Review: ครีมหอยทากหน้าเงา So Snail HD ดียังไง

ขึ้นชื่อว่า “หอยทาก” คุณสาวๆหลายๆคนที่จินตนาการตาม ถึงหอยทากที่มีเมือกลื่นๆห่อหุ้มตัว คงรู้สึกขยะแขยงจนต้องร้อง “ยี้” ออกมา และไม่ขอเข้าไปลองสัมผัสโดยเด็ดขาดๆ แต่ถ้าหากได้ลองอ่านบทความรีวิวชิ้นนี้จนจบ เชื่อว่าคุณสาวๆ หลายคนอาจจะเปลี่ยนความคิดจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ได้

หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า ในน้ำเมือกของหอยทากที่หลายๆ คนไม่พิสมัยนั้น กลับมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่น รอยหยาบกร้าน รวมไปถึงการช่วยรักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูผิวหนังที่ถูกทำลายไป ผลลัพธ์ที่ได้คือการที่เจ้าเหล่ารอยแผลเป็น หรือหลุมสิวทั้งหลายที่ทำให้ผิวของคุณสาวๆ ดูไม่เนียนนั้นจะหายรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

รีวิวครีมหอยทากหน้าเงา So Snail HD

ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้หยิบเอาคุณสมบัติพิเศษของน้ำเมือกหอยทากเข้ามารวมเอาไว้กับครีมหน้าเงา จนกระทั่งกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่น่าสนใจแบบ 2 in 1 ที่ช่วยฟื้นฟูดูแลสุขภาพของผิว ไปพร้อมกับช่วยทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์สินค้า ที่รู้จักกันในชื่อ So Snail HD หรือ  “ครีมหอยทากหน้าเงา” ซึ่งเป็นครีมที่มีส่วนผสมนำเข้าจากประเทศเกาหลี

รีวิวผลตอบรับจากคนเคยใช้ ครีมหอยทากหน้าเงา So Snail HD

ครีมหอยทากหน้าเงา So Snail เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ได้รับการรีวิวตอบรับจากคุณสาวๆที่เลือกใช้กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่แล้วต่างให้การยอมรับว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้เห็นผลในเรื่องของความขาวใส ตึงกระชับ

อีกทั้งยังช่วยในการลดรอยสิว จุดด่างดำให้ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเนื้อครีมเองก็ซึมซับลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้หนังตาที่เหี่ยวตึงขึ้น ซึ่งช่วยทำให้การแต่งหน้าบริเวณหนังตาติดทนนานและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

สำหรับวิธีการใช้ ครีมหอยทาก So Snail HD ก็แสนง่าย คุณสาวๆเพียงแค่ทาครีมหลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ พร้อมกับนวดให้ทั่วใบหน้า เนื้อครีมก็จะซึมซับลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม คุณสาวๆ บางคนที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ So Snail บางคนมีมีความเห็นที่แตกต่างว่า เมื่อใช้แล้ว สิวอุดตันบนใบหน้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการบำรุงผิวมากจนเกินไปโดยการทาครีมที่หนาจนเกินความพอดี จะทำให้แบคทีเรียบนผิวหน้ามีอาหารบำรุงมากจนเกินไปจนทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการทาครีมให้บางลง

โดยสรุปแล้ว ครีมหอยทากหน้าเงา So Snail เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยดูแลสุขภาพผิวให้ดีขึ้น และยังช่วยในการฟื้นฟูซ่อมแซมผิวหนังที่ถูกทำลาย ซึ่งผลผล็อยได้จากการฟื้นฟูผิวหนังทำให้ผิวหนังชุดใหม่ขาวขึ้น รวมไปถึงร่องรอยแผลเป็นปัญหากวนใจจากหลุมสิวก็พลอยหมดไปด้วย

รีวิว ฉีดผิวขาว ทำอย่างไร ขาวได้จริงหรือ [VDO]

“ผิวขาว” เชื่อว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณสาวๆ ในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญอยู่ในอันดับต้นๆ เพราะช่วยทำให้ดูดี ชวนมอง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคุณสาวๆ แต่สำหรับประเทศไทยที่มีแสงแดดรุนแรง

คุณสาวๆ จึงต้องใช้ความพยายาม และความอดทนในการบำรุงผิวให้ขาว มากกว่าสาวๆ ในประเทศเมืองหนาวที่มีผิวขาวใสตามธรรมชาติ เนื่องจากแสงแดดที่น้อยกว่า ซึ่งสำหรับสาวๆบางคนก็เลือกที่จะใช้ทางลัดสู่การมีผิวที่ขาวสะดวกรวดเร็วมากที่สุด คือ “การฉีดผิวขาว” นั่นเอง

เอาล่ะ… เรามาดูความคิดเห็นของบรรดาดารา เกี่ยวกับเรื่องการฉีดผิวขาวกันดีกว่า…

การฉีดผิวขาวคืออะไร?

การฉีดผิวขาว โดยส่วนใหญ่เป็นการฉีดสาร “กลูต้าไธโอน” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองได้ โดยสร้างมาจากสารอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม เป็นต้น ซึ่งสารกลูต้าไธโอน มีประโยชน์มากมาย อาทิเช่น ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้นเหตุของความเสื่อมโทรมของร่างกาย ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย เป็นต้น

แล้วกูลต้าไธโอน ช่วยให้ผิวขาวได้อย่างไร..?

กูลต้าไธโอน มีผลข้างเคียงทำให้เม็ดสีเมลานินมีการทำงานที่เปลี่ยนไป ถ้าอธิบายง่ายๆ คือ ทำให้ผิวของเราสร้างเม็ดสีน้อยลง และเปลี่ยนสีของเม็ดสีจากสีน้ำตาลกลายเป็นสีชมพู ดังนั้นจึงทำให้ผิวดูขาวใสสว่างขึ้น

การฉีดผิวขาวด้วยกลูต้าไธโอน

ฉีดผิวขาว

โดยปกติแล้วจะนิยมฉีดสารกูลต้าไธโอน อยู่ 2 วิธี คือ การฉีดเข้าเส้นเลือดดำ กับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยส่วนใหญ่แล้วมักที่จะฉีดเข้าเส้นเลือดดำมากกว่าเพราะไม่ค่อยเจ็บอีกทั้งยังเห็นผลมากกว่า ส่วนใหญ่มักจะฉีดคู่กับวิตามินซี โดยการฉีกกูลต้าไธโอน 1 เข็ม + วิตามินซี 1 เข็ม ต่อการฉีด 1 ครั้ง ซึ่งเวลาฉีดสารเข้าไปจะรู้สึกเจ็บแสบมากทีเดียว โดยมีความถี่ในการฉีดประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ตามความต้องการของแต่ละคน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงทีเดียว ถ้าหากอยากขาวอย่างรวดเร็วในเวลา 1 เดือน อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3000-20000 บาท ทีเดียว

ผลจากการฉีดกูลต้าไธโอน

สาวๆ ที่ฉีดกูลต้าไธโอน จะดูขาวเปล่งปลั่งขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ และต้องทำการฉีดอย่างน้อย 3-5 ครั้ง ขึ้นไป จึงจะสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีผู้ฉีดจำนวนเพียงเล็กน้อย หรือแพ้สารกูลต้าไธโอน ที่ทำให้การฉีกสารกูลต้าไธโอนไม่ได้ผล สำหรับผิวที่ขาวขึ้นจากการฉีดกลูต้าไธโอนจะมีผลเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ประมาณ 2-3 เดือน เมื่อสารหมดฤทธิ์ ผิวจะกลับมาเป็นสีเดิมอีก จึงจำเป็นที่จะต้องฉีดซ้ำอยุ่เป็นระยะ

อันตรายจากการฉีดสารกูลต้าไธโอน

ถึงแม้ว่าสารกูลต้าไธโอน จะเป็นสารที่มีอยู่ภายในร่างกายก็ตาม แต่การที่ต้องฉีดสารเข้าไปในร่างกายจนเกินสมดุลของร่างกายย่อมไม่เกิดผลดีในระยะยาว การรับสารกูลต้าไธโอนเข้าไปในปริมาณมาก มีผลทำให้การต้านอนุมูลอิสระของร่างกายเสียสมดุล

ถ้าหากร่างกายไม่สามารถปรับตัวอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่เกิดขึ้นจากการฉีดสารเข้าเส้นเลือดดำ ซึ่งผลการวิจัยของต่างประเทศพบว่าการฉีดสารกูลต้าโอน เข้าไปในปริมาณที่มาก จะส่งผลทำให้เกิดอาการช็อก ความดันต่ำ ทำให้หมดสติได้ และอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

นอกจากนี้องค์การอาหารและยา ได้ประกาศห้ามใช้สารกูลต้าไธโอนเพื่อช่วยทำให้ผิวขาว เนื่องจากกูลต้าไธโอนทั้งชนิดเม็ดและชนิดฉีดเพื่อมุ่งผิวขาว มีสารกูลต้าไธโอนสูงถึง 500-1000 มิลลิกรัม มากกว่าปริมาณที่แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยใช้ คือ 250 มิลลิกรัมต่อวัน

ความสวยที่มาพร้อมกับความตาย แพทย์เตือน ฉีดผิวขาวเสี่ยงอันตราย

รศ.นพ.นภดล นพคุณ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า สารกลูตาไธโอน หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า สารขาวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับวิตามินซีหรือวิตามินอี สารชนิดนี้เป็นสารที่ยับยั้งการทำงานของเม็ดสี ทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนไป

รศ.นพ.นภดล กล่าวต่อว่า นอกจากการฉีดยาแล้ว ยังมีในรูปแบบของอาหารเสริมซึ่งจะมีสารกลูตาไธโอนอยู่ในปริมาณน้อย ทำให้ไม่ค่อยได้ผลหรือได้ผลน้อยและไม่มีผลข้างเคียงมากนัก สำหรับการฉีดเข้าเส้นเพื่อให้ผิวขาวก็เป็นการทำที่ไม่ถาวรเป็นเพียงเปลี่ยนการสร้างเม็ดสีเท่านั้น และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ส่วนใหญ่จะมีการนำสารกลูตาไธโอนมาใช้ในคลินิก ซึ่งเป็นอันตราย ถ้าฉีดแล้วทำให้เกิดอาการแพ้ หรือถ้ารุนแรงกว่านั้น ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

“การฉีดนั้น นอกจากจะไม่เกิดผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ การมีผิวคล้ำใช่ว่าจะมีผลเสียเสมอไป แต่กลับมีผลดีด้วยซ้ำ เพราะสามารถป้องกันแสงยูวีได้ ที่สำคัญคนผิวคล้ำเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนผิวขาว” รศ.นพ.นภดล กล่าว

จากข้อมูลที่ได้นำเสนอไปในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า การฉีดผิวขาว นั้นได้ผลแค่เพียงในระยะสั้นๆ เท่านั้น ถ้าหากต้องการที่จะขาวในระยะยาว ยังมีทางเลือกอื่นๆที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆด้วยตัวเอง เช่น การบำรุงผิวด้วยครีมกันแดดและโลชั่นทาผิวที่ปลอดภัย การดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะๆ เป็นการบำรุงผิวให้สดใส ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

ถ้าจะให้ดีที่สุด คือ การปล่อยวาง เพราะสีผิวคล้ำ สำหรับคนในแถบเอเชีย หรือประเทศเขตร้อน ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้ ช่วยทำให้โอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยลงมากกว่าคนที่มีผิวขาว

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมยันฮี โรงพยาบาลยันฮี เค้าทำครีมขายแล้วเหรอ แล้วดีไหม

ครีมยันฮี หรือ ครีมหมอยันฮี ปัจจุบันเป็นที่กล่าวถึงเป็นอย่างมากในวงการสินค้าออนไลน์ บางท่านเห็นว่าถูกและดี เลยซื้อมาใช้ บางท่านก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร โรงพยาบาลยันฮี ผลิตครีมขายเองเหรอ แล้วครีมยันฮี ดีไหม อันตรายไหม ของแท้ ของปลอมดูยังไงหละ

วันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัยทุกอย่างเลยนะคะ ทางโรงพยาบาลผลิตครีมยันฮีขายจริงๆ ใครที่หลงเชื่อว่าเค้าไม่ได้ผลิต คงโดนกันไปเต็มๆแล้วล่ะ หุหุ แล้วความจริงมันคืออะไร

1. โรงพยาบาลไม่ได้ผลิตครีมขาย เป็นเรื่องโกหก เพราะทางโรงพยาบาลยันฮี เค้าผลิตขายจริงๆ

2. คนผลิตครีมหมอยันฮีไม่ได้ชื่อ “ยันฮี” อย่างที่หลายคนคิดแต่ก็มีคนเข้าใจผิดว่าเค้าชื่อยันฮี แต่ผลิตจากโรงพยาบาลยันฮี ต่างหาก

3. ครีมยันฮี ขายมานานแล้วแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างจึงมีของปลอมผลิตออกมา ควรระวัง!!!

หลายคนคงคิดในใจ กรูโดนแล้ววว นั่นคือความจริงค่ะ หลายคนโดนหลอกเยอะมาก วันนี้จึงมาบอกว่าความจริงเป็นอย่างไร

แล้วจะเชื่อได้อย่างไรล่ะ งั้นดู รีวิวประสบการณ์ บางส่วนจากเวป Jeban.com กัน




อันนี้เป็น “ข้อคิดเห็น” อ่านออกใช่ป่ะว่า “ข้อคิดเห็น” ไม่ใช่ “ข้อเท็จจริง” แต่อยากลองก็ไม่ว่าอะไรนะ ซื้อมาใช้เลย ครีมยันฮี หรือ ครีมหมอยันฮี ใช้ดีทั้งคู่ แต่ก็แล้วแต่สภาพใบหน้าของแต่ละบุคคล