เลิกบุหรี่ได้ด้วยยาโควเมม

         เชื่อเหลือเกินว่าเราทุกคนต่างก็รับรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวผู้สูบบุหรี่เอง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด จะเพราะความเท่ห์หรือเพราะอาการติดสารนิโคตินอย่างงอมแงม ก็พึงทราบเถิดว่าไม่ใช่แค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่ได้รับผลเสียจากการสูบบุหรี่ แต่ยังหมายรวมถึงบุคคลรอบข้างที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย
         ที่เกริ่นมาแบบนี้ บางคนอาจคิดว่าเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมผู้สูบบุหรี่ แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ วัตถุประสงค์ของบทความนี้ก็เพื่อให้คนที่อยากเลิกบุหรี่ได้เตือนสติตัวเอง และกำลังใจให้ผู้ที่กำลังเลิกบุหรี่ ซึ่งทราบกันดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ อย่างไรก็ตาม บทความนี้ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลิกบุหรี่มาฝาก โดยหวังเพียงว่าวิธีนี้จะเป็นตัวช่วยให้การเลิกบุหรี่ของคุณเป็นสิ่งที่ง่ายดายมากขึ้น

 

การเลิกบุหรี่ ด้วยยาเลิกบุหรี่ โควเมม
         โควเมม (Quomem) เป็นยาเลิกบุหรี่ ที่ประกอบด้วยตัวยา  Bupropion HCl 150 มิลลิกรัมต่อเม็ด ยานี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์เนิ่น หรือตัวยาจะค่อยๆปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ โดยตัวยา Bupropion HCl จะออกฤทธิ์ ในการดึงกลับของสารสื่อประสาท ซึ่งได้แก่ สารโดปามีน สารเซอราโทมีน และนอร์เอปิเนฟรินได้ สำหรับผู้ติดบุหรี่จะเกิดจากนิโคติน ที่จะไปกระตุ้นให้ร่างกายให้สร้างสารโดปามีน ซึ่งสารดังกล่าวทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุข ที่เรียกกันว่า “ฟิน” นั่นเอง
         ด้วยหลักการทำงานของยาเลิกบุหรี่ โควเมม จึงทำให้คุณรู้สึกอยากสูบบุหรี่ได้น้อยลง มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการเลิกบุหรี่ให้สัมฤทธิ์ผล เนื่องจากเหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้การเลิกบุหรี่ไปไม่ถึงฝั่ง ก็เพราะเจ้านิโคตินที่เป็นสารชนิดหนึ่งที่ทำให้คุณเสพติด


หลักการใช้ยาเลิกบุหรี่ โควเมม

         การเริ่มยาตั้งแต่วันที่ 1-3 ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ตอนเช้า ถ้าตื่นนอนแล้วรับประทานเลยก็จะยิ่งดี โดยในวันแรกๆนี้ ยังอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ตามต้องการ ยังไม่ควรหยุดแบบหักดิบ เพราะจะทำให้ร่างกายปรับไม่ทัน อาจเกิดความอยากสูบบุหรี่จนทนไม่ไหว พอย่างเข้าวันที่ 4-7 ของการรับประทานยาเลิกบุหรี่ ให้รับประทานวันละ 2 เม็ด คือ 1 เม็ด ตอนตื่นนอน และตอนเย็น ระหว่างนี้ยังอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ (แต่ส่วนใหญ่ความต้องการสูบบุหรี่จะเริ่มลดน้อยลง)
         หลังจากวันที่ 8 เป็นต้นไป ให้รับประทานยาวันละ 2 เม็ดเช่นเดิม คือ 1 เม็ด ตอนตื่นนอน และเย็น แต่พอถึงวันนี้ ต้องงดการสูบบุหรี่อีกต่อไป ซึ่งร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่อยากเลิกสูบบุหรี่ กระนั้นก็ตาม ปกติการใช้ยาเลิกสูบบุหรี่ โควเมม ควรใช้ต่อเนื่องไปในเวลา 7-10 สัปดาห์ จนกว่าเจ้าตัว จะรู้สึกว่าสามารถหยุดบุหรี่ได้โดยสิ้นเชิง หรือไม่รู้สึกอยากกลับมาสูบอีก

 

ข้อห้ามใช้ของยาเลิกบุหรี่ โควเมม
         ห้ามใช้ในคนที่มีประวัติโรคที่เกี่ยวกับการชัก (Seizure) และห้ามใช้ในคนที่ใช้ยาตัวนี้อยู่ก่อน เพราะยาที่มีขนาดเกินกำหนดจะทำให้เกิดการชักได้ (ไม่ควรกินเกิน 150 mg หรือ 1 เม็ดเช้า เย็น (คือ 300 mg) โดยแต่ละครั้งต้องห่างกันอย่างน้อย 8 ชั่วโมง) นอกจากนี้ คนไข้ Bulimia และ Anorexia nervosa (มีโอกาสชักได้ง่ายกว่าคนทั่วไป) รวมถึงคนไข้ที่ได้รับยา กลุ่ม MAOI ก็ควรงดเว้นยาเลิกบุหรี่ โควเมม
         สำหรับอาการข้างเคียงของยานี้ที่พบบ่อย หลังจากใช้ยาเลิกบุหรี่ โควเมม อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะบ้าง จนทำให้นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท และมีอากรปากแห้งในบางราย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากคุณมีความตั้งใจจริง ผนวกกับความอดทนที่มากพอ รับรองว่าการเลิกสูบบุหรี่จะสำเร็จลุล่วงไปอย่างง่ายดาย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

คนอยากเลิกบุหรี่ ควรทราบ! อะไรเอ่ย? อยู่ในบุหรี่

         ที่ต้องเกริ่นชื่อเรื่องว่า “คนอยากเลิกบุหรี่ ควรทราบ! อะไรเอ่ย? อยู่ในบุหรี่” เนื่องจากเนื้อหาในบทความนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเลิกบุหรี่เท่านั้น เพราะเชื่อว่าคนที่สูบบุหรี่โดยไม่สนใจใส่ใจต่อสุขภาพตัวเองและบุคคลอื่น ต่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโทษของมันมากเพียงใด ก็หาได้มีผลใดๆต่อเขาไม่
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ที่สูบบุหรี่ คุณไม่ได้แค่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น หากแต่ยังหมายรวมถึงคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ชิดด้วย เพราะควันบุหรี่ถือเป็นสารพิษที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย โดยปัญหาการสูบบุหรี่นับเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบระดับโลก ก่อให้เกิดโรคที่ก่ออันตรายคุกคามต่อชีวิต จากสถิติของสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค พบว่าคนไทยที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีผู้สูบบุหรี่ทุกชนิดรวม 13 ล้านคน อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 20 เท่า มีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้นราว 2-3 แสนคนต่อปี

นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ปีละประมาณ 52,000 คน เฉลี่ยวันละ 142 คน ชั่วโมงละ 6 คน โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด 5.1 ล้านคน รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง 4.7 ล้านคน ผู้ที่สูบบุหรี่จัดมีโอกาสตายด้วยโรคมะเร็งมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 20 เท่า ที่สำคัญ 1 ใน 4 เป็นเด็กเล็กที่ตายเพราะได้รับควันบุหรี่มือสอง หากการควบคุมการบริโภคยาสูบไม่เข้มแข็ง จะมีการตายด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ถึง 8 ล้านคนใน 20 ปีข้างหน้า
ถึงแม้ว่ากระแสการต่อต้านบุหรี่ และมีโครงการสนับสนุนผู้ที่อยากเลิกบุหรี่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการมีภาพเตือนภัยของบุหรี่ที่หน้าซองบุหรี่ การเก็บภาษีมากขึ้น (เข้ารัฐ) หรือมีการจัดตั้งศูนย์บริการเลิกบุหรี่โดยเฉพาะ เช่น ศูนย์บริหารเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มการสูบบุหรี่จะไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจเป็นเพราะการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด?


อะไรเอ่ย? อยู่ในบุหรี่

1.นิโคติน เป็นสารที่มีลักษณะคล้ายน้ำมัน ไม่มีสี ร้อยละ 95 ของนิโคติน ที่เข้าสู่ร่างกายจะไปจับอยู่ที่ปอด บางส่วนจับอยู่ที่เยื่อหุ้มริมฝีปาก และบางส่วนถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด มีผลโดยตรงต่อต่อมหมวกไต ทำให้มีการหลั่งสารเอพิเนฟริน ก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว หลอดเลือดแดงหดตัว และอาจหัวใจวายได้ มีการเพิ่มของไขมันในเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ และอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
2.ทาร์ (น้ำมันดิน) มีลักษณะเป็นละอองของเหลวเป็นยางสีน้ำตาลเข้มคล้ายน้ำมันดิบร้อยละ 50 ของทาร์จะจับอยู่ที่ปอด ทำให้เซลล์ของปอดไม่ทำสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ เมื่อรวมตัวกับฝุ่นที่สูดเข้าไปจะยังอยู่ในถุงลมปอด ทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นสาเหตุของการไอเรื้อรัง ก่อให้เกิดมะเร็งปอด และถุงลมโป่งพอง

3.สารจำพวกกรดและฟีนอล ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุผิว และรบกวนการทำงานของขนเล็กๆ ในจมูก
4.สารจำพวกอัลดีไฮด์และคีโตน สารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุผิวของระบบทางเดินหายใจ
5.สารจำพวกโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ตัวที่พบมากที่สุดในควันบุหรี่คือ เบนโซ-(เอ)-พัยรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอย่างร้ายแรง
6.คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นก๊าซที่มีความเข้มมากในควันบุหรี่เกิดจาการเผาไหม้ของใบยาสูบ จะขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ทำให้ผู้สูบบุหรี่ได้รับออกซิเจนน้อยลงกว่าปกติ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10-15 ทำให้หัวใจต้องเต้นเร็วกว่าปกติ เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายให้เพียงพอ มีการปวดหัว คลื่นใส้ กล้ามเนื้อแขนและขาไม่มีแรง
7.ไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคถุงลมโป่งพอง เพราะทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลาย และถุงลม

8.แอมโมเนีย มีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทำให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ เกิดอาการไอ และมีเสมหะมาก
9.ไฮโดรเจนไซยาไนด์ เป็นก๊าซที่ก่อให้เกิดอาการไอ มีเสมหะ และหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
10.สารพิษชนิดอื่นๆ ได้แก่ สารเคมีกำจัดแมลง เช่น พาราไธออน ซึ่งตกค้างมาจากใบยาสูบ และโลหะหนักบางชนิด เช่น สารหนู นอกจากนี้อาจพบสารกัมมันตภาพรังสี เช่น เรเดียม โปโลเนียม
ดังนั้น ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ เมื่อรู้แล้วว่าบุหรี่ให้โทษมากเพียงไหน ก็อย่าได้รีรอ จงเริ่มเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะได้กลับมาสุขภาพดีกันถ้วนหน้า …การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ แต่ต้องอาศัยความเข้มแข็งของร่างกายและจิตใจเป็นสำคัญ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากเลิกบุหรี่ ต้องดู! พิษภัยที่เลี่ยงไม่ได้จากบุหรี่

         แม้บุหรี่จะเป็นสิ่งถูกกฎหมาย (ทำรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเข้ารัฐจากการเก็บภาษีจำนวนมหาศาล) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือสารเสพติดชนิดอ่อนที่ส่งผลเสียมากมายต่อร่างกายต่อทั้งตัวผู้สูบเองและบุคคลรอบข้าง เนื่องจากบุหรี่เป็นฤทธิ์ผสมของสารพิษต่างๆ ในควันควันบุหรี่ที่สูดดมเข้าทางปากและจมูก จึงทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งที่ปอด ปาก หลอดลม กระเพาะปัสสาวะ หรือที่ตับอ่อน เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ และอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์อีกด้วย
         ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้มีผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ แต่อย่างที่บอกไปว่าบุหรี่เป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง การจะทิ้งวงการสิงรมควันนั้นจึงใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้เกินความสามารถของคนที่อยากเลิกบุหรี่อย่างจริงจังเลย เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้เลิกบุหรี่ได้สำเร็จ วันนี้เราจะทำให้คุณรู้ว่าพิษภัยของบุหรี่มันร้ายแรงแค่ไหน


พิษภัยจากบุหรี่ ที่คุณมิอาจหลีกเลี่ยง

         “นายแพทย์ใหญ่มะกันฟันธง 9 โรคใหม่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น ทั้งมะเร็ง มะเร็งลำไส้ วัณโรค เบาหวาน จอตาเสื่อม ฯลฯ ด้าน “หมอประกิต” ชี้ข้อสังเกตมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้เป็นโรคที่ชายไทยป่วยมาก คาดเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ในอดีตที่สูงถึง 60%”
         ข่าวจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า นายแพทย์ใหญ่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปอดและโรคเรื้อรังอื่นๆ เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2507 และหลังจากนั้นก็มีรายงานถึงโรคต่างๆ ที่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากการสูบบุหรี่มาเป็นระยะๆ
         โดยปีนี้ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ได้มีรายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกา พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดรับรอง 9 โรคใหม่ว่าเกิดจากการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบเป็นสาเหตุ ได้แก่ 1.มะเร็งตับ 2.มะเร็งลำไส้ 3.วัณโรค โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดวัณโรคเพิ่มขึ้น มีโอกาสเสียชีวิตจากวัณโรคเพิ่มขึ้น และทำให้วัณโรคกลับเป็นใหม่มากขึ้น 4.เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเบาหวานในผู้ใหญ่ 30-40% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 5.จอตาเสื่อมโดยจะสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น 6.เพดานปากแหว่งตั้งแต่เกิดในมารดาที่สูบบุหรี่ 7.การตั้งครรภ์นอกมดลูก 8.โรคข้อรูมาตอยด์และภาวะภูมิต้านทานร่างกายลดลง และ 9.โรคเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง

         “โดยรวมแล้วการสูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งถึง 12 อวัยวะ และโรคอื่นๆ อีก 17 โรค ในขณะที่การได้รับควันบุหรี่ในคนที่ไม่สูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคได้สิบโรค ทั้งนี้ รายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกามีความสำคัญโดยการเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกในการยืนยันถึงโรคแต่ละชนิดที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่ในคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่” นพ.ประกิต กล่าว
         นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า รายงานฉบับปัจจุบันมีความสำคัญมากต่อประเทศไทยที่ว่ามะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ เป็นมะเร็งลำดับที่หนึ่ง และที่สามในชายไทย ในขณะที่วัณโรค และเบาหวานเป็นโรคที่คนไทยเป็นกันมากขึ้น สภาพการณ์ของโรคที่เป็นอยู่ เป็นผลมาจากการใช้ยาสูบที่มีอัตราสูงมากของชายไทยในอดีตที่สูงถึง 60% เมื่อยี่สิบปีก่อน และแม้ปัจจุบันอัตราก็ยังสูงที่ 40% งานควบคุมยาสูบของประเทศไทยจึงยังต้องการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ภายใต้การนำของรัฐบาลและทุกภาคส่วนอย่างจริงจังต่อไป


อยากเลิกบุหรี่ ต้องเอาชนะใจตนเอง

         จากการรายงานข่าวจะเห็นว่าบุหรี่มีผลเสียร้ายแรงเพียงใด ดังนั้น ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ไม่ควรแค่คิด แต่ต้องลงมือปฏิบัติโดยพลัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ ทั้งนี้ ช่วงแรกของการเลิกสูบบุหรี่ ร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อภาวะขาดนิโคตินในกระแสเลือดจากระดับเดิมที่เคยได้ ในช่วง 3-5 วันแรก คุณอาจจะต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับอาการทางร่างกายซึ่งเป็นผลมาจากร่างกายชำระล้างพิษออกจากตัวคุณ
         อาการที่ว่า ได้แก่ อารมณ์ถูกกระทบง่าย โกรธ รู้สึกเหนื่อยล้า วิตกกังวล หงุดหงิด ตึงเครียด ปวดศีรษะ พักผ่อนได้น้อย มีปัญหาในการนอนหลับ ไม่ค่อยมีสมาธิ อยากอาหารมากขึ้น และน้ำหนักตัวอาจเพิ่มขึ้น แต่เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ เชื่อเถอะว่าทุกอย่างจะไปได้สวย ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่คนอยากเลิกบุหรี่ต้องมีก็คือ การเอาชนะใจตนเอง อดทนอดกลั้นให้ได้ จึงจะสำเร็จ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากเลิกบุหรี่ ทําไง ถึงจะเลิกได้จริง

         อยากเลิกบุหรี่ ทำไง? คำถามเกิดขึ้นบ่อยมากกับบรรดาสิงรมควันทั้งหลาย แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินที่จะทำให้ผู้สูบติดกันงอมแงม แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นสารให้โทษก็ตาม การสูบบุหรี่นำมาซึ่งโรคร้ายมากมาย เช่น โรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น ที่สำคัญยังส่งผลข้างเคียงต่อคนรอบข้างอีกด้วย

         สำหรับเหตุผลที่ทำให้การบอกลาจากบุหรี่เป็นเรื่องยาก ก็เพราะรับเอาบุหรี่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมานาน การที่จะแยกจากมันจึงดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ โดยมักมองตัวเองกับบุหรี่เหมือนเช่นที่ธรรมชาติมีกลางวันก็ต้องมีกลางคืน มีฝนตกก็ต้องมีแดดออก เพียงเพราะเจ้าบุหรี่หนึ่งตัวนั้นๆ ให้ช่วงเวลาผาสุขเล็กๆ แสนสั้นกับการกระตุ้นสมองโดยนิโคติน การจะบอกลาจากบุหรี่สำหรับบางคนจึงเป็นเรื่องน่ากลัว ใครเลยอยากจะปล่อยสิ่งที่บรรเทาอารมณ์ของตัวเองไป
         กระนั้นก็ตาม สำหรับคนที่อยากเลิกบุหรี่จริงๆจังๆ ขอบอกเลยมิใช่เรื่องยาก ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจของแต่ละคน รวมถึงโอกาสและระยะเวลาสักช่วงหนึ่ง ทั้งนี้ เราได้รวบรวม 10 เคล็ดลับสำหรับคนอยากเลิกบุหรี่ จากศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ (Thailand National Quitline) มาให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปใช้ ดังนี้


10 เคล็ดลับ สำหรับคนอยากเลิกบุหรี่

         1.หาที่ปรึกษา พยายามขอคำปรึกษาจากคนที่คุณรู้จักที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จมาแล้ว หรือโทรศัพท์ ขอคำแนะนำในการเลิกบุหรี่ได้ที่ โทร.1600
         2.หากำลังใจ คุณควรบอกให้คนใกล้ชิดทราบถึงความตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่ เพราะกำลังใจจากคนรอบข้างจะช่วยให้คุณมีความพยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้
         3.หาเป้าหมาย คุณควรวางแผนการปฏิบัติตัว โดยกำหนดวันที่จะลงมือเลิกสูบบุหรี่ อาจจะเลือกวันสำคัญต่างๆ ของครอบครัว เช่น วันเกิดตัวเองหรือของลูก วันครบรอบแต่งงาน แต่ทั้งนี้ไม่ควรกำหนดวันที่ห่างไกลเกินไป
         4.ไม่รอช้า คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการทิ้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ให้หมด เตรียมผลไม้รสเปรี้ยวหรือของขบเคี้ยว เพื่อช่วยลดความอยาก รวมทั้งเปลี่ยนกิจกรรมที่คุณมักทำร่วมกับการสูบบุหรี่
         5.ไม่หวั่นไหว เมื่อถึงวันลงมือ ควรตื่นนอนด้วยความสดชื่น บอกตัวเองว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองและคนใกล้ชิด ทบทวนถึงเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเลิกบุหรี่ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ใกล้ชิดกับคนที่ไม่สูบบุหรี่

         6.ไม่กระตุ้น ในระหว่างนี้ขอให้คุณหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้คุณอยากสูบบุหรี่ เช่น ถ้าเคยดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
         7.ไม่หมกมุ่น เมื่อรู้สึกเครียด ให้หยุดพักสมองสักครู่ คลายความเครียด โดยการพูดคุยกับคนอื่นๆ หรือหาหนังสือขำขันมาไว้อ่านบ้างก็ได้ ระลึกถึงเสมอว่า มีคนไม่สูบบุหรี่อีกมากที่คลายเครียดได้โดยไม่ต้องสูบบุหรี่
         8.ไม่นิ่งเฉย ควรจัดเวลาออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 15-20 นาที เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุมน้ำหนัก ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง เพิ่มประสิทธิภาพของหัวใจและปอด
         9.ไม่ท้าทาย อย่าคิดว่ากลับไปลองสูบบ้างเป็นครั้งคราวคงไม่เป็นไร เพราะการลองสูบบุหรี่เพียงมวนเดียวอาจหมายถึงการหวนคืนไปสูความเคยชินเก่าๆ อีก คุณมาไกลมากแล้ว
         10.ไม่ท้อแท้ หากต้องหันกลับไปสูบอีก ไม่ได้หมายถึงคุณเป็นคนล้มเหลว อย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับปรุงตัวเอง ในคราวต่อไป ขอเพียงพยายามต่อไปที่จะเตรียมตัวต่อสู้อีกจนหยุดบุหรี่ให้ได้
         หากคุณปฏิบัติตามเคล็ดลับแสนง่ายนี้ได้ พร้อมกับการมีหัวใจที่มุ่งมั่น อยากเลิกบุหรี่อย่างจริงๆจังๆ แม้จะทำได้ไม่ครบทุกข้อ แต่รับรองว่าความสำหรับในการเลิกบุหรี่จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แม้ช่วงแรกจะทรมานสักหน่อย (เพราะขาดสารเคมีกระตุ้นสมองที่คุ้นชิน) ทว่าจุดหมายปลายทางย่อมสว่างกว่าในอุโมง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.