บอกลาผิวหนังไก่ ไม่เรียบเนียน ด้วยเลเซอร์กำจัดขน

         ปัญหาผิวหนังไก่ ไม่เรียบเนียน ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณรักเร้ ที่อาจทำให้ความมั่นใจลดลง ไม่กล้าสวมใส่เสื้อผ้าชุดสวยโชว์ผิวใต้วงแขน ทั้งนี้ ปัญหาผิวหนังไก่ที่เกิดขึ้นมักเกิดจากการถอน โกน ที่อาจก่อให้เกิดรูขุมขนอักเสบ ขนคุด เกิดกลิ่นเหม็นอับตามมา ดังนั้น เพื่อเป็นการขุดรากถอนโคนปัญหาผิวไม่เรียบเนียนที่รักเร้หรือบริเวณอื่นๆ เช่น หน้าแข้ง ต้นขา เป็นต้น เราขอนำเสนอวิธีเลเซอร์กำจัดขนอย่างสิ้นซาก

การกำจัดขน
        ก่อนจะไปกันที่การเลเซอร์กำจัดขน คุณควรทำความเข้าใจว่า การกำจัดขนมี 2 วิธี คือ การกำจัดขนแบบชั่วคราว และการกำจัดขนแบบถาวร
        1.กำจัดจนแบบชั่วคราว ได้แก่ การโกน ถอน แหนบ ใช้ด้ายกระตุก ซึ่งวิธีเหล่านี้ นอกจากจะต้องทำบ่อยๆ เพราะความที่เป็นวิธีแบบไม่ถาวรแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาของขนคุด รูขุมขนอักเสบตามมา
        2.กำจัดขนแบบถาวร ซึ่งปัจจุบันมี 2 วิธี ได้แก่ electrolysis คือการใช้เข็มสอดลงไปที่รากขนทีละเส้นแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า ทำลายรากขน วิธีนี้ค่อนข้างเจ็บและเสียเวลานานมาก เพราะต้องสอดเข็มลงไปที่รากขนทีละเส้น มีโอกาสเสี่ยงกับการเกิดแผลเป็นค่อนข้างสูง เพราะการสอดเข็มลงไปที่รากขนเป็นวิธีการสอดแบบสุ่ม โดยผู้ทำการรักษาไม่ทราบว่ารากขนอยู่ที่ใด จึงไม่ค่อยมีใครใช้วิธีนี้ในปัจจุบัน

        และอีกวิธีในการกำจัดขนแบบถาวร คือวิธีใช้แสงความเข้มสูงและเลเซอร์กำจัดขน เป็นวิธีการกำจัดขนโดยอาศัยพลังงานความร้อนจากแสงไปทำลายรากขน แสงสามารถทำลายรากขนโดยเฉพาะเจาะจง เพราะบริเวณรากขนจะมีเซลล์สร้างสีที่เรียกว่าเมลาโนซัยท์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำแสงหรือตัวดูดพลังงานแสงให้มาอยู่เฉพาะบริเวณรากขน

เลเซอร์กำจัดขนได้อย่างไร
        พลังงานจากแสงเลเซอร์จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในต่อมขน พลังงานที่ถูกดูดซึมนี้เองจะไปทำลายเซลล์รากขนที่อยู่รอบๆ เมื่อเซลล์รากขนถูกทำลายเส้นขนก็จะหลุดร่วงไปและไม่ขึ้นใหม่ หลังการรักษาแต่ละครั้ง เส้นขนระยะเจริญวัย (Anagen) ที่มีรากขนอยู่ลึก (ชั้น dermis) และสามารถกำจัดได้ด้วยเลเซอร์จะมีอยู่ประมาณ 20-25% โดยเส้นขนที่ถูกทำลายนี้จะค่อยๆ ไหลหลุดออกมา ภายใน 2-3 อาทิตย์หลังทำเลเซอร์ จะพบว่าเส้นขนที่หลงเหลืออยู่หลังการรักษาแต่ละครั้งจะบางลง ปริมาณลดลง ลดปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่ได้
        หากทำเลเซอร์กำจัดขนไปแล้ว ควรรอประมาณอีก 1-2 เดือน (แล้วแต่บริเวณ) จึงมาทำซ้ำ เพื่อกำจัดเส้นขนระลอกใหม่ในระยะ Anagen ที่ขึ้นมา ทั้งนี้ ในการกำจัดขนให้หมดไป 90% อาจต้องทำ  8-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนของแต่ละบุคคล และยาบางชนิดรับประทาน

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังทำเลเซอร์กำจัดขน
        หลังจากเลเซอร์กำจัดขนประมาณครึ่งชั่วโมง ผิวหนังบริเวณรอบรูขุมขนจะแดงและบวมเล็กน้อย ซึ่งอาการนี้จะหายไปเองภายในเวลา 1 วัน ควรประคบด้วยความเย็น เพราะจะช่วยลดอาการแสบร้อนได้ ผิวหนังภายหลังการทำเลเซอร์กำจัดขนจะไม่เกิดรอยแผล ไม่มีเลือดออก และไม่จำเป็นต้องปิดแผล สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น อาบน้ำ เป็นต้น แต่ควรยกเว้นการใช้สบู่หรือครีมที่ระคายเคืองผิวหนัง เช่น Retin-A หรือ AHA ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการออกแดดสักระยะหนึ่ง ถ้าจำเป็นควรทาครีมกันแดดบริเวณที่รักษา ทั้งนี้ เมื่อผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เส้นขนจะค่อยๆถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนัง
        อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำเลเซอร์กำจัดขน ผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป ทางที่ดีควรศึกษาเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ทางโรงพยาบาลหรือคลินิคนำมาใช้ให้ถ้วนถี่เสียก่อน และอย่าลืมเช็คราคาว่าเหมาะสมกับงบประมาณในกระเป๋าเราหรือไม่ เพียงแค่นี้คุณก็เตรียมบอกลาปัญหาผิวหนังไก่ ผิวไม่เรียบเนียนไปได้เลย

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำความรู้จักวิธีเลเซอร์กำจัดขนแบบถาวร

            คุณผู้หญิงมักมีปัญหาเรื่องขนที่ไม่พึงประสงค์จะให้ขึ้นตามบริเวณต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะขนรักแร้ จึงมักหาวิธีการต่างๆเพื่อกำจัดขนให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็นการโกน ถอน หรือแว๊ก หากแต่วิธีดังกล่าวเป็นเพียงการกำจัดขนแบบชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานนักขนก็ขึ้นมาอีก แถมเป็นตอแข็ง สร้างความรำคาญให้สาวๆไม่น้อย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับวิธีกำจัดขนแบบถาวรด้วยการทำเลเซอร์กำจัดขนที่อาศัยพลังงานความร้อนจากแสงไปทำลายรากขน ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลทันใจ และจัดการขนได้แบบเกลี้ยงเกลา
  เมื่อพูดถึงเรื่องการกำจัดขนถาวร ก็จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องของวงจรชีวิตของขนกันก่อน โดยขนของคนเราจะมี 3 ระยะ ได้แก่ Anagen Catagen และ Telogen ซึ่งขนแต่ละระยะ และแต่ละส่วนของผิวจะมีอายุไม่เท่ากัน เช่น บนศีรษะก็จะมีอายุประมาณ 3-4 ปี ใต้วงแขนประมาณ 1-3 เดือน นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับเชื้อชาติอีกด้วย

            ระยะ Anagen เป็นช่วงเจริญวัยของขน เป็นระยะเจริญเติบโต มีต่อมขนอยู่ลึกในชั้น dermis โดยมีเส้นเลือดมาเลี้ยง ลักษณะเป็นกระเปาะ มีเม็ดสีอยู่ด้วย และมีรากที่พร้อมจะสร้างขนใหม่ พอครบอายุของมันแล้ว ขนนั้นๆก็จะไม่โต แล้วเริ่มเข้าสู่ระยะที่สองและสามต่อไป โดยเป็นต่อมขนที่เลื่อนสูงขึ้น สีเริ่มจางลง แยกตัวจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยงมากขึ้นและหลุดไปในที่สุด จากนั้นจะวนมาระยะ Anagen ใหม่มาแทนที่ ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ทีนี้สำหรับการเลเซอร์กำจัดขนจะทำงานกับขนในระยะ Anagen นั่นเอง

การทำงานของเลเซอร์กำจัดขน
  หลักการของการทำเลเซอร์กำจัดขน คือใช้แสงเลเซอร์ส่งผ่านเส้นขนไปทำลายรากขน โดยเส้นขนที่โตเต็มที่จะมีเม็ดสีที่รากขน และเป็นสื่อคอยดูดซับพลังงานเลเซอร์ เมื่อเส้นขนดูดซับพลังงานเลเซอร์ก็จะฝ่อตัว และถูกทำลายลง ในครั้งหนึ่งๆมีเส้นขนระยะที่โตเต็มที่ และพร้อมจะถูกกำจัดประมาณ 20% ซึ่งขนชุดนี้จะค่อยๆถูกกำจัดไป ครั้งถัดไปขนระยะอื่นก็จะพัฒนาเป็นระยะที่โตเต็ม และค่อยๆถูกกำจัดไป โดยปกติจะต้องเลเซอร์ขนประมาณ 5-8 ครั้ง จึงจะสามารถกำจัดขนออกไปหมด ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่มีสีผิว และกรรมพันธุ์แตกต่างกัน รวมทั้งการรับประทานยาบางชนิดด้วย

คลื่นแสงที่ใช้ในการทำเลเซอร์กำจัดขน
            1.คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 590-1,200 nm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ IPL เป็นการใช้แสงความเข้มสูง เครื่องมือนี้เป็นการใช้ไฟแฟลชที่มีตัวกรองแสงเพื่อสร้างแสงมีความยาวคลื่นกับจังหวะการตกกระทบ โดยแสงจะเข้าไปทำลายขน และเพราะ IPL เป็นแสงความเข้มข้นสูงแต่ความยาวของคลื่นสั้นจึงทำให้พลังงานไม่สูงพอจะทำลายรากขนได้ทั้งหมด อาจจะได้ผลบ้างในไรขนอ่อนๆบางๆ แต่ถ้าขนดกหนา ผลก็แค่ทำให้บางลงและขึ้นช้าแต่จะไม่หายไปทั้งหมด IPL เป็นเครื่องมือที่กำจัดขนได้รวดเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะผิวหนังอาจดูดซับพลังงานที่มากเกินไปทำให้ผิวไหม้ได้
            2.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 800 nm หรือที่เรียกว่า Diode Laser เครื่องมือชนิดนี้ให้พลังงานสูงให้ผลได้ดีกว่า IPL เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่เหมาะสม จึงสามารถทำลายลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับกำจัดขนบริเวณพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น ขนหน้าอก หน้าท้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้กับผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

            3.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm หรือที่เรียกว่า Long Pulse ND-YAG Laser สามารถใช้กำจัดขนได้กับผิวหนังทุกประเภทความเข้ม และด้วยความยาวของคลื่นสูงจึงสามารถทะลุไปยังใต้ผิวหนังชั้นลึกสามารถกำจัดขนได้ลงลึก การดูดซับพลังงานที่ผิวหนังน้อย จึงเกิดประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดี รวมทั้งมีระบบประคบให้ความเย็นของเครื่องมือยังปกป้องผิวหนัง เหมาะกับทุกสีผิวไม่ว่าสีผิวจะเข้มระดับใดก็ตาม ทั้งผิวขาว ผิวสองสี และผิวคล้ำ
ก่อนทำเลเซอร์กำจัดขนควรหลีกเลี่ยงการถอนหรือแว๊ก ในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์กำจัดขน ประมาณ 3-4 สัปดาห์ โดยให้ใช้วิธีโกนแทน เพื่อให้รากขนยังอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยก่อนการทำเลเซอร์กำจัดขน เจ้าหน้าที่จะโกนขนออกอีกครั้ง ในบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขน และในขณะที่ทำเลเซอร์กำจัดขน จะรู้สึกคล้ายหนังสติ๊กเล็กดีดเบาๆ และรู้สึกอุ่นๆ
สำหรับจำนวนครั้งของการยิงเลเซอร์กำจัดขน กว่าที่ขนจะถูกทำลายไปจนหมดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 5-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพเส้นขน อย่างไรก็ดี การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ก็ยังมีข้อควรระวังหรืออาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น อาการบวมเป็นรอยแดง แต่จะค่อยๆหายไปเอง ฉะนั้น หากคิดจะทำเลเซอร์กำจัดขนควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.