คอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุด และควรกินตอนไหนดี

            ในหมู่คุณสาวๆที่นิยมความสวยความงาม และอยากให้ผิวยังคงมีความกระชับแข็งแรงเต็งตึงแลดูอ่อนเยาว์อย่างยาวนานั้น “คอลลาเจนผง” ได้กลายมาเป็นหนึ่งในทางเลือกสู่การถนอมความงามที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าคอลลาเจนนั้น เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ช่วยทำให้ผิวหนังมีความกระชับเต่งตึง ทำให้ผู้ผลิตสินค้าเสริมความงามในปัจจุบันต่างหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทคอลลาเจนผงเข็นออกมาวางขายให้คุณสาวๆได้เลือกซื้อกันอย่างมากมายจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว สำหรับในวันนี้เพื่อคุณสาวๆที่กำลังมองหาว่าผลิตภัณฑ์คอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุดนั้น อยากจะให้ลองอ่านบทความชิ้นนี้ เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในเลือกซื้อเสียก่อน เพื่อจะได้สามารถเลือกซื้อคอลลาเจนผงที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด

คอลลาเจนผงในปัจจุบันมีอะไรบ้าง?
ก่อนที่จะทราบได้ว่าคอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุด คุณสาวๆควรมาทำความรู้จักกับคอลลาเจนผงก่อนว่ามาจากแหล่งวัตถุดิบใดกันบ้าง เนื่องจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการรับประทานคอลลาเจนผงก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งในปัจจุบันคอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุดนั้น ในท้องตลาดที่ได้รับความนิยมก็จะมีดังต่อไปนี้
1.คอลลาเจนสกัดจากสัตว์น้ำ เป็นคอลลาเจนเผงกรดที่ดีที่สุด อาทิเช่น โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากปลาทะเลในแถบประเทศญี่ปุ่น หรือเกาหลี ซึ่งจะมีปริมาณของคอลลาเจนที่สูงมาก และร่างกายสามารถทำการดูดซึมได้ง่าย แต่คอลลาเจนประเภทนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสาวๆที่แพ้อาหารทะเล
2.คอลลาเจนสกัดจากสัตว์บก เช่น หนังวัว หนังหมู เป็นต้น ซึ่งจะเป็นคอลลาเจนในเกรดรองลงมาจากสัตว์น้ำ เนื่องจากมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่าคอลลาเจนจากสัตว์น้ำ ทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมได้น้อยกว่า
3.คอลลาเจนจากผักผลไม้ต่างๆ มักไม่ค่อยถูกนำมาสกัดเป็นคอลลาเจนผงสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่มักนิยมรับประทานร่วมกับมื้ออาหารเลย อาทิเช่น ผักกาด พริก ผลไม้ตระกูลเบอรี่ อะโวคาโด้ สาหร่ายทะเล เห็ดต่างๆ มะกอก ส้มโอ แก้วมังกร แตงกวา ขึ้นฉ่าย แอปเปิ้ล เป็นต้น แต่ปริมาณคอลลาเจนที่จะได้รับหลังจากกระบวนการย่อยสลายของร่างกายแล้วนั้นจะค่อนข้างน้อย

จากข้อมูลในข้างต้นจะทำให้เห็นว่าการแนะนำคอลลาเจนผงยี่ห้อไหนดีที่สุดนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากคอลลาเจนแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นคอลลาเจนที่ราคาแพงมากมายสักเพียงใดก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะช่วยทำให้ผิวหนังเกิดความเต่งตึงกระชับขึ้นในทันที เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังจะเกิดขึ้นทั่วร่างกาย จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอย่าน้อยประมาณ 3 เดือน คุณสาวๆจึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ โดยส่วนใหญ่แล้วใบหน้า และฝ่ามือจะสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็วมากกว่าส่วนอื่นๆ

การทานคอลลาเจนให้ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการรับประทานคอลลาเจนผงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อร่างกายอย่างสูงสุดนั้น สามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยมีข้อควรปฏิบัติตามดังต่อไปนี้
1.ควรทานคอลลาเจนผงร่วมกับเครื่องดื่มอย่างน้อยวันละ 3-6 กรัม หรือประมาณ 3,000 – 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้คอลลาเจนเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เนื่องจากคอลลาเจนผงนั้นมีลักษณะเป็นโปรตีน เมื่อทานเข้าไปมักถูกกรดในกระเพาะทำการย่อยเป็นกรดอะมิโน 17 ชนิด ซึ่งร่างกายอาจจะนำพลังงานที่ได้จากการย่อยสลายไปใช้หล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายในระยะแรก อย่างไรก็ตาม อย. อนุญาตให้ทำการรับประทานคอลลาเจนได้ไม่เกินวันละ 10 กรัม หรือ 10,000 มิลลิกรัม ต่อวัน
2.ควรทานคอลลาเจนร่วมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และยังเป็นการช่วนกระตุ้นร่างกายให้นำกรดอะมิโนที่ถูกย่อยสลายมาจากคอลลาเจนผงไปใช้ในการสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชิ้นผิวหนังอีกด้วย
3.ควรทานคอลลาเจนในช่วงก่อนเข้านอนและหลังการตื่นนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะยังว่างอยู่ ทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น
4.ได้รับการรับรองจาก อย. โดยเฉพาะกับอาหารเสริมประเภทที่ต้องรับประทานเข้าไปในร่างกายอย่างคอลลาเจนผง ซึ่งจะมีความเสี่ยงมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทที่ใช้ภายนอกร่างกาย ถ้าหากผลิตภัณฑ์คอลลาเจนผงที่คุณสาวๆกำลังให้ความสนใจ ถึงแม้จะมีการโฆษณษอวดอ้างสรรพคุณที่ดีเยี่ยมสักเพียงใด แต่ถ้าหากยังไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วล่ะก็ ไม่ควรทำการเสี่ยงรับประทานโดยเด็ดขาด 

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

โปรดอ่านก่อน! เพราะคอลลาเจนผงไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด

         ขึ้นหัวข้อมาแบบนี้หลายคนคงตกใจ แต่ที่บอกว่าคอลลาเจนผงนั้นไม่ได้ดีอย่างที่คิดก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่ประการใด เนื่องจากคอลลาเจนผงที่วางขายกันมากมายหลายยี่ห้อขณะนี้ บางยี่ห้อก็เป็นผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพมาตรฐาน หรือถึงขั้นเป็นคอลลาเจนปลอมก็มี
   ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนไม่ได้เหมารวมคอลลาเจนผงว่าไม่ดีเสียทั้งหมด เนื่องจากยี่ห้อที่เขาทำออกมาดีมีคุณภาพก็มีอยู่จริง และมักมาพร้อมกับสรรพคุณช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น ขาวสว่างกระจ่างใส มีออร่ามากขึ้นอย่างที่ทุกคนปราถนา ดังนั้น ที่จะบอกก็คือคอลลาเจนผงมีทั้งดีและไม่ดี ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ ไม่ใช่ว่าเห็นโฆษณาสรรพคุณแสนวิเศษแล้วหลงเชื่อง่ายๆ ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน เพราะไม่แน่ว่าหลังจากซื้อมันมาชงรับประทานแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
  และในวันนี้เรานำวิธีเลือกคอลลาเจนผงมาฝากท่านผู้อ่าน จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ประกอบการหัวใส ผลิตคอลลาเจนปลอมออกมาหลอกขายผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่สำคัญคือจะได้ไม่เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน และเสียสุขภาพไปฟรีๆ

 

คอลลาเจนผงที่ดีต้องเป็นอย่างไร
         1.มีการรับรองจาก อย. เป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ เพราะการที่เราใช้อาหารเสริมที่เข้าไปในร่างกาย ก็ควรที่จะมีการรับรองความปลอดภัยในระดับหนึ่งเสียก่อนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งนี้ หากเป็นของที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่ทราบแหล่งผลิต มีส่วนประกอบเป็นปริศนาที่ไม่สามารถหาข้อมูลได้ ก็ไม่ควรเสี่ยงรับประทาน เพราะอาจเจอผลร้ายมากกว่าประโยชน์ต่อร่างกาย
        2.มีปริมาณคอลลาเจนไม่เกิน 10,000 มิลลิกรัม นอกจากจะต้องมีการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ควรดูด้วยว่ามีปริมาณคอลลาเจนเท่าไหร่ เนื่องจาก อย.ได้กำหนดไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวของผู้บริโภคได้ โดยปริมาณที่แนะนำให้รับประทานคือไม่เกินวันละ 5,000 มิลิกรัมต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้วต่อความต้องการของร่างกาย ถ้าคอลลาเจนผงที่ใช้แนะนำให้บริโภคมากกว่านี้ก็ไม่ควรเกิดวันละ 10,000 มิลลกรัม เพราะการรับประทานคอลลาเจนมากๆไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยทำให้ผิวสวยเต่งตึงได้เร็วขึ้นแต่อย่างใด การได้รับในปริมาณน้อยๆอย่างสม่ำเสมอต่างหากที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุด
         3.ดูดซึมได้ง่าย อย่างที่ทราบกันว่าผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสามารถสกัดได้จากหลายแห่งที่มา โดยมักถูกทำขึ้นมาจากปลา หมู ไก่ เป็นต้น แต่ชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายที่สุดคือ คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเล ที่สำคัญควรเลือกคอลลาเจนแบบที่มีโมเลกุลต่ำ เพราะร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

         4.ส่วนประกอบอื่นๆในผลิตภัณฑ์ คอลลาเจนผงที่ดีควรมีส่วนประกอบอื่นๆที่ใส่เพิ่มมาให้ด้วย ซึ่งควรจะเป็นสารอาหารหรือวิตามินประเภทอื่นๆมาช่วยเสริม เพื่อช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น อย่างเช่น วิตามินซี กลูโคซาไมด์ ไฮยารูลอน วิตามินอี เป็นต้น
 อีกประการที่สำคัญคือ ให้ดูว่ายี่ห้อที่เราเลือกมีการรีวิวจากผู้บริโภคมากมายเพียงใด และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปในทิศทางไหนมากกว่า ระหว่างด้านบวกกับด้านลบ หากมีคนออกมารีวิวว่าผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังเลือกใช้ออกมาในทางไม่ดีก็จบเห่ ล้มเลิกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นไปได้เลย ฉะนั้น ขอให้ชั่งใจดีๆก่อนใช้ เพราะผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นอย่างที่หวังก็เป็นได้
   ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อคอลลาเจนผง หากพิจารณาตามวิธีการเบื้องต้นอย่างถี่ถ้วน รับรองว่าจะสามารถใช้คอลลาเจนได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลเรื่องผลข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่ทำให้ผิดหวังกับงบประมาณที่ต้องเสียไปอย่างแน่นอน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.