3 วิธีแก้ปัญหาขาลาย ลดริ้วรอย ดูแลด้วยตัวเองได้ง่ายๆ

leg-health

              ปัญหาขาลาย เป็นปัญหาใหญ่ของสาวๆเลยทีเดียว เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ การลดและเพิ่มน้ำหนักเร็วเกินไป โดยไม่ได้คำนึงถึงความเร็วในการยืดหดของผิวหนัง รอยแตกลายเหล่านี้ขึ้นมาบนขาแล้ว สามารถที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาขาลายเกิดขึ้นกับตัวเองได้ และมีประสืธิภาพมากอย่างมากเลยทีเดียวจะเป็นวิธีไหนไปดูกัน

3 วิธีแก้ปัญหาขาลาย

             1).การนวดบริเวณที่เกิดรอยแตกลายเป็นประจำทุกวัน การนวดเป็นประจำสามารถช่วยรอยเหี่ยวย่นของผิว ให้กลับเป็นผิวเรียบเนียนได้อีกครั้ง เพียงแค่ใช้น้ำมันมัวตาร์ดนวดบริเวณที่เกิดปัญหาขาลายเป็นประจำทุกวันแค่นี้ ระยะเวลาภายใน 1 เดือน คุณก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่าน่าทึ่งขึ้นอย่างแน่นอน

            2.การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ความแห้งกร้านของผิวเรานั้น หลายครั้งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาขาลายขึ้น วิธีการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นประจำนั้นหลังการออกกำลังกาย หรือหลังการอาบน้ำด้วยให้ทามอยเจอไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ถนอมความชุ่มชื้น และสามารถป้องกันการเกิดปัญหาผิวหนังแตกลายได้อีกด้วย

            3.เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว คอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการช่วยทำให้ผิวของคุณห่างไกลจากปัญหารอยแตกลายได้ คุณอาจใช้การเสริมคอลลาเจนแบบธรรมชาติโดยการรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนด้วย หรือใช้วิธีการพอกผิว โดยการผสมสับปะรด และมะละกอบดเข้ากับน้ำผึ้งหนึ่งช้อนโต๊ะ จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ลูบไล้ให้ทั่วบริเวณผิวหนังที่ต้องการ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 25 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ปัญหาขาลาย หรือเต็มไปด้วยริ้วรอย

ปัญหาผิวแตกลายสามารถรักษาหรือทำให้ค่อยๆเลือนหายได้ เมื่อเวลาผ่านไปตามธรรมชาติ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาที่เรียกได้ว่าค่อนข้างนาน จนหลายคนอาจเลิกหรือถอนใจไปตามกัน ปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และความรู้ต่างๆ ทำให้การเยียวยาบาดแผล ริ้วรอยแตกลายเหล่านี้สามารถเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย เพียงแค่การใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวกายที่เหมาะสม

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวแตกลายทําไงให้หาย รักษาด้วยครีม แก้ผิวแตกลายได้ผลจริง

         ผิวแตกลาย หรือ Stretch Marks เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่พบเจอกันบ่อย ซึ่งหากเกิดในคุณผู้ชายคงไม่ค่อยซีเรียสกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเจ้าปัญหาผิวแตกลายมาเกิดกับกับอิสตรีเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าอาจมีกรี๊ดบ้านแตก เพราะผิวแตกลายบั่นทอนการสวมใส่เสื้อผ้าชุดสวยของหล่อนเป็นอย่างมาก จะเปิดนิดโชว์หน่อยก็ต้องคอยกังวลว่าจะเห็นรอยแตกลายตรงนั้นตรงนี้หรือไม่ ดังนั้น คำถามที่วนเวียนอยู่ในใจสาวๆส่วนใหญ่ก็คือ “ผิวแตกลายทำไงให้หาย”
         คำถามถัดไปมาคือการใช้ครีมต่างๆที่โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณแสนวิเศษ ไม่ว่าจะเป็นแก้จุดดำจุดแดง รอยแตกลาย เพิ่มความชุ่มชื่น คืนความเรียบเนียนอ่อนเยาว์สู่ผิว จะสามารถแก้ปัญหาผิวแตกลายที่น่าหนักใจนี้ได้จริงหรือไม่ เพื่อไขข้อข้องใจนี้เรามาหาคำตอบพร้อมๆกัน แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า ผิวแตกลายเกิดจากอะไร

 

ผิวแตกลาย เกิดจาก
         ผิวแตกลาย เกิดจากการยืดขยายต่อเนื่องของผิวหนัง และเนื้อเยื่อในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ พบได้บ่อยที่สุดในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักเป็นบริเวณท้อง หรือหน้าอก นอกจากนี้ยังพบได้ในคนที่อ้วนอย่างรวดเร็ว หรือในวัยรุ่นที่กำลังสูงอย่างรวดเร็วโดยพบผิวแตกลายได้ที่ต้นขาด้านนอก หลังด้านล่าง หรือสะโพก และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวแตกลายก็คือการใช้ยาสเตียรอยด์นานๆ มักมีรอยแตกลายใหญ่ และเป็นหลายที่รวมถึงบนใบหน้า
         โดยสรุปแล้วผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน (ในเวลาอันรวดเร็ว) วัยรุ่นที่กำลังสูง และคนที่ใช้ยาสเตียรอยด์ ดังนั้น ใครก็อยู่ในบุคคลประเภทต่างๆก็ควรมาตรการรับมือรอยแตกลายไว้ได้เลย โดยเบื้องต้นควรทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยลดปัญหาผิวนี้ได้มาก ถ้าเกิดผิวแตกลายขึ้นอาจเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผิวแตกลาย รักษาด้วยครีมได้ผลจริงหรือไม่
         หากเกิดผิวแตกลายขึ้นแล้ว สิ่งที่คุณไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไขเลย เพราะหากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้รอยแตกลายดังกล่าวหายยากขึ้น บางรายอาจต้องอยู่กับผิวแตกลายไปตลอดชีวิตก็มี ดังนั้น ควรสังเกตตัวเองอยู่ตลอดว่าปัญหาผิวนี้กำลังมาเยือนเราหรือไม่ ยิ่งรู้เร็วยิ่งรักษาได้ง่ายขึ้น
         การรักษาผิวแตกลายด้วยครีม เป็นวิธีการที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยด้วยกัน ประการแรกคือความรุนแรงของรอยแตกลายที่เกิดขึ้น และประการที่สองคือประสิทธิภาพของครีมที่ใช้ เพราะหากผิวแตกลายยังไม่รุนแรงเกินเยียวยา ผนวกกับการใช้ครีมทาผิวที่มีประสิทธิภาพ รับรองว่ารอยแตกลายจะค่อยๆจางลง จนหายไปได้ในที่สุด ทั้งนี้ ระยะเวลาในการรักษาของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางคนอาจจะแค่เดือนเดียว ในขณะที่อีกคนใช้เวลาเป็นปีๆ

    

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

DIY ครีมทาขา ขัดผิว พิชิตขานุ่มสวยอย่างง่ายๆด้วยตัวคุณ

         สำหรับผู้ชายที่มักใช้ชีวิตลุยๆ มีไลฟสไตย์ที่โดดเด่นไปในด้านของการทำงาน หรือออกำลังกายแบบ Outdoor ก็คงจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพผิวกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวบริเวณขา ที่จำเป็นจะต้องรับบทหนักๆ ในการกระทบกระแทก ขีดข่วนจนเกิดบาดแผล รอยหมองคล้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กสำหรับผู้ชาย แต่สำหรับคุณสาวๆที่มีผิวหนังที่บอบบาง และจำเป็นที่จะต้องคอยระมัดระวังดูแลให้ยังคงความเรียบเนียนอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลานั้น ระดับของการให้ความใส่ใจ คอยดูแลรักษาย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย

         อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผิวของคุณสาวๆมีความบอบบางสูง การรบกวนผิวอย่างไม่ระวังด้วยเรื่องเพียงเล็กๆน้อยในชีวิตประจำวันอย่างการโกนขน การขัดถูผิวแรงๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผิวได้เป็นอย่างมาก จนอาจทำให้ผิวสาก ไม่ลื่นนุ่มเนียนเท่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ผิวของคุณสาวๆเอง ก็ยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความนุ่มเนียนน่ามองเอาไว้ให้นานที่สุด ซึ่งในวันนี้ เพื่อเป็นการเอาใจคุณสาวๆ ที่อยากจะมีผิวนุ่มเนียน สดใส ชวนฝัน ด้วยการบำรุงรักษาจากวิธีธณรมชาติอย่างการใช้ครีมทาขา บทความชิ้นนี้ก็ได้ทำการเก็บสูตรครีมทาขา แบบ DIY ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านมาฝาก ให้ลองดูกัน

สูตรครีมทาขา แบบ DIY ยอดฮิต ในการช่วยบำรุงผิวเรียวขาให้นุ่มเนียน
  สำหรับส่วนผสมของครีมทาขา แบบ DIY ในวันนี้ก็แสนง่าย เพียงแค่คุณมีส่วนผสมที่สามารถหาได้ไม่ยากในครัวเรือน อาทิเช่น น้ำตาล ¼ ถ้วย น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วย น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ หรือสำหรับคนที่มีอาการแพ้น้ำมะนาวก็สามารถที่จะเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยมะนาว ประมาณ 20 หยด แทนก็ได้เช่นกัน และอีกหนึ่งอุปกรณที่จำเป็นจะต้องใช้ร่วมกับสูตรครีมทาขานี้ก็คือ มีดโกนคมๆ หนึ่งอัน หลังจากที่ได้ส่วนประกอบทั้งหมดมาไว้ในมือแล้ว ให้ทำการผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้รับส่วนผสมของุดยอดครีมทาขาแล้ว

วิธีการนำครีมทาขาแบบ DIY ไปใช้อย่างงมีประสิทธิภาพสูงสุด
 ทำการแช่ขาของคุณลงในน้ำเป็นเวลา 5 นาที หรือทำการอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วนำส่วนผสมของครีมทาขาที่ได้ทำการถูให้ทั่วผิวหนังในบริเวณขา และถ้าหากต้องการ ส่วนผสมของครีมทาขานี้ ก็สามารถนำไปใช้ในการทาเพื่อบำรุงผิวหนังบริเวณแขน และเท้าได้เช่นกัน
 ส่วนประกอบของน้ำตาลภายในครีมทาขา จะช่วยทำหน้าที่สครับสิ่งสกปรกทุกอย่างออกจากผิว และยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตายแล้วให้หลุดลอกออกไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น น้ำมะนาวจะช่วยเผยเปลือกผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์ สว่างเรียบสดใส และน้ำมันมะกอกจะซึมลึกลงสู่ชั้นผิว พร้อมกับช่วยรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้อย่างยาวนานอีกด้วย หลังจากที่ครีมทาขาทิ้งเอาไว้เพียงไม่กี่นาที ผิวของคุณสาวๆก็พร้อมแล้วที่จะได้รับการโกนขนบริเวณขาที่ไม่พึงประสงค์ออก แต่ขอแนะนำให้ทำการล้างเอาส่วนผสมของครีมทาขาบางส่วนที่เป็นน้ำมันออกไปก่อน แล้วคุณจะพบว่าการโกนขนบริเวณขา เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นนั้น กลายเป็นเรื่องที่แสนง่ายไปในพริบตา
 การบำรุงผิวขา ด้วยครีมทาขาแบบ DIY สูตรนี้ เป็นประจำ จะสามารถช่วยทำให้คุณสาวๆได้เพลิดเพลินไปกับสุขภาพผิวที่ขา ได้อย่างยาวนานมากขึ้นเลยทีเดียว

การบำรุงผิวขาให้นุ่มเนียนด้วยการใช้ครีมบำรุงผิว
         การขัดขา บำรุงผิวให้นุ่มเนียนด้วยสูตรส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองนั้น ถือว่าเป็นวิธีที่ดีทุ่ดในการบำรุงผิวขา ที่มักจะเต็มไปด้วยความหยาบกร้าน ริ้วรอยแผลเป็นต่างๆมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่าทุกคนที่จะมีเวลาว่างในการไปตามหาส่วนผสมต่างๆ มารวมเป็นสูตรบำรุงผิวขาวอยู่เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับใครที่ติดปัญหาในเงื่อนไขด้านเวลาที่เร่งรีบดังกล่าว ก็สามารถที่จะเลือกใช้ครีมบำรุงผิวแบบสำเร็จรูปที่ง่าย และสะดวกกว่าได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ลดรอยแผลเป็น ในไม่กี่สัปดาห์ ทำได้อย่างไรไปดูกัน

         รอยแผลเป็น เป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านผิวพรรณที่เรียกได้ว่ารักษาได้ค่อนข้าง “ยาก” และจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานมากทีเดียว กว่าที่ร่างกายจะสามารถฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้กลับมาแลดูเรียบเนียนได้ดังเดิม แต่สำหรับคนใจร้อน ที่ออกจะอดรนทนรอไม่ค่อยได้ อยากลดรอยแผลเป็นให้เลือนหายไปให้รวดเร็วที่สุดนั้น ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ด้วยการใช้วิธีการรักษาลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติ ที่กำลังจะขอแนะนำไว้ในบทความนี้ ถ้าหากทำการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ รับรองว่าการลดรอยแผลเป็น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ จะไม่เป็นเรื่องที่ไกลจนเกินเอื้อมอีกต่อไปอย่างแน่นอน

วิธีลดรอยแผลเป็นจากธรรมชาติอย่างได้ผลทันใจ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
 1.น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการลดรอยแผลเป็นอย่างได้ผล ด้วยการช่วยกำจัดเนื้อเยื่อแผลเป็น ผลัดผิวเก่า เผยเซลล์ผอวใหม่ที่สวยงามสดใสมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับวิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงใช้สำลีจุ่มลงในน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ แล้วนำไปทาในบริเวณรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตบท้ายด้วยการทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์คุณก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากรู้สึกว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำให้รู้สึกคัน ระคายเคืองที่ผิว ควรนำไปผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้เจือจาง ก่อนที่จะนำไปใช้ทาที่ผิว
2.น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดรอยแผลเป็น โดยการช่วยเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของเซลล์ผิว และยังช่วยป้องกันรอยแผลเป็นแบบถาวรอีกด้วย น้ำมันลาเวนเดอร์เพียงไม่กี่หยด นำไปใช้นวดเบาๆ เป็นวงกลมบนรอยแผลเป็น จากนั้นทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมลึกลงสู่ชั้นผิว หรือคุณอาจจะนำน้ำมันลาเวนเดอร์ ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก แล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปทาลงบนบริเวณที่ต้องการก็ได้เช่นกัน วิธีนี้สามารถทำการทาผิวได้วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
 3.น้ำผึ้ง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ลดรอยแผลเป็น ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพียงแค่คุณนำน้ำผึ้งดิบ ทานวดเป็นวงกลมลงไปบนรอยแผลเป็นที่ต้องการ 10 นาที แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันหลายๆสัปดาห์

         4.ผงไม้จันทร์ เป็นวิธีการลดรอยแผลเป็นที่ดี ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ผงไม้จันทร์มีคุณสมบัติในการช่วยรักษารอยแผลเป็นให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับส่วนผสมของสูตรนี้ ได้แก่การใช้ผงไม้จันทร์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับน้ำกุหลาบพอให้ผงไม้จันทร์เริ่มข้นเป็นน้ำ จากนนั้นนำส่วนผสมที่ได้ทาพอกเอาไว้บนรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ทั้งคืน แล้วจึงค่อยทำการล้างออกในตอนเช้า ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน เป็นเวลา 1-2 เดือน
 5.น้ำมันต้นชา มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาผิว และช่วยในการลดรอยแผลเป็นอย่างพอเหมาะ แต่เนื่องจากน้ำมันต้นชามีความเข้มข้นสูงมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ทำการเจือจางด้วยน้ำก่อนนำไปใช้ การนำน้ำมันต้นชาไปใช้นั้น ควรใช้น้ำมันต้นชา 2 หยด ผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา แล้วนำไปทายังบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ ทิ้งเอาไว้หลายๆชั่วโมง  วันละครั้งแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้น้ำมันต้นชา 2-3 หยด ผสมเข้ากับน้ำอุ่น 2/3 ถ้วย แล้วนำไปล้างในบริเวณที่ต้องการวันละ 2 ครั้ง ทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลานานหลายๆสัปดาห์
การรักษาลดรอยแผลเป็นด้วยวิธีการทางธรรมชาติเหล่านี้ อาจจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะแสดงผล แต่พวกมันก็มีอันตรายและผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการรักษาที่ต้องใช้สารเคมี หรือการผ่าตัด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำครีมรอยแผลเป็นจากธรรมชาติง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

         รอยแผลเป็น สร้างความกังวลเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักสวยรักงามทั่วไป ซึ่งเจ้ารอยแผลเป็นที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆหลังจากอาการบาดเจ็บ การเผาไหม้ สิว เชื้อรากัด หรือบาดแผลจากการผ่าตัด ที่บาดลึกกว่าผิวชั้นแรก ที่ขึ้นมาปกคลุมผิวหนังในลักษณะของเนื้อเยื่อ รอยแผลเป็นไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือปัญหาด้านผิวพรรณใดๆ แต่ลักษณะการจัดเรียงที่ไม่สวยงาม ถึงแม้  แลดูเป็นจุดเด่น น่าเกลียด ซึ่งสร้างความกังวลด้านความงามแก่คนจำนวนมาก ที่ต่างพยายามสรรหาวิธีมากำจัดมันออกไป
 รอยแผลเป็น เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถทำการเยียวยารักษาได้ตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป รอยแผลเป็นเหล่านี้ก็จะค่อยๆจางลง แต่ผลลัพธ์ดังกล่าว อาจจะเกิดขึ้นรวดเร็ว หรือช้า ขึ้นอยู่กับความลึก และสภาพความรุนแรงของปัญหา ทำให้หลายคนรอยแผลเป็นหายได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลายๆคนหายช้าจนน่าเหนื่อยใจกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถที่จะเสริมสร้างลดปัญหารอยแผลเป็น พร้อมกับส่งเสริมให้ปัญหาเหล่านั้นถูกกำจัดออกไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำครีมรอยแผลเป็นด้วยตัวเองอย่างง่ายๆที่บ้าน โดยมีส่วนประกอบที่ง่ายจนแทบไม่น่าเชื่อดังต่อไปนี้

ส่วนประกอบของครีมรอยแผลเป็น แบบทำเองอย่างง่ายๆที่บ้าน
 1.น้ำมันมะพร้าว เป็นหนึ่งในครีมรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันห่วงโซ่กลาง ที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวนุ่มขึ้น และยังช่วยกระตุ้นวามเร็วในการรักษาแผลเป็นให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
 ครีมรอยแผลเป็นจากน้ำมันมะพร้าวสามารถทได้ง่ายมาก เพียงแค่อุ่นน้ำมันมะพราว 1 ช้อนชา ในไมโครเวฟ แล้วนำไปนวดเบาๆในบริเวณที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกลม เพื่อให้ผิวได้ดูดซึมสารที่จำเป็น ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
 2.ว่านหางจระเข้ เป็นครีมรอยแผลเป็นตามธรรมชาติ ที่เป็นที่รู้จักกันดีถึงประสิทธิภาพในการงอกใหม่ของเนื้อเยื่อผิว อีกทั้งยังช่วยลดขนาดของรอยแผลเป็น ผ่อนคลายผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นให้กับผิว รวมไปถึงอาการอักเสบต่างๆอีกด้วย เพียงแค่นำเจลว่านหางจระเข้ มาทำการนวดเบาๆที่บริเวณรอยแผลเป็น เป็นประจำทุกวัน เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 1-2 เดือน รอยแผลเป็นกวนใจก็จะค่อยๆเลือนหายไป
   3.วิตามินอี เป็นหนึ่งในวิธีการรักษารอยแผลเป็นยอดนิยม เพราะวิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิว พร้อมกับช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
 สารสกัดของเหลวจากแคปซูลวิตามินอี เป็นครีมรอยแผลเป็นที่ได้รับความนิยม คุณสามารถใช้ทาลงยังบริเวณที่เป็นรอยแผลเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกันหลายสัปดาห์ หรืออาจจะใช้พืช ผัก หรือผลไม้ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีจำนวนมาก เช่น อัลมอนด์, น้ำมันดอกคำฝอย, เฮเซนัท และเนยถั่วลิสง แทนการใช้สารสกัดเหลววิตามินอีในการรักษารอยแผลเป็นได้ เช่นกัน

         4.น้ำมะนาว ครีมรอยแผลเป็นแบบคลาสสิคที่มีประวัติยาวนานด้านความงามของมนุษย์ มันมีประสิทิภาพมากในการช่วยรักษารอยแผลเป็น ด้วยกรดไฮดรอกซีอัลฟา หรือ AHA ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมช่วยเผยชั้นผิวใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย และยังทำหน้าที่เป็นสารฟอกสีตามธรรมชาติ ที่ช่วยลดรอยแผลเป็นให้ดูจางลงมากกว่าเดิม
 ครีมรอยแผลเป็น สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่นำน้ำมะนาวล้วนๆ ทาลงบนรอยแผลเป็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้ง ทำซ้ำประมาณ 2 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ จนกว่าคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย เพราะน้ำมันาวมักจะทำให้ผิวของคุณมีความไวต่อแสงมากขึ้น แนะนำให้คุณทำการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน หรือจะให้ดีที่สุดคือ การใช้น้ำมะนาวเพื่อรักษารอยแผลเป็นในช่วงเวลากลางคืน

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำครีมบำรุงผิวเพื่อแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากธรรมชาติ จะเป็นสิ่งที่ดีต่อผิว แต่เนื่องจากสภาพของสังคมในปัจจุบัน ที่เร่งรีบ กว่าจะเดินทางกลับถึงที่พักในตอนเย็นก็เรียกได้ว่าเหนื่อยล้าแสนสาหัส การไปตามหาและใช้เวลาในการรวบรวมส่วนผสมดังที่ได้แนะนำไปแล้วในตอนต้น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ยากจนเกินไป ดังนั้นอีกหนึ่งในวิธีในการดูแลแผลเป็นที่น่าสนใจ ก็คือ การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพช่วยในการดูแลแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นที่อ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นประจำทุกวัน ก็จะเป็นการช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นได้เช่นกัน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

รวมสารพัดวิธีปกปิด รอยแตกลาย บนผิวไม่ให้เด่นสะดุดตาอย่างได้ผล

         คุณผู้อ่านหลายๆคนไม่ว่าชายหรือหญิง อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับรอยแตกลายที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะร่องรอยเหล่านั้นทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน แลดูน่าเกลียด จนพลอยทำให้ความมั่นอก มั่นใจ ต่อการโชว์ผิวสวยยามเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้าสั้นๆโชว์ผิวลดลงตามไปด้วย แต่ที่จริงแล้วถ้าหากทราบเคล็ดลับแล้วล่ะก็ การแก้ไขรอยแตกลายให้ดูจางลง จนแทบไม่เหลือความเด่นสะดุดตาเอาไว้เลยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอเพียงแค่คุณผู้อ่านปฎิบัติตัวตามคำแนะนำในบทความชิ้นนี้เท่านั้นเอง

รอยแตกลายบนผิว เกิดขึ้นจากอะไร?
 รอยแตกลาย เรียกได้ว่าเป็นวัฎจักรส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น โดยเฉพาะกับคุณสาวๆ เมื่อคนเรามีการเจริญเติบโตขึ้น น้ำหนักและมวลในกล้ามเนื้อก็จะมีการเพิ่มตามมากขึ้นไปด้วย เมื่อผิวหนังถูกดึง หรือยืดจากการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว แม้ว่าผิวหนังจะมีพื้นฐานของความยืดหยุ่นพอสมควร แต่ถ้าหากมากจนเกินไป การผลิตคอลลาเจนในบริเวณนั้นก็จถูกหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดรอยแผลลเป็น รอยแตกลายขึ้น
หากคุณผู้อ่านสังเกตเห็นรอยแตกลายบนร่างกายของตัวเอง ต้องเข้าใจก่อนว่าพวกมันไม่ไก้เกิดขึ้นเฉพาะกับคุณคนเดียว ยังมีคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาเดียวกันจนเป็นเรื่องธรรมดา จนบางครั้งรอยแตกลายถูกเรียกว่าเป็นเครื่องหมายของการเจริญเติบโตอีกด้วย ในหลายๆครั้ง รอยแตกลายที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากการใช้ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสเตรียรอย หรือขี้ผึ้งความเข้มข้นสูง ที่ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ

รอยแตกลาย สามารถปกปิดได้อย่างไรบ้าง?
     ในตอนแรกๆที่เกิดปัญหารอยแตกลายขึ้น รอยแตกลายอาจจะมีสีแดง หรือสีม่วง ปรากฏขึ้นเยื้องในผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกลายเหล่านั้นก็จะค่อยๆจางลง และเกือบจะหายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ในบางคนรอยแตกลาย อาจจะชัดเจนขึ้นในรูปแบบของเส้นขูดขีด ดูคล้ายกับรอยแผลเป็น หากคุณต้องการปกปิดรอยแตกลาย ให้ดูจาลงลง หรือไม่เด่นสะดุดตาแล้วล่ะก็ สามารถที่จะทดลองใช้วิธีต่างๆในบทความชิ้นนี้ได้ ดังต่อไปนี้
 1.การแต่งกายช่วยได้ เป็นพื้นฐานที่สุดในการอำพรางผิวที่แตกลายของคุณด้วยการแต่งกาย คุณสามารถปกปิดส่วนที่แตกลายไว้ด้วยเสื้อผ้าแขนขายาวปกดปิกสัดส่วน แต่ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย คุณสามารถที่จะประยุกต์เล็กน้อย ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่บางมองทะลุได้เพื่อระบายความร้อน แต่มีความหนามากเพียงพอที่จะปกปิดรอยแตกลายเอาไว้

         2.เครื่องสำอางค์ การเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีโทนสีเดียวกับผิว สามารถช่วยกลบเกลื่อนรอยแตกลายได้เป็นอย่างดี แต่คุณจำเป็นที่จะต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการใช้เครื่องสำอางค์ระบายปกปิดรอยแตกลายบนร่างกายของตัวเอง
3.ชุดว่ายน้ำสำหรับคนที่มีปัญหารอยแตกลายโดยเฉพาะ สระว่ายน้ำ หรือชายหาด เป็นสถานที่ที่สร้างความหนักใจให้กับผู้ที่มีปัญหารอยแตกลายมาอย่างช้านาน แต่ข่าวดีก็คือ ในปัจจุบันมีชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงว่ายน้ำ ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยรอยแตกลายส่วนใหญ่โดยเฉพาะ บริเวณก้น และต้นขาส่วนบน และชุดว่ายน้ำแบบสูททั้งตัว ยังช่วยซ่อนรอยแตกลายบริเวณหน้าอกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
 การรักษารอยแตกลายอย่างได้ผลจริงๆนั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล รักษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคการรักษาเหล่านี้มีราคาที่ค่อนข้างแพง และไม่เหมาะสมกับวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต และเป็นไปได้สูง ที่รอยแตกลายเหล่านั้นจะมีโอกาสลดน้อยลงตามช่วงระยะเวลาที่ผ่านไป

อยากรักษารอยแตกลายด้วยตัวเอง และได้ผลดีทำได้อย่างไรบ้าง?
สำหรับคนที่มีปัญหารอยผิวแตกลาย และอยากที่จะทำการดูแลรักษาด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปเข้ารับการรักษาจากแพทย์ที่มีราคาแสนแพงนั้น สามารถที่จะทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างเช่นการเริ่มต้นด้วยการใช้ครีมบำรุงดูแลผิวในบริเวณที่เกิดปัญหาแตกลายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

‘ขาแตกลาย’ ปัญหาผิวที่สาวๆไม่อยากเจอ

         วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาผิวอย่างหนึ่ง โดยเกิดขึ้นบ่อยมากโดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง มันคือปัญหาขาแตกลายนั่นเอง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับเหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายคงก็ไม่ค่อยซีเรียสกันสักเท่าไหร่ แต่เจ้าขาแตกลายดันชอบเกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงนี่สิ หล่อนจึงขาดความมั่นใจในการใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น อวดเรียวขาแสนสวย และแน่นอนปัญหาผิวนี้ยังพอมีทางแก้ไข บทความนี้ขอทำหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาขาแตกลาย โดยเรามาเริ่มกันที่สาเหตุของขาแตกลายกันก่อน

ขาแตกลาย เกิดขึ้นได้อย่างไร

         จริงๆแล้วผิวแตกลายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่บริเวณขาเท่านั้น เรายังสามารถพบปัญหาผิวนี้ได้ทั้งบริเวณหน้าท้อง เอว ต้นแขน ต้นขา น่อง หรือแม้แต่ใต้ราวนม เป็นต้น โดยผิวแตกลายเกิดจากความแปรปรวนของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายประกอบกับผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้ชั้นคอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนังฉีกขาดจนเกิดเป็นรอยแตกลายในที่สุด
         รอยแตกลาย ใช้คำว่า striae แปลว่า ร่องลายเส้นขนาน นอกจากนี้ผิวแตกลาย บางครั้งอาจเรียกว่า striae distensae (ลายเส้นขนานจากการยืด) striae atrophicans (ลายเส้นขนานที่มีลักษณะผิวฝ่อ) striae rubra (ลายเส้นขนานที่มีสีแดง) ซึ่งมักจะพบในระยะเริ่มแรก และ striae alba (ลายเส้นขนานที่มีสีขาว) ที่จะพบในระยะหลัง ทั้งนี้ หากเป็นรอยแตกลายเป็นประเภทจะรักษาได้ยากมาก

ขาแตกลาย ป้องกันได้อย่างไร
         “กันไว้ดีกว่าแก้” ประโยคคลาสสิคนี้เป็นเครื่องเตือนใจเราได้ดีที่สุด เพราะต้องบอกเลยว่าถ้าปล่อยให้เกิดขาแตกลายขึ้นแล้วล่ะก็ การจะรักษาให้หายเป็นปกตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บ้างใช้เวลาเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนปล่อยไว้จนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เลย ดังนั้น ถ้าไม่อยากมีปัญหาขาแตกลาย ควรป้องกันด้วยวิธีดังนี้          
         1.หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผิวแตกลาย ได้แก่ วัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต และหญิงตั้งครรภ์ ทั้งนี้ ถ้าคิดว่าตัวเองกำลังมีผิวหนังที่ใหญ่มากขึ้น (โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์) ควรทามอยเจอไรเซอร์ให้ผวชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
         2.ถ้าจะลดน้ำหนัก ควรทำอย่างถูกวิธี เนื่องจากที่เป็นคนอ้วนหรือตัวใหญ่ แล้วลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผิวหนังแตกลายได้เหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าคิดจะลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ควรทาครีมให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ และออกกำลังกายลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ถูกต้อง

          
         3.ใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น วิตามินซี กรดผลไม้ กรดวิตามินเอ มอยเจอไรเซอร์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้รอยแตกลายที่กำลังเกิดใหม่ที่ยังคงมีสีแดงจางลงได้บ้าง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทาครีมบำรุงผิว ป้องกันขาแตกลายก็คือหลังอาบน้ำ เพราะสภาพผิวมีความพร้อมที่จะรับสารอาหารมาฟื้นบำรุงสุขภาพผิว กระนั้นก็ตาม ห้ามใช้กรดวิตามินเอทารอยแตกลายในหญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรเด็ดขาด เพราะมีอันตรายต่อทารกได้
         4.หลีกเลี่ยงการใช้สารสเตียรอยด์ มีรายงานว่าวัยรุ่นบางรายนิยมใช้สารอะนาบอลิกสตีรอยด์ สารตัวนี้รู้จักกันดีในนักกีฬา เพราะเป็นสารกระตุ้นเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย โดยกำลังเป็นนิยมของวัยรุ่นที่ออกกำลังกาย ฟิตหุ่นในล้ำบึก สารสเตียรอยด์เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดรอยแตกลายได้ง่าย
         5.ดื่มน้ำมากๆ ปริมาณน้ำที่เข้าสู่ร่างกายจำนวนมากในแต่ละวัน จะส่งผลโดยตรงต่อผิว โดยจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ป้องกันปัญหาขาแตกลายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอ สามารถสังเกตได้ว่าปากและลำคอจะแห้ง ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น ซึ่งในคนทั่วไปควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
         เห็นหรือยังว่า “ขาแตกลาย” เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใครๆก็ไม่อยากเจอ โดยเฉพาะสาวๆถ้าลองได้เป็นแล้วจะทำให้ขาดความมั่นอกมั่นใจไปมากโข ดังนั้น จงท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า “การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข”

วิธีบำรุงแก้ไขผิวเมื่อเกิดปัญหาผิวแตกลายขึ้น 
สำหรับคนที่เกิดปัญหาขาลายขึ้นมาแล้ว และกำลังกังวลใจ ไม่รู้ว่าควรที่จะทำการดูแล รักษา และฟื้นฟูผิวของตัวเองอย่างไรดี จึงจะสามารถย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาของผิวที่เคยสวยงาม ปราศจากรอยแตกลายอย่างรวดเร็วนั้น ขอแนะนำว่าควรเริ่มต้นการดูแลรักษาตัวเอง ด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวรักษาผิวแตกเป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันก็มีครีมบำรุงผิวที่ประสิทธิภาพดั่งกล่าววางจำหน่าอยู่ในท้องตลาดให้เลือกสรรมากมายเลยทีเดียว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เคล็ดลับ แก้ขาลาย สันเท้าแตก เพื่อสุขภาพที่ดีของเรียวขาคุณ

         ผิวหนังบริเวณเรียวขา และส้นเท้า เป็นหนึ่งในจุดที่ช่วยเสริมสเน่ห์ให้กับคุณสาวๆ เพราะยิ่งทั้งสองส่วนนี้เรียบเนียนมากเท่าไหร่ ยามเมื่อต้องสวมใส่กระโปรง หรือกางเกงสั้นๆ อวดเรียวขาและสันเท้า ก็ย่อมเป็นจุดดึงดูดให้คุณหนุ่มหันมามองความงดงามของคุณมากยิ่งขึ้น แต่อย่าไรก็ตาม เนื่องจากมลภาวะ และปัญหาการใช้ชีวิตที่เร่งรีบรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้คุณสาวๆ ไม่ค่อยมีเวลาไปบำรุงรักษาเรียวขา และสันเท้าเท่าที่ควร ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาขาลาย สันเท้าแตกขึ้นได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ทันรู้ตัว ซึ่งหากคุณสาวๆคนไหนมีปัญหาดั่งกล่าวเกดิขึ้นแล้ว ก็อย่าพึ่งตกอกตกใจไป เพราะบทความในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆ ไปทำความรู้จักกับเคล้ดลับวิธีการแก้ขาลาย สันเท้าแตก อย่างได้ผล เพื่อให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับวิธีแก้ขาลาย สันเท้าแตกอย่างได้ผล
 หลายๆคนอาจจะไม่ทราบว่าเมื่อผิวหนังแห้งมักจะทำให้เกิด “รอยแตก” ที่นำไปสู่ลวดลายอันไม่พึงประสงค์ต่างๆบนเรียวขา และสันเท้า ดังนั้นสิ่งแรกเลยที่คุณสาวๆต้องให้ความใส่ใจก็คือ การเพิ่มความชชุ่มชื้นให้กับทั้งสองจุดอย่างเหมาะสม เพราะหากยังชะล่าใจปล่อยให้ความเหือดแห้งครอบคลุมผิวหนังอยู่ต่อไปนานๆแล้วล่ะก็ ผิวที่แตกก็อาจจะลึกจนกระทั่งมีเลือดออก และอาจจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้นในที่สุด
 1.มอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น รอยแตกเกิดขุ้นจากการที่ผิวแห้งเกินไปจนไม่สามารถรับมือกับความดันของหลอดเลือดใต้ผิวหนังได้ เมื่อความดันขยายตัวขึ้น ผิวหนังที่แห้งก็จะแตกแยกขึ้น กลายเป็นรอยลายขึ้น ดังนั้นเริ่มต้นการแก้ขาลายที่ดีที่สุดคือ การขยันหมั่นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยมอยเจอไรเซอร์ ภายหลังจากการอาบน้ำ ที่ทำให้ผิวมักสูญเสียไขมันที่ค่อยทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติได้ถูกฃะลางออกไปเป็นจำนวนมาก
 2.ไขมันเป็นสิ่งที่ดี แก้ขาลายด้วยการใช้น้ำมัน หรือครีมที่มีส่วนผสมของไขมันทาถูลงบนเท้า และเรียวขาที่แห้ง ถึงแม้จะทำให้รู้สึกลื่นๆ ไม่สบายเท้าไปบ้าง แต่มันก็เป็นหนึ่งในวิธีแก้ขาลายที่ได้ผลรวดเร็วมากที่สุด ส่วนคุณสาวๆที่มีปัญหาสันเท้าแตก สามารถที่จะลองใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ ทาเคลือบเท้าของคุณเอาไว้ก่อนการเข้านอน พร้อมกับสวมใส่ถุงเท้าเพื่อเป็นการป้องกันรอยขูดขีดที่อาจเกิดขึ้นในขณะนอนหลับ ซึ่งนั่นจะช่วยทำให้ผิวสันเท้าของคุณสาวๆ ดูสวยไร้ริ้วรอยมากยิ่งขึ้น

         3.เลือกใช้สบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว สบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงมักทพให้ผิวแห้งจนเกินความจำเป็น และทำให้เกิดปัญหาผิวแตกลายขึ้นมาในที่สุด การแก้ขาลายที่ดี จึงควรเริ่มต้นจากการเลือกใช้สบู่ หรือน้ำยาทำความสาดที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ที่จะไม่ดึงความชื้นออกมาจากผิวของคุณ
 4.ดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวัน เมื่อคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอ สามารถสังเกตได้ว่าปากและลำคอของคุณจะแห้ง การดื่มน้ำจะส่งผลโดยตรงต่อผิวของคุณ การดื่มน้ำมากๆ จึงเป็นการช่วยลด และแก้ขาลาย รอยแตก อย่างได้ผลดีเยี่ยมเลยทีเดียว
5.อาบน้ำเย็น น้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เป็นสาเหตุที่สำคัญในการดึงความชื้นออกจากผิวของคุณ ถ้าเป็นไปได้จึงควรเลือกอาบน้ำ ด้วยน้ำเย็นที่เสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวมากกว่า
   6.อย่าขัดขาและเท้าของคุณ การใช้ผ้าขนหนูถูตามร่างกายเพื่อให้แห้งเป็นเรื่องธรรมดาหลังจากการอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แต่การทำเช่นนั้นมักก่อให้เกิดรอยแกตลายขึ้นบนผิวโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นคุณจึงควรเปลี่ยนมาเป็นการใช้ผ้าขนหนูซับผิวให้แห้งแทน ซึ่งจะเป็นการอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า

7.เลือกใช้ครีมบำรุงผิวอย่างถูกต้อง การแก้ไขปัญหาขาลาย ส้นเท้าแตกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณรู้จักการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว โดยคำนึงถึงส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก และมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาขาลาย ส้นเท้าแตกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพดังกล่าว วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดให้เลือกซื้อหาอยู่อย่างมากมายเลยทีเดียว
สำหรับใครที่กำลังมองหาครีม หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องรอยแตกลาย เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพน่าสนใจ 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมขาลาย Molli dolly clear spot จากขาลายกลายเป็นขาเนียน

         ปัญหาขาลาย เกิดขึ้นเพราะผิวหนังที่บริเวณมีความผิดปกติจากเส้นใยที่อยู่ใต้ผิวหนังที่เรียกว่า “เส้นใยใต้ผิวหนัง” (collagen และ elastic fibers) จึงทำให้ปรากฏเป็นร่องรอยแตกลายขึ้น ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบของผิวหนังอย่างรวดเร็ว (มักพบในวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง) การใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสตีรอยด์ (โดยเฉพาะคนที่เล่นฟิตเนส) หรือบางคนอาจเกิดขาลายเป็นจุดดำช้ำเนื่องจากถูกยุงกัดหรือแมลงกัดต่อย (กรณีนี้จะเกิดจากภาวะน้ำเหลืองผิดปกติ)
         อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะขาลายด้วยเหตุผลใด วันนี้เราจะมาพูดถึงครีมขาลาย molli dolly clear spot ที่สามารถเข้าไปฟื้นบำรุงผิวที่เกิดขาลายให้กลายเป็นขาเนียนใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยครีมตัวนี้เหมาะสำหรับการลบรอยแผลเป็นจากยุงกัด แพ้น้ำลายยุง รอยด่างดำ น้ำเหลืองเสีย รอยไหม้ต่างๆ รวมถึงรอยแตกลาย หยาบกร้าน

 

ส่วนประกอบของครีมขาลาย Molli dolly clear spot
         1.Mineral Oil ทำหน้าที่เป็นชั้นฟิล์มน้ำมันเคลือบบริเวณผิวหนังชั้นบน ป้องกันไม่ให้เกิด การสูญเสียน้ำ ผ่านทางผิวหนังและเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้กับผิวหนัง
         2.Sodium PCA เป็นสารที่เกิดตามธรรมชาติภายในผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
         3.Salicylic Acid สารสกัดชนิดความบริสุทธิ์สูง ทำหน้าที่ละลายสิ่งอัดตัน ทำความสะอาดรูขุมขน เร่งการผลัดผิว ให้ผิวเรียบเนียน
         4.Glycolic Acid ไคลโคลิก สารสกัดธรรมชาติเข้มข้น สกัดจากอ้อย มีโมเลกุลเล็ก ซึมผิวได้ดี
         5.Aqua น้ำแร่ มีคุณสมบัติในการเสริมการปกป้องผิวตามธรรมชาติ และช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว บรรเทาการระคายเคือง
         6.Hydrolyzed Opuntia Ficus Indica Flower Extract นวัตกรรมการสกัดจากดอกไม้ ช่วยลดความหมองคล้ำ ลดเลือนรอยด่างดำ เป็นสารสกัดที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับสภาพผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย
         7.Niacothinamide Acid หรือวิตามินบี 3 ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง รอยดำ เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน
         ด้วยสารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวนี้เองที่จะช่วยในการแก้จุดบกพร่องในชั้นผิวอย่างล้ำลึก จึงทำให้ครีมขาลาย molli dolly clear spot ใช้รักษาขาลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ถ้าอยากให้ปัญหาขาลายถูกจัดการไปอย่างรวดเร็วและได้ผลดีมากขึ้น 

 

ส่วนประกอบของ Molli Dolly Fruity Peel
         1.Lactic Acid สกัดด้วยกระบวนการบ่ม ของอาหารกลุ่มนม  มีฤทธิ์สามารถเร่งการผลัดเซลล์ผิว (peeling) โดยการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และมีสีโทนเดียวกัน (even-tone) มากขึ้น
         2.Sodium PCA เป็นสารที่เกิดตามธรรมชาติภายใน ผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งจะช่วย  รักษาสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
         3.Sodium Lactate ช่วยกักเก็บความชื้นและต่อต้านแบคทีเรีย สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว  ด้วยการลดปริมาณการสูญเสียน้ำ เหมาะกับผิวแห้งกร้าน แตกลาย
         4.Glycolic Acid สกัดจากอ้อย สำหรับเร่งการผลัดเซลล์ผิว
         5.Aqua น้ำแร่ มีคุณสมบัติในการเสริมการปกป้องผิวตามธรรมชาติ และช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว บรรเทาการระคายเคือง
         6.Collagen Amino Vitamin E จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระจากปัจจัยภายนอกอันก่อนให้เกิดผิวแก่ก่อนวัย ซึ่งช่วยให้ คงผิวสวยให้ยาวนานขึ้น
         7.Glycerin สกัดจากพืชเช่นมะพร้าว หรือถั่วเหลือง มีคุณสมบัติเป็นสารกักเก็บและดูดความชื้นสู่ผิว ช่วยการทำละลาย และเป็นสารหล่อลื่น ที่ช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์นุ่มลื่นน่าใช้ เหมาะกับผิวทุกประเภทแม้ผิวที่เบาะบาง
 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ขาลายเกิดขึ้นได้อย่างไร ทาครีมแบบไหนถึงจะหาย

         ขาลายเป็นอีกหนึ่งปัญหายอดฮิตที่หลายคนแก้ไม่ตก เพราะปัญหาขาลาย น่องลาย เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งยังต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา บางคนรักษากันเป็นปีๆกว่าจะหาย ทั้งนี้ ขาลายที่เกิดขึ้นเป็นภาวะที่ทางการแพทย์เรียกว่า “stria distensae” เป็นความผิดปกติเกิดขึ้นจากเส้นใยที่อยู่ใต้ผิวหนังที่เรียกว่า เส้นใยใต้ผิวหนัง (collagen และ elastic fibers) เป็นภาวะที่พบได้ ในเด็กผู้หญิงถึงร้อยละ ๓๕ และเด็กผู้ชายได้ถึงร้อยละ 15 ตั้งแต่ อายุ 9-16 ปี การใช้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสตีรอยด์ ทั้งรับประทานและทาก็เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะเช่นนี้
        ในหญิงตั้งครรภ์นอกจากจะเกิดปัญหาท้องลายแล้ว ผิวที่บริเวณน่องขาก็เกิดปัญหารอยแตกลายได้บ่อย อย่างไรก็ตาม ขาลายที่เริ่มต้นจากสีแดงหรือม่วงจะค่อยๆจางไปได้เอง แม้ว่าจะไม่หมดไปเสียทีเดียว นอกจากนั้น สิ่งที่จะทำให้เกิดขาลายได้ก็คือการที่ภาวะน้ำเหลืองผิดปกติ ซึ่งมักจะเป็นมาตั้งแต่กำเนิด กรณีนี้จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อถูกยุงกัดหรือแมลงกัดต่อย ผิวหนังมักเป็นรอยแดงช้ำและมีน้ำเหลืองไหลออกมา หากเป็นเช่นนี้จำเป็นต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาให้ถูกต้อง


การใช้ครีมแก้ขาลาย

        การใช้ครีมแก้ขาลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมกันมาก เนื่องจากจะเป็นการเติมเต็มร่องแตกลาย ปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนใส ได้ผิวเรียบเนียน มีความชุ่มชื้น และเกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงทำให้การแก้ปัญหาขาลายเป็นไปอย่างราบรื่น แม้บางคนจะต้องใช้เวลานานแต่อาการก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวจะช่วยยับยั้งการเกิดรอยแตกลายใหม่ โดยส่วนใหญ่ครีมแก้ขาลายมักส่วนผสมดังนี้
        1.Vitamin B3 ช่วยยับยั้งการถ่ายโอนเม็ดสีไปแสดงผลยังเซลล์ผิว ให้ผิวแลดูขาว เปล่งปลั่ง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
        2.Vitamin C เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้ผิวใส เนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยในการรักษารอยแตกลายให้หายเร็วยิ่งขึ้น
        3.Ranexamic ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนัง ทำให้ผิวแลดูขาวขึ้น ฝ้า กระ และจุดด่างดำดูจางลง แก้ปัญหาขาลายได้เป็นอย่างดี
        4.Odium PCA ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ไม่แห้งกร้าน ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น ขาลายแลดูจางลง และยับยั้งการเกิดรอยใหม่
        5.Salicylie Acid เป็น BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกมาก่อน เพื่อเผยผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม ขาวใส ดูเรียบเนียนขึ้น

        6.Glycolie Acid เป็นน้ำตาลที่ได้จากอ้อย มีโครงสร้างเล็ก เพื่อลงไปทำงานใต้ผิวได้ลึก ทำให้ผิวเกิดการกระตุ้นให้หลุดลอกออก เผยให้ผิวนุ่ม ขาวใส และริ้วรอยค่อยๆจางลง
        7.Hydrolyzed Opuntia Ficus Indica Flower Extract เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวค่อยๆผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกมา เผยผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์ และนุ่มนวล ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
        อย่างไรก็ดี สภาพผิวและความรุนแรงของปัญหาขาลายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงทำให้ผลลัพธ์ในการใช้ครีมแก้ขาลายไม่เหมือนกัน บางคนใช้เวลาไม่นานรอยแตกลายที่น่องขาก็แลดูจางลง ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นปีๆ
        ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณขาหรือครีมแก้ขาลายมากมายที่จำหน่ายตามท้องตลาด โดยมีส่วนผสมจากหลายชนิด ซึ่งแต่ละคนตัวต่างก็อ้างสรรพคุณแสนวิเศษกันทั้งนั้น จึงอยากเตือนท่านผู้อ่านให้ใช้อย่างระมัดระวัง หากพบว่าเกิดการระคายผิวหรือมีอาการแพ้ ควรหยุดใช้แล้วเปลี่ยนทันที โดยเฉพาะผู้ที่ระบบน้ำเหลืองผิดปกติควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญควบคู่กันไปด้วย จึงจะทำให้การแก้ปัญหาขาลายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.