ข้อดีของยากษัยเส้น รักษาอาการปวดได้ผลชะงัด

         ตามความหมายของแพทย์แผนโบราณ โรคกษัยเส้น เป็นโรคแห่งความเสื่อมโทรมของร่างกาย โดยไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากร่างกายจากความเสื่อมสภาพของธาติทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ สุขภาพทรุดโทรมลงจนทำงานไม่ได้เหมือนปกติ ทั้งนี้ แพทย์ปัจจุบันจะเรียกโรคกษัยเส้นว่า “ไฮโปไกลซีเมีย”  (Hypoglycemia) หรือโรคที่มีความหลากหลายของอาการ ได้แก่ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดเนื้อปวดตัวเรื้อรัง นอนไม่หลับ ฯลฯ ซึ่งมักไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค
กระนั้นโดยสรุป โรคกษัยเส้นจึงหมายถึงโรคที่เกิดจากความสึกหรอ หรือความเสื่อมโทรมของร่างกาย โดยเป็นความสึกหรอ เสื่อมโทรมลงของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นยึดกระดูก (tendon) หรือเอ็นยึดข้อ (ligament) หรือแนวมัดกล้ามเนื้อ ซึ่งมีอยู่ทั่วร่างกาย จึงเป็นที่มาของคำว่า “กษัยเส้น” ซึ่งจะทำให้มีอาการดังนี้

1.เกิดการอักเสบของเส้น ทำให้มีอาการเจ็บ หรือชา หรือปวดแสบ ร้อน ตามเส้น ที่แขน หรือขา
2.อาการปวดหลัง (ปวดเส้นเอ็นหลังหรือกล้ามเนื้อหลัง) หรือปวดบั้นเอว หรือปวดบั้นเอวแล้วปวดเส้นเอ็น ลงไปที่ขา บางรายอาจถึงเท้า
3.เส้นเอ็นตึง เส้นตึง หรือ เส้นยึด ที่แขน ขา หน้าท้อง คอด้านหลัง ทำให้ยกแขนไม่ขึ้น นั่งยองๆ หรือ นั่งพับเพียบยาก หรือนั่งแล้วก็ลุกยาก เอี้ยวตัวยาก ตกหมอน หรือตื่นนอน แล้วไม่สามารถลุกขึ้นได้ทันที
4.ปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น แขน บ่า ขา เป็นต้น หรือมีอาการปวดหัวเข่า เข่าบวม
5.เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เจ็บฝ่าเท้า หรือส้นเท้า ทำให้เดินลำบาก


เกี่ยวกับ ยากษัยเส้น

อย่างที่ได้บอกไปแล้วโรคกษัยเส้น เป็นโรคที่แพทย์แผนปัจจุบันมักไม่ทราบสาเหตุของการเกิด จึงยากที่รักษาให้หายขาดได้ แถมยาแผนปัจจุบันมักเป็นการใช้เพื่อรักษาเฉพาะจุด อย่างเช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เจ็บคอ ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น ฉะนั้นยากษัยเส้นที่นิยมใช้กันจึงเป็นยาแผนโบราณ เพราะสามารถแก้อาการปวดได้ชะงัด โดยแพทย์แผนโบราณจะใช้วิธีสอบถามอาการจากคำบอกเล่าของผู้ป่วย ดูอาการแสดงออก และถามความเป็นมาของอาการ ระยะเวลาของอาการ ฯลฯ หลังจากนั้นจึงให้รับประทานยากษัยเส้น อย่างก็ตาม ยากษัยเส้นที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ตราเทพธิดา และตราเด็กในพานทอง

 

ข้อดีของยากษัยเส้น
ตามตำรับยากษัยเส้น มักจะมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่เป็นตัวยามากมาย ยกตัวอย่างเช่น บอระเพ็ดพุงช้าง แห้วหมู ขิง กำลังช้างสาร ดอกดึง เป็นต้น ซึ่งมีสรรพคุณแก้กษัยเส้นหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย (เส้นตึง เอ็นตึง ปวดขา ปวดเข่า) ปรับธาตุ 4 ให้เป็นปกติ แก้แพ้ผื่นคัน ช่วยเจริญอาหาร รับประทานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นข้อดีที่หาได้ยากในยาแผนปัจจุบัน
อย่างไตก็ตาม ด้วยความที่มีสมุนไพรซึ่งเป็นสูตรเฉพาะอยู่จำนวนมาก จึงทำให้ยากษัยเส้นอาจมีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยได้หากรับประทานผิดวิธี ดังนั้น การใช้ยากษัยเส้นควรผ่านการพิจารณาจากผู้มีความเรื่องยาแผนโบราณโดยตรง จึงจะสามารถรักษาอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากโรคกษัยเส้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ยากษัยเส้น ยาแผนโบราณรักษาอาการได้ผลชะงัด

         “กษัย” ในตำราเก่าตำราการแพทย์แผนไทยได้อธิบายเรื่องโรคกษัยไว้โดยละเอียดว่า ไกษย (กษัย, กไสย) คือโรคที่บังเกิดขึ้นแก่มนุษย์ ทำให้มีอาการแห่งความเสื่อมโทรม ซูมผอม สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นโรคหรือไข้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทำลายสุขภาพของร่างกายให้เสื่อมโทรมไปทีละน้อย เป็นเวลาต่อเนื่องกัน โดยมิได้รับการบำบัดรักษา หรือรักษาแต่ไม่ถูกกับโรคหรือไข้นั้นๆ โดยตรง เนื่องจากไม่มีอาการอะไรรุนแรงให้เห็นชัด
         จะเห็นได้ว่ากษัยเป็นโรคที่ทำลายสุขภาพหลายๆด้านไปพร้อมๆกัน ดังนั้น ยากษัยเส้นจึงมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากยาที่เราใช้กันใช้ปัจจุบัน เนื่องจากยาปัจจุบันมักเป็นการใช้เพื่อรักษาเฉพาะจุด อย่างเช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เจ็บคอ ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านได้รู้จักกับยากษัยเส้น ซึ่งเป็นยาแผนโบราณที่ใช้กันมานาน ที่สำคัญคือสามารถรักษาอาการอย่างได้ผล


อาการของกษัยเส้น

         ก่อนที่จะไปรู้จักกับยากษัยเส้น ควรทราบก่อนว่าอาการโรคนี้เป็นอย่างไร โดยส่วนใหญ่มักมีอาการผอมแห้งแรงน้อย โลหิตจาง ผิวหนังซีดเหลือง ปวดเมื่อยตามร่างกาย และกล้ามเนื้อ บางครั้งไอ บางทีไอเป็นเลือด ทำให้รู้สึกแน่นแลหนักตัว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ปัสสาวะเหลือง และปัสสาวะกะปริบกะปรอย
         นอกจากนี้ยังไม่ค่อยมีกำลัง ชาปลายมือปลายเท้า มีเหงื่อออกตามฝ่ามือฝ่าเท้า และเหงื่อออกตอนกลางคืน ยอกเสียวตามหัวอกและชายโครง บางคนผิวหนังตกกระตามร่างกาย กล้ามเนื้อชักหดและลีบ มีอาการสะท้านร้อนสะท้านหนาวเป็นคราวๆ และท้องผูกเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม อาการของโรคกษัยเส้นมักทำให้เอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นยึดกระดูก (tendon) เอ็นยึดข้อ(ligament) หรือแนวมัดกล้ามเนื้อเกิดความสึกหรอเสื่อมโทรมลง ซึ่งเป็นส่วนที่มีอยู่ทั่วร่างกาย จึงทำให้เกิดความอ่อนเปลี้ยเพลียได้ง่าย


ยากษัยเส้น

         โรคกษัยเส้น แพทย์แผนโบราณจะใช้วิธีสอบถามอาการจากคำบอกเล่าของผู้ป่วย ดูอาการแสดงออก และถามความเป็นมาของอาการ ระยะเวลาของอาการ ฯลฯ เมื่อวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคกษัยเส้น แพทย์แผนโบราณจะถือว่าผู้ป่วยสะสมของไม่ดีหรือหมักโรคไว้ในร่างกาย หลักการคือต้องถ่ายเอาโรคหรือของเก่าที่ไม่ดีในร่างกายออกมาทิ้งให้หมด แล้วค่อยกินยาไปรักษา หรือบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิม ทั้งนี้ ยากษัยเส้นที่มีขายตามท้องตลาด เช่น
         1.ยากษัยเส้น ตราเทพธิดา เป็นยาชนิดน้ำ มีสรรพคุณแก้กษัยเส้นหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย (เส้นตึง เอ็นตึง ปวดขา ปวดเข่า) ปรับธาตุ 4 ให้เป็นปกติ แก้แพ้ผื่นคัน ช่วยเจริญอาหาร รับประทานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย วิธีใช้คือให้รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ เช้า-เย็น แต่เป็นยาที่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และในเด็ก
         ยากษัยเส้นตัวนี้ เป็นยาแผนโบราณที่ควรระวังในการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มป้องกันเลือดเป็นลิ่มเลือด (Anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (Antiplatelets) และควรระวังการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของตับ ไต เนื่องจากอาจเกิดการสะสมของสมุนไพรการบูร ซึ่งอาจเกิดพิษต่อ ตับ ไตได้
         2.ยากษัยเส้น ตราเด็กในพานทอง เป็นยาชนิดเม็ด ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้กษัยเส้น กษัยลม แก้ท้องเป็นเถา ใช้เป็นยาระ บาย โดยให้รับประทานก่อนอาหารเช้าวันละ 1 ครั้ง ใช้เป็นธาตุเบา (กินยาระบายอ่อนๆก็ถ่าย) 2 เม็ด ธาตุกลาง 3 เม็ด และใช้ธาตุหนัก (ต้องกินยาถ่ายมากๆจึงจะถ่าย) 4 เม็ด ซึ่งถ้าต้องการระบายอ่อนๆให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ดก็เพียงพอ ยาตัวนี้ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และในเด็ก และมีข้อควรระวังเหมือนกับยากษัยเส้นตัวแรก
         อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมียากษัยเส้นหลายยี่ห้อวางจำหน่ายตามท้องตลาด ผู้ที่จะใช้รักษากษัยควรพิจารณาตัวที่ไว้ใจได้ ถ้าไม่มั่นใจให้ปรึกษาแพทย์แผนโบราณก่อนใช้ เนื่องจากยาแต่ละตัวได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงอาจเกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำความรู้จัก ‘กษัยเส้น’ โรคเก่าเล่าใหม่

         พอพูดถึง “กษัยเส้น” เชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะวัยหนุ่มสาวคงส่ายหน้า แล้วตั้งคำถามขึ้นว่ากษัยเส้นมันคืออะไร ถ้ายึดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คำว่า กระษัย หรือกษัย หมายถึงชื่อโรคตามตำราแพทย์แผนโบราณว่า ทำให้ร่างกายทรุดโทรม มีอาการผอมแห้ง ตัวเหลือง เท้าเย็น ทั้งนี้ทั้งนั้น จริงๆแล้วโรคกษัยเส้นมันคืออะไร ทำไมรุ่นปู่ย่าตาทวดถึงรู้จักกันดี ขณะที่วัยรุ่นกลับไม่คุ้นหูเอาเสียเลย วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

‘กษัย’ กับแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนปัจจุบัน
         ตามความหมายของแพทย์แผนโบราณ โรคนี้ถือว่าเป็นโรคของความเสื่อมโทรมของร่างกาย โดยไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค โดยถือว่าร่างกายของคนเราเกิดจากธาตุทั้ง 4 มารวมกัน มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุทั้ง 4 มันได้เสื่อมหน้าที่ของมัน จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ทรุดโทรมลง ทำงานไม่ได้ตามปกติ อย่างเช่น

         ธาตุดิน เช่น กระดูก (ซึ่งถือว่าเป็นกองดินกองหนึ่ง) ผิดปกติไป ก็ถือว่าธาตุดินผิดปกติ ธาตุน้ำ เช่น ถ้าเลือด (ซึ่งถือว่าเป็นกองน้ำอันหนึ่ง) น้อยลง ก็ถือว่าธาตุน้ำผิดปกติ ธาตุลม เช่น แรงที่ดันให้เลือดเดิน (ซึ่งถือว่าเป็นลมกองหนึ่ง) เมื่อเลือดไม่สูบฉีดหรือสูบฉีดไม่ดี ก็ถือว่าธาตุลมผิดปกติ และธาตุไฟ เช่น ถ้าน้ำย่อยอาหาร (ซึ่งถือเป็นกองไฟกองหนึ่ง) ไม่ทำงานก็ถือว่าธาตุไฟผิดปกติ เป็นต้น
         เมื่อธาตุทั้ง 4 เสื่อม ดังเช่นตัวอย่างข้างต้น จะเห็นสุขภาพร่างกายก็จะเสื่อมลง สรุปแล้วกระษัยจึงมีความหมายกว้างมาก เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมโทรมของร่างกาย (ธาตุทั้ง 4) นั่นเอง

         แพทย์ปัจจุบันจะเรียกโรคกษัยว่า “ไฮโปไกลซีเมีย”  (Hypoglycemia) หรือโรคที่มีหลายอาการ ได้แก่ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดเนื้อปวดตัวเรื้อรัง นอนไม่หลับ ฯลฯ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค
         “หมอแผนปัจจุบันเขาถนัดรักษาเฉพาะที่เฉพาะจุด แต่เมื่ออาการเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เขารักษาไม่ถนัด ส่วนในตำราเวชกรรมบทที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุขชื่อคัมภีร์กษัย บอกว่า สาเหตุความเจ็บป่วยเกิดจากความผิดปกติของกองธาตุสมุฏฐาน 8 อุปปาติกโรค 18 ประการ รวม 26 ประการ กองธาตุสมุฏฐานเป็นส่วนของความผิดปกติของธาตุต่างๆ ในร่างกาย ส่วนอุปปาติกโรคเป็นส่วนที่ไม่ทราบสาเหตุซึ่งความรู้โรคกษัยนี้มีบันทึกไว้นานกว่า 2,500 ปี และหมอแผนโบราณสามารถรักษาได้หาย” นี่คือถ้อยคำจากนายอุดม ลดหวั่น หมอแผนโบราณที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารชีวจิต
 
เกี่ยวกับ ‘กษัยเส้น’
         ถึงแม้ “กษัย” จะมีนิยามของที่แตกต่างกันไปบ้างระหว่างการแพทย์แผนโบราณและปัจจุบัน แต่โดยสรุปแล้วก็หมายหมายถึงโรคที่เกิดจากความสึกหรอ หรือความเสื่อมโทรมของร่างกาย ดังนั้น คำว่า “กษัยเส้น” จึงมีความหมายว่า ความสึกหรอเสื่อมโทรมลงของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นยึดกระดูก (tendon) หรือเอ็นยึดข้อ(ligament) หรือแนวมัดกล้ามเนื้อ ซึ่งมีอยู่ทั่วร่างกาย กษัยเส้นจึงเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดจากความสึกหรอ หรือความเสื่อมของเส้น ทำให้มีอาการดังนี้
         1.เกิดการอักเสบของเส้น ทำให้มีอาการเจ็บ หรือชา หรือปวดแสบ ร้อน ตามเส้น ที่แขน หรือขา
         2.อาการปวดหลัง (ปวดเส้นเอ็นหลังหรือกล้ามเนื้อหลัง) หรือปวดบั้นเอว หรือปวดบั้นเอวแล้วปวดเส้นเอ็น ลงไปที่ขา บางรายอาจถึงเท้า
         3.เส้นเอ็นตึง เส้นตึง หรือ เส้นยึด ที่แขน ขา หน้าท้อง คอด้านหลัง ทำให้ยกแขนไม่ขึ้น นั่งยองๆ หรือ นั่งพับเพียบยาก หรือนั่งแล้วก็ลุกยาก เอี้ยวตัวยาก ตกหมอน หรือตื่นนอน แล้วไม่สามารถลุกขึ้นได้ทันที
         4.ปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น แขน บ่า ขา
         5.เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เจ็บฝ่าเท้า หรือส้นเท้า ทำให้เดินลำบาก
         6.ปวดหัวเข่า หรือเข่าบวม
         สำหรับแนวทางการรักษากษัยเส้น ตามตำรับยาโบราณจะประกอบไปด้วยตัวยามากมาย ได้แก่ บอระเพ็ดพุงช้าง แห้วหมู ขิง กำลังช้างสาร ดอกดึง เป็นอาทิ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆที่เป็นสูตรเฉพาะอีกมากมาย ทั้งนี้ การใช้ยาควรผ่านการพิจารณาจากผู้มีความเรื่องยาแผนโบราณโดยตรง จึงจะรักษาให้หายได้
 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.