อาหารอะไรที่กินแล้วบำรุงเลือด อาหารบำรุงโลหิต

         ขึ้นชื่อเรื่องมาแบบนี้หลายคนคงฉงนสงสัยกันว่า อาหารบำรุงโลหิตคืออะไร แล้วด้วยเหตุผลกลใดทำไมเราถึงต้องบำรุงเลือด เพื่อไขข้องใจนี้ขออธิบายสั้นๆก่อนว่า เลือดของเราก็เปรียบเสมือนน้ำมันหล่อลื่นที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าเครื่องยนต์น้ำมันหล่อลื่นเสื่อมคุณภาพ จะทำให้การทำงานติดขัด ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ แถมยังอาจทำให้เครื่องพังได้ ฉันใดฉันนั้น ร่างกายของเราก็เหมือนเครื่องยนต์หากเลือดไม่ดี จะทำให้ส่วนอื่นๆแย่ลงไปด้วย
         น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วว่าทำไมเราถึงต้องมีการบำรุงเลือด ทั้งนี้ แนวทางการบำรุงเลือดนอกจากจะควรออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีด ไหวเวียนได้ดีขึ้นแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการรับประทานอาหารบำรุงโลหิต ซึ่งจะช่วยให้เลือดของเราแข็งแรง ห่างไกลจะโรคเกี่ยวกับเลือดต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง ที่อาจทำให้มีอาการวิงเวียน หน้ามืด เป็นลมหมดสติได้ง่าย เป็นต้น

         การบำรุงเลือด นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้บุคลิกภาพของคุณดูดีได้อีกด้วย โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ถ้าเลือดลมไม่ดี จะทำให้ผิวพรรณเหลืองซีด ปากจืด เส้นผมแห้งเสีย แถมใบหน้าอาจมีสิวขึ้นบ่อยๆ ดังนั้น การบำรุงเลือดทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง สวยสง่า ออร่าจับมากขึ้นนั่นเอง

อาหารอะไรที่กินแล้วบำรุงเลือด
         เนื่องจากในเลือดมีสารอาหารอย่างโปรตีนและธาตุเหล็กอยู่เป็นจำนวนมาก อาหารบำรุงโลหิตที่ควรจะได้รับจึงเป็นอาหารที่มีปริมาณโปรตีนและธาตุเหล็กสูง ดังนั้น จึงควรรับประทานโปรตีนจากพืชและสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา (โดยเฉพาะปลาทะเล) สำหรับโปรตีนจากพืช ได้แก่ ถั่วเหลือง ธัญพืชต่างๆ เป็นต้น

         และควรเน้นรับประทานผักสีเขียวเข้ม ตับสัตว์ ไข่แดง ฟักทอง ถั่ว ซึ่งเป็นอาหารที่อุดมด้วยกรอโฟลิก และเป็นอาหารที่ให้ธาตุเหล็ก ช่วยกระตุ้นการผลิตเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่าอาหารที่มีวิตามินซีสูงช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและกรดโฟลิกได้ดีขึ้น จึงควรรับประทานผักผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงควบคู่ไปด้วยอย่างเช่น ฝรั่ง ส้ม ได้ทั้งในรูปแบบสดและน้ำคั้น
         วิตามินบี 12 ก็ถือเป็นอาหารบำรุงโลหิต เพราะเข้าไปช่วยในการผลิตและแบ่งเซลล์เม็ดเลือด แหล่งอาหารที่พบได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม ไข่ ปลา และเนื้อสัตว์ กระนั้นก็ตาม ควรดื่มน้ำมากๆอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และเป็นการเสริมส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้สมบูรณ์มากขึ้น

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหารเสริมของคนเลือดจาง และการกินเพื่อบำรุงเลือด

         ภาวะเลือดจาง เป็นปัญหาสุขภาพที่หลายคนมักมองข้าม ทว่ามันคือภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนมาแล้วนักต่อนัก เนื่องจากหากมีภาวะเลือดจางอาจจะทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้าซีด ตัวซีด ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง จนบางถึงกับหมดสติไปเลยก็มี ทั้งนี้ ภาวะเลือดจางเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางอย่างสามารถรักษาให้หายขาดได้ บางอย่างทำได้แค่ประคับประคองให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติให้มากที่สุด ฉะนั้น จงอย่าละเลยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น และให้สำคัญกับเรื่องอาหารการกินเพื่อบำรุงเลือด แค่นี้ก็จะห่างไกลภาวะเลือดจาง


การกินเพื่อบำรุงเลือด

         เลือดมีองค์ประกอบหลักคือโปรตีนและธาตุเหล็ก ดังนั้น การรับประทานอาหารเพื่อบำรุงเลือดจึงควรเน้นไปที่สารอาหารประเภทโปรตีนและอาหารเสริมธาตุ โดยเพิ่มการรับประทานอาหารโปรตีนสูงทั้งจากพืชและสัตว์ อาหารที่ได้จากพืช ได้แก่ ข้าวเสริมธาตุเหล็ก ข้าวหอมนิล ข้าวสายพันธุ์ 313 ผักสีเขียวเข้ม จะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก กรดโฟลิก คลอโรฟิลส์ (สารที่มีโมเลกุลคล้ายฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง) รวมถึงควรรับประทานฟักทอง แครอท ถั่ว อัลมอนต์ เมล็ดธัญพืช ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี ผักประเภทหน่อไม้ฝรั่ง บร็อคโคลี่ และมะเขือเทศ
         นอกจากนี้ วัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารก็มีส่วนสำคัญในการบำรุงเลือด ให้ห่างจากภาวะเลือดจาง โดยควรรับประทานน้ำมันมะกอก พริก กระเทียม ขมิ้น เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดี สำหรับอาหารจากสัตว์ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับลูกวัว ไข่แดง สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง เช่น กุ้ง หอย ปู เป็นต้น
         ผลไม้ที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อเลือด ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม แคนตาลูป อะโวคาโด ลูกพีช กล้วยเนื่องจากอุดดมไปด้วยวิตามินซีและธาตุเหล็กสูง ซึ่งหากรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น


อาหารเสริมของคนเลือดจาง

         สำหรับคนที่เลือดลมไม่ค่อยดี หรือรู้สึกว่ากำลังอยู่ในภาวะเลือดจาง (หากไม่มั่นใจแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย) เราขอแนะนำให้เสริมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สำหรับบำรุงเลือด ดังนี้
         -โฟลิกแอซิด วันละ 400 ไมโครกรัม
         -วิตามินบี 1 ขนาด 100 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด
         -วิตามินบี 12 ขนาด 500 ไมโครกรัม วันละ 1 เม็ด
         -วิตามินบี 6 วันละอย่างน้อย 100 มิลลิกรัม
         -แมกนีเซียม ขนาด 100 – 200 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด
         -แคลเซียม ขนาด 200 – 300 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด

         วิตามินเสริมเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ด้วยตัวเองตามร้านทั่วไป แต่ต้องได้รับคำปรึกษาที่ดี (จากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริม) โดยแนะนำให้รับประทานจนกว่าอาการทุกอย่างจะดีขึ้น เช่น จากที่หน้ามืดง่ายๆ ก็ใช้อาหารเสริมจนกว่าจะหาย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ เมื่ออาการดีขึ้นจนรู้สึกว่าอยู่ตัวแล้วก็สามารถหยุดกินวิตามินและแร่ธาตุชนิดเม็ดเหล่านี้ได้
         และเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือดที่ดีแนะนำว่า การกินน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา ทำให้ไขมันในเลือดสมดุล ไม่มีอะไรไปอุดตันในเส้นเลือด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหารอะไรที่กินแล้วบำรุงเลือด สำหรับผู้เป็น โลหิตจาง

         เคยไหมที่มีคนเข้ามาทักว่าคุณตัวซีด เหลือง และชอบมักอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะหน้ามืดเป็นประจำ หรือบางครั้งอาจเป็นลมหมดสติก็มี หากเป็นเช่นนี้คุณอาจตกอยู่ในภาวะโลหิตจาง หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “เลือดน้อย”
         ภาวะโลหิตจาง คือการที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ทางการแพทย์จะหมายถึงการที่ระดับค่าฮีโมโกลบินในเลือดต่ำกว่า 13 กรัม/เดซิลิตรในผู้ชาย หรือ 12 กรัม/เดซิลิตรในผู้หญิง ถ้าคิดเป็นค่าฮีมาโตคริตคือความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงต่ำกว่า 39 และ 36 เปอร์เซ็นต์ในผู้ชายและผู้หญิงตามลำดับ

 

สาเหตุที่ทำให้โลหิตจาง
         1.โลหิตจางจากการสูญเสียเลือด โดยจะมี 2 กรณี คือ มีเลือดออกจากทางเดินอาหารซึ่งจะเห็นเป็นถ่ายอุจจาระมีเลือดปนหรือถ่ายดำ แต่ถ้าออกครั้งละน้อยๆ แต่ออกบ่อยอาจไม่เห็นว่าถ่ายอุจจาระมีเลือดปนหรือถ่ายดำ แต่จะมีโลหิตจางได้ โรคที่ทำให้ถ่ายมีเลือดปนที่พบบ่อย ได้แก่ โรคกระเพาะอาหาร โรคริดสีดวงทวาร โรคหลอดเลือดโป่งพอง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น สาเหตุที่พบบ่อยอีกอย่างคือ การรับประทานยาแก้ปวดแก้เมื่อยเป็นประจำแล้วยาระคายกระเพาะอาหารทำให้อักเสบ มีแผล เกิดเลือดออกได้
         อีกกรณีจะเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงคือ การเสียเลือดจากมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ถ้าถึงวัยหมดประจำเดือนแล้วมีเลือดออกทางช่องคลอด ต้องรีบไปตรวจทันทีเนื่องจากอาจเกิดจากโรคมะเร็งได้
         2.โลหิตจางจากการขาดสารอาหาร โดยเฉพาะผู้สูงอายุบางรายที่อาจรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งอาจเกิดจากการที่เบื่ออาหาร มีโรคประจำตัวบางอย่าง เลือกรับประทานอาหาร หรือปัญหารายได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้โลหิตจางได้
         3.โลหิตจางจากโรคเรื้อรัง เช่น ไตวาย โรคตับ ข้ออักเสบ เป็นต้น ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดได้น้อยกว่าปกติ จึงทำให้อยู่ในภาวะโลหิตจางในที่สุด
         4.โรคอื่นๆ เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคไขกระดูกเสื่อม เป็นต้น


อาหารบำรุงเลือด แก้โลหิตจางโดยเฉพาะ

         แนวทางการรักษาโลหิตจางประกอบด้วยการรักษาทั่วไป การให้ยาตามอาการแสดง รวมทั้งการให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารบำรุงเลือด ซึ่งเป็นวิธีบำบัดรักษาที่ได้ผลอย่างมากโดยเฉพาะในระยะยาว และแน่นอนวันนี้เราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับอาหารบำรุงเลือด สำหรับผู้ป่วยโลหิตจางโดยเฉพาะ มาให้ได้ทราบกัน
         1.ข้าวเสริมธาตุเหล็ก ได้แก่ ข้าวหอมนิล และข้าวสายพันธุ์ 313 ปรากฏว่า ร่างกายสามารถดูดซับธาตุเหล็กได้ 6-20% สำหรับข้าวเสริมธาตุเหล็กแบบไม่ขัดสี และร้อยละ 17-50 สำหรับข้าวขัดสี ทั้งนี้ จะต้องรับประทานกับอาหารอื่นๆที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น แกงส้ม น้ำพริกมะขาม เป็นต้น
         2.ตับลูกวัว ซึ่งพบว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับผู้มีภาวะโลหิตจาง เนื่องจากประกอบด้วยธาตุเหล็กและวิตามินบีในปริมาณสูง ซึ่งสามารถใช้ได้กับผู้มีภาวะโลหิตจางทุกประเภท

         3.ผักสีเขียวเข้ม จัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้มีภาวะโลหิตจางเช่นกัน เนื่องจากเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และคลอโรฟิลล์ (คลอโรฟิลล์เป็นสารที่มีโมเลกุลคล้ายกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง)
         จะเห็นได้ว่าอาหารที่ผู้มีภาวะโลหิตจางควรรับประทานก็คือ อาหารที่ให้ “ธาตุเหล็ก” สูง ซึ่งนอกจากสารอาหารอย่างธาตุเหล็กแล้วยังควรได้รับโปรตีนมากๆ ซึ่งมีมากใน  ตับ ไต เนื้อสัตว์ เมล็ดธัญพืช เช่น ถั่ว งา เมล็ดฟักทอง ลูกเดือย เป็นต้น ก็จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น ห่างไกลภาวะโลหิตจางแน่นอน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.