วิธีจัดการ “สิวอักเสบ” ให้สิ้นซาก ไม่ต้องพึ่งหมอ

         ปัญหาสิว เป็นเรื่องพูดกันไม่จบไม่สิ้น เพราะของแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่รู้ โดยเฉพาะ “สิวอักเสบ” ที่มารังควาน แถมยังมีอาการปวดแสบจากการอักเสบระคายเคืองผิว ยิ่งเป็นสิวเม็ดใหญ่ๆด้วยแล้วคงไม่ต้องพูดถึงว่ามันทำร้ายผิวหน้าของเรามากแค่ไหน ไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากสิวอักเสบยุบลงก็มักทิ้งรอยดำรอยแดง หรือรอยแผลเป็นไว้ให้เจ็บช้ำใจ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้สิวอักเสบเป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ


สิวอักเสบ เกิดจาก

         สิวอักเสบที่เห็นเป็นเม็ดตุ่มนูนๆ บวมแดง อาจเป็นเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ บางครั้งเห็นเป็นหนองบริเวณหัวสิว หรือที่เรียกว่า “สิวหนอง” หากสิวอักเสบมีการติดเชื้อและอักเสบมาก จะทำให้มีขนาดใหญ่ ยกระดับเป็น “สิวหัวช้าง” ได้ ทั้งนี้ สิวอักเสบเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ
         1.เกิดขึ้นเองตามธรมชาติ เกิดจากสภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนไม่สมดุล จึงทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น
         2.เกิดขึ้นจากสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง เมื่อฝุ่นละอองและเชื้อแบคทีเรียเข้าไปอุดตันในบริเวณรูขุมขน จึงทำให้เกิดอาการอักเสบในที่สุด


วิธีจัดการสิวอักเสบให้สิ้นซาก

         การจะจัดการปัญหาสิวอักเสบให้หมดไปจากใบหน้าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ขอแค่มีความอดทน อย่าเอามือไปแคะแกะเกาสิวอักเสบ เพราะจะยิ่งทำให้สิวติดเชื้อ อักเสบได้มากขึ้น แถมยังสามารถแพร่กระจายเชื้อไปบริเวณอื่นๆได้ ที่สำคัญคือพยายามรักษาความสะอาด อย่าปล่อยให้สิ่งสกปรกสะสมบนผิวหน้าเป็นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สิวอักเสบมาเยือนได้ง่ายๆ ทั้งนี้ เมื่อเกิดสิวอักเสบขึ้นควรปฏิบัติดังนี้
         1.ล้างหน้าให้สะอาด โดยหาโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนๆมาใช้ หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนสกัดจากสมุนไพรก็ได้ หรืออาจเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอางค์เพื่อช่วยรักษาสิวไปด้วยในตัว อย่างไรก็ตาม เวลาล้างหน้าควรล้างเบาๆ ไม่ควรถูหน้าแรงๆ หรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดที่หน้าแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบที่เป็นหนองอักเสบมากขึ้น
         2.พักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายบ้าง ที่สำคัญดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกาย

         3.ใช้กระดาษซับมันระหว่างวัน อย่าปล่อยให้หน้ามัน โดยใช้กระดาษซับมันแบบเบามือ อย่ากดโดนบริเวณสิวแรงเกินไป
         4.ใช้เจลแต้มสิว โดยควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ หรืออาจจะลองอ่านรีวิวตามเว็บบอร์ดต่างๆในอินเตอร์เน็ตก่อน
         5.ขยันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและซักผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ เพราะเป็นรักษาความสะอาดที่ดี
         6.หากอาการสิวอักเสบยังรุนแรงมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้นได้
         7.ใช้สูตรรักษาสิวอักเสบแบบโฮดเมด โดยให้นำแตงกวา 1 ลูก มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆและสับให้ละเอียด ปั่นหรือคั้นเอาแต่น้ำแตงกวาแล้วกรองแยกใส่ชามเอาไว้ จากนั้นนำมะเขือเทศ 1 ลูกหั่นให้ละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน นำน้ำแตงกวาและน้ำมะเขือเทศมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นใช้สำลีชุบทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ทิ้งไว้ครู่หนึ่งจึงค่อยล้างออก เช็ดหน้าให้แห้งเป็นอันเสร็จ

 

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมรักษาสิว หน้าใส แบบไหนที่ พริ้ตตี้ ใช้กัน สิวหายแถมหน้าเนียนกว่าเดิม

         เมื่อพูดถึงครีมรักษาสิว หน้าใส แบบที่พริตตี้ใช้กัน ก็บอกได้ว่ามีร้อยแปดพันเก้า แต่ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ไม่เว้นแต่กระทั่งคนในแวดวงบันเทิง ก็คือ “Dr.Young Sprinkling Gel Cream” ครีมบำรุงผิวหน้าที่จัดการปัญหาต่างๆได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิว ริ้วรอยแห่งวัย รอยหมองคล้ำ ซึ่งจะทำให้หน้าดูเรียบเนียนกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ปรับสภาพผิวหน้าให้สมบูรณ์ คงความชุ่มชื้นยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง


Dr. Young Sprinkling Gel Cream รักษาสิว เหมาะกับคนผิวมัน

         แม้บางคนจะเข้าใจผิดว่าคนที่มีผิวหน้ามันแสดงว่ามีความชุ่มชื้น ซึ่งอาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่คนที่มีผิวมันก็เองต้องการบำรุงเพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้กับผิวในระหว่างวันเช่นเดียวกับคนที่มีผิวแห้ง นอกจากนี้ความมันบนใบหน้ายังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นสิวได้ง่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ครีมรักษาสิว Dr.Young Sprinkling Gel Cream สามารถจัดการความมันได้อย่างอยู่หมด อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวหน้ากระชับเต่งตึง ลดการสะสมของสิ่งสกปรก ต้นเหตุของการเกิดสิว
         โดยผลิตภัณฑ์ Dr.Young Sprinkling Gel Cream มีส่วนประกอบหลักจากน้ำแร่ และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความมันส่วนเกิน หรือทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้นบนใบหน้าอย่างแน่นอน


ส่วนผสมหลักของ Dr.Young Sprinkling Gel Cream

         1.น้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขา Alps โดยการลดอุณหภูมิของก้อนน้ำแข็งของน้ำแร่ธรรมชาติอย่างกะทันหัน จนกระทั่งน้ำแข็งเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเจลครีม โดยมีคุณสมบัติในการช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว เสริมความแข็งแรงและชะลอความร่วงโรยของผิวพรรณ
         2.สารสกัดจากกระบองเพชร ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ให้กับผิวได้เป็นระยะเวลานาน ลดความหยาบกร้านของผิว นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวหนังกระจ่างใสและนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
         3.สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ช่วยทำให้กระบวนการเมตะโบลิของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นให้เนื้อเยื่อของผิวหนังที่ชำรุดเกิดการสร้างตัวเองขึ้นใหม่ ลดริ้วรอย ทำให้ผิวมีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
         4.Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการรักษาริ้วรอย ลดรอยแผลเป็น ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระและช่วยกรองรังสียูวี ช่วยปกป้องฟื้นฟู ปรับสภาพผิวให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม
         ด้วยส่วนผสมหลักที่เป็นสารสกัดธรรมชาติเหล่านี้เอง จึงทำให้ Dr.Young Sprinkling Gel Cream กลายเป็นครีมรักษาสิว  บำรุงผิวหน้าให้เนียนใสที่เหล่าสาวๆพริตตี้นิยมใช้กัน นอกจากนั้นยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางนำเข้าจากเกาหลี ฟื้นบำรุงผิวหน้าหน้าด้วยความบอบบาง เสริมสร้างเกราะให้ผิวแข็งแรงสมบูรณ์แบบ


จัดการปัญหาสิว ด้วยเจอเซรั่มเจลแต้มสิว

         นอกจากครีมรักษาสิวที่พริตตี้นิยมใช้กันแล้ว อีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดการปัญหาสิวก็คือ เซรั่มเจลแต้มสิวที่สามารถรักษาสิวเฉพาะจุด เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวชนิดต่างๆ ทั้งสิวเม็ดใหญ่บนใบหน้า อาทิเช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ ทั้งชนิดที่หัวสิวมีหนอง และไม่มีหนอง โดยผลิตภัณฑ์ที่เราขอแนะนำในวันนี้ได้แก่ “Dr.Young SoS Stop Spot Serum” ด้วยสารสกัดจากขิง ลดอาการแพ้ การระคายเคือง ลดรอยแผลเป็น ริ้วรอยและความมัน ผสมผสานด้วยวิตามินซี สารสกัดจากรากชะเอมและชาเขียว ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา และคงความเยาว์วัยแก่ผิว …รับรองว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวที่แนะนำในวันนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กดสิว อย่างไร ไม่ให้หน้าเสีย วิธีกดสิวให้สิวหาย

         คุณกำลังประสบปัญหาสิวกันอยู่ใช่หรือไม่ คำถามต่อมาก็คือคุณกำลังคันไม้คันมืออยากบีบสิวใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ วันนี้เรามีวิธีกดสิวที่จะไม่ทำให้ผิวหน้าแสนบอบบางเสีย หรือไม่ให้เกิดเป็นรอยดำช้ำมานำเสนอ ทั้งนี้ อาจทำให้เกิดรอยแดงๆเล็กน้อย ทว่ามันคือวิธีกดสิวที่ทำให้สิวหายไปโดยพลัน

ข้อดีและข้อเสียของการกดสิว
         คุณที่เคยกดสิวเป็นประจำคงสงสัยว่าทำไมบางครั้งไปกดสิวไปแล้ว สิวที่เคยอีกเสบบวมแดง เมื่อผ่านช่วงเวลาแค่ข้ามคืน สิวก็จะแห้งเกลี้ยง ในทางตรงกันข้ามบางทีกดสิวไปแล้ว ยิ่งเป็นการทำให้สิวอักเสบมากขึ้น แถมยังเห่อตามมาอีกด้วย นี่แหละคือสิ่งที่บอกได้ว่าการกดสิวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
         ข้อดีคือ การกดสิวจะทำให้หัวสิวหลุดออกมา ถ้าทำอย่างถูกวิธีจะช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีผิวมันและมีสิวอุดตันเยอะ ซึ่งโอกาสที่หัวสิวจะหลุดไปเองนั้นยากกว่าผิวแห้ง เพราะน้ำมันใต้ผิวจะผลิตตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันซ้ำๆไม่มีวันจบสิ้น

         สำหรับข้อเสีย ถ้ากดสิวไม่ดี กดผิดถูกวิธี กดไม่หมด หรืออุปกรณ์ที่ใช้กดสิวไม่สะอาดพอ สิวอุดตันเม็ดเล็กๆก็จะกลับกลายเป็นสิวอักเสบเม็ดโต ทำให้ยากต่อการรักษาเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นหากใครอยากกดสิว ถ้ามีทุนทรัพย์และเวลาว่างพอ แนะนำให้กดกับผู้เชี่ยวชาญหรือไปตามคลินิค เพราะแทนที่จะกดสิวให้สิวหาย อาจได้หน้าพังมาแทน

วิธีกดสิวที่ถูกต้อง
         ต้องบอกก่อนเลยว่าการกดสิวด้วยตัวเองไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยจะเหมาะคนที่เป็นสิวไม่มากนัก และคนที่เป็นสิวหัวเปิด สิวหัวดำ สิวหัวปิดหัวขาว หรือสิวอักเสบบางกรณี ทั้งนี้ ต้องรู้จักคาดการณ์ด้วยตัวเองว่าสิวที่กำลังเปล่งอยู่นั้น ถ้ากด บีบ ออกมาแล้วผลจะออกมาทางบวกหรือทางลบมากกว่ากัน ถ้าไม่มั่นใจจริงๆควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มิใช่เห็นแล้วรู้สึกมันมือจึงกด บีบ เค้น กรณีแบบนี้อาจทำให้หน้าพัง เกิดรอยแผลเป็น ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะหาย
         สำหรับคนที่มั่นใจแล้วว่าจะกดสิวด้วยตัวเอง อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ได้แก่ 1.ไม้กดสิวแสตนเลส (สามารถหาซื้อตามร้านขายยา หรือร้านขายเครื่องมือแพทย์) 2.แอลกอฮอล์ 3.สำลี 4.เข็มอินซูลิน (ขนาด 50 unit ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) 5.น้ำเกลือ และน้ำอุ่น ทั้งนี้ หากสวมถุงมือเหมือนที่คุณหมอใช้ ก็จะเป็นการดี ทีนี้ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการกดสิว

         – ล้างทำความสะอาดไม้กดสิว และนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ ส่วนเข็มอินซูลินถ้าใช้ครั้งแรกก็ไม่จำเป็นต้องแช่ (ไม่ควรใช้เกิน 3-5 ครั้ง) แช่สักประมาณ 10 นาที แล้วนำสำลีมาซับให้แห้ง
         – ล้างทำความสะอาดใบหน้า และเช็ดโทนเนอร์ให้ทั่วผิวหน้า
         – นำสำลีชุบน้ำอุ่นมาวางแปะไว้บริเวณที่กด ประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้รูขุมขนเปิด รากสิวจะอ่อนตัว ทำให้สามารถกดสิวออกได้ง่ายขึ้น
         – ดูชนิดสิว ถ้าเป็นสิวหัวเปิด เช่น สิวหัวดำ สามารถเอาไม้กดสิวกดได้เลย แต่ถ้าเป็นสิวหัวปิด เช่น สิวอุดตัน หรือสิวหัวหนอง ให้เอาเข็มอินซูลินสะกิด (ห้ามเจาะหรือจิ้มจนเกิดแผลเด็ดขาด) บริเวณหัวสิว จะไม่รู้สึกเจ็บ หลังจากสะกิดแล้วค่อยๆเอาไม้กดสิวกดตามลงไป หากกดสิวแล้วเลือดซึมให้นำสำลีชุบน้ำเกลือ หรือสำลีปกติกดห้ามเลือดไว้ รอสักพักให้ทายาสิวทับ (ถ้ามี)
         สำหรับเทคนิคการกดสิว ให้เอาแท่งคร่อมหัวสิวแล้วกด หรือเอาแท่งกดสิวทำมุม 45 องศากับสิวแล้วกดจากด้านข้าง ที่สำคัญคือค่อยๆกดอย่างเบามือ อย่ากดสิวแรง จะได้ไม่เกิดรอยช้ำในวงกว้าง และไม่เกิดรอยแผลเป็นตามมา

 

รักษาสิวด้วย Dr.Young Sprinkling Gel Cream ปรับสภาพผิว คืนความชุ่มชื้น
         ผลิตภัณฑ์ Dr.Young Sprinkling Gel Cream มีคุณสมบัติที่ช่วยในการบำรุงผิว คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมกับปรับสภาพผิวให้สมบูรณ์อยู่ตลอดทั้งวัน ด้วยการผสมผสานส่วนผสมที่โดดเด่นในการช่วยบำรุงผิวพรรณ จากน้ำแร่ธรรมชาติแท้ๆจากเทือกเขา Alps ผนวกกับสารสกัดจากกระบองเพชร ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ให้กับผิวได้เป็นระยะเวลานาน ลดความหยาบกร้านของผิว ทั้งยังช่วยทำให้ผิวหนังกระจ่างใสและนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
         นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ และ Hyaluronic Acid ช่วยทำให้กระบวนการเมตะโบลิของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นให้เนื้อเยื่อของผิวหนังที่ชำรุดเกิดการสร้างตัวเองขึ้นใหม่ จัดการปัญหาสิว ลดริ้วรอย ทำให้ผิวมีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ และช่วยกรองรังสียูวี ช่วยปกป้องฟื้นฟูปรับสภาพผิวให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำความรู้จัก ‘แอคโนติน’ ยารักษาสิวยอดฮิต

         แค่อ่านชื่อเรื่องหลายคนก็คงถึงบางอ้อกันแล้ว เพราะเจ้า “แอคโนติน” เป็นหนึ่งในยารักษาสิวยอดนิยมที่ส่วนใหญ่ต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเวลาเป็นสิวมากๆแล้วไปหาหมอที่คลินิคหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง นอกจากยาทาสิวที่บริเวณใบหน้าแล้ว แอคโนตินก็มักจะเป็นสิ่งที่คุณหมอให้เรากลับมารับประทานที่บ้านด้วย
         ทั้งนี้ทั้งนั้น แอคโนตินเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า เป็นยาที่มีผลข้างเคียง ช่วงแรกๆที่ใช้อาจผิวแห้งลอก ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวไวต่อแดด ที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่น ผมร่วง เล็บเปราะหักง่าย เล็บอักเสบ ปวดศีรษะ และในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อตับได้ หากรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม เพื่อความกระจ่างชัด วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักับแอคโนตินให้มากขึ้น


แอคโนติน… ยาเทวดา หรือ ซาตาน ?

         แอคโนติน คือยาในกลุ่มกรดวิตามินเอชนิดรับประทานชื่อ Isotretinoin เป็นหนึ่งในยาที่ผู้ป่วยเป็นสิวเห่อบริเวณใบหน้า นิยมรับประทานจากการจ่ายยาของแพทย์ ยาชนิดนี้แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่ดี แต่หากใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้เช่นกัน โดยยาแอคโนตินจะออกฤทธิ์การทำงานของต่อมไขมัน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียก่อสิว Propionibacterium acnes และยับยั้งการสร้างหัวสิว (comedone)

         ยารักษาสิว แอคโนติน จะมี 2 แบบ คือ แบบ 10 มิลลิกรัม และ 20 มิลลิกรัม การสั่งยาจะขึ้นอยู่การวินิจฉัยของคุณหมอตามอาการ ซึ่งต้องขอย้ำว่าควรรับประทานตามคำแนะนำของหมอ เพราะทางสำนักงานกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกกฎสำหรับยาตัวนี้ว่าเป็นยาอันตราย ต้องให้แพทย์สั่งเท่านั้นถึงจะนำมารับประทานได้
         สำหรับการออกฤทธิ์ของยารักษาสิว แอคโนติน โดยส่วนใหญ่จะสามารถจัดการสิวบนใบหน้าได้อย่างเห็นผล สิวที่เคยขึ้นเห่อจะแลดูจางลง ผิวหน้าแลดูใสขึ้น และทำให้หน้าไม่มัน แต่ผลข้างเคียงของยาตัวนี้ที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆก็คือ ผิวแห้งลอก ปากแห้ง ตาแห้ง ผิวไวต่อแดด ที่พบได้แต่ไม่บ่อยคือ ผมร่วง เล็บเปราะหักง่าย เล็บอักเสบ หรืออาจปวดศีรษะ กรณีรับประทานยาเรตินอยด์ร่วมกับยากลุ่มเตตร้าไซคลิน มีผลต่อระดับเอนไซม์ตับ ระดับไขมันในเลือด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากใช้แอคโนตินระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกพิการได้

         อย่างไรก็ดี การรับประทานยาแอคโนตินเพื่อรักษาสิวนั้น ไม่เป็นอันตราย หากอยู่ในความควบคุมและดูแลของแพทย์ ดังนั้น จึงไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะแพทย์จะดูแลปริมาณของยาที่รับประทานให้เหมาะกับปัญหาสิวบนใบหน้า และจะมีการติดตามอาการเพื่อดูการผลการตอบสนองต่อยาอย่างต่อเนื่อง

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวใสไร้สิว ด้วย แอคโนติน review จากผู้ใช้

         “แอคโนติน” เป็นยารักษาสิวชนิดรับประทานที่คนเป็นสิวมากๆ ต่างก็รู้จักกันดี เพราะแอคโนตินเป็นยาที่มักถูกจ่ายให้คนไข้ที่มีสิวเห่อขึ้นหน้ามากผิดปกติ โดยคุณหมอจะกำชับว่าให้รับประทานนานแค่ไหน สัปดาละกี่เม็ด ซึ่งแต่ละรายจะแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่เหมือนกัน บางคนรับประทานแล้วสิวหายจริงสมคำล่ำลือ ทว่าบางรายกลับไม่เห็นผลอะไร หนำซ้ำยังทำให้เป็นสิวมากขึ้นอีก ทั้งนี้ แอคโนติน ถือเป็นยาที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย วันนี้เราได้รวบรวมหลากหลายความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง เพื่อเป็นทางเลือกให้ท่านผู้อ่านใช้ในการตัดสินใจ


แอคโนติน กับการ review จากผู้ใช้

         “เคยกินภายใต้ความควบคุมของแพทย์ค่ะ ตอนกินตาแห้ง ผิวแห้ง คอแห้ง แห้งทุกอย่าง… เห็นผลภายใน 1อาทิตย์ ไม่มีอาการเห่อ แต่เห็นเค้าว่าก็แล้วแต่บางคนนะคะ ตอนกินแฟนก็บ่น ด่า แต่ก็แอบกิน รู้ว่าไม่ดีต่อตับ แต่ก็สัญญากับตัวเองว่าครบโดสแล้วจะเลิกกิน แต่ตอนนั้นที่กิน กินแบบเม็ด 10 mg อาทิตละ 3 เม็ด ถือว่าโดสยาน้อยมาก ตอนนี้ไม่ได้กินมา 2 ปีแล้วค่ะ สิวมาบ้างแต่ไม่เยอะ ยามันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ที่สำคัญควรอยู่ภายใต้ความควบคุมของแพทย์อ่าค่ะ”

         “หมอจ่ายให้เราแบบ 20 mg เลยค่ะ ตอนนี้กินมาได้เดือนกว่าๆแล้วค่ะ ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ หน้าแห้งไปเยอะหมอให้ทาฟิสิโอเจลค่ะ ตาแห้งต้องหยอดน้ำตาเทียมช่วย ปากแห้ง แต่สิวก็น้อยลงมากเลยค่ะ แทบไม่ขึ้นเลยค่ะ”
         “เป็นสิวหนักๆ เม็ดโตๆ บางคนกินเป็นปีครับ สองปีก็มี แล้วแต่อาการ เพื่อนอายุมากพอควรแล้ว เพิ่งมากินร่วมปีเหมือนกัน กินวันเว้นวันนะครับ หน้าใสขึ้นเยอะ แต่มันอดเที่ยวทะเล ตากแดดนานไม่ได้ พักหลังลดเหลือสัปดาห์ละ 2 วัน แต่ยังมีสิวเม็ดเล็กๆ ขึ้นกวนใจอยู่ก็เอาลดอักเสบทาเอาไม่กี่วันก็หาย”
         “ส่วนตัวเราเคยกินยานี้ค่ะ หายจริงๆนะ ยาดีมากๆ แต่ถ้าหยุดจะขึ้นไหม อืมมม..ตอนนี้เราก็ไม่ค่อยมีนะคะ ยังดีก็เล็กๆน้อยๆ สิวไขมันเล็กๆน้อยๆอะค่ะ ช่วงที่กินจะมีอาการปากแห้ง ผิวแห้งนะคะ ดื่มน้ำเยอะๆจริงๆยานี้แรงอยู่ แนะนำว่าอย่ากินทุกวัน เอาเป็นวันเว้นวัน หรือ 2 วันทานทีก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเยอะเป็นน้อยอะค่ะ”

         “ดีนะค้าบ ส่วนตัวผมกินอยู่ หน้าใสกิ๊ก สิวหายเกลี้ยงเลย ^^ แต่ข้อเสียคือปากจะแห้ง ผิวจะแห้ง ต้องขยันทาวาสลีนบ่อยๆ และที่สำคัญเคยปรึกษาหมอเค้าบอกว่าควรกินไม่เกิน 3 เดือนแล้วพักตับซัก 1 เดือน ผมกินมาเกือบๆจะ 6 เดือนแล้ว พักบ้าง 1-2 เดือน แต่ไม่ถึงกับหยุดไปเลย เอาแบบนานๆๆๆๆจะกิน ^^ มันเป็นทางเลือกที่ดีมากนะค้าบสำหรับคนหน้ามันมากๆ แล้วแต่คนชอบค้าบ”
         จากหลากหลายความคิดเห็นทั้งหมดเกี่ยวกับยาลดสิวแอคโนติน” ส่วนใหญ่มักพูดกันว่า ยาตัวนี้รับประทานแล้วช่วยให้หน้าใสไร้สิวจริง ทั้งนี้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีผลข้างเคียงที่ทำให้หน้าแห้ง ผิวแห้ง ปากแห้ง จมูกแห้ง และอาจเป็นพิษต่อตับ ซึ่งถือว่าไม่เข้าขั้นร้ายแรงถ้าอยู่ในการดูแลของแพทย์ กระนั้นก็ตาม ผิวหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป และอะไรที่ขึ้นชื่อว่า “ยา” ย่อมมีผลข้างเคียงเป็นธรรมดา ดังนั้น การใช้แอคโนตินอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจึงถือเป็นการดีที่สุด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหารเสริมหน้าใส กับวิธีปฏิบัติตนให้ผิวสวยสุขภาพดี

         เมื่อพูดถึง “อาหารเสริมหน้าใสหลายคนอาจส่ายหน้าด้วยทัศนคติที่ว่า อาหารเสริมไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิต แถมบางคนอาจคิดไปเสียว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นภัยคุกคามอย่างหนึ่งที่หากได้ลองรับประทานแล้วจะเกิดผลเสียต่อร่างกาย จริงๆแล้วอาหารเสริมถือเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ใช้รับประทานโดยตรงนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย โดยมิใช่ยาสำหรับผู้ป่วย และอาหารเสริมที่แท้จริงจะไม่ทำร้ายสุขภาพของผู้บริโภคแต่อย่างใด

         แต่กระนั้นก็ดี จะอธิบายอย่างไรคนที่มีอคติก็คงไม่เข้าใจ ดังนั้น เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เราจะมาพูดถึงการทำให้ผิวหน้าสวยสดใส แบบไร้ที่ติกันเลยทีเดียว ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ที่จะส่งเสริมให้ผิวหน้าขาวสวยเนียนใสมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้อาหารเสริมหน้าใสอย่างถูกวิธี ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย

วิธีปฏิบัติตนให้ผิวหน้าสวยใส ไร้ที่ติ
         1.ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพราะการนอนดึกจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายเสื่อมโทรม ทำให้มีอายุสั้นลง ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานไม่เป็นปกติ ที่สำคัญยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว
         2.ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ทำให้สุขภาพผิวดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

         3.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะจะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้หน้าดูสดใส น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้นไม่เหี่ยวย่นด้วย ซึ่งถ้าหากร่างกายมีน้ำเพียงพอก็สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ออกมาได้มาก
         4.รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี่ มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงต้านทานโรคต่างๆ ทำให้ผิวสวย ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
         5.ทำจิตใจให้ร่าเริง สดชื่น แจ่มใส มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ และยังช่วยชะลอวัยได้ด้วย
         6.ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอัยควร หน้าตาไม่สดใส และมีสิวอุดตันตามมา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง เพราะเหล้าและบุหรี่มีผลเสียหลายต่อสุขภาพในร่างกายของเรามาก

         7.หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดๆ เพราะแสงแดดจะทำให้หน้าเราหมองคล้ำได้ เมื่อออกกลางแจ้งควรสวมแว่นตาและกางร่ม (ร่มกัน UV ก็มีนะ) และทาครีมกันแดดด้วย นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ โดยไม่จำเป็น เช่น ฝุ่น ควัน เป็นต้น
         8.ไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ก่อนล้างหน้าควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนทุกครั้ง และควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง แต่ไม่เกิน 3 ครั้งเพราะจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ ที่สำคัญเมื่อล้างหน้าเสร็จควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าสะอาดปราศจากสารตกค้างแล้วจริงๆ

         9.หมั่นบำรุงผิว โดยเฉพาะหลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า เพื่อป้องกันริ้วรอยและรอย
         10.ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน

เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยอาหารเสริมหน้าใส
         เมื่อปฏิบัติตนให้ผิวหน้าสวยใสกันไปแล้ว ถ้าอยากให้สุขภาพผิวดีมาจากข้างใน ด้วยการเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ฟื้นบำรุงผิวไม่ให้หมองคล้ำ ได้รับปกป้องอันตรายที่เกิดจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ การใช้อาหารเสริมหน้าใสถือเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณ โดยเฉพาะในคนยุคนี้ที่ไม่ค่อยนิยมรับประทานผักผลไม้แบบสดๆ จึงสมควรอย่างยิ่งยวดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวหน้าด้วยอาหารเสริม อย่างไรก็ตาม การเลือกอาหารเสริมหน้าใสที่ดี ควรเลือกด้วยเหตุผลดังนี้
         1.ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีงานวิจัยรองรับ เชื่อถือถือได้ มีผลดีต่อสุขภาพผิว ไม่ทำร้ายผิวแม้เป็นคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย
         2.ไม่มีการสะสมในร่างกาย และส่งผลเสียต่อตับ อาหารเสริมหน้าใสที่ดีต้องไม่ทำร้ายสุขภาพ โดยเฉพาะตับ ต้องไม่มีสารตกค้างที่สะสมในร่างกาย ฉะนั้น ควรดูที่สลากให้ดีว่าห้ามรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานหรือไม่
         3.ไม่มีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม อาหารเสริมหน้าใสบางตัวอาจมีการผสมสารสเตียรอยด์มาด้วย ซึ่งไม่ใช่สารสกัดธรรมชาติที่ดีต่อร่างกาย ทั้งยังสะสม และส่งผลเสียต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เป็นสิว หน้าหมองคล้ำ แก้ด้วยอาหารเสริมหน้าใส

         “สิว” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าหนักอกหนักใจสำหรับวัยรุ่น เพราะเวลาเป็นสิวทีไร นอกจากมันจะเรียกพวกให้มาอยู่เต็มหน้าแล้ว สิวมักทิ้งร่องรอยแผลเป็น รอยดำรอยแดงไว้ให้เราเจ็บปวดใจ ผลที่ตามมาก็คือทำให้ผิวหน้าหม่นหมอง เต็มไปด้วยจุดด่างดำ กลายเป็นคนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำไปโดยปริยาย แล้วเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรกัน บทความนี้มีคำตอบ

ปัญหาสิว ต้องแก้ที่ต้นเหตุ
         เป็นที่ทราบกันดีว่า “สิว” เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่โดยหลักการแล้วจะเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมาก และมีการอุดกลั้นทางเดินของไขมัน ทำให้สิวซึ่งอาจจะเป็นสิวหัวขาว หรือหัวดำก็ได้ หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้เกิดการอักเสบของสิว เช่นเป็นหนอง โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว ได้แก่

         1.ฮอร์โมน ร่างกายสร้างฮอร์โมน Testosterone ทำให้มีการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14 ปีดังนั้นจึงพบสิวมากในวัยนี้และอาจจะอยู่ได้นานหลายปี
         2.มีการเปลี่ยนแปลงของรากผม รากผมเจริญเร็วเซลล์มีการแบ่งตัวเร็ว และมีเซลล์ที่ตายมาก จึงเกิดการอุดตันของต่อมไขมัน
         3.แบคทีเรีย โดยเฉพาะชื่อ Propionibacterium acne จะทำให้เกิดการอักเสบของสิว
         4.กรรมพันธ์ ผู้ที่มีทั้งพ่อแม่เป็นสิวจะมีโอกาศเป็นสิวสูง
         5.การทำงานของต่อมไขมัน หากที่ใดที่มันและร่วมกับการดูแลรักษาความสะอาดไม่ทั่วถึงก็ทำให้เกิดสิว
         6.สภาพอากาศ ขึ้นกับแต่ละคนบางคนเป็นมากในฤดูหนาว บางคนฤดูร้อน
         7.ภาวะอารมณ์ คนที่อารมณ์ดีจะเกิดสิวน้อยกว่าคนที่อารมณ์เสีย ฉะนั้น จงอย่าเครียดมากจนเกินไป

         8.การใช้เครื่องสำอางค์ เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเกิดสิว การเลือกสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิวหนัง คนที่มีแห้งควรจะใช้สบู่ที่เป็นด่างอ่อน คนที่ผิวมันก็อาจจะใช้สบู่ที่มีความเป็นด่างมากขึ้นได้ หรืออาจจะใช้สบู่ที่มีด่างอ่อนแต่ล้างหน้าบ่อยขึ้น
         9.ครีมบำรุงผิว ต้องเลือกให้ถูกกับผิวหน้า คนที่ผิวแห้งไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอร์เป็นส่วนประกอบ คนที่ผิวมันก็หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีไขมันสูง
         10.การระคายผิว เช่น การล้างหน้าที่มีการถูมาก หรือการบีบสิว
         11.ยาบางชนิด อาจมีผลทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้ เช่น INH Iodides Bromide Steroid Testosterone Gonadotropine Anabolic steroid ยาคุมกำเนิด
         เมื่อทราบถึงปัจจัยการเกิดสิวกันไปแล้ว ถ้าไม่อยากให้สิวเห่อขึ้นหน้าก็ต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวให้จงได้ จึงจะถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม แต่อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเป็นสิวจากหลายปัจจัยพร้อมๆกัน เช่น ความสกปรกสะสมเนื่องจากใช้เครื่องสำอางค์ ภาวะอารมณ์ และความแปรปรวนของฮอร์โมน ก็ควรมีการปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาให้ตรงจุด


อาหารเสริมหน้าใส แก้หน้าสิว ลดความหมองคล้ำ

         สำหรับคนที่มีปัญหาสิว จุดด่างดำ รวมทั้งผิวแห้ง เกิดริ้วรอยได้ง่าย จนทำให้เกิดความหมองคล้ำบนใบหน้า “อาหารเสริมหน้าใส” อาจช่วยคุณได้ เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเข้าไปช่วยฟื้นบำรุงผิวจากข้างในออกมาสู่ภายนอก ช่วยปรับสภาพผิวจากที่หม่นหมองให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยอาหารเสริมหน้าใสที่ขอแนะนำในวันนี้คือ Daily Vits วิตามินซี 1,500 mg
         ที่แนะนำอาหารเสริมหน้าใสเป็นวิตามินซีตัวนี้ เพราะไม่ได้มีดีแค่ทำให้ผิวขาวสดใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้น โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดสิว ลดริ้วรอย ปกป้องความชราของเซลล์ผิว ให้ผิวแข็งแรง ด้วยการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบ ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่ง Daily Vits เป็นอาหารเสริมหน้าใสที่รับประทานง่าย แค่วันละเม็ดก่อนนอน เพียงแค่นี้ก็จะแก้หน้าสิว หน้าหมองคล้ำได้ชะงัด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหารเสริมหน้าใส ไร้สิว ผิวขาว รวดเร็ว

         ณ ตอนนี้ นวัตกรรมเกี่ยวกับความสวยความงามรุดหน้าไปมาก มีการนำเทคโนโลยีมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในการค้นคว้าวิจัยถึงสารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ จึงเกิดเป็นครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวแสนแพงที่จำหน่ายกันทั่วไป อย่างไรก็ตาม หลายครั้งที่วิธีการดังกล่าวมิอาจช่วยให้ผิวหน้าของคุณกลับสวยสดใส อ่อนกว่าวัยได้ดังใจปราถนา ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นฟื้นบำรุงผิวจากภายนอกเท่านั้น
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า “การดูแลผิวจากข้างในทำได้อย่างไร” คำตอบก็คือคุณต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า อาหารที่ให้วิตามินซี เพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว อาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาหารที่มีประโยชน์ในการฟื้นบำรุงผิวจากข้างในเหล่านี้ หากจะให้เพียงพอคงต้องรับประทานกันจนท้องแตกไปข้างหนึ่ง ดังนั้น จึงเกิดเป็นทางเลือกสำหรับคนอยากหน้าใส ไร้สิว และอยากมีผิวขาว คือ “อาหารเสริมหน้าใส” ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้


อาหารเสริมหน้าใส คืออะไร

อาหารเสริม จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานโดยตรงนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่าง มักอยู่ในรูปลักษณะเป็นเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น และมีจุดมุ่งหมายสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีสุขภาพปกติ มิใช่สำหรับผู้ป่วย
ฉะนั้น อาหารเสริมหน้าใส จึงเป็นอาหารที่มีจุดประสงค์เพื่อการฟื้นบำรุงผิวหน้าของคุณให้ขาวสว่างกระจ่างใส มีออร่ามากขึ้น โดยไม่ได้มาในรูปแบบยา ไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อผู้บริโภค นอกจากมีอาการแพ้จากสารนั้นๆที่บรรจุไว้ในอาหารเสริมหน้าใส


อาหารเสริมหน้าใส ไร้สิว ผิวขาวไว มีอะไรบ้าง

ปัจจุบันมีอาหารเสริมหน้าใสออกจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด และในร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชนิดเม็ดแคปซูล โดส ผงชง หรือของเหลว โดยจะมีการนำสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อผิว ลดสิว ทำให้ผิวขาวใสขึ้น มาใส่ไว้ในอาหารเสริมหน้าใส สารอาหารที่ว่านี้ อาทิเช่น
1.วิตามินซี เป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีอีกตัวหนึ่ง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้ โดยวิตามินซีขึ้นชื่อเรื่องการทำให้ผิวขาวใส ขาวไว มีประโยชน์ต่อผิวเป็นอย่างมาก ช่วยให้แผลหายไวขึ้น เพิ่มกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
2.ไลโคปีน ขึ้นชื่อในเรื่องของประโยชน์ด้านความสวยควางาม ทำให้ผิวขาวสวย ชะลอความแก่ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม ทั้งนี้ ไลโคปีน เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอย พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีแดง ส้มและเหลือง โดยเฉพาะในมะเขือเทศ มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความชรา มีส่วนทำให้สุขภาพผิวแข็งแรง สดใสมากขึ้น
3.วิตามินบี 3 เป็นสารอาหารที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดรอยแดงบนผิวให้น้อยลง โดยการปกป้องผิวชั้นนอกเอาไว้ ที่สำคัญวิตามินบี 3 ทำให้ผิวขาวใสมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิลยังเซลล์ผิวจุดต่างๆ ที่ทำให้เกิดรอยด่างดำขึ้นบนผิวอีกด้วย วิตามินบี 3 จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวแห้ง และต้องการได้รับวิตามินบำรุงผิวให้สวยสุขภาพ
4.Astaxanthin อีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำดำเสีย ให้กลับมาขาวสดใสอย่างที่ควรจะเป็น แก้ปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ร่องลึกบนใบหน้า และแก้ปัญหาสีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ ขาดความชุ่มชื้นได้

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เลเซอร์ Co2 จัดการสิวอุดตัน สิวอักเสบ ให้สิ้นซาก

         การทำเลเซอร์ Co2 หรือการรักษาสิวให้หายเร็วโดยใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ใช้กันมานาน โดยเฉพาะในคลินิคชื่อดัง เนื่องจากวิธีนี้จะช่วยจัดการกับสิวอุดตัน สิวอักเสบอย่างได้ผล ทั้งนี้ การเลเซอร์ Co2 มักใช้ในกรณีที่มีสิวอุดตันมาเป็นเวลานาน และไม่ตอบสนองต่อการทายาหรือรับประทานยา หรือสิวอุดตันนั้นโตเป็นสิวอักเสบ มีตุ่มแดงบนใบหน้า จนมีโอกาสเกิดเป็นรอยสิวและแผลเป็น
         หรืออีกกรณีคือคนที่เข้ามารักษาสิว โดยต้องการให้สิวบนใบหน้าจางลงไว หายจากการเป็นสิวโดยเร็ว (เพราะรำคาญใจ) ไม่อยากรอผลจากการทายา หรือรับประทานยา ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 1-3 เดือน จึงจะเห็นผลชัดเจน


เลเซอร์ Co2 คืออะไร

         เลเซอร์ Co2 เป็นเครื่องมือ ที่ผลิตแสงที่มีความยาวช่วงคลื่น 10,600 nm. ซึ่งเกิดจากการขยายพลังงาน โดยการกระตุ้นก๊าซ CO2 ให้คลายพลังงานออกมาในรูปแสง ใช้รักษาโรคต่างๆมากมาย ได้แก่ เนื้องอกทุกชนิด เช่น เนื้องอกของท่อเหงื่อ (สิวหิน, Syringoma) ต่อมไขมันโต (Sebaceous Gland Hyperplasia) กระเนื้อ (Seborrhiec Keratosis) ไฝ (Nevus) หูด (Wart) ขี้แมลงวัน (Lentigene) สิวข้าวสาร (Milia) สิวอุดตัน และสิวอักเสบ
         เมื่อฉายแสงเลเซอร์ไปบนผิวหนัง แสงเลเซอร์จะทำหน้าที่คล้ายยาแก้อักเสบไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ใช้รักษาสิวอักเสบที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาชนิดอื่น ทำให้สิวแห้งได้เร็วภายในเวลาไม่นานหลังจากการฉายแสงเลเซอร์ Co2

ข้อดีของเลเซอร์ Co2 รักษาสิว
         การรักษาสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ ไม่ว่าจะด้วยการใช้ยาสลายหัวสิว การกดสิว หรือการจี้ด้วยไฟฟ้า อาจมีข้อเสียและเกิดผลข้างเคียง เช่น มีรอยดำรอยแดง ผิวหน้าช้ำ มีเลือดออก ดังนั้นจึงมีการพัฒนานวัตกรรมเลเซอร์ในการรักษาสิวให้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงและไม่เกิดผลข้างเคียง โดยข้อดีของการรักษาด้วยเลเซอร์ Co2 คือเหมาะสำหรับในกรณีที่สิวอุดตัน สิวอักเสบมีจำนวนมากและอยู่ลึก ให้ผลการรักษาที่รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่เกิดรอยแผลเป็น และไม่มีเลือดออก

         กระนั้นก็ดี หลังทำเลเซอร์ Co2 รักษาสิวอักเสบ จะมีจุดแดง เห็นชัด 4-7 วัน แต่จะหายไปเอง มีน้อยรายที่รอยแดงอยู่เกิน 7 วัน หรือบางกรณีที่สิวเริ่มอักเสบรุนแรง หลังทำเลเซอร์ อาจมีแผลเป็นจากสิวที่เริ่มแดงและอักเสบ เพราะธรรมชาติของสิวอักเสบ การหายของแผลขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน
         ท่านผู้อ่านคงได้เห็นถึงประโยชน์จากนวัตกรรมสมัยใหม่เกี่ยวกับการใช้เลเซอร์ Co2 ในการรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่กำลังประสบปัญหาสิวคงอยากไปรักษาด้วยวิธีนี้กัน ทว่าการทำเลเซอร์ Co2 ต้องใช้งบประมาณสูง แต่ละที่มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป ท่านผู้อ่านควรศึกษารายละเอียดก่อน จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาไปฟรีๆ

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

DIY รักษาสิวอักเสบ แบบโฮมเมด

         เชื่อว่าทุกคนเคยประสบปัญหาสิวบนใบหน้า โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น อยู่ที่ว่าจะเป็นสิวประเภทใด บ้างเป็นเพียงสิวผดหรือสิวเทียม มาแปปเดียวก็หายไปเอง ในขณะที่บางคนเจอปัญหาสิวรุนแรง เป็นสิวอุดตัน สิวหัวหนอง สิวอักเสบ ประเภทสิวเหล่านี้มักส่งผลเสียต่อผิวหน้า ระหว่างเป็นมักมีอาการปวดร่วมด้วย แถมพอหายแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นให้เราปวดใจอีกต่างหาก แต่อย่าได้กังวลไป เพราะทางแก้ยังมีอยู่ โดยวันนี้เราได้นำสูตรรักษาสิวอักเสบ แบบโฮมเมดมาให้ได้ลองนำไปใช้กัน รับรองว่าสิวจะยุบลง ทั้งยังช่วยแก้ปัญหารอยดำรอยแดงหลังจากสิวหายได้ดีอีกด้วย


สูตรรักษาสิวอักเสบ แบบธรรมชาติ

         1.หอมแดง วิธีนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสะดวกรวดเร็ว เพียงแค่นำหอมแดงที่เตรียมไว้มาปอกเปลือก แล้วล้างให้สะอาด ใช้มีดฝานเป็นแผ่นบางๆ นำมาแปะตรงบริเวณที่เป็นสิว หรือบริเวณที่เป็นจุดด่างดำทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรืออีกวิธีคือให้ใช้มีดทุบแล้วนำไปบดให้ละเอียด โดยใส่น้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย แล้วนำหอมแดงที่ได้ทาปิดตรงที่เป็นสิวอักเสบ ทิ้งไว้สักประมาณ 20-30 นาทีแล้วล้างออก แต่ขอบอกเลยว่าต้องทนกับกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนของหอมแดงกันสักหน่อย
         2.มะละกอ ผลไม้นี้มีคุณสมบัติในการทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และยังช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิวอักเสบได้อีกด้วย เพราะในเนื้อมะละกอมีเอ็นไซม์ที่จัดการกับเนื้อเยื่อที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกมาได้ง่าย ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เร็วขึ้น โดยให้เลือกที่มะละกอสุก นำมาปอกเปลือก ล้างยางออกให้หมดแล้วบดละเอียด พอกทิ้งไว้บนผิวหน้า 10-15 นาทีจึงล้างออก เพียงแค่ครั้งแรกจะรู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มชุ่มชื่นของผิว หากใช้เป็นประจำจะช่วยรอยสิวจางลงจนหายเป็นปกติ

         3.มะนาว อีกหนึ่งทางเลือกยอดฮิตคือการใช้สมุนไพรที่หาได้ง่ายอย่างมะนาว เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ (AHA, Alpha Hydroxy Acids) รักษาสิวอักเสบได้ชะงัด ช่วยในการลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว วิธีที่นิยมใช้กันคือหยดน้ำมะนาวสัก 1-2 หยดมาแต้มสิวทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก แต่สำหรับคนที่ผิวหน้าไม่เหมาะกับมะนาวหรือคิดว่ามะนาวแรงเกินไป ก็ให้ใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้งแทน
         4.ว่านหางจระเข้ ให้นำว่านหางจระเข้มาลอกเปลือกด้านนอก แล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆคล้ายลูกเต๋า จะได้วุ่นว่านหางจระเข้ จากนั้นก็นำไปทาบนผิวหน้า เน้นบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ว่านหางจระเข้จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขน และยังช่วยให้ผิวที่แห้งเป็นขุยกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป แก้ปัญหารอยแผลเป็นได้อีกด้วย

         5.มะเขือเทศกับโยเกิร์ต ตบท้ายกันด้วยสูตรธรรมชาติอย่างมะเขือเทศที่ฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยในการรักษาสิวอักเสบได้ วิธีคือให้หั่นมะเขือเทศออกเป็นครึ่งลูก และสับให้ละเอียด นำไปผสมกับโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.