ลดรอยแผลเป็น ในไม่กี่สัปดาห์ ทำได้อย่างไรไปดูกัน

         รอยแผลเป็น เป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านผิวพรรณที่เรียกได้ว่ารักษาได้ค่อนข้าง “ยาก” และจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานมากทีเดียว กว่าที่ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้กลับมาแลดูเรียบเนียนได้ดังเดิม แต่สำหรับคนใจร้อน ที่ออกจะอดรนทนรอไม่ค่อยได้ อยากลดรอยแผลเป็นให้เลือนหายไปให้รวดเร็วที่สุดนั้น ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ด้วยการใช้วิธีการรักษาลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติ ที่กำลังจะขอแนะนำไว้ในบทความนี้ ถ้าหากทำการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ รับรองว่าการลดรอยแผลเป็น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ จะไม่เป็นเรื่องที่ไกลจนเกินเอื้อมอีกต่อไปอย่างแน่นอน

วิธีลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติอย่างได้ผลทันใจ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
 1.น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการลดรอยแผลเป็นอย่างได้ผล ด้วยการช่วยกำจัดเนื้อเยื่อแผลเป็น ผลัดผิวเก่า เผยเซลล์ผอวใหม่ที่สวยงามสดใสมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับวิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงใช้สำลีจุ่มลงในน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ แล้วนำไปทาในบริเวณรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตบท้ายด้วยการทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์คุณก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากรู้สึกว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้รู้สึกคัน ระคายเคืองที่ผิว ควรนำไปผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้เจือจาง ก่อนที่จะนำไปใช้ทาที่ผิว
2.น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดรอยแผลเป็น โดยการช่วยเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของเซลล์ผิว และยังช่วยป้องกันรอยแผลเป็นแบบถาวรอีกด้วย น้ำมันลาเวนเดอร์เพียงไม่กี่หยด นำไปใช้นวดเบาๆ เป็นวงกลมบนรอยแผลเป็น จากนั้นทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมลึกลงสู่ชั้นผิว หรือคุณอาจจะนำน้ำมันลาเวนเดอร์ ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทาลงบนบริเวณที่ต้องการก็ได้เช่นกัน วิธีนี้สามารถทำการทาผิวได้วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 3.น้ำผึ้ง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ลดรอยแผลเป็น ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพียงแค่คุณนำน้ำผึ้งดิบ ทานวดเป็นวงกลมลงไปบนรอยแผลเป็นที่ต้องการ 10 นาที แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันหลายๆสัปดาห์

         4.ผงไม้จันทร์ เป็นวิธีการลดรอยแผลเป็นที่ดี ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ผงไม้จันทร์มีคุณสมบัติในการช่วยรักษารอยแผลเป็นให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับส่วนผสมของสูตรนี้ ได้แก่การใช้ผงไม้จันทร์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับน้ำกุหลาบพอให้ผงไม้จันทร์เริ่มข้นเป็นน้ำ จากนนั้นนำส่วนผสมที่ได้ทาพอกเอาไว้บนรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ทั้งคืน แล้วจึงค่อยทำการล้างออกในตอนเช้า ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน เป็นเวลา 1-2 เดือน
 5.น้ำมันต้นชา มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาผิว และช่วยในการลดรอยแผลเป็นอย่างพอเหมาะ แต่เนื่องจากน้ำมันต้นชามีความเข้มข้นสูงมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ทำการเจือจางด้วยน้ำก่อนนำไปใช้ การนำน้ำมันต้นชาไปใช้นั้น ควรใช้น้ำมันต้นชา 2 หยด ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา แล้วนำไปทายังบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ ทิ้งเอาไว้หลายๆชั่วโมง  วันละครั้งแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้น้ำมันต้นชา 2-3 หยด ผสมเข้ากับน้ำอุ่น 2/3 ถ้วย แล้วนำไปล้างในบริเวณที่ต้องการวันละ 2 ครั้ง ทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลานานหลายๆสัปดาห์
การรักษาลดรอยแผลเป็นด้วยวิธีการทางธรรมชาติเหล่านี้ อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะแสดงผล แต่พวกมันก็มีอันตรายและผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการรักษาที่ต้องใช้สารเคมี หรือการผ่าตัด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีจัดการรอยแผลเป็นจากสิว แบบธรรมชาติ

         สิวอักเสบ นอกจากจะสร้างความเจ็บปวดกับอาการอักเสบของมันเลย เวลามันหายไปก็มักทิ้งร่องรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดงไว้ให้เราเจ็บใจ ซึ่งรอยดังกล่าวจะบดบังใบหน้าหล่อสวยของเราจนหมดสิ้น เพราะรอยแผลเป็นจากสิวนั้นจะทำให้ใบหน้าของเราหมองคล้ำไปโดยพลัน ทั้งนี้ทั้งนั้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวก็คือการมีนิสัยชอบแคะแกะเกา และบีบสิวบนใบหน้า ทำให้รอยยิ่งช้ำรุนแรงมากขึ้น
         เพื่อจัดการปัญหารอยแผลเป็นจากสิวให้หมดไป วันนี้เรามีวิธีแบบธรรมชาติมานำเสนอ โดยเป็นวิธีจัดการรอยแผลเป็นจากสิวที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริง แต่จะเห็นผลช้าเร็วก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและรุนแรงของรอยแผลเป็นของแต่ละคน

ลักษณะของรอยแผลเป็นจากสิว

         1.รอยแดงอักเสบแดงช้ำเป็นจ้ำ รอยสิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นรอยแดงจากการอักเสบอยู่ เกิดจากการอักเสบซ้ำซ้อนของสิว เมื่อสิวยุบร่างกายจะมีกลไกการซ่อมแซมผิวหนังที่อักเสบด้วยตัวเอง แต่ยังไม่หายสนิทจึงทำให้เกิดเป็นรอยแดงช้ำเป็นจ้ำ
         2.รอยสิวสีดำหรือสีน้ำตาล รอยสิวนี้เกิดขึ้นเมื่อกระบวนการสมานเนื้อเยื่อและการสร้างเซลล์เม็ดสีผิวไม่สมบูรณ์ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลถึงแม้ว่าสิวจะหายสนิทแล้วก็ตาม ทั้งนี้ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวแบบนี้จะค่อยๆหายไปเอง แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
         3.รอยแผลเป็นชนิดบุ๋มเป็นหลุม รอยแผลชนิดนี้เกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อบนชั้นผิวถูกทำลายและไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการบีบสิวทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย โดยจะพบบริเวณใบหน้าและรอบแก้ม

จัดการรอยแผลเป็นสิวด้วยสูตรธรรมชาติ
         1.หอมแดง จะมีสารที่ให้คุณสมบัติสามารถยับยั้งแบคทีเรียบนผิวหนังได้ สูตรนี้เพียงแค่นำหอมแดงมาปอกเปลือกให้เกลี้ยงและล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาฝานเป็นแผ่นบางๆหรือจะสับให้ละเอียดก็ได้ แล้วนำมาโปะไว้บนจุดที่เป็นสิวหรือมีรอยด่างดำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำทุกวัน จะเห็นผลภายใน 3-4 วัน โดยหัวสิวค่อยๆยุบตัวลง ส่วนรอยด่างดำก็จะดูจางลงอย่างเห็นผลได้ชัด
         2.มะละกอ นอกจากจะช่วยให้ผิวทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลแล้ว ยังช่วยลดรอยแผลเป็น หรือรอยดำจากสิวได้อีกด้วย เพราะในเนื้อมะละกอมีเอ็นไซม์ที่ทำเนื้อเยื่อที่ตายแล้วหลุดลอกได้ง่าย ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ได้เร็วขึ้น วิธีการคือปอกมะละกอสุกแล้วล้างยางออกให้หมดแล้วบดให้ละเอียด พอกทิ้งไว้บนผิวหน้า 10-15 นาทีจึงล้างออก เพียงแค่ครั้งแรกจะรู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มชุ่มชื่นของผิว หากใช้เป็นประจำจะช่วยรอยสิวจางลงจนหายเป็นปกติ

         3.ใบบัวบก เป็นที่รู้จักกันดีว่าการรับประทานใบบัวบกช่วยรักษาอาการฟกช้ำได้ดี และยังสามารถใช้ลดรอยดำ รอยแผลเป็นจากสิวได้ เนื่องจากในใบบัวบกมีสารไกลโคไซด์ (Glucosides) ซึ่งจะช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหน้าของเรา ลอยดำก็จะลดลงจางลง และยังทำให้ผิวหน้าโดยรวมดูดีขึ้นอีกด้วย สูตรนี้ให้นำใบบัวบกไปปั่นกับเครื่องปั่นหรือตำละเอียดในครก จากนั้นก็นำใบบัวบกที่ได้มาพอกหน้าได้เลย ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีจึงล้างออก
         4.มะนาว เป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ (AHA, Alpha Hydroxy Acids) ช่วยในการลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดร่วงออกไป นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว วิธีที่นิยมใช้กันคือหยดน้ำมะนาวสัก 1-2 หยดมาแต้มสิวทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก แต่สำหรับคนที่ผิวหน้าไม่เหมาะกับมะนาวหรือคิดว่ามะนาวแรงเกินไป ก็ให้ใช้น้ำมะนาวผสมกับโฟมล้างหน้าได้เช่นกัน
         นอกจากนี้ การทาครีมบำรุงผิวหน้าทุกครั้งหลังจากการอาบน้ำก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสภาพผิวที่มีรอยดำรอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิวให้กลับมาดูดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องระวังอย่าใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารปรอท เพราะเป็นสารที่ทำร้ายผิวหน้าแสนบอบบางของเรา เห็นไหมว่าวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ถ้าไม่อยากเกิดปัญหาผิวเช่นนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการบีบสิว รวมถึงอย่าใช้แคะแกะเกาเป็นอันขาด เพราะจะยิ่งทำให้รอยแผลเป็นรุนแรงมากขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.