ผิวสีน้ำผึ้ง ทําไง อยากรู้ต้องดู

         ใครบอกว่ามีแต่ฝรั่งตาน้ำข้าวเท่านั้นที่ชื่นชอบผิวสีแทน ตอนนี้ผิวสีน้ำผึ้งก็กำลังมาแรงในหมู่สาวเอเชียไม่แพ้กัน เนื่องจากผิวสีแทน หรือผิวสีน้ำผึ้งนั้นจะทำให้ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ดึงดูดได้มากกว่า ฉะนั้น ใครที่เกิดมามีผิวสีแทนจงภูมิใจเถิดว่าคุณคือเพชรเม็ดงามของชาวต่างชาติ แล้วสำหรับคนที่มีผิวขาวอมชมพูล่ะ ถ้าอยากได้ผิวสีน้ำผึ้ง ทําไง วันนี้เรานำวิธีเปลี่ยนสาวผิวขาวให้กลายเป็นผิวสีน้ำผึ้งมาฝาก
         แต่ก่อนจะไปที่วิธีการเปลี่ยนสีผิวขออธิบายก่อนว่า “ผิวสีน้ำผึ้ง” แตกต่างจาก “ผิวดำคล้ำ” เพราะคนที่มีผิวสีน้ำผึ้งจะแลดูมีสุขภาพผิวที่ดีกว่า เช่น มีคความชุ่มชื้น เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอกัน ตรงกันข้ามกับคนผิวดำคล้ำที่มักมีสุขภาพผิวไม่ดี สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีกระ ฝ้าขึ้นง่าย บางคนก็มีผิวแห้งอันเนื่องจากมาจากการถูกทำร้ายของมลภาวะ ดังนั้น ผิวสีน้ำผึ้งกับผิวดำคล้ำเสีย จึงมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

วิธีเปลี่ยนให้กลายเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง
         1.อาบแดด วิธีนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ จะสังเกตได้ว่าฝรั่งชอบนอนอาบแดดกันริมหาด แต่สำหรับในบ้านเราควรหลีกเลี่ยงการตากแดดนานเกิน 10 นาที และไม่ควรอาบแดดในช่วงระหว่าง 10.00-15.00 น. ที่สำคัญควรทาครีมกันแดดที่มีค่า Sun Protection Factor (SPF) มากกว่า 15 ขึ้นไป และมีสารป้องกัน UVA มี Accessories พร้อมทั้งร่ม แว่นตา รองเท้า หมวก เพราะรังสียูวีเข้ามาได้ทุกทิศไม่ว่าจะเป็นแนวดิ่ง แนวสะท้อนกลับจากพื้นทราย และแนวขวางที่มาจากน้ำทะเล ทั้งนี้ หลังจากอาบแดดแล้วผิวจะแห้งมาก จึงควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เติมความชุ่มชื้นบรรเทาอาการอักเสบที่ผิว เพียงไม่กี่วันจะสังเกตเห็นว่าผิวจะกลายเป็นสีน้ำผึ้ง
         2.ใช้เครื่องอบผิวแทน (Sunbed) ผิวสีน้ำผึ้ง ทําไง ผู้ที่ต้องการทำผิวสีน้ำผึ้งจะต้องเข้าไปนอนในตู้ที่มีลักษณะคล้ายแคปซูล (Capsule) โดยภายในตู้จะเป็นการส่งผ่านแสงยูวี (UV-Ultraviolet) ชนิดเข้มข้น ฉายไปที่ผิว จนทำให้สีผิวกลายเป็นสีแทน วิธีนี้แม้จะมีข้อดีคือทำให้ผิวคงสีแทนไว้ได้ระยะเวลานานนับเดือน แต่ข้อเสียที่หลายคนต้องคิดหนักก็คือ มีความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ เนื่องจากขั้นตอนการฉายแสงยูวีเข้มข้นมาที่ร่างกายได้รับ ไม่ต่างกับการไปนอนให้แสงแดดแผดเผา กระตุ้นการเกิดมะเร็งผิวหนังไปหลายเท่าตัว อย่างไรก็ดี วิธีนี้ก็ยังได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว และกำลังมีการพัฒนาให้ลดผลข้างเคียงลง

         3.ทาครีมผิวแทนชั่วคราว (Cream Tan) ใครที่สงสัยว่าผิวสีน้ำผึ้ง ทําไง วิธีนี้ก็ถือเป็นอีกคำตอบหนึ่ง โดยมีข้อดีคือไม่ต้องเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง แต่จุดด้อยคือเมื่อทาครีมแล้วจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะด้วยความที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่เคลือบผิวไว้เท่านั้น ดังนั้น หากโดนแดดแล้วเกิดเหงื่อออก หรือมีใครแตะบริเวณที่ทาครีมก็อาจจะหลุดเป็นคราบออกมาได้ง่าย โดยครีมผิวแทนมักมีส่วนผสมของ Dihydroxyacetone (DHA) และ Lawsone ที่สกัดจากต้นอ้อย DHA จะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนเคราตินบนผิวชั้นบนสุด แล้วเปลี่ยนสีผิวให้เป็นผิวสีแทน ทั้งนี้ จะอยู่ได้เพียงแค่ 6-7 วันเท่านั้น เพราะผิวหนังชั้นบนมีการหลุดลอกอยู่ตลอดเวลา
         4.ใช้ตู้พ่นสเปรย์แทน นั่นคือการนำผู้ที่ต้องการทำผิวสีแทนเข้าไปในตู้ซึ่งสามารถพ่นสเปรย์ออกมาเพื่อเปลี่ยนสีผิวให้กลายเป็นสีแทน โดยวิธีนี้จะทำการเปลี่ยนสีผิวที่เคยขาว เป็นสีแทนได้ราวๆ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นสีแทนที่พ่นไว้จะค่อยๆ หลุดลอกออกไปจนผิวกลายเป็นสีเดิม ใครที่สงสัยผิวสีน้ำผึ้ง ทําไง วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่ได้รับความนิยม เนื่องจากใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เผยเคล็ดลับผิวสวยสดใสอ่อนวัยด้วยสารเบต้ากลูแคน

       ในปัจจุบัน เมื่อคุณสาวๆทำการหยิบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือนำเครื่องสำอางแบนรด์ดังหลายๆยยี่ห้อ ที่มีการชูคุณคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้นมาสักชิ้น ให้คุณสาวๆลองพลิกกลับไปอ่านส่วนประกอบด้านหลังของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น และจะพบว่ามักที่จะมีสารที่ชื่อว่า “เบต้ากลูแคน” รวมอยู่ด้วย คุณสาวๆบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้าสารชนิดนี้ มาก่อน และอาจจะยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันมีคุณสมบัติอย่างไร จึงมักถูกเลือกให้มาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมความงามในผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างมากมาย  สำหรับใครที่กำลังเกิดข้อสงสัยเหล่านี้ ในบทความชิ้นนี้จะมีคำตอบให้ค่ะ

เบต้ากลูแคนคืออะไร

อันดับแรก เรามาทำความรู้จักกับเจ้าสารเบต้ากลูแคนกันก่อน เบต้ากลูแคน (Beta Glucan) คือ สารอาหารประเภทแป้ง ที่มีคุณสมบัติโดยพื้นฐานที่ช่วยในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ระบบต้านทานเชื้อโรคต่างๆของร่างกายนั้นมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เบต้ากลูแคน ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกมากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอลในโลหิต หรือทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ด้วยการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ ให้สามารถตรวจพบ และทำลายเชื้อมะเร็งในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ

       สารเบต้ากลูแคน ได้รับการยอมรับจากการค้นคว้าวิจัยจากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ของโลกอย่างมากมาย อาทิเช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาด มหาวิทยาลัยทูเลน มหาวิทยาลัยดิ๊ก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย มหาวิทยาลัยหลุยส์วิล มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เป็นต้น นอกจากนี้เบต้ากลูแคน ยังมีผลงานเอกสารทางวิชาการอีกมากกว่า 1,000 รายการ ที่แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิด เบต้า 1,3/1,6 กลูแคน ไซโมซาน ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์

คุณสมบัติฉบับย่อของเบต้ากลูแคน

1.ลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากยาต้านมะเร็ง

2.ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติให้ดีขึ้น พร้อมกับบรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆ เช่น โรคผื่น ภูมิแพ้ผิวหนัง หอบหืด อาการแพ้เกสรดอกไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

3.ช่วยบรรเทาอาการผลร่วงเนื่องจากความเครียด

4.บรรเทาอาการของโรคปวดตามข้อ หรืออาการข้ออักเสบ

5.ช่วยบรรเทาอาการต่างๆของโรคเอบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอลเลสเตอรรอลในเลือด ฟื้นฟูตับอ่อนให้กลับมาเป็นปกติ

6.ช่วยบรรเทาอาการปอดอักเสบ

7.ช่วยฟื้นฟูบาดแผลภายนอก แผลอักเสบติดเชื้อ

8.มีคุณสมบัติของเส้นใยไฟเบอร์ จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ช่วยปรับระบบขับถ่ายให้กลับสู่ภาวะปกติ

       9.มีคุณสมบัติเป็นอาหารของโบรไบโอติกในลำไส้ ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในร่างกาย

10.ลดการเกิดภาวะกรดไหลย้อน ซึ่งมักเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร

11.ช่วยปรับระดับการทำงานของเซลล์ในร่างกาย

12.ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย

เบต้ากลูแคนการดูแลสุขภาพผิว

สารเบต้ากลูแคน จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ Langer Hans ที่มีหน้าที่คุ้มกันผิวหนังให้ออกมาทำการกำจัดสิ่งแปลกปลอม และป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดใหญ่ดังกล่าว จะผลิตสารคัดหลั่งที่มีประโยชน์ต่อผิวหนัง 3 ชนิด ได้แก่ คอลลาเจน อีลสติน และกรดไฮยาลูโรนิด ที่มีคุณสมบัติในการช่วยชะลอความแก่ของผิวหนัง และทำช่วยทำให้ผิวหนังมีความสดใส สวยงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ประโยชน์โดยตรงของสารเบต้ากลูแคนในเรื่องของผิวพรรณ คือ ช่วยในการรักษาอาการผิวหนังอักเสบ โดยการเพิ่มภูมิต้านทานของผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เกิดการรักษาบาดแผลบนผิวหนังทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอาการผิวแห้งได้อีกด้วย

รับประทานเบต้ากลูแคนอย่างไรให้เหมาะ

เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ใน 1 วัน ควรทำการรับประทานเบต้ากลูแคน อย่างน้อย 500-1,000 mg. ในช่วงที่ท้องว่าง ในตอช่วงตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนนอน ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถทำการดูดซึมและนำสารเบต้ากลูแคนไปใช้ได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.