ปวดเส้นเอ็นหลัง สาเหตุและการรักษาอาการปวดหลัง

         จะว่าไปแล้วอาการปวดเมื่อยตามร่างกายถือเป็นปัญหาสุขภาพ ที่จุกจิกใจเราอย่างมาก จะหยิบจับอะไรก็ไม่ถนัด แถมเวลาต้องออกแรงมากๆ เช่น ยกของหนัก ออกกำลังกาย อาการปวดจะกำเริบหนักขึ้น สร้างความรำคาญให้เราไม่น้อย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในอาการปวดเมื่อยตามตัวที่มักเจอกัน คงหนีไม่พ้นการปวดเส้นเอ็นหลัง ซึ่งมีสาเหตุและการรักษาอาการที่แตกต่างไปจากการปวดกล้ามเนื้ออย่างสิ้นเชิง


สาเหตุที่ทำให้ปวดเส้นเอ็นหลัง

         หากเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อที่มักเป็นกันก็จะเกิดจากการทำงานก้มๆ เงยๆ นั่ง ยืน นอน หรือยกของหนักด้วยท่าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดแรงกดตรงกล้ามเนื้อสันหลังส่วนล่าง ซึ่งจะมีอาการเกร็งตัว ทำให้เกิดอาการปวดตรงกลางหลังส่วนล่างลามไปถึงส่วนบนก็มี แต่สำหรับอาการปวดเส้นเอ็นหลังจะรุนแรงมากกว่านั้น โดยเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็น ทำให้มีความเจ็บปวด ชา ปวดแสบปวดร้อนตามเส้นเอ็นด้านใน และแน่นอนทำให้รู้สึกปวดหลังอย่างรุนแรง
         ในบางคนอาจเกิดจากการที่เส้นตึง เส้นยึด ด้วยการใช้งานอย่างหนัก โดยเฉพาะการนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้อง ช่วงแรกอาจยังไม่แสดงอาการ แต่จะเริ่มมีอาการล้าบริเวณหลังมากขึ้นเรื่อย เมื่อเวลาผ่านไปก็มีอาการปวดเส้นเอ็นหลังได้ในที่สุด


เมื่อปวดเส้นเอ็นหลัง ควรรักษาอย่างไร

         1.นอนพัก โดยให้นอนหงายหรือนอนในท่าที่สบายบนพื้นหรือบนที่นอนที่แข็งพอ (อย่านอนบนที่นอนนุ่มๆเป็นเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้อาการกำเริบมากขึ้น) โดยงอเข่าเล็กน้อยและใช้หมอนรองใต้เข่าสัก 24 ชั่วโมง หรืออาจนานกว่านั้นหากยังปวดหลังอยู่ ทั้งนี้ ถ้ามีอาการปวดมาก ให้นอนหงายบนพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉาก ก็จะทำให้อาการปวดเส้นเอ็นหลังทุเลา
         2.ประคบด้วยความเย็นหรือร้อน การประคบด้วยถุงน้ำแข็งในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการปวดเส้นเอ็นหลัง แต่หลังจากนั้นอาจประคบด้วยน้ำร้อน เพื่อบรรเทาอาการ ทั้งนี้ สามารถรับประทานยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ทุก 4 ชั่วโมงได้ถ้าจำเป็น
         3.ทำงานด้วยท่าที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยป้องกันการปวดเส้นเอ็นหลังได้อย่างเป็นอย่างดี อย่างเช่น เวลายกของควรใช้การงอเข่า ไม่ใช่ก้มตัวลงไป และต้องนั่งพิงพนักเก้าอี้ที่มั่งคง เมื่อถึงคราวต้องทำงานเวลานานๆ

         4.หมั่นออกกำลังกาย เมื่ออาการปวดเส้นเอ็นหลังดีขึ้น ควรมีการบริหารร่างกายเพื่อออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ โดยปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ หรือนักกายภาพบำบักเกี่ยวกับการบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง ซึ่งจะส่งผลดีต่ออาการปวดเส้นหลัง
         5.ถ้าเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการชาที่หลัง หรือรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น แนะนำให้ไป    โรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง อาจต้องเอกซเรย์หลัง หรือตรวจพิเศษอื่นๆ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.