อยากหน้าใสเชิญทางนี้ มาดูสูตรบำรุงผิวหน้าแบบ DIY

         สมัยนี้บอกได้เลยว่าถ้ามีหน้าขาวใสก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะผิวหน้าที่เปล่งปลั่งสดใสเป็นประกายย่อมเป็นที่น่าดึงดูดของบุคคลรอบข้าง ดังนั้น นอกจากจะต้องรักษาหุ่นให้เป๊ะเว่อร์กันแล้ว หน้าก็ต้องเด้งด้วยถึงจะมัดใจเพศตรงข้ามได้อย่างอยู่หมัด บทความนี้ได้รวบรวมสูตรบำรุงผิวหน้ามาให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปใช้กัน โดยเป็นสูตร DIY ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวบอบบาง ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย

สูตรบำรุงผิวหน้าแบบ DIY
         1.สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว มาเริ่มบำรุงผิวหน้ากันด้วยสูตรมาร์คหน้า โดยส่วนผสมอย่างน้ำผึ้งและมะนาวจะช่วยทำความสะอาดผิวและต้านการอักเสบได้ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดปัญหาเรื่องการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แก้ปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดด และลดเลือนจุดด่างดำ ยิ่งถ้าเพิ่มน้ำมันมะกอกเข้าไปด้วยจะยิ่งทวีคุณค่าให้ผิวสวย มีความยืดหยุ่น วิธีการคือให้ผสมน้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง และน้ำมะมาวลงไปในปริมาณเท่าๆกัน จากนั้นใช้สำลีชุบแล้วทาใบหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือจะทิ้งไว้ทั้งคืนแล้วล้างออกในตอนเช้าก็ได้

         2.สูตรโยเกิร์ตผสมมะนาว แม้มะนาวเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีความเป็นกรดสูงจนอาจทำให้แสบผิวได้ ดังนั้น การนำมะนาวมาผสมโยเกิร์ตแล้วนำไปพอกผิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยลดการระคายเคืองผิว สารอาหารจากมะนาวและโยเกิร์ตธรรมชาติจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ขาวใสสุขภาพดี ถือเป็นสูตรบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสแบบธรรมชาติที่เห็นผลชัดเจน
         3.สูตรแอปเปิ้ลผสมน้ำผึ้ง ส่วนใหญ่มักรับประทานแอปเปิ้ลเพื่อให้ผิวสวยกัน จริงๆแล้วผลไม้ชนิดนี้ยังสามารถนำมาพอกบำรุงผิวหน้าได้อีกด้วย เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีซึ่งเป็นอันตราย และชะรอความแก่ของผิว ลบเลือนริ้วรอยก่อนวัย สำหรับวิธีการแสนง่ายคือให้นำแอปเปิ้ลไปปั่นรวมกับน้ำผึ้ง แล้วทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนแห้งจึงล้างออกด้วยน้ำเย็น จากนั้นก็เตรียมพบกับผิวหน้ากระจ่างใส เนียนนุ่มชุ่มชื่นได้เลย
         4.สูตรมะละกอผสมนมสด ให้นำมะละกอมาบดผสมกับนมสด แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปพอกบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เมื่อเช็ดหน้าจนแห้งก็จะพบกับผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น ออร่าจับ ขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากมะละกอและนมสดมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวมากมาย ซึ่งสูตรนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

         5.สูตรกล้วยหอมผสมนมสด กล้วยหอมและนมสดมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว แม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้สูตรนี้ได้ สูตรนี้ให้นำกล้วยหอมมาบดละเอียดผสมกับนมสด จากนั้นนำไปพอกผิวหน้า เพียงแค่นี้จะทำให้ผิวหน้าขาวเนียนสวยขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
         6.สูตรกลีบกุหลาบผสมน้ำผึ้งและโยเกิร์ต สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งกร้านคล้ำเสียง่ายเป็นอย่างยิ่ง แต่อาจจะวุ่นวายตรงที่ต้องหาวัตถุดิบพิเศษกันสักหน่อย โดยต้องใช้กลีบกุหลาบ (Rose Petal) น้ำผึ้ง และโยเกิร์ตมาเป็นส่วนผสม โดยกลีบกุหลาบจะทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่นพร้อมกับกลิ่นหอม ขณะที่โยเกิร์ตมีส่วนช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับ และน้ำผึ้งขึ้นชื่อในเรื่องของการต้านเชื้อแบคทีเรีย หากนำส่วนผสมเหล่านี้มาผสมผสานกันให้ลงตัว แล้วพอกใบหน้าทิ้งไว้ จะส่งผลให้สุขภาพผิวหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกๆที่ใช้ หากทำเป็นประจำผิวหน้าจะกระจ่างใส มีออร่ามากขึ้น
         สูตรบำรุงผิวหน้าแบบ DIY นี้ จะฟื้นบำรุงผิวแบบธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงให้กังวลใจ ที่สำคัญได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริง ท่านผู้อ่านสามารถเลือกใช้สูตรข้างต้นได้ตามใจชอบตามความถนัดและสะดวกในการหาส่วนผสม ทั้งนี้ ถ้าจะให้เห็นผลชัดเจนขึ้นก็ควรบำรุงผิวหน้าจากภายในด้วย โดยการเน้นรับประทานผักผลไม้มากๆ แล้วสารอาหารที่มีประโยชน์ต่ผิวจะเข้าไปฟื้นฟูสภาพผิวให้ขาวใสสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

ให้วอนจินช่วยผลัดเซลล์ผิว
หน้าไม่ใส หน้าหมองคล้ำ ดูแก่ก่อนวัย คุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่รึเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ คำถามถัดมาก็คือแล้วจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรกันล่ะ นี่จึงเป็นที่มาของการผลัดเซลล์ผิวนั่นเอง การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วแต่ตกค้างอยู่บนใบหน้าออก ซ้ำยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ที่ใสและมีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการผลัดเซลล์ผิวจึงทำให้หน้าใสขึ้นได้จริงๆอย่างเห็นผล โดยเฉพาะการผลัดเซลล์ผิวกับผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษจาก วอนจิน โรงพยาบาลศัลยกรรมอันดับ 1 ของเกาหลี ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า วอนจินเข้าใจถึงปัญหาด้านความงามอย่างแท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ Brightening Peel AHA สำหรับการผลัดผิวอย่างอ่อนโยน และ Refining Activator โทนเนอร์ BHA สำหรับการทำความสะอาดล้ำลึก แล้วคุณจะพบว่าหน้าใสไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุดยอดเคล็ดลับ เนรมิตใบหน้าอ่อนกว่าวัยภาย ใน 9 วัน

         คุณอยากรู้ความลับที่เสกให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัย ภายในเวลาเพียง 9 วันหรือเปล่า..!?
 เถ้าหากมีวิธีง่ายๆที่จะช่วยเนรมิตรเปลี่ยนใบหน้าอ่อนกว่าวัยได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนั้นจริงๆ แน่นอนว่าทุกคนคงอยากที่จะรู้เคล็ดลับดั่งกล่าวซึ่งบทคามชิ้นนี้กำลังจะกระซิบบอกกับคุณว่า มันมีวิธีช่วยทำให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัยได้จริง แถมยังง่ายเสียจนไม่น่าเชื่อเลยอีกต่างหาก

เคล็ดลับเนรมิตใบหน้าอ่อนกว่าวัยใน 9 วัน
 เมื่อคุณมองกระจก และพบว่าใบหน้าเริ่มเกิดริ้วรอย รอยแห้งกร้าน และรอยตีนกา ความตึงเครียดย่อมเริ่มปรากฏขึ้นในจิตใจของคุณอย่างแน่นอน ซึ่งความเครียดดั่งกล่าวยิ่งเป็นตัวกระตุ้นด้านลบ ที่ส่งผลให้ผิวของคุณดูแก่มากขึ้นอีก 3-6 ปี เลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณสามารถชะลอ หรือกำจัดความเครียดออกไปได้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะตรงกันข้าม คุณสามารถที่จะย้อนอายุผิวให้กลับไปดูอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น ถึง 3-6 ปี ได้เช่นเดียวกัน แล้วยิ่งคุณสามารถใช้ชีวิตตามแผน 9 วัน เพื่อให้สามารถบรรลุถึงการมีใบหน้าอ่อนกว่าวัยได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงต้องกำหนดเวลาเอาไว้ที่ 9 วัน นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อคนเราได้ทำการพักผ่อนจากการเรียน การทำงาน และความเครียด ด้วยวันหยุดยาวเป็นเวลา 9 วัน เมื่อส่องกระจกอีกครั้ง จะพบว่าผิวของตัวเองดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว เอาล่ะ.. สำหรับใครที่พร้อมแล้วกับแผนการ 9 วัน เพื่อให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น สามารถเริ่มแผนการชีวิต 9 วัน ตามคำแนะนำต่อไปนี้ได้เลย แต่ขอแนะนำให้วันแรกที่เริ่มทำตามแผนการเป็นวันเสาร์ เพื่อให้การพักผ่อนผิวของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

วันที่1 : ลดความซับซ้อน เริ่มต้นจากการสร้างนิสัยการดูแลผิวหน้าเป็นประจำทุกวัน แต่ใช่ว่าการทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดจะดีต่อผิวของคุณเสมอไป คุณควรรู้จักการทำความสาดพื้นฐานด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยน บำรุงผิวด้วยครีมกันแดดในตอนกลางวัน และครีมบำรุงผิวในตอนกลางคืน พร้อมกับเริ่มต้นสร้างตารางการนอนหลับให้เป็นปกติ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการนอนหลับเป็นเพียงสิ่งหนูหราฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น แต่ที่จริงแล้วถ้าหากต้องการให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัย คุณจำเป็นต้องนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ทำการรักษาและฟื้นฟูเซลล์ทั่วร่างกาย
วันที่ 2 :  ผ่อนคลาย คูณสามารถผ่อนคลายตัวเองด้วยการพบปะสังสรค์กับเพื่อนๆที่ทำให้คุณรู้สึกสนุก จองบริการนวด หรือแม้แต่การพักดิ่มกาแฟอย่างเรียบง่ายใยตอนบ่าย รวมถึงเริ่มต้นการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ เพื่อให้ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดให้น้อยลง
วันที่ 3 : สู่เส้นทางสีเขียว ผ่อนคลายตัวเองด้วยการไปอยู่ในสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ เดินเร็ว 20 นาที ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า หรือยามเย็น เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงด้วยวิตามิน D และดื่มชาเขียว ที่มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
 วันที่ 4 : การกินที่สะอาดหมดจด เลือกอาหารที่มีสารอาหารสูง คาร์โบไฮเดรต กรดไขมัน และปริมาณน้ำตาลน้อย ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวเรียบ
 วันที่ 5 : โยกย้ายส่ายสะโพก จัดตารางให้ตัวคุณมีโอกาสโยกย้ายส่ายสะโพกออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับลดช่วงเวลาในการนั่งแช่ตัวทำงานอยู่ที่โต๊ะนานๆ

วันที่ 6 : เข้าสังคม วางแผนการรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเพื่อน หรือครอบครัว เพื่อแบ่งปันช่วงเวลาที่ดี และหัวเราะพร้อมกัน
วันที่ 7 : ต่อสู้กับความเครียด เรียนรู้ที่จะนั่งสมาธิ ที่จะช่วยให้คุณสามารถต่อสู้กับความเครียด และยังช่วยทำให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
วันที่ 8 : นอนหลับให้มากขึ้น การนอนหลับที่เพียงพอ จะช่วยทำให้ร่างกายลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และซ่อมแซมเซลล์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดการเพิ่มความสุขในชีวิต เพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งในร่างกายของตัวเอง
 วันที่ 9 : หยุดชั่วคราว ใช้เวลาสักครู่ที่จะพักผ่อน และรู้จักกันให้รางวัลกับตัวเอง พร้อมกับพิจราณาวิธีการต่างๆ ที่จะสามารถนำมาใช้พัฒนาชีวิตประจำวันของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เคล็ดลับสร้างแก้มชมพู ธรรมชาติ สีกุหลาบสดใสด้วยตัวคุณเอง

         แก้มชมพู ธรรมชาติ หรือแก้มสีดอกกุหลาบ ถือเป็นลักษณะของผิวที่มีความโดดเด่น ดีเลิศแห่งความงามอย่างเป็นธรรมชาติอันน่าชวนมอง ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่เรามักจะได้เห็นลักษณะของการปัดแก้มแก้มชมพู ธรรมชาติ ขึ้นตามหน้าปกนิตยสารชื่อดังระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงเหล่าซุปเปอร์สตร์คนดังในจอภาพยนตร์อีกมากมายเองต่างก็ปัดแก้มแก้มชมพู ธรรมชาติ แน่ใจได้เลยว่า คุณสาวๆอยากที่จะครอบครองแก้มชมพู ธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้บรัชออน หรือเครื่องสำอางราคาแพงหูฉี่ในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีทำให้แก้มชมพู ธรรมชาติอยู่ล่ะก็ บทความชินนี้กำลังจะช่วยเผยความลับที่มีประสิทธิภาพ ในการเนรมิตให้แก้มของคุณกลายเป็นสีกุหลาบ อย่างเป็นธรรมชาติเลยทีเดียว

วิธีการสร้างผงปัดแก้มชมพู ธรรมชาติด้วยตัวคุณเอง
 เพื่อให้แก้มของคุณสาวๆ เรืองแสงอมชมพูราวกับสีของดอกกุหลาบนั้น คุณสามารถเริ่มต้นได้จากส่วนผสมต่างๆภายในห้องครัวของคุณเอง ผัก ผลไม้ และส่วนผสมอื่นๆที่คุณมองข้าม สามารถนำมาผสมรวมกันให้กลายเป็นผงปัดแก้มสีชมพูสดใส ที่จะช่วยเปลี่ยนตัวคุณให้กลายเป็นคนใหม่ชวนมองได้อย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว ซึ่งเจ้าเหล่าวัตถุดิบที่น่าสนใจเหล่านั้นก็ได้แก่
 1.กล้วย เพียงแค่คุณนำกล้วยประมาณ 2 ลูก มาบดให้ละเอียด จากนั้นนำพวกมันมาพอกบริเวณแก้ม หรือพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ กล้วยบดก็จะช่วยทำให้แก้มชมพู ธรรมชาติแล้ว
 2.ขี้ผึ้ง ต้มขี้ผึ้งประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะให้นิ่ม ผสมดินขาวลงไปแล้วบดรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำส่วนผสมที่ได้มาทาพอกให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอของคุณ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างทำความสะอาดออก คุณก็จะพบว่าผิวของตัวเองดูชมพู เรืองแสงมากขึ้นเหมือนกับดอกกุหลาบ
 3. ถั่วอินเดีย หรือ Masoor daal โดยนำถั่วอินเดียเต้มลงในนมที่ต้มด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 30 นาที หลังจากนั้นให้พักส่วนผสมลงจากเตา เติมดินขาวลง ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาลงบนผิวหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4.ครีมนม 3 ช้อนชา + ผงแป้ง 1 กรัม + รำข้าวสาลี + นมเปรี้ยว ผสมส่วนผสมเหล่านี้ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำไปพอกบนผิวหน้าเป็นเวลาประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ผลผิวที่เนียนนุ่มเหมือนกับผลไม้แลยทีเดียว
 5.เยื่อแตงกว่า แตงกว่าบดละเอียด เป็นตัวกระตุ้นผิวชั้นยอด เซลล์ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นมาแทนที่ผิวหนังที่เสื่อมสภาพจะเป็นสีชมพู และยังช่วยลดรอยหมองคล้ำ รวมไปถึงลดความเครียดของผิวให้น้อยลงอีกด้วย

         6.น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีคุณสมบัติช่วยเปลี่ยนให้เป็นสีชมพูระเรื่อเหมือนดอกกุหลาบ
 7.น้ำมะนาว+นม เพียงผสมน้ำมะนาวปริมาณ ¼ ลงไปในน้ำนม แล้วนำไปนวดใบหน้าของคุณให้ทั่ว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับระบบการไหลเวียนโลหิต เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถที่จะมีแก้มเป็นสีชมพูเรืองแสงได้แล้ว
8.ผมเปลือกส้ม+ครีมนม เป็นส่วนผสมที่ดีในการช่วบพอกบำรุงใบหน้าของคุณ ให้แก้มชมพู ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
 9.อัลมอนด์บด+กลีบกุหลาบบด ประมาณ 5 ช้อนชา น้ำผลไม้ สะระอหน่ และน้ำผึ้ง เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ลงตัวในการช่วยบำรุงแก้มของคุณ นำส่วนผสมที่ได้ไปแช่ตู้เย็นประมาณ 5-6 วัน จากนั้นจึงค่อยนำมาใช้พอกหน้าก่อนการเข้านอน
 นอกจากนี้แล้ว การรัปประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้แก้มของคุณกลายเป็นสีชมพูมากขึ้น เช่น ผลไม้สด น้ำผลไม้ ผักสด นม เพราะใบหน้าของคุณต้องการบำรุงด้วยวิตามิน E และ C นอกจากนี้ ถ้าหากอยากมีแก้มสีชมพูอย่างยาวนาน คุณไม่ควรที่จะลืใออกกำลังเป็นประจำ เพื่อลดความเครียด เพิ่มภูมิต้านทาน และระบบไหลเวียนโลหิตให้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมวิธีแก้ไขแบบโฮมเมด

         ผิวพรรณบนใบหน้า เป็นผิวที่มีความบอบบาง ละเอียดอ่อนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับผิวหน้าได้ง่าย หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำคือ ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ เกิดจุดด่างดำ ถึงแม้จะใช้ไวเทนนิ่งครีม เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้สีผิวแลดูขาว สม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังช่วยได้ไม่มาก หรือบางคนที่หายไปแล้วก็ยังสามารถกลับมาเป็นได้อีก จนทำให้ผิวของเราดูคล้ำไม่กระจ่างใสเท่าที่ควร

อะไรกัน ที่ทำให้ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ
         เชื่อว่าสาวๆทุกคนย่อมอยากมีผิวสวยไร้ที่ติ แต่ปัญหาอย่างเรื่องผิวหน้าไม่สม่ำเสมอก็ชอบมารบกวนอยู่ร่ำไป ซึ่งการมีผิวหน้าไม่สม่ำเสมอนั้นเป็นผลมากจากการผลิตเมลานินมากเกินไป เมลานินคือสิ่งที่ทำให้ผิวและผมมีสี ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และซึมซับเอาความร้อนจากแสงแดด การตากแดดโดยเฉพาะแดดจัดๆมากจนเกินไป จะส่งผลเสียต่อผิวให้มีการสร้างเมลาโนไซท์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเม็ดสีผิวให้มีจำนวนมากขึ้น และทำให้มีการผลิตเมลานินเพิ่มขึ้น บริเวณที่มีการรวมตัวอย่างหนาแน่นของสีผิวเมลานิน ก็จะส่งผลให้ผิวดูคล้ำขึ้น จุดด่างดำมีสีเข้มขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ผิวคล้ำยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การเกิดฝ้า การอักเสบของผิว เช่น รอยสิว ผิวไหม้ เป็นต้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอได้นั่นเอง

         แสงแดดและรังสี UV เป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการเกิดจุดด่างดำบนใบหน้า ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารกรองรังสี UVA และ UVB เป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดตัวการทำร้ายผิว

สูตรบำรุงผิวหน้า แบบโฮมเมด
         การจะแก้ปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอให้สำเร็จ จำเป็นต้องอาศัยหลากหลายวิธีควบคู่กันไป ได้แก่ หลีกเลี่ยงการถูกแดดจัดๆ ถ้าจำเป็นควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน 30 นาที และสวมแว่นกันแดด หมวกบังแดด กลางร่ม เพื่อป้องกันผิวจากการถูกรังสียูวีทำร้าย การทาครีมบำรุงผิวหน้าเป็นประจำ รวมถึงการฟื้นบำรุงผิวหน้าด้วยสูตรโฮมเมดดังต่อไป
         1.สูตรโยเกิร์ตผสมมะนาว ให้นำน้ำมะนาวมาผสมโยเกิร์ตธรรมชาติแล้วนำไปพอกผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงล้างออก มะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ขาวสดใสกว่าเดิม ส่วนโยเกิร์ตจะช่วยลดการระคายเคืองผิว แก้ปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอได้อย่างดีเยี่ยม
         2.สูตรกล้วยหอมผสมนมสด ให้นำกล้วยหอม และนมสดมาบดผสมกัน แล้วนำไปพอกผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นจุดด่างดำ สีผิวคล้ำเสีย ไม่สม่ำเสมอ กล้วยหอมและนมสดจะทำให้ผิวขาวเนียนสวย มีน้ำมีนวลมากขึ้น

         3.สูตรมะละกอผสมนมสด ให้นำมะละกอ และนมสดมาบดผสมกัน แล้วนำไปพอกบนใบหน้าหรือผิวกายทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงล้างออก ผลลัพธ์ของสูตรนี้จะคล้ายๆกับสูตรกล้วยหอมและนมสด คือช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี
         4.สูตรน้ำมันมะพร้าว นำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิวหน้าได้เลย แต่ต้องทาบางๆ แล้วค่อยนวดหน้าอย่างเบามือ การใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก โดยน้ำมันมะพร้าวจะช่วยทำให้ผิวขาวเนียนนุ่มชุ่มชื่นแบบเป็นธรรมชาติมากขึ้น
         5.สูตรน้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต นำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตธรรมชาติมาผสม คนให้เข้ากัน แล้วนำไปพอกลงบนใบหน้าหรือผิวกายก็ได้ ทิ้งไว้สักประมาณ 30 นาทีจึงล้างออก น้ำผึ้งและโยเกิร์ตจะช่วยให้ผิวหน้าขาว เนียนนุ่ม ชุ่มชื่นมากขึ้น
         6.สูตรมะเขือเทศผสมข้าวโอ๊ต ให้นำมะเขือเทศไปปั่นหรือบดให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ ผสมกับข้าวโอ๊ต แล้วคนให้เข้ากัน ก่อนใช้ต้องล้างหน้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง แล้วพอกทิ้งไว้นานๆหลังจากล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้ยกกระชับผิวให้ชุ่มชื่น ได้สีผิวขาวสม่ำเสมอคืนกลับมา

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวหน้าไม่เรียบเรื่องจิ๊บๆ อยากแก้ไขได้ด้วยตัวเอง อ่านเลย!

 

 รอยด่างดำ หมองคล้ำตัดกับสีผิวจุดอื่นๆบนใบหน้า เป็นปัญหาผิวที่ผิดปกติ หรือที่มักเรียกกันว่าผิวหน้าไม่เรียบ ซึ่งสามารถพบได้บ่อยมากต่อคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งเจ้าปัญหาผิวหน้าไม่เรียบนี้ ถ้าหากยังปล่อยเอาไว้นอกจากจะส่งผลต่อความมั่นใจในด้านความงามแล้ว มันอาจจะมีแนวโน้มที่เลวร้ายต่อผิวมากขึ้นเรื่อยๆ จากการศึกษาของบริษัท และคลินิกด้านความงาม ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงกว่า 1 ใน 4 มีความกังวลเกี่ยวกับรอยดำ ผิวหน้าไม่เรียบ เพราะพวกเธอเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้คือสัญญานที่กำลังเตือนถึงริ้วรอยที่กำลังมาเยือน

สาเหตุพบบ่อยที่มักทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าไม่เรียบ
 ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบ มักเกิดขึ้นจากการที่ผิวหน้าสัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน แสงยูวีจากดวงอาทิตย์ทำให้เกิดแผลสีน้ำตาลแบนขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ใช้ครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านในช่วงกลางวันที่มีแดดแรงอย่างเพียงพอในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วงเวลาที่แดดแรง ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือระหว่างเวลา 11.00 – 15.00 น.
 อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากอีกหลากหลายสาเหตุได้เช่น เกลื้อน ที่มักปรากฏขึ้นบ่อยครั้งตามริมฝีปาก จมูก แก้ม และหน้าผาก ที่อาจเกิดขึ้นจากกระดับฮอร์โมนในระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่มีการทานยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งผิวหน้าไม่เรียบ และสีผิวจากสาเหตุนี้จะกลับมาเป็นปกติ หลังจากที่ได้ทำการคลอดบุตร หรือเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลเป็นจากสิว สิว หรือบาดแผลจากการเจ็บๆอื่นๆ

ถ้าต้องการให้ใบหน้าเรียบเนียนควรทำเช่นไร?
   ผิวหน้าไม่เรียบ ไม่ทั่วเท่ากันทั้งใบหน้าเป็นสิ่งที่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเท่ากันตามปกติได้ แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้เซรั่ม หรือครีม ที่มีส่วนผสม เช่ย วิตามินบี3 ที่ได้รับการทดลองแล้วพบว่า สามารถช่วยลดรอยดำที่เกิดขึ้นบนผิวได้มากถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว สารสกัดจากใบหม่อน Niacinamide หรือเหล่าสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีศักยภาพเป็นกรด Ferulic แต่ถ้าหากคุณมีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบอย่างรุนแรง ขอแนะนำให้ควรไปปรึกษากับแพทย์ เพื่อที่จะได้รับวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง และรวดเร็วมากที่สุด แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะสามารถช่วยบำรุง พร้อมกับฟื้นฟูปัญหาผิวหน้าไม่เรียบด้วยตัวเองอย่างง่ายๆที่บ้านอยู่ล่ะก็ คุณสามารถที่จะทำตามขั้นตอนแนะนำต่อไปนี้ โดยเลือกตามความสะดวก หรือความชอบของตัวเอง

วิธีบำรุง ฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาเรียบเนียนเท่าเทียมกันด้วยตัวเองอย่างง่ายๆที่บ้าน
   1.น้ำตาล การขัดผิวที่เสื่อมสภาพแล้วด้วยน้ำตาลเบาๆ สะเก็ดของน้ำตาลจะช่วยเผยผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์ และยกกระชับมากขึ้น ส่วนวิธีการก็แสนง่าย เพียงแค่คุณผสมเกล็ดของน้ำตาลลงในครีมที่ชื่นชอบ แล้วนำไปขัดในบริเวณที่ต้องการอย่างสม่ำเสมอ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเท่านั้น
 2.เบรกกิ้งโซดา เป็นตัวแทนความอ่อนเยาว์ตามธรรมชาติ และไม่รุนแรงต่อผิว กสนขัดผิวด้วยเบกกิ้งโซดาจะช่วยกำจัดผิวหนังที่แตก แห้ง เป็นขุย และดำคล้ำ จากฝีมือของดวงอาทิตย์ เพียงใช้เบรกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำเปล่า ทาให้ทั่วแล้วทิ้งเอาไว้สักครู่ นวดหน้าเบาๆ โดยใช้ปลายนิ้วเป็นเวลาประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างหน้าออกด้วยน้ำอุ่น
3.พอกหน้าด้วยโยเกิร์ต มีคุณสมบัติสุดพิเศาในการช่วยปรับสีผิวให้เท่าเทียมกัน และมีสุขภาพดี เนื่องจากโยเกิร์ตเป็นสารฟอกสีตามธรรมชาติ ช่วยในการขัดผิว ปรับปรุงโทนสีผิว ด้วยการลดความกระทบที่เกิดขึ้นกับผิวจากแสงอาทิตย์ให้น้อยลง เพียงคุณใช้โยเกิร์ตรสจืดไร้สี ไร้รส ทำการลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า และลำคอ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเท่านั้น
         4.นมผง ช่วยในการฟอกสีผิวหน้าที่เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีปัญหาใบหน้าไม่เรียบเนียนเท่ากัน เพียงใช้นมผงผสมเข้ากับน้ำให้ข้น แล้วพอกให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ โดยพอกบ่อยๆ ประมาณ 4 ครั้งในช่วงที่ต้องการให้ผิวมีความหมองคล้ำสูง เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะค่อยๆกลับมาเรียบเนียนอีกครั้งแล้ว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวหน้าแห้ง รู้ให้ทันป้องกันได้

         ผิวแห้ง เป็นสิ่งที่ชวนให้หลายๆคนต้องอึดอัด จากอาการคัน และแตก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แถมยังสามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นตามบริเวณแขน ขา หน้าท้อง และในหลายๆครั้งก็มักที่จะเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ส่งผลให้เกิดขุยขึ้นบนใบหน้า และยังทำให้ผิวไม่ชุ่มชื้น ที่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านความงามอีกด้วย

ผิวหน้าแห้งคืออะไร?
 คนส่วนใหญ่มักจะมีสภาพของผิวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้ามัน ผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย ซึ่งผิวหน้าแห้ง ก็เป็นหนึ่งในลักษณะของผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการขาดความชุ่มชื้นในผิวชั้นตื้นที่สุดของผิวกำพร้า ที่จำเป็นจะต้องได้รับการหล่อลื่นอย่างเหมาะสม ซึ่งผิวหน้าแห้งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเพศชาย และเพศหญิงอย่างเท่าเทียมกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มการลดลงของน้ำมันผิวหนังตามธรรมชาติ รวมไปถึงสารหล่อลื่นอื่นๆของผิว แต่ผิวหน้าแห้งก็เป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงดูแลให้ดีขึ้นได้ ด้วยการเยียวยาอย่างง่ายๆด้วยตัวเองที่บ้าน ขอเพียงแค่คุณเข้าใจหลักการเยียวยาดูแลรักษาตัวเองอย่างถูกต้องเท่านั้น

ผิวหน้าแห้งสามารถป้องกันด้วยตัวเองได้อย่างไร
 ผิวหน้าแห้ง เป็นสิ่งที่คุณสามารถป้องกัน และลดโอกาสในการเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปฎิบัติตัวตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
   1.ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาดเป็นประจำทุกวัน ครั้งละอย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
 2.หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น เพราะน้ำร้อน หรือน้ำอุ่นเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างน้ำมันบนผิวหนังตามธรรมชาติ ถ้าหากคุณต้องการที่จะล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ควรทำอย่างรวดเร็วที่สุด
          3.ใช้โฟมล้างหน้า หรือสบู่ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว พร้อมกับหลีกเลี่ยงสบู่ หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักมีสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังมากขึ้น
 4.หลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหนังที่แห้งด้วยการขัด ถู หรือเกา
   5.ไม่ควรเช็ดใบหน้าแรงๆ แต่ควรใช้การซับ หรือลูบใบหน้าด้วยผ้าขนหนูนิ่มๆ
6.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทันทีหลังจากการอาบน้ำ ด้วยครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
 7.เพิ่มความชื้นภายในบ้านให้มากขึ้น ไม่ควรปล่อยให้ในบ้านเต็มไปด้วยอากาศที่แห้งร้อนกลางฤดูร้อน และถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในฤดูหนาวที่อากาศจะเต็มไปด้วยความชื้นมากมาย แต่คุณอาจจะคาดไม่ถึงว่าเครื่องทำความร้อนต่างๆ ที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น ก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่แย่งชิงความชื้นโดยรวมภายในบ้านไป จนทำให้ผิวหน้าแห้งได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
 8.ดื่มน้ำมากๆ

         9.โกนหนวดอย่างชาญฉลาด การโกนหนวด หรือโกนขนบนใหบน้าเป็นการสร้างความระคายเคืองให้กับผิว นอกจากนี้ยังเป็นการขูดน้ำมันตามธรรมชาติทิ้งไปอีกด้วย ถ้าหากต้องการที่จะโนขนบนใบหน้าจริงๆ ควรทำหลังจากการอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ที่ขนนุ่ม ยืดหยุน โกนง่ายกว่าปกติ และควรใช้ครีมโกน หรือเจล โกนไปในทิศทางที่ขนมีการเจริญเติบโต เพื่อเป็นการปกป้องผิวของคุณ และขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้มีดโกนที่เคยแช่ในแอลกฮอลล์ทำความสะอาด เพราะมันจะยิ่งทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองมากขึ้น
10.ป้องกันผิวจากแสงอาทิตย์ หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าแห้ง คุณสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 และการแต่งกายที่ปกปิดผิวหน้าอย่างเหมาะสม
 นอกจากนี้ คุณควรที่จะทำการเลือกครีมบำรุงผิว ที่เหมาะกับผิวหน้าแห้ง ด้วยการเลือกส่วนผสมจากน้ำมันเม็ดองุ่น และสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันให้กับผิวเป็นพิเศษ และควรทำการพิจราณาความเหมาะสม ว่าน้ำมันที่ได้รับเหล่านั้นมากเกินไปหรือไม่ เมื่อฤดูร้อนมาเยือน 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เนรมิตให้ผิวเรืองแสง ด้วยการพอกหน้าด้วยขมิ้น

         การเสริมคงามงามของผิวพรรณด้วยการพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้น ได้รับความนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วทวีปเอเชียมานานหลายศตวรรษ และเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีน และอินเดีย ที่มีระบบแพทย์แบบอายุรเวท ส่วนในแถบเอเชียใต้การพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมตัวของเจ้าสาวเพื่อเข้าวิธีการแต่งงาน เพื่อให้ผิวของพวกเธอดูสะอาดสะอาน และมีสเน่ห์เป็นอย่างยิ่งในวันสำคัญของพวกเธอ

ขมิ้น ช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างไร
ขมิน มีสารเคมีที่เรียกว่า Curcumin ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก ซึ่งพอกหน้าด้วยขมิ้นนั้นช่วยในการรักษาสิว แผลเปื่อย ลดการอักเสบ และรอยแดงบนผิว นอกจากนี้ขมิ้นยังมีคุณสมบัติสุดยอดเยี่ยมในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้มักถูกนำไปใช้ในการช่วยฟื้นฟูผิว รอยย่น เส้นขูดขีดบนใบหน้าให้ลดน้อยลง ใบหน้าจึงดูอ่อนเยาว์มากขึ้น การพอกหน้าด้วยขมิ้น เป็นพื้นฐานของการรักษาสุขภาพผิวหน้าที่ดี ทำได้ง่าย และยังให้คุณสมบัติของมอยเจอไรเซอร์ การขัดผิว ลดเลือนรอยแดง และทำให้ผิวสะอาด ดูสดใสมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมของการพอกหน้าด้วยขมิ้นอย่างง่ายๆด้วยตัวเอง
 พอกหน้าด้วยขมิ้นมีอยู่มากมายหลายสูตร หลายส่วนผสม แต่วิธีที่บทความชิ้นนี้กำลังจะขอทำการแนะนำนั้น เป็นส่วนผสมของการพอกหน้าด้วยขมิ้นแบบพื้นฐาน ซึ่งคุณสามารถที่จะเพิ่มดอกถั่วเขียวข้น หรือน้ำมะนาวจำนวนเล็กน้อยลงไปด้วย เพื่อช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ผิวหน้าที่ใสกระจ่างมากยิ่งขึ้น
ส่วนผสมและวิธีทำพอกหน้าด้วยขมิ้น
-ขมิ้น 1 ช้อนชา
-น้ำผึ้งอินทรีย์ดิบ 1 ช้อนชา
-นม หรือโยเกิร์ตสด 1 ช้อนชา
นำขมิ้นใส่ลงในชามเล็กๆ เติมน้ำผึ้ง นม หรือโยเกิร์ตลงไป ซึ่งปริมาณของส่วนผสมเหล่านี้อาจจะจไม่ถึงกับตายตัวนัก คุณสามารถที่จะทำการปรับเปลี่ยนปริมาณของส่วนผสมให้มากหรือน้อยขึ้นก็ได้ตามความเหมาะสม แต่ควรคำนึงว่าส่วนผสมทั้งหมดจะมีมากเพียงพอที่จะถูกทาให้ติดทั่วทั้งใบหน้าของคุณ หรือเหลวมากจนเกินไป เนื่องจากขมิ้นเป็นหนึ่งในสีย้อมตามธรรมชาติ และสามารถที่จะทิ้งคราบเอาไว้ตามที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆได้ ดังนั้นคุณคงไม่อยากที่จะปล่อยให้พวกมันหยดลงบนพื้น หรือสถานที่ต่างๆในบ้านในขณะที่คุณทำการพอกหน้าอยู่

การเตรียมตัว และเตรียมผิวก่อนการพอกหน้าด้วยขมิ้น
 ล้างทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาด พร้อมกับลบเครื่องสำอางค์ที่ใช้ในการตบแต่งใบหน้าออกให้เกลี้ยงเกลา ถ้าหากคุณมีผมที่ยาว ให้ทำการผูกมันไว้ด้านหลัง สวมเสื้อยืดที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เผื่อในกรณีที่ส่วนผสมจากขมิ้นจะไหลลงไปแปดเปื้อน

การพอกหน้าด้วยขมิ้นอย่างถูกต้อง
ควนทำการทาส่วนผสมให้สม่ำเสมอทั่วใบหน้า ซึ่งหน้ากากขมิ้นสามารถทำการพอกบริเวณใต้ดวงตาได้ เพราะพวกมันมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดการอักเสบ ลดความหมองคล้ำ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการตีบของเส้นเลือด หากคุณมีส่วนผสมเหลืออยู่หลังจากการการทาจนทั่วใบหน้าแล้ว คุณก็สามารถที่จะเก็บส่วนผสมเหล่านั้นเอาไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ ปล่อยให้ส่วนผสมแห้ง ประมาณ 20 นาที จากนั้นทำการล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วซับหน้าของคุณเบาๆให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ
ขมิ้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี และยังช่วยในการต่อต้านอาการอักเสบ เชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ส่วนผสมอย่างน้ำผึ้งยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี นม หรือโยเกิร์ตเอง ก็มีกรดแลคติก ซึ่งเป็นกรดอัลผาไฮดรอกซี และน้ำมันขัดผิวตามธรรมชาติ เมื่อส่วนผสมทั้งสามสิ่งนี้มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ก็จะเป็นการช่วยเนรมิตให้ผิวของคุณสาวย ใส เรืองแสงขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากโบกมือลาปัญหาสิว พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ช่วยคุณได้

         ในศตวรรษนี้ มีคนจำนวนมากมายที่ใช้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มาช่วยในการแก้ไขสารพัดปัญหาเรื่องสิว รวมไปถึงเหล่าแผลเป็น จุดด่างดำจากสิวแบบครบวงจรเลยทีเดียว ซึ่งการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเอง ก็ไม่ได้มีเพียงสูตรตายตัวเดียว ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์มากมายได้ทำการผสมผสานน้ำผึ้ง เข้ากับสมุนไพร และสารอื่นๆ เพื่อให้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับบทความนี้ ก็ได้พยายามที่สรรหาข้อมูลอย่างครอบคลุม ที่เกี่ยวข้องกับการใช้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเพื่อช่วยในการรักษาสิว

พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ดีสำหรับผิวเป็นสิวอย่างไร
การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง เป็นวิธีการรักษาสิวแบบพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงให้ผิวที่บอบบางของคุณเป็นอันตรายจากยารักษาสิว ที่อาจจะมีสารเคมีรุนแรงปนเปื้อนอยู่ อีกทั้งยังไม่ต้องวทนต่อความเจ็บปวดจากการกินยาขมๆ การใช้โลชั่น ครีม หรือยาแต้มอีกต่างหาก ซึ่งในหลายๆครั้งสารเคมีที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นตัวไปกระตุ้นให้สิวมีอาการอักเสบที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น น้ำผึ้ง มีคุณสมบัติที่ดีในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมในการช่วยรักษาปัญหาสิวลึกถึงต้นเหตุ แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้หลังจากใช้พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง จะไม่แสดงผลลัพธ์ในชั่วข้ามคืน คุณจึงจำเป็นที่จะต้องทำการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งหลายครั้ง เป็นระยะเวลาหนึ่งกว่าที่จะแสดงผลลัพธ์ในการรักษาสิวให้เห็น

เคล็ดลับการเลือกส่วนผสมในการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง
การรักษาสิวด้วยการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งนั้น จะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเมื่อใช้ส่วนผสมใหม่ๆเสมอ คุณควรใช้ส่วนผสมของสารอินทรีย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ น้ำผึ้งที่นำมาใช้ควรทำการกรอง เพราะน้ำผึ้งดิบที่ยังไม่ผ่านการกรองอาจจะมีฝุ่นละออว เส้นขนเล็กๆ ที่ติดมาจากร่างกายของผึ้ง หรือซากของผึ้งที่ตายแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่อบางคนได้

วิธีการนำน้ำผึ้งมาใช้ในการพอกหน้า
น้ำผึ้งเพียงอย่างเดียว ก็สามารถนำมาใช้ในการพอกหน้าได้แล้ว เนื่องจากน้ำผึ้งมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวในตัวของมันเอง ทำความสะอาดรูขุมขน ป้องกันไม่ให้เชื้อจุลิทรีย์มีการเจริญเติบโต และต่อต้านเชื้อโรค นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของขี้ผึ้งที่ถูกผสมผสานอยู่ในน้ำผึ้งยังช่วยทำให้ผิวมีความนุ่ม เนียน อย่างมีออร่าอีกด้วย นอกจากการใช้เพียงน้ำผึ้งเดี่ยวๆ ในการรักษาสิวแล้ว คุณยังสามารถทำการผสมส่วนประกอบอื่นๆลงไป เพื่อให้ผลลักธ์การพอกหน้าที่ดีที่สุดได้อีกมากมาย อาทิเช่น

         1.แอปเปิ้ล 4-5 ช้อนโต๊ะ ที่สามารถช่วยขัดทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน กรดไกลโคลิมันจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และทำให้รูขุมขนมีความกระจ่างสดใสขึ้น
 2.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ + โยเกิร์ตสด และน้ำอุ่น กรดซิตริกในน้ำมะนาว และโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โยเกิร์ตยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายที่ดี ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของคุณยืด และแห้งจากการใช้น้ำมะนาวเพียงอย่างเดียว
3.ผงอบเชย มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่ดี และยังช่วยขจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสิว ในขณะที่เม็ดหยาบ และเส้นใยในผงอบเชย ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
 4.น้ำหรือเยื่อว่านหางจระเข้ เหมาะสำหรับผิวมัน ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการช่วยบรรเทา ปรับผิวให้นุ่ม และปรับโทนสีผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อจุลชีพ อนุมูลอิสระที่โดดเด่น ซึ่งส่วนผสมนี้จะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย อักเสบ คัน และระคายเคือง
 5.ผงสาหร่ายทะเล มีคุณสมบัติในการช่วยล้างสารพิษตามธรรมชาติ และยังช่วยในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดีด้วยแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการขัดผิวที่ตายแล้ว เมื่อนำมารวมกับคุณสมบัติของน้ำผึ้ง ผิวของคุณก็จะชุ่มชื้น ล้างสารพิษ และช่วยบำรุงผิวพรรณ ซึ่งดีเป็นอย่างมากในการต่อต้านสิวบนใบหน้า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมมิตรสูตร DIY พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว อย่างง่ายๆด้วยตัวเอง

         ไม่ว่าจะเป็นยุดคสมัยใด ความต้องการดูแลผิวหน้าให้ขาวเนียนกระจ่างสดใส ก็ยังเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมจากคุณสาวๆ แต่วิธีการดูแลผิวหน้าเองก็จำเป็นที่จะต้องคำนวณงบประมาณรายจ่ายที่ต้องใช้เข้าไปด้วย เพราะถ้าหากไม่ทำการควบคุมให้ดีๆล่ะก็ ถึงแม้ผิวพรรณของคุณจะสวยสดงดงามมากขึ้นจริง แต่เงินในกระเป๋าก็อาจจะลอยล่องออกไปมากจนเกินความจำเป็นได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว การเสริมความงามให้กับตัวเองด้วยวิธี DIY โดยการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างง่ายๆ ที่สามารถหาส่วนผสมได้จากในครัวของคุณเอง อย่างเช่นพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แถมผลลัพธ์ที่ได้ยังจัดว่ายอดเยี่ยมอีกต่างหาก ส่วนสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวจะมีดีอย่างไรนั้น เราไปติดตามอ่านผ่านบทความชิ้นนี้ด้วยกันเลย

พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว ช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้อย่างไร?
 การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว มีคุณสมบัติสุดพิเศษในการช่วยทำความสะอาดผิว เพิ่มความชุ่มฃื้นแก่ผิว นอกจากนี้ในมะนาวจะเต็มไปด้วย AHA และ BHA ซึ่งช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการเกิดสิว และปรับสภาพผิวให้ดูเท่าเทียมกันมากขึ้น ในขณะที่น้ำผึ้งเองก็ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ และยังช่วยในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 ก่อนการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว คุณควรเตรียมผิวของตัวเอง ด้วยการเทน้ำร้อนลงในชาม จากนั้นให้ใบหน้าอยู่เหนือชามใบนั้น ปล่อยให้ไอน้ำที่ระเหยขึ้นมาทำการหน้าที่ช่วยเปิดรูขุมขน การทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยให้การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวสามารถชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในรูขุมขนได้อย่างสะอาดหมดจดมากยิ่งขึ้น

สูตรการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวยอดนิยม มีอะไรบ้างไปดูกัน?
 สำหรับการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวนั้น ส่วนใหญ่โดยทั่วไปแล้วนิยมใช้ น้ำผึ้งดิบ+มะนาว ส่วนผสมที่ใช้มีมะนาวครึ่งซีก และน้ำผึ้งดิบ 1 ช้อนโต๊ะ ทำการบีบผสมลงในชามในเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วคุณได้ส่วนผสมที่พร้อมใช้ในการพอกใบหน้าแล้ว

วิธีการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวอย่างถูกต้อง
   นำส่วนผสมที่ได้มาทำการทาบางๆให้ทั่วทั้งใบหน้า โดยพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา แล้วปล่อยให้ผิวของคุณดื่มด่ำกับส่วนผสมแท้ๆจากธรรมชาติเหล่านั้นอย่างเต็มอิ่มเป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที พยายามอย่าพูดอะไร จากนั้นจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วราดน้ำเย็นซ้ำอีกครั้งเพื่อช่วยปิดรูขุมขนที่เปิดกว้างอยู่ ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด พักผิวผ่อนผิวหน้าของคุณทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยตบท้ายส่วนที่เหลือด้วยครีม หรือเซรั่มบำรุงผิวชิ้นโปรดของคุณ ซึ่งการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวนั้น สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ ทุกเช้า-เย็น หรือถ้าหากคุณไม่มีเวลามากขนาดนั้น คุณก็สามารถที่จะทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งได้เช่นกัน

ข้อควรระวังในการพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาว
ผิวของคนเรามีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายๆคนจะเกิดอาการแสบเมื่อทำการพอกหน้าด้วยส่วนผสมที่มีน้ำมะนาว ถ้าหากคุณสาวๆต้องการที่จะพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง มะนาวจริงๆ แต่เคยมีประวัติว่าผิวแพ้ง่าย หรือบางเป็นพิเศษ ควรลดปริมาณส่วนผสมที่เป็นน้ำมะนาวให้น้อยลง จากมะนาวครึ่งซีกอาจจะเหลือเพียงไม่กี่หยด นอกจากนี้ ก่อนการพอกหน้าทุกครั้งให้มั่นใจอยู่เสมอว่าผิวของคุณไม่ได้ผ่านขัดผิวมาก่อนในระยะเวลาอันสั้น เพราะถ้าไม่เช่นนั้น น้ำมะนาวจะทำให้คุณรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมมะขามพะเยา คืออะไร ดีจริงหรือเปล่า?

         กระปสการเสริมความงามของผิวพรรณบนใบหน้าด้วยการใช้ส่วนผสมจากพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคุณสาวๆผู้รักความสวยคงามงามในปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้ก็จะขอพาคุณสาวๆไปทำความรู้จักกับ “ครีมมะขามพะเยา” หนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาผิวหน้า ที่กำลังได้รับการพูดถึงแบบปากต่อปากถึงสรรพคุณที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในปัจจุบัน ส่วนประสิทธิภาพของเจ้าครีมมะขามพะเยาจะมีอะไรที่น่าสนใจ รวมไปถึงมีส่วนผสมจากธรรมชาติอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ครีมมะขามพะเยา คืออะไร?
ครีมมะขามพะเยา เป็นครีมที่ใช้ความรู้ดั้งเดิมทางด้านสมุนไพรในการบำรุงผิวมาใช้ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ otop จากกลุ่มแม่บ้าน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ที่โด่งดังในฐานะสินค้าโอทอป 5 ดาว ครีมมะขามพะเยามีส่วนผสมหลักของมะขาม ที่คนในอดีตนิยมนำมะขามที่อุดมไปด้วย AHA มาใช้ในการขัดทความสะอาดผิวหน้าเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและลดรอยหมองคล้ำบนผิวหน้า ซึ่งถ้าหากทำการแจกแจงแล้ว มะขามนั้นจะมีสรรพคุณดังต่อไปนี้
 1.มะขามมีสรรพคุณช่วยในการกำจัดความมันบนใบหน้าอย่างล้ำลึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นฝ้า กระและปัญหาเรื่องสิว
 2.มะขามมีส่วนประกอบของสาร AHA ที่ทำหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยำให้ฝ้าจางลง
   3.มะขามช่วยขจัดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน ลดความหมองคล้ำบนใบหน้าให้น้อยลง
 4.มะขามช่วยปรับสภาพสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอ ผิวพรรณจึงดูขาว กระจ่างใส
 5.มะขามยังมีสารเคลือบผิวในลักษณะของฟิล์มบางๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยเคลือบเซลล์ผิวไม่ให้แห้ง ผิวจึงไม่สูญเสียความชุ่มชื้น
 นอกจากมะขามที่เป็นส่วนประกอบหลักแล้ว ภายในครีมมะขามพะเยายังมีส่วนผระกอบสมุนไพรต่างๆ ที่มีคุณสมบัติสุดพิเศษในการบำรุงสุขภาพของผิวพรรณอีกหลายชนิด อาทิเช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้น น้ำผึ้ง นมสด เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือ ครีมมะขามพะเยา ไม่ผสมสารกันบูดอีกด้วย

ครีมมะขามพะเยามีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณอย่างไรบ้าง?
 ด้วยภูมิปัญญาแบบโบราณ ผสมผสานส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติอย่างลงตัวจนกระทั่งกลายมาเป็นครีมมะขามพะเยา ก่อกำเนิดสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณอย่างหลากหลาย ดังต่อไปนี้
1.ช่วยในการปรับสภาพผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง เรียบเนียน
 2.ช่วยขจัดรอยดำบนผิวหน้า หรือตามร่างกาย รอยสิวบนแผ่นหลัง และปรับสภาพสีผิวให้มีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ
 3.ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดความเหี่ยวย่น พร้อมชะลอความเหี่ยวย่นของผิว
 4.ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวละเอียด และสดใสมากยิ่งขึ้น
 5.ช่วยลดความมันของผิว พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นตามกลไกการปกป้องผิวตามธรรมชาติ
 6.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว คนที่ผิวเคยแพ้ง่าย ผิวจะมีภูมิต้านทานมากขึ้น

วิธีการใช้ครีมมะขามพะเยาอย่างถูกต้อง       
 ครีมมะขามพะเยา สามารถใช้ขัดและพอกผิวได้อย่างง่ายๆในขั้นตอนเดียว สามารถขัดได้ตามซอกหนีบ หรือบริเวณรักแร้ได้อย่างปลอดภัย และยังช่วยทำให้บริเวณที่เคยดำคล้ำค่อยๆขาวเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีข้อแนะนำในการใช้ครีมมะขามพะเยาตามส่วนต่างๆของร่างกาย ดังต่อไปนี้
 1.ใบหน้า ควรใช้ครีมมะขามพะเยาโดยคำนึงถึงสภาพผิวของตัวเองป็นสำคัญ ดังนี้
 -ผู้ที่มีผิวมัน ควรล้างทำความสะอาดใหบหน้าด้วยสบู่ หรือโฟม จากนั้นนำครีมมะขามพะเยาผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย ขัดเบาๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ขอแนะนำให้ทำในช่วงเย็นวันละ 1 ครั้ง
 -ผู้ที่มีผิวแห้ง สามารถใช้ครีมมะขามพะเยาล้างทำความสะอาดใบหน้าได้เลย ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ขอแนะนำให้ทำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
 2.สันเท้า พอกครีมมะขามพะเยาเอาไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3.ผิวกาย หลังการอาบน้ำด้วยสบู่หรือครีมอาบน้ำ นำครีมมะขามพะเยามาขัดให้ทั่วผิวกาย ตามซอกขาหนีบ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงค่อยทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 จากข้อมูลที่กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้นจะเห็นได้ว่า ครีมมะขามพะเยานั้นสามารถนำมาใช้ในการบำรุงผิวกายทั้งในฐานะของโฟมทำความสะอาด และการพอกผิวพรรณได้อย่างง่ายๆในขั้นตอนเดียว สำหรับคุณสาวๆคนใดที่อยากบำรุงผิวกายด้วยวิธีการทางธรรมชาติ แบบง่ายๆจบในขั้นตอนเดียว ครีมมะขามพะเยาก็ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑืทางเลือกที่ดที่เดียว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.