโลยี ทำให้ได้คอลลาเจนโมเลกุลเล็กสามารถดูดซึมได้ดี
  ย้อนกลับไปถึงคำถามที่ว่า “หากต้องแลกให้กับอบาโลน วีเชฟ ราคาหลักพัน จะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าหรือไม่” มาถึงตรงนี้คิดว่าท่านผู้อ่านคงสามารถตอบได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมอบาโลน ผสานคุณค่าจาก Hydrolyzed Collagen

            หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของครีมอบาโลน คอลลาเจนกันพอสังเขป ซึ่งคำว่า “อบาโลน” หรือในภาษาอังกฤษ “Abalone” หมายถึงหอยเป๋าฮื้อนั่นเอง หอยชนิดนี้พบได้ในแถบอเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นยอมรับในวงการความสวยความงามว่า เมื่อนำผ่านกระบวนการสกัดจะมีคุณสมบัติพิเศษที่ให้ประโยชน์ต่อผิวพรรณ แลดูกระชับเต่งตึง ขาวสว่างมีออร่ามาจากข้างใน เนื่องจากสามารถลำเลียงอาหารผิวและออกซิเจนเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก จึงเหมาะกับการฟื้นบำรุงผิวหน้าของเราเป็นอย่างยิ่ง
แล้ว Hydrolyzed Collagen ที่เกริ่นเป็นหัวข้อล่ะ มาข้องเกี่ยวอะไรกับครีมอบาโลน จริงๆแล้ว Hydrolyzed Collagen (ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน) เป็นคอลลาเจนที่ผลิตจากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งมีการสกัดผ่านกระบวนการนาโนเทคโนโลยี ทำให้ได้คอลลาเจนปริมาณสูงและมีโมเลกุลเล็ก สามารถดูดซึมได้ดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ชั้นผิว

           โดยทั่วไปแล้ว คอลลาเจนนั้นพบได้ทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งจะสานกันเหมือนเป็นเส้นใยที่ถักทอเป็นเนื้อผ้า และเซลล์ใหม่ๆจะเจริญเติบโตได้ดี ปกติคนเราจะสูญเสียคอลลาเจนตั้งแต่ อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยประมาณ 1.5% นักวิจัยแนะนำว่า Hydrolyzed Collagen สามารถกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ถึง 2 เท่า ทั้งนี้ คอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์มีลักษณะเหมือนกับคอลลาเจนที่พบในสัตว์ จึงเป็นเหตุผลที่มนุษย์สามารถใช้คอลลาเจนจากสัตว์ได้
ดังนั้น ที่ครีมอบาโลนจึงนำ Hydrolyzed Collagen มาเป็นส่วนผสม เนื่องจากสามารถช่วยอุ้มน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิว เสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนในผิวให้มีความหนาแน่น เนียนเรียบ และด้วยเอนไซม์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงมีประสิทธิภาพสูงในการซึมซับสู่ชั้นผิวได้ทันที
โดยสรุปแล้ว Hydrolyzed Collagen ในครีมอบาโลน มีประโยชน์ ดังนี้
1.เสริมความเรียบ เนียนนุ่ม ตึงกระชับให้กับผิวหนัง ลดการเกิดริ้วรอยบนผิวหน้า
2.ให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้นแบบธรรมชาติ และมีความยืดหยุ่น
3.ช่วยทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนกระชับ กลับคืนสู่ความวัยเยาว์
4.ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง

ส่วนผสมต่างๆในอบาโลนครีม
  ในอบาโลนครีมนั้น นอกจากจะมีสารสกัดจากหอยเป๋าฮื้อ (Abalone Extract) จากหมู่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ และ Hydrolyzed Collagen ที่ผลิตจากปลาทะเลน้ำลึกแล้ว ส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยให้อบาโลนครีมมีประสิทธิภาพในฟื้นบำรุงผิว ได้แก่
Snail Secretion Filtrate เมือกหอยทากที่ใช้ในครีมอบาโลน มาจากจังหวัดกังชาน แคว้นชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการรับรองว่าสะอาดปลอดภัยมากที่สุด มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยสมานผิว และลดการระคายเคืองสำหรับผิวที่แพ้ง่าย
 Arbutin อบาโลนครีมมีสารสกัดจากผลไม้ พืชธรรมชาติ 100% เพื่อช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้กระจ่างใส เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนกว่าวัย
Squalane หรือสารสกัดที่ได้มาจากดอกบานไม่รู้โรย ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพให้ออกซิเจนแก่ผิวพรรณ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม

            Niacinamide (Vitamin B3) เป็นวิตามินบี 3 ที่ช่วยลดการส่งเม็ดสีไปยังผิวหนังชั้นบนสุด แต่ไม่ทำร้ายเมลานินในผิวหนังแท้ ทำให้ผิวหน้าดูขาวอมชมพูระเรื่ออยู่สมอ
            Trehalose หรือสารสกัดจากกุหลาบทะเลทราย (Rose of Jericho) จะช่วยกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ในการสังเคราะห์คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยอุ้มน้ำใต้ผิว ป้องกันภาวะผิวขาดน้ำ ลดอาการผิวหมองคล้ำ ไม่ชุ่มชื่นสดใสได้
Tocopheryl Acetate (Vitamin E) เป็นวิตามินอีที่อยู่อบาโลนครีม ซึ่งช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการโดนทำร้ายจากมลภาวะ เสมือนกำแพงปกป้องบนผิวหนังชั้นกำพร้า

ด้วยส่วนผสมของสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติเหล่านี้เอง จึงทำให้ผลลัพธ์ของอบาโลนครีม คือการมีผิวหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นอ่อนกว่าวัย แลดูกระชับเต่งตึง เปล่งปลั่งออกมาจากภายใน ที่สำคุญคือให้ผิวขาวอมชมพูแบบเป็นธรรมชาติ ไม่เวอร์เหมือนการฉีดสีผิว
 ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนใช้ครีมอบาโลน ควรล้างทำความสะอาดหน้า เช็ดให้แห้งและป้ายครีมลงบนฝ่ามือ เพื่อวอร์มเนื้อครีมให้อุ่น จากนั้นลูบไล้ทั่วบริเวณใบหน้าในเวลาเช้าและก่อนนอน เพียงเท่านี้ผิวหน้าก็จะดูดีได้อย่างที่เราต้องการ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.