เคล็ดลับสลายเซลูไลท์ที่น่องอย่างง่ายๆ โดยการเดินขึ้นลงบันได

คุณสาวๆ ทุกคนต่างใฝ่ฝันอยากที่จะมีน่องที่เรียวเล็กเข้ารูป ที่ยามเมื่อใส่กระโปรงสั้น หรือกางเกงขาสั้น ต้นขาที่โผล่พ้นออกมานั้น จะชวนให้หนุ่มๆหันมามองด้วยสายตาหลงใหลกันเป็นตาเดียว

สำหรับวิธีการลดเซลูไลท์ในร่างกายก็มีอยู่หลายอย่าง แต่ที่ได้ผลดีและน่าสนใจก็เห็นจะเป็นการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยอย่างประจำสม่ำเสมอ แต่ในยุคปัจจุบันที่แสนวุ่นวาย การปลีกตัวหาเวลาเพื่อไปออกกำลังกายอย่างจริงจังสัปดาห์ละหลายๆ ชั่วโมงนั้นถือเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการออกกำลังกายโดยผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันจึงกลายมาเป็นหนึ่งในทางออกของปัญหาที่น่าสนใจ

สำหรับในวันนี้ จะขอพาคุณสาวๆไปรู้จักกับ การออกกำลังกายในชีวิตประจำวันเพื่อกำจัดเซลูไลท์ด้วยการ “เดินขึ้นลงบันได”  ว่ามีข้อดี ข้อเสียอะไรกันบ้าง

การออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน โดยการเดินขึ้นลงบันไดเพื่อลดไขมันเซลูไลท์ที่น่อง

คุณสาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ถ้าหากเราพยายามไม่ใช้ลิฟต์และบันได้เลื่อนแล้วหันมาใช้วิธีการเดินขึ้นลงบันได จะเป็นการช่วยกำจัดเซลูไลท์ส่วนเกินในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าเซลูไลท์ที่มีการสะสมอยู่ในบริเวณน่อง จนทำให้เกิดปัญหาต้นขาใหญ่ขึ้นได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปออกกำลังกายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว นอกจากนี้การเดินขึ้นลงบันไดยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

การเดินขึ้นบันได  ประมาณวันละ 15 นาที สามารถช่วยในการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาที ซึ่งนับว่าเป็นการเผาผลาญสูงมากเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายโดยทั่วไป ส่วนการเดินลงบันไดจะช่วยเผาผลาญแคลอลี่ไปเพียง 1 ใน 3 ของการเดินขึ้นบันได้เท่านั้น

ซึ่งการเดินขั้นบันได้โดยเฉลี่ยวันละ 2 ชั้น สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ 2.7 ก.ก. ในเวลา 1 ปี อีกด้วย นอกจากนี้เมื่อออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันไดเป็นประจำ เมื่อเซลูไลท์บริเวณต้นขาถูกเผาผลาญกำจัดออกไปก็จะทำให้น่องเล็ก กระชับ เข้ารูปมากกว่าเดิม

การออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันได ยังได้รับการศึกษาผลในการลดน้ำหนัก โดย ดร.ริชาร์ด สจ๊วต ได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจำนวน 1,500 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ส่วนกลุ่มหลังให้ทำการควบคุมอาหาร พร้อมกับการเดินเร็วและการเดินขึ้นลงบันได

ผลที่ได้ปรากฏว่า กลุ่มแรกมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยลดลง 1.5 กก. ในขณะที่กลุ่มหลัง ซึ่งมีการออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันได้เข้าร่วมด้วยนั่น มีน้ำหนักลดลงเฉลี่ย 2.4 กก.   

การเดินขึ้นลงบันได เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ง่ายและสะดวก สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ทุกที่ทุกเวลาที่โอกาสอำนวย  และยังมีโอกาสบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย เช่น อาการปวดข้อเท้า อาการปวดข้อเข่า ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการวิ่งออกกำลังอีกด้วย แต่การออกกำลังกายโดยการขึ้นลงบันได ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม หรือมีปัญหาด้านสุขภาพเข่า

วิธีการออกกำลังกายกำจัดเซลูไลท์ ด้วยการเดินขึ้นลงบันไดยังมีประโยชน์ต่ส่วนอื่นๆของร่างกาย เนื่องจาก เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งช่วยทำให้หัวใจ และปอดมีความแข็งแรง พร้อมกับทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 20% กล้ามเนื้อต้นขา น่อง ก้นแข็งแรงและกระชับมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มมวลกระดูกให้กับผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน เพิ่มปริมาณไขมัน HDL ซึ่งเป็นไขมันส่วนดีที่ร่างกายต้องการ และลดไขมันในเลือดได้อย่างน้อย 8%

การออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันไดอย่างถูกวิธี

การเดินขึ้นลงบันไดควรเริ่มจากการเดินในแนวราบก่อน เมื่อคิดว่าตัวเองมีกำลังขาแข็งแรงดีแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปเป็นการเดินขึ้นบันได โดยเริ่มจากจำนวนชั้นน้อยๆก่อน เช่น 1 ชั้น สลับไปกับการเดินแนวราบประมาณ 50-65 เมตร เมื่อร่างกายมีการปรับตัวได้จึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนชั้นมากขึ้นเป็น 2 ชั้น

ในกรณีที่อยู่ในตึกสูง ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินขึ้นลงบันไดทุกชั้น อาจจะใช้วิธีขึ้นลิฟต์ไปลงก่อนชั้นที่ต้องการ เช่น ต้องการไปชั้น 20 แต่ลงลิฟต์ในชั้นที่ 19 แล้วทำการเดินขึ้นบันไดต่อไปเอง เป็นต้น

การเดินขึ้นลงบันไดทุกครั้งควรจับราวบันได หรือวางมือเอาไว้ให้ใกล้กับราวบันได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการก้าวพลาด โดยการเดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆทีละขั้น

เนื่องจากมีการทดลองของ ดร.ลิวอิส ฮาสซี อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต มหาวิทยาลัยโรแฮมตัน ประเทศอังกฤษพบว่า การเดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆทีละขั้นนั้น ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกว่าการเดินขึ้นบันไดแบบเร็ว หรือเดินขึ้นทีละ 2 ขั้น

เพราะการเดินเดินขึ้นอย่างช้าๆ จะทำให้เกิดการใช้กล้ามเนื้อ และเวลาในการเดินมากกว่าการเดินเร็ว ซึ่งทำให้มีการเผาผลาญพลังงาน รวมไปถึงไขมันในร่างกายมากกว่า

ข้อควรระวังเมื่อออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันได

ถึงแม้ว่า การออกกำลังกายโดยการเดินขึ้นลงบันไดจะสามารถช่วยลดเซลูไลท์ที่น่องได้เป็นอย่างดี และเป็นการออกกำลังกายแบบเบาๆก็ตาม แต่ก็อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อร่างกายได้ ถ้าหากคุณสาวๆที่เลือกออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว ควรระวังและปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเจ็บเข่า ควรหยุดการเดินขึ้นลงบันได เพื่อป้องกันการเกิดอาการข้อเข่าเสื่อมขึ้น ควรเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายใหม่ เช่น การเดินในแนวราบ เป็นต้น จนกระทั่งเข่าหายเจ็บดีแล้ว จึงค่อยกลับไปทำการเดินขึ้นลงบันไดใหม่

2. เมื่อเดินขึ้นลงบันไดไม่ควรหยุดในทันที เพราะทำให้เลือดไปคั่งที่ขา ทำให้เลือดไหลกลับไปสู่ช่องท้อง ทรวงอก และหัวใจน้อยลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด หรือเป็นลมได้ ให้ทำการเดินต่อช้าๆ อีกสักพักหนึ่งค่อยทำการหยุดพัก จะช่วยทำให้ร่างกายมีการปรับตัวได้ดีกว่า และยังช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กินอย่างไร จึงช่วยกำจัด เซลลูไลท์

         “เซลลูไลท์” ตัวการใหญ่ที่บั่นทอนความมั่นใจของสาวๆ โดยมักเกิดเป็นชั้นใต้ผิวหนัง ลักษณะลอนๆคลื่นๆ ไม่น่ามอง ซึ่งพบมากบริเวณก้น สะโพก และต้นขา เซลลูไลท์จะมีให้เห็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ตั้งแต่สาวน้อยอายุ 14 ปี และสะสมขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่ผ่านการบุตรแล้ว หรือผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด ที่ทำให้ระบบจัดการของเสียในร่างกายไม่สามารถขจัดการหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ทั้งหมด เซลลูไลท์จึงเห็นชัดขึ้น
ทั้งนี้ หากมีการรบกวนระบบการไหลเวียนเลือด อย่างเช่นนั่งมากๆในชีวิตประจำวัน จะทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันด้านและหนา อันเป็นต้นเหตุแห่งเซลลูไลท์ หรือที่เราเรียกกันว่า “ผิวเปลือกส้ม” และเพื่อเป็นการกำจัดปัญหานี้ให้หมดไป เรานำวิธีการรับประทานอาหารเพื่อช่วยสลายเซลลูไลท์ได้แบบธรรมชาติมาให้ปฏิบัติกัน แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่าเจ้าเซลลูไลท์เกิดจากสาเหตุใด

เซลลูไลท์เกิดขึ้นได้อย่างไร
         1.กรรมพันธ์ สิ่งที่บรรพบุรุษให้มานี้ บางอย่างก็ไม่สามารถแก้ได้ เช่น ลักษณะมือหรือเท้า แต่สำหรับเซลลูไลท์เป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขให้เป็นปกติได้
         2.ดื่มน้ำน้อย เพราะน้ำช่วยในการทำงานของระบบขับของเสีย และช่วยขับพิษออกจากร่างกาย ฉะนั้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
         3.แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารรสจัด ล้วนก่อให้เกิดเซลลูไลท์ได้ทั้งสิ้น เพราะมีสารพิษต่างๆ จะถูกกักเก็บอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน
         4.การลดความอ้วนแบบเร่งด่วน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลลูไลท์ เนื่องจากร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนเกินไป ทั้งยังไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
         5.การสะสมอาหารและไขมัน ทำให้ก่อเกิดเป็นเซลลูไลท์ โดยไขมันเหล่านี้จะกั้นเส้นเลือดและติดอยู่ในเนื้อเยื่อ ระบบกำจัดสารพิษและของเสียจึงไร้ประสิทธิภาพ
         6.การสูบบุหรี่ ทำร้ายทั้งผิว ปอด เส้นเลือดฝอยหดตัว และยังทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันถูกทำลาย อันเป็นผลให้เกิดเจ้าเซลลูไลท์
         7.ความเครียด เป็นผลทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวอยู่บ่อยๆ เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อจึงขมวดเกร็งตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดยังไปขวางเนื้อเยื่อไม่ให้กำจัดของเสียอีกด้วย
         8.การใช้ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ จะเข้าไปรบกวนกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเฉพาะระบบชำระเลือด อันนำไปสู่ปัญหาเซลลูไลท์
         9.ยาคุมกำเนิด ประเภทรับประทานซึ่งไปเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวและเก็บน้ำจนบวม ร่างกายก็ไม่มีน้ำพอที่จะขับของเสียออกจากร่างกาย สุดท้ายก็กลายเป็นเซลลูไลท์
         10.การไม่ออกกำลังกาย และเอาแต่นั่งอยู่กับที่นานๆ เซลลูไลท์จะมาเยือนในไม่ช้า เนื่องจากการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้วยังต่อต้านการเกิดผิวเปลือกส้มอย่างได้ผล ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต ร่างกายได้ขับสารพิษและไขมันออกจากร่างกาย

รับประทานเพื่อกำจัดเซลลูไลท์
         ห้ามอดมื้อเช้า เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัตเป็นอันดับแรก เนื่องจากการอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ระบบสงวนพลังงาน โดยการลดอัตราการเผาผลาญลง และทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานอย่างเต็มที่ในรูปของไขมัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดเซลลูไลท์
         รับประทานครบหมู่และหลากหลาย ควรรับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่และมีความหลากหลาย เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่ควรลดสัดส่วนของอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันลง และพยายามเน้นหนักที่ผักผลไม้ให้มาก เพราะกากใยจะช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย อีกทั้งวิตามินซีและวิตามินอีนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น
         รับประทานอาหารที่มีกรดไขมัน ควรเน้นอาหารจำพวกถั่ว น้ำมันปลา เมล็ดพืชที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิต และรับประทานอาหารพวกโปรตีนไขมันต่ำเป็นประจำ เนื่องจากร่างกายใช้พลังงานในการย่อยอาหารพวกโปรตีน มากกว่าการย่อยไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตถึงสองเท่า เรียกว่าอิ่มเท่ากัน แต่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้มากกว่า นอกจากนี้ สารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่ว ยังสามารถช่วยลดระดับของเหลวที่สะสมในเซลล์ไขมันได้ ทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตกับน้ำเหลืองคล่องตัว และเพื่อให้ได้ผล ควรลดอาหารเค็มด้วย
การกำจัดเซลลูไลท์ให้หมดไป จำเป็นต้องลงมือทำไม่ใช่เอาแต่นั่งรอปาฏิหารย์ กุญแจดอกสำคัญที่จะป้องกันเซลลูไลท์นั่นก็คือ การกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเซลลูไลท์อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น หากทำได้รับรองว่าการขจัดปัญหาเซลลูไลท์ของเราจะสำเร็จลุล่วงไปได้โดยดี

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.