เส้นเลือดตีบตัน…ภัยเงียบที่ไม่ควรประมาท

         ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดตีบตันเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งมีแนวโน้มสูงมากที่จะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมา โดยในปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคดังกล่าวกว่า 10 ล้านคน และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวนการตายจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน ในจำนวนนี้ 13 ล้านคนมาจากประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก
         สำหรับประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 เท่า โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ ทั้งนี้ สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ การทำงานที่แข่งขันกับเวลา ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันสูง เบาหวาน ความอ้วน การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด และอาหาร


เส้นเลือดตีบตัน คืออะไร

         โรคเส้นเลือดตีบในที่นี้ หมายถึงหลอดเลือดแดงขนาดกลาง หรือเส้นใหญ่ มีการสะสมของไขมันและแคลเซียมที่ผนังด้านในของหลอดเลือดแดง เมื่อสะสมมีขนาดใหญ่พอ ก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะน้อยลง ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน และมีผลทำให้เกิดอาการร้ายแรงตามมา เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง หลอดเลือดหัวใจตีบตัน กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
         โดยสาเหตุทางการแพทย์ยังไม่ทราบทั้งหมด แต่ก็มีข้อสันนิฐานของการเกิดเส้นเลือดตีบตันได้จากการได้ผลกระทบที่ผนังหลอดเลือดแดง (intima) ซึ่งอาจจะเกิดจากแรงดันของความดันโลหิต การอักเสบจากโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน โรคติดเชื้อบางชนิดเช่น Chlamydia pneumoniae or Helicobacter pylori) หรือเชื้อไวรัสบางตัวเช่น cytomegalovirus สารเคมีในร่างกาย เช่น ไขมัน Cholesterol น้ำตาล

         เมื่อผนังหลอดเลือดแดงได้รับอันตรายไม่ว่าจะเกิดจากไขมัน หรือการติดเชื้อ ก็จะมีเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า Monocyte หรือ Macrophage มาจัดการกับสิ่งแปลกปลอมนั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดเป็นคราบหรือที่เรียกว่า Plaque ซึ่งจะมีขนาดใหญ่จนบางครั้งอาจจะอุดทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะน้อยลง
         แต่ก็มีบางภาวะโดยเฉพาะคราบที่เกิดใหม่ซึ่งส่วนประกอบของคราบจะเป็นไขมัน โดยที่มีผังผืด Fibrous capsule ไม่แข็งแรง เมื่อเจอภาวะที่แรงดันเลือดสูงทำให้คราบนั้นฉีกขาด ร่างกายก็จะมีเกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาวมายังที่เกิดการฉีกขาด ทำให้เกิดลิ่มเลือด Thrombus ซึ่งอาจจะอุดตันเส้นเลือดดังกล่าวหรืออาจจะหลุดลอยไปอุดเส้นเลือดส่วนปลายทำให้เกิดเส้นเลือดตีบตัน

ผลกระทบจากเส้นเลือดตีบตัน
         อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า หากมีภาวะเส้นเลือดตีบตัน จะทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมามากมาย หนึ่งในโรคที่เป็นกันมากคือ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน” ซึ่งอาจกว่าได้ว่าเกิดจากความเสื่อมของเส้นเลือด ผลพวงของการมีไขมันและการสะสมของหินปูนไปเกาะเส้นเลือดแดง จนเกิดการอุดตันหรือเส้นเลือด ปริแตกเกิดขึ้น จึงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง บางรายอาจทำให้เสียชีวิตแบบเฉียบพลันได้ ส่วนเหตุที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจเสื่อม เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่งทำให้เส้นเลือดตีบ

         สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันที่ได้รับความนิยม คือการขยายหลอดเลือดที่ตีบด้วย บอลลูน และใส่ขดลวดค้ำยัน ในรายที่มีหลอดเลือดตีบหลายตำแหน่ง การรักษาที่เป็นมาตรฐาน มักจะใช้วิธีการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ หรือที่รู้จักกันว่า “การทำบายพาส” นั่นเอง
         เห็นไหมว่าเส้นเลือดตีบตัน เปรียบเสมือนภัยเงียบที่ไม่ควรประมาท ถ้าไม่อยากเผชิญกับโรคร้ายนี้ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะเป็นการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก และอาหารการกิน โดยให้รับประทานผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีเส้นใยสูง ที่สำคัญควรหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้สบาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และต้องหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.