การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ กับสิ่งที่คุณควรรู้

         การรักษาหลุมสิวเป็นหนึ่งในปัญหาที่กวนใจคุณสาวๆมาอย่างช้านานเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจ อีกทั้งยังใช้ทั้งเงิน และเวลาในการดูแลรักษากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในแผนการรักษาหลุมสิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั่นเอง แต่ก่อนที่คุณสาวๆจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ควรทำการศึกาข้อดี ข้อเสีย ให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้เสียก่อน ซึ่งบทความในวันนี้ก็ได้ทำการรวบรวมเกี่ยวกับวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เอามาฝากผู้ที่กำลังสนใจอยากศึกษาในเรื่องนี้ได้อ่านกัน

สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิว
การพัฒนาตัวเองของเชื้อแบคทีเรียในสิว มักจะทำให้ร่างกายของคนเราเกิดกลไกป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ แอนติบอดี้ในเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมุ่งเข้าไปสู่รูขุมขนที่อุดตันเหล่านั้น พร้อมกับเริ่มทำการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย แต่ในขณะที่กำลังทำการฆ่าเชื้ออยู่นั้น แอนติบอดี้จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น พร้อมกับทลายผิวหนังที่อยู่โดยรอบทำให้เกิดหลุมสิวขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะกับคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอก็จะยิ่งได้รับรอยแผลเป็นจากสิวที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ ดีอย่างไร?
 คลินิกศูนย์รักษาสิวในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ประมาณว่า 50% ของผู้มีปัญหาเรื่องสิว มักจบลงด้วยการที่มีหลุมสิว หรือรอยเผลเป็นเกิดขึ้นบนใบหน้า และเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยกมือยอมแพ้ให้กับพวกมันอีกด้วย แต่การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ เป็นหนึ่งในมาตรฐานทองคำ และเป็นการรักษาที่รวดเร็วที่สุดในการซ่อมแซมรอยแผลเป็น ซึ่งดีกว่าวิธีการรักษาสิวแบบเดิมๆ ที่นิยมใช้การผ่าตัดชั้นบนสุดของผิวที่ได้รับผลกระทบจากหลุมสิว
จากการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้กับสิว รวมไปถึงหลุวที่เจ้าสิวตัวร้ายได้ทิ้งเอาไว้ให้ดูเสมือนกับเป็นของต่างหน้าบนใบหน้าพบว่า เลเซอร์ สามารถนำมาใช้ในการช่วยรักษาสิวทุกประเภท รวมไปถึงหลุมสิวได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้เลเซอร์ความเข้มข้นสูงในการรักษารอยแผลเป็นที่เห็นอย่างเด่นชัด และการใช้เลเซอร์แบบมาตรฐานในการส่งสัญญานเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เกิดการผลิตคอลลาเจนใหม่ ที่ช่วยในการซ่อมแซมหลุมสิว รวมไปถึงรอยแผลเป็นต่างๆ ด้วยวิธีดังกล่าวจะช่วยทำให้ผิวหนังได้รับการเติมเต็มให้กลับมามีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นภายใน 4-5 วัน นับจากวันที่เข้ารับการรักษา โดยผลลัพธ์ในการปรับปรุงผิวที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 30-70% และสภาพของหลุมสิวจะดีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเข้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ประมาณ 4-6 สัปดาห์

         อย่างไรก็ตาม การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ยิ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องลดโอกาสเกิดความเสี่ยงที่ผิวพรรณของคุณให้น้อยลงเป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์
ถึงแม้ว่าการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์จะส่งผลดีต่อหลุมสิวอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่แนวโน้มในการรักษาอาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด คุณสาวๆอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ยารักษาสิวร่วมกับผิวของคุณ นอกจากนี้การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์อาจจะมีราคาแพง และยังจำเป็นที่จะต้องให้ความใส่ใจในการดูแลผิวพรรณให้ดีหลังจากที่ได้รับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งในบางคนที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ อาจจะเกิดผลข้างเคียงในลักษณะของผื่นแดง อาการบวมเกิดขึ้น อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักที่จะหายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน แต่ในบางครั้งผลข้างเคียงเหล่านี้ก็อาจจะรุนแรงขึ้นในบางครั้งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามโอกาสเกิดผลข้างเคียงเนื่องจากวิธีการรักษาสิวด้วยเลเซอร์นี้เกิดขึ้นได้น้อยมากทีดัยว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ปัญหาหลุมสิว แก้ไม่ได้จริงๆหร๊อ…

ปัญหาหลุมสิว ยังคงเป็นปัญหาที่ใครหลายคนกังวลใจและพยายามหาวิธีแก้

เพื่อกำจัดไอ้เจ้าตัวปัญหาให้หมดสิ้นเสียที บางคนเจอปัญหาหลุมสิวที่มีขนาดลึก

ก็ต้องใช้เวลารักษากันนานเลยละ

ปัญหาหลุมสิวจริงๆแล้วมันก็เกิดจากฝีมือของเรานี่แหละ บางคนเห็นสิวเป็นไม่ได้

ต้องคันไม้คันมือไปบีบ ไปแคะ ไปแกะ แต่ในกรณีที่บางครั้งที่เราเป็นสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่

เมื่อสิวยุบหายไปก็สามารถทิ้งร่องรอยปัญหาหลุมสิวไว้เป็นที่ระลึกให้คอยตามกวนใจเราก็เป็นได้

การรักษาปัญหาหลุมสิว ต้องใช้เวลา และค่าใช้จ่ายในการรักษาปัญหาหลุมสิว

ก็มีราคาแพงเลยทีเดียว เพราะกว่าที่จะรักษาให้กลับมาเป็นปกติต้องใช้เวลาและการรักษาดูแล

เป็นอย่างดี ทางที่ดี เมื่อเกิดปัญหาบนใบหน้าขึ้น เช่นเกิดสิวขึ้นบนใบหน้า คุณไม่ควรไป บีบ แกะ สิว

จะช่วยลดปัญหาการเกิดปัญหาหลุมสิวขึ้นได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่บอกการเกิดสิวอักเสบ

ที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาหลุมสิวได้เช่นกัน
เอาเป็นว่าไม่ว่าปัญหาหลุมสิวจะเกิดขึ้นเพราะความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราก็ควรดูแลรักษาผิวหน้า

เราให้ดี โดยการทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้งหลังการแต่งหน้า  ระวังรักษาใบหน้าไม่ให้เกิดเป็นสิว

เพราะเมื่อใบหน้าเราเกิดเป็นสิวขึ้นมาก็ย่อมเท่ากับเรากำลังจะมีปัญหาตามมา นั่นคือ ปัญหาหลุมสิว

ที่เป็นปัญหาใหญ่พอๆกับปัญหาสิวเลย

ดีไม่ดีบางครั้งการเกิดปัญหาหลุมสิวนี่อาจเป็นปัญหาที่ทำให้คุณหนักใจกว่าการเป็นสิวอีก

หลุมสิว รักษาได้ ต้องดูแลกันตั้งแต่เนิ่นๆ

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุดยอด การรักษาหลุมสิว ราคาถูก และได้ผลเร็ว

 

สิว.. เป็นปัญหาที่กว่าจะรักษาหาย ก็ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แถมเมื่อมันจากไปก็ยังคงไม่วายทิ้งปัญหาร่องรอยด่างดำ และหลุมสิวชวนน่ารำคาญเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมสิวบนใบหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษายาก แถมอยู่นานเสียยิ่งกว่าตัวสิวเอง

หลุมสิวคืออะไร?

หลุมสิว คือ การอักเสบของสิวอย่างรุนแรงถึงชั้นหนังแท้ มักที่จะมีหนองเกิดขึ้นด้วยทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย จึงมักที่จะมีแผลเป็นเกิดขึ้นหลังสิวหาย แผลเป็นใต้ผิวหนัง จะทำให้ พังผืด ที่ดึงรั้งผิวหนังจนทำให้กลายเป็นหลุม

ลักษณะรอยแผลเป็นหลังจากการเป็นสิว

ประเภทของหลุมสิว

1. Rolling Scars หลุมสิวจะมีลักษณะคล้ายกับแอ่งกระทะ ขอบรอบๆดูคล้ายกับรอยเหี่ยวย่น มักเกิดขึ้นจากการอักเสบของสิวขนาดใหญ่ ที่ได้รับการรักษามาบ้าง แต่การยุบตัวของสิวไม่สัมพันธ์กับการสมานตัวกับผิว เป็นรอยหลุมสิวที่สามารถรักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวประเภทอื่น

2. Box Scars หลุมสิวจะมีลักษณะคล้ายกับหลุมกล่องวงรี ขนาดประมาณ 3-4 มิลลิเมตร เป็นทรงตรงลึกลงไป มักเกิดขึ้นมาจากการอักเสบของสิวขนาดใหญ่ๆ หรือเกิดขึ้นจากการเป็นอีสุกอีใส เป็นลักษณะหลุมสิวที่ค่อนข้างรักษาได้ยาก

3. Ice Pick Scars หลุมสิวจะมีลักษณะเหมือนถูกที่เจาะน้ำแข็งทิ่มลงไป ขนาดมักจะไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร ดูเหมือนรูจะเล็ก แต่ลึก ซึ่งรักษายากมากที่สุด

สาเหตุของการเกิดหลุมสิว

1. การบีบ แคะ แกะ เกา ทำให้สิวอักเสบมากขึ้น พร้อมกับทิ้งรอยคล้ำ และหลุมสิว

2. สิวอักเสบรุนแรง

3. การติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม

4. กรรมพันธุ์ ถ้าหากคนในครอบครัวมีประวัติการเกิดหลุมสิวหลังจากที่เป็นสิงอย่างรุนแรง ก็มีโอกาสที่เมื่อเราเป็นสิวจะเกิดหลุมสิวทันทีเมื่อหาย

การรักษาหลุมสิว

การรักษาหลุมสิว ที่กำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ เป็นวิธีการรักษาที่รวบรวมมาเป็นความรู้ เพื่อช่วยให้คุณสาวๆ มีแนวทางในการรักษาหลุมสิวได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทุกวิธีสามารถช่วยทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนที่สามารถได้ผล 100 % สำหรับวิธีการรักษาหลุมสิว มีดังต่อไปนี้

1. ทาครีมลบรอยแผลเป็น ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E , AHA , BHA เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

2. การทายา ควรเลือกทายากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามิน A เช่น Retin A เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

3. การทานยา ควรทานยาที่สกัดจากอนุพันธ์วิตามิน A (Retinoids) เช่น Roaccutance, Acnotim , Lsortretinoin เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

4. การลอกผิวหนังด้วยกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AHA , BHA, PHA เป็นการทำให้เซลล์ผิวหนังด้านบนหลุดออกมา และเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ดีขึ้น

5. แต้มกรด TCA เป็นการทำให้เซลล์ผิวหนังด้านบนหลุดออกมา และเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ดีขึ้นใหม่

6. งดแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอลล์ มีฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่กำลังรักษาหลุมสิว จึงควรที่จะงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

การป้องกันการเกิดหลุมสิว

การรักษาหลุมสิวที่ดีนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันการเกิดหลุมสิวใหม่ขึ้น เมื่อเกิดสิวอักเสบขึ้น ต้องรักษาให้หายจากอาการอักเสบให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งสิวอักเสบอยู่บนใบหน้าเรามากท่าไหร่ โอกาสในการที่จะเกิดแผลเป็นบนใบหน้าก็จะมีมากเท่านั้น โดยการทายาฆ่าเชื้อสิว เช่น Benzac, Panoxly การฉีด Steroid หรือทานยาปฏิชีวนะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่ควรรู้ ดังต่อไปนี้

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นละออง ควันรถ หรือควันมากๆ เพราะจะมีแบคทีเรียและคราบสกปรกมาอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น

2. อย่าเอามือไปยุ่งกับใบหน้าเกินความจำเป็น เช่น การล้วง แคะ แกะ เกา ควรสัมผัสกับใบหน้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะมือของเรามักเต็มไปด้วยคราบสกปรก และเชื้อแบคทีเรีย

3. ห้ามใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้เกิดสิวอักเสบได้ง่ายขึ้น

4. กำจัดความมันบนใบหน้า โดยใช้กระดาษซับมัน ควรทำเฉพาะเมื่อใบหน้ามีความมันมากๆเท่านั้น

5. สระผมทุกวัน โดยเฉพาะคนที่ผมยาวปิดหน้าผาก หรือแก้มทั้งสองข้าง เพราะผมของเราก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และสิ่งสกปรกเช่นกัน

6. ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม เพราะยิ่งนอนดึกมากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

7. อย่าล้างหน้าบ่อย ควรล้างเพียงวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และตอนเย็นเท่านั้น ในช่วงกลางวันหากหน้ามันมาก ควรใช้กระดาษซับมันแทนการล้างหน้า

8. ทำความสะอาดผิวหน้าทุกครั้งก่อนนอน

9. ถ้าหากเป็นสิวบ่อยๆ ควรทายาฆ่าเชื้อหัวสิว เช่น clindamycin, mupirocin, erythromycin +

ที่สำคัญที่สุดคือ พึงท่องเอาไว้ในใจเสมอเวลาเกิดสิวขึ้นบนใบหน้าว่า การรักษาสิวนั้น ถูกกว่าการรักษาแผลเป็น หรือหลุมที่เกิดขึ้นจากสิวหลายเท่านัก เพราะการรักษาหลุมสิว โดยส่วนใหญ่ต้องใช้เวลานาน อาจจะเป็นปี กว่าที่คอลลาเจนจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทนแทน

10. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า การลดความมันบนใบหน้าโดยการใช้กระดาษซับมัน สามารถช่วยลดความมันได้เพียงชั่วคราว เพราะต่อมไขมันก็จะผลิตไขมันออกมาทดแทนในส่วนที่หายไปอยู่ดี วิธีแก้ไขที่ถูกต้องคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดไขมัน ที่สำคัญคือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้การผลิตไขมันน้อยลงไปด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.