อยากผิวขาวใส ขาวไว วิตามินซี 1000 mg

         เป็นใครก็อยากผิวขาวใสกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ให้สำคัญกับการดูแลผิวพรรณเป็นพิเศษ ทั้งรับประทานอาหารเสริมเพิ่มความขาว ชโลมครีมบำรุงผิวแสนแพง หรือบางคนถึงกับไปฉีดสีผิวก็มี นั่นแสดงให้เห็นว่าสาวๆในบ้านเราส่วนมากอยากผิวขาวใสอ่อนกว่าวัยกันมากแค่ไหน
         อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากผิวขาวใสออกมาจากข้างใน สิ่งที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ก็คือสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวอย่าง “วิตามินซี” ซึ่งต่างก็ทราบกันดีว่าวิตามินชนิดนี้มีอยู่ในผักผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอ สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น ทว่าส่วนใหญ่มักไม่ชอบรับประทานผักผลไม้กัน ฉะนั้น อาหารเสริมวิตามินซี 1000 mg จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนที่อยากผิวขาวใส ขาวไวนั่นเอง


การทำงานของ วิตามินซี 1000 mg

         เมื่อได้รับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีสารอาหารที่เข้าไปกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารและมีระบบการไหลเวียนที่ดีขึ้นก็จะทำงานได้ดีขึ้น ผิวจึงแลดูมีสุขภาพดี เรียบเนียน สดใส ออร่าจับมากขึ้น รวมทั้งวิตามินซีเป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น จึงทำให้ผิวเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร
         การรับประทานวิตามินซี นอกจากจะช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใสขึ้นแล้ว ยังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เพราะวิตามินซีช่วยให้ผิวมีกระบวนการซ่อมแซมและรักษาตัวเองได้ดี โดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านการอักเสบ นั่นหมายความว่าวิตามินชนิดนี้ช่วยทำให้จุดดำจุดแดง หรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวหายได้เร็ว ใบหน้าที่หมองคล้ำ จึงกลับมาสดใสมากขึ้น
         สำหรับคำถามที่ว่า ถ้าอยากผิวขาวใส ขาวไว ทำไมถึงต้องรับประทานวิตามินซี 1000 mg คำตอบคือ การใช้วิตามินซีเพื่อช่วยให้ผิวขาวสดใสขึ้นนั้นควรรับประทานในปริมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัมขึ้นไป เพราะเป็นปริมาณที่เหมาะสม และไม่ส่งผลอันตราย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง เนื่องจากวิตามินชนิดนี้มีคุณสมบัติละลายในน้ำ ร่างกายจึงขับมันออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และยังไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับพิษภัยร้ายแรงที่เกิดจากการได้รับวิตามินซีมากเกินไป


ประโยชน์ที่มากกว่าผิวขาวใส

         ประโยชน์จากวิตามินซีนั้นมีมากมายสารพัด ไม่ว่าจะช่วยปกป้องเซลล์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน ทั้งยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ วิตามินซียังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีก
         1.แก้โรคหวัด หากเริ่มรับประทาน วิตามินซี ตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัด จะช่วยให้อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็วขึ้น มีการศึกษาเมื่อปี 1995 พบว่าหากรับประทาน วิตามินซี 1,000-6,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัด จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้นร้อยละ 21 ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าวิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้
         2.เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยการไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินอี มันจะไปลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นที่มาของโรคหัวใจนั่นเอง
         3.ป้องกันและต่อสู้กับมะเร็ง มีการศึกษาอย่างมากในเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยยังมีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยววิตามินซีกับการป้องกันและต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่เนื่องจากวิตามินเป็นสารต่ออนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม จึงสามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

         4.ป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจากวิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตร้าไวโอเลตที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก ทั้งยังมีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่รับประทานวิตามินซีมาอย่างน้อย 10 ปี มีความเสี่ยงที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นมัวซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก ลดลงถึงร้อยละ 77
         5.บรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส โดยธรรมชาติแล้ววิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกษรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคไซนัส ที่สำคัญคือมีการศึกษาค้นคว้าพบว่า วิตามินซีช่วยป้องกันและทำให้อาการหอบหืดดีขึ้น
         6.ช่วยป้องกันอาการไมเกรน เมื่อรับประทานร่วมกับ pantothenic acid โดยวิตามินซีจะเข้าไปช่วยในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น
         7.ช่วยเรื่องความจำ โดยวิตามินซีจะช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะไบโลบ้า และโคเอนไซม์ Q10

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิตามินอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงผิวให้ขาวได้อย่างรวดเร็ว

         ผิวของคนเรา จำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินบำรุงผิวอย่างเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวยังคงมีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา จากการศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นว่า มีสารอาหารบางชนิดที่จำเป็นในการป้องกันริ้วรอยบนผิว แต่ความจริงที่น่าเศร้าที่หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเลยก็คือ วิตามินบำรุงผิวที่คุณได้รับผ่านมื้ออาหารในชีวิตประจำวันนั้น ร่างกายของคุณได้รับเพียงร้อยละหนึ่งของอาหารที่คุณทานเข้าไป ไม่ว่าจะมากน้อยเท่าใดก็ตาม ดังนั้นการทานวิตามินบำรุงผิวเสริม เพื่อถมช่องว่างความต้องการวิตามินในร่างกายให้เต็มนั้น จึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีความสำคัญมากเลยทีเดียว และถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่า เอ… แล้ววิตามินบำรุงผิวที่ดีที่สุดในการบำรุงผิวนั้นมีอะไรบ้าง? คุณสามารถติดตามหาคำตอบได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

สุดยอดวิตามินบำรุงผิวในโลกใบนี้มีอะไรบ้าง?
         1.Retinoids หรือกรดวิตามินเอ เป็นวิตามินบำรุงผิวสำหรับต่อต้านริ้วรอย ที่ได้รับการค้นคว้าวิจัย และพิสูจน์แล้วกว่า 700 ชิ้น ว่าสามารถช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำให้จางหายไป พร้อมกับช่วยลดความหยาบกร้านของผิวให้ผิวกลับมาราบลื่นมากขึ้นหากมีการใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
การใช้งาน Retinoids เป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีข้อจำกัด โดยแนะนำให้ใช้ในช่วงเวลากลางคืน ที่ปลอดแสงแดด อย่างน้อย 2-3 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผิวของวิตามินบำรุงผิวชนิดนี้ สามารถทำงานให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วได้ภายใน 4-8 สัปดาห์ สำหรับปริมาณที่ใช้ในการบำรุงผิวหน้าของคุณอย่างเหมาะสม เพียงปริมาณเท่าเม็ดทั่ว กรดวิตามินเอก็มากเพียงพอแล้วที่จะช่วยครอบคลุมบำรุงใบหน้าโดยรวมของคุณ
         2.วิตามินบี 3 เป็นวิตามินบำรุงผิวที่ได้รับพิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดรอยแดงบนผิวให้น้อยลง โดยการปกป้องผิวชั้นนอกเอาไว้ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้วิตามินบี 3 ยังช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิลยังเซลล์ผิวจุดต่างๆ ที่ทำให้เกิดรอยด่างดำขึ้นบนผิวอีกด้วย วิตามินบี 3 จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวแห้ง และต้องการได้รับวิตามินบำรุงผิวอย่างเหมาะสม

         3.วิตามินซี ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีอย่างน้อย 5% มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยบำรุงผิวพรรณ จากการศึกษาวิจัยทั่วโลก ทำให้เราพบว่า อนุมูลอิสระเป็นสิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นบนผิว ในขณะที่วิตามินซีนั้น สามารถช่วยทำให้ผิวมีความเรียบเนียน เต่งตึง และลดเลือนจุดสีน้ำตาลบนผิวให้น้อยลง นอกจากนี้ในการศึกษาผู้หญิง ที่ผิวได้รับการทำลายจากแสงแดด ด้วยครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่าผิวมีการเปลี่ยนสี มีความสมบูรร์มากขึ้น ดังนั้นการใช้ครีมบำนรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ทาก่อนครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทึกครั้ง ผิวของคุณก็จะได้รับการปกป้องดูแลได้ดีมากยิ่งขึ้น
         4.วิตามินอี เป็นวิตามินบำรุงผิว ที่ช่วยลดความแห้งกร้าน และส่งเสริมการปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวี เพียงส่วนผสมของวิตามินอี อย่างน้อยที่สุด 1% ภายในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว วิตามินอีก็จะสามารถช่วยปราบความแห้งกร้าน ด้วยการทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ นอกจากนี้วิตามินอี ยังช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ จนกระทั่งได้รับฉายา “ซุปเปอร์สตาร์” ในการปกป้องดูแลผิวเลยทีเดียว สำหรับการใช้วิตามินอีในการบำรุงผิวพรรณที่เหมาะสมที่สุดนั้น ควรใช้ก่อนและหลังการสัมผัสกับแสงแดดอย่างรุนแรง
การเข้าใจคุณสมบัตที่แตกต่างกันของวิตามินบำรุงผิวแต่ละชนิด พร้อมกับวิธีการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม ล้วนแล้วแต่ทำให้คุณสามารถดึงเอาประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของวิตามินออกมาใช้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นการช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณให้ขาวเนียน สดใส อย่างยาวนานเลยทีเดียว

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.