ผื่นขึ้นหน้า ทำไงดี อย่าพึ่งตกใจ ค่อยๆแก้ให้ตรงจุด

         ผื่นขึ้นหน้า ทำไงดีบางคนส่องกระจกแล้วถึงกับต้องอุทานด้วยอาการตกใจ เพราะบริเวณใบหน้าเต็มไปด้วยผื่นแดงเม็ดเล็กยิบย่อย จะว่าสิวก็ไม่ใช่ เนื่องจากมันขึ้นเป็นปื้นๆ ลามไปทั่วใบหน้า แถมเวลาเอามือลูบหน้าแล้วรู้สึกสากมือพิลึก หากคุณกำลังประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ ขอให้ทำใจเย็นๆ ค่อยๆตั้งสติ แล้วทำความเข้าใจกับเจ้าผื่นให้ดี จากนั้นก็หาวิธีแก้ไขต่อไป
         ผื่นขึ้นหน้า ทำไงดี อย่าพึ่งตกใจ ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุว่า ผื่นแดงที่หน้า (Red face syndrome) มีลักษณะเป็นผื่นแดงเล็กๆคล้ายผดบริเวณใบหน้า อาจมีอาการคันหรือไม่ก็ได้ เวลาลูบจะรู้สึกสากที่ผิวหน้า อาจมีอาการแสบคัน ระคายเคือง ไวต่อแสงแดดและเหงื่อ ซึ่งผื่นลักษณะนี้เป็นปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบัน ส่วนมากพบในผู้หญิง เนื่องจากผิวหนังบริเวณใบหน้ามีโอกาสสัมผัสสารต่างๆหลายชนิด (จากเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิวต่างๆ) ทำให้พบผื่นแดงที่หน้าได้บ่อย และเป็นปัญหาในการวินิจฉัยและรักษาในปัจจุบัน

 

ลักษณะของผื่นที่ขึ้นหน้า
         1.ผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrheic dermatitis) ลักษณะเป็นผื่นแดงคัน มีขุยสีเหลืองเป็นมัน มักพบบริเวณข้างจมูก คิ้ว ใบหู และหนังศีรษะมีรังแค
         2.ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีผิวแห้ง มีผื่นแดงคัน บริเวณหน้า คอ ข้อพับของแขนและขา พบในผู้ป่วยที่มีประวัติกรรมพันธุ์เป็นโรคในกลุ่มภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ คันตา หอบหืด เป็นต้น
         3.ผื่นแพ้สัมผัส (Allergic contact dermatitis) เกิดมีผื่นแดง ผิวหน้าคันอักเสบบริเวณที่สัมผัสกับสารที่แพ้ เช่น เครื่องสำอาง ส่วนมากมักเกิดอาการหลังใช้เครื่องสำอางหรือสารที่แพ้ ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน
         4.ผื่นระคายสัมผัส (Irritant contact dermatitis) เกิดขึ้นกับคนที่สัมผัสสารมีฤทธิ์ก่อระคายปริมาณมากและระยะเวลานานพอ พบผื่นแดงอักเสบที่มีขอบเขตชัดเจนในบริเวณที่มีการสัมผัส ซึ่งจะมีอาการบวม แดง ร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบเป็นกรดวิตามินเอ กรดผลไม้ หรือสารที่มีฤทธิ์ลอกผิวต่อเนื่องเวลานาน
         5.ผื่นสัมผัสจากสารร่วมกับแสง (Photocontact dermatitis) มีการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ครีมกันแดด น้ำหอม ร่วมกับโดนแสงแดด ซึ่งจะพบผื่นอักเสบได้บริเวณที่ได้รับแสงนอกร่มผ้า เช่น ใบหน้า หน้าอก แขน
         6.ผื่นผิวหนังอักเสบชนิด Rosacea พบมากในคนผิวขาว จะมีอาการหน้าแดง ตุ่มแดงอักเสบ ตุ่มหนอง หลอดเลือดฝอยขยายที่บริเวณใบหน้า มักมีประวัติว่าเป็นผื่นมากขึ้นเมื่อโดนความร้อน แสงแดด มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

 

สารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดผื่นขึ้นหน้า
         1.ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับใบหน้า เช่น เครื่องสำอาง สบู่ล้างหน้า ครีมบำรุงผิวหน้า ซึ่งส่วนประกอบที่มักเป็นสาเหตุของผื่นแพ้สัมผัส ได้แก่ สารกันเสีย น้ำหอม สารลาโนลิน (Lanolin) สารที่ทำให้เกิดฟอง (Cocamidopropyl betaine) เป็นต้น
         2.แชมพูสระผม และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้กับเส้นผม
         3.โลหะและแผ่นยางที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง เช่น โลหะในถาดแป้ง ขอบแปรงที่ทาตาและปาก แผ่นยางที่ใช้เป็นพัฟทาหน้า
         4.สารที่มาจากผื่นแพ้สัมผัสบริเวณมือ เช่น โลหะนิเกิล ทอง สารในยาทาเล็บ เป็นต้น
         ใครที่เกิดความกังวลระคนสงสยว่า ผื่นขึ้นหน้า ทำไงดี เมื่อเป็นผื่นแล้วก็ไม่ต้องร้องว่า “ผื่นขึ้นหน้า ทำไงดี” ควรตั้งสติแล้วหยุดใช้เครื่องสำอางค์หรือครีมบำรุงผิวที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุ เพราะการใช้สารที่แพ้ต่อไปจะยิ่งทำให้ผื่นลุกลามมากขึ้น และไม่ควรซื้อยามาทาเอง ควรไปพบแพทย์พร้อมกับนำผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าทำให้เกิดผื่นแดงที่หน้ามาร่วมทดสอบด้วย เพื่อการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง เพียงแค่นี้รอยผื่นที่ขึ้นหน้าก็จะถูกแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ไม่ลุกลามจนเสียโฉม

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากทำเลเซอร์หลุมสิว ราคาต้องจ่ายเท่าไหร่ไปดูกัน

         ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากที่จะให้เกิดรอยหลุมสิวขึ้นมาบนใหบหน้า หลังจากที่สิวได้ถูกรักษาหายไปแล้วอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายๆคนเกิดปัญหาหลุมสิวที่ส่งผลต่อความงามขึ้นมาแล้ว ก็คงอยากที่จะรีบกำจัดหลุมสิวออกไปให้รวดเร็วมากที่สุด ซึ่งวิธีการรักษาหลุมสิวนั้นก็มีอยู่อย่างมากมายหลายวิธีให้เลือกสรรเลยทีเดียว ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การใช้เลเซอร์หลุมสิว ในการรักษาหลุมสิวนั่นเอง แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเข้ารับการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ก็คงจะมีคำถามภายในใจเหมือนๆกันว่า เลเซอร์หลุมสิว ราคาที่ต้องจ่ายนั้น มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากใครกำลังมีคำถามดั่งกล่าวอยู่ในใจล่ะก็ สามารถติดตามอ่านบทความชิ้นนี้เพื่อคลายความสงสัยว่า การทำเลเซอร์หลุมสิว ราคา ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด ไปดูกันเลย

เลเซอร์หลุมสิว ราคาแพงไหม?
ด้วยความเชื่อพื้นฐานที่ว่า การรักษาแบบเลเซอร์หลุมสิว ราคาต้องแพงมากกว่าการรักษาหลุมสิวประเภทอื่นๆ ทำให้มีคนจำนวนมากต้องพลาดโอกาสรับการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอันหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย แต่สำหรับหลายๆคนก็คงจำเป็นที่จะต้องคิดเผื่อในเรื่องของค่าคอร์สในการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ราคาให้อยู่ในระดับที่สามารถจ่ายได้ไหว ซึ่งในวันนี้จะขอพาไปดูว่าเหล่าสถาบัน และโรงพยาบาลเสริมความงามชื่อดัง เขามีค่าคอร์สในการรักษาเลเซอร์หลุมสิว ราคาล่าสุด เท่าไหร่กันบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับผู้ที่กำลังสนใจการรักษาเลเซอร์หลุมสิวอยู่
1.ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม คอร์ส Miracle Bright Laser ราคาค่าคอร์สเลเซอร์หลุมสิวแบบเบ็ดเสร็จไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 8 ครั้ง อยู่ที่ราคา 1,2000 บาท เป็นการใช้เลเซอร์ระบบลำแสง IPL หรือ ฟลูออเรสเซนต์ ที่มีความเข้มข้นสูงเข้ามาช่วยในการรักษาให้หลุมสิวมีความตื้นมากขึ้นกว่าเดิม
 2.พรเกษมคลินิก ราคาคอร์สในการรักษาหลุมสิวด้วยแสงเลเซอร์อยู่ที่ปรมาณ 10,500 บาท ต่อคอร์ส
 3.ราชเทวีคลินิก อัตราค่าบริการรักษาหลุมสิวด้วย SM Technique หรือการรักษาด้วยเลเซอณืต่างๆ เฉพาะส่วนเริ่มต้นที่ราคา 1,000 บาท ทั่วใบหน้าเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณ หรือพื้นที่ของหลุมและจำนวนช่องของเลเซอร์ที่ยิง

         4.สถาบันโรคผิวหนัง อนุเสาว์รีชัย ราคาค่ารักษาเลเซอร์หลุมสิวแบบ Fraxel Laser แก้มข้างละ 3,000 บาท แก้ม+ขมับ ข้างละ 4,000 บาท หน้าผาก 4,000 บาท คาง+จมูก 3,000 บาท ทั่วหน้า 15,000 บาท
5.ราชพฤกษ์คลินิก คอร์ส Smooth Blink ใช้เลเซอร์ในการรักษาแผลเป็น หลุมสิว และรักษารูขุมขนกว้าง ทั่วหน้าครั้งละ 5,000 บาท คอร์ส 5 ครั้ง 20,000 บาท แก้มสองข้างครั้งละ 3,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เลเซอร์หลุมสิวไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อคอร์สทั้งหมดก็ได้ (1 คอร์สประมาณ 8-10 ครั้ง) สำหรับบางคนที่ต้องการเพียงแค่ให้หลุมสิวตื้นขึ้น อาจจะใช้การจ่ายซื้อรายครั้ง ประมาณครั้งละ 1,500-2,000 บาท หลังจากนั้นเมื่อได้ผลลัพธ์ที่ตื้นขึ้นจนพอใจแล้ว ก็สามารถที่จะใช้วิธีการบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุง หรือวิธีการทางธรรมชาติอื่นๆ เข้ามาช่วยเติมเต็มผิวหน้าของคุณหให้กลับมาเรียบเนียน แข็งแรง สมบูรณ์เหมือนเดิมก็ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

การทำเลเซอร์รอยสิว ราคาแพง คุ้มหรือไม่ ได้ผลดีอย่างไร

         สิวเป็นปัญหาผิวบนใบหน้าที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก เนื่องจากสภาพอากาศแสนร้อนอบอ้าวในบ้านเรา ผนวกกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ผิวหน้ามัน ภาวะฮอร์โมน ฝุ่นควัน สิ่งสกปรก เป็นต้น จึงทำให้เป็นสิวกันได้ง่าย ทั้งนี้ เมื่อเป็นสิวแล้วจำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างจริงจัง เพราะขืนปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้สิวเห่อไปทั่วบริเวณใบหน้าจนต้องเผชิญกับปัญหาสิวขั้นรุนแรง หน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ จนกลายเป็น “คนหน้าปลวก”
         ซึ่งหากเป็นสิวมากๆจนเกิดเป็นรอยดำรอยแดง กรณีนี้แค่ครีมรักษาสิวอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่ การทำเลเซอร์รอยสิวจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คุณหมอแนะนำ แต่ในบางกรณีการทำเลเซอร์รอยสิวต้องควบคู่กับการรักษาด้วยครีมหรือรับประทานยารักษาสิว จึงจะทำให้รอยสิวจางลงจนหายไปในที่สุด กระนั้นก็ตาม หลายคนเกิดความกังวลระคนสงสัยว่าการทำเลเซอร์รอยสิว ราคาแสนแพงนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาแบบไหน คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

 

รอยที่เกิดจากสิวมี 3 รูปแบบ
         ก่อนจะไปหาคำตอบว่าเลเซอร์รอยสิว ราคาแพง ทำแล้วได้ผลดีแค่ไหน เราควรทำความเข้าใจกับรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวกันก่อนว่า มันมีอะไรบ้าง
         1.เป็นหลุมลงไป เป็นแบบที่พบเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากขบวนการอักเสบของสิวจะทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ทำให้เป็นรอยบุ๋ม
         2.เป็นเนื้อนูนขึ้นมา มักพบที่จมูก คาง และบริเวณขากรรไกร เนื่องจากขบวนการอักเสบของสิวจะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นหนังแท้แต่มีการซ่อมแซมของผิวมากกว่าปกติทำให้เนื้อนูนขึ้น
         3.มีการเปลี่ยนแปลงของสี ซึ่งพบบ่อยมาก มักมีสีออกแดงคล้ำๆ อาจเรียกว่าเป็นรอยแดง เพราะไม่ได้เป็นสีดำล้วนแบบกระหรือฝ้า ซึ่งมีวิธีรักษาที่แตกต่างกัน

การรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ E-Lase
         นวัตกรรมเลเซอร์รอยสิวนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นของพรเกษม คลินิค โดยหลังจากสิวยุบหายแล้วมักทิ้งร่องรอยแดงๆดำๆไว้ แม้ส่วนใหญ่รอยแดงจะหายได้เอง แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน ในกรณีที่ต้องการรักษาเพื่อให้รอยแดงจากสิวหายเร็วขึ้น การทำเลเซอร์รอยสิว ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงกับรอยแดงเป็นพิเศษคือ E-Lase ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ทันสมัยที่สามารถลดรอยแดงสิวได้ถึง 20-30% ต่อครั้ง ไม่มีเลือดออกและไม่เกิดบาดแผลหลังทำ
         หลังจากทำแล้วสามารถไปทำกิจวัตรต่างๆ เช่น เล่นกีฬา ว่ายน้ำ แต่งหน้า ออกงานได้ตามปกติ เวลาทำเลเซอร์ก็รู้สึกเพียงมีความเย็นกระทบผิวหน้าเล็กน้อย ไม่ต้องใช้ยาชา ใช้เวลาเพียง 1-2 นาที ขณะทำแล้วก็กลับไปทำงานต่างๆได้ตามปกติ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ในการรักษานอกจากลดรอยแดงแล้ว E-Lase ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ของผิวได้อีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีบางคนที่ใช้ E-Lase แล้วไม่เห็นผล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวเป็นหลัก

 

การทำเลเซอร์รอยสิว IPL (Intense Pulse Light)
         เป็นการเลเซอร์ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ช่วงคลื่น 510, 560 ช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ลดรอยแดง รอยดำต่างๆ โดยหลังจากทำเลเซอร์รอยสิวแบบ IPL ความมันของผิวหน้าจะลดลง รวมถึงอาการอักเสบ รอยดำรอยแดงจากสิวจะจางลง ภาพรวมหน้าจะสว่างสดใสขึ้น ทั้งยังมีข้อดีตรงที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ด้วย อย่างไรก็ดี เลเซอร์รอยสิว ราคาแพงหรือถูกนั้นขึ้นอยู่กับเครื่องมือของแต่ละที่ รวมถึงสภาพผิวหน้าของคนไข้ด้วย
         สำหรับข้อเสียของ IPL คือมักไม่ได้ผลหากปรับค่าไม่ถูกต้อง เพราะการตั้งค่า IPL นั้นซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจในการตั้งค่า และอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอย burn ได้ ดังนั้น หมอที่ทำการรักษาควรมีความเชี่ยวชาญ
         นอกจากเลเซอร์ที่นิยมใช้รักษารอยสิวดังกล่าวแล้ว ยังมีเลเซอร์อื่นๆอีกที่ใช้กันตามคลินิค เช่น V-beam (595 nm) เป็นต้น ซึ่งการทำเลเซอร์รอยสิว ราคาจะแพงหรือถูกนั้นขึ้นอยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือและความชำนาญของแพทย์ผู้รักษา ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันออกไป ใครที่เจอกับปัญหาสิวและรอยจากสิวเล่นงานหนักก็อาจจะได้ผลช้าหน่อย หรือต้องใช้วิธีอื่นๆร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นใช้ยารักษาสิว กรดวิตามินเอ ครีมไวเทนนิ่ง เป็นต้น ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ในการทำเลเซอร์รอยสิวออกมาดีมากขึ้น

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รูขุมขนอักเสบ หน้ามัน เป็นสิวง่าย แก้ไขได้ด้วยสูตรโฮมเมด

         เมื่อพูดถึงอาการรูขุมขนอักเสบ หน้ามัน สิวขึ้นง่าย หลายคนคงถึงกับกุมขมับ เพราะปัญหาผิวนี้กำลังเกิดขึ้นบนใบหน้าของท่านอยู่ ที่สำคัญคือเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก ไม่ว่าจะลองใช้วิธีไหน รูขุมขนอักเสบ หน้ามันเยิ้ม และปัญหาสิวก็ยังมารังควานอยู่ร่ำไป กระนั้นก็ตาม ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งย่อท้อ เพราะบทความนี้ได้นำอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้ท่านหลุดจากวังวนแห่งปัญหาสิว หน้ามัน รูขุมขนกว้าง โดยเป็นวิธีการแบบธรรมชาติ ใครๆก็ทำได้ แต่ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจก่อนว่า รูขุมขนอักเสบ คืออะไร


รูขุมขนอักเสบ คืออะไร

         รูขุมขนอักเสบ คือการอักเสบที่เกิดขึ้นกับรูขุมขน โดยเป็นได้ทั้งจากการติดเชื้อโรคหรือไม่มีการติดเชื้อโรคก็ได้ เพราะสามารถเกิดได้จากการระคายเคืองที่รูขุมขนจากการบาดเจ็บหรือจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งรูขุมขนอักเสบ ถือเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยทั้งหญิงชาย และส่วนมากหายได้เองโดยไม่ได้มาพบแพทย์
         การเกิดรูขุมขนอักเสบ เกิดได้ทั้งจากการระคายเคืองที่รูขุมขน เช่น การบาดเจ็บที่ผิวหนังจากเสียดสีกับเสื้อผ้า การเกา การโกน การถอน การอุดตันรูขุมขนจากสารเคอราติน (Keratin) ของผิว หรือจากการติดเชื้อโรค ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส
         สำหรับอาการของรูขุมขนอักเสบที่ปรากฎคือ ผิวหนังมีลักษณะเป็นตุ่มแดง มักพบกระจายหลายตุ่ม อาจมีหนองตามบริเวณรูขุมขน และอาจมีอาการเจ็บ คันยุบยิบ สามารถเป็นได้ได้ทุกที่ที่มีรูขุมขน เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ แผ่นอก แผ่นหลัง แขน ขา เป็นต้น

วิธีแก้รูขุมขนอักเสบ หน้ามัน เป็นสิวง่าย ด้วยสูตรโฮมเมด
         1.มะละกอฟื้นฟูสภาพผิว สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวที่มีอยู่ในผลไม้หาง่ายอย่างมะละกอ จะช่วยแก้ปัญหารูขุมขนอักเสบ หน้ามัน เป็นสิวง่ายได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ลดรอยดำจากสิวได้อีกด้วย เพราะในเนื้อมะละกอมีเอ็นไซม์ที่ทำเนื้อเยื่อที่ตายแล้วหลุดลอกได้ง่าย ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ได้เร็วขึ้น วิธีการคือ ปอกมะละกอสุกแล้วล้างยางออกให้หมดแล้วบดให้ละเอียด พอกทิ้งไว้บนผิวหน้า 10-15 นาทีจึงล้างออก สูตรนี้จะทำให้รู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มชุ่มชื่นของผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

         2.มะเขือเทศกระชับรูขุมขน วิธีการทำก็คือ นำน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาว 2-4 หยด จากนั้นใช้สำลีชุบส่วนผสมดังกล่าวทาให้ทั่วบริเบณใบหน้า ยกเว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ในของมะเขือเทศมีสารชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ อุดมประโยชน์ไปด้วยวิตตามินซี วิตตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ใช้แก้ปัญหารูขุมขนอักเสบ หน้ามัน เป็นสิวง่ายอย่างได้ผล
         3.มะนาวและน้ำกุหลาบ ผลไม้ที่มีกรดอย่างมะนาว เป็นตัวช่วยอย่างดีในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกมา พร้อมทั้งเผยเซลล์ใหม่ที่ดีขึ้น การนำน้ำกุหลาบมาผสมจะช่วยทำให้สูตรโฮมเมดนี้มีความอ่อนโยน และช่วยกระชุบรูขุมได้ดีขึ้น โดยวิธีการก็คือให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำกุหลาบ ทำให้เข้ากันแล้วทาบนใบหน้าคุณ รวมถึงบริเวณที่เกิดสิว โดยปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่น ทำเช่นนี้เป็นประจำ สิวบนใบหน้าจะค่อยๆจางหายไป
         4.แตงกวาผสมโยเกิร์ต แตงกวาเป็นผักที่ระบายความร้อนได้ดี และมีความอ่อนโยนต่อผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการรักษาสิว ขจัดความมัน กระชับรูขุมที่ให้เล็กลง โอกาสที่จะเกิดรูขุมขนอักเสบ หน้ามัน เป็นสิวจึงมีน้อยลง โดยสูตรโฮมเมดนี้ให้นำแตงกวามาปั่นเป็นน้ำผสมกับโยเกิร์ต อาจเพิ่มผงขมิ้นลงไปเล็กน้อยก็ได้ เพราะขมิ้นมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ จากนั้นพอกบริเวณที่เกิดสิวทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก ทำซ้ำวันละ 2-3 ครั้ง จะเห็นผลชัดขึ้น
         หากใช้สูตรโฮมเมดนี้เป็นประจำ รับรองว่าผิวหน้าที่เคยมันเยิ้ม ปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง ซึ่งนำมาสู่อาการรูขุมขนอักเสบบนหน้าใบหน้าจะหมดไป ได้ผิวที่เรียบเนียน สุขภาพดีคืนกลับมา แถมยังทำให้หน้าอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย มีเคล็ดลับความงามอยู่ตรงหน้าแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มาจัดการสิว อักเสบ หน้าผากแดง ด้วยตัวเองกันเถอะ

         สารพันปัญหาผิวบนใบหน้าวันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าสิว อักเสบ หน้าผากแดง และมาดูวิธีเอาชนะมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องหันไปพึ่งหมอให้เปลืองงบประมาณ ซึ่งสิวอักเสบ (Inflammatory ance) เกิดจากสิวอุดตัน (Comedone) ได้รับการติดเชื้อแบคทีเรีย แล้วเจ้าแบคทีเรียนี้เองเป็นตัวการปล่อยเอนไซม์ไปกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ ทำให้สิว อักเสบ หน้าผากบวมแดงมากขึ้น บางครั้งอาจลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆได้ โดยแต่ละรายจะมีความรุนแรงแตกต่างกันออกไป แล้วแต่จำนวนเชื้อและขนาดของสิว ทั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง เพื่อลดการอักเสบที่รุนแรงและการเกิดรอยแผลเป็น
         ลักษณะของสิวอักเสบที่่เรามองเห็น จะเป็นเม็ดตุ่มนูนๆ บวมแดง อาจเป็นเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ บางครั้งเห็นเป็นหนองบริเวณหัวสิว หรือที่เรียกว่า “สิวหนอง” หากสิวอักเสบมีการติดเชื้อและอักเสบมากจะทำให้มีขนาดใหญ่เป็นสิวหัวช้าง ซึ่งเจ้าสิว อักเสบ หน้าผากแดงช้ำ เป็นรอยสิวนี้ เกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยใหญๆ คือ


         1.เกิดขึ้นเองตามธรมชาติ โดยมักเกิดจากสภาวะที่ร่างกายเรามีฮอร์โมนไม่สมดุลหรือผิดปกติ จึงทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น
         2.เกิดขึ้นจากสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง เมื่อฝุ่นละอองและเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอุดตันในบริเวณรูขุมขน จึงทำให้เกิดอาการอักเสบ และเกิดเป็นสิว อักเสบ หน้าผากเป็นตุ่มสิวบวมแดงในที่สุด

วิธีจัดการสิวอักเสบ ด้วยตัวเอง
         เมื่อพบว่าใบหน้าของตนเริ่มมีสิวอักเสบผุดขึ้นมา ก็อย่าพึ่งตกอกตกใจ ตื่นตูมกันไป เพราะมันสามารถแก้ไขได้ เพื่อไม่ให้อาการอักเสบรุนแรง และลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
         1.ล้างหน้าให้สะอาด โดยหาโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนๆมาใช้ หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนสกัดจากสมุนไพรก็ได้ หรืออาจเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอางค์เพื่อช่วยรักษาสิวไปด้วยในตัว
         2.ล้างหน้าเบาๆ ไม่ควรถูหน้าแรงๆ หรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดที่หน้าแรงจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบที่เป็นหนองอักเสบมากขึ้น จนกลายเป็นสิวหัวช้างได้ในที่สุด
         3.พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกาย
         4.ใช้กระดาษซับมันระหว่างวัน อย่าปล่อยให้หน้ามัน โดยใช้กระดาษซับมันแบบเบามือ อย่ากดโดนบริเวณสิวแรงเกินไป ทั้งนี้ ถ้าใครใช้กระดาษซับมันแล้วพบว่าสิวที่อักเสบขึ้นเรื่อยๆ ควรหันไปใช้วิธีล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแทน
         5.ใช้เจลแต้มสิว โดยควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ หรืออาจจะลองอ่านรีวิวตามเว็บบอร์ดต่างๆในอินเตอร์เน็ตก่อนก็ได้
         6.ขยันเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และซักผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ เพราะเป็นรักษาความสะอาดที่ดี

 


สูตรมะเขือเทศรักษาสิวอักเสบ
         ในมะเขือเทศมีสารชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นมะเขือเทศยังอุดมประโยชน์ไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้มะเขือเทศ รักษาสิวอักเสบได้อย่างเห็นผล สำหรับสูตรมะเขือเทศรักษาสิวที่เรานำมาแนะนำนี้ เป็นสูตรธรรมชาติที่ทำเองได้ง่ายๆ
         1.มะเขือเทศพอกหน้า นำมะเขือเทศ 1 ลูกมาบดให้ละเอียด แล้วใช้ในการพอกหน้าบริเวณที่มีสิวและไม่มีสิว หรือพอกไว้ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง ให้ทำต่อเนื่องกันประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวได้
         2.มะเขือเทศกระชับรูขุมขน วิธีการทำก็คือ นำน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะนาว 2-4 หยด จากนั้นใช้สำลีชุบส่วนผสมดังกล่าวทาให้ทั่วบริเบณใบหน้า ยกเว้นรอบดวงตาและปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น
         3.มะเขือเทศมาร์คหน้ากับโยเกิร์ต ให้หั่นมะเขือเทศออกเป็นครึ่งลูก และสับให้ละเอียด นำไปผสมกับโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
         4.มะเขือเทศผสมแตงกวา มีขั้นตอนในการทำง่ายๆ เพียงแค่นำแตงกวา 1 ลูก มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆและสับให้ละเอียด ปั่นหรือคั้นเอาแต่น้ำแตงกวาแล้วกรองแยกใส่ชามเอาไว้ จากนั้นนำมะเขือเทศ 1 ลูกหั่นให้ละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน นำน้ำแตงกวาและน้ำมะเขือเทศมาผสมให้เข้ากัน ใช้สำลีชุบทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้า แล้วล้างออก เช็ดหน้าให้แห้งเป็นอันเสร็จ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

10 เคล็ดลับลดรอยสิวเร่งด่วน คืนเดียวเห็นผล

         แน่นอนว่าไม่มีใครอยากที่จะให้มีสิวปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของตัวเอง แต่ด้วยการใช้ชีวิตอันเร่งรีบ ไม่ถูกสุขลักษณะ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษอันเลวร้าย ก็มักจะทำให้เจ้าสิวตัวร้ายหาช่องทางปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคุณจนได้ แต่การจะสู้รบปรบมือกับเจ้าสิวเหล่านี้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักกับลดรอยสิวเร่งด่วนอย่างได้ผลแบบยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น โดยเฉพาะในวันสำคัญๆ อย่างการแต่งงาน งานปริญญา หรืออื่นๆที่จะมาเยือนเพียงครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งในวันนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาลดรอยสิวเร่งด่วนแบบคืนเดียวเห็นผล สามารถปฎิบัติตามเคล็ดลับที่กำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลย

ลดรอยสิวเร่งด่วน หายวับในคืนเดียว
 สิวตัวร้ายเป็นสิ่งที่ชอบโผล่มาขัดขวางการถ่ายรูปใบหน้าที่เรียบเนียนของคุณในวันสำคัญๆอย่างเด่นชัด ที่แม้แต่การแต่งหน้าหนาๆก็ไม่อาจปกปิดซ่อนพวกมันเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากคุณทราบลดรอยสิวเร่งด่วนด้วยตัวเองที่บ้านแล้วล่ะก็ สิวก็จะไม่เป็นปัญหากวนใจคุณอีกต่อไป แถมวัตถุดิบในการต่อสู้กับสิวเหล่านี้ก็สามารถหาได้ง่ายในบ้านของคุณจนน่าตกใจเลยทีเดียว
   1.เบรกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำนำมาพอกในบริเวณที่เป็นสิวคล้ายกับหน้ากากก่อนเข้านอน จากนันจึงค่อยล้างออกในตอนเช้า
         2.ยาสีฟัน คุณสามารถพอกยาสีฟันไว้รอบๆบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที หรือมากกว่านั้น หรือพอกทิ้งเอาไว้พันด้วยผ้าผันแผลทิ้งไว้หนึ่งคืน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งยาสีฟันพยายามหลีกเลี่ยงสูตรไวท์เทนนิ่งที่มีความซับซ้อน และมักมีปฎิกริยากับผิวที่มีความบอบบาง
 3.ครีมโกนหนวด เป็นวิธีลดรอยสิวเร่งด่วนที่น่าสนใจ ด้วยการทาครีมโกนหนวดลงไปบนสิวแล้วปล่อบให้แห้ง จากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
   4.แป้งข้าวโพด ผสมเข้ากับน้ำให้ข้นแล้วนำมาพอกหน้า หรืออาจจะนำมาใช้ขัดผิวหน้าได้นิดๆหน่อยๆด้วย
 5.น้ำกระเทียม เพียงแค่น้ำกระเทียมแปะลงบนสิว และปล่อยให้แห้ง แต่คุณอาจจะต้องทนกลิ่นฉุนของกระเทียมให้ได้บ้าง
 6.เปลือกส้ม ทุบเปลือกส้มและผสมเข้ากับน้ำเล็กน้อยสามารถนำไปใช้ทาในบริเวณที่เป็นสิวได้เลยทันที
7.น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ การทาน้ำผึ้งที่หัวสิวให้เร็วที่สุดทันทีที่พวกมันปรากฏตัวแล้วไปเข้านอน เมื่อตื่นขึ้นมาคุณก็จะพบว่าพวกมันได้หายวับไปแล้ว แต่อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังจากที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วด้วย

         8.มะนาว น้ำมะนาวสดแต้มทิ้งไว้ที่หัวสิว แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดในตอนเช้าจะช่วยลดขนาดและการอักเสบรุนแรงของสิวได้เป็นอย่างดี
 9.ข้าวโอ๊ต ต้มข้าวโอ๊ตให้ร้อนแล้วพักทิ้งเอาไว้ให้อุ่นพอที่จะสามารถนำไปใช้ได้ จากนั้นให้ให้นำข้าวโอ๊ตไปพอกในบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาการบวมและอักเสบของสิวจะหายไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
10.แตงกวา คุณสามารลองใช้ลดรอยสิวเร่งด่วนด้วยการใช้แตงกวาขูดให้ทั่วใบหน้า และลำคอ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการรักษาสิว รวมไปถึงเหล่าสิวหัวดำ กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด และอาจเพิ่มเติมส่วนประกอบอื่นๆเข้าไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น น้ำมะนาว เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำความรู้จัก ยาแก้อักเสบ amoxicillin สิวหายได้อย่างไร

         เมื่อพูดถึงยาแก้อักเสบ amoxicillin สิว คงจะเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นในใจว่ามันคืออะไร แต่ถ้าบอกว่าเจ้ายาแก้อักเสบ amoxicillin สิวตัวนี้มักได้รับกันมาจากการเข้าไปหาหมอรักษาสิว หลายๆคนก็ถึงบางอ้อ เพราะส่วนใหญ่ต่างเคยได้รับยาตัวนี้จากหมอสิวกลับมารับประทานที่บ้าน ทั้งนี้ หากคิดกันว่ายา amoxicillin จะช่วยทำให้สิวบนใบหน้าของเราลดลง ทำลายเชื้อแบคทิเรียต้นเหตุของการเกิดสิวได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเรามาทำความรู้จักกับยาแก้อักเสบ amoxicillin สิวกัน


ยาแก้อักเสบ amoxicillin คืออะไร
อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) เป็นยาปฏิชีวชนิดหนึ่ง อยู่ในกลุ่มยา Penicillin ใช้รักษาได้หลายโรค ได้แก่ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โพรงจมูกอักเสบ ทอนซิลอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนกลาง เช่น หลอดลมอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรังปอดบวมชนิดในหลอดลมหรือกลีบปอด หนองในเยื่อหุ้มปอด ฝีในปอด โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ-อวัยวะเพศ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ท่อปัสสาวะอักเสบ ไตและกรวยไตอักเสบ การติดเชื้อ หลังคลอดหรือแห้งติดเชื้อในช่องเชิงกราน แผลริมอ่อนและหนองใน โรคติดเชื้ออื่นๆ เช่น ในกระดูกในเลือด เยื่อบุช่องท้องและการติดเชื้อหลังศัลยกรรม
ซึ่งความจริงแล้วยาแก้อักเสบ amoxicillin นั้นไม่ได้มีความสามารถไปจัดการเชื้อของการเกิดสิวได้โดยตรง หรือเข้าไปจัดการเชื้อสิว P.acne หรือ P.Ovale ต้นเหตุของการเกิดสิวได้ จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นว่าแล้วเหตุใดหมอรักษาสิวถึงจ่ายยา Amoxicillin ?

ทำไมหมอสิวถึงจ่ายยาแก้อักเสบ amoxicillin
คำตอบคือการเกิดสิวโดยเฉพาะกับสิวอักเสบ สิวหัวหนองนั้นไม่ได้เกิดจากเชื้อสิวที่เรารู้จักกันดี เช่น P.acne เป็นหลัก แต่อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นๆได้อีก ซึ่งหมอที่รักษาหน้าของเราก็คงจะวิเคราะห์จากอาการการเกิดสิวมาแล้วว่า หน้าเราเหมาะสมที่จะรักษาสิวด้วยการรับประทานยาแก้อักเสบ amoxicillin สิวตัวนี้ ดังนั้นหากใครที่หมอสิวจ่ายยา Amoxicillin มาให้กินเพื่อรักษาสิวนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจ มันช่วยลดการอักเสบของสิวได้เช่นกัน


การออกฤทธิ์ของยาแก้อักเสบ amoxicillin
กลไกการออกฤทธิ์ของยาอะมอกซิซิลลินคือ ยาไปทำลายผนังเซลของเชื้อโรคทำให้เชื้อโรคตาย ทั้งนี้เส้นทางที่นำยาไปฆ่าเชื้อโรคได้คือเลือดในร่างกายของเรานั่นเอง โดยระดับยาในเลือดที่มีความเข้มข้นถึงจุดที่ฆ่าเชื้อโรคได้ จะยับยั้งการแพร่พันธุ์ของเชื้อโรคในร่างกาย ซึ่งต้องได้รับยาที่ถูกขนาดและต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่เพียงพอการรักษาจึงได้ผลดี
แต่ถ้าเอายา amoxicillin ไปเปรียบเทียบกับยารักษาสิวตัวอื่นๆ เช่น ยา Doxycycline Clindamycin หรือ Tetracyclines หากเทียบในการรักษาสิวแบบสายตรงแล้ว amoxicillin นั้นด้อยกว่าตัวอื่นๆในการรักษาสิว ซึ่งการจ่ายยาของหมอรักษาสิวเอง ยังจัดให้ amoxicillin นั้นเป็นตัวรองลงมาจากพวกยารักษาสิวอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะจ่ายยา amoxicillin ให้กับคนไข้ในกรณีที่ใช้ยากลุ่มที่บอกไปแล้วไม่ได้ผล หรือจ่ายให้กับคนไข้ที่แพ้ยาตัวอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ยาแก้อักเสบ amoxicillin สามารถรับประทานก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ มีผลข้างเคียงน้อยมาก โดยเฉพาะผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดกับตับ ถือว่าน้อยกว่ายารักษาสิวตัวอื่นๆมาก จึงเป็นข้อดีและความสะดวกในการใช้ยาตัวนี้

ผลข้างเคียงของยาแก้อักเสบ amoxicillin
  ทำความรู้จักกับเจ้ายาแก้อักเสบ amoxicillin รักษาสิวไปพอสมควร ตอนนี้มาดูกันว่ามันมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินจะได้ป้องกันได้อย่างทันท่วงที
1.ถ้าเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยา และไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ หายใจถี่ เกิดเสียงวี๊ด คัน hives เพราะอาจจะต้องการรักษาแบบทันท่วงทีเนื่องจากแพ้ยาแบบ Anaphylaxis
2.ถ้าเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้รับประทานยาพร้อมอาหาร
3.ถ้าเกิดอาการท้องร่วงโดยเฉพาะมีเลือดปน ผื่น ให้พบแพทย์ถ้าอาการรุนแรง หรือมีอาการมากกว่า 2 วัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

‘Cetaphil’ สุดยอดโฟมล้างหน้า สิว หน้ามัน

         สำหรับคนที่มีผิวหน้าค่อนข้างมัน เป็นสิวง่าย ผิวบอบบาง ไวต่อมลภาวะ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด แม้ว่าในบางรายจะเป็นสิวมากจนถึงขั้นต้องไปรักษาที่คลินิค แต่เชื่อเถอะว่าทางสุดท้ายทางคลินิคก็จะแนะนำผลิตภัณฑ์ล้างหน้าดีๆสักตัวกลับมาให้ใช้ควบคู่กับการรับประทานยา วันนี้เรามีสุดยอดโฟมล้างหน้า สิว หน้ามัน จัดการปัญหาผิวได้สารพัดในแบบที่ใครได้ลองเป็นต้องพึงพอใจ มันคือ “Cetaphi” โฟมล้างหน้า สิว หน้ามัน ที่มีเนื้อบอบบางเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยมี 2 ตัวให้เลือก

1.Cetaphil Oily Skin Cleanser
สำหรับเจ้า Cetaphil Oily Skin Cleanser ขวดนี้เป็นโฟมล้างหน้า สิว หน้ามัน ที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงมาก เหมาะกับคนผิวมันและผิวผสม ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด นอกจากนั้นยังใช้เป็นคลีนเซอร์ก่อนล้างหน้าได้ด้วย ใช้เช็ดเครื่องสำอางค์แบบไม่กันน้ำก็ยังได้ หรือจะติดไว้เป็นตัวเลือกในยามฉุกเฉินกรณีที่หาพวก remover ไม่ได้จริงๆ
ทั้งนี้ โฟมล้างหน้า สิว หน้ามันตัวนี้มีการผสมสาร SLS แต่ไม่ต้องกังวล เพราะมันไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหลายตัวก็ผสมสารตัวนี้เพียงแต่เราอาจไม่รู้เท่านั้น Cetaphil Oily Skin Cleanser โดยรวมแล้วเหมาะกับคนผิวมันอย่างไม่ต้องสงสัย ใครอยากลองใช้ก็ไปหาซื้อตามร้านขายยา Watson และ Boots
2.Cetaphil Gentle Skin Cleanser
คลีนเซอร์สำหรับผิวบอบบาง สูตรสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือผิวปกติ แม้กระทั่งผิวที่ต้องการการดูแลอย่างอ่อนโยน ทำความสะอาดผิวด้วยสัมผัสอ่อนละมุนสูตรเฉพาะ ไม่มีส่วนผสมของสบู่และน้ำหอม pH Balance ใกล้เคียงผิวหนังตามธรรมชาติ ให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงหลังล้างหน้าด้วย Moisturizing Film ทำความสะอาดง่ายและสะดวก โดยใช้
ลักษณะของเนื้อเจลจะเหมือนเมือกมากว่า สีออกขุ่นๆ ไม่มีกลิ่นหอมให้ดมหรือสัมผัส ไม่มีฟอง เหมาะมากกับคนผิวแพ้ง่ายและผิวที่แห้งบอบบบาง หรือมีปัญหากับผิวหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คือสิวหาย โดยไม่ทำให้หน้าตึง สำหรับวิธีล้างมี 2 แบบ โดยล้างกับน้ำเปล่า หรือเช็ดออกได้เลย หลังใช้จะรู้สึกได้ว่าเหมือนมีฟิลม์แปะที่หน้า หรือบางคนอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกนั้น เหมาะเหมือนล้างไม่หมดนั่นเอง เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายที่สุด ใช้ได้ทุกฤดูกาล

เคล็ดลับหน้าใส
แนะนำผลิตภัณฑ์ “Cetaphil” สุดยอดโฟมล้างหน้า สิว หน้ามัน กันไปแล้ว ก่อนจากกันเรามีเคล็ดลับหน้าใสมาฝากท่านผู้อ่าน ถ้าปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้ รับรองว่าสิวจะไม่มารังควาน
1.หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ เช่น การใช้เครื่องสำอาง หรือครีมกันแดดที่เพิ่มความมันบนใบหน้า รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการนวดและขัดหน้าด้วยสำหรับผู้ที่เป็นสิวง่าย
2.ห้ามนอกดึกเด็ดขาด เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดสิว
  3.ก่อนเข้านอนไม่ควรทาครีมใดๆ ควรล้างหน้า เช็ดให้แห้ง แล้วเข้านอนทันที
4.เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบและเป็นหนองเพิ่มขึ้นได้
5.ควรสระผมบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ผมมันและลงมายังใบหน้าของเรา พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผมหรือเจลแต่งผม
6.อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้ากดทับบริเวณที่สิวอักเสบ เพราะยิ่งทำให้เกิดหนองเพิ่มขึ้น
7.อย่าใช้มือบีบ แคะ แกะ เกาบริเวณที่เป็นสิว
8.อย่าเครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อทำจิตใจให้แจ่มใส
  9.ถ้าในกรณีที่สิวเป็นหัวหนองขนาดใหญ่หลายๆเม็ด หรือมีอาการอักเสบมาก ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะได้ไม่เกิดแผลเป็นจากสิว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ฉายแสงรักษาสิว ราคาแพง ได้ผลจริงหรือ ?

         การรักษาสิวที่เห่อขึ้นหน้านั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทายาสิว ใช้เวชสำอางค์ฟื้นบำรุงผิว หรือรับประทานยารักษาสิว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันออกไปตามอาการและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน นอกจากนี้ยังมีวิธีทางกายภาพในการรักษาสิว เรียกอีกอย่างว่า “ทรีทเมนต์” โดยวิธีนี้มักใช้กันตามคลินิครักษาสิวต่างๆ ซึ่งการทำทรีทเมนต์ที่กำลังนิยมในขณะนี้คือนวัตกรรมการฉายแสงรักษาสิว ราคาค่อนข้างสูง แต่ได้ผลดี ซึ่งก่อนจะลงลึกไปถึงรายละเอียด เราควรมาทำความรู้จักกับทรีทเมนต์ต่างๆ กันก่อน


ทรีทเมนต์รักษาสิวต่างๆ
1.การใช้ความเย็น (liquid nitrogen) แพทย์จะใช้รักษาสิวอักเสบที่เป็นซีสต์ เพื่อช่วยลดการอักเสบ และความเย็นจะทำให้ผนังของซีสต์ถูกทำลายไป
2.การกดสิว (comedone extraction) วิธีนี้ใช้รักษาสิวที่ไม่อักเสบทั้งชนิดหัวดำและหัวขาว ในรายที่รูเปิดของสิวเล็กมาก อาจจำเป็นต้องขยายรูเปิด ซึ่งมีทั้งการใช้เข็มสะอาด หรือการใช้เลเซอร์เจาะรู เพื่อช่วยให้กดสิวได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงกดเอาหัวสิวออกมา ในขั้นตอนการกดเอาหัวสิวออกบางครั้งอาจทำให้เกิดรอยครูดที่ผิว เป็นแผลถลอกได้ง่าย แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ
3.การฉีดยาที่หัวสิว แพทย์จะใช้ยาลดการอักเสบ ฉีดเข้าที่ถุงสิว จะทำให้การอักเสบของสิวลดลงอย่างรวดเร็ว
4.การลอกผิวหนังด้วยสารเคมี เป็นเทคนิคที่นำมารักษาโรคสิวและรอยแผลเป็นสิว นิยมใช้กันมาก เพราะจะช่วยลอกสิวหัวดำและเม็ดสิวอักเสบ ช่วยลดรอยด่างดำที่เกิดจากสิว ช่วยให้หลุมแผลเป็นชนิดตื้นตื้นขึ้นได้ แต่หากมีสิวอักเสบมาก ควรระวังการใช้วิธีลอกผิว เนื่องจากอาจระคายเคือง แสบแดง จากสารเคมีที่ใช้นอกจากนี้การลอกผิวด้วยสารเคมี ทำให้ผิวไวต่อแสง อาจเกิดรอยกระดำกระด่างซึ่งแก้ไขได้
5.การฉายแสง (laser and light treatments) ปัจจุบันมีเลเซอร์และแสงหลายชนิดที่นำมาใช้รักษาสิว ส่วนใหญ่แล้วการรักษาด้วยวิธีนี้จะแก้ไขเพียงสาเหตุเดียวของพยาธิกำเนิด คือ ที่ตัวเชื้อ P.acnes เท่านั้น ข้อดีของวิธีนี้คือผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องทายา รับประทานยา และเหมาะสำหรับสิวบางตำแหน่งที่ทายาเองลำบาก เช่น ที่หลัง และถึงแม้ว่าการฉายแสงรักษาสิว ราคาจะสูง แต่เมื่อเทียบกับวิธีอื่นที่ต้องใช้เวลานาน ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเรื่อยๆ หลายคนก็บอกว่าคุ้มที่จะเสีย

ประเภทการฉายแสงรักษาสิว
การฉายแสงรักษาสิว ราคาสูง ขณะนี้กำลังมีการศึกษาพัฒนาขึ้นเรื่อย โดยการฉายแสงในปัจจุบันที่ใช้กันคือโปรแกรมฉายแสงรักษาสิว หรือรักษาสิวด้วยแสง ดังนี้
1.การฉายแสงสีน้ำเงิน (Blue Light Therapy) องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ใช้แสงสีน้ำเงินในการรักษาสิว ซึ่งแสงช่วงคลื่นเฉพาะนี้จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และเนื่องจากแสงสีน้ำเงินที่ฉายออกมาไม่มีส่วนผสมของรังสียูวีจึงไม่ทำให้ผิวหนังได้รับอันตราย การรักษาด้วยวิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวอักเสบธรรมดา แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบมากชนิดเป็นถุงซิสต์ที่เรียกว่า “สิวหัวช้าง” ก็อาจใช้ไม่ได้ผล ควรรับประทานยาร่วมด้วย ซึ่งการฉายแสงสีน้ำเงินมักต้องทำต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับผลข้างเคียงที่พบมักไม่รุนแรง เช่น ผิวเปลี่ยนสีชั่วคราว บริเวณที่รักษาบวมเล็กน้อย และผิวแห้ง
2.การฉายพลังงานแสงและความร้อน (Light and Heat Energy, LHE) การใช้พลังงานแสงและความร้อนจะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการทำงานของต่อมไขมัน โดยทำให้ต่อมไขมันหดตัวลง ปัจจุบันองค์การอาหารและยาสหรัฐอนุมัติให้ใช้แสงสีเขียวร่วมกับความร้อน รักษาสิวที่เป็นน้อยถึงปานกลาง
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆ เช่น การทา ALA ร่วมกับการฉายแสง การใช้เทคนิค ELOS คือใช้พลังงานแสง (Intense Pulse Light, IPL) ร่วมกับคลื่นวิทยุ (radiofrequency, RF) การใช้ไดโอดเลเซอร์ (Diode laser) การใช้เพาส์ดายเลเซอร์ (pulsed dye laser) เป็นต้น
วิธีฉายแสงรักษาสิว ราคาแพงนี้ ถือเป็นวิธีที่ได้ผลดี เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบสิวอุดตันจำนวนมากและผิวมัน หรือผู้ที่สิวหายยาก เนื่องจากมีการดื้อยา ใช้เวลาทำไม่นาน ทั้งนี้ การฉายแสงรักษาสิวและเลเซอร์รักษาสิวนั้นยังไม่จัดว่าเป็นการรักษาสิวในลำดับแรก เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง เครื่องไม้เครื่องมือต้องทันสมัย และที่สำคัญต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ กับสิ่งที่คุณควรรู้

         การรักษาหลุมสิวเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจคุณสาวๆมาอย่างช้านานเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ อีกทั้งยังใช้ทั้งเงิน และเวลาในการดูแลรักษากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในแผนการรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั่นเอง แต่ก่อนที่คุณสาวๆจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ควรทำการศึกาข้อดี ข้อเสีย ให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้เสียก่อน ซึ่งบทความในวันนี้ก็ได้ทำการรวบรวมเกี่ยวกับวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เอามาฝากผู้ที่กำลังสนใจอยากศึกษาในเรื่องนี้ได้อ่านกัน

สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิว
การพัฒนาตัวเองของเชื้อแบคทีเรียในสิว มักจะทำให้ร่างกายของคนเราเกิดกลไกป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ แอนติบอดี้ในเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมุ่งเข้าไปสู่รูขุมขนที่อุดตันเหล่านั้น พร้อมกับเริ่มทำการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย แต่ในขณะที่กำลังทำการฆ่าเชื้ออยู่นั้น แอนติบอดี้จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น พร้อมกับทลายผิวหนังที่อยู่โดยรอบทำให้เกิดหลุมสิวขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะกับคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอก็จะยิ่งได้รับรอยแผลเป็นจากสิวที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ดีอย่างไร?
 คลินิกศูนย์รักษาสิวในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ประมาณว่า 50% ของผู้มีปัญหาเรื่องสิว มักจบลงด้วยการที่มีหลุมสิว หรือรอยเผลเป็นเกิดขึ้นบนใบหน้า และเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยกมือยอมแพ้ให้กับพวกมันอีกด้วย แต่การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เป็นหนึ่งในมาตรฐานทองคำ และเป็นการรักษาที่รวดเร็วที่สุดในการซ่อมแซมรอยแผลเป็น ซึ่งดีกว่าวิธีการรักษาสิวแบบเดิมๆ ที่นิยมใช้การผ่าตัดชั้นบนสุดของผิวที่ได้รับผลกระทบจากหลุมสิว
จากการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้กับสิว รวมไปถึงหลุวที่เจ้าสิวตัวร้ายได้ทิ้งเอาไว้ให้ดูเสมือนกับเป็นของต่างหน้าบนใบหน้าพบว่า เลเซอร์ สามารถนำมาใช้ในการช่วยรักษาสิวทุกประเภท รวมไปถึงหลุมสิวได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้เลเซอร์ความเข้มข้นสูงในการรักษารอยแผลเป็นที่เห็นอย่างเด่นชัด และการใช้เลเซอร์แบบมาตรฐานในการส่งสัญญานเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เกิดการผลิตคอลลาเจนใหม่ ที่ช่วยในการซ่อมแซมหลุมสิว รวมไปถึงรอยแผลเป็นต่างๆ ด้วยวิธีดังกล่าวจะช่วยทำให้ผิวหนังได้รับการเติมเต็มให้กลับมามีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นภายใน 4-5 วัน นับจากวันที่เข้ารับการรักษา โดยผลลัพธ์ในการปรับปรุงผิวที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 30-70% และสภาพของหลุมสิวจะดีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเข้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ประมาณ 4-6 สัปดาห์

         อย่างไรก็ตาม การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ยิ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องลดโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ผิวพรรณของคุณให้น้อยลงเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์
ถึงแม้ว่าการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์จะส่งผลดีต่อหลุมสิวอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่แนวโน้มในการรักษาอาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด คุณสาวๆอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ยารักษาสิวร่วมกับผิวของคุณ นอกจากนี้การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์อาจจะมีราคาแพง และยังจำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจในการดูแลผิวพรรณให้ดีหลังจากที่ได้รับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งในบางคนที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ อาจจะเกิดผลข้างเคียงในลักษณะของผื่นแดง อาการบวมเกิดขึ้น อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักที่จะหายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน แต่ในบางครั้งผลข้างเคียงเหล่านี้ก็อาจจะรุนแรงขึ้นในบางครั้งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามโอกาสเกิดผลข้างเคียงเนื่องจากวิธีการรักษาสิวด้วยเลเซอร์นี้เกิดขึ้นได้น้อยมากทีดัยว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.