อาหารเสริม co q10 (โค คิวเท็น) ดีไหม กินอย่างไรให้ถูกต้อง

         Co q10 (โค คิวเท็น) เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นสารที่มีบทบาทในการเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกาย จนบางคนเรียกว่า วิตามิน Q เป็นสารสำคัญในการสังเคราะห์ Adenosinetriphosphate (ATP) ซึ่งเปรียบได้กับขุมพลังงานของเซลล์ทั่วร่างกาย เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
         อย่างไรก็ตาม co q10 (โค คิวเท็น) เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองโดยธรรมชาติ พบในเซลล์ทุกเซลล์ที่มีชีวิตในร่างกายโดยจะอยู่ที่ส่วนเยื่อหุ้ม (Membrane) ของไมโตคอนเดรีย ซึ่งไมโตคอนเดรีย (Mitochondrial) นี้ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ โดยพลังงานดังกล่าวจะอยู่ในรูปของ ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานของเซลล์

         Co q10 (โค คิวเท็น) ถูกพบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง ซึ่งจะมีจำนวนไมโตคอนเดรีย (Mitochondrial) มาก เช่น หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ สมอง ส่วนอวัยวะอื่นๆก็พบได้เช่นกันแต่พบค่อนข้างน้อยเนื่องจากอวัยวะดังกล่าวต้องการพลังงานน้อยจึงมีจำนวนไมโตคอนเดรีย (Mitochondrial) น้อยตามไปด้วย ทั้งนี้ หากระดับของ “โค คิวเท็น” ลดลง ร่างกายจะไม่สามารถแปลงพลังงานจากอาหารให้อยู่ในสภาพที่ร่างกายจะ นำไปใช้ได้ จึงทำให้เกิดการเจ็บป่วย ร่างกายอ่อนเพลีย ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพตามมานั่นเอง

ถ้าร่างกายขาด co q10 (โค คิวเท็น) จะเป็นอย่างไร
         มีงานวิจัยพบว่าร่างกายคนเราจะมีระดับ co q10 (โค คิวเท็น) สูงที่สุดเมื่ออายุประมาณ 20 ปี แต่หลังจากนั้นจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าโรคบางชนิดก็อาจทำให้ร่างกายมีระดับ โค คิวเท็น ลดลงได้ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง อาการปวดเค้นหน้าอก กล้ามเนื้อหัวใจตาย ความดันโลหิตสูง โรคพาร์คินสัน และโรคหืด เป็นต้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ อาจทำให้เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ขี้หลงขี้ลืม เป็นโรคอัลไซเมอร์ อันเนื่องมาจากโดนอนุมูลอิสระเข้าเล่นงาน และที่เห็นผลชัดเจนเมื่อร่างกายขาด co q10 ก็คือ จะเกิดรอยเหี่ยวย่น สุขภาพผิวเสีย เป็นริ้วรอยได้ง่าย


อาหารเสริม co q10 (โค คิวเท็น) ดีอย่างไร

         อธิบายไปคร่าวๆเกี่ยวกับ co q10 (โค คิวเท็น) ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า สารตัวนี้สำคัญต่อร่างกายเรามากแค่ไหน ซึ่งนอกจากร่างกายจะสร้าง co q10 ขึ้นมาเองแล้ว ยังสามารถได้รับจากอาหารพวกเนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง ผัก รำข้าว ซีเรียล น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น แต่ในระหว่างการปรุงอาหารโดยใช้อุณหภูมิสูง จะทำให้ โค คิวเท็น ถูกทำลายไป ดังนั้น การได้รับจากอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่คำถามคือการรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมจะส่งผลดีต่อร่างกายหรือไม่

         พอบอกว่าเป็น “อาหารเสริม” หลายคนก็เบือนหน้าหนี เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แถมบางคนยังคิดไปเสียว่าใช้อาหารเสริมมากๆจะทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลง เพราะการสะสมของสารเคมี แต่ข้อเท็จจริงก็คือ อาหารเสริม co q10 (โค คิวเท็น) ที่ดี มีมาตรฐาน จะไม่ทำร้ายสุขภาพแน่นอน ตรงกันข้ามยังช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายต่างๆมากมาย

วิธีรับประทานอาหารเสริม co q10 (โค คิวเท็น) ที่ถูกต้อง
         เนื่องจาก โค คิวเท็น เป็นสารละลายได้ดีในไขมัน ดังนั้น co q10 ที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี จะต้องอยู่ในรูปแบบที่ละลายในน้ำมันและน้ำ เช่น รูปแบบที่เรียกว่า ‘อีมัลชัน’ ในแคปซูลนิ่มที่ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่าที่อยู่ในรูปผงในแคปซูลชนิดแข็งหรือเม็ดแข็ง (tablet) โดยผู้ใช้แต่ละรายอาจต้องศึกษาถึงปริมาณที่ใช้ให้เหมาะสมด้วย อาทิ ผู้ที่ต้องการรับประทานเพื่อเสริมสุขภาพ ควรใช้ co q10 แค่ 30 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันโคเลสเตอรอลกลุ่มสแตติน ควรรับประทานได้ครั้งละ 50 มิลลิกรัม เป็นต้น


ส่งเสริมสุขภาพดีด้วยสมุนไพร

         สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงดูแลในเรื่องสุขภาพ ผู้เขียนอยากแนะนำให้รู้จักกับ เทพมังกรยาน้ำสมุนไพร ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ 100% ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่า มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟู และบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิตอย่างได้ผล เคลียร์ครบจบทุกปัญหากวนใจเรื่องสุขภาพ ช่วยบำบัดรักษาอาการปวดเมื่อยร่างกาย เส้นตึง เส้นยึด ปวดไขข้อ ไขข้ออักเสบ เก๊าต์ บอกลาปัญหานอนไม่หลับ หลับไม่สนิท และยังช่วยลดความเสี่ยงสารพัดโรคสนับสนุนงานวิจัยโดย สวทช. 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

co q10 (โค คิวเท็น) คุณประโยชน์ที่มากกว่าแค่ความสวยความงาม

         เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดีกับเจ้า co q10 (โค คิวเท็น) หรือบางคนอาจเรียกว่า “โคเอ็นไซม์ คิวเท็น” ทั้งนี้ สารตัวนี้มักใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้ในการฟื้นบำรุงผิว ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ไม่ให้เกิดริ้วรอย โดยโคคิวเท็น มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ยูบิควิโนน” (Ubiquinone) เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ อันจะส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม co q10 (โค คิวเท็น) มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด


ประโยชน์จาก co q10 (โค คิวเท็น)

         1.ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ การรับ co q10 (โค คิวเท็น) เข้าไปในร่างกาย สามารถช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ เนื่องจากใน co q10 มีฟีนีลอะลานิน (Phenylalanine) ช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้กระตุ้นการเผาผลาญอาหารของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่ประกอบด้วยไอโอดีน ทำให้รู้สึกสดชื่นตื่นตัว อารมณ์ดี ลดความซึมเศร้า ช่วยให้ความจำดีขึ้น
         คุณสมบัติของ โค คิวเท็น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยังสามารถช่วยปกป้องการทำลายของอนุมูลอิสระในสมองและโรคชรา หมอบางคนแนะนำให้ผู้ป่วยที่อายุเกินกว่า 50 ปี รับประทาน co q10 เพื่อที่จะช่วยแก้อาการขี้หลงขี้ลืม และช่วยชะลอการทำลายของเซลล์สมองอันเนื่องมาจากโรคอัลไซเมอร์และโรคชรา แต่ทั้งนี้ อาการจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคนด้วย
         2.ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดสูงจนทำให้ไปอุดตามหลอดเลือดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงไม่พอ หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายไปบางส่วน co q10 (โค คิวเท็น) จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาได้ โดยไปยับยั้งไม่ให้คลอเลสเตอรอลจับตัวเป็นก้อนอุดตันเส้นเลือด ช่วยรักษาโรคหัวใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจล้มเหลว เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ (congestive heart failure)

         ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคหัวใจดังกล่าวจะมีแน้วโน้มที่จะสัมพันธ์กับการขาด โค คิวเท็น ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับ co q10 จึงทำให้หัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระคล้ายกับวิตามินอี จึงมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ยับยั้งการอุดตันของเส้นเลือดของคลอเลสเตอรอลได้
         3.ลดเลือนริ้วรอย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ด้วยความที่ co q10 (โค คิวเท็น) เป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) จึงไม่แปลกที่จะมีการนำ co q10 มาใช้เป็นเครื่องสำอางสำหรับลดการเกิดริ้วรอย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังจากแสงแดด (Photoaging) กล่าวคือ ผิวหนังที่ได้รับ โค คิวเท็น จะมีความคงทนแข็งแรงต่อสารพิษ เชื้อโรค และรังสี UV จากแสงอาทิตย์
         นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของ co q10 ต่อการลดริ้วรอยพบว่า สามารถทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง ซึ่งหมายถึงทำให้ริ้วรอยนั้นตื้นขึ้นได้ โดยให้กลุ่มทดลองใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ โค คิวเท็น อยู่ 0.3% ทารอบดวงตาเป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่าความลึกของริ้วรอยลดลงถึงร้อยละ 27 รวมถึงช่วยในการเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย


‘วิตามินซี’ ตัวช่วยบำรุงผิว ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

         สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยในเรื่องผิวดำคล้ำเสีย ให้กลับมาขาวสวยสุขภาพดีขึ้น และอยากลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ผู้เขียนอยากแนะนำให้รู้จักกับ ผลิตภัณฑ์ Daily Vits วิตามินซีที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ 100% ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่า มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟู และบำรุงทุกสภาพผิวได้อย่างอ่อนโยน เคลียร์ครบจบทุกปัญหากวนใจด้านผิวพรรณอย่างง่ายๆ เปลี่ยนผิวของคุณให้ เรียบ เนียน ชวนมอง ลดเลือนริ้วรอย ราวกับเป็นคนใหม่ บอกลาปัญหาสิว รอยแผลเป็น ผิวแห้งกร้านอย่างได้ผล พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ อย่างพอเหมาะสำหรับหนึ่งวันในขั้นตอนเดียว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

co q10 (โค คิวเท็น) ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ถนอมผิวพรรณให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง

         ริ้วรอยแห่งวัย ผิวแห้งกร้าน ไม่กระชับ คือสัญญาณที่บ่งบอกถึงความชรา พูดง่ายๆคือมันจะทำให้คุณดูแก่ขึ้นนั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่คนรักสวยรักงามอย่างสาวๆรับไม่ได้ คำถามคือเราจะรับมือกับปัญหาผิวเหล่านี้ได้อย่างไรในเมื่อไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้ ฉะนั้น การป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ถนอมผิวพรรณให้ดูสดใสจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับสารอาหารตัวหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวของคุณให้กระชับเต่งตึง ไม่เป็นริ้วรอยได้ง่าย มันคือ co q10 (โค คิวเท็น) นั่นเอง แต่ก่อนอื่นมาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยกัน

 

ริ้วรอย เกิดจากอะไร
         ตามทฤษฎีแล้ว ริ้วรอยจะเกิดจากการที่เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ใต้ผิวหนังถูกทำลาย ซึ่งมีอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แสงแดด (รังสี UV) มลภาวะฝุ่นควัน เป็นต้น กรณีนี้สามารถป้องกันได้โดยการทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือ “อายุ” เมื่อตัวเลขของอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวจะถูกผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ชอบอมทุกข์ เครียดบ่อยๆ
         สำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอิลาสติน เพราะอายุที่สูงขึ้น ควรป้องกันและดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการรับประทานสารอาหารให้ครบทุกหมู่ เน้นผักผลไม้ เพราะมีวิตามินซีสูง และสารอาหารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย บำรุงผิวพรรณ


co q10 (โค คิวเท็น) ป้องกันการเกิดริ้วรอยอย่างตรงจุด

         co q10 (โค คิวเท็น) หรือที่เราได้ยินติดหูกันว่า “โคเอ็นไซม์ คิวเท็น” ในทางการแพทย์ เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างมาก พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายที่มีชีวิต ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานพื้นฐานของเซลล์โดยเฉพาะในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต กล้ามเนื้อ และยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายอีกด้วย
         โดย co q10 (โค คิวเท็น) มักถูกนำมาใช้ในส่วนผสมของเครื่องสำอางเพื่อถนอมผิวพรรณ ลดริ้วรอยหรือชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว เนื่องจากช่วยเสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์ผิว ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินจากรังสี UVA ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง มีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่และปกป้องคอลลาเจนจากการถูกทำลายให้สูญเสียโครงสร้างและความยืดหยุ่น
         ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ co q10 (โค คิวเท็น) มีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นและป้องกันไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวได้ง่ายๆ พร้อมกับปรับสภาพผิวให้ผิวชุ่มชื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีความสัมพันธ์กับวิตามินอีในการป้องกันเซลล์ผิวจากปฏิกิริยา Liqid Peroxidation ซึ่งเป็นสาเหตุของกระแก่ (Age Granule) ทำให้ผิวสดใสมีชีวิตชีวาอยูเสมอ

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เหตุผลที่ทำให้การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมจากทั่วโลก

                การฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก เพราะถือเป็นนวัตกรรมความสวยความงามที่แพร่หลายและเป็นที่สนใจของหนุ่มๆสาวๆ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจทั้งใบหน้าและร่างกาย ที่สำคัญมีทั้งคุณและโทษ เราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ “การฉีดโบท็อกซ์” ที่รวมถึงที่มาที่ไป คุณและโทษ ข้อควรปฏิบัติ และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหรือต้องระมัดระวัง
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่งที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ถูกค้นพบโดย จิสทินัส เคอร์เนอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน โบท็อกซ์มีการใช้มานานมาก เริ่มต้นโดยการนำมารักษากล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรน ตาเหล่ ก็รักษาด้วยโบท็อกซ์นี้ ต่อมาปี 2002 FDA ของอเมริการับรองการใช้โบท็อกซ์ เพื่อการลดริ้วรอยหน้าผาก และรอยตีนกา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการนำโบท็อกซ์มาใช้ในเรื่องของผิวพรรณและความสวยงาม

               โบท็อกซ์ คือ สารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว โดยหลังการฉีดโบท็อกซ์แล้วตัวยาจะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือน เมื่อกล้ามเนื้อไม่เกร็งตัวแล้ว โบท็อกซ์ยังจะช่วยส่งผลปรับลดขนาดกล้ามเนื้อ ช่วยให้คุณแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น เพียง 10 นาที หลังจากทำการรักษา กล้ามเนื้อของคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่องลึกจะเริ่มคลายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อจะเล็กลง ทำให้ผิวบริเวณนี้เรียบตึง
การฉีดสารเหล่านี้มีระยะเวลา โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำ เพราะการฉีดสารประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้ว คนจะติดใจ คือฉีดแล้วรู้สึกว่ามั่นใจขึ้น สาวขึ้น สวยขึ้น ก็เลยต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
โบท็อกซ์จับกับปลายประสาท สัญญานกกระตุ้นการหดตัวจะไม่มีผล กล้ามเนื้อของคุณจะผ่อนคลาย ริ้วรอยต่างๆจะค่อยๆเนียนเรียบขึ้นจากเดิม และจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ การฉีดโบท๊อกซ์ที่ถูกวิธีนั้นนอกจากจะไม่ทำให้หน้าคุณดูแข็งเกร็งแล้วคุณยังสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างเป็นปกติ เพราะโบท๊อกซ์จะทำงานเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อที่แพทย์ได้เลือกฉีด เช่น หากฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณกล้ามเนื้อที่หน้าผากส่วนกลางแล้ว จะไม่กระทบกับการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าผากด้านข้าง ผลคือคุณจะสามารถการยกคิ้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นไปได้อย่างเป็นปกติ นอกจากจะช่วยให้ผิวเรียบตึงขึ้นแล้วโบท็อกซ์ยังสามารถช่วยลดการทำงานในส่วนของกล้ามเนื้อที่เราไม่ต้องการ ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าของคุณให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

1.สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
2.ทำให้รูปหน้าเรียวเล็กลง
3.เห็นผลเร็ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการฉีดด้วย ซึ่งมีทั้งเห็นผลแทบจะทันที ถึงเป็นเดือนกว่าจะเห็นผล ก็มีเช่นกัน
4.มีใบรับรอง จากองค์การอาหารและยา ทำให้สบายใจได้ ว่ามีความปลอดภัย
5.ไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ ก่อนเข้ารับการฉีด
6.เมื่อฉีดเสร็จ สามารถทำกิจกรรม ตามปกติได้ทันที
7.เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
8.มีผลข้างเคียงน้อย
อย่างที่รู้ๆกัน การฉีดโบท๊อกซ์นั้นไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น ยังมีโทษอีกมามาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง และผลที่ตามมาก็คือ

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
1.อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีด แต่โดยทั่วไป จะมีการทายาชาก่อน ทำให้ลดอาการเจ็บปวดลงได้
2.โบท็อกซ์ ไม่ได้อยู่ตลอดไป ซึ่งก็หมายความว่า ริ้วรอยบนใบหน้า หรือกรามที่เล็กลงนั่น จะกลับมาเป็นสภาพเดิมอีกครั้ง กลังเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน
3.มีราคาสูง การฉีดโบท็อกซ์ มีค่าใช้จ่ายที่ค่อยข้างสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ บริเวณที่ต้องการฉีด และสถานที่เข้ากับการฉีดด้วย
4.หากฉีดจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายได้
5.ควรเลือกสถานที่ที่มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลครบถ้วน มิฉะนั้นหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น อาจมีอันตรายถึงชีวิต
6.อาจมีอาการแทรกซ้อน สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือหญิงตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดทุกครั้ง

แนวทางปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์

 1.หลังฉีด ทันที ไม่ควรจับ ลูกคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา
2. ภายใน 4 ชั่วโมง ไม่ควรไปนอนราบ หรือนอนตะแคง เพราะในช่วง 4 ชั่วโมงแรก เป็นช่วงการซึมของยาเข้ากล้ามเนื้อ ถ้านอนตะแคงจะทำให้การกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งที่แพทย์คาดการณ์ไว้ได้ เมื่อเลย 4 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถนอน หรือตะแคงได้ตามปกติ
3.ภายใน 4 ชั่วโมงแรก ต้องบริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อที่ต้องการให้ออกฤทธิ์มากที่สุด เช่น ฉีดหางตา ควรยิ้มบ่อยๆ ฉีดหน้าผากควรยักคิ้วบ่อยๆ หรือฉีดกรามควรเคี้ยวหมากฝรั่ง 15-30 นาที่ หรือ 4 ชั่วโมง ตามดุลยพินิจแพทย์
4. ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรงดการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ยิงเลเซอร์ ทำ RF หรือไอออนโตที่หน้า เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อโบท๊อกซ์ได้ใน 2 สัปดาห์แรกความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ไดร์เป่าผม อาบน้ำอุ่น (งดบริเวณที่ฉีดโบท๊อกซ์) และโดนแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไปได้ตามปกติ
5. หลังฉีดแต่งหน้า ทาแป้ง ทาครีมได้ตามปกติ เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์สามารถทำ Treatment ได้ตามปกติ (ยกเว้น Laser, RF และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)
6.สำหรับการฉีดโบท๊อกซ์ที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อกราม และน่อง ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-4 สัปดาห์ ดังนั้น ช่วงแรกๆ อาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ฤทธิ์ยาจะมีผลสูงสุดในช่วง 4-8 สัปดาห์ (1-2 เดือน) และจะหมดฤทธิ์เมื่อครบเวลา 4-6 เดือน หรืออาจจะนานกว่านี้ กรณีที่ฉีดโบท๊อกซ์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ดังนั้นถ้าจะให้เห็นผลในการลดขนาดกล้ามเนื้อกรามและน่องอย่างมีประสิทธิภาพควรฉีดต่อเนื่องกันทุก 4-6 เดือน ประมาณ 3-4 ครั้ง เมื่อหยุดฉีดขาดกล้ามเนื้อจะเปลี่ยนไปจนสังเกตได้
7.ใน 2 วันแรก งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ จะเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด และจะเป็นการล้างยาโบท๊อกที่ฉีดไป
8.หลังฉีดสามารถรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

การฉีดโบท็อกซ์ ถึงแม้จะเป็นนวัตกรรมเสริมความสวยความงามที่แพร่หลายอย่างมากทั่วโลก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่โชคร้ายกับการฉีดโบท็อกซ์เข้าร่างกาย และมีมากมายหลายคนต้องเสียโฉมเพราะเจ้าโบท็อกซ์นี้ ดังนั้นเราควรระมัดระวัง ศึกษาอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจเสริมความงามเหล่านี้ ก่อนที่จะเสียทั้งเงินทั้งหน้าตาของเราไป

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.