พาไปรู้จัก ‘เมือกหอยทาก’ กับเคล็ดลับลดริ้วรอยแสนง่าย

         เมื่อพูดถึง “เมือกหอยทากสาวๆหลายคนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นส่วนผสมของครีมต่างๆมากมาย หรือที่เรียกว่า “Snail cream” ซึ่งมักมาพร้อมกับคุณสมบัติในการฟื้นบำรุงผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน พร้อมๆกับการลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย มอบความกระชับเต่งตึงเข้าสู่ชั้นผิว ด้วยสรรพคุณแสนวิเศษนี่เองที่ทำให้สาวๆหูผึ่ง
         การนำเมือกหอยทากมาใช้เป็นเวชสำอางค์บำรุงผิว มีจุดกำเนิดมากจากประเทศชิลี โดยคนงานจากฟาร์มเลี้ยงหอยทากพบว่า หลังจากพวกเขาขนหอยทาก (escargot) ไปให้ร้านอาหารฝรั่งเศสเป็นประจำทุกวันเป็นเรื่องน่าประหลาดมากที่มือของพวกเขา นุ่ม น่าสัมผัส นอกจากนั้นแล้วบาดแผลที่มือก็สามารถหายได้อย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นักวิจัยระบุว่าในน้ำเมือกของหอยทากอุดมไปด้วยสารนานาประโยชน์มากมายที่เหมาะกับการซ่อมแซมและบำรุงผิวของคนเรา

         ณ ขณะนี้ มีเวชสำอางค์หรือครีมบำรุงผิวชื่อดังหลากหลายแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ ได้นำเมือกหอยทากมาเป็นส่วนผสมหลัก ที่โด่งดังกันอยู่ในตอนนี้ ได้แก่ It’s skin และ Dr.Mj Real Mucin Restore Cream
         กระนั้นก็ดี แม้เมือกหอยทากจะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน เนื่องจากเมือกหอยทากที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต ควรมาจากฟาร์มที่มีมาตรฐาน สะอาดปราศจากเชื้อก่อโรคและหนอนพยาธิ ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานว่าพบอาการแพ้ในกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หากมีการนำหอยทากมาใช้ผิดวิธี ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การแพ้ และการอักเสบของผิวหน้า ฉะนั้น ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรทดสอบกับผิวหนังบริเวณหลังใบหูก่อนนำไปใช้จริงกับผิวหน้า เพราะสภาพผิวมีความอ่อนโยนใกล้เคียงกัน

8 เคล็ดลับลดริ้วรอยแสนง่าย
         1.ปกป้องผิวพรรณจากแสงแดด รังสียูวีเอและยูวีบีเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดริ้วรอย ยิ่งในบ้านเราที่ดวงอาทิตย์สาดแสงแรงตลอดเวลา ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง หรือถ้ามีเหตุต้องปะทะแดดก็ควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด นอกจากจะป้องกันผิวไม่ให้ไหม้แดดอันเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยแล้ว ยังป้องกันมะเร็งผิวหนังไปในตัว

         2.สวมแว่นกันแดด เป็นอีกเคล็ดลับในการป้องกันการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา (ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายมาก) โดยนอกจากช่วยปกป้องอันตรายจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตแล้ว ยังช่วยลดอาการหรี่ตา ย่นคิ้ว อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกาได้ชะงัด
         3.งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงผิวพรรณได้เต็มที่และเพียงพอ ทำให้เซลล์ผิวหนังไม่สดใสและส่งผลให้เกิดเซลล์ใหม่ล่าช้าแล้ว ยังเร่งให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเร็วขึ้น สำคัญที่สุดคือรอยย่นเล็กๆบริเวณริมฝีปาก ถ้าไม่อยากมีจีบรอบปากแถมปากดำคล้ำล่ะก็ เลิกเสีย
         4.เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว หมุ่นคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าด้วยการทาไนท์ครีมก่อนนอนทุกคืน และเติมกำลังเสริมด้วยการมาสก์หน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที สัปดาห์ละละครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
         5.ปรับสภาพผิว หมั่นขัด นวด และปรับสภาพผิวเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง อาจจะด้วยการใช้สครับขัดหน้าเพื่อให้เซลล์ผิวกลับคืนสู่ความสดใส มีชีวิตชีวา ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของระบบโลหิตให้แข็งแรงกระฉับกระเฉง ตบท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมคุณค่า อย่างครีมหรือเซรั่มบำรุงผิว เป็นอาทิ

         6.รักษาความสะอาด แน่นอนว่าสาวๆทุกคนต้องแต่งหน้า และสิ่งสำคัญคือหลังเสร็จภารกิจประจำวัน อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดหมดจด นี่คือกฎเหล็กที่สาวๆทุกคนห้ามลืม ห้ามเผลอ ห้ามขี้เกียจ ห้ามผลัดวันประกันพรุ่งเด็ดขาด ทั้งนี้ ก่อนล้างหน้าต้องใช้ครีมเช็ดคราบเครื่องสำอางให้หมดก่อนเสมอ แล้วจึงล้างด้วยสบู่ล้างหน้าที่เลือกสรรแล้วว่าเหมาะกับสภาพผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป  
         7.ทำอารมร์ให้แจ่มใส ความเครียดเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ริ้วรอยมาเยือนก่อนวัยอันควร ดังนั้น ควรทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ เมื่อไม่เครียด ไม่กังวล ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมากขึ้นอีกด้วย
         8.รับประทานอาหารที่ดี โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้เป็นประจำ เพื่อให้อาหารแก่ผิวพรรณ เป็นการทำให้สุขภาพผิวดีออกมาจากข้างใน อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ก็สามารถใช้อาหารเสริมแทนได้ อย่างเช่น วิตามินซี เป็นต้น

         

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เมือกหอยทาก…มหัศจรรย์แห่งเวชสำอางค์ ฟื้นบำรุงผิว

         อีกหนึ่งนวัตกรรมแห่งเวชสำอางค์ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นการนำ “เมือกหอยทาก” (Snail slime) มาใช้ในการฟื้นบำรุงผิว โดยมีการค้นพบว่าเมือกหอยทากสามารถปกป้องผิวได้อย่างมหัศจรรย์ ได้รับการยืนยันจากนักวิจัยทั่วโลก ซึ่งในประเทศชิลี เป็นแหล่งที่ถูกค้นพบเป็นประเทศแรก จากฟาร์มเลี้ยงหอยทากแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี คงมีคนสงสัยว่าเจ้าเมือกหอยทากมันมีดีอะไร เหตุใดถึงนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของเวชสำอางค์กันอย่างแพร่หลาย วันนี้เรามาหาคำตอบกัน


จุดเริ่มต้นแห่งนวัตกรรม เมือกหอยทาก

         ดร.ธีรศักดิ์ เอโกบล อาจารย์ประจำภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ผ่านเดลินิวส์ออนไลน์ว่า แนวคิดการบำรุงรักษาผิวพรรณด้วยเมือกหอยทาก ถูกค้นพบโดยบังเอิญของคนงานในฟาร์มเลี้ยงหอยทากเพื่อส่งให้ร้านอาหารฝรั่งเศส เนื่องจากต้องสัมผัสกับหอยทากและเมือกอยู่เป็นประจำ จึงสังเกตพบว่ารอยแผลบริเวณมือที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานหายได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีผิวพรรณที่ดูกระชับและเนียนนุ่มขึ้น เป็นเหตุนำไปสู่ข้อสงสัยและเกิดเป็นงานวิจัยสรรพคุณของสารในเมือกหอยทากในเวลาต่อมา
         จากรายงานผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเมือกในหอยทากอุดมไปด้วยสารชีวโมเลกุลที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ รวมทั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และยังมีสารโอลิโกไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความเต่งตึงของผิว
         การผลิตเมือกของหอยทาก จะพบมากบริเวณใต้เท้าที่ใช้ในการเคลื่อนที่ โดยเมือกชนิดนี้ถูกหลั่งออกมาเพื่อช่วยลดการเสียดสีและอันตรายจากการสัมผัสกับพื้นผิวต่างๆ ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์และสภาวะที่เสี่ยงต่ออันตราย และบริเวณโดยรอบของลำตัว เนื่องจากสัตว์กลุ่มนี้มีลำตัวที่บอบบางและไม่มีชั้นผิวหนังที่กักเก็บน้ำไว้ได้ดีเหมือนสัตว์ประเภทอื่นๆ จึงต้องขับเมือกออกมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น


เมือกหอยทากกับคุณประโยชน์ต่อผิว

         สารสกัดจากเมือกหอยทาก มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวเพื่อป้องกันการก่อตัวใหม่ของสารอนุมูลอิสระ และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ซึ่งมีกระบวนการทำงานก็คือ ครีมหอยทากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ลบเลือนริ้วรอยและยกกระชับผิวได้ดีขึ้น ขจัดเซลล์ผิวที่ไม่สมบูรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
         นอกจากนี้ ยังส่งให้ผิวมีการซ่อมแซมตัวเองและผลิตสารที่มีฤทธิ์หยุดยั้งการเติบโตของเชื้อโรค ทำลายเชื้อโรค ช่วยเพิ่มความหนาแน่นกักเก็บความชุ่มชื่นและยกกระชับผิวให้นุ่มและเรียบเนียนเหมือนผิวเด็ก ที่สำคัญช่วยรักษาสิว รอยแตกลาย รอยแผลเป็น และรอยหมองคล่ำของผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด โดยส่วนสารที่มีอยู่ในเมือกหอยทาก ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวเป็นอย่างมาก เช่น
         Allantoin เป็นสารต้านการอักเสบและระคายเคืองต่อผิว และยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเซลล์ผิวทำให้ผิวชุ่มชื้นฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และลดริ้วรอยได้ดีพร้อมเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่ อีกทั้งช่วยควบคุมความมัน
         Gluconic acid ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควบคุมความมัน
         Collagen ช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล กระชับอยู่เสมอ เนียนเด้งโดยจะอยู่คู่กับ Elastin ที่จะช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่นของผิว

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เมือกหอยทาก ช่วยลดเลือนริ้วรอย และ เพิ่มความเต่งตึงของผิว

         ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ผิวไม่เรียบเนียน แห้งกร้าน ขาดความเต่งตึง เป็นสิ่งที่คุณผู้หญิงมักเจอเมื่อตัวเลขของอายุเริ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ในสาวๆบางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพผิว ก็อาจเกิดปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน เนื่องจากปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวเหี่ยวย่นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย บทความนี้จะมาเฉลยว่าริ้วรอยบนใบหน้า รวมทั้งผิวแห่งกร้าน ไม่เต่งตึงเกิดจากอะไร พร้อมมอบทางออกในการแก้ปัญหาด้วย “เมือกหอยทาก” สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น


ริ้วรอยแห่งวัย ผิวเหี่ยวย่น เกิดจากอะไร

         1.อายุ ถือเป็นสัจธรรมที่หลีกหนีไม่พ้น เมื่อตัวเลขของอายุเพิ่มมากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ผิวพรรณอันเป็นสังขารก็ย่อมล่วงโรยตามวันเวลา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิง พบว่าจะแตกต่างกันตามวัยที่เพิ่มขึ้นดังนี้
         -ปลายอายุ 20 เริ่มมีริ้วรอยบางๆที่ใต้ตา ริ้วรอยรอบๆตา ซึ่งเป็นผลจากการยิ้ม
         -ต้นอายุ 30 มีริ้วรอยบางๆ รอบดวงตาลึกขึ้น และรวมตัวชัดเป็นรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกาที่หางตา และริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและบนหน้าผาก ที่เป็นผลจากกิริยาขมวดคิ้ว
         -ปลายอายุ 30 รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หน้าผาก และหว่างคิ้วเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นรอบริมฝีปาก รอยเหี่ยวใต้ตา และร่องแก้มหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก
         -อายุ 40 ขึ้นไป รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ริมฝีปาก หน้าผาก และหว่างคิ้ว รอยเหี่ยวย่นจากการหย่อนคล้อยของผิวหน้า เส้นริ้วรอยที่ลำคอ
         2.คอลลาเจนใต้ผิว เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่ผิวหน้าของเราเต่งตึงสวยงามอยู่ได้ เพราะสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว ทว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง หรือความสมบูรณ์ของคอลลาเจนเสื่อมลง ริ้วรอยย่อมเกิดขึ้น แต่เกิดช้าๆ ทีละน้อย เริ่มจากรอยเล็กๆ บางๆ จนแทบมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป มารู้ตัวอีกทีก็เป็นรอยลึกเสียแล้ว ซึ่งในแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติล้วนมีต้นทุนคอลลาเจนแตกต่างกัน ส่วนคนเอเชียอย่างเรา แม้คอลลาเจนไม่แข็งแรงเท่าคนผิวดำ แต่ยังดีกว่าฝรั่งมาก โดยจะสังเกตได้ว่าผิวของคนไทยจะดูดีกว่าฝรั่งที่อายุไร่เรี่ยกัน

         3.สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิต มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำวิธีดูแลสุขภาพผิวที่แท้จริงด้วยการเปรียบเทียบระหว่างผิวที่ใบหน้ากับผิวที่ก้น ถ้าผิวที่หน้ามีริ้วรอยมากมาย ในขณะที่ก้นยังเต่งตึงอยู่ละก็ แสดงว่าพื้นฐานผิวคุณดี แต่ปัจจัยภาพนอกเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น แสงแดด สูบบุหรี่จัด การที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เป็นต้น
         4.แสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งเจ้ามารร้ายอัลตราไวโอเลตนี้มีพี่น้องร่วมท้อง 2 ชนิด รังสีผู้พี่คือ อัตราไวโอเลตเอ (UVA) โดย UVA จะค่อยๆทำให้ผิวเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกทำลายความแข็งแรงของอีลาสติน หรือคอลลาเจนอยู่ แม้แต่ในออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะ UVA สามารถทะลุผ่านกระจกเข้าไปทำลายคุณได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น


เมือกหอยทาก ช่วยลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึง

         จากการค้นคว้าวิจัยต่างๆชี้ให้เห็นว่า เมือกหอยทากมีคุณสมบัติที่น่าประหลาดใจในการรักษาผิวโดยเฉพาะสิว อาการบวมแดง เห่อ ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้เนียนเรียบ และช่วยป้องกันรักษาความชราภาพของเซลผิวด้วย โดยอุดมไปด้วยคุณค่าของสารบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวพร้อมทั้งยังช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดเลือดริ้วรอยแห่งวัย และช่วยสมานผิว สารที่อยู่ในน้ำเมือกหอยทากนี้มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิว ขัดผิว บำรุงผิว และสมานผิว ได้แก่ Allantoin, Gluconic acid, Collagen เป็นต้น

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กำจัดรูขุมขนกว้าง ด้วยวิธีธรรมชาติ

            รูขุมขนกว้าง หรือมีขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัดนั้น จะทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าดูไม่เรียบเนียน ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณผู้หญิงมักยอมไม่ได้ เนื่องจากบั่นทอนความมั่นใจเมื่อต้องแต่งหน้าออกไปเฉิดฉายข้างนอก นอกจากนี้รูขุมขนกว้างก็ยังทำให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ผิวได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จึงควรทำการกระชับรูขุมขนให้มีขนาดเล็กลง โดยวันนี้เรามีวิธีขจัดปัญหารูขุมขนกว้างให้อยู่หมัดแบบธรรมชาติมาให้ท่านผู้อ่านได้ลองปฏิบัติกัน

วิธีแก้ปัญหารู้ขุมขนกว้าง
            1.กระชับรูขุมขนด้วยการแตงกวา เริ่มจากนำแตงกวามา 1 ลูก ฝานและบดขยี้จนเป็นเนื้อละเอียด จากนั้นให้นำมาผสมกับมะนาวสัก 2-3 หยด แล้วนำมามาร์คบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แตงกวานั้นมีสารทำให้เย็นจึงสามารถช่วยในการลดรูขุมขนกว้างให้กระชับได้ และมะนาวช่วยลดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอบนใบหน้า ทั้งยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกจากผิวหนังได้อีกด้วย
            2.กระชับรูขุมขนด้วยไข่ขาว ไข่ไก่นอกจากจะสามารถนำไปประกอบอาหารได้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการพอกหน้าได้อีกด้วย สำหรับวิธีการก็คือ นำไข่ขาวมา 1 ฟอง จากนั้นนำมาผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทาให้ทั่วไปหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น และล้างอีกทีด้วยน้ำเย็น แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งให้ใช้เฉพาะไข่ขาวเท่านั้น ให้งดการใช้น้ำมะนาว

            3.กระชับรูขุมขนด้วยน้ำตาลทราย น้ำตาลทรายสามารถนำมากระชับรูขุมขนกว้างๆได้ด้วย การนำมาผสมกับน้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก แล้วนำไปทาบนใบหน้าแล้วก็ขัดเบาๆ โดยค่อยๆหมุนนิ้วเป็นแนววงกลม เน้นส่วนที่มีรูขุมขนกว้างและผิวมัน จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำที่เย็นจัด น้ำผึ้งนั้นมีสรรพคุณในการช่วยลดความมันบนใบหน้าและทำให้รูขุมขนเล็กลง
            4.กระชับรูขุมขนด้วยโยเกิร์ต ในโยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะมีกรดแลคติกและโปรไบโอติก ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้า และยังช่วยกระชับรูขุมขนได้ดีอีกด้วย วิธีการแสนง่าย คือนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาทำการทาบางๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงสัปดาห์ละครั้งจะทำให้รูขุมขนกว้าง แลดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
            5.ล้างหน้าเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป การล้างหน้าที่เหมาะสมที่สุดคือทำเพียง 2 ครั้งต่อวัน โดยควรล้างหน้าในตอนเช้า และตอนกลางคืน ซึ่งจะช่วยชำระล้างคราบสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกไป ทั้งยังเป็นการช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง

            6.หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางบางชนิด เพราะเครื่องสำอางบางอย่างโดยเฉพาะบีบีครีม เป็นตัวการใหญ่ที่ขยายรูขุมขนของเรา และก่อให้เกิดสิวอุดตันกับผิวที่มีรูขุมขนกว้างได้ง่ายๆ ดังนั้นหากอยากปกปิดรูขุมขนกว้างๆ ก็เลี่ยงใช้บีบีครีม แล้วหันมาใช้แป้งที่ผสมรองพื้นแทนจะปลอดภัยกว่า ทั้งนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม สารกันบูด รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์เบส (oil based) ที่จะเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่าย ทำให้หน้ามันและเสี่ยงต่อเป็นสิวมากขึ้น
ก่อนจากกันเรามีเรื่องราวของปัญหาผิวบนใบหน้ามาฝาก โดยถ้าหากท่านกำลังประสบปัญหาดังต่อไปนี้ ควรรีบแก้ไขด่วน เพราะมันคือสัญญาณแห่งความชรา
1.ริ้วรอย รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น
2.รูขุมขนอุดตัน และผิวเป็นตุ่มนูน ไม่เรียบ
3.ผิวไม่มีน้ำมีนวล ไม่สดใส
4.จุดด่างดำ กระ ฝ้า
5.รอยเส้นเลือดที่ชัดเจนขึ้น
6.ผิวหย่อนยาน
7.ผิวบางและแห้ง

เคล็ดลับ วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ช่วยลดรูขุมขนให้ได้ผลสูลสุด
นอกจากวิธีการแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ด้วยวิธีการทางธรรมชาติที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น สำหรับหลายๆคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้ามาก อีกทั้งยังไม่มีเวลาไปเลือกหาวัตถุดิบที่มีประโยชน์เหล่านี้มาช่วยในการบำรุงผิวหน้า ก็คงอยากที่จะใช้วิธีที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือ การหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างมาใช้สักชิ้น แต่หลายคนคงจะหนักใจมี่ใช่น้อย เนื่องจากในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมีอยู่ให้เลือกสรรอย่างมากมายในท้องตลาดเสียจนตาลายเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากใครกำลังมีปัญหารูขุมขนกว้าง แล้วกำลังมองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพดีๆ ราคาย่อมเยาสักชิ้นอยู่ล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์เวฃสำอางค์นำเข้าจากประเทศเกาหลี ที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กระชับรูขุมขน ครีมหรือเซรั่มช่วยได้หรือไม่ ทำเลเซอร์ดีมั้ย

รูขุมขนกว้าง เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวหน้า ที่หลายๆ คน ประสบพบเจอ และปวดหัวกับปัญหาหน้ามันรูขุมขนกว้างอย่างมาก เพราะจะทำให้หน้าของเรามันเยิ้ม ต้องคอยซับหน้ามันๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ขาดความมั่นใจไปเลยก็มี

รูขุมขนกว้างไม่เรียบเนียน ผิวหน้ามันเยิ้ม ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน ดังนั้น เรามาดู วิธีการรักษา การกระชับรูขุมขนให้เล็กลง กันดีกว่าค่ะ

วิธีกระชับรูขุมขน แบบธรรมชาติ

วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ ที่จะทำให้ผิวหน้าแลดูเรียบเนียนขึ้นได้ด้วยสิ่งที่เราหาเองได้จากรอบตัวเรา แต่อาจจะได้ผลช้า แต่ว่าก็ปลอดภัยไร้สารพิษตกค้างอย่างแน่นอน ยกเว้นเราจะล้างออกไม่สะอาดแค่นั้นเอง อย่าช้าเลย… ไปลองทำกันเลยดีกว่า

ไข่ขาว เพียงนำไข่ขาวหนึ่งฟอง แล้วใส่มะนาวไปหนึ่งช้อนโต๊ะ จาก นั้นนำมาให้ทาทั้วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ ให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นล้างออกอีกทีด้วยน้ำเย็น สำหรับคุณผู้หญิงคนไหนที่ผิวแพ้ง่ายให้งดใช้น้ำมะนาวแล้วเฉพาะไข่ขาวก็เพียง พอค่ะ

ผักกาดขาวและมะนาว ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงบดผักกาดขาวสองสามใบให้ละเอียด จากนั้น กรองเอา มาผสมกับน้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า

แอพริคอต กับมะเขือเทศ โดยนำมาบดละอียดให้ทั่วๆ กัน จากนั้นทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

น้ำตาลทราย เพียงแค่นำไปผสมกับ น้ำมะกอก และน้ำผึ้ง แล้วนำไปขัดหน้าแบบเบาๆที่สุด อย่ารีบร้อนล่ะ จากนั้นอย่าลืมล้างออกด้วยน้ำเย็นนะ

น้ำมันมะพร้าว หลังล้างหน้าเสร็จ ทาครีมบำรุงก่อนนอนตามปกติเลยค่ะ แล้วทาน้ำมันมะพร้าวเป็นตัวสุดท้าย ใช้แค่ 2-3 หยดก็ทั่วทั้งใบหน้าแล้วค่ะ 😀 **ย้ำว่า 2-3 หยด หรือถ้ารู้สึกว่ามันเกินไป หลังล้างหน้าเสร็จ อย่าเพิ่งเช็ดหน้านะค่ะ ทาลงไปได้เลย หน้าจะไม่มัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนนะค่ะ

น้ำแข็ง ก่อนนอนหรือกลับไปบ้านตอนเย็น ลองใช้น้ำแข็งสะอาดมาประคบบริเวณใบหน้าสัปดาห์ละ 2 – 3 วัน ทำบ่อย ๆ ก็จะช่วยกระชับรูขุมขนได้ แต่ก่อนเอาน้ำแข็งประคบ อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดก่อนนะคะ

วิธีกระชับรูขุมขนด้วยตัวเอง ดังกล่าวข้างต้น สามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะลองดูทั้งหมดเลยก็ได้ไม่ว่ากัน ไม่เป็นอันตรายต่อใบหน้าอยู่แล้ว เพราะวิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติล้วนๆ แต่อย่าลืมหลังทำแล้วล้างหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยนะค่ะ จะได้ไม่มีสิ่งตกค้างหลงเหลือให้เป็นสิวได้ค่ะ

วิธีกระชับรูขุมขนด้วย ครีมและเซรั่มบำรุงผิว

ปัจจุบัน มีครีมสำหรับกระชับรูขุมขนให้เลือกใช้มากมาย ลองเลือกใช้แบบที่เหมาะกับผิวหน้าของคุณ ส่วนใหญ่คนที่มีรูขุมขนกว้างมักจะเป็นคนผิวมัน เพราะฉะนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนที่มีเนื้อบางเบา หรือแบบเนื้อเจลเพื่อให้ซึมซับง่าย และไม่ทิ้งความมันส่วนเกินไว้บนใบหน้า โดยใช้ทุกครั้งหลังจากล้างหน้าหรืออาบน้ำ ซึ่งเป็นเวลาที่รูขุมขนเปิด และผิวหนังจะซึมซับครีมบำรุงได้ดีที่สุดค่ะ

สุดท้าย วิธีกระชับรูขุมขนด้วยการทำเลเซอร์ เป็นวิธีกระชับรูขุมขนที่เห็นผลในครั้งแรกที่เข้ารับการรักษา แต่ ก็ไม่ถาวรค่ะ ต้องไปซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน เจ็บตัวและค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงด้วยนะคะ

สำหรับสาว ๆ ที่มีรูขุมขนกว้าง แต่อยากให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นอย่างลืมนำกลับไปใช้กันดูนะคะ การแต่งหน้าช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนได้ในส่วนหนึ่ง อีกส่วนที่สำคัญก็คือการบำรุง และรักษาความสะอาดของผิวหน้านั่นเอง อย่าลืมกลับไปดูแลใบหน้าของคุณเพื่อผิวที่กระชับเนียนสวยนะคะ

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.