อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ร่างกายแข็งแรง

         หลายคนอาจคิดว่าอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ คงไม่จำเป็นสำหรับร่างกาย แต่จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เนื่องจากคุณค่าอาหารที่เรารับประทานในปัจจุบันมีลดน้อยลงจนอาจเรียกได้ว่า ไม่เพียงพอต่อร่างกาย โดยเฉพาะพวกผักและผลไม้ที่ควรรับประทานแบบสดๆจึงจะให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ ณ ขณะนี้ส่วนใหญ่จะใช้สารเคมีในการปลูก ผนวกกับกรรมวิธีการปรุงอาหาร กว่าจะมาถึงเรา สารอาหารที่เป็นประโยชน์ก็ถูกลดหย่อนลงไปจนอาหารบางอย่างแทบจะไม่มีสารอาหารเหลือไว้เลย
         ด้วยเหตุผลดังกล่าว อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งส่วนมากจะใช้ตามอาการ เช่น บำรุงสมอง บำรุงสายตา บำรุงผิว แก้ปวดข้อปวดกระดูก เป็นต้น อย่างไรก็ดี อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ไม่จำเป็นต้องรอให้เห็นอาการ แต่สามารถรับประทานได้ เพราะเป็นอาหารเสริม ไม่ใช่ยารักษาโรค หากรับประทานอย่างถูกต้องก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพื่อความกระจ่างมากขึ้น มาดูกันว่าคุณเหมาะกับอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพแบบไหน


อาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ

         1.ไฟเบอร์ (Fiber) หรือที่เรียกกันว่า ใยอาหาร ช่วยในการทำงานของลำไส้ ให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น แก้อาการท้องผูก และป้องกันการเกิดริดสีดวง สามารถลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาล รวมถึงสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอต่อวัน หรือผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผักใบเขียวนั่นเอง
         2.น้ำมันปลา (Fish Oil) มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 EPA และ DHL จะช่วยใน 3 เรื่องใหญ่ๆคือ ช่วยพัฒนาในเรื่องความจดจำเรียนรู้ และยังสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ยับยั้งความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย และช่วยบำรุงสำหรับสาวๆที่กำลังตั้งครรภ์และขณะให้นมบุตร
         3.แมกนีเซียม ถือเป็นโคเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในร่างกายที่จะทำงานร่วมกับแคลเซียม ซึ่งจะช่วยให้การผลิตฮอร์โมนต่างๆเป็นปกติ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ระบบสืบพันธุ์ ระบบเลือด และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะโรคความเครียด ไมเกรน และภาวะกระดูกพรุน ถ้าได้รับประทานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยกันทำงานได้ดีมากและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

         4.แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายมากกว่าแร่ธาตุอื่นๆ แคลเซียมและฟอสฟอรัส จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยร้อยละ 20 ของแคลเซียมในกระดูกของวัยผู้ใหญ่ จะถูกย่อยสลายและสร้างใหม่ทุกปี นอกจากนี้ร่างกายจำเป็นต้องมีวิตามินดีที่เพียงพอ แคลเซียมจึงจะดูดซึมได้ดี ทั้งนี้ ในอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพโดยส่วนใหญ่จะมีวิตามินรวมและแร่ธาตุที่จะใส่แคลเซียมอยู่ด้วย เพราะเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
         5.วิตามินรวม มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น การเจริญเติบโต ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และต่อต้านเชื้อโรค วิตามินยังมีบทบาทในการเปลี่ยนอาหารไปเป็นพลังงานโดยขบวนการทางเคมี วิตามินแบ่งออกเป็นชนิดละลายในน้ำและละลายในไขมัน ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป วิตามินบางตัวเป็น antioxidants ซึ่งป้องกันเซลล์มิให้ถูกทำลาย ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็งจากอนุมูลอิสระ (free radical) สมัยก่อนเชื่อว่าหากรับประทานอาหารได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริม แต่ปัจจุบันได้มีรายงานว่าการรับวิตามินเกินความต้องการของร่างกาย อาจจะทำให้ป้องกันโรคได้ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น

         6.สารสกัดจากใบแปะก๊วย ขอเสริมด้วยสารสกัดอีกหนึ่งตัวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ นั่นก็คือสารสกัดจากใบแปะก๊วย ที่ช่วยในเรื่องการป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ บำรุงความจำ ป้องกันและรักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงสายตา อาการชา มือเท้าเย็น และอาการตะคริว เหน็บชา และยังช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนในเพศชายอีกด้วย
         จะสังเกตได้ว่าอาหาร เสริม บำรุง สุขภาพ ต่างก็มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำให้สุขภาพแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่พร้อมจะมาเยือนเราได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรับประทานอาหารเสริมควรใช้ตามคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม จึงจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยผักผลไม้บำรุงเลือด

         หลายคนอาจคิดว่าอาหารบำรุงเลือดนั้นจำกัดอยู่แต่เพียงจำพวกเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่จริงๆแล้วยังมีพืชผักผลไม้อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อโลหิต หรือช่วยในการบำรุงเลือดได้ ที่สำคัญคือผักผลไม้เหล่านั้นสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกังวล เนื่องจากไม่มีไขมัน คอเลสเตอรอล และท็อกซิน เฉกเช่นที่เนื้อสัตว์ทิ้งไว้ให้ ดังนั้น การรับประทานผักผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจึงมีแต่ดีกับดี
อย่างไรก็ดี หลักการบำรุงเลือด ประกอบไปด้วยอาหาร 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธาตุเหล็กสูง จำเป็นต่อการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง เป็นตัวนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย กลุ่มที่ 2 โฟเลตสูง สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และกลุ่มที่ 3 คือผักผลไม้ที่ให้วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโฟเลตและธาตุเหล็กได้ดี


ผัก ผลไม้ บำรุงเลือด

1.ผักกูด มีธาตุเหล็ก และเบต้า-แคโรทีนสูง ซึ่งหากรับประทานร่วมกับเนื้อสัตว์จะทำให้เกิดการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ช่วยไม่ให้อ่อนเปรี้ยเพลียแรง หรือซีดง่าย ช่วยบำรุงเลือด ควบคุมความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง เนื่องจากมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก
2.แก้วมังกร นอกจากผู้ที่รับประทานแก้วมังกรอยู่เป็นประจำจะมีผิวที่ไร้ริ้วรอย ดูเนียนเรียบ ยังมีผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรส่วนเนื้อสีแดงนั้นมีผลดีต่อระบบไหลเวียนของเลือด ทั้งยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยในการสร้างเชลล์เม็ดเลือดอีกด้วย นอกจากนั้นเลือดไฟเบอร์ที่มีอยู่ในแก้วมังกรนั้นยังช่วยรักษาและสร้างความแข็งแรงให้กับบริเวณช่องคลอด รวมไปถึงบรรเทาอาการตกขาวของผู้หญิงได้อีกด้วย

3.สตรอเบอร์รี่ ผลการวิจัยพบว่า สตรอเบอร์รี่นั้นมีวิตามินอยู่มาก ซึ่งช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดงได้เป็นอย่างดี และจากการทดลองอาสาสมัครที่รับประทานสตรอเบอร์รี่ทุกๆวัน วันละประมาณ 1-2 ถ้วย ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน ผลการตรวจเลือดของพวกเขาพบว่ามีเชลล์เม็ดเลือดแดงอยู่ในเกรณ์ที่ปกติมาก จึงส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้นมีผิวพรรณที่สดใส เนียนเรียบ นั่นหมายความว่า ผลไม้แสนอร่อยอย่าวสตรอเบอร์รี่เป็นสมุนไพรบำรุงเลือดชั้นดี
4.ทับทิม ผลไม้นี้ขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายๆ และยังเป็นผลไม้ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาเนิ่นนาน จากผลการวิจัยจากมหาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานทับทิมเป็นประจำทำให้หายจากโรคเบาหวานได้เพราะ ในทับทิมมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บเชลล์เม็ดเลือดแดง โดยทดลองจากผู้ป่วยโรคเบาหวาน 10 คน ให้ดื่มน้ำทับทิมวันละ 1 แก้ว เป็นระยะเวลา 3 เดือน เห็นผลว่ามีระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และมีอาการอ่อนเพลีย ผมร่วง น้อยลงมาก แถมยังมีผิวพรรณที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

5.ตังกุย หลายคนอาจไม่รู้จัก เนื่องจากตังกุยถือเป็นสมุนไพรโบราณ ซึ่งแพทย์ชาวจีนจะที่ใช้บำรุงเลือด รักษาภาวะเลือดพร่อง สีหน้าซีดขาวหรือซีดเหลือง เล็บและริมฝีปากซีด เวียนศีรษะ หูอื้อ ใจสั่น นอนไม่หลับ หลงลืมง่าย หรือประจำเดือนมาช้า ปริมาณเลือดมาน้อย สีจางอ่อน หรือประจาเดือนขาดหายไป สีลิ้นซีด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังใช้ตังกุยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มความชุ่มชื้นให้ลำไส้ ช่วยการขับถ่ายได้อีกด้วย
6.กล้วย ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย ช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด ที่สำคัญคือมีผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology ระบุว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี
นอกจากผักผลไม้ดังกล่าวแล้ว หากอยากสุขาพดีก็ควรเสริมด้วยการรับประทานโยเกิร์ตไร้ไขมันรสธรรมชาติเป็นประจำ และรับประทานปลา หรืออาหารทะเลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าครบสูตรอย่างสมบูรณ์สำหรับบำรุงเลือด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.