อาหารเสริมหน้าใส กับวิธีปฏิบัติตนให้ผิวสวยสุขภาพดี

         เมื่อพูดถึง “อาหารเสริมหน้าใสหลายคนอาจส่ายหน้าด้วยทัศนคติที่ว่า อาหารเสริมไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิต แถมบางคนอาจคิดไปเสียว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นภัยคุกคามอย่างหนึ่งที่หากได้ลองรับประทานแล้วจะเกิดผลเสียต่อร่างกาย จริงๆแล้วอาหารเสริมถือเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ใช้รับประทานโดยตรงนอกเหนือจากการรับประทานอาหารหลักตามปกติเพื่อเสริมสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย โดยมิใช่ยาสำหรับผู้ป่วย และอาหารเสริมที่แท้จริงจะไม่ทำร้ายสุขภาพของผู้บริโภคแต่อย่างใด

         แต่กระนั้นก็ดี จะอธิบายอย่างไรคนที่มีอคติก็คงไม่เข้าใจ ดังนั้น เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เราจะมาพูดถึงการทำให้ผิวหน้าสวยสดใส แบบไร้ที่ติกันเลยทีเดียว ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ที่จะส่งเสริมให้ผิวหน้าขาวสวยเนียนใสมากขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้อาหารเสริมหน้าใสอย่างถูกวิธี ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย

วิธีปฏิบัติตนให้ผิวหน้าสวยใส ไร้ที่ติ
         1.ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพราะการนอนดึกจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายเสื่อมโทรม ทำให้มีอายุสั้นลง ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานไม่เป็นปกติ ที่สำคัญยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว
         2.ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ทำให้สุขภาพผิวดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

         3.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะจะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้หน้าดูสดใส น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้นไม่เหี่ยวย่นด้วย ซึ่งถ้าหากร่างกายมีน้ำเพียงพอก็สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ออกมาได้มาก
         4.รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี่ มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงต้านทานโรคต่างๆ ทำให้ผิวสวย ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
         5.ทำจิตใจให้ร่าเริง สดชื่น แจ่มใส มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ และยังช่วยชะลอวัยได้ด้วย
         6.ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอัยควร หน้าตาไม่สดใส และมีสิวอุดตันตามมา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง เพราะเหล้าและบุหรี่มีผลเสียหลายต่อสุขภาพในร่างกายของเรามาก

         7.หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดๆ เพราะแสงแดดจะทำให้หน้าเราหมองคล้ำได้ เมื่อออกกลางแจ้งควรสวมแว่นตาและกางร่ม (ร่มกัน UV ก็มีนะ) และทาครีมกันแดดด้วย นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ โดยไม่จำเป็น เช่น ฝุ่น ควัน เป็นต้น
         8.ไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ก่อนล้างหน้าควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนทุกครั้ง และควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง แต่ไม่เกิน 3 ครั้งเพราะจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ ที่สำคัญเมื่อล้างหน้าเสร็จควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผิวหน้าสะอาดปราศจากสารตกค้างแล้วจริงๆ

         9.หมั่นบำรุงผิว โดยเฉพาะหลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า เพื่อป้องกันริ้วรอยและรอย
         10.ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน

เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยอาหารเสริมหน้าใส
         เมื่อปฏิบัติตนให้ผิวหน้าสวยใสกันไปแล้ว ถ้าอยากให้สุขภาพผิวดีมาจากข้างใน ด้วยการเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ฟื้นบำรุงผิวไม่ให้หมองคล้ำ ได้รับปกป้องอันตรายที่เกิดจากมลภาวะและอนุมูลอิสระ การใช้อาหารเสริมหน้าใสถือเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณ โดยเฉพาะในคนยุคนี้ที่ไม่ค่อยนิยมรับประทานผักผลไม้แบบสดๆ จึงสมควรอย่างยิ่งยวดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวหน้าด้วยอาหารเสริม อย่างไรก็ตาม การเลือกอาหารเสริมหน้าใสที่ดี ควรเลือกด้วยเหตุผลดังนี้
         1.ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีงานวิจัยรองรับ เชื่อถือถือได้ มีผลดีต่อสุขภาพผิว ไม่ทำร้ายผิวแม้เป็นคนผิวบอบบาง แพ้ง่าย
         2.ไม่มีการสะสมในร่างกาย และส่งผลเสียต่อตับ อาหารเสริมหน้าใสที่ดีต้องไม่ทำร้ายสุขภาพ โดยเฉพาะตับ ต้องไม่มีสารตกค้างที่สะสมในร่างกาย ฉะนั้น ควรดูที่สลากให้ดีว่าห้ามรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานหรือไม่
         3.ไม่มีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม อาหารเสริมหน้าใสบางตัวอาจมีการผสมสารสเตียรอยด์มาด้วย ซึ่งไม่ใช่สารสกัดธรรมชาติที่ดีต่อร่างกาย ทั้งยังสะสม และส่งผลเสียต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ทำ IPL หน้าใสปิ๊ง สั่งได้ดังใจ

         ปัจจุบันมีวิธีการทำให้ผิวหน้าขาวใสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมหรือเซรั่มบำรุงผิว การรับประทานอาหารเสริม หรือแม้แต่การใช้สูตรพอกผิวหน้าแบบโฮมเมด ทั้งนี้ วิธีดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้หน้าใสปิ๊ง จึงเกิดเป็นนวัตกรรมเลเซอร์ผิวขึ้น วิธีนี้ไม่ต้องรอนานก็เห็นผลชัดเจน โดยนวัตกรรมที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ การทำ IPL ที่ใช้แก้ปัญหาผิวบนใบหน้าได้สารพัด ทั้งยังเป็นวิธีที่ใช้กันในระดับสากล


การทำ IPL คืออะไร

         การทำ IPL (Intense Pulsed Light) เป็นเครื่องมือที่พัฒนามาจากการทำเลเซอร์ ผลิตขึ้นโดยการปล่อยลำแสงที่ไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นหลายช่วง ตั้งแต่ 500 – 1,200 นาโนเมตร สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาผิวพรรณได้มากมาย การใช้การปรับแต่งลำแสงมาแก้ปัญหานั้น จะมีฟิลเตอร์ (Filter) เป็นตัวกรองคลื่นแสงให้อยู่ในช่วงความยาวคลื่นที่ต้องการ โดยใช้หลักการดูดพลังงานแสงของส่วนประกอบของผิวที่แตกต่างกัน (selective photothermolysis) เช่น ฮีโมโกลบินในเส้นเลือด หรือเมลานินในเม็ดสี เมื่อเป้าหมายที่ต้องการดูดพลังงานแสงเข้าไปก็จะเกิดความร้อน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ
         การทำ IPL ใช้รักษาได้ทั้ง กระตื้นและรอยดำโดยการทำลายเม็ดสีที่เข้มผิดปกติให้หลุดลอกออก จัดการริ้วรอยเล็กๆ และริ้วรอยรอบปาก โดยเข้าไปกระตุ้นให้ผิวชั้นกลางสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ริ้วรอยเล็กๆ ก็จะลดลง และยังช่วยรักษารอยแดง เส้นเลือดแดงฝอยเล็กๆ ฝ้าเส้นเลือด โดย IPL จะทำลายเส้นเลือดฝอยเล็กและทำให้เส้นเลือดหดเล็กลง รวมถึงการทำให้รูขุมขนที่กว้างจะกระชับเล็กลง พร้อมๆกับปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ได้หน้าใสปิ๊งได้ดังใจต้องการ

ขั้นตอนการทำ IPL
         ในการรักษาไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา แต่จะมีการทาเจลเย็นตรงบริเวณที่จะทำการรักษา ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บ และให้สวมแว่นดำเพื่อป้องกันแสงสว่างที่เกิดจากเครื่อง IPL จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะกำหนดพลังงานแสงที่ตรงกับปัญหาที่ต้องการรักษา แล้วนำหัว IPL มาวางทาบบริเวณที่รักษา และปล่อยลำแสงออกมา แสงที่ออกมาจะมีความจ้ามากคล้ายกับแสงแฟลชถ่ายภาพ ขณะที่แสงถูกปล่อยออกมา จะรู้สึกเหมือนถูกหนังยางดีดเบาๆ และอุ่นเล็กน้อยบนผิว
         การทำ IPL อาจใช้เวลาตั้งแต่ 15-30 นาที และจำนวนครั้งที่ทำก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว บางรายทำเพียงครั้งเดียว บางคนต้องทำต่อเนื่องแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปจะเห็นผลเร็วหลังจากทำ 1-2 ครั้ง โดยทำทุก 2 สัปดาห์ ต่อครั้งในระยะแรก สำหรับผลข้างเคียงอาจพบในบางราย เช่น หลังทำจะรู้สึกร้อนที่ผิวประมาณ 20-30 นาที มีรอยแดงบางบริเวณซึ่งจะหายไปในเวลา 2–3 ชั่วโมง ในคนที่รักษากระตื้นจะเกิดสะเก็ดหลังทำอยู่ประมาณ 3-7 วัน
         อย่างไรก็ตาม หลังทำ IPL ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ และต้องทายากันแดดเป็นประจำ รวมทั้งควรดูแลผิวอย่างถูกต้องโดยไม่รบกวนผิวหรือขัดถูหน้าแรงๆ ที่สำคัญควรมีการทาครีมบำรุงผิว (Moisturizer) ด้วย นอกจากนี้ยังควรรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะพวกผักไม้ที่ให้วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้การได้หน้าใสปิ๊ง ขาวสวยอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

ทำ IPL แล้ว อย่าลืมบำรุงผิวจากภายใน
         เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากจะทำ IPL ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาผิวจากภายนอกแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การบำรุงผิวให้สุขภาพดีออกมาจากข้างใน โดยการรับประทานน้ำเปล่ามากๆ และการรับประทานอาหารที่ให้วิตามินซี ไลโคปีน และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยให้ผิวหน้าใสปิ๊งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ หากใครไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ก็สามารถใช้อาหารเสริมแทนได้

         

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ผิวหมองคล้ำ อยากได้หน้าใสปิ๊ง ต้องทำไง

         ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันว่า “ผิวหมองคล้ำ” ไม่ได้หมายถึงผิวสีน้ำผึ้งหรือผิวสีแทนที่ฝรั่งตาน้ำข้าวนิยมชมชอบกัน แต่มันคือการที่ผิวของคุณได้รับความเสียหายจากปัจจัยต่างๆจนทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำดำเสีย และอาจยกระดับเป็นปัญหาผิวตามมา เช่น ปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น นอกจากนี้หากใครปล่อยให้ผิวคล้ำเสียอย่างรุนแรง (โดยเฉพาะคนที่ชอบโดนแดดจัด) ก็อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้


ปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวหมองคล้ำ

1.แสงแดด เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เพราะผิวจะเริ่มคล้ำเสียหลังจากที่ถูกแดดแรงๆเพียง 60 วินาที โดยผิวจะเริ่มเกิดอาการแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สภาพผิวเช่นนั้นเป็นสัญญาณเตือนว่าเซลล์ผิวกำลังถูกทำลาย และถ้าหากยังคงชะล่าใจไมทำการป้องกัน ก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ
2.การไม่ล้างทำความสะอาดใบหน้าก่อนเข้านอน การทาบีบีครีม ครีมรองพื้น เครื่องสำอางต่างๆ อย่างซ้ำๆ และไม่ยอมล้างทำความสะอาดให้หมดจดก่อนเข้านอนจะส่งผลให้เกิดปัญหาสิว จากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำในท้ายที่สุด
3.รังสียูวีและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเฉพาะจากคอมพิวเตอร์ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ จะส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำขึ้นได้โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว
   4.ความเครียด เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อความสวยความงาม และสุขภาพโดยรวม เพราะความเครียดจะส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ แถมยังบั่นทอนสุขภาพอีกด้วย

5.พักผ่อนไม่เพียงพอ การพักผ่อนน้อยก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความหมองคล้ำได้เช่นกัน สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือบริเวณใต้ตาจะมีความดำคล้ำ ถ้าหากปล่อยไว้จะทำให้หน้าหมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
6.ขาดน้ำ การได้รับน้ำปริมาณน้อยในแต่ละวัน จะทำให้ผิวเกิดความแห้งเสียหมองคล้ำได้ง่าย ฉะนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ หรือในคนทั่วไปควรดื่มอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน ก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว การที่ผิวหมองคล้ำอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพภายใน เช่น ระบบอวัยวะภายในที่ทำงานอย่างผิดปกติ ระดับฮอร์โมนแปรปรวน เป็นต้น หรืออาจเกิดจากการแพ้สารเคมีบางชนิด โดยเฉพาะในเครื่องสำอางค์


วิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้หน้าใสปิ๊ง

เมื่อทราบกันถึงสาเหตุกันไปแล้ว วิธีการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้ได้หน้าใสปิ๊งกลับคืนมา ทำได้ง่ายๆเพียงแค่คุณหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว แล้วบำรุงผิวให้สุขภาพดีขึ้น การมีหน้าใสไร้ปัญหาผิวหมองคล้ำก็จะเป็นของคุณได้ไม่ยาก ทว่าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น ต้องทำงานออกแดดเป็นประจำ ก็ควรใช้ครีมกันแดด และสวมหมวกสักใบ หรือสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ก็ควรนั่งให้หากจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 14-24 นิ้ว พร้อมปรับค่าความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เป็น 0 ก็จะสามารถช่วยลดแสงที่ทำให้ผิวคล้ำผิวเสียได้มากถึง 80%
นอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงแล้ว ถ้าอยากได้หน้าใสปิ๊ง ก็ควรทำการฟื้นฟูผิวเป็นประจำด้วยครีมบำรุงผิว รวมทั้งการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว โดยเฉพาะผักใบเขียวที่จะช่วยให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น ควบคู่ผักสีเหลืองส้ม เช่น แครอท ฟักทอง ข้าวโพด ที่มีเบต้าแคโรทีนบำรุงให้ผิวสวย และรับประทานผักผลไม้สีแดงจำพวก แอปเปิ้ล ทับทิม มะเขือเทศ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีช่วยฟื้นบำรุงผิว

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาหารต่อต้านริ้วรอย วิธีทำให้หน้าใสง่ายๆ ที่ใครก็มองข้าม

ในยุคที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการเดินทางบนท้องถนน และบนโต๊ะในสถานที่ทำงานของสังคมเมือง ได้ทำให้วิธีการทานอาหารของคนเราเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จากอาหารปรุงเองในครอบครัว กลายเป็นอาหารตามสั่ง และสุดท้ายกลายมาเป็นอาหารจานด่วนอย่างพวก fast food ในปัจจุบัน

ซึ่งความรวดเร็วของอาหารที่มากขึ้นในราคาที่ถูกนั้น หมายความว่าสารอาหารที่ร่างกายจะได้รับในแต่ละวันเพื่อนำไปใช้ในการสร้างเสริม ซ่อมแซม และยกกระชับใบหน้านั้นให้สดใสเปล่งปลั่งนั้น ย่อมไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ผิวหน้าของเราอ่อนแอลงอย่างมากอีกด้วย

ดังนั้น สำหรับคุณสาวๆ ที่ต้องการจะมีใบหน้าที่สดใสแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามมากที่สุดก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ผิวหน้าต้องการอย่างครบถ้วน เพื่อเป็นการช่วยบำรุงรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพแข็งแรง สดใส เปล่งปลั่ง ดังต่อไปนี้

อาหารที่ผิวหน้าต้องการในแต่ละวัน

จากการศึกษาพบว่า อาหารที่มีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้สดใส และช่วยในการต่อต้านริ้วรอยอย่างได้ผล คือ อาหารในตระกูลของผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันต่ำ สารอาหารจากเหล่านี้ยังช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณสาวๆ มีความแข็งแรงมากพอที่จะต่อต้านสิ่งที่จะมาทำร้ายผิวหน้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแสงแดดนอกบ้านในตอนกลางวัน ที่ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อสุขภาพผิวเลยทีเดียว สำหรับประเภทของอาหารที่แนะนำให้ทาน มีดังต่อไปนี้

1. ผักใบเขียว หรือผักสีเขียว เช่น บล็อกโคลี่ คะน้า เป็นต้น ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการเสื่อมของผิวจากอายุที่มากขึ้น
2. ถั่ว เช่น วอลนัท อัลมอนด์ พีแคน เป็นต้น มีกรดโอเมก้าทรี วิตามินบี และยังช่วยควบคุมระดับฮอโมนต์ที่เกิดขึ้นจากความเครียด ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้ผิวไม่สดใสได้อีกด้วย
3. น้ำมันมะกอก ถึงจะเป็นน้ำมันจากพืชที่แม้ว่าจะมีจำนวนแคลอรี่ที่สูง แต่ก็เป็นไขมันไม่อิ่มตัวและเป็นกรดไขมันชั้นดีที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในการควบคุมระดับคอลเลสเตอรอลในเลือด ช่วยในการป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ทให้ผิวจึงดูสดใส ชุ่มชื้น และดูอ่อนกว่าวัย
4. เม็ดธัญพืช หรือเม็ดข้าว เช่น เม็ดข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วเขียว งาดำ งา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดผักทอง เป็นต้น อุดมไปด้วยวิตามินบี และวิตามินอี ช่วยในการรักษาความแข็งแรงของเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดขึ้นจากมลภาวะที่ต้องพบในระหว่างวัน นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ที่สามารถช่วยในการขับสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผิวดูสดใสมากขึ้นอีกด้วย
5. อาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า กุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ที่ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ร่างกายที่เกิดการเสื่อมโทรม ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกาย
6. ผลไม้สด เช่น ส้ม แอปเปิ้ล มะละกอสุก ฝรั่ง อโวคาโด แตงโม มะนาว เป็นต้น มีวิตามินซีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยในการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณของใบหน้าดูสดใส และเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
7. น้ำสะอาด หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอในแต่ละวันก็จะทำให้ผิวพรรณไม่สดใสอย่างที่ควร การดื่มน้ำที่เพียงพอยังช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และป้องกันเซลูไลต์ได้อีกด้วย ซึ่งปริมาณของน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 8 แก้ว และควรดื่มด้วยวิธีการจิบทีละน้อย อย่าดื่มรวดเดียวในปริมาณมากๆจะส่งผลดีกับร่างกายมากกว่า
8. ชาเขียว มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมาก ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้ผิวสวยสดใสมากยิ่งขึ้น
9. น้ำมะพร้าว ในน้ำมะพร้าวจะประกอบด้วยสารเอสโตรเจนที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเนียนสดใสมากขึ้น
10. หอยนางรม อุดมไปด้วยซิงค์ คอปเปอร์ (สังกะสี) ที่ทำหน้าที่ในการต่อต้านการเกิดสิว และช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
11. หัวมัน เช่น มันเทศ มันฝรั่ง เป็นต้น อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ให้กับผิวหนัง นอกจากนี้ยังมี ซิงค์ คอปเปอร์ (สังกะสี) ช่วยในการบำรุงผิวหนัง แต่อาหารที่ทำจากมันฝรั่งควรเป็นการอบเท่านั้น หากเป็นมันฝรั่งทอดกรอบ หรือถูกแปรรูปเป็นเฟรนช์ฟราย จะกลายเป็นการเพิ่มปริมาณเกลือและไขมันจากน้ำมันให้กับร่างกายโดยไม่ทันรู้ตัว
12. พริกหวาน ให้วิตามินซีมากกว่าสูงมากกว่าส้มถึง 2-3 เท่า ซึ่งจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวมีสุขภาพดี และช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดอีกด้วย
13. โยเกิร์ต ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ผิวพรรณสดใส สุขภาพดี และไม่หมองคล้ำ

การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องในแต่ละวัน จะเป็นการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าของคุณสาวๆแข็งแรง หน้าใส และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง พร้อมยังเป็นการช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายจากมลภาวะในสิ่งแวดล้อมที่ต้องพบในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.