ผิวแตกลายทําไงให้หาย รักษาด้วยครีม แก้ผิวแตกลายได้ผลจริง

         ผิวแตกลาย หรือ Stretch Marks เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่พบเจอกันบ่อย ซึ่งหากเกิดในคุณผู้ชายคงไม่ค่อยซีเรียสกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเจ้าปัญหาผิวแตกลายมาเกิดกับกับอิสตรีเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าอาจมีกรี๊ดบ้านแตก เพราะผิวแตกลายบั่นทอนการสวมใส่เสื้อผ้าชุดสวยของหล่อนเป็นอย่างมาก จะเปิดนิดโชว์หน่อยก็ต้องคอยกังวลว่าจะเห็นรอยแตกลายตรงนั้นตรงนี้หรือไม่ ดังนั้น คำถามที่วนเวียนอยู่ในใจสาวๆส่วนใหญ่ก็คือ “ผิวแตกลายทำไงให้หาย”
         คำถามถัดไปมาคือการใช้ครีมต่างๆที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณแสนวิเศษ ไม่ว่าจะเป็นแก้จุดดำจุดแดง รอยแตกลาย เพิ่มความชุ่มชื่น คืนความเรียบเนียนอ่อนเยาว์สู่ผิว จะสามารถแก้ปัญหาผิวแตกลายที่น่าหนักใจนี้ได้จริงหรือไม่ เพื่อไขข้อข้องใจนี้เรามาหาคำตอบพร้อมๆกัน แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า ผิวแตกลายเกิดจากอะไร

 

ผิวแตกลาย เกิดจาก
         ผิวแตกลาย เกิดจากการยืดขยายต่อเนื่องของผิวหนัง และเนื้อเยื่อในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ พบได้บ่อยที่สุดในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักเป็นบริเวณท้อง หรือหน้าอก นอกจากนี้ยังพบได้ในคนที่อ้วนอย่างรวดเร็ว หรือในวัยรุ่นที่กำลังสูงอย่างรวดเร็วโดยพบผิวแตกลายได้ที่ต้นขาด้านนอก หลังด้านล่าง หรือสะโพก และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวแตกลายก็คือการใช้ยาสเตียรอยด์นานๆ มักมีรอยแตกลายใหญ่ และเป็นหลายที่รวมถึงบนใบหน้า
         โดยสรุปแล้วผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน (ในเวลาอันรวดเร็ว) วัยรุ่นที่กำลังสูง และคนที่ใช้ยาสเตียรอยด์ ดังนั้น ใครก็อยู่ในบุคคลประเภทต่างๆก็ควรมาตรการรับมือรอยแตกลายไว้ได้เลย โดยเบื้องต้นควรทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยลดปัญหาผิวนี้ได้มาก ถ้าเกิดผิวแตกลายขึ้นอาจเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผิวแตกลาย รักษาด้วยครีมได้ผลจริงหรือไม่
         หากเกิดผิวแตกลายขึ้นแล้ว สิ่งที่คุณไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไขเลย เพราะหากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้รอยแตกลายดังกล่าวหายยากขึ้น บางรายอาจต้องอยู่กับผิวแตกลายไปตลอดชีวิตก็มี ดังนั้น ควรสังเกตตัวเองอยู่ตลอดว่าปัญหาผิวนี้กำลังมาเยือนเราหรือไม่ ยิ่งรู้เร็วยิ่งรักษาได้ง่ายขึ้น
         การรักษาผิวแตกลายด้วยครีม เป็นวิธีการที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยด้วยกัน ประการแรกคือความรุนแรงของรอยแตกลายที่เกิดขึ้น และประการที่สองคือประสิทธิภาพของครีมที่ใช้ เพราะหากผิวแตกลายยังไม่รุนแรงเกินเยียวยา ผนวกกับการใช้ครีมทาผิวที่มีประสิทธิภาพ รับรองว่ารอยแตกลายจะค่อยๆจางลง จนหายไปได้ในที่สุด ทั้งนี้ ระยะเวลาในการรักษาของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางคนอาจจะแค่เดือนเดียว ในขณะที่อีกคนใช้เวลาเป็นปีๆ

    

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ความลับในการดูแล รักษา และใช้ยาทาแผลเป็นอย่างถูกต้อง

         ความลับในการดูแลผิวจากร่องรอยแผลเป็นนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าฝีมือของแพทย์ที่คุณเข้ารับการรักษานั้นเก่งกาจเพียงใด แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีแรงจูงใจมากพอเพียงใด ที่จะทำการหระตุ้นฟื้นฟู ให้ร่างกายผลิตเซลล์ผิวหหนังชุดใหม่ขึ้นมาแทนที่แผลเป็นที่เสื่อมสภาพต่างหาก ถ้าหากแผลเป็นปรากฏขึ้นมาบนผิวหนัง แล้วคุณยังไม่ทราบว่าควรที่จะรับมืออย่างเหมาะสมกับมันอย่างไรนั้น บทความชิ้นนี้ ได้รวรวมวิธีการดูแลรักษา ฟื้นฟูผิว และการใช้ยาทาแผลเป็นเอาไว้ให้คุณสามารถทำการศึกษา เพื่อนำไปใช้จัดการกับแผลเป็นบนผิวของตัวเองเอาไว้อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว

การดูแล รักษาแผลเป็นอย่างถูกวิธี เพื่อให้แผลเป็นหายสนิทรวดเร็วยิ่งขึ้น
หลังจากเกิดบาดแผลขึ้นในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก เป็นเวลาทองในการส่งเสริม ฟื้นฟูผิวอย่างเหมาะสม ความสำเร็จในการดูแลผิวให้ห่างไกลจากรอยแผลเป็นมากยิ่งขึ้น แต่การรักษาที่ได้ผลนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับระดับของเนื้อเยื่อแผลเป็น ที่มักจะพัฒนาตัวเองไปเป็นแผลเป็นว่ามากน้อยเพียงใด แต่ถ้าหากคุณรู้จักการดูแลรักษารอยแผลเสียตั้งแต่เนิ่นๆ โอกาสในการปรากฎตัวของรอยแผลเป็นก็จะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
1.การทำความสะอาดผิว ผิวที่สะอาด มีสุขภาพที่ดี จะทำให้บนผิวมีปริมาณของเขื้อจุลินทรีย์ในระดับปกติซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิว การใช้สบู่ในการทาแผลเป็นเพื่อทำความสะอาดถือเป็นเรื่องปกติที่สามาถทำได้ แต่คุณควรเลือกใช้สบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรงต่อผิวมากจนเกินไป เพราะจะยิ่งเป็นการทำลายความชุ่มชื้นของผิวอย่างมากเช่นเดียวกัน ถ้าหากแผลเป็นปรากฏอยู่บนใบหน้า ให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางแต่งหน้าในบริเวณนั้น และหากแผลเป็นอยู่ตามส่วนอื่นๆของร่างกาย ก็ให้พยายามอย่าสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นการรบกวนผิวในบริเวณดังกล่าว
 2.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง เช่น ครีมกำจัดขน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สร้างความระคายเคือง และรบกวนสุขภาพของผิวมาก เมื่อถูกทาแผลเป็น และอาจจะยิ่งกระตุ้น ให้รอยแผลเป็นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
 3.เคลื่อนไหวให้น้อยลง การเคลื่อนไหวน้อยในขณะที่เกิดแผล จะทำให้ขอบแผลมีโอกาสน้อยที่จะถูกดึงออกจากกัน ทำให้ร่างกายสามารถที่จะดูแล ฟื้นฟู รักษาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่การไม่ขยับตัวเลย ก็จะทำให้แผลมีอาการบวม หรือตึงในบริเวณแผล โดยปรกติแล้วแพทย์จะแนะนำการขยับตัวอย่างเหมาะสมให้หลังจากที่คุณเข้ารับการรักษา อย่างไรก็ตามให้ระวังเอาไว้เสมอว่า คุณไม่ควรออกแรงมากจนเกินไป จนกระทั่งทำให้เกิดความดันโลหอต ที่จะก่อให้เกิดเลือดออกในภายหลัง

         4.ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้กระบวนการรักษาตัวเองของเซลล์ผิวช้าลง และมีโอกาสสูงที่จะทำให้ขอบผิวของบาดแผลตาย และการไหลเวียนโลหิตเองก็อาจที่จะล้มเหลวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะบุหรี่เพียงม้วนเดียว ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้หลอดเลือดเกิดการหดตัวขึ้น
5.แห้งและสะอาด เมื่อได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งต้องมีการเย็บแผล ควรดูแลแผลให้แห้ง และสะอาด คุณสามารถที่จะทำการอาบน้ำ หรือมีเหงื่อเกิดขึ้นในบริเวณแผลได้บ้าง แต่ต้องพยายามรักษาความแห้งของแผลเอาไว้ให้มากที่สุด
6.ใช้เจลซิลิโคนรักษาแผลเป็น เมื่อเกิดแผลเป็นขึ้นมาบนผิวแล้ว คุณสามารถที่จะทำการดูแลรักษาได้ ด้วยการทาแผลเป็นด้วยเจลซิลิโคน หรือทาแผลเป็นด้วยเจลน้ำมันแร่ เป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมง ต่อวัน เมื่อผิวเริ่มคุ้นเคยกับการทาแผลเป็นด้วยเจลซิลิโคนแล้ว คุณก็สามารถที่จะทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทิ้งเอาไว้บนผิวได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมแผลเป็น กับความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้

         มีคนจำนวนมากที่ต้องการทราบวิธีการกำจัด “รอยแผลเป็น” ออกจากใบหน้า และบริเวณต่างๆของผิวพรรณในร่างกายที่ไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้ด้วยเสื้อผ้า ความทุ่มเทในการต่อสู้กับรอยแผลเป็นเพื่อให้แลดูจางลงถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยอย่างรวดเร็วที่สุด ทำให้คนรักสวยรักงามส่วนใหญ่ ไม่แคร์ในการทุ่มเงินแบบไม่อั้นในการรักษา ซึ่งในปัจจุบันได้มีครีมแผลเป็นออกมาวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ภายใต้แบรนด์เวชสำอางชื่อดังมากมาย ให้ผู้ที่กำลังประสบปัญหารอยแผลเป็นเลือกใช้กันอย่างมากมาย แต่จะดีกว่าหรือเปล่า ถ้าหากคุณทำการศึกษาครีมแผลเป็นอย่างละเอียด แล้วนำความรู้ที่ได้นั้น ไปประยุกต์ใช้อย่างง่ายๆที่บ้าน ในการรักษาแผลเป็นได้ดีมากยิ่งขึ้น

ครีมแผลเป็น ศัพท์การโฆษณาอันหลากหลายบนโลกออนไลน์
 เมื่อเริ่มต้นค้นหาวิธีการรักษาแผลเป็น โดยการสืบค้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต คำจำกัดความหมายในการสืบค้นว่า “ครีมกำจัดรอยแผลเป็น” หรือ ครีมกำจัดรอยเผลเป็นที่ดีที่สุด” คำจกัดคสามเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยกรองการค้นหา แต่คำโฆษณษว่า สุดยอด ยอดเยี่ยม ดีที่สุด ในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดนั้น ไม่ได้เป็นการการันตีที่มีคุณภาพว่า ครีมแผลเป็นเหล่านั้นจะสามารถลบเลือนรอยแผลเป็นออกไปจากผิวของคุณได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าหากต้องการการกำจัดรอยแผลเป็นที่ดีที่สุด ที่ได้รับความนิยม และจำเป็นที่จะต้องใช้ทุนสูง คนส่วนใหญ่มักจะเลือกการผ่าตัด รวมไปถึงการรักษาด้วยเลเซอร์มากกว่า

ครีมแผลเป็นที่วางขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด สามารถช่วยในการรักษารอยแผลเป็นได้จริงหรือเปล่า?
สำหรับคนที่มีงบน้อย ครีมแผลเป็น เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ครีมแผลเป็น เซรั่มแผลเป็น หรือเจลแผลเป็น สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นที่ตาสามารถมองเห็นได้เป็นอย่างดี ในราคาที่ไม่แพง แต่คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกครีมแผลเป็นอย่างเหมาะสม โดยการพิจราณาส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นให้ดีก่อนนำมาใช้ เช่น ครีมแผลเป็นที่มีส่วนประกอบของซิลิโคน ที่มีคุณภาพสูงในการช่วยรักษาแผลเป็น เป็นต้น นอกจากนี้ คุณยังจำเป็นที่จะต้องทราบความแตกต่างระหว่างเนื้อครีม และเนื้อเจล ทุถูกนำมาใช้ในการรักษารอยแผลเป็นอย่างเหมาะสม
1.เนื้อเจล การรักษารอยแผลเป็นด้วยเนื้อเจลนั้น เนื้อเจลจะมีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างนาวนาน ทำให้พวกมันเหมาะเป็นอย่างมากในการนำมาใช้รักษารอยแผลเป็น

         2.ซิลิโคน ถูกนำมาใช้ในการรักษารอยแผลเป็นทุกประเภทมาอย่างนาวนาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจำนวนมาก แนะนำให้ใช้ซิลิโคนเข้ามาช่วยในการปรับปรุงลักษณะของแผลเป็น ผลิตภัณฑ์รักษารอยแผลเป็นบางชนิดอาจจะมีการใช้ซิลิโคนเป็นส่วนผสมมากถึง 100% โดยไม่มีส่วนผสมอื่นๆเลย
 3.เนื้อครีม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่การที่เนื้อครีมจะซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้รวดเร็วมากเท่าใดนั้น จะขึ้นอยู่กับความหนัก หรือความเข้มข้นของเนื้อครีม แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีผิวมันอยู่แล้ว ถ้าหากทาเนื้อครีมโดยไม่ระวัง ก็อาจจะทำให้ใบหน้ายิ่งมันมากขึ้นกว่าเดิม
 แผลเป็นอาจจะเป็นสิ่งดี ที่คอยเตือนใจเราถึงอาการบาดเจ็บที่ได้ผ่านพ้นไป เพื่อให้ชีวิตอย่างมีสติมากยิ่งขึ้น แต่แผลเป็นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นอุทาหรณ์ หรือแหล่งเรียนรู้แห่งความทุกข์ไปตลอดชีวิต ดังนั้นการใช้ครีมแผลเป็นที่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ รอยแผลเหล่านั้นก็จะค่อยๆเลือนลับหาย กลายเป็นอดีตไปตลอดกาล

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมทาก้นลาย เปลี่ยนก้นลาย ให้กลายเป็นก้นเนียนขาว

         ก้นลาย เป็นปัญหาที่น่าอาย และค่อนข้างยุ่งยากยากในการซ่อน โดยเฉพาะในชุดว่ายน้ำ ที่จำเป็นจะต้องโชว์ผิวหนังบริเวณก้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าก้นลายจะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้หญิงผิวขาว ที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวใกล้ชิด เคยมีอาการแตกลายมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเข้าใจเกี่ยวกับอาการก้นลายอย่างลึกซึ้งแล้วล่ะก็ คุณสาวๆก็สามารถที่จะป้องกัน หรือบรรเทารักษาอาการก้นลาย ให้เหลือน้อยจนแทบไม่เป็นปัญหาชวนให้กังวลใจอีกต่อไปเลยทีเดียว

อาการก้นลาย
 ก้นลาย มีลักษณะเป็นเส้นสีชมพู ม่วง หรือแดง ที่ปรากฏขึ้นบนผิวหนังบริเวณก้น เมื่อริ้วรอยสีสดเหล่านั้นจางลง ก็จะเปลี่ยนกลายเป็นสีชมพูอมเทา หรือสีขาว ลายเส้นเหล่านี้อาจจะปรากฏขึ้นข้างๆในระดับเดียวกัน หรือเป็นเส้นคู่ขนานต่อเนื่องขยายครอบคลุมผิวไปทั่วบริเวณก้นทั้งหมด

ก้นลาย เกิดขึ้นจากสาเหตุใด?
 โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการแตกลายเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังเจริญเติบโต หรือถูกยืดอย่างรวดเร็วมากจนเกินไป ถึงแม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วผิวจะมีความยืดหยุ่นในระดับสูง แต่เมื่อการยืดมีมากจนเกินไปมากกว่าที่ผิวจะรับไหว ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย จนกลายเป็นแผลเส้นขีดขึ้นบนผิวหนัง และกลายเป็นรอยแตกลายขึ้นในที่สุด ปกติแล้วปัญหารอยแตกลายมะกจะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นโรคอ้วน การตั้งครรภ์ การออกกำลังกายยำน้ำหนัก และการใช้ยาทาผิว หรือครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ซ้ำบ่อยๆครั้ง

วิธีการรักษาอาการก้นลาย
 ในปัจจุบันมีตัวยาหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยในการลดดเลือนปัญหาก้นลายให้น้อยลง หรือถ้าหากคุณสาวๆกำลังสนใจในการใช้ครีมบำรุงผิว ก็ควรที่จะเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ซึ่งสามารถที่จะช่วยทำให้รอยแตกลายกลมกลืนไปกับผิวของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ หรือถ้าหากต้องการที่จะได้ผลลัพธ์ในการรักษาอาการก้นลายอย่างรวดเร็วล่ะก็ คุณสาวๆสามารถที่เข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ซึ่งมีกระบวนการรักษาให้เลือกมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผิวหนังที่เกิดการยืดตัว เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่ ซึ่งวิธีการรักษาประเภทนี้ ยังถูกนำมาใช้ในการช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้าของผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ราคาค่าใช้จ่ายการรักษาทางการแพทย์อาจจะค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

เคล็ดลับการพิชิตปัญหาก้นลายด้วยตัวเองอย่างได้ผล
 มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมายที่อ้างว่าสามารถที่จะช่วยป้องกัน หรือแก้ไขอาการก้นลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งส่วนผสมของครีมบำรุงผิวเหล่านั้นมักที่จะเป็นวิตามินอี เนยโกโก้ หรือกรดไกลโคริค ถึงแม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันพวกมันก็ให้ผลลัพธ์ที่น้อยมากในการรักษาอาการก้นลาย โดยพื้นฐานแล้ว รอยแตกลายจะค่อยๆจางหายไปด้วยตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป โดยที่เราแทบไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปทำการแทรกแซงใดๆ  แต่คุณสาวๆก็สามารถที่จะป้องกัน และเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจน อีลาสตินของผิวได้ด้วยการใช้สูตรเคล็ดลับจากธรรมชาติอื่นๆ ที่ไม่ผลข้างเคียง ซึ่งสูตรเหล่านั้น ภายในเว็บไซต์ของเรา ได้ทำการรวบรวมเอาไว้อย่างมากมายหลากหลายสูตร ให้คุณสาวๆเลือกนำสูตรที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด คุณสาวๆที่สนใจการรักษาอาการก้นลายด้วยตัวเอง สามารถคลิ๊กรับชมสูตรที่น่าสนใจจากแท็กของบทความที่เกี่ยวข้องด้านข้างของบทความชิ้นนี้ได้เลยทันที

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

DIY ครีมทาขา ขัดผิว พิชิตขานุ่มสวยอย่างง่ายๆด้วยตัวคุณ

         สำหรับผู้ชายที่มักใช้ชีวิตลุยๆ มีไลฟสไตย์ที่โดดเด่นไปในด้านของการทำงาน หรือออกำลังกายแบบ Outdoor ก็คงจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพผิวกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวบริเวณขา ที่จำเป็นจะต้องรับบทหนักๆ ในการกระทบกระแทก ขีดข่วนจนเกิดบาดแผล รอยหมองคล้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กสำหรับผู้ชาย แต่สำหรับคุณสาวๆที่มีผิวหนังที่บอบบาง และจำเป็นที่จะต้องคอยระมัดระวังดูแลให้ยังคงความเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลานั้น ระดับของการให้ความใส่ใจ คอยดูแลรักษาย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย

         อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผิวของคุณสาวๆมีความบอบบางสูง การรบกวนผิวอย่างไม่ระวังด้วยเรื่องเพียงเล็กๆน้อยในชีวิตประจำวันอย่างการโกนขน การขัดถูผิวแรงๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผิวได้เป็นอย่างมาก จนอาจทำให้ผิวสาก ไม่ลื่นนุ่มเนียนเท่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ผิวของคุณสาวๆเอง ก็ยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความนุ่มเนียนน่ามองเอาไว้ให้นานที่สุด ซึ่งในวันนี้ เพื่อเป็นการเอาใจคุณสาวๆ ที่อยากจะมีผิวนุ่มเนียน สดใส ชวนฝัน ด้วยการบำรุงรักษาจากวิธีธณรมชาติอย่างการใช้ครีมทาขา บทความชิ้นนี้ก็ได้ทำการเก็บสูตรครีมทาขา แบบ DIY ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านมาฝาก ให้ลองดูกัน

สูตรครีมทาขา แบบ DIY ยอดฮิต ในการช่วยบำรุงผิวเรียวขาให้นุ่มเนียน
  สำหรับส่วนผสมของครีมทาขา แบบ DIY ในวันนี้ก็แสนง่าย เพียงแค่คุณมีส่วนผสมที่สามารถหาได้ไม่ยากในครัวเรือน อาทิเช่น น้ำตาล ¼ ถ้วย น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วย น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ หรือสำหรับคนที่มีอาการแพ้น้ำมะนาวก็สามารถที่จะเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยมะนาว ประมาณ 20 หยด แทนก็ได้เช่นกัน และอีกหนึ่งอุปกรณที่จำเป็นจะต้องใช้ร่วมกับสูตรครีมทาขานี้ก็คือ มีดโกนคมๆ หนึ่งอัน หลังจากที่ได้ส่วนประกอบทั้งหมดมาไว้ในมือแล้ว ให้ทำการผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้รับส่วนผสมของุดยอดครีมทาขาแล้ว

วิธีการนำครีมทาขาแบบ DIY ไปใช้อย่างงมีประสิทธิภาพสูงสุด
 ทำการแช่ขาของคุณลงในน้ำเป็นเวลา 5 นาที หรือทำการอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วนำส่วนผสมของครีมทาขาที่ได้ทำการถูให้ทั่วผิวหนังในบริเวณขา และถ้าหากต้องการ ส่วนผสมของครีมทาขานี้ ก็สามารถนำไปใช้ในการทาเพื่อบำรุงผิวหนังบริเวณแขน และเท้าได้เช่นกัน
 ส่วนประกอบของน้ำตาลภายในครีมทาขา จะช่วยทำหน้าที่สครับสิ่งสกปรกทุกอย่างออกจากผิว และยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตายแล้วให้หลุดลอกออกไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น น้ำมะนาวจะช่วยเผยเปลือกผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์ สว่างเรียบสดใส และน้ำมันมะกอกจะซึมลึกลงสู่ชั้นผิว พร้อมกับช่วยรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้อย่างยาวนานอีกด้วย หลังจากที่ครีมทาขาทิ้งเอาไว้เพียงไม่กี่นาที ผิวของคุณสาวๆก็พร้อมแล้วที่จะได้รับการโกนขนบริเวณขาที่ไม่พึงประสงค์ออก แต่ขอแนะนำให้ทำการล้างเอาส่วนผสมของครีมทาขาบางส่วนที่เป็นน้ำมันออกไปก่อน แล้วคุณจะพบว่าการโกนขนบริเวณขา เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นนั้น กลายเป็นเรื่องที่แสนง่ายไปในพริบตา
 การบำรุงผิวขา ด้วยครีมทาขาแบบ DIY สูตรนี้ เป็นประจำ จะสามารถช่วยทำให้คุณสาวๆได้เพลิดเพลินไปกับสุขภาพผิวที่ขา ได้อย่างยาวนานมากขึ้นเลยทีเดียว

การบำรุงผิวขาให้นุ่มเนียนด้วยการใช้ครีมบำรุงผิว
         การขัดขา บำรุงผิวให้นุ่มเนียนด้วยสูตรส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ดีทุ่ดในการบำรุงผิวขา ที่มักจะเต็มไปด้วยความหยาบกร้าน ริ้วรอยแผลเป็นต่างๆมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะมีเวลาว่างในการไปตามหาส่วนผสมต่างๆ มารวมเป็นสูตรบำรุงผิวขาวอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับใครที่ติดปัญหาในเงื่อนไขด้านเวลาที่เร่งรีบดังกล่าว ก็สามารถที่จะเลือกใช้ครีมบำรุงผิวแบบสำเร็จรูปที่ง่าย และสะดวกกว่าได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ลดรอยแผลเป็น ในไม่กี่สัปดาห์ ทำได้อย่างไรไปดูกัน

         รอยแผลเป็น เป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านผิวพรรณที่เรียกได้ว่ารักษาได้ค่อนข้าง “ยาก” และจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานมากทีเดียว กว่าที่ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้กลับมาแลดูเรียบเนียนได้ดังเดิม แต่สำหรับคนใจร้อน ที่ออกจะอดรนทนรอไม่ค่อยได้ อยากลดรอยแผลเป็นให้เลือนหายไปให้รวดเร็วที่สุดนั้น ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ด้วยการใช้วิธีการรักษาลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติ ที่กำลังจะขอแนะนำไว้ในบทความนี้ ถ้าหากทำการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ รับรองว่าการลดรอยแผลเป็น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ จะไม่เป็นเรื่องที่ไกลจนเกินเอื้อมอีกต่อไปอย่างแน่นอน

วิธีลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติอย่างได้ผลทันใจ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
 1.น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการลดรอยแผลเป็นอย่างได้ผล ด้วยการช่วยกำจัดเนื้อเยื่อแผลเป็น ผลัดผิวเก่า เผยเซลล์ผอวใหม่ที่สวยงามสดใสมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับวิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงใช้สำลีจุ่มลงในน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ แล้วนำไปทาในบริเวณรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตบท้ายด้วยการทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์คุณก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากรู้สึกว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้รู้สึกคัน ระคายเคืองที่ผิว ควรนำไปผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้เจือจาง ก่อนที่จะนำไปใช้ทาที่ผิว
2.น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดรอยแผลเป็น โดยการช่วยเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของเซลล์ผิว และยังช่วยป้องกันรอยแผลเป็นแบบถาวรอีกด้วย น้ำมันลาเวนเดอร์เพียงไม่กี่หยด นำไปใช้นวดเบาๆ เป็นวงกลมบนรอยแผลเป็น จากนั้นทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมลึกลงสู่ชั้นผิว หรือคุณอาจจะนำน้ำมันลาเวนเดอร์ ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทาลงบนบริเวณที่ต้องการก็ได้เช่นกัน วิธีนี้สามารถทำการทาผิวได้วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 3.น้ำผึ้ง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ลดรอยแผลเป็น ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพียงแค่คุณนำน้ำผึ้งดิบ ทานวดเป็นวงกลมลงไปบนรอยแผลเป็นที่ต้องการ 10 นาที แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันหลายๆสัปดาห์

         4.ผงไม้จันทร์ เป็นวิธีการลดรอยแผลเป็นที่ดี ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ผงไม้จันทร์มีคุณสมบัติในการช่วยรักษารอยแผลเป็นให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับส่วนผสมของสูตรนี้ ได้แก่การใช้ผงไม้จันทร์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับน้ำกุหลาบพอให้ผงไม้จันทร์เริ่มข้นเป็นน้ำ จากนนั้นนำส่วนผสมที่ได้ทาพอกเอาไว้บนรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ทั้งคืน แล้วจึงค่อยทำการล้างออกในตอนเช้า ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน เป็นเวลา 1-2 เดือน
 5.น้ำมันต้นชา มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาผิว และช่วยในการลดรอยแผลเป็นอย่างพอเหมาะ แต่เนื่องจากน้ำมันต้นชามีความเข้มข้นสูงมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ทำการเจือจางด้วยน้ำก่อนนำไปใช้ การนำน้ำมันต้นชาไปใช้นั้น ควรใช้น้ำมันต้นชา 2 หยด ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา แล้วนำไปทายังบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ ทิ้งเอาไว้หลายๆชั่วโมง  วันละครั้งแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้น้ำมันต้นชา 2-3 หยด ผสมเข้ากับน้ำอุ่น 2/3 ถ้วย แล้วนำไปล้างในบริเวณที่ต้องการวันละ 2 ครั้ง ทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลานานหลายๆสัปดาห์
การรักษาลดรอยแผลเป็นด้วยวิธีการทางธรรมชาติเหล่านี้ อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะแสดงผล แต่พวกมันก็มีอันตรายและผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการรักษาที่ต้องใช้สารเคมี หรือการผ่าตัด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวลายหายได้ ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวคุณ

         ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากมีปัญหาผิวลายเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้ต้องเสียความมั่นใจยามเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้า กางเกง หรือกระโปรงสั้นๆ อดอวดโชว์ผิวแล้ว รอยแกตลายยังเป็นปัญหาเรื้อรังชวนปวดหัว ที่หากชะล่าใจ ไม่รีบทำการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีแล้วล่ะก็ ผิวลายก็อาจจะปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างเด่นชัดมากขึ้นไปอีก ซึ่งที่จริงแล้วปัญหาผิวลายนั้น เพียงแค่ทำการดูแลรักษาผิว ตามคำแนะนำในบทความด้านล่างนี้เป็นประจำอย่างเหมาะสม ในเวลาไม่นานผิวลายก็จะกลายเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำที่เลวร้ายในอดีตของคุณไปในบัดดล

ผิวลายหายได้ ลองวิธีง่ายๆต่อไปนี้สิ
 กระแสการดูแลรักษาผิวด้วยวิธีธรรมชาติ ได้รับความนิยมมาแรงแซงโค้งเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สำหรับวิธีผิวลาย ที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก ณ ปัจจุบัน ได้แก่วิธีดังต่อไปนี้
1.น้ำมันฝรั่ง มีส่วนผสมของวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโต และฟื้นฟูเซลล์ผิว สำหรับวิธีการใช้ก็แสนง่ายๆ เพียงแค่ตัดมันฝรั่งขนาดกลางออกเป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำมาถูเบาๆ วนรอบๆรอยแตกลายไม่กี่นาที ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้ง แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำอุ่น
 2.Alfalfa เป็นใบหญ้าชนิดหนึ่ง ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพโดยรวมของผิว นอกจากนี้ยังมีส่วยประกอบชองวิตามินหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน E , วิตามิน K ที่ช่วยในการบำรุงผิว เพียงแค่นำ Alfalfa ผสมเข้ากับน้ำมันดอกคาโมไมล์ 2-3 หยด ปั่นให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทาในบริเวณที่ผิวลาย วันละ 2-3 ครั้ง ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน ในระยะเวลาเพียงมี่กี่สัปดาห์ คุณก็จะสามารถเห็นการพัฒนาของผิวที่ดีมากยิ่งขึ้น
 3.โกโก้บัสเตอร์ หรือเนยโกโก้ มีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษารอยแตกลาย เพราะมันมีลักษณะเป็นครีมบำรุงผิวตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการปรากฏตัวของผิวแตกลายได้อีกด้วย คุณสามารถนำเนยโกโก้หนึ่งช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับน้ำมันจมูกข้าวสาลี 2-3 หยด ขี้ผึ้งสองช้อนชา เม็ดแอปริคอทและน้ำมันวิตามินอีหนึ่งช้อนชา จากนั้นนำส่วนผสมทุกอย่างลงไปในหม้อ ตั้งไฟอ่อน ค่อยๆทำการคนส่วนผสมต่างๆให้เข้าด้วยกัน โดยสังเกตจากขี้ผึ้งว่ามีการละลายตัวดีแล้วหรือยัง คุณสามารถนำส่วนผสมที่ได้เก็บเอาไว้ในตู้เย็น แล้วใช้มันช่วยลดรอยแตกลาย 2-3 ครั้งต่อวัน เป็นประจำทุกวัน แล้วคุณจะพบว่าผิวของตัวเองนุ่ม เรียบเนียน และมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

         4.น้ำมันมะกอก อุดมไปด้วยสารอาหารจำนวนมาก และสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปรับปรุงปัญหาผิวพรรณต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงรอยแตกลายอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่คุณนวดน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยบริเวณผิวลาย น้ำมันมะกอกก็จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต พร้อมกับช่วยปรับลดรอยแตกลายให้กลับมาอยู่ในระดับที่พอดี หลังการนวดด้วยน้ำมันมะกอก คุณควรทิ้งน้ำมันมะกอกเอาไว้เป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้วิตามิน A, D และ E ที่อยู่ภายในนำมันมะกอก ถูกผิวหนังดูดซึม หรือคุณอาจจะสร้างสรรค์หน่อย ด้วยการผสมน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู และน้ำ เพื่อใช้เป็นครีมบำรุงผิวในช่วงกลางคืน หรือขัดผิว เพื่อให้ผิวของคุณนุ่มเนียนชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
   5.น้ำ การรักษาร่างกายของคุณให้ดี มีผิวที่สวยงาม ล้างสารพิษ เพิ่มความอ่อนนุ่มยืดหยุ่น น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่สามารถขาดได้ การดื่มน้ำปริมาณ 1-2 แก้ว หลายครั้งระหว่างวัน หรือวันละ 8-10 แก้วต่อวัน ผุ้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยทำให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
 การเยียวยาตามธรรมชาติเหล่านี้ สามารถช่วยลดปัญหาผิวลายให้ลดลง หรือหายไป แต่ถาหากคุณคาดหวังความสมบูรณ์แบบ คุณจำเป็นที่จะต้องปรึกษา และเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำครีมรอยแผลเป็นจากธรรมชาติง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

         รอยแผลเป็น สร้างความกังวลเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักสวยรักงามทั่วไป ซึ่งเจ้ารอยแผลเป็นที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆหลังจากอาการบาดเจ็บ การเผาไหม้ สิว เชื้อรากัด หรือบาดแผลจากการผ่าตัด ที่บาดลึกกว่าผิวชั้นแรก ที่ขึ้นมาปกคลุมผิวหนังในลักษณะของเนื้อเยื่อ รอยแผลเป็นไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือปัญหาด้านผิวพรรณใดๆ แต่ลักษณะการจัดเรียงที่ไม่สวยงาม ถึงแม้  แลดูเป็นจุดเด่น น่าเกลียด ซึ่งสร้างความกังวลด้านความงามแก่คนจำนวนมาก ที่ต่างพยายามสรรหาวิธีมากำจัดมันออกไป
 รอยแผลเป็น เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถทำการเยียวยารักษาได้ตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป รอยแผลเป็นเหล่านี้ก็จะค่อยๆจางลง แต่ผลลัพธ์ดังกล่าว อาจจะเกิดขึ้นรวดเร็ว หรือช้า ขึ้นอยู่กับความลึก และสภาพความรุนแรงของปัญหา ทำให้หลายคนรอยแผลเป็นหายได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลายๆคนหายช้าจนน่าเหนื่อยใจกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถที่จะเสริมสร้างลดปัญหารอยแผลเป็น พร้อมกับส่งเสริมให้ปัญหาเหล่านั้นถูกกำจัดออกไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำครีมรอยแผลเป็นด้วยตัวเองอย่างง่ายๆที่บ้าน โดยมีส่วนประกอบที่ง่ายจนแทบไม่น่าเชื่อดังต่อไปนี้

ส่วนประกอบของครีมรอยแผลเป็น แบบทำเองอย่างง่ายๆที่บ้าน
 1.น้ำมันมะพร้าว เป็นหนึ่งในครีมรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันห่วงโซ่กลาง ที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวนุ่มขึ้น และยังช่วยกระตุ้นวามเร็วในการรักษาแผลเป็นให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
 ครีมรอยแผลเป็นจากน้ำมันมะพร้าวสามารถทได้ง่ายมาก เพียงแค่อุ่นน้ำมันมะพราว 1 ช้อนชา ในไมโครเวฟ แล้วนำไปนวดเบาๆในบริเวณที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกลม เพื่อให้ผิวได้ดูดซึมสารที่จำเป็น ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
 2.ว่านหางจระเข้ เป็นครีมรอยแผลเป็นตามธรรมชาติ ที่เป็นที่รู้จักกันดีถึงประสิทธิภาพในการงอกใหม่ของเนื้อเยื่อผิว อีกทั้งยังช่วยลดขนาดของรอยแผลเป็น ผ่อนคลายผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นให้กับผิว รวมไปถึงอาการอักเสบต่างๆอีกด้วย เพียงแค่นำเจลว่านหางจระเข้ มาทำการนวดเบาๆที่บริเวณรอยแผลเป็น เป็นประจำทุกวัน เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 1-2 เดือน รอยแผลเป็นกวนใจก็จะค่อยๆเลือนหายไป
   3.วิตามินอี เป็นหนึ่งในวิธีการรักษารอยแผลเป็นยอดนิยม เพราะวิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิว พร้อมกับช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
 สารสกัดของเหลวจากแคปซูลวิตามินอี เป็นครีมรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยม คุณสามารถใช้ทาลงยังบริเวณที่เป็นรอยแผลเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกันหลายสัปดาห์ หรืออาจจะใช้พืช ผัก หรือผลไม้ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีจำนวนมาก เช่น อัลมอนด์, น้ำมันดอกคำฝอย, เฮเซนัท และเนยถั่วลิสง แทนการใช้สารสกัดเหลววิตามินอีในการรักษารอยแผลเป็นได้ เช่นกัน

         4.น้ำมะนาว ครีมรอยแผลเป็นแบบคลาสสิคที่มีประวัติยาวนานด้านความงามของมนุษย์ มันมีประสิทิภาพมากในการช่วยรักษารอยแผลเป็น ด้วยกรดไฮดรอกซีอัลฟา หรือ AHA ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมช่วยเผยชั้นผิวใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย และยังทำหน้าที่เป็นสารฟอกสีตามธรรมชาติ ที่ช่วยลดรอยแผลเป็นให้ดูจางลงมากกว่าเดิม
 ครีมรอยแผลเป็น สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่นำน้ำมะนาวล้วนๆ ทาลงบนรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้ง ทำซ้ำประมาณ 2 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ จนกว่าคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย เพราะน้ำมันาวมักจะทำให้ผิวของคุณมีความไวต่อแสงมากขึ้น แนะนำให้คุณทำการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน หรือจะให้ดีที่สุดคือ การใช้น้ำมะนาวเพื่อรักษารอยแผลเป็นในช่วงเวลากลางคืน

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำครีมบำรุงผิวเพื่อแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากธรรมชาติ จะเป็นสิ่งที่ดีต่อผิว แต่เนื่องจากสภาพของสังคมในปัจจุบัน ที่เร่งรีบ กว่าจะเดินทางกลับถึงที่พักในตอนเย็นก็เรียกได้ว่าเหนื่อยล้าแสนสาหัส การไปตามหาและใช้เวลาในการรวบรวมส่วนผสมดังที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ยากจนเกินไป ดังนั้นอีกหนึ่งในวิธีในการดูแลแผลเป็นที่น่าสนใจ ก็คือ การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพช่วยในการดูแลแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นที่อ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นประจำทุกวัน ก็จะเป็นการช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมสุดยอดวิธีกำจัดผิวแตกลายจากธรรมชาติ อย่างรวดเร็ว

         รอยแตกลาย เป็นการปรากฏตัวของเส้นผิวสีที่แตกต่างออกไปจากผิวหนังตามปกติ ซึ่งรอยแตกลายส่วนใหญ่ที่พบ มักจะเกิดขึ้นกับบริเวรท้อง แต่ก็ยังสามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับส่วนของต้นขา  ต้นแขน และหน้าอกได้เช่นกัน ในบางครั้งรอยแตกลายเหล่านี้ตะครอบคลุมไปถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ๆของร่างกาย โดยเฉพาะในขณะที่มีการตั้งครรภ์ การสูญเสียน้ำหนักโดยฉับพลัน พันธุกรรม หรือความเครียด และการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในเชิงกายภาพ

กระบวนการเกิดปัญหาผิวแตกลาย
ผิว ประกอบด้วยชั้นทั้งสาม ที่เรียกว่า ชั้นหนังชั้นนอก, ผิวหนังชั้นกลาง และผิวหนังชั้นลึกที่สุด ซึ่งผิวแตกลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหนังชั้นกลาง เนื่องจากผิวหนังเกี่ยวพันเกิดการ “ยืด” มากเกินกว่าความยืดหยุ่นของผิวหนัง ที่จะสามารถขยายตัวตาม หรือการหดตัวของผิวที่รวดเร็วมากจนเกินไป
 เมื่อผิวหนังเกิดการยืดตัว ปริมาณของคอลลาเจนก็จะลดลง รวมไปถึงกระบวนการผลิตคอลลาเจนเองก็จะถูกขัดจังหวะ ส่งผลให้ปรากฏผิวแตกลายขึ้นมาในที่สุด ในขั้นต้นผิวแตกลายจะสามารถมองเห็นในลักษณะลายขัดยาวสีชมพู หรือสีแดง เมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นสีเงิน หรือสีม่วง และในท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นเส้นขีดสีขาว ดูคล้ายกับรอยแผลเป็น หากไม่ได้รับการดูแลรักษาเสียตั้งแต่เนิ่นๆ

วิธีการรักษา ลดปรากฏการณ์ผิวแตกลายจากธรรมชาติ
ผิวแตกลาย สามารถำให้คุณรู้สึกประหม่า และไม่สบายใจ ความมั่นใจที่สูญเสียไปเหล่านี้ คุณสามารถที่จะทำการเรียกคืนมาได้ ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ ดังต่อไปนี้
 1.น้ำมันละหุ่ง ถูกนำมาใช้ในการรักษาปัญหาด้านผิวพรรณกันอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ สิว และนำมาใช้ในการกำจัดรอยแตกลาย คุณสามาถใช้นำมันละหุ่ง ทาลงไปบนผิวหนังที่มีปัญหาผิวแตกลาย พร้อมกับทำการนวดเบาๆ เป็นวงกลม นาน 5-10 นาที จากนั้นใช้แผ่นความร้อน หรือผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นหมาดๆ วางทับในบริเวณดังกล่าว ทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 30 นาที ขั้นตอนนี้ สามารถทำซ้ำได้ทุกวัน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน จึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกดฃิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
 2.ว่านหางจระเข้ มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาผิวแตกลาย คุณสามารถนำว่านหางจระเข้มาทำการทาลงบนผิวโดยตรง ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วทำการล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือนำว่านหางจระเข้ ผสมเข้ากับน้ำมันวิตามินอี แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการทาบริเวณที่เกิดปัญหาผิวแตกลาย ถูผิวบริเวณดังกล่าวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผิวเกิดการดูดซึมส่วนผสมลงไปสู่ผิวชั้นลึก

         3.ไข่ขาว อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโน ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการช่วยเสริมสร้างรักษาปัญหารอยแตกลาย คุณเพียงแค่นำแปรงจุมลงในไข่ขาว แล้วทางลงไปบนผิวบริเวณที่เกิดปัญห ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้ง จากนั้นทำการล้างออกด้วยน้ำเย็น ตบท้ายด้วยการใช้น้ำมันมะกอกทาลงบนผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทำซ้ำเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวของคุณได้รับผลลัพธ์ในเชิงบวก
 4.น้ำมะนาว มีกรดตามธรรมชาติที่ช่วยลดสิว รอยแตกลาย และรอยแผลเป็นอื่นๆ คุณเพียงแค่นำน้ำมะนาวคั้นสดๆ ทาลงบนผิว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำอุ่น อีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การผสมน้ำมะนาว เข้ากับน้ำแตงกวาในปริมาณที่เท่ากัน แล้วนำไปทาในบริเวณที่เกิดปัญหาผิวแตกลาย
 5.น้ำตาลดิบ เป็นหนึ่งในวิธีการเยียวยาผิวหนังที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการกำจัดปัญหาผิวแตกลาย เพราะมันมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว เพียงผสมน้ำตาลทรายดิบ เข้ากับน้ำมะนาว และน้ำมันอัลมอนด์ไม่กี่หยด ทาส่วนผสมที่ได้ลงไปยังบริเวฯผิวแตกลาย นวดเบาๆ เป็นเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนการอาบน้ำ เป็นประจำราวๆหนึ่งเดือน รอยแตกลายทีเคยชัดเจนของคุณจากที่หนัก ก็จะกลายเป็นเบาลงอย่างน่ามหัศจรรย์เลยทีเดียว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมสารพัดวิธีปกปิด รอยแตกลาย บนผิวไม่ให้เด่นสะดุดตาอย่างได้ผล

         คุณผู้อ่านหลายๆคนไม่ว่าชายหรือหญิง อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับรอยแตกลายที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะร่องรอยเหล่านั้นทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน แลดูน่าเกลียด จนพลอยทำให้ความมั่นอก มั่นใจ ต่อการโชว์ผิวสวยยามเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้าสั้นๆโชว์ผิวลดลงตามไปด้วย แต่ที่จริงแล้วถ้าหากทราบเคล็ดลับแล้วล่ะก็ การแก้ไขรอยแตกลายให้ดูจางลง จนแทบไม่เหลือความเด่นสะดุดตาเอาไว้เลยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอเพียงแค่คุณผู้อ่านปฎิบัติตัวตามคำแนะนำในบทความชิ้นนี้เท่านั้นเอง

รอยแตกลายบนผิว เกิดขึ้นจากอะไร?
 รอยแตกลาย เรียกได้ว่าเป็นวัฎจักรส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น โดยเฉพาะกับคุณสาวๆ เมื่อคนเรามีการเจริญเติบโตขึ้น น้ำหนักและมวลในกล้ามเนื้อก็จะมีการเพิ่มตามมากขึ้นไปด้วย เมื่อผิวหนังถูกดึง หรือยืดจากการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว แม้ว่าผิวหนังจะมีพื้นฐานของความยืดหยุ่นพอสมควร แต่ถ้าหากมากจนเกินไป การผลิตคอลลาเจนในบริเวณนั้นก็จถูกหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดรอยแผลลเป็น รอยแตกลายขึ้น
หากคุณผู้อ่านสังเกตเห็นรอยแตกลายบนร่างกายของตัวเอง ต้องเข้าใจก่อนว่าพวกมันไม่ไก้เกิดขึ้นเฉพาะกับคุณคนเดียว ยังมีคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาเดียวกันจนเป็นเรื่องธรรมดา จนบางครั้งรอยแตกลายถูกเรียกว่าเป็นเครื่องหมายของการเจริญเติบโตอีกด้วย ในหลายๆครั้ง รอยแตกลายที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากการใช้ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสเตรียรอย หรือขี้ผึ้งความเข้มข้นสูง ที่ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ

รอยแตกลาย สามารถปกปิดได้อย่างไรบ้าง?
     ในตอนแรกๆที่เกิดปัญหารอยแตกลายขึ้น รอยแตกลายอาจจะมีสีแดง หรือสีม่วง ปรากฏขึ้นเยื้องในผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกลายเหล่านั้นก็จะค่อยๆจางลง และเกือบจะหายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ในบางคนรอยแตกลาย อาจจะชัดเจนขึ้นในรูปแบบของเส้นขูดขีด ดูคล้ายกับรอยแผลเป็น หากคุณต้องการปกปิดรอยแตกลาย ให้ดูจาลงลง หรือไม่เด่นสะดุดตาแล้วล่ะก็ สามารถที่จะทดลองใช้วิธีต่างๆในบทความชิ้นนี้ได้ ดังต่อไปนี้
 1.การแต่งกายช่วยได้ เป็นพื้นฐานที่สุดในการอำพรางผิวที่แตกลายของคุณด้วยการแต่งกาย คุณสามารถปกปิดส่วนที่แตกลายไว้ด้วยเสื้อผ้าแขนขายาวปกดปิกสัดส่วน แต่ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย คุณสามารถที่จะประยุกต์เล็กน้อย ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่บางมองทะลุได้เพื่อระบายความร้อน แต่มีความหนามากเพียงพอที่จะปกปิดรอยแตกลายเอาไว้

         2.เครื่องสำอางค์ การเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีโทนสีเดียวกับผิว สามารถช่วยกลบเกลื่อนรอยแตกลายได้เป็นอย่างดี แต่คุณจำเป็นที่จะต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการใช้เครื่องสำอางค์ระบายปกปิดรอยแตกลายบนร่างกายของตัวเอง
3.ชุดว่ายน้ำสำหรับคนที่มีปัญหารอยแตกลายโดยเฉพาะ สระว่ายน้ำ หรือชายหาด เป็นสถานที่ที่สร้างความหนักใจให้กับผู้ที่มีปัญหารอยแตกลายมาอย่างช้านาน แต่ข่าวดีก็คือ ในปัจจุบันมีชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงว่ายน้ำ ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยรอยแตกลายส่วนใหญ่โดยเฉพาะ บริเวณก้น และต้นขาส่วนบน และชุดว่ายน้ำแบบสูททั้งตัว ยังช่วยซ่อนรอยแตกลายบริเวณหน้าอกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
 การรักษารอยแตกลายอย่างได้ผลจริงๆนั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล รักษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคการรักษาเหล่านี้มีราคาที่ค่อนข้างแพง และไม่เหมาะสมกับวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต และเป็นไปได้สูง ที่รอยแตกลายเหล่านั้นจะมีโอกาสลดน้อยลงตามช่วงระยะเวลาที่ผ่านไป

อยากรักษารอยแตกลายด้วยตัวเอง และได้ผลดีทำได้อย่างไรบ้าง?
สำหรับคนที่มีปัญหารอยผิวแตกลาย และอยากที่จะทำการดูแลรักษาด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปเข้ารับการรักษาจากแพทย์ที่มีราคาแสนแพงนั้น สามารถที่จะทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างเช่นการเริ่มต้นด้วยการใช้ครีมบำรุงดูแลผิวในบริเวณที่เกิดปัญหาแตกลายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.