No products in the cart.
ไขความลับ หน้าท้องลาย รักษาด้วยตัวเองได้จริงไหม?
ปัญหาหน้าท้องลาย เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าอยู่คู่มากับประวัติศาสตร์ของมนุษย์เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นปัญหาโลกแตก ที่อยู่ในอันดับต้นๆของบรรดาคำถามด้านการดูแลผิวพรรณอันดับหนึ่งว่า หน้าท้องลายสามารถดูแลรักษาให้หายด้วยตัวเองได้จริงหรือเปล่า? สำหรับในวันนี้ บทความชิ้นนี้จะขออาสาพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปทำความเข้าใจ เจาะลึก และไขความลับของปัญหาหน้าท้องลาย ถึงที่มา และดูกันว่าจะมีวิธีใดที่สามารถช่วยแก้ไข รักษาปัญหน้าท้องลายอย่างได้ผลจริงๆกันบ้าง

หน้าท้องลายเกิดขึ้นจากอะไร?
หน้าท้องลาย เกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังที่ถูกดึงเกิดการแยกตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้การแบ่งเซลลืตามธรรมชาติไม่สามารถเกิดขึ้นทันความรวดเร็วดังกล่าว หน้าท้องลายกว่าครึ่งพบในผู้หญิงตั้งครรภ์ โดยมีลักษณะเป็นเส้นบางๆ ฉีกเป็นแนวยาวที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป และมีหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล สีแดง หรือสีม่วง พบมากบริเวณหน้าท้อง เริ่มต้นจากสะโพก ต้นขา หรือบริเวณเต้านม แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าท้องเป็นหลัก สาเหตุหลักเชื่อกันว่าเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเตียรอยด์จากต่อมหมวกไต ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการตั้งครรภ์ ซึ่งสัมพันธ์กับการขยายตัวของผิวหน้าท้องในขณะที่ทารกมีการเจริญเติบโต หลังจากหลังคลอดเส้นขีดเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่สีจางลง จนดูเหมือนกับเป็นแผลเป็นบริเวณหน้าท้องนั่นเอง นอกจากนี้ปัญหาหน้าท้องลาย รอยแตกลายขนาดใหญ่ อาจสามารถเกิดขึ้นได้กับกลุ่มคนที่ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เข้มข้นสูงนานเกินไปอีกด้วย
วิธีการรักษาปัญหาหน้าท้องลายอย่างได้ผล
ปัญหาหน้าท้องลายนั้น เป็นสิ่งที่รักษาได้ค่อนข้างยาก แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีวิธีการในการช่วยบรรเทา และลบเลือนรอยแตกลายให้น้อยลงไป ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาหน้าท้องลาย ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก มีดังต่อไปนี้
1.การกัดผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peel) หรือกรอผิวด้วยอัญมณี (Microdermabrasion) สามารถช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยการกำจัดเซลล์ผิวในบริเวณที่แตกลายออกไป 10-30%

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นประโยชน์ต่อทั้งในเรื่องของสุขภาพโดยทั่วไป และสุขภาพของผิวที่ดีมากขึ้น ด้วยการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต รวมไปถึงโภชนาการ สุขภาพของผิวให้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งควรเริ่มต้นทำหลังจากที่ทำการคลอดแล้ว 3 เดือน ที่ท้องจะเริ่มลดลงเป็นปกติแล้ว สำหรับวิธีการออกกำลังกายที่แนะนำก็ได้แก่ การว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น
3.การควบคุมอาหาร ประเภทแป้ง และไขมัน ที่จะส่งผลต่อผิวหนังบริเวณหน้าท้องให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ
4.การใช้กรดวิตามิน เช่น Tretinoin 0.05-0.1% สามารถช่วยรักษารอยแตกลายสีชมพู เล็กๆน้อย
5.การใช้ครีมบำรุงผิว การใช้ครีมบำรุงผิวอย่างเหมาะสม ทาในบริเวณรอยแตกลายเป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น สามารถที่จะช่วยทำให้รอยจางลงไปมากขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป หรืออาจจะช่วยป้องกันการเกิดรอยแตกลายมากขึ้น ซึ่งครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีนั้น ก็ได้แก่น้ำมันมะกอก ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยเจอไรเซอร์ หรือโลชั่นเด็ก ทาบริเวณหน้าท้องลายหลังจากการอาบน้ำ แต่ถ้าจะให้ดีควรทำการทาครีมบำรุงตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เพื่อเป็นการช่วยลดรอยแตกลายที่จะเกิดขึ้นหลังคลอดให้น้อยลง
6.การรักษาด้วยเลเซอร์สีแดง ความเข้มข้นสูง (FPL) ที่สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสีให้มีความใกล้เคียงกับผิวปกติใกล้เคียง ได้มากถึง 30-60 % เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากชะล่าใจปล่อยปัญหาหน้าท้องลายเอาไว้โดยไม่ทำการรักษา รอยแตกลายมักจะกลายเป็นสีซีดขาว จนกระทั่งดูเหมือนกับเป็นแผลเป็น ทำให้การรักษายากขึ้น และจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยี รวมไปถึงระยะเวลาในการรักษาที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
ผิวแตกลายสามารถที่จะค่อยๆเลือนหาย เมื่อเวลาผ่านไปตามธรรมชาติ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาที่เรียกได้ว่าค่อนข้างนาน จนหลายคนอาจถึงกับถอดใจเลยทีเดียว แต่ ณ ปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และความรู้ต่างๆ สามารถทำให้การเยียวยาบาดแผล ริ้วรอยแตกลายเหล่านั้นสามารถเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยเพียงแค่การใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวกายที่เหมาะสม เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง
สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

Beauty24 Co.,Ltd.