อัมพาต รักษาได้ด้วยการนวดสมุนไพร

         มีการคาดการณ์ว่า มีผู้ป่วยใหม่ที่เป็นโรคอัมพาตเกิดขึ้นในประเทศไทยปีละกว่า 150,000 ราย ซึ่งการป่วยเป็นโรคนี้มีค่าใช้จ่ายในรักษาต่อคนสูงมาก อยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อปี นั่นหมายถึงว่าโดยรวมแล้วเราต้องเสียเงินไปกว่านับพันล้านเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยอัมพาต ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อัมพาตเกิดขึ้นกับเราและคนใกล้ตัว สิ่งที่ควรทำก็คือการตระหนักรู้ถึงสาเหตุ แล้วพยายามหลีกเลี่ยงมัน นอกจากนี้ยังควรป้องกันด้วยสมุนไพรธรรมชาติที่เราได้คัดสรรมาให้ในวันนี้

อัมพาต คืออะไร
         อัมพาต คือภาวะที่เกิดจากการที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมอง ทำให้การทำงานของสมองหยุดชะงัก อธิบายง่ายๆคือ ถ้าสมองจะได้รับออกซิเจนและอาหาร ที่มีอยู่ในเลือดมาบำรุงเลี้ยง การทำงานของร่างกายก็จะเป็นปกติ แต่หากมีเส้นเลือดบางส่วนที่ไปเลี้ยงสมองเกิดตีบลง อุดตัน เป็นโรคหรือบาดเจ็บ ผลที่ตามมาก็คืออาการอัมพาต แสดงอาการอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่งหรือทั้งสองซีกของร่างกาย อาจมีอาการร่วมกับตามองไม่เห็น หูไม่ได้ยิน หรืออาจจะพูดไม่ได้

         กระนั้นก็ตาม บ่อยครั้งที่การหมุนเวียนของเลือดชะงักไปเป็นเวลาสั้นๆ ฉะนั้น ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่สัปดาห์ อาการก็จะทุเลาลงซึ่งมักเรียกว่า “อัมพฤกษ์” แต่บางครั้งอาจเกิดความเสียหายร้ายแรงกว่านั้น และผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาบำบัดอย่างดี จึงจะช่วยให้อาการกลับมาใกล้เคียงเหมือนปกติ

สาเหตุของอัมพาต
         1.เกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบ มักเกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดมีการแข็งตัว จึงมีผลให้เลือดไปยังสมองได้น้อยและมีการตันในหลอดเลือดนั่นเอง
         2.เกิดการอุดตันในหลอดเลือด สาเหตุเพราะมีก้อนเลือดหลุดมาจากที่ต่างๆของร่างกาย เช่น จากหัวใจแล้วมาอุดหลอดเลือดในสมอง จึงทำให้สมองขาดเลือด
         3.เกิดหลอดเลือดในสมองบางเส้นแตก เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองแข็ง แล้วมีการแตกของหลอดเลือด
         4.การอักเสบของหลอดเลือด เกิดจากภาวะที่มีการอักเสบในสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ วัณโรคของสมองและมีผลทำให้หลอดเลือดของสมองอักเสบตามมา ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
         5.อุบัติเหตุของสมอง ภาวะที่มีอุบัติเหตุต่อสมองหรือภยันตรายต่อสมองจะทำให้มีการฉีกขาดของหลอดเลือดและมีเลือดออกในสมองอาจจะกดหรือเบียด ทำให้เกิดอัมพาตขึ้นได้เช่นกัน

การนวดสมุนไพรรักษาอัมพาต
         หลายคนอาจสงสัยว่าการนวดสมุนไพรจะรักษาอัมพาตให้หายขาดได้จริงหรือ? คำตอบก็คือโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของแต่ละคนจะแตกต่างกัน บางรายแค่พอมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาบ้าง ในขณะที่อีกรายแทบจะใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ ซึ่งจำเป็นที่ต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูและบำบัดเพื่อให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

         การนวดผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาตนั้น จะใช้การนวดแบบสัมผัสก่อน เนื่องจากผู้ป่วยไม่ตอบสนองในการรักษาและไม่สามารถขยับเขยื้อนส่วนต่างๆของร่างกายได้ ดังนั้น จึงต้องทำการรักษาโดยการนวดแบบสัมผัส ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาจะลูบ และบีบเบาๆตามกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายความตึงของกล้ามเนื้อ โดยทำการนวดติดต่อกัน 3 วัน ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น สามารถขยับแขนขา ตั้งขาได้ ก็จะทำการรักษาผู้ป่วยโดยการนวดแบบฟื้นฟู ซึ่งในขั้นตอนนี้จะเป็นการนวดที่ลงจุดตามแนวเส้นพื้นฐานโดยจะมีการใช้สมุนไพรเข้ามาช่วยในการรักษาด้วย เมื่อผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ ก็จะมีการนัดผู้ป่วยมาทำการนวดเพื่อบำบัดโดยอยู่ที่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
         สำหรับสมุนไพรที่ใช้ในการรักษา จะมีลูกประคบที่ใช้ในการรักษาที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด อาทิ ผิวมะกรูด ขมิ้นชัน เกลือ การบูร ไพล และตะไคร้บ้าน ซึ่งขั้นตอนในการผลิตนั้นจะนำสมุนไพรทั้งหมดไปล้างน้ำให้สะอาดและนำมาใส่ครกตำ แต่ถ้าหากต้องใช้ในจำนวนที่มากก็จะมีเครื่องบดมาช่วย หลังจากนั้นก็จะนำไปนึ่ง 15-20 นาที เมื่อนึ่งเสร็จก็จะนำมาประคบให้กับผู้ป่วยโดยใช้ระยะเวลาในการประคบครึ่งชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้ลูกประคบยังช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเขา ปวดบ่าได้อีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อัมพฤกษ์ อัมพาต ลดเสี่ยงเลี่ยงได้

         บางคนเมื่อได้ยินคำว่า อัมพฤกษ์ อัมพาต แล้วอาจสับสนคิดว่ามันคือโรคเดียวกัน จริงๆแล้วทั้งสองโรคนี้มีความใกล้เคียงกันก็คือเป็นอาการของโรคหลอดเลือดในสมอง ที่ส่งผลให้สมองขาดเลือด จึงเกิดอาการแขนขาใช้งานไม่ได้หรืออ่อนแรง ซึ่งทั้งอัมพาตและอัมพฤกษ์มีสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และการดูแลรักษาเหมือนกัน ต่างกันเพียงความรุนแรงของโรค
         โดยโรคอัมพาต อวัยวะอย่างเช่น แขน และ/หรือ ขาจะขยับเขยื้อนไม่ได้เลย เนื่องจากไม่มีแรง จึงใช้งานไม่ได้ ส่วนโรคอัมพฤกษ์หมายถึงแขน และ/หรือ ขาอ่อนแรงกว่าเดิม แต่ยังพอใช้งานได้ โดยใช้ได้น้อยกว่าปกติ เช่น อาจชา หยิบจับของหนักหรือหยิบจับดินสอเพื่อเขียนหนังสือตามปกติไม่ได้ ดังนั้น อัมพฤกษ์จึงมีความรุนแรงน้อยกว่าอัมพาต


สาเหตุของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

         1.สมองขาดเลือด พบประมาณร้อยละ 70-80 ของผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองเกิดการตีบหรืออุดตัน ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การสูบบุหรี่ ภาวะหัวใจวายหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิด การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
         นอกจากนี้ยังเกิดได้จากโรคเลือดบางอย่าง เช่น ภาวะเลือดข้นผิดปกติ เกร็ดเลือดสูง เม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติ ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอยู่เป็นเวลานานจะเป็นผลให้ผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว เกิดการตีบหรืออุดตัน ทำให้สมองขาดเลือดเกิดอัมพาตตามมาในที่สุด โดยผู้ป่วยเหล่านี้มักมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบร่วมด้วย

         2.หลอดเลือดสมองแตก เมื่อเกิดการแตกของหลอดเลือดสมอง ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดี ทำให้เซลล์สมองทำงานผิดปกติ เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา ภาวะนี้มักสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังเกิดจากความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาบางชนิด

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าอัมพฤกษ์ อัมพาตมาเยือน
         หากมีอาการในข้อหนึ่งข้อใดดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้ล้วนเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองทั้งสิ้น ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมา
         1.มีอาการชา หรืออ่อนแรงของแขนขา หรือใบหน้าข้างใดข้างหนึ่ง
         2.ตาข้างใดข้างหนึ่งมัว หรือมองไม่เห็น 
         3.พูดลำบาก พูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด
         4.มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน 
         5.มีอาการมึนงง หรือเดินไม่มั่นคง เสียศูนย์

 

การป้องกันไม่ให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
         1.รักษาและควบคุมปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การรักษาเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การงดสูบบุหรี่
         2.ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ด้วยการใช้ยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
         3.ลดอาหารไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว อาหารเค็ม และรับประทานผักผลไม้มากๆ 
         4.งดการดื่มสุรา เบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง
         5.ควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งลดความเสี่ยงทั้งโรคหลอดเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย
         6.ควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ จะได้มีภูมิต้านทานโรคต่างๆ รวมถึงอัมพฤกษ์ อัมพาตด้วย ทั้งนี้ ในคนปกติควรออกกำลังกายวันละประมาณ 30 นาที
         7.ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครับทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณพอเหมาะ
         8.หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือด และโรคหัวใจ เพื่อให้การรักษาควบคุมโรคแต่เนิ่นๆ เพราะโรคดังกล่าวอาจทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
         เห็นไหมว่าโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเราแค่ไหน คุณอาจว่าตอนนี้อายุยังไม่มาก เป็นวัยหนุ่มสาวที่แข็งแรง คงเป็นไปได้ยากที่เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ แต่ข้อเท็จจริงก็คือแม้จะเป็นหนุ่มสาววัยทำงานก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ เนื่องจากสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทางที่ดีควรป้องกันด้วยการทำตามคำแนะนำข้างต้น จะได้ห่างไกลจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.