เมือกหอยทาก ช่วยลดเลือนริ้วรอย และ เพิ่มความเต่งตึงของผิว

         ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ผิวไม่เรียบเนียน แห้งกร้าน ขาดความเต่งตึง เป็นสิ่งที่คุณผู้หญิงมักเจอเมื่อตัวเลขของอายุเริ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ในสาวๆบางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพผิว ก็อาจเกิดปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน เนื่องจากปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวเหี่ยวย่นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย บทความนี้จะมาเฉลยว่าริ้วรอยบนใบหน้า รวมทั้งผิวแห่งกร้าน ไม่เต่งตึงเกิดจากอะไร พร้อมมอบทางออกในการแก้ปัญหาด้วย “เมือกหอยทาก” สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น


ริ้วรอยแห่งวัย ผิวเหี่ยวย่น เกิดจากอะไร

         1.อายุ ถือเป็นสัจธรรมที่หลีกหนีไม่พ้น เมื่อตัวเลขของอายุเพิ่มมากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ผิวพรรณอันเป็นสังขารก็ย่อมล่วงโรยตามวันเวลา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิง พบว่าจะแตกต่างกันตามวัยที่เพิ่มขึ้นดังนี้
         -ปลายอายุ 20 เริ่มมีริ้วรอยบางๆที่ใต้ตา ริ้วรอยรอบๆตา ซึ่งเป็นผลจากการยิ้ม
         -ต้นอายุ 30 มีริ้วรอยบางๆ รอบดวงตาลึกขึ้น และรวมตัวชัดเป็นรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาที่หางตา และริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและบนหน้าผาก ที่เป็นผลจากกิริยาขมวดคิ้ว
         -ปลายอายุ 30 รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หน้าผาก และหว่างคิ้วเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นรอบริมฝีปาก รอยเหี่ยวใต้ตา และร่องแก้มหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก
         -อายุ 40 ขึ้นไป รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ริมฝีปาก หน้าผาก และหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นจากการหย่อนคล้อยของผิวหน้า เส้นริ้วรอยที่ลำคอ
         2.คอลลาเจนใต้ผิว เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่ผิวหน้าของเราเต่งตึงสวยงามอยู่ได้ เพราะสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ทว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง หรือความสมบูรณ์ของคอลลาเจนเสื่อมลง ริ้วรอยย่อมเกิดขึ้น แต่เกิดช้าๆ ทีละน้อย เริ่มจากรอยเล็กๆ บางๆ จนแทบมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป มารู้ตัวอีกทีก็เป็นรอยลึกเสียแล้ว ซึ่งในแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติล้วนมีต้นทุนคอลลาเจนแตกต่างกัน ส่วนคนเอเชียอย่างเรา แม้คอลลาเจนไม่แข็งแรงเท่าคนผิวดำ แต่ยังดีกว่าฝรั่งมาก โดยจะสังเกตได้ว่าผิวของคนไทยจะดูดีกว่าฝรั่งที่อายุไร่เรี่ยกัน

         3.สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิต มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำวิธีดูแลสุขภาพผิวที่แท้จริงด้วยการเปรียบเทียบระหว่างผิวที่ใบหน้ากับผิวที่ก้น ถ้าผิวที่หน้ามีริ้วรอยมากมาย ในขณะที่ก้นยังเต่งตึงอยู่ละก็ แสดงว่าพื้นฐานผิวคุณดี แต่ปัจจัยภาพนอกเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น แสงแดด สูบบุหรี่จัด การที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เป็นต้น
         4.แสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งเจ้ามารร้ายอัลตราไวโอเลตนี้มีพี่น้องร่วมท้อง 2 ชนิด รังสีผู้พี่คือ อัตราไวโอเลตเอ (UVA) โดย UVA จะค่อยๆทำให้ผิวเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกทำลายความแข็งแรงของอีลาสติน หรือคอลลาเจนอยู่ แม้แต่ในออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะ UVA สามารถทะลุผ่านกระจกเข้าไปทำลายคุณได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น


เมือกหอยทาก ช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึง

         จากการค้นคว้าวิจัยต่างๆชี้ให้เห็นว่า เมือกหอยทากมีคุณสมบัติที่น่าประหลาดใจในการรักษาผิวโดยเฉพาะสิว อาการบวมแดง เห่อ ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เนียนเรียบ และช่วยป้องกันรักษาความชราภาพของเซลผิวด้วย โดยอุดมไปด้วยคุณค่าของสารบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวพร้อมทั้งยังช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดเลือดริ้วรอยแห่งวัย และช่วยสมานผิว สารที่อยู่ในน้ำเมือกหอยทากนี้มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิว ขัดผิว บำรุงผิว และสมานผิว ได้แก่ Allantoin, Gluconic acid, Collagen เป็นต้น

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เหตุผลที่ทำให้การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมจากทั่วโลก

                การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เพราะถือเป็นนวัตกรรมความสวยความงามที่แพร่หลายและเป็นที่สนใจของหนุ่มๆสาวๆ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจทั้งใบหน้าและร่างกาย ที่สำคัญมีทั้งคุณและโทษ เราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ “การฉีดโบท็อกซ์” ที่รวมถึงที่มาที่ไป คุณและโทษ ข้อควรปฏิบัติ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหรือต้องระมัดระวัง
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่งที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ถูกค้นพบโดย จิสทินัส เคอร์เนอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน โบท็อกซ์มีการใช้มานานมาก เริ่มต้นโดยการนำมารักษากล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรน ตาเหล่ ก็รักษาด้วยโบท็อกซ์นี้ ต่อมาปี 2002 FDA ของอเมริการับรองการใช้โบท็อกซ์ เพื่อการลดริ้วรอยหน้าผาก และรอยตีนกา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการนำโบท็อกซ์มาใช้ในเรื่องของผิวพรรณและความสวยงาม

               โบท็อกซ์ คือ สารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว โดยหลังการฉีดโบท็อกซ์แล้วตัวยาจะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือน เมื่อกล้ามเนื้อไม่เกร็งตัวแล้ว โบท็อกซ์ยังจะช่วยส่งผลปรับลดขนาดกล้ามเนื้อ ช่วยให้คุณแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น เพียง 10 นาที หลังจากทำการรักษา กล้ามเนื้อของคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่องลึกจะเริ่มคลายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อจะเล็กลง ทำให้ผิวบริเวณนี้เรียบตึง
การฉีดสารเหล่านี้มีระยะเวลา โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำ เพราะการฉีดสารประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้ว คนจะติดใจ คือฉีดแล้วรู้สึกว่ามั่นใจขึ้น สาวขึ้น สวยขึ้น ก็เลยต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
โบท็อกซ์จับกับปลายประสาท สัญญานกกระตุ้นการหดตัวจะไม่มีผล กล้ามเนื้อของคุณจะผ่อนคลาย ริ้วรอยต่างๆจะค่อยๆเนียนเรียบขึ้นจากเดิม และจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ การฉีดโบท๊อกซ์ที่ถูกวิธีนั้นนอกจากจะไม่ทำให้หน้าคุณดูแข็งเกร็งแล้วคุณยังสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างเป็นปกติ เพราะโบท๊อกซ์จะทำงานเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อที่แพทย์ได้เลือกฉีด เช่น หากฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณกล้ามเนื้อที่หน้าผากส่วนกลางแล้ว จะไม่กระทบกับการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าผากด้านข้าง ผลคือคุณจะสามารถการยกคิ้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นไปได้อย่างเป็นปกติ นอกจากจะช่วยให้ผิวเรียบตึงขึ้นแล้วโบท็อกซ์ยังสามารถช่วยลดการทำงานในส่วนของกล้ามเนื้อที่เราไม่ต้องการ ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าของคุณให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

1.สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
2.ทำให้รูปหน้าเรียวเล็กลง
3.เห็นผลเร็ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการฉีดด้วย ซึ่งมีทั้งเห็นผลแทบจะทันที ถึงเป็นเดือนกว่าจะเห็นผล ก็มีเช่นกัน
4.มีใบรับรอง จากองค์การอาหารและยา ทำให้สบายใจได้ ว่ามีความปลอดภัย
5.ไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ ก่อนเข้ารับการฉีด
6.เมื่อฉีดเสร็จ สามารถทำกิจกรรม ตามปกติได้ทันที
7.เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
8.มีผลข้างเคียงน้อย
อย่างที่รู้ๆกัน การฉีดโบท๊อกซ์นั้นไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น ยังมีโทษอีกมามาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง และผลที่ตามมาก็คือ

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
1.อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีด แต่โดยทั่วไป จะมีการทายาชาก่อน ทำให้ลดอาการเจ็บปวดลงได้
2.โบท็อกซ์ ไม่ได้อยู่ตลอดไป ซึ่งก็หมายความว่า ริ้วรอยบนใบหน้า หรือกรามที่เล็กลงนั่น จะกลับมาเป็นสภาพเดิมอีกครั้ง กลังเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน
3.มีราคาสูง การฉีดโบท็อกซ์ มีค่าใช้จ่ายที่ค่อยข้างสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ บริเวณที่ต้องการฉีด และสถานที่เข้ากับการฉีดด้วย
4.หากฉีดจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายได้
5.ควรเลือกสถานที่ที่มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลครบถ้วน มิฉะนั้นหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น อาจมีอันตรายถึงชีวิต
6.อาจมีอาการแทรกซ้อน สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือหญิงตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดทุกครั้ง

แนวทางปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์

 1.หลังฉีด ทันที ไม่ควรจับ ลูกคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา
2. ภายใน 4 ชั่วโมง ไม่ควรไปนอนราบ หรือนอนตะแคง เพราะในช่วง 4 ชั่วโมงแรก เป็นช่วงการซึมของยาเข้ากล้ามเนื้อ ถ้านอนตะแคงจะทำให้การกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งที่แพทย์คาดการณ์ไว้ได้ เมื่อเลย 4 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถนอน หรือตะแคงได้ตามปกติ
3.ภายใน 4 ชั่วโมงแรก ต้องบริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อที่ต้องการให้ออกฤทธิ์มากที่สุด เช่น ฉีดหางตา ควรยิ้มบ่อยๆ ฉีดหน้าผากควรยักคิ้วบ่อยๆ หรือฉีดกรามควรเคี้ยวหมากฝรั่ง 15-30 นาที่ หรือ 4 ชั่วโมง ตามดุลยพินิจแพทย์
4. ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรงดการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ยิงเลเซอร์ ทำ RF หรือไอออนโตที่หน้า เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อโบท๊อกซ์ได้ใน 2 สัปดาห์แรกความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ไดร์เป่าผม อาบน้ำอุ่น (งดบริเวณที่ฉีดโบท๊อกซ์) และโดนแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไปได้ตามปกติ
5. หลังฉีดแต่งหน้า ทาแป้ง ทาครีมได้ตามปกติ เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์สามารถทำ Treatment ได้ตามปกติ (ยกเว้น Laser, RF และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)
6.สำหรับการฉีดโบท๊อกซ์ที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อกราม และน่อง ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-4 สัปดาห์ ดังนั้น ช่วงแรกๆ อาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ฤทธิ์ยาจะมีผลสูงสุดในช่วง 4-8 สัปดาห์ (1-2 เดือน) และจะหมดฤทธิ์เมื่อครบเวลา 4-6 เดือน หรืออาจจะนานกว่านี้ กรณีที่ฉีดโบท๊อกซ์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ดังนั้นถ้าจะให้เห็นผลในการลดขนาดกล้ามเนื้อกรามและน่องอย่างมีประสิทธิภาพควรฉีดต่อเนื่องกันทุก 4-6 เดือน ประมาณ 3-4 ครั้ง เมื่อหยุดฉีดขาดกล้ามเนื้อจะเปลี่ยนไปจนสังเกตได้
7.ใน 2 วันแรก งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ จะเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด และจะเป็นการล้างยาโบท๊อกที่ฉีดไป
8.หลังฉีดสามารถรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

การฉีดโบท็อกซ์ ถึงแม้จะเป็นนวัตกรรมเสริมความสวยความงามที่แพร่หลายอย่างมากทั่วโลก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่โชคร้ายกับการฉีดโบท็อกซ์เข้าร่างกาย และมีมากมายหลายคนต้องเสียโฉมเพราะเจ้าโบท็อกซ์นี้ ดังนั้นเราควรระมัดระวัง ศึกษาอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจเสริมความงามเหล่านี้ ก่อนที่จะเสียทั้งเงินทั้งหน้าตาของเราไป

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เคล็ดลับลดริ้วรอยด้วยโกโก้

ริ้วรอย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย หลายสาเหตุ อาทิเช่น แสงแดด มลภาวะรอบตัว ความเครียด วัยที่ที่ล่วงเลยมากขึ้น เป็นต้น แต่ไม่ว่าริ้วรอยจะเกิดขึ้นจากอะไรก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงปารถนาของเหล่าคุณสาวๆ อย่างแน่นอน

ซึ่งในวันนี้สำหรับคุณสาวๆที่ยังคงต้องการดูแลรักษาผิวพรรณของตัวเองให้กระชับตึงสดใสเหมือนกับในวัยแรกสาว ในบทความชิ้นนี้ก็จะขอพาไปรู้จักกับวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยลดริ้วรอยให้ลดน้อยลง

โกโก้ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างไร

จากผลการศึกษา และได้รับการตีพิมพ์ใน “The Joumal of Nutrition” ในปี 2006 พบว่า  โกโก้ มีสารประกอบ Epicatechin และ Catechin ที่มีคุณสมบัติที่คอยช่วยในการปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอบเหี่ยวย่นและหมองคล้ำ

อีกทั้งยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยทำการหมุนเวียนเของเลือดเข้าสู้เซลล์ผิวหนังได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวมีสุขภาพดีมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยลดความดันโลหิต และยังช่วยทำให้ผิวนุ่มเนียนมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ การดื่มโกโก้ยังช่วยในการปรับอารมณ์ ทำให้อารมณ์มากขึ้น เมื่อความเครียดลดน้อยลง หรือหายไป ก็จะเป็นการช่วยลดริ้วรอย และป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยชุดใหม่ขึ้นมาบนใบหน้า มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดผลกระทบจากพวกไขมันคอเลสเตอรอลและสารเคมีอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง โรคปอด ได้อีกด้วย

วิธีการใช้โกโก้เพื่อลดริ้วรอย

            1. ดื่มโกโก้ร้อน เป็นวิธียอดฮิตที่ง่ายที่สุดในการใช้โกกโก้เพื่อลดริ้วรอย และยังเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับเนื่องจากเป็นวิธีที่จะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ที่ดีที่สุด

              นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาพบว่า ในโกโก้ร้อน 1 แก้วนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง ชา หรือ ไวน์แดง เสียอีก โดยมีมากกว่าไวน์แดงถึง 2 เท่า และมากกว่าชาเขียว 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน

            2. มาร์สหน้าด้วยโกโก้ ช่วยทำให้ผิวมีความสดชื่นเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น โดยนำผงโกโก้ครึ่งถ้วย น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย โยเกิร์ตหรือวิปครีม 4 ช้อนโต๊ะ และผงข้าวโอ๊ต 3 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันจนกลายเป็นเนื้อครีมเข้มข้น จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ทำการทาพอกลงให้ทั่วใบหน้า โดยพยายามระวังอย่าให้เข้าตา จมูก และปาก แล้วทำการนวดเบาๆ เป็นแนววงกลมให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นสะอาด

            3. แช่ตัวด้วยน้ำโกโก้ เป็นการนำเอาผงโกโก้มาผสมเข้ากับน้ำในอ่างอาบน้ำ จนกระทั่งน้ำกลายเป็นสีเดียวกับผงโกโก้ จากนั้นคุณสาวๆก็สามารถลงไปนอนแช่น้ำโกโก้ในอ่างเพื่อเป็นการถนอมผิว ลดริ้วรอยได้เลยทันที

การทานโกโก้เพื่อต้านริ้วรอยจะทำให้อ้วนหรือเปล่า

            ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า “โกโก้” กับ “ช็อกโกแลต” แตกต่างกันเป็นอย่างมาก จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด และกังวลว่าการทานโกโก้นั้นจะทำให้อ้วน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว

            ถึงแม้ช็อกโกแลตจะมีส่วนประกอบหลักคือโกโก้ก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้อ้วนจริงๆนั้น คือ การนำเอานม น้ำตาล และอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความหวานจนกระทั่งกลายมาเป็นช๊อกโกแลตนั่นเอง

ในช็อกโกแลต 1 แท่ง จะมีไขมันมากถึง 8 กรัม ในขณะที่ในโกโก้ร้อนในปริมาณที่เท่ากัน จะมีไขมันเพียง 0.3 กรัม เท่านั้น เมื่อทำการเปรียบเทียบแล้วพบว่า ช็อกโกแลตนั้นจะมีปริมาณไขมันมากว่าโกโก้มากถึง 27 เท่า เลยทีเดียว

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มารู้จักกับอาหารที่มีประโยชน์ ในการเสริมสร้างคอลลาเจนผิวขาวกันเถอะ

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนที่อยู่ใต้ชั้นหนังแท้ มีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า คอลลาเจนนั้น มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวหนังมีการสปริงตัว เกิดความกระชับเต่งตึงให้กับผิวหนัง

ถ้าหากร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนที่สมบูรณ์ ก็จะเป็นการช่วยทำให้ใบหน้าและผิวทั่วทั้งร่างกายของคุณสาวๆห่างไกลจากริ้วรอย รอยตีนกา รวมไปถึงรอยเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คอลลาเจน ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การช่วยทำให้ผิวขาวใสมากขึ้น โดยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจนักที่คอลลาเจนจะถูกยกย่องให้เป็น “โปรตีนแห่งความงาม” ที่คุณสาวๆ ทุกคนล้วนต้องการกันทั้งนั้น

สำหรับในวันนี้ เพื่อเป็นการเอาใจคุณสาวๆ ที่อยาก เสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อช่วยในการทำให้ผิวขาวมากยิ่งขึ้น แต่ไม่อยากรับประทานคอลลาเจนในลักษณะของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

ไปรู้จักกับสารพัดวัตถุดิบทำอาหารที่แม้จะอยู่ใกล้ตัว แต่คุณสาวๆ บางคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่า พวกมันเหล่านั้นเป็นแหล่งอาหารคอลลาเจนชั้นเลิศตามธรรมชาติ ที่สามารถซื้อหาได้ง่ายๆ ในราคาที่ไม่แพง
 

คอลลาเจนในอาหาร มีอะไรบ้าง

1. เนื้อปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาหมึก ปลากระเบน เป็นต้น แหล่งที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนโดยส่วนใหญ่มักจะอยู่ในส่วนเนื้อเยื่อ ตา และหนังของปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งจะประกอบโดยกรดโอเมก้า ที่มีคุณสมบัติเป็นอาหารชั้นเลิศของผิว นอกจากนี้คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลจะมีโมเลกุลที่คล้ายกับโครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังของมนุษย์

 2. สาหร่ายทะเล หรือสาหร่ายน้ำจืด ล้วนแล้วแต่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

3. น้ำมะพร้าว ในน้ำมะพร้าวจะมีส่วนประกอบของสารเอสโตรเจน ซึ่งจะช่วยในการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินอยู่เป็นจำนวนมาก

4. เนื้อไก่ เนื้อหมู โดยคอลลาเจนจะอุดมอยู่ในส่วนโปรตีนของเนื้อ
[BINDING:8] 
5. ไข่ขาว มีส่วนประกอบของสารโพรลีนและสารไลซีน ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปเป็นคอลลาเจนได้

6. เห็ดทุกชนิด เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู เป็นต้น ล้วนแต่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน

7. ผักใบเขียวเข้ม มักที่จะมีวิตามินซีจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสารซัลเฟอร์ที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำโปรตีนมาบำรุงร่างกาย พร้อมกับช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรงอีกด้วย ผักใบเขียวเข้มที่มีปริมาณคอลลาเจนเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น แตงกวา ขึ้นฉ่าย หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดหอม คะน้า เป็นต้น
 

8. ผลไม้สีแดง มีสารไลโตปีน ช่วยในการทำปฏิกิริยาแอนติออกซิแดนท์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง อาทิเช่น หัวบีท มะเขือเทศ  ส้มโอ แก้วมังกร แอปเปิ้ล ลูกเบอรี่ เป็นต้น  ผลไม้เหล่านี้มีส่วนประกอบของคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จะมีปริมาณที่น้อยกว่าที่พบในเนื้อสัตว์

9. ถั่วประเภทต่าง เช่น ถั่วอัลมอนด์ ถั่วเหลือง  เป็นต้น รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่เข้มข้น มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างของคอลลาเจน และมีกรดโอเมก้า ที่เป็นอาหารที่ดีของผิวหนัง และมีส่วนประกอบของสารในกลุ่มๆ ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) มีคุณสมบัติในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ และเสริมฮอร์โมนให้กับเพศหญิง
[BINDING:32] 
10. กระเทียม สารซัลเฟอร์ในกระเทียมจะช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีสารทอรีน และไลปออกเอซิด ที่จะคอยช่วยในการซ่อมแซมคอลลาเจนที่เสียหาย และยังช่วยในการควบคุมระดับคอลเรสเตอรอลอีกด้วย

11. กระดูกปลาและกระดูกอ่อนของสัตว์ เช่น กระดูกของปลาทะเล กระดูกไก่ กระดูกหมู เป็นบริเวณที่มีคอลลาเจนสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และอุดมไปด้วยสารไลโคปีน ซึ่งจะสามารถช่วยในการยับยั้งเอนไซม์คอลลาจีเนส ที่ทำลายชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเราได้อีกด้วย
 

12. เนยแข็งและชีส ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และยังช่วยชะลอความชราของผิวหนังได้อีกด้วย

13. ข้าวโอ๊ต มีสารที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว และลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

14. ชา เช่น ชาเขียว ชาดำ เป็นต้น จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถช่วยในการเรียกคืนคอลลาเจนและชะลอริ้วรอยได้เป็นอย่างเป็นธรรมชาติ

15. พริกไทยแดง สารไลโตปีน ช่วยในการทำปฏิกิริยาแอนติออกซิแดนท์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

อย่างไรก็ตาม หากต้องการรับประทานคอลลาเจนจากอาหารตามธรรมชาติ ขอแนะนำให้คุณสาวๆ ทำการรับประทานควบคู่ไปกับวิตามินซี

เนื่องจากวิตามินซีจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนให้เข้าสู่ร่างกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้ผิวของคุณสาวๆ มีสุขภาพดีขึ้น ขาวขึ้น แลดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

 

Namu Salmon Placenta และ Gluta Berry มีสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างไร

ในเวลานี้ คงไม่มีใครปฏิเสธความแรงของกระแสนิยมความขาวใส สไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น ที่มาแรงไม่มีตกเลย ทำให้สาวๆ หลายคนที่มีผิวหมองคล้ำ หรือว่าสาวคนไหนที่มีผิวขาวใสอยู่แล้ว แต่อยากจะมีผิวที่ดูขาวใสเรียบเนียน อมชมพู สุขภาพดี ดูมีเลือดฝาดนิด ก็นิยมหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนกลูต้า กันอย่างแพร่หลาย

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเกี่ยวกับผิวขาวใสในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยสารสกัดจากคอลลาเจน และมีส่วนผสมของ Glutathione กันทั้งนั้น แต่ก็มีไม่กี่ผลิตภัณฑ์เท่านั้น ที่มีส่วนผสมและสรรพคุณโดดเด่นกว่าสินค้าค้าอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน

อยากรู้หรือยังคะว่า มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวไหนบ้าง ที่มีส่วนผสมและสรรพคุณที่โดดเด่นกว่าสินค้าตัวอื่น ไปดูกันเลย…..

NAMU SOP 100 Salmon Placenta สารสกัดคอลลาเจน รกปลาแซลมอน

NAMU SOP100+ สารสกัดจากรกปลาแซลมอน Namu SOP100+ สวย เด้ง หน้าเด็ก Namu SOP100+ คุณค่าที่เหนือกว่า Collagen วิตามินบำรุงผิวที่สกัดจาก Peptide ของรกรังไข่จากปลาแซลมอนที่ทรงคุณค่าที่สุด ความสวยไม่เคยรอใคร การดูแลตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สุดของลูกผู้หญิง

NAMU SOP 100+ สกัดมาจาก Salmon Ovary Peptide (SOP) หรืออีกชื่อคือ Salmon Placenta ที่ประเทศญี่ปุ่นอาหารเสริมชนิดนี้ได้นิยมทานกันมานานแล้วเนื่องจากสรรพคุณของ Salmon Placenta นี้ ได้มีการจดสิทธิบัตรมากมาย อย่างเช่น สรรพคุณทางด้านการบำรุงผิวพรรณ การปรับสมดุลช่วยเรื่องการหมุนเวียนโลหิต และที่สำคัญ Anti Aging Effectการป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมที่ญี่ปุ่นถึงเป็นเป็นที่นิยมกัน

ประโยชน์ของ  รังไข่ปลาแซลมอน  (SOP)  หรือ  รกปลาแซลมอน

  • กระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่  ทำให้ผิวขาวใสแบบธรรมชาติ
  • เพิ่มการรักษาดุลยภาพของร่างกาย  ผ่านทางระบบไหลเวียนโลหิต  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหัวใจ  และผิวพรรณ
  • ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว  ช่วยลดอาการบวมบริเวณถุงใต้รอบดวงตา
  • ช่วยให้กระและริ้วรอยลดลง  เนื่องจากกระบวนการผลิตเม็ดสีลดลง
  • ปกป้องสภาพผิวไม่ให้แห้งกร้าน  สร้างความกระชับให้กับผิวหน้า  ช่วยให้ดูเต่งตึงขึ้น
  • กระตุ้นการสมานเซลล์ผิว  อันเกิดจากแผลต่าง ๆ  รวมทั้งแผลเป็นด้วย
  • เพิ่มความสดใสให้กับผิวแห้งกร้านจากแสงแดด  และ  UV
  • ลดริ้วรอยหมองคล้ำก่อนวัย  และ  ฟื้นฟูสภาพผิวให้บริสุทธิ์สดใส
  • ควบคุมการทำงานของต่อมผลิตน้ำมัน  พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
  • กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน  และ  อีลาสติน  เพื่อให้ผิวเต่งตึงแบบย้อนวัย
  • ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น  ซึ่งจะช่วยทำปฏิกิริยากับการสลายไขมันได้ดียิ่งขึ้น


namuSOP100+  ทานแล้วได้อะไร

  • ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ  ดูอ่อนกว่าวัย
  • ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส
  • กระตุ้นการทำงานของ  Growth  Factors  (ระบบการทำงานของ Growth Hormones)  ให้ซ่อมแซมผิวในขณะนอนหลับ
  • ผิวหน้าเรียบเนียนละเอียด  รูขุมขนดูเล็กลง
  • ช่วยเติมน้ำให้กับผิว  ทำให้ผิวชุ่มชื้น
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด  จึงช่วยลดอาการขอบตาคล้ำ
  • ช่วยลดรอยแผลเป็น  และ  กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ  กำจัดเมลานินส่วนเกินของผิว  ซึ่งเป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ  (ทั้งผิวหน้าและผิวกาย)
  • ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนให้กลับสู่วัยหนุ่มสาว
  • Anti – Aging  แอนตี้ เอจิ้ง  ปกป้องริ้วรอยก่อนวัยอันควร  ช่วยย้อนผิวสู่วัยหนุ่มสาว

ความแตกต่างระหว่าง  Collagen  กับ  SALMON PLACENTE (SOP)

ข้อแตกต่างของ  SALMON PLACENTA (SOP)  คือ  นอกจากการให้ประโยชน์เหมือนกับคอลลาเจนในปริมาณ  การรับประทานที่น้อยกว่าแล้ว  ยังมีส่วนช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

  • เพิ่มระดับ  Growth Hormones  ในร่างกาย  เนื่องจาก  Growth Hormones  คือ  สารที่ร่างกายจะหลั่งออกมาในขณะหลับ  เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเซลล์สำคัญต่าง  ๆ ที่สึกหรอของร่างกาย  ซึ่งเปรียบเทียบได้กับคนที่หลับพักผ่อนได้เพียงพอ  จะส่งผลให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี  ไม่แก่เร็ว  ซึ่งผลิตภัณฑ์  SOP 100  จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสาร  Growth Hormones  ได้เป็นปกติ  ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานดีขึ้น  จึงมีผลทางอ้อมต่อผิวพรรรณ  เช่น  ผิวบริเวณขอบดวงตาที่มีสีคล้ำจะดูจางลง  เนื่องจากเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงบริเวณรอบดวงตานั้นหมุนเวียนดีขึ้น
  • ช่วยให้ระบบต่าง ๆ  ภายในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  จึงช่วยให้มีการดึงพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายไปใช้งาน  เมื่อระบบการเผาพลาญไขมันของร่างกายทำงานดี  ก็จะส่งผลให้มีพลังงานสะสมน้อยลง  มวลไขมันลดน้อยลง

 

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Gluta Berry Swiss by Pancake

ล่าสุด นางเอก นางแบบคนดัง “แพนเค้ก” เขมนิจ ก็ได้โดดมาจับธุรกิจเสริมกับเค้าด้วย กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม เกี่ยวกับสุขภาพผิว เพื่อความกระจ่างใส มีสุขภาพดี โดยมีชื่อว่า “Gluta Berry Swiss

Gluta Berry Swiss ใช้วัตถุดิบ กลูต้าไธโอน คุณภาพดีที่สุดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานจากโรงงานคุณภาพ และได้รับการรับรองจาก อย.ประเทศไทย ทะเบียนเลขที่ 11-1-06353-1-0261 จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ Gluta Berry Swiss ปลอดภัยและมีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน 250 มก. อย่างแน่นอน

การรับประทาน Gluta Berry Swiss ชนิดเม็ด เป็นกลูต้าไธโอนที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายเหมือนการฉีดเข้าเส้นเลือด เนื่องจากการรับประทาน Gluta Berry Swiss ผ่านกระบวนการดูดซึมที่ถูกต้องของร่างกาย ไม่เสี่ยงกับการแพ้ จากการฉีดเข้าเส้นเลือด

Gluta Berry Swiss มีส่วนผสมของ Acerola Cherry ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีธรรมชาติที่สูงที่สุด มากกว่าที่พบในส้มกว่า 30-80 เท่า และวิตามินซี ซึ่งจะทำงานร่วมกับกลูต้าไธโอนเป็นอย่างดี จึงทำให้ร่างกายได้นำสารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ที่ขาวกระจ่างใสอย่างแท้จริง

Gluta Berry Swiss by Pancake มีส่วนผสมและสรรพคุณอะไรบ้าง

L-Glutamine, L-Cysteine
เสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ ซ่อมแซมคอลลาเจน และอีลาสติน นอกจากนี้ยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ แอล-กลูต้าไธโอน ทำให้เพิ่มปริมาณแอล-กลูต้ไธโอนในระดับเซลล์ ส่งผลให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสได้เร็วยิ่งขึ้น Vitamin C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเสริมให้แอลกลูต้าไธโอน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

Goji Berry Extract
โกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสารแอนติออกซิแดนท์ ในปริมาณมากถึง 25,300 ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของสมอง

Acerola cherry Extract
วิตามินซีจากธรรมชาติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ จากปัจจัยภายนอกและภายใน ช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างคอลลาเจน และการประสารตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้น

Alpha-lipoic acid
มีบทบาทส่งเสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ เช่น วิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน และ CoQ10

Glycine
เป็นสารตั้งต้นในการสร้าง Glutathione ให้กับร่างกาย L-Cysteine จะทำงานร่วมกันกับ Glyvine (ไกรซีน) และ Glutamic acid และสารที่จะสั่งให้เกิดการสร้างอนุพันธ์โมเลกุลเป็น Glutathione คือ Vitamin c หรือ Calcium Ascorbate

Bitter orange extract
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) โดยไปกระตุ้นการทำงานของ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) ที่มีอยู่ในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยปกป้องผนังเซลล์ในร่างกาย ช่วยดูแลผิวพรรณ และคงความอ่อนเยาว์ ชลอความแก่ชราก่อนวัยอันควร

Selenium Enriched Yeast
ทำงานร่วมกับ Vitamin E ในร่างกาย ผ่านการเสริมสร้างอีลาสตินใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาสภาพของเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเกินไป อีกทั้งช่วยดูแลผิวพรรณ และปกป้องเซลล์ผิวจากอันตรายของรังสี UV ได้อีกด้วย

Coenzyme Q10
ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวโดย การสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นใน ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ช่วยรักษาความความยึดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยชะลอความเหี่ยวย่น และการเกิดรอยตีนกาบนใบหน้า ช่วยให้ผ้า กระ และจุดด่างดำจางลง

อาหารเสริมกลูต้าขาวใส i-Pink และ Gluta Berry by Pancake ช่วยให้ขาวได้อย่างไร

ด้วยเทรนด์ผิวขายใสที่มาแรง และไม่มีวี่แววที่จะตกลงไปง่ายๆ จึงยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิวขาวใส ออกมาจำหน่ายกันอย่างต่อเนื่อง และอาหารเสริมกลูต้า (Glutathione) ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวใส ที่มีจำหน่ายในตอนนี้

ไอพิ้งค์ หรือ i-Pink (PNK) หรืออย่างผลิตภัณฑ์กลูต้าขาวใสใหม่ล่าสุด ของดารานางแบบยอดนิยม แพนเค้ก เขมนิจ ที่ได้หันมาจับธุรกิจอาหารเสริมกับเค้าด้วยเหมือนกัน โดยใช้ชื่อว่า Gluta Berry Swiss by Pancake

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขาวใสด้วยกันทั้งคู่ และมีสรรพคุณใกล้เคียงกัน มีคนพูดถึงกันมากในปัจจุบันวันนี้ ทางทีมงาน คนดูดี จึงมารีวิวให้อ่านกันว่า แต่ละยี่ห้อมีสรรพคุณอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่คุณสาวๆ คุณผู้อ่านที่สนใจในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิว จะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อมารับประทานกัน ได้ตรงความต้องการของตัวเองได้ง่ายขึ้นค่ะ

i-Pink ไอพิงค์ หรือ I-PNK ช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างไร

รีวิว I-Pink ราคาแพงจัง ของแท้ เพิ่มหน้าอก ได้จริงเหรอ

i-Pink ไอพิงค์ หรือ I-PNK เครื่องดื่มให้พลังงาน สำหรับสาวๆ ที่จะเข้าไปช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลของฮอร์โมนของร่างกายในทุกๆ ส่วนให้มีความสมดุล ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ให้ผิวขาวใสเรียบเนียน ทั้งยังเพิ่มพลังงานในการทำงานระหว่างวันให้ยาวนานขึ้น ช่วยควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่คงที่และพอดี ไม่ให้เครียดมากเกินไป และช่วยทำให้สุขภาพผิว เล็บ และสุขภาพผม ดีขึ้น
[BINDING:20]
ผลิตภัณฑ์ PINK ไอพิงค์ (i-PNK) ประกอบ ด้วยส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์มากกว่า 40 ชนิด ถึงเวลาหรือยังที่จะหันมาดูแลสุขภาพ ด้วยนวัตกรรมอาหารเสริมสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ

iPink รีวิว pantip

คุณประโยชน์หลักๆ ของ i-Pink

การสร้างสมดุลให้ร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังงานทำให้ทำงานได้นานขึ้น และร่างกายเผาพลาญพลังงานได้ดี และเมื่อร่างกายเผาพลาญพลังงานได้ดีแล้ว ก็จะทำให้ร่างกาย หรือหุ่นกระชับขึ้น

อีกทั้งในผลิตภัณฑ์ ยังมีส่วนผสมของ กรดอะมิโนและแอลกลูต้าไธโอน (L-Glutathione) ซึ่ง จะเข้าไปช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ในบางรายด้วยฮอร์โมนที่มีมากขึ้น ยังไปส่งผลให้มีขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นอีกด้วย

  • ช่วยปลดปล่อยและเพิ่มพลังงานในระหว่างอย่างทันที ทำให้คุณมีพลังงานทำงานได้ตลอดทั้งวัน
  • ช่วยให้มีขาวกระจ่างใส อมชมพู และเรียบเนียน
  • ช่วยปรับความสมดุลของฮอร์โมนทุกส่วนในร่างกาย ไม่ให้มากหรือน้อยเกินไป
  • ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้มีอารมณ์ที่สงบตลอดทั้งวัน
  • ช่วยบำรุงสุขภาพของเส้นผม ผิวและเล็บด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ ทั้ง ALA, Vitamin B และสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพเป็นจำนวนมาก

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Gluta Berry Swiss by Pancake เป็นอย่างไร

ล่าสุด นางเอก นางแบบคนดัง “แพนเค้ก” เขมนิจ ก็ได้โดดมาจับธุรกิจเสริมกับเค้าด้วย กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม เกี่ยวกับสุขภาพผิว เพื่อความกระจ่างใส มีสุขภาพดี โดยมีชื่อว่า “Gluta Berry Swiss

Gluta Berry Swiss ใช้วัตถุดิบ กลูต้าไธโอน คุณภาพดีที่สุดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานจากโรงงานคุณภาพ และได้รับการรับรองจาก อย.ประเทศไทย ทะเบียนเลขที่ 11-1-06353-1-0261 จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ Gluta Berry Swiss ปลอดภัยและมีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน 250 มก. อย่างแน่นอน

การรับประทาน Gluta Berry Swiss ชนิดเม็ด เป็นกลูต้าไธโอนที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายเหมือนการฉีดเข้าเส้นเลือด เนื่องจากการรับประทาน Gluta Berry Swiss ผ่านกระบวนการดูดซึมที่ถูกต้องของร่างกาย ไม่เสี่ยงกับการแพ้ จากการฉีดเข้าเส้นเลือด

Gluta Berry Swiss มีส่วนผสมของ Acerola Cherry ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีธรรมชาติที่สูงที่สุด มากกว่าที่พบในส้มกว่า 30-80 เท่า และวิตามินซี ซึ่งจะทำงานร่วมกับกลูต้าไธโอนเป็นอย่างดี จึงทำให้ร่างกายได้นำสารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ที่ขาวกระจ่างใสอย่างแท้จริง

Gluta Berry Swiss by Pancake มีส่วนผสมและสรรพคุณอะไรบ้าง

L-Glutamine, L-Cysteine
เสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ ซ่อมแซมคอลลาเจน และอีลาสติน นอกจากนี้ยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ แอล-กลูต้าไธโอน ทำให้เพิ่มปริมาณแอล-กลูต้ไธโอนในระดับเซลล์ ส่งผลให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสได้เร็วยิ่งขึ้น Vitamin C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเสริมให้แอลกลูต้าไธโอน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

Goji Berry Extract
โกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสารแอนติออกซิแดนท์ ในปริมาณมากถึง 25,300 ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของสมอง

Acerola cherry Extract
วิตามินซีจากธรรมชาติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ จากปัจจัยภายนอกและภายใน ช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างคอลลาเจน และการประสารตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้น

Alpha-lipoic acid
มีบทบาทส่งเสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ เช่น วิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน และ CoQ10

Glycine
เป็นสารตั้งต้นในการสร้าง Glutathione ให้กับร่างกาย L-Cysteine จะทำงานร่วมกันกับ Glyvine (ไกรซีน) และ Glutamic acid และสารที่จะสั่งให้เกิดการสร้างอนุพันธ์โมเลกุลเป็น Glutathione คือ Vitamin c หรือ Calcium Ascorbate

Bitter orange extract
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) โดยไปกระตุ้นการทำงานของ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) ที่มีอยู่ในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยปกป้องผนังเซลล์ในร่างกาย ช่วยดูแลผิวพรรณ และคงความอ่อนเยาว์ ชลอความแก่ชราก่อนวัยอันควร

Selenium Enriched Yeast
ทำงานร่วมกับ Vitamin E ในร่างกาย ผ่านการเสริมสร้างอีลาสตินใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาสภาพของเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเกินไป อีกทั้งช่วยดูแลผิวพรรณ และปกป้องเซลล์ผิวจากอันตรายของรังสี UV ได้อีกด้วย

Coenzyme Q10
ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวโดย การสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นใน ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ช่วยรักษาความความยึดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยชะลอความเหี่ยวย่น และการเกิดรอยตีนกาบนใบหน้า ช่วยให้ผ้า กระ และจุดด่างดำจางลง

รีวิว วิตามินผิวขาวใส Furefoo Vitamin ปอย ตรีชฎา และ Gluta Berry Swiss แพนเค้ก เขมนิจ

ช่วงปีที่ผ่านมา บอกได้เลยว่า เป็นปีของ “ครีมดารา” เลยก็ว่าได้ เพราะมีครีมหน้าใส ครีมมาส์กหน้า ที่มีดาราเซเลบเป็นผู้ผลิต เป็นผู้นำเข้า กันมากมาย

มาปลายปีนี้ เริ่มมีดารา เซเลบหลายคน หันมาผลิตและนำเข้า ผลิตภัณฑ์ประเภทวิตามิน อาหารเสริมบำรุงผิวให้ขาวใส กันมากขึ้น

อย่างที่จะรีวิวให้อ่านกันในบทความนี้ ก็จะเป็น Furefoo Vitamin ของ “ปอย” ตรีชฎา และ Gluta Berry Swiss ของ “แพนเค้ก” เขมนิจ

มาดูกันว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผิวขาวใสของสุภาพสตรี คุณผู้หญิง ของทั้งสองคนเป็นอย่างไร และมีสรรพคุณอยางไรกันบ้าง

รีวิว ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามิน Furefoo เฟอร์ฟู ของ ปอย ตรีชฎา

FUREFOO (เฟอร์ฟู) วิตามินคุณปอย ตรีชฎา นวัตกรรมการวิจัยในระดับเซลล์ล่าสุดที่รวบรวมความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ เพื่อคืนชีวิตให้กับผิวพรรณ ให้ความกระจ่างใสดูมีออร่า

ผลิตภัณฑ์ได้รับ อย. เลขที่จดแจ้ง 13-1-02954-1-0109 ผ่านการตรวจ GMP กฏหมาย เป็นวิตามินอนุพันธุ์ฟื้นฟูผิวระดับเซลล์ ได้ผลมากกว่าคอลลาเจนถึง 10 เท่า

จากประสบการณ์การรับประทานวิตามินเพื่อให้ผิวพรรณขาว ใส ผุดผ่อง คุณปอย ตรีชฎา ได้ลองผิดลองถูกวิตามินมาแล้วกว่า 20 ปี และได้คิดค้นวิตามินกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินโดยเฉพาะ

บัดนี้ ถึงเวลาเปิดเผยเคล็ดลับผิวสวยใสที่ทุกคนอยากรู้ของคุณปอย ตรีชฏาแล้วค่ะ

FureFoo จะช่วยเปลี่ยนและฟื้นฟูโครงสร้างผิวภายใน เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้าง อะบูติน, คอลลาเจน, ไฮยา, ได้เอง ทำให้ผิวของคุณกระจ่างใสเหมือนผิวเกิดใหม่ได้อีกครั้งคะ

ส่วนประกอบ FureFoo (เฟอร์ฟู)

1. โรสฮิป สร้างอบูติน ไฮยา และคอลลาเจน
2. เปลือกสนมารีทามฝรั่งเศส ลดการสร้างเม็ดสีผิวเมลานินได้ดีที่สุดในโลกและยังเปรียบเสมือนเกาะป้องกันแสงแดดอีกด้วย
3. กระดูกอ่อนปลาฉลาม ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สุกหรอ
4. วิตามินบีรวม สำคัฐมาก ช่วยทำกระบวนการดูดซึมและระบบต่าง ๆ ให้ร่างกายแข็งแรง
5. ใบแปะก้วย ช่วยการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้มีผิวสีผิวอมชมพู

วิธีรับประทาน FureFoo (เฟอร์ฟู) วันละ 1เม็ด ก่อนนอน หรือ 10 วันแรก ทาน 2เวลาก่อนนอน กับตื่นนอนทันที เวลาละ 1 เม็ดค่ะ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิน และ สภาพแวดล้อมที่ได้รับ โดยทั่วไปอยู่ที่ 1-3 เดือนนะคะ

ราคาของ เฟอร์ฟู Furefoo 1 กล่อง มี 30 เม็ด ราคา 1980 บาท

รีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกลูต้า Gluta Berry Swiss by Pancake แพนเค้ก เขมนิจ

นางเอก นางแบบคนดัง “แพนเค้ก” เขมนิจ ก็เป็นอีก 1 ดาราเซเลบ ที่ได้โดดมาจับธุรกิจเสริมกับเค้าด้วย กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมความงาม เกี่ยวกับสุขภาพผิว เพื่อความกระจ่างใส มีสุขภาพดี โดยมีชื่อว่า “Gluta Berry Swiss by Pancake

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Gluta Berry Swiss by Pancake เป็นอย่างไร

Gluta Berry Swiss ใช้วัตถุดิบ กลูต้าไธโอน คุณภาพดีที่สุดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานจากโรงงานคุณภาพ และได้รับการรับรองจาก อย.ประเทศไทย ทะเบียนเลขที่ 11-1-06353-1-0261 จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ Gluta Berry Swiss ปลอดภัยและมีส่วนผสมของกลูต้าไธโอน 250 มก. อย่างแน่นอน

การรับประทาน Gluta Berry Swiss ชนิดเม็ด เป็นกลูต้าไธโอนที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายเหมือนการฉีดเข้าเส้นเลือด เนื่องจากการรับประทาน Gluta Berry Swiss ผ่านกระบวนการดูดซึมที่ถูกต้องของร่างกาย ไม่เสี่ยงกับการแพ้ จากการฉีดเข้าเส้นเลือด
Gluta Berry Swiss มีส่วนผสมของ Acerola Cherry ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีธรรมชาติที่สูงที่สุด มากกว่าที่พบในส้มกว่า 30-80 เท่า และวิตามินซี ซึ่งจะทำงานร่วมกับกลูต้าไธโอนเป็นอย่างดี จึงทำให้ร่างกายได้นำสารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ที่ขาวกระจ่างใสอย่างแท้จริง

Gluta Berry Swiss by Pancake มีส่วนผสมและสรรพคุณอะไรบ้าง

L-Glutamine, L-Cysteine
เสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ ซ่อมแซมคอลลาเจน และอีลาสติน นอกจากนี้ยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ แอล-กลูต้าไธโอน ทำให้เพิ่มปริมาณแอล-กลูต้ไธโอนในระดับเซลล์ ส่งผลให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสได้เร็วยิ่งขึ้น Vitamin C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเสริมให้แอลกลูต้าไธโอน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

Goji Berry Extract
โกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสารแอนติออกซิแดนท์ ในปริมาณมากถึง 25,300 ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของสมอง

Acerola cherry Extract
วิตามินซีจากธรรมชาติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ จากปัจจัยภายนอกและภายใน ช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สร้างคอลลาเจน และการประสารตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจน จึงช่วยให้แผลในร่างกายหายเร็วขึ้น

Alpha-lipoic acid
มีบทบาทส่งเสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ เช่น วิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน และ CoQ10

Glycine
เป็นสารตั้งต้นในการสร้าง Glutathione ให้กับร่างกาย L-Cysteine จะทำงานร่วมกันกับ Glyvine (ไกรซีน) และ Glutamic acid และสารที่จะสั่งให้เกิดการสร้างอนุพันธ์โมเลกุลเป็น Glutathione คือ Vitamin c หรือ Calcium Ascorbate

Bitter orange extract
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) โดยไปกระตุ้นการทำงานของ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antixidant) ที่มีอยู่ในร่างกายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยปกป้องผนังเซลล์ในร่างกาย ช่วยดูแลผิวพรรณ และคงความอ่อนเยาว์ ชลอความแก่ชราก่อนวัยอันควร

Selenium Enriched Yeast
ทำงานร่วมกับ Vitamin E ในร่างกาย ผ่านการเสริมสร้างอีลาสตินใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาสภาพของเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเกินไป อีกทั้งช่วยดูแลผิวพรรณ และปกป้องเซลล์ผิวจากอันตรายของรังสี UV ได้อีกด้วย

Coenzyme Q10
ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวโดย การสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นใน ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเยื่อคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล ช่วยรักษาความความยึดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยชะลอความเหี่ยวย่น และการเกิดรอยตีนกาบนใบหน้า ช่วยให้ผ้า กระ และจุดด่างดำจางลง