สาหร่ายแดง ไบโอแอสติน (BioAstin) ราคาถูก ของแท้ ราคาถูก ราคาส่ง

         “สาหร่ายแดง” เป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งที่มีสาร astaxanthin อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารตัวนี้อยู่ในกลุ่มแซนโทรฟิลล์ ตระกูลแคโรทีนอยด์ (Xanthophyll group / Carotenoid family) พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เป็นสารสีแดงที่พบในปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ เปลือกกุ้งปู และในสาหร่ายแดง ทั้งนี้ ร่างกายไม่สามารถสร้างสารชนิดนี้ขึ้นเองได้ เราจะได้รับสารชนิดนี้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ในปริมาณที่น้อยมาก เช่น ปลาแซลมอน 200 กรัม จะมี astaxanthin เพียง 1 มิลลิกรัมเท่านั้น
ทั้งนี้ สาร astaxanthin ที่สกัดได้จากสาหร่ายแดงนั้นมีงานวิจัยระบุว่า มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสที่เข้มข้นสูง มีงานวิจัยพบว่าสาหร่ายแดง (แอสต้าแทนซิน) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า CoQ10 800 เท่า วิตามินอี 550 เท่า Green tea catechins 550 เท่า Alpha lipoic acid 75 เท่า เบต้าแคโรทีน 40 เท่า และสารสกัดจากเมล็ดองุ่นถึง 17 เท่า ปัจจุบันจึงมีการนำ astaxanthin มาใช้ในอาหารเสริมกันอย่างแพร่หลาย หนึ่งในนั้นก็คือ “ไบโอแอสติน (BioAstin)”

 

ไบโอแอสติน (BioAstin) คืออะไร
ไบโอแอสติน (BioAstin) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนผสมของสาร astaxanthin สกัดจากสาหร่ายแดง โดยเป็นแบรนด์ชั้นนำจากอเมริกา มีมาตรฐานการผลิต GMP และ ISO 9001 ผ่านการรับรองจาก อย.ของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง BioAstin จะช่วยเสริมสร้างการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ผลิตจากสาหร่ายขนาดเล็ก Haematococcus pluviallis โดยบริษัทมหาชนไซยาโนเทค มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ สารสีแดงที่สกัดได้จากสาหร่ายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง มีประโยชน์ เช่น
1.ป้องกันการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกาย ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคเสื่อม เหมาะกับผู้ป่วยทุกโรคที่มาจาก cell เสื่อมทั้งหลาย และป้องกันโรคมะเร็งได้
2.ให้พลังงานและความทนทาน เหมาะสำหรับคนทำงานหนัก นักกีฬา และนักเรียนเป็นอย่างยิ่ง

         3.ป้องกันรังสียูวีจากภายในร่างกายและเพิ่มความงามให้กับผิวพรรณ ลบรอยเหี่ยวย่น เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสีผิว เพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มความนิ่มนวล ลดจุดด่างดำ (เหมาะกับคนรักสวยรักงาม วัยรุ่น กลางคน ถึงวัยชราที่กลัวความแก่)
4.ปกป้องและบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นดีขึ้น เพราะสาร astaxanthin สามารถผ่านตัวกรองเลือดที่ไปเลี้ยงลูกตาที่สารต้านอนุมูลอิสระอื่นไม่สามารถผ่านได้
5.ปกป้องสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสมอง และระบบประสาท
6.ลดอาการปวดข้อมือเนื่องจากเอ็นอักเสบ เหมาะกับคนใช้มือทำงานหนัก ปวดข้อมือ นิ้วล๊อค เอ็นข้อมืออักเสบ

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ปวดไหล่ อันตรายที่อาจเรื้อรัง มาดูวิธีรักษาให้หาย

         เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีอาการปวดไหล่ ซึ่งในบางรายอาจหายไปเองเนื่องจากเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ จากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น ทั้งนี้ หากอาการปวดไหล่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่อแววมาจะทวีความรุนแรงมากขึ้น กรณีนี้คุณอาจกำลังเผชิญกับโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้น การปวดไหล่จึงเป็นอันตรายอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม


ปวดไหล่ เรื้อรัง เกิดจากอะไร

         อาการปวดไหล่ที่เรื้อรัง ปวดๆหายๆมาเป็นเวลานาน หรือในบางคนเวลากดที่ไหล่จะรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา แสดงว่าคุณอาจเป็นโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ซึ่งเกิดจาก
         1.กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บรุนแรง เช่น การออกกำลังที่หักโหมจนอาจเกิดกล้ามเนื้อฉีก การใช้งานกล้ามเนื้อหนัก หรือยกของหนักจนเกินไป
         2.การขาดการออกกำลังกาย ถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกล้ามเนื้อเลย เช่น อาจเกิดหลังผ่าตัดทำให้ต้องนอนติดเตียงนาน เมื่อฟื้นก็ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้
         3.ความเครียดชื่อกันว่าผู้ที่ปวดไหล่จากโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เมื่อเกิดความเครียด มีโอกาสที่จะบีบนวดแบบเค้นกล้ามเนื้อตัวเองแรงๆ ทำให้กล้ามเนื้อสร้างจุดกดเจ็บมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักอยู่ในวัยทำงาน ต้องมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ จึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างอาการปวดไหล่ได้ ซึ่งพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย


ท่าบริหารลดอาการปวดไหล่ เรื้อรัง

         การรักษาอาการปวดไหล่เรื้อรังให้หายขาด ควรรักษาตามความรุนแรงและสาเหตุ ซึ่งถ้าจะให้ดีควรได้รับการวินิจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะในบางกรณีอาจเกิดจากภาวะกระดูกทับเส้นประสาท ต้องได้รับการผ่าตัดจึงจะหายขาด อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มักเกิดอาการปวดไหล่เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากทำงาน แนะนำให้บริหารกล้ามเนื้อไหล่และคอ ดังนี้
         ท่าที่ 1 ฝึกเกร็งกล้ามเนื้อคอด้านหน้าและหลัง เอาฝ่ามือมาวางตั้งไว้ที่หน้าผาก ออกแรงเกร็งคอ ไม่ต้องแรงมาก ต้านกับแรงดันของฝ่ามือ ทำค้างไว้ 10– 5 วินาที กล้ามเนื้อคอจะเกร็ง ระยะยาวช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้น
         ท่าที่ 2 ฝึกเกร็งกล้ามเนื้อคอด้านข้าง เอาฝ่ามือมาวางตั้งไว้ที่ข้างศีรษะ ออกแรงเกร็งคอ ไม่ต้องแรงมาก ต้านกับแรงดันของฝ่ามือ ทำค้างไว้ 10–15 วินาที กล้ามเนื้อคอจะเกร็ง ระยะยาวช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้น

         ท่าที่ 3 ฝึกเกร็งกล้ามเนื้อที่ใช้สำหรับหันคอ เอาฝ่ามือมาวางแนบแก้ม ออกแรงหันคอ ต้านกับแรงดันของฝ่ามือ ทำสลับซ้าย–ขวา ค้างไว้ข้างละ 10–15 วินาที กล้ามเนื้อคอจะเกร็ง ระยะยาวช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้น
         ท่าที่ 4 ยืดกล้ามเนื้อคอด้านข้างและไหล่ เอาฝ่ามือวางบนศีรษะ เอียงคอไปด้านข้างจนเกิดแรงตึงที่ลำคอและไหล่ ทำสลับซ้าย–ขวา ค้างไว้ข้างละ 10–15 วินาที ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อคอด้านข้างและไหล่ ทำให้บรรเทาปวดและสบายขึ้น
         ท่าที่ 5 ยืดกล้ามเนื้อไหล่และสะบักส่วนบน ยื่นแขนข้างหนึ่งออกไปด้านหน้าตรงๆ แล้วใช้หลังมือของแขนอีกข้างวางทาบที่ข้อศอก ใช้หลังมือดันโน้มแขนข้างที่ยื่นออกไปเข้ามาจนตึง ถ้าทำถูกจะตึงที่ไหล่และสะบักส่วนบน ทำสลับซ้าย–ขวา ค้างไว้ข้างละ 10–15 วินาที ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อหัวไหล่และสะบักส่วนบน ทำให้บรรเทาปวดและสบายขึ้น

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ร่างกายแข็งแรง

         หลายคนอาจคิดว่าอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ คงไม่จำเป็นสำหรับร่างกาย แต่จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เนื่องจากคุณค่าอาหารที่เรารับประทานในปัจจุบันมีลดน้อยลงจนอาจเรียกได้ว่า ไม่เพียงพอต่อร่างกาย โดยเฉพาะพวกผักและผลไม้ที่ควรรับประทานแบบสดๆจึงจะให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ ณ ขณะนี้ส่วนใหญ่จะใช้สารเคมีในการปลูก ผนวกกับกรรมวิธีการปรุงอาหาร กว่าจะมาถึงเรา สารอาหารที่เป็นประโยชน์ก็ถูกลดหย่อนลงไปจนอาหารบางอย่างแทบจะไม่มีสารอาหารเหลือไว้เลย
         ด้วยเหตุผลดังกล่าว อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งส่วนมากจะใช้ตามอาการ เช่น บำรุงสมอง บำรุงสายตา บำรุงผิว แก้ปวดข้อปวดกระดูก เป็นต้น อย่างไรก็ดี อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ไม่จำเป็นต้องรอให้เห็นอาการ แต่สามารถรับประทานได้ เพราะเป็นอาหารเสริม ไม่ใช่ยารักษาโรค หากรับประทานอย่างถูกต้องก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพื่อความกระจ่างมากขึ้น มาดูกันว่าคุณเหมาะกับอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพแบบไหน


อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ

         1.ไฟเบอร์ (Fiber) หรือที่เรียกกันว่า ใยอาหาร ช่วยในการทำงานของลำไส้ ให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น แก้อาการท้องผูก และป้องกันการเกิดริดสีดวง สามารถลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาล รวมถึงสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอต่อวัน หรือผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผักใบเขียวนั่นเอง
         2.น้ำมันปลา (Fish Oil) มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 EPA และ DHL จะช่วยใน 3 เรื่องใหญ่ๆคือ ช่วยพัฒนาในเรื่องความจดจำเรียนรู้ และยังสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ยับยั้งความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย และช่วยบำรุงสำหรับสาวๆที่กำลังตั้งครรภ์และขณะให้นมบุตร
         3.แมกนีเซียม ถือเป็นโคเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในร่างกายที่จะทำงานร่วมกับแคลเซียม ซึ่งจะช่วยให้การผลิตฮอร์โมนต่างๆเป็นปกติ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ระบบสืบพันธุ์ ระบบเลือด และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะโรคความเครียด ไมเกรน และภาวะกระดูกพรุน ถ้าได้รับประทานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยกันทำงานได้ดีมากและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

         4.แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายมากกว่าแร่ธาตุอื่นๆ แคลเซียมและฟอสฟอรัส จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยร้อยละ 20 ของแคลเซียมในกระดูกของวัยผู้ใหญ่ จะถูกย่อยสลายและสร้างใหม่ทุกปี นอกจากนี้ร่างกายจำเป็นต้องมีวิตามินดีที่เพียงพอ แคลเซียมจึงจะดูดซึมได้ดี ทั้งนี้ ในอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพโดยส่วนใหญ่จะมีวิตามินรวมและแร่ธาตุที่จะใส่แคลเซียมอยู่ด้วย เพราะเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
         5.วิตามินรวม มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น การเจริญเติบโต ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และต่อต้านเชื้อโรค วิตามินยังมีบทบาทในการเปลี่ยนอาหารไปเป็นพลังงานโดยขบวนการทางเคมี วิตามินแบ่งออกเป็นชนิดละลายในน้ำและละลายในไขมัน ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป วิตามินบางตัวเป็น antioxidants ซึ่งป้องกันเซลล์มิให้ถูกทำลาย ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็งจากอนุมูลอิสระ (free radical) สมัยก่อนเชื่อว่าหากรับประทานอาหารได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริม แต่ปัจจุบันได้มีรายงานว่าการรับวิตามินเกินความต้องการของร่างกาย อาจจะทำให้ป้องกันโรคได้ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น

         6.สารสกัดจากใบแปะก๊วย ขอเสริมด้วยสารสกัดอีกหนึ่งตัวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ นั่นก็คือสารสกัดจากใบแปะก๊วย ที่ช่วยในเรื่องการป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ บำรุงความจำ ป้องกันและรักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงสายตา อาการชา มือเท้าเย็น และอาการตะคริว เหน็บชา และยังช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนในเพศชายอีกด้วย
         จะสังเกตได้ว่าอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ต่างก็มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำให้สุขภาพแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่พร้อมจะมาเยือนเราได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรับประทานอาหารเสริมควรใช้ตามคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม จึงจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยผักผลไม้บำรุงเลือด

         หลายคนอาจคิดว่าอาหารบำรุงเลือดนั้นจำกัดอยู่แต่เพียงจำพวกเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่จริงๆแล้วยังมีพืชผักผลไม้อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อโลหิต หรือช่วยในการบำรุงเลือดได้ ที่สำคัญคือผักผลไม้เหล่านั้นสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวล เนื่องจากไม่มีไขมัน คอเลสเตอรอล และท็อกซิน เฉกเช่นที่เนื้อสัตว์ทิ้งไว้ให้ ดังนั้น การรับประทานผักผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจึงมีแต่ดีกับดี
อย่างไรก็ดี หลักการบำรุงเลือด ประกอบไปด้วยอาหาร 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธาตุเหล็กสูง จำเป็นต่อการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง เป็นตัวนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย กลุ่มที่ 2 โฟเลตสูง สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และกลุ่มที่ 3 คือผักผลไม้ที่ให้วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโฟเลตและธาตุเหล็กได้ดี


ผัก ผลไม้ บำรุงเลือด

1.ผักกูด มีธาตุเหล็ก และเบต้า-แคโรทีนสูง ซึ่งหากรับประทานร่วมกับเนื้อสัตว์จะทำให้เกิดการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ช่วยไม่ให้อ่อนเปรี้ยเพลียแรง หรือซีดง่าย ช่วยบำรุงเลือด ควบคุมความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง เนื่องจากมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก
2.แก้วมังกร นอกจากผู้ที่รับประทานแก้วมังกรอยู่เป็นประจำจะมีผิวที่ไร้ริ้วรอย ดูเนียนเรียบ ยังมีผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรส่วนเนื้อสีแดงนั้นมีผลดีต่อระบบไหลเวียนของเลือด ทั้งยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยในการสร้างเชลล์เม็ดเลือดอีกด้วย นอกจากนั้นเลือดไฟเบอร์ที่มีอยู่ในแก้วมังกรนั้นยังช่วยรักษาและสร้างความแข็งแรงให้กับบริเวณช่องคลอด รวมไปถึงบรรเทาอาการตกขาวของผู้หญิงได้อีกด้วย

3.สตรอเบอร์รี่ ผลการวิจัยพบว่า สตรอเบอร์รี่นั้นมีวิตามินอยู่มาก ซึ่งช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดงได้เป็นอย่างดี และจากการทดลองอาสาสมัครที่รับประทานสตรอเบอร์รี่ทุกๆวัน วันละประมาณ 1-2 ถ้วย ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน ผลการตรวจเลือดของพวกเขาพบว่ามีเชลล์เม็ดเลือดแดงอยู่ในเกรณ์ที่ปกติมาก จึงส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นมีผิวพรรณที่สดใส เนียนเรียบ นั่นหมายความว่า ผลไม้แสนอร่อยอย่าวสตรอเบอร์รี่เป็นสมุนไพรบำรุงเลือดชั้นดี
4.ทับทิม ผลไม้นี้ขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายๆ และยังเป็นผลไม้ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาเนิ่นนาน จากผลการวิจัยจากมหาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานทับทิมเป็นประจำทำให้หายจากโรคเบาหวานได้เพราะ ในทับทิมมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บเชลล์เม็ดเลือดแดง โดยทดลองจากผู้ป่วยโรคเบาหวาน 10 คน ให้ดื่มน้ำทับทิมวันละ 1 แก้ว เป็นระยะเวลา 3 เดือน เห็นผลว่ามีระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และมีอาการอ่อนเพลีย ผมร่วง น้อยลงมาก แถมยังมีผิวพรรณที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

5.ตังกุย หลายคนอาจไม่รู้จัก เนื่องจากตังกุยถือเป็นสมุนไพรโบราณ ซึ่งแพทย์ชาวจีนจะที่ใช้บำรุงเลือด รักษาภาวะเลือดพร่อง สีหน้าซีดขาวหรือซีดเหลือง เล็บและริมฝีปากซีด เวียนศีรษะ หูอื้อ ใจสั่น นอนไม่หลับ หลงลืมง่าย หรือประจำเดือนมาช้า ปริมาณเลือดมาน้อย สีจางอ่อน หรือประจาเดือนขาดหายไป สีลิ้นซีด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังใช้ตังกุยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มความชุ่มชื้นให้ลำไส้ ช่วยการขับถ่ายได้อีกด้วย
6.กล้วย ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย ช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด ที่สำคัญคือมีผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology ระบุว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี
นอกจากผักผลไม้ดังกล่าวแล้ว หากอยากสุขาพดีก็ควรเสริมด้วยการรับประทานโยเกิร์ตไร้ไขมันรสธรรมชาติเป็นประจำ และรับประทานปลา หรืออาหารทะเลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าครบสูตรอย่างสมบูรณ์สำหรับบำรุงเลือด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เคล็ดลับ บำรุงร่างกายให้สมดุล ด้วยการสร้างค่า PH ในตัวเอง

         ท่ามกลางวิธีบำรุงร่างกาย และดูแลรักษาสุขภาพมากมาย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพเชื่อว่า หนึ่งในกุญแจความลับที่ไขสู่ความแข็งแรงของสุขภาพนั้น ขึ้นอยู่กับการสร้างสมดุลค่า PH ในร่างกาย มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการบำรุงร่างกายของตัวเอง เนื่องจาก “กรด” เป็นศูนย์กลางของสุขภาพ ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งบทความในวันนี้ จะขอพาคุณผู้อ่านทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับการสร้างสมดุลกรด PH ในร่างกาย พร้อมกับไขความลับว่า กรด PH สามารถช่วยในการบำรุงร่างกายได้จริงๆหรือ?

ค่า PH คืออะไร?
 ค่า PH ย่อมาจาก พลังงานของไฮโดรเจน เป็นมาตราวัดค่าความเข้มข้นของไฮโดรเจนที่อยู่ภายในร่างกาย โดยการอ่านช่วงของค่า PH จะอยู่ระหว่าง 1-14 ถ้าหากร่างกายมีค่า PH เท่ากับ 7 ถือว่าเป็นกลาง ถ้าหากค่า PH น้อยกว่า 17 ก็จะมีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง แต่ค่า PH ที่เหมาะสมสำหรับร่างกายของมนุษย์จริงๆจะอยู่ที่ 7.30-7.45 ซึ่งคุณสามารถที่จะทดสอบระดับค่า PH ของตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเพียงแค่ใช้กระดาษลิปมัน กับน้ำลาย หรือปัสสาวะแรกในตอนเช้า ก่อนที่จะรัปประทานอาหาร หรือดื่มอะไร

ค่า PH ที่สมดุล ดีต่อสุขภาพอย่างไร?
 สมดุลของค่า PH นั้น ดีต่อสุขภาพ และการบำรุงร่างกาย โดยร่างกายที่อยู่เหนือความเป็นกรดนั้น จะช่วยทำให้ร่างกายกลับไปมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยสร้างสมดุลให้กับระบบอื่นๆภายในร่างกายอีกด้วย ซึ่งสมดุลค่า PH ช่วยบำรุงร่างกาย ดังต่อไปนี้
1.ระบบย่อยอาหาร โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารส่วนใหญ่ เช่น อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด กรพในกระเพาะ รวมไปถึงแร่ธาตุต่างๆไม่เพียงพอในลำไส้ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากกาที่ร่างกายขาดสมดุลของค่า PH ทั้งสิ้น
 2.ระบบไหลเวียนโลหิต ความเป็นกรดเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ เนื่องจากไขมันดีที่ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพของหัวใจ อาจถูกทำลายไปด้วยสภาพของความเป็นกรด ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายขึ้นในที่สุด
   3.ระบบภูมิคุ้มกัน สภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการผสมพันธุ์เชื้อโรคชนิดที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน ในขณะที่ระดับของไฮโดรเจนที่สูง และอุดมสมบูรณ์ ก็เป็นการช่วยเพาะกันธุ์แบคทีเรียที่ไม่ดี ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สิ่งเหล่านำไปสู่การเกิดอาการป่วยที่มากขึ้น

         4.ระบบทางเดินหายใจ ร่างกายของคนเราต้องการกาซออกซิเจนใหม่ และล้างก็ษซคาร์บอนไดออกไปจากร่างกาย แต่ในสภาพของกรดที่มากจนเกินไป จะทำให้การทำงานของเมือกผิดปกติ ในบางครั้งปอดก็จะติดเชื้อไวรัส หรือสร้างเชื้อโรคขึ้นในปอด จนนำไปสู่การเกิดโรคหวัด โรคหลอดลมอักเสบ และโรคหอบหืด เป็นต้น
 5.ระบบไขข้อ โรคไขข้ออักเสบ และโรคข้อเข่าเสื่อม เกี่ยวพันกับความไม่สมดุบของกรด และด่างภายในร่างกาย กรดจะสร้างความเสียหายให้กับกระดูกอ่อน ทำให้เกิดความแห้งกร้าน อาการระคายเคือง ส่งผลต่อการฟื้นฟูข้อต่อ
 6.ระบบประสาท กรดจะส่งผลต่อระบบประสาท โดยการทำลายพลังงานที่จำเป็น ส่งผลให้ร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ อ่อนแอลง
 7.ระบบกล้ามเนื้อ เมื่อความเป็นกรดเพิ่มมากขึ้นในเซลล์กล้ามเนื้อ มันก็จะเข้าไปขัดขวางการสลายการเผาผลาญกลูโคสและออกซิจเนให้กลายเป็นพลังงาน ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการยากที่จะส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ หลังจากออกกำลังกายหนัก
จากข้อมูลในเบื้องต้นที่ได้กล่าวถึงไปแล้วจะเห็นได้ว่า การบำรุงร่างกายอย่างถูกต้องนั้น จำเป็นที่จะต้องควบคุมสมดุลความเป็นกรด PH ภายในร่างกาย คุณจึงจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในสุขภาพของคุณอย่างแท้จริง

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บำรุงร่างกายให้ของคุณผู้หญิงด้วย ‘ซันคลาร่า’

            ซันคลาร่า (Sun Clara) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบภายในร่างกาย รวมถึงปัญหาเรื่องผิวพรรณ โดยหากรับประทานซันคลาร่าตามคำแนะนำแล้ว จะช่วยเสริมให้มดลูกกระชับ ฟิตมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอาหารเสริมที่บำรุงมดลูกให้แข็งแรง ที่สำคัญสามารถดับกลิ่นของช่องคลอดได้ พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ สิว ฝ้า กระจะดูจางลง แล้วฟื้นฟูสภาพผิวให้เต่งตึง เรียบเนียน เพิ่มความขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติเฉกเช่นวัยแรกรุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซันคลาร่ามีสโลแกนแสนโดนใจคุณผู้หญิงคือ หน้าชมพู อกฟูรูฟิต เสน่ห์สาวตรึงตาตรึงใจ

การทำงานของซันคลาร่า
ซันคลาร่าจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศของคุณผู้หญิง จึงมีผลให้ฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อที่ควบคุมระบบการทำงานของร่างกายมีความสมดุลมากขึ้น ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ได้ดี เนื่องจากมีการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เสริมสร้างมดลูกให้แข็งแรงและเป็นการดับกลิ่นเหม็น ช่วยกระชับช่องคลอดให้สามารถมีความสุขกับคนรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเนื่องจากมีการใส่ส่วนผสมที่ประโยชน์ต่อผิวพรรณ ผนวกกับระบบร่างกายภายในของสตรีที่เป็นปกติ ทำให้เผยผิวที่กระจ่างใสออกสู่ภายนอก ได้ผิวขาวอมชมพู มีออร่า ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ชวนมอง ดึงดูดสายตาหนุ่มๆ

ส่วนประกอบสำคัญของซันคลาร่า
1.โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง มีฤทธิ์แก้ปวดประจำเดือน และทำให้รอบเดือนมาปกติ ช่วยให้ช่องคลอดมีน้ำเมือกหล่อลื่นมากขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมให้โครงสร้างกระดูก รักษาระดับน้ำตาล แก้อาการตะคริวของกล้ามเนื้อขา ป้องกันหลอดเลือกแข็งตัว โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการ (Food and Drug Administration หรือ FDA) และสมาคมแพทย์โรคหัวใจในอเมริกา (America Heart Association หรือ AHA) ได้แนะนำให้รับประทานโปรตีนจากถั่วเหลือง เพราะมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
  2.สารสกัดจากทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ให้ประสิทธิภาพสูง สามารถลดการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว ซึ่งทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมา ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงขึ้น โดยเข้าไปเพิ่มการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงตับ ป้องกันสารพิษที่ไปทำร้ายตับ ที่สำคัญมีงานวิจัยที่บ่งบอกว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ รวมถึงป้องกันมะเร็งอื่นๆได้

            3.สารสกัดจากเปลือกสน ประกอบด้วยสารพวกฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีโครงสร้างรุปแบบโพลีฟีนอล (Polyphenol) และกรดอินทรีย์ เมื่อเกิดการรวมตัวกัน จะส่งผลให้มีการออกฤทธิ์ได้ดีกว่าสารประกอบเดี่ยวๆตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดปฏิกิริยาและการเพิ่มเม็ดสีของผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด ทั้งนี้ สารโอพีซีในเปลือกสน สามารถลดขนาด และความเข้มของฝ้า โดยไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆต่อผิวบริเวณอื่น แถมยังช่วยยับยั้งการก่อตัวของมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากการกระตุ้นของสารเคมี
             4.กรดอัลฟ่าไลโปอิก เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง และมีประสิทธภาพช่วยนำสารอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกายกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เช่น กากของวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินซี คิวเท็น ซึ่งช่วยต่อต้านการเกิดอาการอักเสบที่ปลายประสาท ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด จึงเป็นสารที่ช่วยบำบัดผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ และเป็นการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานภายในร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักจะใช้กรดอัลฟ่าไลโปอิกเป็นตัวช่วยที่แนะนำคนอ้วน
             5.คอลลาเจนจากปลา ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อความยืดหยุ่น เติมเต็มร่องลึก ช่วยให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส สิว กระ และฝ้าดูจางลง คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่คุณผู้หญิง เนื่องจากคอลลาเจนจากปาก ยับยั้งการเกิดรอยเหี่ยวย่น บำรุงผิวให้เนียนสวยอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี และเป็นสารอาหารที่บำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
   ทั้งนี้ ยังมีสารสกัดจากชาเขียวที่เป็นส่วนช่วยในกระบวนการกำจัดไขมัน และขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ ฉะนั้น หากคุณผู้หญิงที่ใช้ผลิตภัณฑ์ซันคลาล่า จะมีสุขภาพที่ดีรอบด้าน และดีมากจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม้ซันคลาร่าจะมีสรรพคุณแสนวิเศษแค่ไหน อย่าลืมว่ามันคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่อาหารมื้อหลัก ต้องรับประทานตามคำแนะนำที่ระบุไว้ข้างกล่องเท่านั้น และหากใครพบอาการผิดปกติก็ควรหยุดใช้ทันที

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สมองแล่น ความจำดี ด้วยสุดยอดอาหารบำรุงสมอง

            ทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามนุษย์มีการใช้สมองกันอย่างหนักหนาสาหัสตั้งแต่อายุยังน้อย ไปจนถึงวัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ซึ่งเรื่องที่มีมาให้ขบคิดกันตลอด คงหนีไม่พ้นเรื่องการเรียน การทำงาน ชีวิตคู่ ทรัพย์สมบัติ สุขภาพ ฯลฯ ทั้งยังมีปัจจัยจากการรับควันพิษและการดื่มแอลกอฮอลอีกด้วย จนนานๆไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสมองได้ อย่างเช่น อาการสมองเสื่อมก่อนวัย ปวดหัวหรือถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกก็มี ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยให้สมองแล่น ฉลาดปราดเปรื่องอยู่ตลอดเวลา ไม่หลงๆลืมๆทั้งที่ยังหนุ่มสาว ก็คือการรับประทานอาหารบำรุงสมองนั่นเอง
โดยหลักในการเลือกรับประทานอาหารบำรุงสมองนั้น ควรรับประทานอาหารประเภทมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดปัญหาอนุมูลอิสระทำลายสมอง อาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง และอาหารที่ไม่ปนเปื้อน วันนี้เรานำสุดยอดอาหารบำรุงสมองมาบอกท่านผู้อ่าน เพื่อให้มีความจำที่ดี มันสมองแล่น และชะลออายุขัยของสมองให้อยู่กับเราไปนานๆ

ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี่
ได้แก่ บลูเบอรี่ สตรอว์เบอรี่ เชอรี่ เป็นอาหารบำรุงสมอง ช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดความดันโลหิตที่สูงให้สมดุล มีวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดและระดับไอคิว ทั้งยังป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในฮิปโปแคมปัสที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อความทรงจำ โดยเฉพาะบลูเบอร์รีสดที่ดีต่อความจำระยะยาวมากที่สุด เหมาะแก่การรับประทานเป็นอาหารว่าง เพราะไม่ทำให้อ้วน ได้วิตามินซีเพิ่มอีกด้วย

น้ำมันมะกอก
อย่าลืมว่าร้อยละ 60 ของสมองคือไขมัน จึงไม่สามารถมองข้ามไขมันไปได้เลย การศึกษาจำนวนมากชี้ว่า ถ้าไม่มีไขมันแล้วเราจะคิดอ่านไม่ชัดเจน อารมณ์แปรปรวน และอาจเป็นโรคนอนไม่หลับได้ การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยไขมันนั้นจำเป็นมาก ๆ ต่อสมองที่ปลอดโปร่ง ความจำที่ดี และอารมณ์ที่สมดุล ทั้งนี้ อาหารสำเร็จรูปขนมกรุบกรอบ หรือแม้แต่น้ำราดสลัดส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันอื่น ๆ ที่มีไขมันโอเมก้า-6 ตรงนี้ต้องคอยสังเกตไว้ ถึงจะชื่อว่าโอเมก้า-6 แต่ก็ไม่ใช่ไขมันที่ดี ฉะนั้นควรมองหาน้ำมันมะกอกจะดีที่สุด

ธัญพืช
อาหารบำรุงสมอง ได้แก่ เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดงา เมล็ดแฟลกซ์ มีโปรตีนสูง มีไขมันดี และวิตามินเอจำนวนมาก ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มสารอาหารกระตุ้นสมองอย่างแมกนีเซียม ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดี เต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร มีปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม รวมทั้งยังมีโอเมก้าสูง และจะดีมากหากรับประทานเป็นอาหารเช้าเพื่อเพิ่มพลังในวันใหม่

มะเขือเทศ
แม้ใครๆจะรู้กันว่ากินมะเขือเทศแล้วผิวสวย แต่มะเขือเทศเองก็จัดว่าเป็นอาหารสมองชั้นดี เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่าไลโซปีน จึงช่วยป้องกันโรคหลงลืมได้ เพียงแต่ต้องผ่านความร้อนก่อนเพื่อให้เรารับไลโคปีนได้เต็มที่ แต่คำถามที่ว่าซอสมะเขือเทศมีประโยชน์หรือไม่ คำตอบคือมีประโยชน์จริง แต่ซอสก็มาพร้อมกับน้ำตาลเช่นกัน หากเป็นไปได้ควรนำมะเขือเทศมาทำอาหารเองจะดีกว่า

ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยระบบหมุนเวียนเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ ที่สำคัญช่วยพัฒนาความจำได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังที่ผลิตสารเอ็นดอร์ฟิน และเซโทโรนินที่เป็นสารแห่งความสุขในสมอง ทำให้อารมณ์ดี โดยสามารถพกพาได้สะดวก ติดกระเป๋าไว้รับประทานเวลาว่าง เมื่อต้องการความสดชื่นจะช่วยผ่อนคลายสมองได้

ชาเขียว
ชาเขียวนี้ คือมัตชะ ชาเขียวจากใบชาอ่อนๆ ที่ผ่านกรรมวิธีบดด้วยหินตามแบบฉบับญี่ปุ่น เมื่อเราดื่มชาเขียวเข้าไปก็เหมือนดื่มใบชาเข้าไปทั้งใบ ผงชาเขียวนั้นอุดมไปด้วยสารคลอโรฟิลด์จึงทำให้มีสีเขียวสด เมื่อผสมเข้ากับน้ำร้อนที่ไม่เดือดมาก จะมีรสชาติฝาดนิดๆ และเพียงแก้วเดียวก็ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งได้ ว่ากันว่า มัตชะคือเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้พระสงฆ์ญี่ปุ่นสามารถนั่งสมาธิได้นาน แต่ถ้าพูดในแง่วิทยาศาสตร์แล้วมัตชะมีสารที่ชื่อว่า Catechin วิตามินเอ และซีฟลูออไรด์ รวมถึงสาร L-Theanine ซึ่งช่วยในเรื่องสมาธิ กล่าวง่ายๆก็คือเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเดียวก็มีมากกว่าบลูเบอร์รี่ถึง 33 เท่า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.