สารพัดวิธีทำให้รักแร้ขาว จนใครเห็นเป็นต้องมอง

         สำหรับคุณผู้หญิงแล้ว ผิวหนังใต้วงแขนถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากถ้าปล่อยปละละเลยเมื่อปัญหารักแร้ดำก็จะเล่นงานได้ทันที เมื่อรักแร้ดำจะทำให้ความมั่นอกมั่นใจถูกลดหย่อนลงไปจนไม่กล้าใส่เสื้อตัวเก่งที่เปิดนิดโชว์หน่อย อันเนื่องมากจาอับอายผิวหนังใต้วงแขนที่ดำคล้ำนั่นเอง กระนั้นก็ตาม ใครที่มีรักแร้ดำก็อย่าพึ่งน้อยอกน้อยใจกันไป เพราะวันนี้เรามีวิธีทำให้รักแร้ขาวขึ้นมาให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปใช้กัน ซึ่งรับรองว่าผลลัพธ์จะออกมาในแบบที่น่าพอใจ รักแร้ขาวจนใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง

ทำไมรักแร้ดำ ?
         ก่อนจะไปถึงวิธีทำให้รักแร้ขาว เรามาทำความเข้าใจกันว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวใต้วงแขนหรือรักแร้ดำมีอะไรบ้าง ใครเข้าข่ายสาเหตุไหน หากสามารถแก้ไขได้ก็ควรทำ เพื่อประสิทธิภาพในการทำให้รักแร้ขาวขึ้น และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด
         1.ถอนขนรักแร้ จะมีส่วนให้ทำให้รักแร้ดำเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดการอักเสบของรูขุมขนเวลาถอน ยิ่งคนที่ถอนบ่อยเป็นประจำอย่างต่อเนื่องมานาน ยิ่งมีโอกาสรักแร้ดำได้สูง

         2.การเสียดสีใต้วงแขน เพราะบริเวณที่เป็นข้อพับจะถูกเสียดสีกันบ่อย ทำให้เกิดรอยดำคลั้นขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ หรืออ้วนจะมีโอกาสเสียดสีของข้อพับบ่อยมากกว่าคนผอม ทำให้คนอ้วนรักแร้ดำได้มากกว่าคนผอม
         3.เหงื่อออกมาก นอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นกายแล้ว ถ้าเหงื่อออกมากจะเกิดความสกปรกใต้วงแขน เพราะเหงื่อจะไหลลงมาผสมกับโลออนที่เราทาและทำให้เกิดปฏิกิริยากัน ผิวหนังที่รักแร้จึงดำคล้ำ ถึงแม้บางคนไม่ทาโลออนถ้าเหงื่อไหลมาบริเวณรักแร้ก็จะมีคราบเหงื่อเป็นรอยดำได้เช่นกัน
         4.โกนขนรักแร้ ยิ่งทำให้รักแร้ดำ เพราะใบมีดโกนจะไปทำลายเซลล์ผิวหนังรักแร้ที่ผ่านการโกน ทำให้เกิดรอยดำขึ้นได้
         5.กรรมพันธุ์ ใครเกิดมาเป็นคนผิวขาวเนียน รักแร้ก็มักจะเนียนตามไปด้วย ขณะเดียวกันคนที่ผิวค่อนข้างคล้ำจะมีโอกาสรักแร้ได้สูง ทั้งนี้ สามารถแก้ไขได้

วิธีทำให้รักแร้ขาว
         1.สารส้ม วิธีทำให้รักแร้ขาวแสนง่ายนี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด โดยนอกจากจะทำให้รักแร้ขาวเนียนขึ้นแล้ว ยังเป็นการระงับกลิ่นกายได้อีกด้วย โดยให้นำสารส้มมาทาใต้วงแขนหลังอาบน้ำเสร็จเป็นประจำทุกๆวัน ทั้งนี้ ควรถูวนอย่างเบามือประมาณ 5 รอบ
         2.สมุนไพรธรรมชาติ การใช้สมุนไพรรักษารักแร้ดำก็เป็นอีกวิธีที่นิยมทำกันมาก เพราะเป็นสูตรแบบบ้านๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพง แถมได้ผลดีอีกด้วย สมุนไพรที่จะทำให้รักแร้ขาว ได้แก่
         – มะขามเปียกผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยล้างออก ทำเป็นประจำวันเว้นวัน ช่วยทำให้ผิวใต้วงแขนของคุณขาวเนียนใสขึ้น
         – แตงกวาหรือฝรั่ง โดยให้ฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาขัดผิวใต้วงแขนเบาๆ หรือวางทิ้งไว้ตรงบริเวณใต้วงแขนก็ได้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยทำให้ผิวหนังใต้วงแขนที่เคยดำ ขาวเนียนได้
         – น้ำมะนาวผสมแตงกวา ให้นำส่วนผสมทั้งสองมาปั่นรวมกัน แล้วนำมาทารักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงล้างออก จะช่วยให้รักแร้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

         3.ครีมทารักแร้ขาวหรือไวท์เทนนิ่ง โดยใช้ทาก่อนนอนทุกวัน แล้วจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงขึ้นเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้ ควรเลือกยี่ห้อหรือแบรนด์ที่ไว้ใจได้และมีรับรองจาก อย.เท่านั้น เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีสารที่อันตราย ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและแพ้ง่าย
         4.ครีมกวนอิม อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจ โดยได้มีการรีวิวการมากมายผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ถึงผลที่ได้จากการทาครีมกวนอิมแก้ปัญหารักแร้ดำ โดยการทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำทุกวันหลังอาบน้ำ เมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนจะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
         5.ยิงเลเซอร์ เป็นวิธีที่ค่อนข้างได้ผลดี แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิมยมมากนัก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และมีความเสี่ยงสูง เพราะอาจทำให้ให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนังใต้วงแขนได้ ทั้งนี้ การยิงเลเซอร์กำลังมีการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ดังนั้น หากคิดจะยิงเลเซอร์ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง
         เป็นอย่างไรกันบ้างกับสารพัดวิธีทำให้รักแร้ขาวขึ้น ใครพอใจแบบไหนก็สามารถนำไปลองใช้ได้เลย ซึ่งแต่ละวิธีจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวใต้วงแขนของแต่ละคน หวังว่าคุณผู้หญิงจะมีรักแร้ขาวกันถ้วนหน้า เรียกความมั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุดได้อีกครั้ง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมทารักแร้ เคล็ดลับแก้ รักแร้ดำ ขาวขึ้นทันตา

         “รักแร้ดำ” เป็นอีกหนึ่งปัญหาจุกจิกกวนใจของสาวๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งการถอน โกน หรือแว้กซ์ขนแบบผิดวิธี ต่างก็ทำให้รักแร้ดำได้ทั้งนั้น ทั้งนี้ เนื่องจากผิวหนังใต้วงแขนเป็นบริเวณที่มีความบอบบาง จึงทำให้เกิดปัญหาผิวได้ง่าย และเมื่อมีรอยย่นจากการเสียดสีก็จะทวีความรุนแรงให้รักแร้ดำคล้ำกว่าสีผิวส่วนอื่นๆได้ง่าย ซึ่งปัญหารักแร้ดำนี้เกิดขึ้นในคนอ้วนแทบทุกราย
         ไม่ว่ารักแร้ดำด้วยสาเหตุใด สิ่งที่สาวๆทุกคนต้องการก็คือวิธีการแก้ไขนั่นเอง วันนี้เราได้รวบรวมวิธีทำให้รักแร้ที่เคยดำคล้ำกลับมาขาวใส เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น โดยวิธีที่นำเสนอต่อไปนี้เป็นแบบบ้านๆที่ใครก็ทำได้ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ที่สำคัญรับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะต้องเป็นที่น่าพึงพอใจ

 

วิธีทำให้รักแร้ดำกลับมาขาวเนียนใสแบบโฮมเมด
         1.แตงกวา วิธีแก้รักแร้ดำด้วยแตงกวาเป็นสูตรโฮมเมดที่ได้รับความในนิยมอย่างมากโดยเฉพาะคนในบ้านเราเพราะเป็นผักที่หาง่าย วิธีการคือให้นำแตงกวามาหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปทาบริเวณรักแร้ดำ หรือนำแตงกวาไปปั่นแล้วคั้นเอาน้ำแล้วนำมาทารักแร้ก็ได้ สารอาหารในแตงกวาจะช่วยให้รักแร้ขาวเนียนใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
         2.มะนาว ให้นำมะนาวมานครึ่งผล แล้วก็ทาที่รักแร้ได้เลย จากนั้นใช้น้ำสะอาดล้างออก มะนาวจะช่วยขจัดคาบเซลล์ผิวที่คายแล้วออกไป ทำให้รักแร้เราค่อยๆขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ มะนาวอาจทำให้ผิวระคายเคือง หลังจากนำมะนาวมาทาแล้วควรใช้โลชั่นบำรุงผิวมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวบริเวณรักแร้จะได้ไม่แห้งกร้านจนเกินไป
         3.มันฝรั่ง จะช่วยกำจัดเอาสารเคมีตกข้างจากการใช้โรออนออกได้อย่างล้ำลึก และเป็นไวท์เทนนิ่งไปในตัว โดยก่อนอื่นก็ต้องทำความสะอาดรักแร้ แล้วนำมันฝรั่งมากฝานออกเป็นแผ่นบางๆ หนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร แล้วจึงใช้มันฝรั่งที่ฝานแล้วถูวนเป็นวงกลม แล้วทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นก็ล้างออก ทำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็ถือว่าใช้ได้

         4.น้ำมะนาวผสมน้ำแอปเปิ้ล ให้นำมะนาวและแอปเปิ้นมาคั้นเอาน้ำ แล้วผสมเข้ากัน จากนั้นให้นำสำลีมาชุบแล้วทาผิวหนังใต้วงแขนทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก รักแร้ดำก็จะค่อยๆจางลง จนได้ผิวขาวใสสุขภาพดี
         5.มะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง เป็นอีกสูตรโฮมเมดที่ช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำ โดยให้มันมะขามเปียกมาผสมกับน้ำผึ้งเพียงเล็กน้อย แล้วทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจึงล้างออก ทำเป็นประจำวันเว้นวัน จะช่วยทำให้ผิวใต้วงแขนขาวเนียนใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่จะให้ผลเรื่องความเนียนใสมากกว่า
         6.น้ำมะนาวผสมน้ำแตงกวา ให้นำส่วนผสมทั้งน้ำมะนาวและน้ำแตงกวามาปั่นรวมกับขมิ้นเล็กน้อย จากนั้นนำมาทารักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก ก็ช่วยให้ผิวใต้วงแขนที่เคยดำคล้ำ แลดูขาวใส เรียบเนียนขึ้นได้
         นอกจากจะใช้สูตรโฮมเมดแก้ปัญหารักแร้ดำแล้ว ถ้าให้ดีที่สุดควรหมั่นดูแลผิวใต้วงแขนเป็นประจำ ไม่ทำการขัดเช็ดถูแรงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นใช้เกลือขัด หรือหินขัดก็ตาม เพราะอาจจะทำให้เกิดรอยแผลหรือถลอกได้ และห้ามใช้น้ำหอมหรือโรลออนที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะมันเป็นสาเหตุหลักทำให้รักแร้ดำ และสำหรับคนอ้วนก็ควรหันมาลดความอ้วนอย่างจริงจัง เพราะยิ่งมีน้ำหนักมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เกิดรักแร้ดำ รวมถึงรอยเหี่ยวย่นตรงบริเวณใต้วงแขนได้มากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากมีการเสียดสีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บอกลาผิวหนังไก่ ไม่เรียบเนียน ด้วยเลเซอร์กำจัดขน

         ปัญหาผิวหนังไก่ ไม่เรียบเนียน ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณรักเร้ ที่อาจทำให้ความมั่นใจลดลง ไม่กล้าสวมใส่เสื้อผ้าชุดสวยโชว์ผิวใต้วงแขน ทั้งนี้ ปัญหาผิวหนังไก่ที่เกิดขึ้นมักเกิดจากการถอน โกน ที่อาจก่อให้เกิดรูขุมขนอักเสบ ขนคุด เกิดกลิ่นเหม็นอับตามมา ดังนั้น เพื่อเป็นการขุดรากถอนโคนปัญหาผิวไม่เรียบเนียนที่รักเร้หรือบริเวณอื่นๆ เช่น หน้าแข้ง ต้นขา เป็นต้น เราขอนำเสนอวิธีเลเซอร์กำจัดขนอย่างสิ้นซาก

การกำจัดขน
        ก่อนจะไปกันที่การเลเซอร์กำจัดขน คุณควรทำความเข้าใจว่า การกำจัดขนมี 2 วิธี คือ การกำจัดขนแบบชั่วคราว และการกำจัดขนแบบถาวร
        1.กำจัดจนแบบชั่วคราว ได้แก่ การโกน ถอน แหนบ ใช้ด้ายกระตุก ซึ่งวิธีเหล่านี้ นอกจากจะต้องทำบ่อยๆ เพราะความที่เป็นวิธีแบบไม่ถาวรแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาของขนคุด รูขุมขนอักเสบตามมา
        2.กำจัดขนแบบถาวร ซึ่งปัจจุบันมี 2 วิธี ได้แก่ electrolysis คือการใช้เข็มสอดลงไปที่รากขนทีละเส้นแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า ทำลายรากขน วิธีนี้ค่อนข้างเจ็บและเสียเวลานานมาก เพราะต้องสอดเข็มลงไปที่รากขนทีละเส้น มีโอกาสเสี่ยงกับการเกิดแผลเป็นค่อนข้างสูง เพราะการสอดเข็มลงไปที่รากขนเป็นวิธีการสอดแบบสุ่ม โดยผู้ทำการรักษาไม่ทราบว่ารากขนอยู่ที่ใด จึงไม่ค่อยมีใครใช้วิธีนี้ในปัจจุบัน

        และอีกวิธีในการกำจัดขนแบบถาวร คือวิธีใช้แสงความเข้มสูงและเลเซอร์กำจัดขน เป็นวิธีการกำจัดขนโดยอาศัยพลังงานความร้อนจากแสงไปทำลายรากขน แสงสามารถทำลายรากขนโดยเฉพาะเจาะจง เพราะบริเวณรากขนจะมีเซลล์สร้างสีที่เรียกว่าเมลาโนซัยท์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำแสงหรือตัวดูดพลังงานแสงให้มาอยู่เฉพาะบริเวณรากขน

เลเซอร์กำจัดขนได้อย่างไร
        พลังงานจากแสงเลเซอร์จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในต่อมขน พลังงานที่ถูกดูดซึมนี้เองจะไปทำลายเซลล์รากขนที่อยู่รอบๆ เมื่อเซลล์รากขนถูกทำลายเส้นขนก็จะหลุดร่วงไปและไม่ขึ้นใหม่ หลังการรักษาแต่ละครั้ง เส้นขนระยะเจริญวัย (Anagen) ที่มีรากขนอยู่ลึก (ชั้น dermis) และสามารถกำจัดได้ด้วยเลเซอร์จะมีอยู่ประมาณ 20-25% โดยเส้นขนที่ถูกทำลายนี้จะค่อยๆ ไหลหลุดออกมา ภายใน 2-3 อาทิตย์หลังทำเลเซอร์ จะพบว่าเส้นขนที่หลงเหลืออยู่หลังการรักษาแต่ละครั้งจะบางลง ปริมาณลดลง ลดปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่ได้
        หากทำเลเซอร์กำจัดขนไปแล้ว ควรรอประมาณอีก 1-2 เดือน (แล้วแต่บริเวณ) จึงมาทำซ้ำ เพื่อกำจัดเส้นขนระลอกใหม่ในระยะ Anagen ที่ขึ้นมา ทั้งนี้ ในการกำจัดขนให้หมดไป 90% อาจต้องทำ  8-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนของแต่ละบุคคล และยาบางชนิดรับประทาน

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
        หลังจากเลเซอร์กำจัดขนประมาณครึ่งชั่วโมง ผิวหนังบริเวณรอบรูขุมขนจะแดงและบวมเล็กน้อย ซึ่งอาการนี้จะหายไปเองภายในเวลา 1 วัน ควรประคบด้วยความเย็น เพราะจะช่วยลดอาการแสบร้อนได้ ผิวหนังภายหลังการทำเลเซอร์กำจัดขนจะไม่เกิดรอยแผล ไม่มีเลือดออก และไม่จำเป็นต้องปิดแผล สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น อาบน้ำ เป็นต้น แต่ควรยกเว้นการใช้สบู่หรือครีมที่ระคายเคืองผิวหนัง เช่น Retin-A หรือ AHA ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการออกแดดสักระยะหนึ่ง ถ้าจำเป็นควรทาครีมกันแดดบริเวณที่รักษา ทั้งนี้ เมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เส้นขนจะค่อยๆถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนัง
        อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำเลเซอร์กำจัดขน ผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป ทางที่ดีควรศึกษาเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ทางโรงพยาบาลหรือคลินิคนำมาใช้ให้ถ้วนถี่เสียก่อน และอย่าลืมเช็คราคาว่าเหมาะสมกับงบประมาณในกระเป๋าเราหรือไม่ เพียงแค่นี้คุณก็เตรียมบอกลาปัญหาผิวหนังไก่ ผิวไม่เรียบเนียนไปได้เลย

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ปัญหาผิวหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร

         ผิวหนังไก่ใต้วงแขนของคุณผู้หญิงเปรียบเสมือนปัญหาโลกแตกที่แก้ไม่ตก ซึ่งคุณผู้หญิงส่วนใหญ่มักประสบปัญหานี้กันทั้งนั้น ใครที่เกิดมาไม่มีขนรักเร้นั่นถือเป็นโชคดีของคุณที่ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาใต้วงแขนนี้ อย่างไรก็ตาม สาวๆที่เป็นผิวหนังไก่ก็อย่าได้กลัดกลุ้มใจไป เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาผิวหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร และสามารถแก้ไขได้อย่างไร รับรองว่าคุณจะต้องพึงพอใจ

ผิวหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร
ปัญหาหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร จริงๆแล้วมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสามารถแยกออกเป็น 2 ข้อใหญ่ๆ ดังนี้
1.รักแร้ดำเพราะมีขน (หนังไก่) มักเป็นกันทั่วไปในคุณผู้หญิง อยู่ที่ว่าจะเป็นมากหรือเป็นน้อย สาเหตุเหตุที่ทำให้เกิดหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร หลักๆคือการถอนขนใต้วงแขนนั่นเอง ซึ่งร้อยทั้งร้อยของสาวๆต่างๆก็ต้องทำการถอนทั้งนั้น จึงทำให้รักแร้เป็นตะปุ่มตะป่ำ หรือที่เรียกว่า “ผิวหนังไก่” ทั้งนี้ การโกนขนรักแร้หรือผิวหนังถูกรบกวนบ่อยๆ ก็อาจทำให้เกิดผิวหนังไก่ได้ ทั้งยังทำให้ขนรักแร้ที่ขึ้นใหม่แข็งเป็นตอ มีอาการคัน ยิ่งโกนบ่อยๆนานๆ จะยิ่งทำให้รักแร้ดำได้อีก

         2.รักแร้ดำหมองคล้ำ มักเกิดจากการถูกเสียดสีอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนอ้วนก็จะยิ่งมีปัญหานี้ได้ง่าย บวกกับเป็นบริเวณที่เปียกชื้นจากเหงื่อจึงทำให้เกิดรอยดำขึ้นมา หรืออาจเกิดจากใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ทำจากสารเคมี ซึ่งมีส่วนผสมของ สารปรอท ไฮโดรควินิน และเสตียรอยด์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ แต่ยังผสมสารกับูด เพราะสารพวกนี้จะทำให้รักแร้ดำ และเสื้อผ้ามีคราบเหลืองด้วย

สูตรแว็กซ์ขนรักเร้แบบโฮมเมด
ทราบกันไปแล้วว่าปัญหาหนังไก่ รักแร้ เกิดจากอะไร มาดูวิธีแก้ไขด้วยสูตรแว็กซ์ขนรักเร้แบบโฮมเมดกัน ซึ่งสูตรนี้เป็นการนำเอาส่วนผสมที่มีอยู่แล้วในครัวมาประยุกต์ใช้ในการกำจัดขนใต้วงแขนให้เรียบเนียน เป็นวิธีการที่ได้ผลโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ ส่วนผสมของสูตรนี้ใช้เพียงแค่ น้ำตาลทราย 2 ถ้วย น้ำมะนาว ¼ ถ้วย และน้ำเปล่า ¼ ถ้วย ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 ตั้งเตาสำหรับผสมส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากัน โดยหลังจากเทส่วนผสมทั้งหมดแล้วให้เริ่มที่ความร้อนต่ำๆก่อน แล้วกวนไปเรื่อยๆจนอุณหภูมิสูงขึ้น (หากวัดได้ให้อยู่ที่ระดับ 250 องศาฟาเรนไฮต์) จากนั้นลดความร้อนลงแล้วคนไปอีกประมาณ 35-40 นาที จะเห็นว่าส่วนผสมเริ่มออกเป็นสีเหลืองทองอำพัน  เพียงแค่นี้ก็ปล่อยให้เย็นลงสักหน่อยแล้วเทเก็บไว้ในภาชนะแก้วที่มีฝาปิด
ขั้นตอนที่ 2 การใช้งานให้นำมาอุ่นไมโครเวฟสัก 15-20 นาทีแล้วรอให้เย็นลง จากนั้นให้ใช้ไม้พายเล็กๆปาดสูตรแว็กซ์แบบโฮมเมดนี้ขึ้นมาทาไปในทิศทางเดียวกับขนที่ขึ้น นำแผ่นผ้าหรือเศษผ้าปิดทับลงบริเวณที่ทาแว็กซ์ให้แน่น ทิ้งไว้สักครู่หนึ่งจึงดึงผ้าออกในแนวย้อนขนเป็นอันเสร็จพิธี

         มีเคล็ดลับคือหลังจาการแว็กซ์ 1-2 วัน อย่าพึ่งถูสบู่ ใช้โรออน ทาแป้ง หรือทาครีม เพราะอาจเกิดการระคายได้ หลังจากนั้นควรหาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือโลออนที่เน้นการบำรุงผิวใต้วงแขนมาทารักแร้อย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้ปัญหาผิวหนังไก่ที่เคยกวนใจมานานก็จะหมดไป ได้ผิวใต้วงแขนแสนเรียบเนียนคืนกลับมา
โดยสรุปแล้วเทคนิคในการแก้ปัญหารักแร้เป็นหนังไก่นั้นไม่ยากเลย เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการกำจัดขนใต้วงแขนเสียใหม่ จากที่เคยถอนเคยโกนก็หยุดเสีย แล้วใช้วิธีแว็กซ์ขนด้วยสูตรธรรมชาติแทน หรือถ้าอดไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ถอนอย่างระมัดระวังและเบามือ เพราะการถอนขนอย่างรุนแรง อาจทำให้รักแร้เกิดการอักเสบ และกลายเป็นปัญหาผิวหนังไก่ได้ในที่สุด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำความรู้จักวิธีเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวร

            คุณผู้หญิงมักมีปัญหาเรื่องขนที่ไม่พึงประสงค์จะให้ขึ้นตามบริเวณต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะขนรักแร้ จึงมักหาวิธีการต่างๆเพื่อกำจัดขนให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็นการโกน ถอน หรือแว๊ก หากแต่วิธีดังกล่าวเป็นเพียงการกำจัดขนแบบชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานนักขนก็ขึ้นมาอีก แถมเป็นตอแข็ง สร้างความรำคาญให้สาวๆไม่น้อย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับวิธีกำจัดขนแบบถาวรด้วยการทำเลเซอร์กำจัดขนที่อาศัยพลังงานความร้อนจากแสงไปทำลายรากขน ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลทันใจ และจัดการขนได้แบบเกลี้ยงเกลา
  เมื่อพูดถึงเรื่องการกำจัดขนถาวร ก็จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องของวงจรชีวิตของขนกันก่อน โดยขนของคนเราจะมี 3 ระยะ ได้แก่ Anagen Catagen และ Telogen ซึ่งขนแต่ละระยะ และแต่ละส่วนของผิวจะมีอายุไม่เท่ากัน เช่น บนศีรษะก็จะมีอายุประมาณ 3-4 ปี ใต้วงแขนประมาณ 1-3 เดือน นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับเชื้อชาติอีกด้วย

            ระยะ Anagen เป็นช่วงเจริญวัยของขน เป็นระยะเจริญเติบโต มีต่อมขนอยู่ลึกในชั้น dermis โดยมีเส้นเลือดมาเลี้ยง ลักษณะเป็นกระเปาะ มีเม็ดสีอยู่ด้วย และมีรากที่พร้อมจะสร้างขนใหม่ พอครบอายุของมันแล้ว ขนนั้นๆก็จะไม่โต แล้วเริ่มเข้าสู่ระยะที่สองและสามต่อไป โดยเป็นต่อมขนที่เลื่อนสูงขึ้น สีเริ่มจางลง แยกตัวจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยงมากขึ้นและหลุดไปในที่สุด จากนั้นจะวนมาระยะ Anagen ใหม่มาแทนที่ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ทีนี้สำหรับการเลเซอร์กำจัดขนจะทำงานกับขนในระยะ Anagen นั่นเอง

การทำงานของเลเซอร์กำจัดขน
  หลักการของการทำเลเซอร์กำจัดขน คือใช้แสงเลเซอร์ส่งผ่านเส้นขนไปทำลายรากขน โดยเส้นขนที่โตเต็มที่จะมีเม็ดสีที่รากขน และเป็นสื่อคอยดูดซับพลังงานเลเซอร์ เมื่อเส้นขนดูดซับพลังงานเลเซอร์ก็จะฝ่อตัว และถูกทำลายลง ในครั้งหนึ่งๆมีเส้นขนระยะที่โตเต็มที่ และพร้อมจะถูกกำจัดประมาณ 20% ซึ่งขนชุดนี้จะค่อยๆถูกกำจัดไป ครั้งถัดไปขนระยะอื่นก็จะพัฒนาเป็นระยะที่โตเต็ม และค่อยๆถูกกำจัดไป โดยปกติจะต้องเลเซอร์ขนประมาณ 5-8 ครั้ง จึงจะสามารถกำจัดขนออกไปหมด ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่มีสีผิว และกรรมพันธุ์แตกต่างกัน รวมทั้งการรับประทานยาบางชนิดด้วย

คลื่นแสงที่ใช้ในการทำเลเซอร์กำจัดขน
            1.คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 590-1,200 nm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ IPL เป็นการใช้แสงความเข้มสูง เครื่องมือนี้เป็นการใช้ไฟแฟลชที่มีตัวกรองแสงเพื่อสร้างแสงมีความยาวคลื่นกับจังหวะการตกกระทบ โดยแสงจะเข้าไปทำลายขน และเพราะ IPL เป็นแสงความเข้มข้นสูงแต่ความยาวของคลื่นสั้นจึงทำให้พลังงานไม่สูงพอจะทำลายรากขนได้ทั้งหมด อาจจะได้ผลบ้างในไรขนอ่อนๆบางๆ แต่ถ้าขนดกหนา ผลก็แค่ทำให้บางลงและขึ้นช้าแต่จะไม่หายไปทั้งหมด IPL เป็นเครื่องมือที่กำจัดขนได้รวดเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะผิวหนังอาจดูดซับพลังงานที่มากเกินไปทำให้ผิวไหม้ได้
            2.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 800 nm หรือที่เรียกว่า Diode Laser เครื่องมือชนิดนี้ให้พลังงานสูงให้ผลได้ดีกว่า IPL เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่เหมาะสม จึงสามารถทำลายลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับกำจัดขนบริเวณพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น ขนหน้าอก หน้าท้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้กับผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

            3.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm หรือที่เรียกว่า Long Pulse ND-YAG Laser สามารถใช้กำจัดขนได้กับผิวหนังทุกประเภทความเข้ม และด้วยความยาวของคลื่นสูงจึงสามารถทะลุไปยังใต้ผิวหนังชั้นลึกสามารถกำจัดขนได้ลงลึก การดูดซับพลังงานที่ผิวหนังน้อย จึงเกิดประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดี รวมทั้งมีระบบประคบให้ความเย็นของเครื่องมือยังปกป้องผิวหนัง เหมาะกับทุกสีผิวไม่ว่าสีผิวจะเข้มระดับใดก็ตาม ทั้งผิวขาว ผิวสองสี และผิวคล้ำ
ก่อนทำเลเซอร์กำจัดขนควรหลีกเลี่ยงการถอนหรือแว๊ก ในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์กำจัดขน ประมาณ 3-4 สัปดาห์ โดยให้ใช้วิธีโกนแทน เพื่อให้รากขนยังอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยก่อนการทำเลเซอร์กำจัดขน เจ้าหน้าที่จะโกนขนออกอีกครั้ง ในบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขน และในขณะที่ทำเลเซอร์กำจัดขน จะรู้สึกคล้ายหนังสติ๊กเล็กดีดเบาๆ และรู้สึกอุ่นๆ
สำหรับจำนวนครั้งของการยิงเลเซอร์กำจัดขน กว่าที่ขนจะถูกทำลายไปจนหมดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 5-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพเส้นขน อย่างไรก็ดี การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ก็ยังมีข้อควรระวังหรืออาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวมเป็นรอยแดง แต่จะค่อยๆหายไปเอง ฉะนั้น หากคิดจะทำเลเซอร์กำจัดขนควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีกำจัดขนรักแร้ แบบง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน

ลองมาทำความรู้จัก ขนรักแร้ กันก่อนว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร มีหน้าที่อะไร ?

ขนรักแร้ เกิดจากฮอร์โมน แอนโดรเจน (androgen) ที่ผลิตออกมาจากต่อมหมวดไต ถึงแม้จะเป็นฮอร์โมนของเพศชาย แต่ผู้หญิงก็จะมีเจ้าฮอร์โมนนี้ด้วย ซึ่งจำนวนเส้นขนขึ้นมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ชาติพันธุ์ของตัวเอง เจ้าเส้นขนบริเวณรักแร้จะทำหน้าที่ในการช่วย ดูดซับเหงื่อ, ระบายความร้อน,  ป้องกันความหนาวเย็น, ลดแรงกระแทก, ลดการเสียดสี และ ช่วยเพิ่มการกระจายกลิ่นของฟีโรโมน เพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของฝ่ายตรงข้าม

แต่บางครั้งการมีเส้นขนมากไปรวมไปถึงขาดการดูแลด้วยวิธีที่เหมาะสม จะทำให้กลายเป็นคนที่มีกลิ่นตัวเหม็นอย่างรุนแรงบริเวณรักแร้มากกว่าส่วนอื่นของร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เหงื่อถูกขับออกมาตามรูขุมขนไปสะสมอยู่ในบริเวณนั้น จนก่อให้เกิดแบคทีเรียขึ้น เจ้าแบคทีเรียเหล่านั้นจะทำการกัดกินเซลล์ที่ตายแล้วเป็นอาหาร หลังจากนั้นจะปล่อยกรดพิเศษชนิดหนึ่งออกมาทำให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบทความชิ้นนี้ได้รวบรวมวิธีกำจัดขนรักแร้ เพื่อช่วยลดและกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ พร้อมกับเพิ่มความสวยงามใต้วงแขนให้กับคุณสาวๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้านอย่างง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1.ใช้แหนบ  

แหนบ เป็น วิธีกำจัดขนรักแร้แบบเบสิคที่สุด ราคาประหยัด สามารถหาซื้อได้ตามร้านทุกอย่าง 20 บาท ตามตลาดนัด หรือ ชุปเปอรมาร์เก็ต ทั่วไป จะมีราคาแพงกว่า 2-3 เท่า วิธีกำจัดขนรักแร้โดยใช้แหนบดึงเส้นขนออก แต่ให้เหลือโคนและรากเส้นขนเอาไว้ เพื่อให้ขนงอกขนขึ้นใหม่ในภายหลัง สำหรับวิธีการคือ เหยียดแขนออกจนรู้สึกว่ารักแร้ตึงใช้แหนบหนีบเส้นขน 1 เส้น แล้วดึงออกอย่างรวดเร็ว

สำหรับคนที่ทำการกำจัดขนด้วยวิธีนี้เพียงลำพัง ควรระวังขณะทำการหนีบเส้นขน เพราะถ้าหนีบพลาดถูกผิวหนังอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้ นอกจากนี้หากการมองผ่านกระจก และมองรักแร้ตัวเอง ในขณะทำการถอนนานๆ ยังเป็นอันตรายต่อสายตาอีกด้วย

2.ใช้แว็กซ์

เป็นวิธีกำจัดขนรักแร้ที่มีต้นกำเนิดจากยุโรป มีลักษณะเป็นเจลเหนียวๆ ผลิตภัณฑ์ แว็กช์ขนส่วนใหญ่มีส่วนผสม “ น้ำผึ้ง “ มีประโยชน์ ไม่ทำให้ผิวแห้ง ผิวยังยืดหยุ่น ชุ่มชื่น จึงได้รับความนิยมนำมาใช้ในการกำจัดขนกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแว็กซ์ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

สูตรแว็กซ์ร้อน สามารถทำเองที่บ้าน ถ้าซื้อก็มีราคาไม่แพง เริ่มต้น 70 – 150 บาท ด้วยความอุ่นของแว็กซ์ร้อน จะทำให้รูขุมขนเปิด เวลากระชากผ้าหลังแว็กซ์เสร็จจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยเจ็บสักเท่าใดนัก

สูตรแว็กซ์เย็น ยี่ห้อดีๆ ราคากระปุกละ ประมาณ 250 – 400 บาท สามารถหาซื้อได้ร้านบริการแว็กซ์ขนทั่วไป เมื่อทำการซื้อแล้วยังสามารถขอใช้บริการแว็กซ์ขนได้ทันที และหากเนื้อครีมยังเหลือพอสำหรับรอบต่อไป ทางร้านส่วนใหญ่จะเก็บกระปุกไว้เผื่อคุณกลับมาใช้บริการภายหลัง

สำหรับวิธีการใช้ การแว็กซ์ขนทั้งสองอย่างนี้มีวิธีคล้ายกัน เพียงปาดเจลลงบนบริเวณที่ต้องการกำจัดเส้นขน จากนั้นแปะทับด้วยผ้าขาว หรือชุดนักเรียนเก่าที่นำมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าลูบผ้าให้เรียบทิ้งเอาไว้สักครู่ แล้วทำการกระชากตามแนวย้อนเส้นขนอย่างรวดเร็ว เส้นขนจะหลุดออกมาพร้อมๆกันหลายเส้น  และหลังจากแว็กซ์ขนควรใช้ครีมกระชับรูขุมขนทาลงไปบริเวณดังกล่าว

3.ใช้มีดโกน

เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคุณสาวๆที่ไม่ค่อยมีเวลานัก มีดโกนขน เป็นสินค้าที่ต้องใช้เป็นประจำไม่ว่าทั้งชายหรือหญิง ผลิตภัณฑ์มีดโกนหลากหลายยี่ห้อ มีขายตามตามชุปเปอร์มาร์เก็ททั่วไป ราคา 65 – 200 บาท ราคาแล้วแต่เกรดใบมีดที่โกน ถ้าใช้ของดีคุณก็สามารถโกนเส้นขนได้ดี และยังช่วยลดการเสียดสีของผิวกับมีดโกน

วิธีการใช้ ควรทาครีม หรือ ใช้สบู่ถูจนเกิดฟอง เพื่อผิวมีความลื่นทั้งนี้ทำให้ใบมีดโกนจะได้ทำการโกนขนออกได้อย่างสะดวกโดยที่ไม่บาดผิว และ ให้โกนตามแนวย้อนของเส้นขน

หลังจากโกน มีข้อเสียพอสมควร ขนรักแร้จะยาวขึ้นภายใน 3 วัน แถมมีลักษณะเป็นตอคมๆ ทำให้เส้นขนทิ่มแขนที่คุณหนีบรักแร้ ทำให้คุณรู้สึกคัน และบริเวณที่เส้นขนขึ้นใหม่เฉพาะบางคนเท่านั้นที่เกิดขนคุด เพราะฉะนั้นทำให้คุณต้องโกนประจำ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

4.ใช้ครีมกำจัดขน

เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา ก่อนคุณใช้งานควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนกล่องผลิตภัณฑ์ เนื้อครีมไม่สามารถทำลายรากขนให้หลุดออกได้   แต่เนื้อครีมจะซึมซาบเข้าไปขจัดขนใต้ผิวหนังโดยตรง ทำให้ปลายเส้นขนมีลักษณะเป็นโค้งมน ทำให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่อ่อนนุ่มกว่าเก่า อย่างไรก็ตามการทาครีมกำจัดขนแบบบางๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขนลดลง การกำจัดขนด้วยวิธีดังกล่าว ควรทำการเว้นระยะอย่างน้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ ต่อการกำจัดขนหนึ่งครั้ง

สำหรับวิธีการใช้ จากนั้นให้บีบเนื้อครีมลงบนบริเวณที่จะกำจัดเส้นขนทิ้งไว้เพียง 3 นาที ใช้ไม้พายที่แถมมากับกล่องปาดออก ตามแนวย้อนเส้นขน แต่ถ้าหากคุณทิ้งไว้เกิน 3 นาที หรือ ทำซ้ำอีกครั้ง มักจะทำให้เกิดความผิวจะระคายเคืองต่อผิวบริเวณใต้วงแขนได้

5.ใช้เครื่องถอนขน

เป็นวิธีกำจัดขนรักแร้สมัยใหม่ แต่ละยี่ห้อมีราคาแตกต่างกันไปตามคุณภาพ ขนาดการจับ ความเร็วการถอนเส้นขน และลูกเล่นต่างๆ เช่น ไฟส่องบริเวณที่จะกำจัด เป็นต้น และ รุ่นใหม่มีการพัฒนาให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะที่มีการถอนเส้นขน

รุ่นราคาแพง สามารถกำจัดขนได้เยอะ ตัวเครื่องจะมีตัวหนีบจำนวนมาก สามารถถอนเส้นขน รวดเร็วกว่า ใช้เวลาน้อย ราคาประมาณ 3,500 – 4,500 บาท ขึ้นไป

รุ่นราคาถูก สามารถกำจัดขนได้น้อย เพราะตัวหนีบในเครื่องมีจำนวนน้อย แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรกำจัดเส้นขนได้หมด ราคาประมาณ 500 – 1,500 บาท ขึ้นไป

วิธีการใช้ ก่อนใช้งานเครื่องถอนขน คุณต้องหาผ้าชุบน้ำอุ่นมาปาดบริเวณที่จะกำจัด เพื่อเปิดรูขุมขนเส้นขนอ่อนนุ่มง่ายต่อการถอน และควรเล็มเส้นขนที่จะถอนให้สั้นด้วยกรรไกร ให้พอเหลือเส้นขนทิ้งไว้ยาวเพียง 1 นิ้ว แล้วใช้เครื่องถอนเส้นขนไล่ถอนย้อนแนวเส้นขน

ตารางเปรียบเทียบระยะเวลาขึ้น และ ระดับความเจ็บในการถอนเส้นขน

วิธีกำจัดขน         ระยะเวลาขึ้นใหม่    ระดับความเจ็บในการถอน
ใช้แหนบ            1-2 อาทิตย์           มากที่สุด
ใช้แว็กซ์             3-4 อาทิตย์          มาก
ใช้มีดโกน           2-3 วัน                น้อยมาก
ใช้ครีมกำจัดขน    2-3 วัน                น้อย
ใช้เครื่องถอนขน   1-2 อาทิตย์          น้อย

วิธีที่นำเสนอข้างต้น เป็นวิธีการกำจัดขนชั่วคราว ส่วนกำจัดขนถาวร หากคุณมีกำลังทรัพย์ ขอแนะนำให้ไปพบผู้เชี่ยวชาญโดยตรง  ทำการ “เลเซอร์” กำจัดเส้นขนตามคลินิกความงามที่มีเครื่องมือที่พร้อม และมีประสบการณ์ในการกำจัดขนโดยตรง ซึ่งแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเส้นขนโดยตรง ถึงแม้ว่าเส้นขนอาจไม่ได้หายไปหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตามวิธีกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีนี้ จะช่วยทำให้เส้นขนขึ้นน้อยลง เพื่อทำให้คุณดูแลได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

       อย่างไรก็ตามคอร์สกำจัดเส้นขนด้วยวิธีเลเซอร์ โดยปกติแล้วจะต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5-8 ครั้งขึ้นไป แต่ละครั้งใช้เวลานาน 2-3 นาทีสำหรับขนรักแร้ ควรทำทุกๆ 4-6 สัปดาห์ ครั้งประมาณ 9,000 – 10,000 บาทขึ้นไป ราคานี้ขึ้นกับการจัดโปรโมทชั่นของคลินิกเสริมความอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.