อาหารแคลอรีต่ำ ที่จะช่วยให้หุ่นฟิตแอนเฟิร์ม

         “ใครอยากหุ่นดียกมือขึ้น” เมื่อสาวๆได้ยินประโยคนี้คงหูผึ่งขึ้นมาทันที เพราะไม่ว่าใครต่างก็อยากได้รูปร่างที่ดูดี ฟิตแอนเฟิร์มกันทั้งนั้น แต่ถามว่ายากแค่ไหนกับการทำให้ตัวเองดูดี บอกได้เลยว่าไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย เนื่องจากถ้าอยากหุ่นดีต้องมีความอดทนในการควบคุมอาหาร ไม่ตามใจปาก รับประทานอาหารแคลอรีต่ำ มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นหลัก หลังจากนั้นก็เสริมด้วยการออกกำลังกายในแบบที่ชอบ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ฝึกโยคะ เต้นแอโรบิค ฯลฯ เพียงแค่นี้คุณก็จะพิชิตหุ่นผอมเพรียวดูดีได้ไม่ยาก
         ในเมื่ออาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญต่อการมีรูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์ม บทความนี้จึงได้รวบรวมสุดยอดเมนูอาหารแคลอรีต่ำมาให้ท่านผู้อ่านได้ทำความรู้จัก หากท่านชอบใจเมนูไหนก็ไปหามารับประทานได้เลย

อาหารแคลอรีต่ำ ที่ควรรับประทาน

         1.ไข่ เมนูอาหารจานไข่ให้แคลอรีต่ำเพียง 70-80 แคลอรีต่อหนึ่งฟอง ซึ่งไข่เป็นอาหารที่ทำง่ายและมีอยู่เกือบทุกเมนู แต่ถ้าจะให้ดีควรเน้นการปรุงด้วยวิธีอบ ต้ม นึ่งจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นอาหารแคลอรีต่ำจะกลายเป็นอาหารเพิ่มความอ้วน ดังนั้น ควรเปลี่ยนจากเมนูไข่ดาวหรือไข่เจียวมาเป็นไข่ลวก ไข่ต้ม ไข่ตุ๋นแทน สารพัดไข่เหล่านี้จะทำให้ได้รับแคลอรีไม่เกิน 100 แคลอรี่แน่นอน
         2.เห็ด เป็นอาหารแคลอรีต่ำโดยให้พลังงาน 15 แคลอรี่ต่อ 1 ถ้วยตวง โดยเห็ดเป็นอาหารที่มีเนื้อมากแต่ให้พลังงานต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ เห็ดที่แนะนำให้รับประทาน ได้แก่ เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง เห็ดฟาง เห็ดนางรมหลวง เป็นต้น เพราะหาซื้อได้อย่างง่าย ราคาไม่แพง นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รวมทั้งมีโพแทสเซียม วิตามินบีต่างๆ และใยอาหารอีกด้วย
         3.บร็อคโคลี ผักชนิดนี้ให้พลังงานเพียง 30 แคลอรี่ต่อถ้วย โดยอาหารแคลอรีต่ำนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการสุดยอดอาหารสารพัดประโยชน์ อุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ แต่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในบร็อคโคลีนี้สามารถช่วยบรรเทามะเร็งเต้านมและช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ได้
         4.ขนมปังโฮลวีต ให้แคลอรีโดยประมาณ 140 แคลอรีต่อ 2 ชิ้น แม้ว่าหลายคนจะบอกไว้ว่าการลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้นจะต้องตัดคาร์โบไฮเดรตออกไป แต่ก็ใช่ว่าคาร์โบไฮเดรตจะไม่มีส่วนสำคัญกับร่างกายเสียเมื่อไหร่ เพราะดีไม่ดีงดแป้งไปอาจทำให้เกิดโยโย่และกลับมากินหนักกว่าเดิมก็เป็นได้ ดังนั้น ลองเปลี่ยนมารับประทานคาร์โบเดรตที่ดีกับร่างกายของเรากันดีกว่า ซึ่งขนมปังโฮลวีตเป็นอาหารแคลอรีต่ำที่ดีเยี่ยม ช่วยในการรักษาหุ่นให้ดูดีอยู่เสมอ

         5.บลูเบอร์รี่ อีกหนึ่งอาหารแคลอรีต่ำให้พลังงานแค่ 85 แคลอรี่ และมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ ทั้งยังให้รสชาตแสนอร่อย เป็นของว่างที่รับประทานแล้วสดชื่น อุดมสมบูรณ์ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน เกลือแร่ และสิ่งที่ร่างกายต้องการ โดยสามารถรับประทานบลูเบอร์รี่สดเป็นอาหารว่างยามบ่าย หรือนำมาผสมกับโยเกิร์ตและซีเรียลในมื้อเช้าเพื่อสุขภาพก็ได้
         6.มะเขือเทศ ผักที่หลายคนไม่ค่อยปลื้มนในรสชาตแสนเปรี้ยวนี้ให้พลังงานเพียง 22 แคลอรี่ต่อมะเขือเทศขนาดกลางหนึ่งผล ซึ่งมีสารอาหารอย่างไลโคปีนหรือสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้น้อยมากในอาหารชนิดอื่น งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าไลโคปีนสามารถช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวี ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด และช่วยทำให้ปริมาณโคเลสเตอรอลต่ำลงได้ นอกจากนี้ มะเขือเทศยังมีโพแทสเซียม วิตามินซี และใยอาหารในปริมาณที่สูง
         7.น้ำเปล่า ขอตบท้ายกันด้วยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากๆ โดยเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ ที่สำคัญยังไม่มีแคลอรีให้คุณต้องกังวลใจอีกด้วย เพราะน้ำเปล่าให้พลังงาน 0 แคลอรี แต่ประโยชน์ของน้ำนั้นมีมากมายหลายอย่าง เช่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยชะลอความแก่ ช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดน้ำหนัก และอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ส้มป่อยลดน้ําหนักได้จริง หรือแค่อิงกระแส

            หลายคนมักสงสัยกันว่าส้มป่อยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่ใช้ส่วนผสมจากใบส้มป่อยวางจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด โดยเฉพาะในร้านค้าออนไลน์ ทั้งยังอ้างสรรพคุณสุดวิเศษ สามารถช่วยให้ลดความอ้วนได้จริง รับประทานเพียงไม่กี่วันก็เห็นผล เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ปลอดภัยจากผลข้างเคียง นอกจากส้มป่อยลดน้ำหนักแล้ว บางคนยังบอกว่าทำให้ผิวให้ขาวอมชมพู เปล่งประกายขึ้น จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ที่บอกว่าส้มป่อยลดน้ำหนักได้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆกัน
  “ส้มป่อย” เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือไม้พุ่มรอเลื้อยทอดลำต้นเกาะเกี่ยวขึ้นไป เป็นพืชสมุนไพรที่สูงประมาณ 3-6 เมตร ขึ้นทั่วไปในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ มีความทนทานต่อสภาพแห้งแล้ง โดยสมุนไพรส้มป่อยให้สรรพคุณมากมายต่อร่างกาย จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งราก ต้น ใบ ดอก และยอดส้มป่อย
ทั้งนี้ ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้ใบส้มป่อยนั้น จริงๆแล้วใบของมันมีรสเปรี้ยว ฝาดเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะ ฟอกโลหิต แก้บิด แก้ท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ล้างพิษในร่างกาย ล้างของเสียในลำไส้ได้ และเนื่องจากคุณสมบัติในการช่วยล้างพิษ ดีท็อกซ์ร่างกาย ขับถ่ายคล่องนี่เองที่ทำให้ผู้ประกอบนำมาเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ซึ่งก็สามารถทำให้เราลดน้ำหนักได้ แต่ช่วยได้ไม่มาก อย่างไรก็ตาม ส้มป่อยมีประโยชน์อีกหลากหลายด้านที่ท่านอาจไม่ทราบ

ประโยชน์จากส้มป่อย
   1.ใบของส้มป่อย ถือเป็นผักที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ผลจากการทดสอบฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของยอดส้มป่อยพบว่ามีสูงมาก และยังมีสารซาโปนินที่ทำให้ทีเซลล์ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้นด้วย
 2.ยอดอ่อนและใบอ่อน สามารถใช้เพื่อดับกลิ่นคาวปลาได้
 3.ฝักแก่แห้งนำมาต้มเอาน้ำใช้สระผมแก้รังแค แก้อาการคันศีรษะ บำรุงเส้นผม ทำให้ผมชุ่มชื้นเป็นเงางาม เป็นยาปลูกผม และป้องกันผมหงอกก่อนวัย
 4.ใบส้มป่อยถูกนำมาใช้ในสูตรยาอบสมุนไพร โดยจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยชำละล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความต้านทานโรคให้กับผิวหนัง แก้ปวดเมื่อย และช่วยแก้หวัดได้ และยังถูกนำมาใช้ในสูตรยาลูกประคบสมุนไพรเพื่อเป็นยาแก้โรคผิวหนัง บำรุงผิว ลดความดัน

 5.ใบส้มป่อยสามารถนำมาสกัดทำเป็นสีย้อมเส้นไหมได้ โดยสีที่ได้คือสีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลอ่อน หรือสีครีม
มาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านคงหายสงสัยแล้วว่าเหตุใดผู้ประกอบการถึงใช้ส้มป่อยมาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ก็เนื่องด้วยส้มป่อยสามารถทำให้ระบบขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี การลดน้ำหนักของเราจึงได้ผลมากขึ้น แต่ก็ไม่มากเท่าที่ควร หากท่านอยากใช้ส้มป่อยลดน้ำหนัก และทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แนะนำให้รับประทานส้มป่อยจากเมนูอาหารทั่วไปจะส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าการสกัดเอาใบของมัน และก่อนจากกันวันนี้เรามีอาหารสุขภาพที่ทำจากส้มป่อยมาให้ผู้ได้รับประทานเพื่อสุขภาพที่ดีกันถ้วนหน้า

ส้มป่อยกับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
          1.ต้มส้มป่อย ส่วนผสมคือ ปลาช่อน 1 ตัวหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ยอดส้มป่อย 1 กำ พริกสด 5 เม็ด กระเทียม 1 หัว ข่า 3 แว่น ตะไคร้ 1 ต้น เกลือ น้ำปลา วิธีทำให้บุบพริกสด กระเทียม ตะไคร้ ลงในหม้อ ใส่น้ำครึ่งหม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่ปลาลงไป ปรุงด้วยเกลือ น้ำปลา ใส่ยอดส้มป่อย สักพักยกลงจากหม้อ พร้อมรับประทาน

          2.แกงส้มปลาดุกใส่ยอดส้มป่อย ส่วนผสมได้แก่ ปลาดุก 1 ตัวหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ยอดส้มป่อย 1 กำ เครื่องแกงส้มตามใจชอบ ผักชี ผักชีฝรั่ง ต้นหอม มะเขือเทศ น้ำมะนาว ผักบุ้งหรือมะละกอสำหรับแกงส้ม โดยให้เริ่มจากตำเครื่องแกงให้ละเอียดผสมน้ำครึ่งหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่ปลาดุก ใส่น้ำมะนาวเพื่อดับกลิ่นคาวปลา ต้มให้ปลาสุก ใส่ผักสำหรับแกงส้ม ผักชีซอย ต้นหอมซอย มะเขือเทศ ยอดส้มป่อย ปรุงรสให้อร่อยเป็นอันเสร็จ
          3.ข้าวผัดดอกส้มป่อยหรือข้าวผัดปลาส้มแม่ม่าย ใช้ส่วนผสมได้แก่ ดอกส้มป่อย กระเทียม เกลือ น้ำตาลทรายแดง ข้าวสวย และน้ำมันพืช วิธีทำให้นำดอกส้มป่อยมาล้างให้สะอาด จากนั้นแกะกระเทียมลงผัดในหม้อน้ำมันตามด้วยข้าวสวยและดอกส้มป่อย ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทรายแดง จะมีสีชมพู รสชาติเปรี้ยวนิดๆเหมือนปลาส้ม จึงได้ชื่อว่าปลาส้มแม่ม่าย
          4.ยอดส้มป่อยอ่อง ส่วนผสมคือ ยอดส้มป่อย หอมแดง กระเทียม มะเขือเทศ พริกขี้หนู เกลือ น้ำตาลทรายแดง ปลา และน้ำมันพืช โดยให้นำหอมแดง กระเทียม มะเขือเทศ พริกขี้หนูกับนำมันพืช ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง หมกไว้ให้เครื่องสุกแล้วใส่น้ำต้ม จากนั้นเอาปลามาปิ้งให้สุกและแกะเอาเนื้อปลาใส่ลงไปในหม้อต้ม ซึ่งปลาใช้เป็นปลาดุกย่างหรือปลาอย่างอื่นย่าง ปิ้ง ก็ได้ เมื่อรสชาติเข้าที่แล้วเอายอดส้มป่อยมาปิดใส่ลงไปในหม้อต้ม พร้อมรับประทานได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.