ท้องแตกลาย ทำไง บทความนี้มีคำตอบ

         รอยแตกลายเปรียบได้ดังปัญหาโลกแตกที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักแก้ไม่ตก ไม่ว่าจะลองวิธีไหน ดูเหมือนว่ารอยแตกลายที่ปรากฎไม่ยอมจางลงเสียที ซึ่งปัญหานี้ที่พบได้บ่อยบริเวณต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก รวมถึงบริเวณหน้าท้อง หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ท้องแตกลาย” เนื่องจากบริเวณนี้มีไขมันสะสมได้ง่าย จึงทำให้ผิวหนังมีการขยายออกจึงทำให้เกิดเป็นท้องแตกลาย
         นอกจากนี้ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็พบปัญหาท้องแตกลายได้บ่อยเช่นกัน เนื่องจากมีการยืดขยายของผิวหนังอย่างรวดเร็ว จึงปรากฎเป็นรอยแตกลายสีแดง บางรายเป็นสีขาว (ซึ่งรักษาได้ยากกว่า) ทั้งนี้ รอยแตกจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากคลอดบุตร ซึ่งจากสถิติพบว่ามีมากถึงร้อยละ 90 ของคุณแม่หลังคลอดที่ประสบปัญหาท้องแตกลาย

 

การรักษาท้องแตกลาย
         ในช่วงแรกของการเกิดรอยแตกลายจะเป็นรอยสีชมพู แดง และสีม่วง ตามลำดับ ช่วงนี้เรียกว่า รอยแตกลายใหม่ หากอยากหายต้องได้รับการรักษาตั้งแต่ช่วงนี้ เพราะหายได้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้จนรอยแตกนั้นจะค่อยๆกลายเป็นสีขาวซีด เห็นเป็นร่องเป็นรอยแตกระแหง เรียกว่า รอยแตกลายเก่า (Scar like) แบบนี้จะรักษาได้ยากกว่า ดังนั้น ควรสังเกตท้องแตกลายตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะยิ่งรักษาเร็ว โอกาสหายก็จะมีมาก โดยสามารถรักษาได้ด้วยวิธีดังนี้
         1.ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จะช่วยให้ผิวชุ่มน้ำ มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิตามินซี และเรตินอยด์ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในช่วงต้น ทำให้รอยแตกลายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรตินอยด์จะไม่มีประสิทธิภาพถ้ารอยแตกลายเป็นสีขาว

         2.ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ผิวหนังยืดหยุ่น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นและกระชับชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหนังที่กำลังเป็นหรือเสี่ยงต่อรอยแตกลาย แลดูจางลงได้ ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วจนเกินไป
         3.รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อันได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งเจ้าวิตามินซี สามารถพบได้มากในอาหาร เช่น ผัก และผลไม้ ขณะที่วิตามินอีพบได้มากในอาหารจำพวก นม ไข่ ถั่ว เนื้อสัตว์ ปลา ผัก วิตามินทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นบำรุงผิว เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี ลดการอักเสบ แก้ปัญหาผิวอย่างท้องแตกลายได้ชะงัด
         4.ดื่มน้ำเปล่ามากๆ วิธีนี้จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ และช่วยแก้ปัญหาท้องแตกลายได้ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมสภาพผิวที่เคยแย่ให้กลับมามีสุขภาพดีได้ กระนั้นก็ตาม นอกจากน้ำเปล่าแล้ว ยังควรดื่มชาเขียว ชาสมุนไพร น้ำผักและน้ำผลไม้ด้วย เพื่อเป็นการช่วยคืนความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงผิวได้อีกทางหนึ่ง

         5.ใช้ครีมทาแก้ท้องแตกลาย โดยจะเป็นครีมที่ใช้ลดรอยแตกลายโดยเฉพาะ ทำการนวดบริเวณหน้าท้องวันละหลายๆครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังบริเวณหน้าท้องและบริเวณใกล้เคียง ที่นิยมใช้กันมักมีส่วนผสมของโคโคบัตเตอร์ แต่ก็ยังไม่มีผลการวิจัยมารองรับถึงคุณสมบัติข้อนี้ แต่มีผลการวิจัยว่าครีมที่มีส่วนผสมของสารสะกัดจากโกโตโคลา หรือที่รู้จักกันว่า ไลกองเจนหรือวาลาเรีย วิตามินอี และคอลาเจนไฮโดรไลเสทมีส่วนช่วยลดลอยแตกลายได้
         6.อย่าอาบน้ำอุ่น คนที่ต้องการรักษาท้องแตกลาย ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดๆ ให้เลือกอาบน้ำธรรมดาแทน เนื่องจากน้ำที่ค่อนข้างร้อนจะทำให้ผิวแห้งแตกเป็นขุยได้ง่าย เพราะทำให้ผิวพรรณขาดความชุมชื้น ใครที่ผิวแห้งอยู่แล้วจะยิ่งทำให้หน้าท้องแตกลายมากขึ้น
         กระนั้นก็ดี ควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวหนังอยู่ตลอดเวลา การรักษาที่ถูกต้องคือต้องได้ผลดีขึ้น แม้จะน้อยนิดก็ตาม ที่สำคัญคือควรรักษาตั้งแต่เนิ่นๆที่ยังเป็นสีชมพู หรือรอยแตกลายใหม่ เพราะหายได้ง่ายและเร็ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นรอยสีขาว เนื่องจากบางคนต้องใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะรักษาหาย ซึ่งบางรายอาจต้องอยู่กับรอยแตกดังกล่าวไปตลอดชีวิต

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.