ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

         อาการชาตามบริเวณต่างๆ มักมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็เป็นเพียงเหน็บชา ประเดี๋ยวเดียวก็หายไปเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรชะล่าใจ โดยเฉพาะเมื่อชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เพราะเป็นสัญญาณอันตรายที่เตือนให้คุณรู้ว่า ร่างกายอาจกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพ บางคนอาจเกิดจากโรคระบบประสาทอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง การได้รับโลหะหนักสะสมในร่างกาย การขาดวิตามินบี หรือหนักเข้าอาจเกิดจากโรคเบาหวานก็เป็นได้
         นอกจากนี้ ยังเกิดจากการที่หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก บางรายอาจเกิดขึ้นเพราะโรคไต โรคมะเร็ง ฉะนั้น อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า จึงถือเป็นสัญญาณอันตราย บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรไปพบแพทย์หาสาเหตุที่แท้จริงแล้วทำการรักษาต่อไป


ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า รักษาเองได้อย่างไร

         หากคุณมีอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า แล้วยังไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจากอะไร เบื้องต้นให้สันนิฐานว่าเกิดจากการขาดวิตามินบี เนื่องจากวิตามินชนิดนี้เป็นสารอาหารที่จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมเส้นประสาทได้ โดยจะเข้าไปบำรุงระบบประสาท มีส่วนช่วยในการสร้างสื่อประสาท และช่วยซ่อมแซมเส้นประสาท ดังนั้น วิธีดูแลตัวเองอันดับแรกเมื่อชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า คือควรรับประทานวิตามินบีให้มาก เพียงพอตามที่ร่างกายนำไปใช้ ซึ่งมีมากในอาหารจำพวกเนื้อปลา เนื้อสัตว์ หอยแมลงภู่ เนย นม ตับ ไข่ เป็นต้น หรือจะใช้วิตามินบีในรูปแบบอาหารเสริมก็ได้

         กลุ่มวิตามินบีที่ควรรับประทานเข้าสู่ร่างกายมากๆ ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 กรดโฟลิค และวิตามินบี 12 มีผลวิจัยจากหลายสถาบัน พบว่าการที่ร่างกายได้รับวิตามินบี 12 วันละ 1,500 ไมโครกรัม ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ สามารถช่วยรักษาอาการระบบประสาทอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเยื่อหุ้มประสาทและป้องกันการเสื่อมของเส้นประสาท จึงเป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าได้ชะงัด
         การรักษาอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ยังสามารถทำได้ด้วยการรับประทานอาหารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ โดยวิธีจะเข้าไปรักษาที่ต้นเหตุ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เนื่องจากในผู้ป่วยเบาหวาน พบการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายปริมาณสูงมาก (oxidative stress) ทำให้เกิดการเสื่อมของอวัยวะต่างๆเร็วขึ้น จากการศึกษาพบว่าแม้ผู้ป่วยเบาหวานจะพยายามควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็ตาม แต่มากกว่าร้อยละ 20 ของผู้ป่วยก็ยังเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น

         โดยระยะแรกเริ่ม อาจพบปลายประสาทเสื่อม มีอาการปวดเจ็บ ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ระยะต่อมาจะทำให้ระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของหัวใจ ไต การย่อยอาหารผิดปกติ การป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเซลล์ หรือรักษาระบบประสาทอักเสบที่ต้นตอ จึงจำเป็นต้องใช้สารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยป้องกันหรือลดภาวะอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้ ดังนั้น นอกจากวิตามินบีแล้ว การได้รับสารต่อต้านอนุมูลอิสระจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถใช้ในรูปอาหารเสริมได้เช่นกัน โดยเฉพาะแอสตาแธนซิน ซึ่งถือเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมอีกตัวหนึ่ง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เกิดจากอะไร ทำอย่างไรถึงจะหาย

         เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีอาการ ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้ากันมาบ้าง ถ้าเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวคงไม่คิดอะไรมาก แต่หากเกิดขึ้นกับคนที่เริ่มมีอายุมากไปจนถึงผู้สูงอายุ คงจะเกิดความวิตกกังวลกันน่าดู อย่างไรก็ตาม ท่านผู้อ่านอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ เพราะอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนอย่างหนึ่ง หากหาต้นตอของอาการได้ว่าเกิดจากอะไร ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะสามารถรักษาให้หายขาดได้


ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เกิดจากอะไร

         อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอาการเหน็บชาทั่วๆไป (ร่างกายขาดวิตามินบี) เส้นประสาทถูกกดทับ โรคระบบประสาทอักเสบ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รวมทั้งโรคเบาหวาน โดยแต่ละสาเหตุจะแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไป คือ
         1.ชาปลายเท้าและปลายมือเข้าหาลำตัว เกิดจากปลายประสาทอักเสบหรือเสื่อม อาจเกิดจากขาดวิตามินบี 1 บี 6 หรือ บี 12 จากโรคบางโรค เช่น โรคไต มะเร็ง และจากยาหรือสารพิษ เป็นต้น
         2.ชามือ แต่เท้าไม่ชา มี 4 ลักษณะ ได้แก่
         1) ชาปลายนิ้วมือเกือบทุกนิ้ว แต่นิ้วก้อยไม่ชาหรือชาน้อย มักเป็นกลางคืนหรือตอนตื่นนอน ในตอนกลางวันมักชามากในบางท่า เช่น ชูมือ ขี่มอเตอร์ไซค์ ถือโทรศัพท์ หรือใช้มือทำงานหนัก สาเหตุเกิดจากเอ็นกดทับเส้นประสาทตรงข้อมือ ต้องลดงานที่ใช้มือลง เลี่ยงท่าที่ทำให้ชา บางคนอาจต้องฉีดยาที่ข้อมือ
         2) ชานิ้วก้อย นิ้วนาง และขอบมือด้านเดียวกัน แต่ไม่เลยเกินข้อมือ เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับตรงข้อศอก ให้เลี่ยงท่าที่ทำให้ชา
         3) ชาหลังมือไม่เกินข้อมือ โดยเฉพาะบริเวณง่ามระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับที่ต้นแขน ห้ามนั่งเอาแขนพาดพนักเก้าอี้
         และ 4) ชาเป็นแถบตั้งแต่แขนลงไปถึงนิ้วมือ เกิดจากกระดูกต้นคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท อาการนี้ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที

         3.ชาเท้า แต่มือไม่ชา แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะ ได้แก่
         1) ชาหลังเท้าขึ้นมาถึงหน้าแข้ง เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณใต้เข่าด้านนอก ให้เลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง ขัดสมาธิ พับเพียบ และห้ามใช้อะไรรองใต้ข้อพับเข่าเวลานอน
         2) ชาฝ่าเท้า เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับที่ตาตุ่มด้านในหรือในอุ้งเท้า ให้เลี่ยงท่าที่ทำให้ชาและลดการยืนหรือเดินนานๆ
         3) ชาทั้งเท้า (ข้างใดข้างหนึ่ง) มักชาขึ้นมาถึงใต้เข่า เกิดจากเส้นประสาทบาดเจ็บที่สะโพก ควรปรึกษาแพทย์
         4) ชาด้านนอกของต้นขา คล้ายยืนล้วงกระเป๋ากางเกง เส้นประสาทจะถูกกดทับที่ขาหนีบ ควรหลีกเลี่ยงการงอพับบริเวณสะโพก
         และ 5) ชาเป็นแถบจากสะโพกลงไปถึงเท้า เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ควรปรึกษาแพทย์
         นอกจากอาการ ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าดังกล่าวแล้ว หากรู้สึกชาบริเวณอื่นมากๆ เช่น ชาครึ่งซีก (ซ้ายหรือขวา) ชาครึ่งตัว (บนหรือล่าง) ชาบริเวณใบหน้าและศีรษะ หรือชาเป็นแถบบริเวณอื่นๆ ควรไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคร้ายแรงตามมา

 
ทำอย่างไร ให้หายชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า
         หากเป็นเหน็บชาทั่วๆไป เมื่อผ่อนคลายบริเวณที่ถูกกดทับจะค่อยๆหายชาไปเอง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการชาที่เสี่ยงต่อโรคร้ายแรง จำเป็นที่จะต้องเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นอันขาด เพราะอาจทำให้อาการทวีความรุนแรงมากขึ้นจนอาจยากต่อการเยียวยา อย่างเช่น มีอาการชาอันเนื่องจากมาจากโรคเบาหวาน แพทย์จะสั่งให้ผู้ป่วยควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานยา paracetamol ถ้าไม่หายปวดก็ให้รับยา NSAID เป็นต้น
         กระนั้นก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า มักเกิดจากการขาดสารอาหารที่สำคัญอย่างวิตามินบี ทั้งวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 และกรดโฟลิค ดังนั้น การรับประทานวิตามินบีให้เพียงพอก็จะช่วยทำให้อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าทุเลาลงได้ สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ หรืออาหารที่ให้วิตามินบีก็สามารถทดแทนได้ด้วยวิตามินในรูปแบบอาหารเสริม ก็จะทำให้อาการชาหายไปได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า กินวิตามินบี หายชัวร์

         หลายคนอาจคิดอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เดี๋ยวก็หายไปเอง ทว่าอาการนี้มันคือสัญญาติอันตรายที่บอกให้รู้ว่าคุณเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น โรคเหน็บชา โรคระบบประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้น อย่าปล่อยให้มันลุกลามเป็นอันขาด ควรหาวิธีป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องทนกับความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต


รู้ให้ทัน อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า

         อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เกิดได้จากหลายปัจจัย ส่วนมากมักเป็นเพราะโรคเหน็บชา และโรคระบบประสาทอักเสบ ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังนี้ถือว่ามีความเสี่ยงมาก ไม่ควรปล่อยไว้นาน เนื่องจากระบบประสาทอักเสบ คือภาวะที่ระบบประสาทบางส่วนถูกทำลายหรือเสื่อมลง ทำให้การนำกระแสประสาทไปยังส่วนต่างๆของร่างกายเสียไปหรือช้าลง ซึ่งต้นตอเกิดจากภาวะที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระเกินกว่าที่จะกำจัดได้
         โรคนี้มักพบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน โดยอาการที่พบคือชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ซึ่งมักจะเริ่มจากชาที่ปลายเท้าทั้งสองข้างแล้วเป็นมากขึ้นจนสังเกตว่ามีอาการชาที่ปลายมือด้วย สาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากพิษสุราเรื้อรัง การขาดวิตามินบี การได้รับโลหะหนักสะสมในร่างกาย เช่น คนที่ใช้ยาฆ่าแมลง ได้รับสารหนู และสารตะกั่วเป็นประจำ ซึ่งถ้าไม่รีบหาสาเหตุ และปล่อยให้ลุกลาม อาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรงขึ้น เช่น เกิดแผลที่เท้า เกิดอาการแน่นท้อง อาเจียน ท้องร่วงหรือท้องผูก ควบคุมการปัสสาวะไม่ได้ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น


รีบรักษา หากทราบสาเหตุ

         หากทราบสาเหตุของอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าแล้ว ก็ควรรีบรักษาตามสาเหตุนั้นๆ เช่น มือเท้าชาที่เกิดจากโรคเบาหวาน โดยอาการชานี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่แสดงถึงภาวะของโรคเบาหวานที่รุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานหากจะบรรเทาหรือรักษาอาการชาก็ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม
         ในกรณีที่ไม่สามารถหาสาเหตุของอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ควรปรึกษาแพทย์ถึงอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุของอาการชาและทำการรักษา เพราะหากเกิดอาการชาบ่อยขึ้นหรือมีอาการชามากขึ้นแล้วปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่หาสาเหตุและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้มีอาการรุนแรงขึ้นจนอาจไม่มีความรู้สึกเลย ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดบาดแผลได้ง่ายขึ้น เช่น หากเท้าเหยียบตะปูหรือมือถูกของร้อน จะไม่ชักเท้าหนี ทำให้เท้าและมือเป็นแผลได้ง่าย


วิตามินบี แก้อาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า

         วิตามินบี ช่วยรักษาอาการชาและซ่อมแซมเส้นประสาทได้ โดยจะเข้าไปบำรุงระบบประสาท มีส่วนช่วยในการสร้างสื่อประสาท และช่วยซ่อมแซมเส้นประสาท จึงมีส่วนช่วยลดอาการชาปลายมือปลายเท้าได้ กลุ่มวิตามินบี ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 กรดโฟลิค และวิตามินบี 12 โดยวิตามินบี 12 เพราะมีการทำวิจัยจากหลายสำนัก พบว่าการที่ร่างกายได้รับวิตามินบี 12 วันละ 1,500 ไมโครกรัม ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ สามารถช่วยรักษาอาการระบบประสาทอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเยื่อหุ้มประสาทและป้องกันการเสื่อมของเส้นประสาท

         ทั้งนี้ วิตามินบี 12 มีหลายรูปแบบ เช่น รูปแบบ Methylcobalamin จะอยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้เลย (active form) ส่วนรูปแบบ Cyanocobalamin จะต้องผ่านกระบวนการแปรสภาพให้เป็น Methylcobalamin ก่อน และการศึกษายังพบ Methylcobalamin ในน้ำเลี้ยงสมอง (Cerebro spinal fluid) เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับวิตามินบี 12 รูปแบบอื่นๆ ดังนั้น การเลือกใช้วิตามินบี 12 ในรูปแบบ Methylcobalamin จึงเหมาะสมในการรักษาระบบประสาทอักเสบมากกว่า
         อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี โดยเฉพาะบี 12 พบมากในหอยนางรม หอยแมลงภู่ ตับ ไข่ นม เนยแข็ง ปลากชนิดต่าง และเนื้อสัตว ทว่าคนเรามักรับประทานกันน้อย ทำให้ได้รับวิตามินไม่เพียงพอต่อร่างกาย ดังนั้น การใช้วิตามินบีในรูปแบบเสริมอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้เราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ป้องกันอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า และโรคอื่นๆได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.