ปัญหาผมร่วง ผมบาง เกิดจากอะไร ‘ไบโอติน’ ช่วยคุณได้อย่างไร

         เป็นที่รู้กันดีว่าผู้ชายจะมีโอกาสที่ผมจะร่วงจนเรียกว่า “ศีรษะล้าน” ได้มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากกรรมพันธ์ซึ่งเป็นผลของฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง ทั้งนี้ คุณผู้หญิงก็อย่าได้นิ่งนอนใจไป เพราะถึงแม้จะไม่เข้าขั้นศีรษะล้าน แต่ก็อาจตกอยู่ในภาวะผมร่วง ผมบางกับเขาได้เหมือนกัน เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนั้น ไม่ว่าจะชายหรือหญิงสิ่งที่คุณควรคำนึงก็คือ “กันไว้ดีกว่าแก้” เพราะถ้าต้องรักษาผมร่วง ผมบางเข้าจริงๆ บอกได้เลยว่าอาจทำให้กระเป๋าตังค์ฉีก


สาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง

1.การร่วงตามปกติ (Normal variation) วงจรชีวิตปกติของเส้นผมจะมีการเจริญอยู่ในช่วง 2–6 ปี หลังจากนั้นจะหยุดเจิญเติบโตแล้วหลุดร่วงออกและมีเส้นผมใหม่มาแทน ดังนั้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ผมจะมีการหลุดร่วงออกไป และมีเส้นใหม่ขึ้นมาทดแทนเสมอ ๆ ดังนั้นขณะที่เราหวีผม แปรงผม สระผม เช็ดผม ถูหนังศีรษะ ก็จะมีเส้นผมที่หลุดร่วงออกมาได้ตลอด
บางครั้งผมที่ร่วงตามธรรมชาตินี้อาจเกิดขึ้นมากกว่าผมที่ขึ้นใหม่ นี่เป็นสัญญาณหนึ่งที่อาจทำให้เกิดภาวะศีรษะล้านตามมาได้ ดังนั้น การที่จะบอกว่าผมร่วงนี้ควรรักษาหรือไม่อาจดูได้จากว่าผมบางลงหรือไม่ หรือเพียงแค่ร่วงมากกว่าปกติเท่านั้น
2.ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น หากเป็นไทรอยด์ อาจทำให้เกิดความผิดปกติทั้งแบบฮอร์โมนต่ำและฮอร์โมนสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของความผิดปกติทางฮอร์โมนที่พบได้บ่อยที่ทำให้เกิดผมร่วง ผมบางทั่วทั้งหนังศีรษะ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทำให้เกิดผมร่วงที่บริเวณหนังศีรษะและกระตุ้นการเจริญของขนที่บริเวณใบหน้าและลำตัวให้เกิดมากขึ้น หรือในผู้หญิงที่มีซีสต์ที่รังไข่มาก (Polycystic ovary syndrome) จะมีการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนซึ่งทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน
3.การอักเสบของหนังศีรษะ (Scalp inflammation) ภาวะใดก็ตามที่ทำให้เกิดการอักเสบของหนังศีรษะ เช่น ผื่นแพ้ ผิวหนัง (eczema) ผื่นจากต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatltis) สะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นต้น อาจทำให้เกิดผมร่วงได้ โดยมักจะพบว่ามีผื่นแดงเป็นขุยที่ผิวหนังบริเวณหย่อมที่ผมร่วง การติดเชื้อรา เช่น กลาก เชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขน (folliculitis) ทำให้เกิดผื่นที่หนังศีรษะและเกิดผมร่วงตามมา

4.การบาดเจ็บเฉพาะที่ (local trauma) หรือดึงรั้งมากไป การใช้ยางรัดผมที่แน่นเกินไป การถักเปีย มัดจุกที่แน่นมาก ทำให้ผมร่วงโดยเป็นการดึงเส้นผมออกจากบริเวณฐานของมัน การใช้สารเคมีกับเส้นผมเป็นการทำร้ายรากผมโดยตรงเช่น การดัดผม ย้อมผม แมลงบางชนิด เช่น เหา ทำให้เกิดผมร่วงโดยการกระตุ้นการเกา ซึ่งถ้ารุนแรงมากไปอาจทำให้หนังศีรษะอักเสบได้ การถอนผมที่เป็นนิสัยทำให้เกิดผมร่วงเรื้อรังได้
5.การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันชนิดยาต้านเบต้า ยากันชัก ยาคุมกำเนิด ยารักษาโรคเก๊าฑ์ ถ้าผมร่วงเกิดขึ้นในช่วงที่ใกล้เคียงกับการเริ่มใช้ยาชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือการเพิ่มปริมาณการใช้ยา อาจเป็นไปได้ว่ายาชนิดนั้นมีผลข้างเคียงทำให้เกิดผมร่วงได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดใช้ผมก็จะกลับมาขึ้นได้เหมือนเดิม
6.ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา (Psychological factors) ได้แก่ ความเครียด ความกังวล ภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยที่พบได้บ่อยที่ทำให้ผมบางลง และเป็นสาเหตุที่ค้นหาและรักษาได้ยาก คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้ว่าตนเองเครียดหรือกังวลมากขนาดไหน ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่จะประเมิณความเครียดของตนเองน้อยกว่าความเป็นจริง บางครั้งความกังวล ความเครียดที่เกิดขึ้น เกิดร่วมกับผมร่วงจากสาเหตุอื่นๆ ก็จะทำให้ปัญหาผมร่วงแย่ลงไปกว่าเดิมได้


ป้องกันผมหลุดร่วง ด้วยไบโอติน

ไบโอติน เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในการบำรุงเส้นผม ทำให้ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะให้แข็งแรง ป้องกันการขาดหลุดร่วงที่เกิดจากปัจจัยอื่นๆ (นอกจากการร่วงเองตามธรรมชาติ) นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวและมีประโยชน์ต่อเล็บ จึงไม่แปลกที่จะเห็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเกี่ยวกับความสวยความงาม และบำรุงผม จะนำไบโอตินมาใช้เป็นส่วนผสม
สำหรับการรับประทานไบโอตินจากแหล่งธรรมชาติ จะมีมากในตับวัว ไข่แดง นม แป้งถั่วเหลือง เนย ถั่วลิสง บริเวอร์ยีสต์ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เป็นต้น ทั้งนี้ ไบโอตินเป็นดั่งวิตามินชนิดละลายในน้ำ ถูกขับออกมาได้ง่าย ไม่สะสมในร่างกาย จึงไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพ ดังนั้น การรับประทานไบโอตินในรูปแบบอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ไบโอติน ป้องกัน ภาวะผมร่วง สำหรับทุกคน

         หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การเกิดผมหลุดร่วงเป็นเรื่องผิดปกติ จริงๆแล้วผมของเราคนเราจะร่วงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะวงจรชีวิตของเส้นผมจะมีการเจริญอยู่ในช่วง 2-6 ปี จากนั้นจะหยุดเจริญเติบโตแล้วหลุดร่วงออก โดยมีผมเส้นใหม่มาแทนเสมอๆ ดังนั้น ขณะที่หวีผม แปรงผม สระผม เช็ดผม ถูหนังศีรษะ ก็จะมีเส้นผมหลุดร่วงออกมาได้ตลอด ทว่าบางรายที่มีผมร่วมมากผิดปกติ นี่ต่างหากที่เป็นปัญหา


จะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดภาวะผมร่วงแบบผิดปกติ

         นอกจากวงจรชีวิตของเส้นผมที่จะหยุดเจริญเติบโตและหลุดร่วงออกมาแล้ว สาเหตุอื่นๆที่ทำให้ผมร่วงก็อย่างเช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน การอักเสบของหนังศีรษะ การบาดเจ็บเฉพาะที่หรือดึงรั้งมากไป เช่น การใช้ยางรัดผมที่แน่นเกินไป การถักเปีย เป็นต้น การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยากันชัก และปัจจัยทางด้านจิตวิทยา เช่น ความเครียด ความกังวล เป็นต้น
         คำถามคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าผมที่หลุดร่วงออกมานั้นอยู่ในภาวะ ประเด็นนี้ ผศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง รพ.ศิริราช อธิบายผ่านเว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ว่า ปกติเส้นผมบนศีรษะของคนเราจะมีประมาณ 100,000 เส้น อัตราการร่วงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 100 เส้นในวันที่ไม่ได้สระผม และร่วงประมาณไม่เกิน 200 เส้นในวันที่สระผม ซึ่งปริมาณดังกล่าวถือเป็นเกณฑ์ที่ปกติ สามารถมีผมขึ้นมาทดแทนได้


วิธีนับเส้นผมที่หลุดร่วง

         สำหรับการที่จะทราบว่ามีเส้นผมร่วงกี่เส้นต่อวันนั้น สามารถทำได้โดยควรเก็บเส้นผมที่ร่วง 5 ครั้งต่อวัน คือ ช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น และก่อนนอน การเก็บแต่ละครั้งใช้หวี หวีที่ศีรษะ 4 ด้าน แล้วเก็บรวบรวมผม ใส่ถุงพลาสติก ทำอย่างนี้เป็นเวลา 1 อาทิตย์ แล้วมานับหาค่าเฉลี่ยผมที่ร่วงต่อวัน โดยวันใดที่สระผมก็ควรจะสระผมแล้วล้างแชมพูในภาชนะรองรับ เพื่อนับเส้นผมที่ร่วง และจดปริมาณที่ร่วงในวันที่สระผม หากเกินตามเกณฑ์ดังกล่าวก็เข้าข่ายโรคผมร่วง

ไบโอติน ป้องกันภาวะผมร่วงอย่างไร
         เมื่อพบว่ามีปัญหาผมร่วงแล้ว ก็ไม่ควรรีรอให้ปัญหาถึงขั้นวิกฤติ ควรหาวิธีแก้โดยพลัน รวมถึงจัดการสร้างเกราะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะผมร่วงที่แย่ลงไปกว่าเดิมอีก ทั้งนี้ สารอาหารอย่าง “ไบโอติน” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง และปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับเส้นผม
         เพราะไบโอติน หรือรู้จักกันในชื่อวิตามินเอช หรือโคเอนไซม์อาร์ หรือวิตามินบี 7 เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผม เล็บ และผิวมีสุขภาพดี ป้องกันภาวะผมร่วงมากผิดปกติ หนังศีรษะอักเสบ ผมหงอกก่อนวัย ผมแห้งขาด แตกปลาย รังแค เพราะปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมเป็นไปได้สูงว่าเกิดจากการขาดไบโอติน นอกจากนี้ ไบโอตินยังเป็นหนึ่งในวิตามินที่ละลายในน้ำ จึงไม่เสี่ยงต่อการสะสม หากมีมากเกินไปจะถูกขับออกมาโดยวิธีธรรมชาติ เช่น ทางปัสสาวะ เป็นต้น ฉะนั้น การเสริมไบโอตินในรูปแบบอาหารเสริมจึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

         ไบโอตินมีส่วนสำคัญในนกระบวนการสังเคราะห์กรดไขมัน ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผิวหนัง ผม และระบบประสาท รวมทั้งหน้าที่อื่นๆในร่างกาย มีรายงานว่าไบโอตินสามารถป้องกันผมหงอก และศีรษะล้านก่อนวัยได้ ประโยชน์ของไบโอตินที่มักถูกพูดถึงจึงได้แก่ ช่วยป้องกันผมหงอกและศีรษะล้านก่อนวัย ช่วยให้ผิวหนังอักเสบดีขึ้น ใช้รักษาสะเก็ดที่ศีรษะ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อได้ และยังช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหารอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีการบํารุงผมเสีย ผมแห้งแตกปลาย แบบธรรมชาติ

         สมัยนี้ใครๆก็อยากเป็นเป๊ะเว่อร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า และสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณเจิดจรัสได้ทุกงานแบบไม่ต้องง้อชุดหรูหราราคาแพงนั่นก็คือ การมีผมสวยเปล่งประกายเงางาม โดยรับรองว่าหากคุณเป็นคนมีเส้นผมที่มีชีวิตชีวาแลดูสุขภาพดี เดินไปไหนใครๆก็ต้องเหลียวมอง สำหรับสาวๆที่ผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย หรือถูกตั้งฉายาว่า “ผมไม่กวาด” ก็อย่าพึ่งเสียใจไป เพราะวันนี้เรามีวิธีการบำรุงผมเสีย มานำเสนอ โดยเป็นวิธีการแบบธรรมชาติที่สาวๆทั่วโลกใช้กัน ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย


วิธีการบำรุงผมเสีย ให้กลับมามีชีวิตชีวา

         1.สระผมเป็นประจำทุกวัน การบำรุงผมเสีย ก่อนอื่นเลยต้องรู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อผิดๆที่หลายคนอาจคิดว่าการสระผมทุกวันอาจจะทำให้ผมของคุณเสียความชุ่มชื้น แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะถ้าหากคุณคอยให้ความชุ่มชื้นกับผมอยู่เสมอ เช่น หมั่นบำรุงด้วยการหมักผม เป็นต้น ยังไงผมก็ไม่แห้งเสีย หรือเสียความชุ่มชื้นอย่างแน่นอน ดังนั้น แนะนำว่าควรสระผมทุกวัน แต่ควรเลือกใช้แชมพูสูตรให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม และใช้คอนดิชันเนอร์อีกวันเว้นวัน เท่านี้ผมก็จะชุ่มชื้นและสะอาด ไม่เป็นที่หมักหมมของฝุ่นละออง
         2.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผม เพราะความร้อนเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเสียได้ง่าย แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมไปพร้อมๆกัน แต่ก็ไม่อาจต้านทานความร้อนที่ทำให้ผมแห้งเสียได้ ดังนั้น พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผมถ้าไม่จำเป็น
         3.อย่าหวีผมรุนแรงและบ่อยจนเกินไป ความเชื่อที่ว่าหวีผมวันละร้อยครั้งแล้วจะกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการหวีผมนั้นคือการใช้หวีไปเสียดสีกับเส้นผมซ้ำๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆแล้ว ยังทำให้ผมขาดร่วงกว่าเดิม ยิ่งเป็นหวีโลหะยิ่งแล้วใหญ่ ดังนั้น หวีผมเท่าที่จำเป็น

         4.หมั่นบำรุงผมด้วยการหมักผม โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือจะใช้ไข่ กล้วย ทำเป็นแบบโฮมเมดก็ได้ (ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต) โดยทำการหมักเป็นประจำสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง จะช่วยในการบำรุงผมเสีย ให้เริ่มกลับมามีสภาพดีขึ้น และได้เส้นผมที่สวยเงางาม แลดูสุขภาพได้ในที่สุด
         5.บำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ซึ่งมีขายมากมายตามร้านเสริมความงาม หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ โดยเลือกที่มีสรรพคุณในการรักษาผมแห้งเสีย คืนความชุ่มชื้นให้กับผม จะช่วยให้ผมกลับมาสวยเงางามได้ดังเดิม เพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ไมให้ขาดง่าย และไม่แตกปลาย
         6.รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น เป็นการบำรุงผมเสียแบบธรรมชาติ โดยควรรับประทานผักผลไม้สดที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงอาหารจะส่งผลดีมาก เพราะคุณค่าทางอาหารจะมีมากกว่าผักผลไม้ที่ผ่านความร้อนแล้ว ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อเส้นผม ยังช่วยให้ผิวสวย ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

         7.รับประทานวิตามินเสริมสำหรับเส้นผม เพราะการรับประทานผักผลไม้อาจไม่เพียงพอสำหรับคนในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุผลที่ว่ากว่าสารอาหารที่อยู่ในผักผลไม้สดจะมาอยู่ตรงหน้าเรา ก็ได้ผ่านกระบวนการต่างๆมามากแล้ว ทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดหย่อนลงไป อาหารเสริมอย่างวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี และไบโอติน เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผมเสียให้กลับมาสวยเงางามสุขภาพดี นอกจากนี้ยังควรรับประทานอาหารเสริมที่ให้สังกะสี (Zinc) เพราะมีส่วนใหญ่ทำให้เส้นผมแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

การบํารุงผมเสีย ควรกิน zinc

         เคยได้ยินประโยคนี้ไหม “หล่อสวยดูดีได้เพราะเส้นผม” ถ้ายังไม่เคย แนะนำให้เดินไปหน้ากระจกแล้วชะโงกดูตัวเองไปพร้อมๆกับมโนว่า หากเส้นผมแห้งเสีย แตกปลายเป็นไม้กวาด สภาพคุณจะเป็นอย่างไร ที่บอกให้ทำเช่นนี้ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าเส้นผมของเรานั้นสำคัญไฉน ถ้าไม่ได้รับการดูแลผมที่เหมาะสมก็อาจทำให้สุขภาพผมไม่แข็งแรง ขาดหลุดร่วงได้ง่าย และยังเป็นบ่อเกิดของปัญหาแห้งเสีย แตกปลายตามมา ซึ่งแน่นอนว่ามันจะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูแย่ลง
แล้วจะทำอย่างไรกันล่ะทีนี้ ในเมื่อปัญหาผมแห้งเสีย ผมแตกปลายมาลุมเล้า จะมีวิธีการบำรุงผมเสียให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดีได้หรือไม่ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า ผมเสียเกิดจากอะไร


สาเหตุหลักที่ทำให้ผมเสีย

1.สารเคมี โดยเฉพาะคนที่ทำสี ดัด และยืดผม เพราะกระบวนการดังกล่าวทำให้เส้นผมและหนังศีรษะต้องสัมผัสกับสารเคมี การดัดและยืดผมเป็น 2 สิ่งที่สามารถทำให้เกิดผมเสีย การเปลี่ยนรูปร่างของผมผ่านขั้นตอนเหล่านี้นำไปสู่การเกิดผมเสียตั้งแต่แรก เส้นผมนั้นจะเกิดเป็นรูปร่างใหม่ด้วยสารเคมี เป็นขั้นตอนการจัดการรูปร่างใหม่ของผมอย่างถาวร สำหรับการทำสีผมสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเสีย เพราะเกิดจากเม็ดสีผ่านเข้าทางเกล็ดผมสู่ชั้นคอร์เท็กซ์เป็นการทำความเสียหายต่อผมชั้น F-layer
2.แสงอาทิตย์ แม้แสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่ก็เป็นตัวการที่ทำให้ผมขาดความมีชีวิตชีวา รังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดดมีผลต่อเกล็ดผมโดยตรง ซึ่งจะส่งผลทำให้โปรตีนเคราตินในเส้นผมหมดสภาพในที่สุด ทำให้ผมแห้งกร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผมทำสี ดังนั้น หากรู้ว่าจะต้องออกแดดจัดๆ ควรสวมหมวกเพื่อปกป้องเส้นผม

3.การหวีผมที่รุนแรง ผมที่ค่อนข้างแข็งแรงตามธรรมชาติจะสามารถทนต่อการจัดแต่งได้หลายๆครั้ง แต่ก็อาจได้รับความเสียหายโดยการหวีที่มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผมเปียกหรือกำลังพันกัน ควรระวังการใช้หวีโลหะ ซึ่งจะกระชากเกล็ดผมของผิวผมชั้นนอก และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเสีย จนฉีกขาดได้ง่าย
นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว ความร้อนถือเป็นอีกต้นเหตุที่ทำให้ผมเสีย แห้งกร้าน และจัดทรงยาก โดยความร้อนจะทำให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้น ดังนั้น ไม่ว่าจะทำผมด้วยวิธีใด ควรใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อป้องไม่ให้ผมเสีย ที่สำคัญควรรักษาความสะอาด อย่าปล่อยให้เส้นผมกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกเป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ผมเสีย ยังอาจทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ หรือโรคผิวหนังบนศีรษะตามมา

Zinc กับการบำรุงผมเสีย
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า Zinc หรือ สังกะสี มีส่วนช่วยในการบำรุงผมเสียให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดี ซึ่งก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่ประการใด เพราะ Zinc เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่พบได้บ่อยในอาหารเสริมบำรุงสุขภาพและผิวพรรณ ไม่มีรายงานว่าแร่ธาตุสังกะสีกระตุ้นการสร้าง collagen โดยตรง ซึ่งหากร่างกายขาดสังกะสีรุนแรง จะมีผลต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกาย เป็นผื่น ผิวหนังอักเสบ ผมร่วง และแผลผ่าตัดสมานตัวช้า

ทั้งนี้ นอกจาก Zinc จะป้องกันผมหลุดร่วงแล้ว ยังช่วยในการบำรุงผมเสีย ให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นได้เร็วขึ้น พร้อมๆกับเส้นผมที่แข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้าน ไม่ขาดหลุดร่วง ดังนั้น Zinc จึงเป็นสารอาหารที่ทุกคนควรได้รับอย่างเพียงพอ เพื่อการบำรุงผมเสียให้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูง ได้แก่ หอยนางรม เนื้อ ไก่ ไข่ นม-ผลิตภัณฑ์นม (มีสูงมากในนมแม่) ถั่ว (โดยเฉพาะในถั่วลิสง) เป็นต้น อย่างไรก็ดี อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากมีเส้นผมสวยเงางาม ชุ่มชื่น แข็งแรง แลดูสุขภาพผมดี ก็สามารถรับประทาน Zinc ในรูปแบบอาหารเสริมได้ โดยจะทำให้ร่างกายของคุณได้รับธาตุสังกะสีอย่างเพียงพอแบบง่ายๆ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สุดยอดอาหาร ที่อุดมไปด้วย zinc บำรุงเส้นผม

         การมีสุขภาพที่ดี ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชนาการ นอกจากจะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลช่วยบำรุงเส้นผมของคุณให้มีความเงางามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะเส้นผมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการดูแล บำรุง ด้วยความใส่ใจเหมือนกับเซลล์ของอวัยวะอื่นๆในร่างกาย นอกจากนี้การบำรุง ยังช่วยทำให้เส้นผมมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
 นักโภชนาการกล่าวว่า การบำรุงเส้นผม ด้วยสารอาหารที่สำคัญบางอย่าง อาทิเช่น  zinc บำรุงเส้นผม นั้น อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าที่จะสามารถสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ในบางครั้งอาจจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานหลายเดือนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเนื่องจากความสวยงามอย่างปลอดภัยในระยะยาว การเลือกรับประทานอาหารที่มี zinc บำรุงเส้นผม ในชีวิตประจำวัน เป็นประจำทุกวัน จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆในการบำรุงเส้นผม ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ซึ่ง zinc บำรุงเส้นผม นั้น จะมีการแฝงตัว อุดมอยู่ภายในอาหารประเภทใดบ้างนั้น สามารถติดตามอ่านได้จากบทความที่น่าสนใจชิ้นนี้กันเลย

สุดยอดอาหารเมนูไหนบ้าง ที่อุดมไปด้วย zinc บำรุงเส้นผม
 แร่ธาตุ zinc บำรุงเส้นผม ร่างกายสามารถได้รับจากอาหารตามธรรมชาติในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากคุณอยากที่จะมีผมที่สวยมากยิ่งขึ่นอย่างรวดเร็วแล้วล่ะก็ คุณสามารถที่เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย zinc บำรุงเส้นผม ได้จากเมนูแนะนำ ดังต่อไปนี้
1.หอยนางรม อุดมไปด้วย zinc บำรุงเส้นผมจำนวนมาก ซึ่งหากร่างกายขาด zinc ก็จะทำให้เกิดการสูญเสียเส้นผม รวมไปถึงขนตา นอกจากนี้ยังส่งผลให้หนังศรีษะแห้งเป็นขุย การรับประทานหอยนางรมยังเป็นการช่วยเสริมโปรตีนของร่างกายให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ที่ช่วยให้เส้นผมของคุณมีการเจริญเติบโต และเงางามได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
 2.ไข่ เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุในการบำรุงเส้นผมอย่าง zinc ซีลีเนียม กำมะถัน และธาตุเหล็ก
 3.ถั่ว ธัญพืชเม็ดเล็กๆ แต่อุดมไปด้วย zinc บำรุงเส้นผม จำนวนมหาศาล นอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหารอื่นๆที่ช่วยในการบำรุงเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน เหล็ก และไบโอติน ด้วยสารอาหารเหล่านี้ทำให้ถั่ว เป็นอาหารที่มีความจำเป็นมากสำหรับคนที่ทานมังสวิรัติ ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ที่มี zinc บำรุงเส้นผม อยู่เป็นจำนวนมาก
4.สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ปีกมีปริมาณของโปรตีน และ zinc บำรุงเส้นผม อย่างอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีเหล็ก วิตามินบี ที่ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างให้เส้นผมมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

zinc บำรุงเส้นผม หาได้จากแหล่งอื่นๆ นอกจากอาหารในชีวิตประจำวันได้หรือไม่?
 zinc บำรุงเส้นผม นอกจากการได้รับผ่านทางอาหารมื้อประจำวันแล้ว คุณยังสามารถได้รับเสริมผ่านจากแหล่งอื่นๆ อย่างเช่น ประเภทอาหารเสริมต่างๆได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องการ zinc บำรุงเส้นผม อย่างพอเหมาะในแต่ละวันของยุคที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบในแต่ละวัน ซึ่งคุณอาจจะไม่สามารถเติมเต็มมื้ออาหารของตัวเอง ให้ได้รับ zinc บำรุงเส้นผม อย่างครบถ้วน ทำให้ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสารอาหารประเภท zinc บำรุงเส้นผม จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทีเดียว  

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บำรุงเส้นผมและรากผม ด้วย zinc

         ปัญหาเส้นผมหมอง คล้ำ เสีย เป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านความงามที่สามารถพบได้บ่อยมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่กลับมองว่าปัญหานี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย จึงไม่ค่อยมีใครที่จะทำการศึกษาถึงรากเหง้าของการเกิดปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง แต่กลับไปให้ความใส่ใจต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ทำให้การแก้ไขปัญหาผมเสีย หมองคล้ำ ไม่ได้รับการบำบัดดูแลอย่างเหมาะสมในระยะยาวเท่าที่ควร หนึ่งในสาเหตุหลักสำคัญ ที่ก่อให้เกิดปัญหาผมเสีย หมองคล้ำขึ้น ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม นั่นก็คือ ขาดสมดุลของ zinc หรือธาตุสังกะสี ในร่างกายนั่นเอง

เมื่อขาดสังกะสีภายในร่างกาย จะส่งผลอย่างไรบ้าง?
 การขาดแร่ธาตุ zinc เป็นปัญหาที่ร้ายแรงอย่างมากในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงชั้นนำหนึ่งใน 5 ประการ ที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะในเด อาทิเช่นโรค ท้องร่วง และปอดบวม ที่นำไปสู่จำนวนผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้การขาดแร่ธาตุสังกะสีอย่างรุนแรง ยังทำให้เกิดอาการอื่นๆที่อันตราย ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติ ปัญหาพฤติกรรม สติปัญญาลดลง ความจำเสื่อม ปัญหาการเรียนรู้ เป็นต้น
   ในขณะที่อาการขาดสังกะสีอ่อนๆ จะทำให้เกิดปัญหาความงามหลายประการ ที่มักพบบ่อยครั้งที่สุด คือ ปัญหาผิวแห้ง ผิวหยาบกร้าน เล็บเป๊าะ สูญเสียความกระหาย อารมณ์แปรปรวร ผิวหนังอักเสบ สิว และปัญหาที่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษภายในบทความชิ้นนี้ก็คือ ปัญหาผมหมองคล้ำ และเปราะบาง นั่นเอง

ปัญหาผมเสียหมองคล้ำ กับวิธีการรักษาด้วย zinc บำรุงเส้นผม
 Zinc เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว และเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง มีชีวิตชีวา ลดอาการเกิดผมเสีย หมองคล้ำ บาง และผมสีเทา ให้น้อยลง นอกจากนี้ zinc ยังมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของแชมพู เพื่อช่วยป้องกันการเกิดรังแคบนหนังศรีษะให้น้อยลงอีกด้วย

         อาการขาดแร่ธาตุไม่รุนแรง จนทำให้เส้นผมเกิดความหมองคล้ำเสีย ผมร่วง นั้น เป็นอาการเบื้องต้นขั้นพื้นฐาน ที่สามารถทำการรักษาได้ด้วยตัวเอง ด้วยการจัดหา zinc บำรุงเส้นผม เสริมแก่ร่างกายให้มีปริมาณอย่างพอเหมาะในแต่ละวัน สำหรับคนที่อยากมีผมที่สวย แลดูมีชีวิตชีวา การเสริมแร่ธาตุ zinc บำรุงเส้นผม นั้น ควรที่จะหามาเสริมให้กับร่างกายได้ในปริมาณที่กำหนด ดังต่อไปนี้

  • ทารก ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วันละ 5 มิลลิกรัม
  • วัยเด็ก ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วันละ 10 มิลลิกรัม
  • ผู้หญิง ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วันละ 12 มิลลิกรัม
  • ผู้หญิงตั้งครรภ์ ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วันละ 15 มิลลิกรัม
  • ผู้หญิงให้นมบุตร ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วัยลั 16 มิลลิกรัม
  • ผู้ชาย ควรเสริม zinc บำรุงเส้นผม วันละ 15 มิลลิกรัม

         การเสริม zinc บำรุงเส้นผม ที่ง่ายที่สุดด้วยตัวเอง คือ การได้รับแร่ธาตุ zinc แบบธรรมชาติ ผ่านทางอาหารประเภทต่างๆ อาทิเช่น ไข่ เนื้อสัตว์ปีก ถั่ว เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมแร่ธาตุ zinc บำรุงเส้นผม ในแต่ละวันอาจจะไม่ได้รับปริมาณอย่างเหมาะสมเพียงพอเท่าที่ควร ซึ่งคุณสามารถที่จะค้นหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของ zinc ที่พอเหมาะสำหรับหนึ่งวัน มาใช้ในการเสริมอุดช่องว่าแร่ธาตุที่ขาดหายไป เพื่อให้การบำรุงเส้นผมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมแร่ธาตุ zinc บำรุงเส้นผม ควรคำนึงถึงความพอเหมาะด้วยเช่นกัน โดยปริมาณของแร่ธาตุ zinc ที่เหมาะสมในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 40 มิลลิกรัม เพราะไม่เช่นนั้น ปริมาณของแร่ธาตุที่มีมากจนเกินไปนั้น ก็จะก่อให้เกิดผลเสียต่อความสมดุลของแร่ธาตุโดยรวมภายในร่างกาย จนกระทั่งทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาในอนาคตอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

บำรุงผมเสีย อย่างง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน

         ปัญหาผมเสีย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายในยุคที่รอบๆตัวของเราเต็มไปด้วยมลภาวะ รวมไปถึงแสงแดดที่ร้อนแรงในช่วงเวลากลางวัน ดังนั้นการรู้จักวิธีบำรุงผมเสีย อย่างถูกต้องนั้น จะเป็นการช่วยทำให้เส้นผมของคุณกลับมาเงางาม แลดูมีสุขภาพที่ดีได้ดังเดิมอีกครั้ง ส่วนวิธีการบำรุงผมเสียเหล่านั้นจะมีอะไรกันบ้าง สามารถติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

เส้นผมเสียหาย และอาการที่เกิดขึ้นตามมา
 ผมของแต่ละคนมีสามชั้น เส้นผมชั้นในสุดเรียกว่าไขกระดูก ชั้นกลาเรียกว่าเปลือกนอก และชั้นนอกเรียกว่าหนังกำพร้า ที่ทำหน้าที่สำคัญในการช่วยป้องกันเส้นผมไม่ให้มีความเสียหาย แต่เมื่อชั้นเส้นผมหนังกำพร้าเกิดความเสียหาย เส้นผมจะสูญเสียความเงางาม เปราะ แตกปลาย หนังศรีษะคัน และไม่มีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ผมที่เสียหาย ยังพันกันเองได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นเรื่องยากในการจัดทรงอีกด้วย
 ผมเสียหายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผล แต่สาเหตุที่พบบ่อยมากที่สุดคือ การใช้น้ำยาสระผมที่ส่วนประกอบของแอลกฮอล์มากจนเกินไป อากาศร้อน การเป่าผมให้แห้ง หรือเปล่าจัดทรงที่ร้อนจนเกินไป การสัมผัสกับรังสีอุลตร้าไวโอเลท ว่ายน้ำในคลอลีน เส้นผมขาดความชุ่มชื้น การใช้สารเคมี การเสียดสีในขณะที่นอนหลับ และความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุทางการแพทย์ ทางพันธุกรรม อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
วิธีพื้นฐานในการจัดการกับผมเสียที่ดที่สุด คือ การตัดแต่งผมที่แห้งเสียทิ้งไป แต่คุณสามารถที่จะลองใช้วิธีตามธรรมชาติ ในการช่วยเยียวยา ซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสีย ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยมีวิธีที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

การจัดการบำรุงผมเสียดย่างง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน
 1.น้ำมันมะกอก เป็นส่วนผสมที่ดีเป็นอย่งมากในการบำรุงผมเสีย เนื่องจากน้ำมันมะกอกเต็มไปด้วยกรดไขมัน สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอี น้ำมันมะกอกช่วยเยียวยาเส้นผม ด้วยการเข้าไปผนึกปิดเส้นผมในชั้นหนังกำร้าให้มีความชุ่มชื้น พร้อมกับปกป้องเส้นผมจากความเสียหายเพิ่มเติมอีกด้วย
 เพียงนำน้ำมันมะกอกอุ่นๆ เทลงบนศรีษะ นวดเส้นผมเบาๆ ไม่กี่นาที จากนั้นครอบคลุมเส้นผมทั้งหมดของคุณเอาไว้ด้วยผ้าขนหนูอ่นๆ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที หรือทิ้งเอาไว้ทั้งคืน จากนั้นปรับสภาพผมอีกครั้งด้วยแซมพู ทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
2.อโวคาโด เป็นวิธีบำรุงผมเสียที่ได้ผล เนื่องจากอโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามิน ไขมัน โปรตีน กรดไขมันจำเป็น และน้ำมันธรรมชาติ อะโวคาโดสามารถช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหายของคุณ เสริมสร้างให้เส้นผมนุ่ม ยืดหยุ่น และยังช่วยปกป้องเส้นผมจากความเสียหายของอนุมูลอิสระในอนาคตอีกด้วย
   นำอะโวคาดาสุก 1 ช้อนชา และ น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนชา ปั่นผสมลงในเครื่องปั่น จนกว่าคุณจะได้เนื้อครีมที่มีความราบเรียบสม่ำเสมอ จากนั้นนำไปนวดบนเส้นผมของคุณให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยทำการล้างออก ทำซ้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การบำรุงผมเสียด้วยวิธีนี้ สามารถช่วยทำให้ผมของคุณกลับมาเงางามได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน
 3.ไข่ มีสารอาหารที่จำเป็นในการช่วยบำรุงผมเสีย ไข่แดงมีโปรตีน เกลือแร่ และกรดไขมันที่จำเป็นในการบำรุงเส้นผม พร้อมกับเสริมความเงางามตามธรรมชาติ เอนไซต์พลัสภายในไข่ขาวเอง ก็ช่วยในการทำความสาดเส้นผม และหนังศรีษะอย่างมีประสิทธิภาพ
 วิธีการนำไข่มาใช้ในการบำรุงผมเสียก็แสนง่าย เพียงแค่นำไข่ที่ค้นผสมกันระหว่างไข่ขาวกับไข่แดงจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาทานวดให้ทั่วเส้นผม แล้วครอบทิ้งเอาไว้ด้วยหมวกสระผมเป็นเวลา 20 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วทำความสะอาดออกให้หมดด้วยการสระผมตามปกติ

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มาดูเคล็ดลับบํารุงผม หลังทําสีแสนง่าย

         ส่วนใหญ่หลังจากทำสีผมมาแล้ว มักเจอปัญหาผมเสีย แห้งแตกปลาย ฟูฟ้องเป็นไม้กวาด สภาพผมหยาบกระด้าง เนื่องจากเส้นผมแสนบอบบางถูกสารเคมีเล่นงาน ยิ่งคนที่ชอบดัด ยืด ไดร์ หนีบ หรือทำอะไรต่อมิอะไรกับผมเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะยิ่งเกิดปัญหาผมเสียได้ง่ายและรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวี
         แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ เพราะดันไปทำสีผมมาแล้ว ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งตื่นตระหนกตกใจกันไป เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับบำรุงผม หลังทำสีแสนง่ายมาให้ท่านได้นำไปใช้กัน เคล็ดลับนี้จะได้ผลหรือไม่ ลองดูกันสักตั้ง ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย


วิธีบำรุงผม หลังทำสี

         1.ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ การบำรุงผม หลังทำสี ก่อนอื่นต้องหยุดใช้แชมพูตามท้องตลาดทั่วไปก่อน เพราะส่วนใหญ่ก็ได้มาจากสารสังเคราะห์ทางเคมีเหมือนกัน ในช่วงที่ผมเสีย จะจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกแชมพูและครีมนวดที่เหมาะสำหรับคนทำสีผมเท่านั้น โดยจะช่วยชะล้างและทำความสะอาด พร้อมทั้งช่วยถนอมสีผมของคุณให้คงไว้เนิ่นนาน
         2.บำรุงผมเป็นพิเศษ เนื่องจากแชมพูและครีมนวดอาจไม่เพียงพอสำหรับคนที่ผมเสียมากๆ การใช้ครีมนวดผมทำให้แค่ผมของเรานุ่มลื่นแต่เพียงภายนอกเท่านั้น คล้ายกับเอาน้ำมันไปเคลือบผิวเส้นผมเมื่อล้างออกน้ำมันเหล่านั้นก็จะหลุดออกไป ดังนั้น แนะนำให้ลงคอนดิชั่นเนอร์บ้างหรือหลังสระผมก็ตามด้วยครีมคอนดิชั่นเนอร์สูตรเข้มข้นสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ก็จะช่วยบำรุงผมทำสีได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
         3.หลีกเลี่ยงการโพกศีรษะ หลังจากสระผมเสร็จหลายคนมักใช้ผ้าขนหนูโพกศีรษะขณะที่ผมยังเปียกชื้นอยู่ การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผม หลังทำสี เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสียดสีให้เส้นผมพันกันมากขึ้น และอาจสร้างความเสียหายให้กับเส้นผมทำสีที่เปราะบางในขณะเปียกได้ แทนที่จะทำอย่างนั้น ก็ใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆให้แห้งจะดีกว่า

         4.ทำทรีทเมนต์ผม สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หลังทำสีผมควรหมั่นหาเวลาทำทรีทเมนต์ผมบ้าง อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเมนต์เส้นผมหรือใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้รอบตัวเพื่อนำมาหมักทรีทเมนต์ก็ได้ โดยทำอย่างเบามือ อย่าให้เส้นผมพันกันเป็นอันขาด
         5.เติมน้ำมันให้เส้นผม การที่ผมแห้งแตก ส่วนใหญ่เกิดจากขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงบนหนังศรีษะ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากแสงแดด ความเครียด และกระบวนการทางเคมีหลังจากทำสี ดังนั้น ควรนวดด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอัลมอนด์ลงบนหนังศรีษะ ทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนสระผม วิธีนี้จะช่วยให้เส้นผมยังเป็นเงางาม สีผมสวยสดใส
         6.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผม หรือใช้ให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการไดร์ หนีบ หรือม้วนผม ล้วนเป็นวิธีที่ทำให้ผมที่แห้งอยู่แล้วต้องสัมผัสกับความร้อนอีก ส่งผลให้ผมเสียมากขึ้น ฉะนั้น ในช่วงฟื้นฟูเส้นผมเช่นนี้ หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรใช้อุปกรณ์ทำผมที่ใช้ความร้อน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆก็ให้จำกัดอุณหภูมิไม่ให้สูงจัด และทำให้เสร็จในเวลาอันสั้น

         7.รับประทานอาหารบำรุงเส้นผม โดยสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการดื่มน้ำมากๆ และรับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่สำคัญต่อเส้นผม นอกจากนี้ อย่าลืมรับประทานอาหารทะเลอย่างปลาชนิดต่างๆด้วย เนื่องจากมีธาตุสังกะสีที่ช่วยบำรุงรากผมและสภาพเส้นผมให้แข็งแรง เท่านี้เส้นผมที่แห้งก็กลับมามีน้ำหนักคงความเงางามและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
         นอกจากเคล็ดลับดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญในการบำรุงผม หลังทำสีก็คืออย่าปล่อยให้เส้นผมโดนแดดโดยตรง เพราะแสงแดดอาจทำร้ายสีผมและสุขภาพผมให้เสื่อมเสียได้ ดังนั้น ก่อนออกจากบ้านควรสวมหมวกเพื่อป้องกันเส้นผมไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ เช่น ฝุ่น ควัน ทั้งนี้ เมื่ออยู่ในที่ร่มก็ควรถอดหมวกออกทันที เพื่อไม่ให้เส้นผมอับชื้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

การดูแลบํารุงผม ก่อนทําสีนั้นสำคัญไฉน

         ทราบหรือไม่ หากไม่ดูแลบำรุงผม ก่อนทำสี จะทำให้สุขภาพผมของคุณแห้งเสียได้มากขึ้นเป็นทวี เพราะขั้นตอนในการทำสีผมต้องผ่านกระบวนการทางเคมีจึงทำให้สภาพผมแห้งแตกได้ง่าย แม้ผลลัพธ์จากการทำสีจะเป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อผ่านไปสักระยะคุณอาจจะพบว่าผมเสื่อมสภาพ ขาดสีสัน ไร้ชีวิตชีวาในแบบที่ตัวคุณเองก็ไม่เคยคาดคิด
         เส้นผมก็เหมือนกับผิวพรรณของเราที่ต้องได้รับการฟื้นบำรุงอยู่เสมอ ไม่ให้ถูกทำร้ายจากมลภาวะได้ง่าย ฉะนั้น การบำรุงผม ก่อนทำสีจึงสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม

 

ขั้นตอนการบํารุงผม ก่อนทําสี
         หากในวันข้างหน้าคุณคิดจะทำสีผม รวมทั้งการดัดผม ยืดผม หรือจะอะไรกับเส้นผมก็ตามแต่ เพื่อเตรียมเส้นผมให้พร้อมเข้าสู่กระบวนการต่างๆ สิ่งที่กระทำให้ติดเป็นนิสัย ได้แก่
         1.รับประทานอาหารบำรุงเส้นผม ขั้นตอนแรกของการบำรุงผม ก่อนทำสี คือรับประทานผักผลไม้ให้มากๆ เพราะผักผลไม้จะช่วยเติมเต็มวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่สำคัญต่อเส้นผม นอกจากนี้ ยังควรประทานอาหารทะเลอย่างปลาชนิดต่างๆด้วย เพราะมีธาตุสังกะสีที่ช่วยบำรุงรากผมและสภาพเส้นผมให้แข็งแรง
         2.หมั่นนวดผมด้วยคอนดิชันเนอร์ การสระผมเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะเป็นแค่การทำความสะอาดภายนอกเท่านั้น ดังนั้น แนะนำให้ลงคอนดิชันเนอร์บ้างหรือหลังสระผมก็ตามด้วยครีมคอนดิชั่นเนอร์สูตรเข้มข้นสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะก็จะช่วยบำรุงผม ก่อนทำสีได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

         3.หมั่นทำทรีทเมนต์ผม ก่อนทำสีผม ควรหาเวลาทำทรีทเมนต์ผมบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเมนต์เส้นผมหรือใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้รอบตัวเพื่อนำมาหมักทรีทเมนต์ก็ได้ เพื่อทำให้เส้นผมแข็งแรง พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางเคมี
         4.ก่อนวันไปทำสี อย่าสระผม เพราะน้ำมันธรรมชาติที่อยู่ในเส้นผมจะถูกน้ำกับแชมพูชะล้างออกไปบางส่วน นอกจากนั้น แชมพูและคอนดิชันเนอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีสารบำรุง และปกป้องผม ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงทำให้น้ำยาเปลี่ยนสีผมทำงานได้ไม่เต็มที

บำรุงผมให้สวยสุขภาพดีหลังทำสี
         หลังจากทำสีผมแล้ว เราก็ยังคงต้องทำการดูแลผมกันต่อไป โดยหลังจากทำสีผมมาแล้ว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแชมพูและครีมนวด เพราะมันจะช่วยชะล้างและทำความสะอาดพร้อมช่วยถนอมสีผมของเราให้คงไว้เนิ่นนาน และควรอบไอน้ำเดือนละครั้ง หลีกเลี่ยงการหวีผมในขณะที่ผมยังไม่แห้ง ที่สำคัญไม่ควรเช็ดหรือขยี้ผมอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังควรรับประทานอาหารที่บำรุงเส้นผมจากภายใน โดยเราได้หยิบอาหารที่คนทำสีผมควรรับประทานมานำเสนอ ดังนี้
         1.ปลาแซลมอน อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง พร้อมทั้งอุดมด้วยวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ทั้งนี้ การขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 จะทำให้หนังศีรษะแห้งเป็นสาเหตุของรังแคนั่นเอง
         2.ไข่ ไข่ที่ว่านี้สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทอด ตุ๋น ต้ม ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผมทั้งสิ้น เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ช่วยบำรุงเส้นผม นอกจากนี้ไข่ยังมีส่วนประกอบของไบโอทีนและวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นแหล่งโภชนาการสำหรับเส้นผม

         3.ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม บร็อกโคลี่ เป็นต้น ซึ่งผักเหล่านี้เป็นแหล่งรวมมิตามินเอและวิตามินซี ที่ร่างกายของเราต้องการเพื่อสร้างไขมันผิวหนัง บำรุงผมเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผักใบเขียวเข้มยังช่วยสร้างธาตุเหล็กและแคลเซียมที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายอีกด้วย
         4.ถั่ว เจ้าถั่วนี่เองที่เป็นอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพผมได้อย่างดีเยี่ยม เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผมแล้วยังช่วยสร้างธาตุเหล็ก สังกะสีและไบโอทินจำนวนมาก ซึ่งไบโอทินยังช่วยให้เส้นผมไม่เปราะบาง
         5.ธัญพืช อาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชไม่ว่าจะเป็นขนมปังโฮลวีตหรือจำพวกซีเรียลต่างๆ เป็นแหล่งสะสมของธาตุเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี มีประโยชน์ในการฟื้นบำรุงสุขภาพผอม นอกจากนี้ยังรับประทานเป็นของกินเล่นก็ยังได้ เพิ่มพลังงาน มีประโยชน์ต่อร่างกาย
         6.หอยนางรม หอยชนิดนี้มีประโยชน์กับเส้นผม เพราะมันมีสารประกอบของสังกะสีและสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าใครไม่ค่อยปลื้มในรสชาติก็สามารถรับประทานอาหารประเภทธัญพืชและถั่วเปลือกแข็ง หรือจำพวกเนื้อวัวและเนื้อแกะแทนก็ได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อยากรักษาหัวล้านอย่างได้ผล ทำไงดี?

         การสูญเสียเส้นผมจะเป็นเรื่องธรรมดา จนกระทั่งหลายคนมองข้ามว่าเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีหลายๆคนที่ประสบปัญหาผมร่วงเป็นอยากมาก จนกระทั่งกลัวว่าจะกลายเป็นปัญหาหัวล้านขึ้นในอนาคต จึงได้พยายามเสาะแสวงหาวิธีรักษาหัวล้าน รักษาผมร่วงอย่างได้ผล ด้วยเหตุผลทางด้านความงาม ซึ่งปัญหาผมร่วงนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับไม่ว่าเพศชาย หรือเพศหญิง โดยมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป โดยมีวิธีการรักษาหัวล้านขั้นพื้นฐานที่คุณควรทราบ และให้ความใส่ใจ ดังต่อไปนี้

การรักษาหัวล้านในผู้ชาย
 อาการหัวล้านในกลุ่มผู้ชาย ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรกมีอาการแล้วล่ะก็ การรักษาในภายหลังก็มักจะมีราคาค่าใช้จ่ายที่แพงมาก ซึ่งในปัจจุบันมีตัวยาสองประเภท ที่ได้รับความนิยมนำมาใช้ในการรักษาหัวล้านของผู้ชายอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
 1. Finasteride เป็นตัวยาที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนเพศชายถูกแปลงเปลี่ยนเป็นฮอร์โนน dihydrotestosterone (DHT) สาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนหดตัว ซึ่งเป็นการปิดกั้นการเติบโตของเส้นผม จากการศึกษาพบว่า Finasteride ช่วยเพิ่มจำนวนของเส้นผม และเส้นขนให้มากยิ่งขึ้น แต่จำเป็นที่จะต้องใช้ตัวยานี้ติดต่อกันนาน 3-6 เดือน  และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 1 ปี ในการรักษาหัวล้านอย่างได้ผล แต่ตัวยาประเภทนี้ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน ผู้ชายน้อยกว่าร้อยละ 1 จะสูญเสียความต้องการทางเพศ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
2. Minoxidil คุณสามารถหาซื้อตัวยานี้ได้จากร้านขายยาทั่วไป แล้วใช้มันในฐานะของโลชั่นทาหนังศรีษะเป็นประจำทุกวัน โดยมีความเข้มข้นของตัวยาอยู่ที่ 2% หรือ 5% ความเข้มข้นที่มากขึ้น แม้จะส่งผลให้มประสิทธิภาพในการรักษาหัวล้านที่มากขึ้น แต่ผลข้างเคียงเองก็จะมีความรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ความแห้งกร้าน หรืออาการคัน ในบริเวณที่มีการใช้ตัวยา อย่างไรก็ตาม Minoxidil จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือนกว่าที่จะส่งผมในเชิงบวกในการรักษาเส้นผม หลังจากใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 เดือน

การรักษาหัวล้านในผู้หญิง
 ในปัจจุบัน ยารักษาหัวล้านของผู้หญิงที่ได้รับความนิยม มักจะอยู่ในลักษณะของโลชั่น Minoxidil ที่ช่วยให้เส้นผมเติบโตมากยิ่งขึ้น ผู้หญิง 1 ใน 4 ที่ใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของ Minoxidil สามารถช่วยชะลอ หรือหยุดอาการผมร่วงได้ดีมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆทั่วไป และจากการศึกษาพบว่า ผิวหนังศรีษะของผู้หญิงนั้น มีการตอบสนองเชิงบวกต่อตัวยา Minoxidil ได้ดีกว่าของผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาหัวล้านในผู้หญิงเองก็จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือนเช่นเดียวกัน
 ถึงแม้ว่าการรักษาหัวล้านจะเป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้ในทางทฤษฎี และทางปฎิบัติก็ตาม แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาอย่างยาวนาน และต่อเนื่องนานหลายเดือนเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาอาการหัวล้านก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ด้วยการให้ความใส่ใจ บำรุง ดูแลเส้นผมเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้เส้นผมของคุณยังคงอยู่อย่างเงางาม ยาวนานกับคุณตราบนานเท่านาน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.