4 สุดยอดสมุนไพรบำรุงตับ

         ถ้าพูดถึงโรคตับ ก็บอกได้เลยว่ามีหลายชนิด ที่พบบ่อยก็ได้แก่ โรคตับแข็ง มะเร็งตับ ฝีในตับ ไวรัสตับอักเสบ และโรคตับอักเสบ เป็นต้น ซึ่งโรคเกี่ยวกับตับนั้นเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย พิษของยาบางชนิด การดื่มสุราเป็นประจำ การรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ ฯลฯ
         จะเห็นได้ว่าตับเป็นอวัยวะภายในร่างกายที่ถูกทำร้ายได้ง่าย ดังนั้น การบำรุงตับให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราได้รวบรวมสุดยอดสมุนไพรบำรุงตับมาให้ท่านผู้อ่านได้รู้จัก แต่ขั้นแรกไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของตับกันก่อน จะได้รู้ว่าทำให้เราถึงต้องบำรุงตับ

 

ทำไมถึงต้องบำรุงตับ
         ตับมีหน้าที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ การสร้างน้ำดี ซึ่งออกมาในลำไส้ ช่วยให้อาหารประเภทไขมันถูกย่อย และดูดซึมง่ายขึ้น เก็บสำรองอาหาร โดยเก็บเอากลูโคส (GLUCOSE) ไปสะสมไว้ในเซลล์ตับ ในสภาพของกลัยโคเจน (GLYCOGEN) และจะเปลี่ยนกลัยโคเจนกลับออกมาเป็นกลูโคสในกรณีที่ร่างกายต้องการใช้ได้ทันที สะสมวิตามินเอ ดี และวิตามินบี 12 นอกจากนี้ยังกำจัดสารพิษที่ลำไส้ดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด เมื่อสารพิษผ่านตับ ตับก็จะทำลายสารพิษบางชนิด ทั้งนี้ สารพิษบางชนิดก็อาจเข้าไปทำลายเซลล์ตับ เช่นแอลกอฮอล์ (ALCOHOL) คาร์บอนเตตราคลอไรด์ (CARBON TETRACHLORIDE) และคลอโรฟอร์ม (CHLOROFORM) เป็นต้น
         ตับยังทำหน้าที่สร้างวิตามินเอจากสารแคโรตีน (สารสีส้มที่มีอยู่ในแครอตและมะละกอ) ธาตุเหล็กและทองแดงจะถูกเก็บสะสมอยู่ที่ตับ เช่นเดียวกับวิตามิน เอ ดี และบีสิบสอง สร้างองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือด อาทิเช่น ไฟบริโนเจน (FIBRINOGEN) และโปรธรอมบิน (PROTHROMBIN) เป็นต้น

         และยังสร้างสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด อันได้แก่ เฮปาริน (HEPARIN) ทำหน้าที่ในการกินและทำลายเชื้อโรคโดยมีเซลล์แมกโครฟาจ (MACROPHAGE) ที่อยู่ในตับ ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า คุฟเฟอร์เซลล์ (KUPFFER’S CELL) สุดท้ายหน้าที่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือเป็นแหล่งพลังงานสร้างความร้อนให้แก่ร่างกาย เห็นหรือยังว่าตับมีหน้าที่สำคัญมากมายในกระบวนต่างๆของร่างกาย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องบำรุงตับ

สมุนไพรบำรุงตับ
         1.ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีมาแต่โบราณ และจัดเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาและบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้หลายต่อหลายโรค และยังใช้รักษาโรคตับอักเสบได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังไม่มีผลข้างเคียงให้ต้องกังวล โดยมีสรรพคุณยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตับอักเสบ และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเนื้อเยื่อตับขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนเนื้อเยื่อตับส่วนที่เสียหาย บรรเทาอาการตัวร้อนจากอาการกำเริบของไข้ที่เกิดจากความผิดปกติของตับ
         2.โสมเกาหลี เป็นสมุนไพรบำรุงตับที่จะช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส ช่วยขจัดสารพิษและแอลกอฮอล์ในตับ หากปล่อยสารพิษเหล่านี้ติดต้างในตับ อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อตับอักเสบและมะเร็งตับในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยในการเจริญอาหาร และระบบเผาผลาญ ระบบขับถ่ายดีขึ้น

         3.มะขามป้อม ผลไม้รสเปรี้ยวและอุดมไปด้วยวิตามินซี แม้จะมีรสขมและฝาด แต่มะขามป้อมยังถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคไวรัสตับอักเสบอีกด้วย อย่างไรก็ดี สตรีตั้งครรภ์ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ ห้ามใช้มะขามป้อมรักษาและบรรเทาอาการของโรค เนื่องจากทำให้ทารกในครรภ์แท้งได้
         4.ลูกใต้ใบ ใช้บำรุงตับ ลดอาการตับอักเสบ สร้างความสมดุลของไขมันในตับ หมอยาชาวจีนเชื่อว่า ถ้ากินลูกใต้ใบติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์จะช่วยกำจัดพิษออกจากตับ มีผลทำให้สายตาดี บำรุงตับ รักษาอาการดีซ่าน ซึ่งก็คล้ายกับหมอยาพื้นบ้านไทยและหมออายุรเวทอินเดียที่มีควมเชื่อว่า ลูกใต้ใบเกิดมาเพื่อตับ ใช้ต้มกินเป็นยาเพื่อแก้ดีซ่าน แก้ตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่าสารสกัดจากลูกใต้ใบมีฤทธิ์ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

พุทราจีน ยาสมุนไพรอายุวัฒนะ กับความลับที่คุณรู้แล้วต้องทึ่ง

         ในโลกใบนี้มียาสมุนไพรมากมาย ที่มีสรรพคุณบำรุงกำลัง และให้ประโยชน์ต่อร่างกายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในปัจจุบันเองบรรดาเหล่านักวิจัยที่มีชื่อเสียงชั้นนำเอง ก็ได้มีการศึกษา และยอมรับถึงประสิทธิภาพของยาสมุนไพรหลายชนิดแล้วว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างดีเยี่ยมกันมากมายเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ บทความชิ้นนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ หนึ่งในยาสมุนไพรของประเทศจีน ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนับพันปี แต่หลายๆคนกลับมองข้ามความสำคัญไป ซึ่งเจ้ายาสมุนไพร ที่กำลังจะกล่าวถึงนั้นก็คือ “พทุทราจีน” นั่นเอง

ประวัติศาสตร์ของพุทราจีน
 พุทราจีน เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนเหนือ และได้รับความนิยมบริโภคในประเทศจีนมานานกว่า 4,000 ปี พุทราจีนอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดีเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว และช่วยในการรักษาและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับผิวพรรณต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าของจีนที่เกี่ยวข้องกับพุทราจีนว่า เป็นเสมือน “ยาอายุวัฒนะ” ที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผู้ที่รับประทาน
ในตำนานเรื่อง “การเดินทางสู่ทิศตะวันตก”  กษัตริย์นักเดินทางได้เกิดเจ็บป่วยหนักในระหว่างการเดินทางสู่ประเทศทางทิศตะวันตกเพื่อตามหาความลับแห่งชีวิต ในวันหนึ่งในขณะที่อาการป่วยของกษัตริย์กำเริบหนักมากจนเจียนตาย ซ้ำร้ายม้าที่ใช้เดินทางยังวิ่งเตลิดหายไป กษัตริย์ได้บังเอิญพบกับเทพเจ้าแห่งอายุวัฒนะในป่า แต่เทพไม่ได้นำยาที่จะสามารถช่วยรักษาอาการป่วยของกษัตริย์มาด้วย จึงได้มอบพุทราจีนให้กับกษัตริย์เป็นจำนวน 3 เม็ด  เมื่อกษัตริย์ทานเข้าไปกลับรู้สึกสดชื่น และมีกำลังวังชามากขึ้นในทันที
 แพทย์ในประเทศจีน และประเทศเกาหลีในสมัยโบราณ มักนำพุทราจีนมาใช้เป็นผลไม้ในทางการแพทย์ในฐานะของโภชนาการบำบัด โดยถือว่าเป็นพลังงานที่อบอุ่น หรือ “พลังหยาง” และยังเชื่อว่าพุทราจีนเป็นยาอายุวัฒนะ ที่สามารถช่วยชะลอกระบวนการชราของเซลล์ต่างๆในร่างกาย จนกระทั่งกลายมาเป็นผลไม้ที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนานว่า จะต้องรับประทานเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้พุทราจีน ยังนิยมถูกนำมาใช้ในการบำรุงคงความงามของสตรี ด้วยสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียอาการอักเสบของผิว เพิ่มความแข็งแรงของผิว กระตุ้นการเซลล์ผิวให้มีการซ่อมแซมตัวเอง บำรุงผิวให้ขาวเนียนกระชับ และยังช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณด้านอื่นๆ อาทิเช่น สิว กระ ฝ้า จุดด่างดำ พร้อมกับต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอริ้วรอยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พุทราจีนยังช่วยบรรเทาความเครียด ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สำคัญต่อความงามอีกด้วย

การศึกษาและการนำพุทราจีนไปใช้ประโยชน์ในฐานะยาสมุนไพร
  ในปัจจุบันประเทศไทยได้นำเข้าสารสกัดจากพุทราจีน ในฐานะสินค้าเกรดทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการค้นคว้าวิจัยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่พบว่าสารสกัดจากพุทราจีนมีคุณสมบัติในการ ช่วยเร่งให้เกิดระบวนการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ ทำให้ฝ้า รอยด่างดำ กระ หลุดออกไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เผยให้เห็นผิวใหม่ที่ขาวเนียนสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ พุทรายังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ควบคุมความมัน ลดสาเหตุของการเกิดสิว รวมไปถึงการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาด้านผิวพรรณอื่นๆ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ลดรอยแผลเป็น โอกาสเกิดรอยแตกลายให้น้อยลง นอกจากนี้จากข้อมูลของสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข พุทรายังถูกจัดให้เป็น 1 ในผลไม้ 10 ชนิดแรก ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามินซีนั้น มีคุณสมบัติสุดมหัศจรรย์ที่ช่วยทำให้ผิวสวย ชุ่มชื้น ไม่แห้งเสีย เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ลดอาการอักเสบของผิว และยังสามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.