มาลดไขมันใต้ผิวหนังด้วยตัวเองกัน!

            ปัญหาของไขมันใต้ผิวหนัง ยังคงเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับสาวๆหลายคน เพราะไขมันใต้ผิวหนังนี้เองเป็นต้นตอของสาเหตุขอผิวลายต่างๆนานๆ ทั้งผิวเปลือกส้ม ผิวหนังไก่ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเจ้าไขมันใต้ผิวหนังนี้เกิดจากการที่ระบบไหลเวียนของเลือดได้ลดลง ความคั่งของน้ำเหลือง และคามไม่สมดุลของฮอร์โมน โดยสาเหตุเหล่านี้มักจะพบได้เป็นประจำตรงบริเวณที่ต้นแขน ต้นขา หลัง คอ ไหล่ท้องน้อย หรือไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ใบหน้า ถ้าหากผิวบริเวณที่กล่าวมาเริ่มมีผิวลายแล้ว แสดงว่าคุณกำลังมีไขมันใต้ผิวหนังเยอะ 

            ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ ในบทความนี้จะชวนสาวๆมาลดไขมันใต้ผิวหนังกัน ด้วยวิธีธรรมชาติที่ทำง่ายๆได้ที่บ้าน และประหยัดเงินด้วยกัน โดยวิธีมีดังนี้

1. ควบคุมอาหารและดื่มน้ำประจำ 
การควบคุมอาหารถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ โดยควรควบคุมการทานอาหารที่อุดมไปด้วย Toxin เช่น ไขมัน ของหวาน ของมัน อาหารประเภทนม เนย สุรา ของทอด หากรับประทานอาหารจำพวกนี้มากเกินไป จะทำให้ร่างกายไม่สามารถนำพลังงานไปใช้ได้ เกิดการสะสม และทำให้เกิดไขมันใต้ผิวหนังต่อมา
อีกทั้งถ้าเป็นคนที่อ้วนอยู่แล้วให้พยายามลดอาหารประเภทนี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ก็อย่าลืมดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวัน

2. นวดเบาๆตรงบริเวณที่มีไขมันใต้ผิวหนังเยอะ และหมั่นออกกำลังกาย
การนวดเบาๆบริเวณที่มีไขมันใต้ผิวหนังเยอะเองก็สามารถช่วยลดไขมันใต้ผิวหนังได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งต้องหมั่นออกกำลังหายออย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยทำให้ร่างกายนำไขมันส่วนเกินไปใช้ เป็นการช่วยลดไขมันอีกทางหนึ่ง

3. ทานอาหารเสริม, ใช้ครีมกำจัดไขมันใต้ผิวหนัง หรือการพันด้วยพลาสติก 
แม้ว่าการทาครีมสลายไขมันใต้ผิวหนัง หรือการนวดด้วยครีมในบริเวณที่มีไขมันใต้ผิวหนังอาจจะดูเหมือนว่าช่วยลดไขมันใต้ผิวหนังได้เยอะ แต่แท้ที่จริงแล้วช่วยได้เพียงน้อยนิด จนบ้างครั้งก็อาจจะช่วยไม่ได้เลยเพราะยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัด รวมทั้งการพันพลาสติก หรือเล่นเครื่องออกกำลังกายที่เป็นสายเข็มขัดเขย่าพุง
  โดยวิธีเหล่านี้อาจจะใช้เงินเยอะมาก ทางที่ดีผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูลให้ดีๆก่อน เพราะในทางการแพทย์แล้วยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดว่า ครีมลดไขมันใต้ผิวหนัง นั้นจะลดไขมันใต้ผิวหนังได้ดีเหมือนการออกกำลังกาย

 

4. Endermologie เทคนิคการนวดและดูดทั้ง 3 ทาง 
กระบวนการนี้เป็นการปรับโครงสร้างใหม่ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ผิวหนัง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยจะช่วยกำจัดไขมันใต้ผิวหนังซึ่งเป็นส่วนเกินของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนและมีรูปร่างเพรียวมากขึ้น
โดยการทำ Endermologie ควรทำครั้งละ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเห็นผลที่แน่ชัด แต่จะนานหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับร่างกายของคนทำ อีกทั้งผู้ทำก็ต้องควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วยกันด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือวิธีการลดไขมันใต้ผิวหนังเล็กๆน้อยๆ โดยแต่ละวิธีนั้นก็เป็นที่นิยมส่วนใหญ่ เมื่อได้รู้วิธีต่างๆเหล่านี้แล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่สาวๆจะเลือกสรรหาวิธีการลดไขมันใต้ผิวหนังที่เหมาะกับตน สิ่งสำคัญที่สุดของการรักษาหุ่นให้ดูดีคือการควบคุมอาหาร ทานแต่ของมีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ครีมกระชับต้นขาช่วยได้จริงหรือ?


ปัจจุบันนี้มีการโฆษณาสรรพคุณของครีมกระชับสัดส่วนต่างๆนาๆ โดยครีมกระชับต้นขาก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเมื่ออ่านสรรพคุณของยาแล้วอาจจะทึ่งกันเลยทีเดียวว่า ทำไมแค่ครีมถึงมีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ ยิ่งเป็นครีมกล่าวถึงสรรพคุณเซลลูไลท์ และขจัดผิวเปลือกส้มด้วย ก็ยิ่งทำให้ครีมนั้นมีสรรพคุณดูอลังการทันใด แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้วเพียงแค่ทาครีมจะช่วยกระชับสัดส่วนได้จริงหรือ นี่ก็อาจจะเป็นคำถามที่สาวๆหลายคนสงสัย
ความจริงแล้วครีมกระชับต้นขานั้นไม่ได้มีสรรพคุณช่วยให้ต้นขามีสัดส่วนที่ดูกระชับเต่งตึงขึ้น แต่ทำให้ผิวตรงต้นขาดูกระชับเต่งตึงขึ้นมากกว่า อย่างเช่น สาวๆบางคนมีต้นขาที่ดูหย่อนยาน เมื่อทาครีมกระชับต้นขาไป ตัวครีมก็จะทำให้ขาดูนุ่มนวลแลดูผิวกระชับมากขึ้น ตรงส่วนไหนที่ผิวมีรอยขรุขระหรือมีเซลลูไลท์ ตัวครีมก็จะแทรกเข้าไปที่ช่องว่างนั้น จึงทำให้ต้นขาดูเรียบเนียนมากขึ้น ซึ่งจะได้ผลเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น 

            แต่ถ้าหากต้องการผลระยะยาวก็ต้องใช้ครีมกระชับต้นขา ที่สามารถบำรุงผิวชั้นใน หรือชั้นผิวหนังแท้ได้ เพื่อสร้างคอลลาเจนและกำจัดไขมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ หรือเข้าไปเพิ่มเส้นใยอิลาสติน (Elastin fiber) ให้กับผิวหนังได้ โดยตัวสารที่มีคุณสมบัติสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนัง และเข้าไปฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกก็มี เรตินอยด์ (Retinoids), เรตินอล (Retinols), ไดเมธิลลามีโนเอธานอล (Dimethylaminoetanol) และ เปปไทด์ (Peptide) ซึ่งส่วนใหญ่สารเหล่านี้มักมีราคาแพงจนไม่ค่อยมีผู้ผลิตรายไหนนิยมเอาไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ของตนนัก

ครีมกระชับต้นขาบางชนิดนั้นเมื่อทาแล้วนอกจากจะทำให้รู้สึกกระชับแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่เย็น นั่นก็เป็นเพราะว่าส่วนผสมในตัวครีมกระชับต้นขาอย่าง คาเฟอีน เมนทอล และมินต์ แต่สารเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพในการกระชับต้นขาแต่อย่างใด อีกทั้งอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นขาได้ เช่น ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวบวมเป็นต้น
แต่การทาครีมกระชับต้นขายังมีข้อดีอีกอย่างคือ ถ้าหากเราทาครีมแล้วนวดคลึงที่ต้นขาแรงพอประมาณ จะช่วยให้เซลล์ผิวบริเวณนั้นมีการไหลเวียนของเลือดดีมากขึ้น และกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานอย่างปกติ จนสามารถแก้ไขปัญหาการเกิดเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้มได้
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ได้พบว่าครีมกระชับต้นขานั้นมีสรรพคุณช่วยกระชับสัดส่วนที่ต้นขาโดยตรง เพียงแต่ทำให้ผิวภายนอกรู้สึกกระชับและดูเนียนนุ่มเท่านั้น โดยการกระชับต้นขาที่ดีและเห็นผลที่สุดไม่ใช่การทาครีมหากแต่เป็นการออกกำลังกายที่ถูกวิธี

            โดยการออกกำลังกายนั้นก็ทำได้ไม่ยากเพียงแค่เริ่มวิ่งจอกกิ้งเบาๆ วันละ 20 นาทีต่อวันและพยายามหลีกเลี่ยงการเขย่งเท้าหรือใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน เพราะการทำเช่นนั้นแทนที่จะได้ต้นขาที่สวย อาจจะได้ต้นขานักกล้ามมาแทนก็ได้ ทั้งนี้ยังต้องอาศัยการควบคุมอาหารที่ดี ทานอาหารคบ 3 มื้อและ 5 หมู่ทุกมื้อ
  ทั้งหมดนี้ก็น่าจะคลายความสงสัยของสาวๆได้ว่า ครีมกระชับต้นขานั้นใช้ได้ผลจริงหรือ? ท้ายที่สุดแล้วหนทางการมีสุขภาพที่ดี หุ่นที่สวยนั้น ไม่ค่อยมีทางลัดมากนัก นอกเสียจากการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ยังไม่สายที่จะคว้ารองเท้าวิ่งออกจอกกิ้งเพื่อกระชับต้นขา เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อต้นขาที่ดูดีในอนาคต

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

มารู้จักกับ T25 โปรแกรมออกกำลังกายยอดฮิตกัน!


เมื่อพูดถึง T25 โปรแกรมออกกำลังกายสุดชิคคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นวิธีออกกำลังกายที่กินเวลาน้อย แต่เห็นผลมากโดยใช้เวลาเพียง 25 นาทีต่อวัน และทำเพียงสัปดาห์ละ 5 วันเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับหนุ่มสาวผู้รักสุขภาพแต่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลา อีกทั้งเจ้า T25 โปรแกรมออกกำลังกายสุดคูลตัวนี้ ยังไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ให้เยอะแยะ เพียงแค่มีดัมเบลกับยางยืดก็พอ ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ทำง่ายๆได้ที่บ้าน
ที่มาของ T25 โปรแกรมออกกำลังกายตัวนี้มีชื่อเต็มๆว่า Focus T25 ซึ่งคิดค้นโดยเทรานเนอร์นามว่า Shaun T ผู้เชี่ยวชาญการออกกำลังกายแบบอินแซนนิตี (Insanity) เป็นการออกกำลังกายแบบเต้นไปเต้นมา เน้นการเคลื่อนไหวขยับอวัยวะและร่างกายเยอะๆ โดยนายเทรนเนอร์คนนี้ก็ได้ส่ง T25 โปรแกรมออกกำลังกายสุดง่ายลงแผ่น DVD เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เพียงแค่มีใจมุ่งมั่นก็พอ 

            โดย T25 โปรแกรมออกกำลังกายตัวนี้ จะเน้นการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ หมายถึงเน้นเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนต่อเนื่องเป็นเวลา 25 นาทีโดยไม่หยุดพัก โดยผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเหมือนกับเราออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง ซึ่งแผ่น DVD T25 โปรแกรมออกกำลังกายตัวนี้ได้แนบตารางการออกกำลังกายมาด้วย โดยแบ่งออกเป็น 3 เฟสนั่นก็คือ 

  1. Alpha Phase เป็นการออกกำลังกายที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนพื้นฐานก่อน โดยใช้เลาถึง 5 สัปดาห์ โดยจะมีการออกกำลังกาย
  2. Beta Phase เป็นการเน้นออกกำลังกายส่วนกลางลำตัว หรือส่วนหน้าท้องนั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดพุงที่ย้วยให้เรียบดูดีอย่างจริงจัง
  3. Gamma Phase เป็นการรวมสองเฟสข้างต้นเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการจบคอร์ส T25 แบบสุดๆ โดยท่าออกกำลังกายจะเร็วขึ้น และหนักไปทางเวทเทรนนิ่ง ท่าจะยากขึ้น เป็นการบริหารกล้ามเนื้ออย่างหนักและโหด 

            แล้วเจ้า T25 โปรแกรมออกกำลังกาย ตัวนี้เหมาะกับใครบ้าง? เป็นคำถามที่ผู้เริ่มเล่นหรือผู้สนใจอาจจะสงสัย ความจริงแล้วก็เหมาะกับทุกๆคนที่มีใจรักและความตั้งใจจริงในการลดน้ำหนักและต้องการมีหุ่นที่ดูดี เพราะเจ้า T25 โปรแกรมออกกำลังกายตัวนี้ จะทำให้เรารีดไขมันออกได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือพื้นที่กว้างๆสำหรับการออกกำลังกาย 

            อย่างไรก็ตามข้อควรระวังที่สำคัญมากๆคือการสำรวจตัวเองว่าเป็นโรคประจำตัวอะไรบ้าง อย่างคนที่เป็นโรคหัวใจ ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงบางท่า หรือคนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก็ควรหลีกเลี่ยงท่าที่ใช้การกระโดด อีกอย่างที่สำคัญก็คือไม่ควรฝืนร่างกายจนเกินไป หากรู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็ควรหยุดพักหายใจชั่วครู่  แต่ไม่ควรพักนานจนเกิดอาการขี้เกียจไม่อยากออกกำลังกาย
ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายแบบ T25 ที่เห็นได้ชัดอย่างทันทีคือเหงื่อที่ออกเป็นจำนวนมาก เมื่อเหงื่อออกมากเลือดลมก็จะหมุนเวียนดี รูปร่างของผู้ออกกำลังกายจะเริ่มดูดี หน้าท้องไม่ดูโย้เย้ โดยเฉพาะสาวๆจะเห็นได้ชัดในเรื่องของผิวพรรณที่เปล่งปลั่งขึ้น แต่การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวก็อาจจะช่วยไม่ได้มาก หากขาดการควบคุมอาหารที่ดี เพราะถึงเราออกกำลังกายเยอะขนาดไหนแต่ถ้ากินจุ ร่างกายเราก็อ้วนได้เช่นเดิมเพราะไม่ได้นำส่วนเกินไปใช้
เมื่อรู้จักกับ T25 โปรแกรมออกกำลังกายแบบคร่าวๆกันแล้ว ก็คาดว่าหลายคนคงได้มีทางเลือกการออกกำลังกายมากขึ้น เป็นที่แน่นอนว่าร่างกายที่ดูดีย่อมหมายถึงความใสใจของเราที่มีต่อตัวเอง อีกทั้งยังช่วยทำให้ตัวเราห่างไกลจากโรคด้วย เมื่อรู้ข้อดีของ T25 เช่นนี้แล้ว มีหรือจะอยู่เฉย?

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สัญญาณเตือนภัยจากน้ำหนัก ส่วนสูง


น้ำหนัก ส่วนสูง สองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กัน โดนคนส่วนใหญ่มักจะรับรู้ว่าหากมีส่วนไหนเยอะเกินพอดีก็จะทำให้รูปร่างดูไม่ดี เช่นสูงไปก็ทำให้ตัวดูโกร่ง หรือน้ำหนักเยอะเกินไปก็ทำให้ดูอ้วน แต่เรื่องขอรูปร่างภายนอกก็ยังไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเพราะมาตรฐานของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน คำถามต่อมาคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเริ่มอ้วนแล้วหรือเราผอมเกินไป
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า น้ำหนัก ส่วนสูง นั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก เพราะสามารถใช้บ่งบอกได้ว่าเราอ้วนไปหรือผอมไป โดยไม่ได้วัดจากรูปร่างภายนอก แต่นำน้ำหนัก ส่วนสูงไปคำนวณค่าดัชนีมวลร่างกายหรือที่รู้จักกันในชื่อ ค่าBMI (Body Mass Index) โดยวิธีคิดนั้นก็ไม่ยากเพียงแค่นำ น้ำหนัก(กก.) / ส่วนสูง (เมตร) x ส่วนสูง (เมตร) ก็จะได้ค่าดัชนีมวลกาย 

            ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีน้ำหนัก 65 กก. สูง 157 วิธีคิดก็จะออกมาเป็น 65/1.57 x 1.57 = 26.4 จากนั้นนำค่าที่ได้ไปวัดกับมาตรฐานของค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดดังนี้

  • ค่าดัชนีมวลกายมีน้อยกว่า 18.5 “ผอมเกินไป” โดยส่วนมากจะเกิดกับนักกีฬาที่ออกกำลังกายมาก แต่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ วิธีแก้ไขก็คือการรับประทานอาหารให้เพียงพอและสม่ำเสมอ และหาวิธีออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
  • ค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 18.5 – 23.4 “น้ำหนักปกติ” คนในกลุ่มนี้มักจะมีสุขภาพที่ดีไม่ค่อยเป็นโรค
  • ค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 23.5 – 28.4 “น้ำหนักเกิน” เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าตัวเราเริ่มอ้วนแล้ว หากยังมีพฤติกรรมการบริโภคแบบเดิมอยู่ ก็อาจจะทำให้อ้วนได้
  • ค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 28.5 – 34.9 “อ้วนระดับ 1” สัญญาณบ่งบอกถึงความอ้วนในตัวเรา แต่อาจจะยังไม่ถึงขั้นรูปร่างอ้วนฉุ แต่ถ้าหากรอบเอวเริ่มมีมากกว่า 90 ซม.(ชาย) และ 80 ซม.(หญิง) คนกลุ่มนี้ย่อมมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานสูง จำเป็นต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายเสมอเพื่อป้องกันโรค
  • ค่าดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 35.0 – 39.9 “อ้วนระดับ 2” เป็นความอ้วนที่มีความเสี่ยงสูงและต้องควคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างจริงจัง
  • ค่าดัชนีมวลกายมีมากกว่า 40 “อ้วนมากๆ” เป็นระดับความอ้วนที่มากที่สุดต้องหาวิธีควบคุมน้ำหนักอย่าจริงจังและเร่งด่วนที่สุด ไม่เช่นนั้นโรคร้ายต่างๆถามหาแน่ๆ 

            หลังจากที่ได้รู้แล้วว่าค่าดัชนีมวลกายของเราอยู่ในเกณฑ์ไหน หลายคนอาจจะสงสัยว่าการที่อ้วนไปมันส่งผลเสียขนาดนั้นเลยหรือ? คำตอบคือใช่แน่นอน โดยความอ้วนนอกจากจะทำให้ร่างกายเราดูไม่ดีแล้วยังส่งผลเสี่ยงทำให้เป็นโรค เช่น

  1. โรคความดันโลหิตสูง โดยคนอ้วนจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนปกติถึง 2.9 เท่โดยจะเพิ่มความเสี่ยงขึ้นตามระยะความอ้วน แต่ถ้าน้ำหนักลดความเสี่ยงก็ลดเช่นกัน
  2. โรคหัวใจวาย เพราะไขมันที่เยอะมากจะทำให้ไปอุดตัวหลอดเลือดที่หัวใจใช้สูบฉีดเลือด ซึ่งโรคนี้หากเป็น อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
  3. โรคเบาหวาน
  4. โรคไขมันในเลือดสูง
  5. โรคหลอดเลือดสมอง จะเกิดขึ้นมากโดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30        

            นี่เป็นเพียงแค่ 5 โรคร้ายที่ถูกกล่าวถึงสำหรับโรคอ้วน ซึ่งแต่ละโรคนั้นก็ส่งผลเสียถึงขั้นเสียชีวิต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมน้ำหนักและดูแลรักษาสุขภาพ และขอแสดงความยินดีกับคนที่มีค่าดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ขอให้รักษาสุขภาพที่ดีอย่างนี้ต่อไป และนี่ก็คือประโยชน์ของค่าน้ำหนัก ส่วนสูง ที่มีความสัมพันธ์กัน นอกจากจะเป็นความพอดีของร่างกายเราแล้ว ยังใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยที่จะมากกับโรคร้ายได้ด้วย ขอให้ทุกคนดูแล น้ำหนัก ส่วนสูง อย่าให้ค่าไหนสูงเกินพอดีนะครับ ไม่เช่นนั้นโรคร้ายอาจจะถามหาได้ 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

สูตรเร่งรัดลดความอ้วน 3 วัน

             หลายคนกำลังประสบกับปัญหาน้ำหนักตัวที่มากเกินกว่าจะรับไหว เมื่อถึงเวลาหาเสื้อผ้าตัวเก่งมาสวมใส่เพื่อออกงาน กลับต้องเก็บใส่ตู้เช่นเดิม เพราะต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และสะโพกที่ใหญ่ขึ้น อันเนื่องมาจากความอวบอ้วนที่สะสมมาเนิ่นนาน วันนี้เรามีวิธีลดน้ำหนักแบบเร่งรัดด้วยสูตรลดความอ้วน 3 วัน มาให้ลองปฎิบัติกัน เพื่อให้หุ่นกลับมาฟิตแอนด์เฟิร์ม ผอมเพรียว กระชับสัดส่วน ให้ทันการที่จะได้เชิดฉายพร้อมเสื้อผ้าชุดสวย

สูตรที่ 1
สูตรนี้ลดน้ำหนักได้ 2.5-3 กิโลกรัม เป็นสูตรลดความอ้วน 3 วัน ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเพียงเล็กน้อย เพื่อเตรียมตัวก่อนออกงานปาร์ตี้หรืองานสำคัญในโอกาสต่างๆ เช่น งานรับปริญญา ให้สามารถสวมชุดครุยแล้วถ่ายรูปได้สวย ไม่อึดอัด นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวตึงกระชับขึ้น เพราะรับประทานโปรตีนทุกวัน
วันที่ 1
เช้า : ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น ทาน้ำผึ้ง, ชาหรือกาแฟใส่นมสดและน้ำตาลทรายแดง 1 แก้ว
กลางวัน : ถั่วฝักยาวต้ม 1 ถ้วย กับปลาทูน่ากระป๋อง (ในน้ำแร่) 1 กระป๋อง, น้ำสลัดน้ำใส, ขนมปังโฮลวีต, น้ำผลไม้สดไม่ใส่น้ำตาล หรือน้ำผัก V8 กระป๋องเล็ก
เย็น : อกไก่หมักย่าง, ข้าวซ้อมมือ 1 ถ้วย, สลัดผักเขียวคลุกน้ำสลัดใส, ชาเขียวหรือชาสมุนไพร 1 แก้ว
หมายเหตุ : เพื่อให้สูตรลดความอ้วน 3 วันได้ผลมากขึ้น วิธีหมักไก่ให้เลาะหนังไก่ออก เตรียมน้ำหมักด้วยมัสตราร์ด, น้ำผึ้ง, น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (apple cider vine far) อย่างละนิดหน่อย ผสมกันแล้วทาบนเนื้อไก่ ย่างให้สุก ปรุงรสตามชอบ
วันที่ 2
เช้า : เกรปฟรุต 1/2 ผล, ขนมปังโฮลวีตทาด้วยเนยถั่ว, ชาหรือกาแฟ 1 ถ้วย
กลางวัน : ยำผลไม้รวม, ข้าวซ้อมมือ 1/2 ถ้วย, โยเกิร์ต 1 ถ้วย, น้ำผลไม้สดไม่ใส่น้ำตาล 1 แก้ว
เย็น : เนื้อปลานึ่ง 1 ชิ้น, มันฝรั่งต้ม 1 หัว, น้ำผัก V8 กระป๋องเล็ก, ชาสมุนไพร
วันที่ 3
เช้า : ซีเรียล 1 ถ้วย, โยเกิร์ตรสผลไม้ (ราดบนซีเรียล) ตามด้วยกล้วย 1/2 ลูก หั่นวางไว้บนสุด, ชาหรือกาแฟ 1 แก้ว
กลางวัน : แซนด์วิชไก่ (ใช้จนมปังโฮลวีต), สลัดผักเขียวใส่ไข่ต้ม 1 ฟอง, น้ำสลัดใส, แตงโม 2 ชิ้น, ชาสมุนไพร 1 แก้ว
เย็น : เนื้อหมูหรือวัวไม่ติดมันย่าง 1 ชิ้น ไม่ใหญ่, น้ำจิ้มแจ่ว, ข้าวซ้อมมือ 1/2 ถ้วย, น้ำผัก V8 กระป๋องเล็กหรือน้ำผลไม้สดไม่ใส่น้ำตาล, ชาสมุนไพร 1 แก้ว

สูตรที่ 2
สูตรนี้มีวิธีการปฏิบัติก็คือรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจะหยุดมารับประทานก็ได้ แล้วค่อยมาเริ่มทำ 3 วันต่อเนื่องใหม่ อีกสัก 2-3 รอบ ตามความสามารถ ซึ่งจะเป็นการปรับกระเพาะอาหารให้มีขนาดเล็กลงด้วย โดยสูตรลดความอ้วน 3 วันสูตรนี้สามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 4-5 กิโลกรัม และเหมาะสำหรับคนที่ชื่อชอบอาหารแบบไทยๆ
วันที่ 1
เช้า : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล, ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ไข่ต้ม 1 ฟอง, ผักจิ้มน้ำพริกหรือ ยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน, ผลไม้ 1 อย่าง
กลางวัน : ชาหรือกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล, ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ปลานึ่งหรือย่าง ห้ามใช้น้ำมัน, ผักจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน
เย็น : น้ำส้ม, ผักจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน, เนื้อไม่ติดมันย่างหรือนึ่ง ห้ามใช้น้ำมัน
วันที่ 2
เช้า : น้ำส้ม, นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc), ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ไข่ต้ม 1 ฟอง, ผลไม้
กลางวัน : น้ำส้ม, ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ผักต้มจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน, ผลไม้
เย็น : น้ำส้ม, นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc), ปลานึ่งหรือย่าง ห้ามใช้น้ำมัน, ผักต้มจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน, ผลไม้
วันที่ 3
เช้า : น้ำส้ม, นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc), ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ผลไม้, โยเกิร์ต
กลางวัน : น้ำส้ม, ขนมปังปิ้งจนแห้ง ไม่ทาอะไร 1 แผ่น, ไข่ต้ม 1 ฟอง, ผักจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน
เย็น : น้ำส้ม, นมสด 1 แก้วเล็ก (200 cc), ปลาหรือเนื้อย่าง ห้ามใช้น้ำมัน, ผักจิ้มน้ำพริกหรือยำผักโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ใดๆ หรือส้มตำผักล้วน, ผลไม้
หมายเหตุ : การลดความอ้วน 3 วัน สำหรับสูตรที่ 2 เครื่องดื่มและอาหารต้องไม่ใส่น้ำตาล, เนื้อ เช่น เนื้อ หมู ไก่ ต้องไม่มีมันเหลืออยู่ ถ้าเป็นไก่ต้องไม่หนังติด, ผัก เช่น แครอท ดอกผักกาด มะละกอดิบ มะเขือเทศ แตงกวา ถัวฝักยาว, ผลไม้ เช่น ส้ม สับปะรด แอปเปิ้ล กล้วย แคนตาลูป (1 ชิ้น) และน้ำเปล่าดื่มได้ทั้งวันไม่จำกัด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ยาลดความอ้วนบาชิ ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงจริงหรือ

            ขึ้นชื่อว่ายา หลายคนคิดว่าต้องมาพร้อมกับผลข้างเคียง แต่ในความเป็นจริงก็คือหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ผลข้างเคียงที่พูดถึงอาจเกิดขึ้นน้อยมากหรือไม่มีเลย และสำหรับตัวยาลดความอ้วนบาชิ ที่มีจำหน่ายกันในท้องตลาดและได้รับความนิยม เป็นอีกตัวยาลดน้ำหนักที่สกัดมาจากสมุนไพร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน หรือเคยทานยาลดความอ้วนมาก่อน และได้รับเสียงตอบว่าลดน้ำหนักได้จริง ไม่โทรม และไม่เกิดโยโย้ ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานให้น้อยลง และช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย

ส่วนประกอบหลักของยาลดความอ้วนบาชิ
            1.สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ช่วยเสริมระบบการย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้เกิดสภาวะการหลับลึก เป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง อันเนื่องมาจากการกระบวนการปรับสภาพการทำงาน ของระบบต่างๆในร่างกาย ให้เข้าสู่ภาวะที่สมดุล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงผิวพรรณ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
            2.สารสกัดจากเมล็ดอบเชยและรากบัว สามารถลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด เพื่อให้น้ำหนักลดลง ช่วยควบคุมความอยากอาหาร หลีกเลี่ยงการเกิดพุงพุ้ย เพิ่มประสิทธิภาพของการขจัดของเสียออกจากร่างกาย ลดการดูดซึมของไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย และขจัดสารพิษตกค้างต่างๆ
            3.สารสกัดจากผลส้มแขก ช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย และลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี กลไกการออกฤทธิ์ของ HCA จะออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ ATP Citrate Lypase ในวงจร Kreb’s cycle (วงจรการย่อยสลายกลูโคสของเซลร่างกาย) ทำให้ยับยั้งการนำน้ำตาล จากอาหารประเภท แป้ง ข้าว และน้ำตาล ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามร่างกายแต่จะนำไปใช้เป็นพลังงานของร่างกายแทน ทำให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย และเมื่อในกระแสเลือดไม่ขาดน้ำตาล ก็จะทำให้ความรู้สึกหิวอาหารลดลง ขณะเดียวกันจะนำไปสะสมเป็นพลังงานสำรองในรูปของไกลโคเจนที่ตับ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ามีพลังงานสำรองเพียงพอ ไม่รู้สึกหิวมาก นอกจากนี้ ยังไปกระตุ้นให้มีการดึงเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ลดลงซึ่งจะมีผลทำให้รูปร่างดีขึ้น

การใช้ยาลดความอ้วนบาชิ
รับประทานเพียงวันละ 1 แคปซูล หลังหรือก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมง แล้วดื่มน้ำตามมากๆในระหว่างวัน ถ้ามีที่ร่างกายอ่อนแอ ก็ให้รับประทานวันเว้นวันเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพได้ ต้องประทานทุกมื้อ แม้ตอนเย็นจะไม่รู้สึกหิว ก็ให้ดื่มนมสักกล่องหรือผลไม้ หากลดน้ำหนักที่พอใจแล้ว ควรรับประทานยาดลดน้ำหนักบาชิวันเว้นวัน 1 อาทิตย์ ต่อไปเว้นไปรับประทาน 2 วันต่อ 1 ครั้ง จากนั้นค่อย ๆ เลิกในที่สุด
ยาลดความอ้วนบาชิทำให้ไม่อยากรับประทานอาหารจุกจิก และทำให้รับประทานอาหารมื้อหลักได้น้อยลง แต่ในบางคนที่ชอบรับประทานขนมมาก หรือรด้วยความเคยชิน ควรเลิกพฤติกรรมนี้ เพราะอะไรก็ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ หากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานของจุกจิก ไร้ประโยชน์ ที่สำคัญไม่ควรดื่มสุราหรือของมึนเมาทุกชนิด เพราะอาจทำให้การลดน้ำหนักไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากแอลกอฮอร์ จะไปขัดขวางการทำงานของยาสมุนไพรทำให้ประสิทธิภาพลดลง และสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี และสตรีมีครรภ์ ห้ามรับประทานยาลดความอ้วนบาชิโดยเด็ดขาด รวมถึงผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทดลองรับประทาน
 สิ่งที่ต้องเน้นย้ำก็คือ การรับประทานยาลดวามอ้วนบาชิให้ได้ผลดี ไม่มีผลข้างเคียงนั้น ควรลด ละ เลิกพฤติกรรมต่างๆที่บั่นทอนการลดน้ำหนักของเรา เช่น การนอนดึกที่เป็นสาเหตุทำให้ไขมันเข้ามาในร่างกาย จากอาหารที่ต้องรับประทานในรอบดึกแล้วก็นอน ไม่มีการเผาผลาญ รวมถึงควรมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ร่างกายของเราสมบูรณ์ เนื่องจากสุขภาพที่อ่อนแอ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการใช้ยาลดน้ำหนักบาชิ ที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำกันมากๆ เพราะน้ำจะช่วยเติมเต็มส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้ดี

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เตือนภัย! ยาลดน้ำหนัก อันตรายถึงชีวิต

            เรื่องความสวยความงามแบบที่ต้องหน้าสวยหุ่นเป๊ะ เป็นเรื่องที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะสาวๆที่อยากให้รูปร่างหน้าตาของตนดูดีดึงดูดเพศตรงข้าม จนบางครั้งหลงลืมไปว่าตัวช่วยต่างๆที่เราใช้เสริมทำให้หุ่นของเราดูดี ได้แก่ ยาลดน้ำหนักนั้น อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ บทความนี้ได้นำเรื่องเตือนภัยคุณผู้หญิงที่ต้องการฟิตหุ่นให้ดูดีด้วยวิธีการรับประทานยาลดน้ำหนักมาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เพื่อให้การดูแลหุ่นของเราให้ผอมเพรียวนั้นเป็นไปได้อย่างปลอดภัย

            โดยเว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ ได้เปิดเผยข่าวว่า ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตือนผู้บริโภคว่าอย่าซื้ออย่าใช้ยาชุดลดความน้ำหนักสูตรค็อกเทล หลังตรวจพบเป็นสูตรตัวยาแผนปัจจุบันหลายชนิดรวมกัน หวั่นอาจได้รับผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งในรายงานข่าวระบุว่า นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กรณีที่ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้รับข้อมูลจากหน่วยควบคุมกำกับด้านยา (Health Sciences Authority หรือ HSA) ประเทศสิงคโปร์ว่า มีการตรวจพบผู้โดยสารหญิงนำยาเม็ดไม่ระบุชื่อ จำนวนหลายชนิด สั่งจ่ายโดยโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศไทย เมื่อนำไปตรวจวิเคราะห์พบว่า เป็นยาชุดลดน้ำหนักสูตรค็อกเทลของตัวยาแผนปัจจุบันหลายชนิด ได้แก่ bisacodyl, chlorpheniramine, fluoxetine, thyroxine, frusemide, sibutramine และ hydrochlorothiazide โดยขนาดของยาไซบูทรามีน (sibutramine) เป็นขนาดที่ใกล้หรือมากกว่าขนาดยาที่ใช้ในการรักษาสูงสุดต่อวัน หรือ 15 มิลลิกรัม ซึ่งยาชุดดังกล่าวมีการจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ตและ online forum ในชื่อ “Slimming Pills” ยี่ห้อต่างๆ
ข้อมูลการทดลองทางคลินิกชี้ให้เห็นว่า ยาเพิ่มความเสี่ยงต่อกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองถึงร้อยละ 16 นอกจากนี้ยังมีอาการที่พบบ่อยคือ ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็ว ปากแห้ง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน อย. ได้เพิกถอนยาไซบูทรามีนออกจากตลาดแล้ว
สำหรับยาแผนปัจจุบันตัวอื่นๆ ที่ตรวจพบในสูตรค็อกเทล หากใช้โดยไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงได้ เช่น การใช้ bisacodyl ซึ่งเป็นยาระบายร่วมกับ frusemide ซึ่งเป็นยาขับปัสสาวะ ร่วมกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลียและขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
อย่างไรก็ดี ยาลดน้ำหนักที่ทาง อย.ตรวจพบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มารตฐาน และผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายผู้ใช้ยา ยังมียาลดน้ำหนักที่ผิดกฏหมาย เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกจำนวนมาก

ประเภทของยาลดน้ำหนัก
ได้รับทราบข่าวเตือนภัยยาลดน้ำหนักกันไปแล้ว ต่อไปนี้คือเกล็ดความรู้เกี่ยวกับประเภทต่างๆของยาลดน้ำหนักที่มีการจำหน่ายกันในปัจจุบัน
1. ยาควบคุมความหิว ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์กดศูนย์ควบคุมความหิวในสมอง ทำให้ไม่รู้สึกอยากรับประทานอาหารและอิ่มเร็ว แต่เนื่องจากยาประเภทนี้ออกฤทธิ์ต่อสมองโดยตรง ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนค่อนข้างมาก เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หงุดหงิด ใจสั่น ปากแห้ง
2. ยาเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เป็นการนำยาในกลุ่ม “ไทรอยด์ฮอร์โมน” ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคไทรอยด์มาใช้ เพราะยากลุ่มนี้สามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน น้ำหนักจึงลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม น้ำหนักที่ลดลงเป็นน้ำหนักที่เกิดจากมวลรวมของร่างกาย แทนที่จะเป็นไขมัน ดังนั้น ยานี้จึงส่งผลข้างเคียงสูง แถมยังเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
3. ยาระบายและยาขับปัสสาวะ เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากทำให้เห็นผลเร็วและน้ำหนักลดลงมาก แต่ความจริงแล้วเป็นภาพลวงตา เพราะสิ่งที่ลดลงไม่ใช่ไขมัน แต่เป็นน้ำภายในร่างกาย การใช้ยาประเภทนี้จะส่งผลข้างเคียง เช่น ทำให้ขาดเกลือแร่ที่สำคัญ และอาจทำให้ไตมีปัญหาได้
4. ยาที่ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นพวกใยอาหาร (ไฟเบอร์) เช่น บุก แมงลัก ซึ่งมักทำให้เกิดอาการท้องอืด
5. ยาลดการดูดซึมไขมัน ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของน้ำย่อย ที่มีหน้าที่ย่อยสลายไขมัน เมื่อไขมันไม่ถูกย่อยก็จะไม่ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย และในที่สุดจะถูกขับถ่ายออกไป อย่างไรก็ตาม ยาประเภทนี้มีผลข้างเคียงทำให้มีลมในลำไส้มาก ท้องอืด ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมัน ผายลมมีน้ำมันปนออกมา อุจจาระบ่อย หรือกลั้นอุจจาระไม่อยู่
6. อาหารเสริมที่อ้างว่าสามารถช่วยลดน้ำหนัก เช่น ไคโตซาน ส้มแขก
7. วิตามิน ถูกจ่ายควบคู่มาด้วย เนื่องจากผลข้างเคียงของยาต่างๆ ข้างต้นทำให้ไม่รู้สึกหิว กินอาหารไม่เพียงพอ หรือระบายน้ำออกจากร่างกายมากไป ทำให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่และวิตามิน

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลด Cellulite อย่างง่ายๆตัวเอง

            Cellulite หรือเรียกกันแบบง่ายๆว่า “ผิวเปลือกส้ม” เป็นปัญหาที่คุณผู้หญิงเกือบทั้งหมดกังวลกัน โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 90 ของผู้หญิงทั่วโลกที่ประสบกับปัญหา Cellulite แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้เจ้าตัวปัญหานี้ เพราะวันนี้เรานำวิธีลด Cellulite แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปคลินิคให้สิ้นเปลืองเงินมาเล่าสู่กันฟัง แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน เพื่อประสิทธิภาพในการลด Cellulite ให้ได้ผลสูงสุด

Cellulite คืออะไร
Cellulite เกิดจากการแข็งตัวของเนื้อเยื่อที่ก่อตัวขึ้นจากเซลล์ไขมันใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Cellulite เป็นเซลล์ก้อนไขมันที่มีขนาดใหญ่อยู่ใต้ผิวหนังที่อัดกันอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งจะนูนขึ้นมาที่บริเวณผิวหนัง จะเห็นเป็นตะปุ่มตะป่ำ ไขมันนี้พบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน โดยพบในเพศหญิงมากกกว่าเพศชาย ซึ่งร่างกายจะสามารถสะสมได้ที่บริเวณท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา และสะโพก ทำให้สาวๆหลายคนไม่กล้าอวดผิวกาย

วิธีลด Cellulite
วิธีการลด Cellulite มีมากมาย แต่วิธีการต่อไปนี้สามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ และเห็นผล โดยไม่ต้องเสียเวลาไปรักษาที่คลินิคให้เปลืองงบประมาณ
1.หมั่นนวด เพราะการนวดก็เป็นอีกวิธีลดต้นขา ลด Cellulite ออกไป โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาเป็นเวลา 10-20 นาทีทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้
แม้เราจะเห็นความแตกต่างของต้นขาที่ลดลงได้ไม่เท่าการออกกำลังกายเฉพาะส่วน แต่การนวดลดต้นขาก็เป็นวิธีการช่วยเสริมการออกกำลังกายในเบื้องต้น และข้อดีนอกเหนือจากการลดลงของต้นขาแล้ว ยังสามารถทำให้เซลลูไลท์บริเวณต้นขานั้นน้อยลงด้วย เนื่องจากการนวดช่วยขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้เซลลูไลท์นั้นมีขนาดเล็กลง

2.กระโดดเชือก การกระโดดเชือกติดต่อกัน 15 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งจ๊อกกิ้งนานถึง 30 นาที นอกจากนี้ วิธีลดน่องโดยการกระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะช่วยลดแรงกระแทกลงได้มาก ไม่เกิดอันตรายต่อเข่า หรือทำให้เข่าเสื่อม เข่าพัง โดยจะกระโดดเพียงแค่ต่ำๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว ใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อย ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกลงได้ ซึ่งแรงกระแทกที่เกิดขึ้นถือว่ายังน้อยกว่าการวิ่ง
วิธีลด Cellulite โดยการกระโดดเชือกนี้ เหล่าเทรนเนอร์ของฮอลลีวูดทั้งหลายต่างแนะนำให้ดาราสาวที่อวบอั๋นเกินไป รีบฟิตหุ่นให้ทันเปิดกล้อง ด้วยการกระโดดเชือกทุกเช้าและเย็น เพื่อเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนแขนขาให้แน่นสวยไม่หย่อนยาน

            3.ขึ้น-ลงบันได เป็นอีกวิธีในการลด Cellulite โดยลองสวมรองเท้าส้นสูงแล้วเดินขึ้นลงบันได เพราะการขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาที ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได โดยการขึ้น-ลงบันไดเป็นวิธีออกกำลังกายที่นิยมกันมากในต่างประเทศ เพราะสามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน สะดวกทุกที่ ทุกเวลา
สำหรับคุณผู้หญิงที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรเริ่มขึ้นบันไดเพียง 1 ชั้นสลับกับเดินพื้นราบ ขณะเดินควรเริ่มด้วยการเกาะราวบันได เมื่อเดินได้คล่องจึงปล่อยมือจากราว ถ้าไม่มีอาการผิดปกติก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนชั้นอย่างช้าๆ คือ 1-2 ชั้นต่อสัปดาห์
  4.ดื่มน้ำเยอะๆ โดยดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตร เพราะนอกจากน้ำจะทำให้ผิวเราชุ่มชื้นแล้ว น้ำยังทำหน้าที่ขับของเสีย สารพิษออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายดีขึ้น หากใช้เจลร้อนนวดคู่กับการดื่มน้ำมากๆ ระบบโลหิตจะไหลเวียนได้ดีขึ้น ของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญก็ไหลเวียนออกไปได้ไวขึ้น ทำให้วิธีการลด Cellulite ของเราเห็นผลไวขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

2 เคล็ดลับให้ร่างกายผอม เพรียว

            หลายคนบ่นอยากผอม แต่ชีวิตประจำวันยังแวดล้อมไปด้วยการสังสรรค์ ชอบดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารขยะไร้ประโยชน์  ไม่หมั่นออกกำลังกาย การมีหุ่นผอม เพรียวคงเป็นได้แค่ฝันกลางวัน เพราะถ้าไม่ลด ละ เลิกพฤติกรรมเสี่ยงแบบเดิมๆ เท่ากับว่าโอกาสที่ร่างกายจะกลับมาผอม เพรียว หุ่นดี คงเป็นไปได้ยาก บทความนี้ขอนำเสนอ 2 เคล็ดลับ เพื่อความสำเร็จของการลดหุ่นให้ผอม เพรียวแบบง่ายๆ ขอเพียงมีหัวใจที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเดิม

เคล็ดลับที่ 1 เลือกกิน
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสมต่อร่างกาย นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว สารอาหารที่ได้รับจะมีผลต่อการลดน้ำหนัก กำจัดไขมันส่วนเกิน ช่วยให้หุ่นของเราดูดี ผอม เพรียวขึ้น โดยควรเลือกรับประทานอาหารดังต่อไปนี้
พืชจำพวกถั่ว อาหารประเภทนี้จะมีเส้นใยอาหารสูงที่ทำหน้าที่ช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด และมันยังมี Resistant Starch (RSI) ที่จะช่วยในการเผาผลาญไขมันให้มากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นไขมันจากหน้าท้องและสะโพก
  ผักสีเขียวเข้ม ผักประเภทนี้ ได้แก่ ร็อกเกต ผักโขม และบร็อคโคลี่ ซึ่งผักเหล่านี้อาจจะช่วยการทำงานของต่อมธัยรอยด์ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน โดยควรรับประทานทุกวัน
อาหารประเภทนม สารอาหารในนมนั้นจะมีส่วนผสมของ CLAs (Conjuated Linoleic Acids) ที่จะช่วยในการผลักดันให้ไขมันออกไปจากเนื้อเยื่อ เพื่อจะได้ทำให้สามารถเผาผลาญได้ง่ายยิ่งขึ้น มีส่วนผสมของโปรตีนที่ค่อนข้างสูง และไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ช่วยกดความอยากอาหารที่ชื่อว่า Cholecystokinin อาหารประเภทนมที่ดีก็คือ นมต่างๆ และโยเกิร์ต
 เบอร์รี่ ในเบอร์รี่นั้นมีฟลาโวนอยด์ที่สามารถหยุดยั้งเซลล์ไขมันไม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และช่วยไปกระตุ้นให้ร่างกายมีการหลั่ง Adiponectin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะช่วยในการจัดการกับน้ำตาลในเลือด
ดื่มน้ำ ถ้าร่างกายเปรียบเหมือนเครื่องยนต์ น้ำก็คือน้ำมันชั้นดีที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณขาดน้ำ เมตาบอลิซึมก็จะเฉื่อยชาทำงานได้ช้าลง น้ำที่ดื่มก็ควรจะเป็นน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำตาล หรืออาจจะเลือกรับประทานผักและผลไม้สดที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก
กล้วย ผลไม้ที่ทานง่าย รสชาติดี ประโยชน์เยอะ วิตามินสูง สารอาหารที่ได้จากกล้วย จะช่วยกระตุ้นพลังงาน ให้กับร่างกาย หากออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งช่วยทำให้ได้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น เพราะร่างกาย จะเกิดการเผาผลาญ โดยนำเอาแป้งและคาร์โบไฮเดรตไปใช้ได้อย่างเต็มที่

เคล็ดลับที่ 2 ออกกำลังกาย สบายใจ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการลดหุ่นให้ผอม เพรียว เราควรออกกำลังกายควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้การลดความอ้วนค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่มีความเสี่ยงต่อระบบในร่างกาย ไม่ต้องพึ่งยาหรือสารเคมีให้สิ้นเปลืองเงินในกระเป๋า โดยวิธีการออกกำลังกายมีมากมายให้เลือก ตั้งแต่วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นกีฬา เข้าฟิตเนส ฯลฯ และต่อไปนี้คือสิ่งที่ขอแนะนำให้ปฏิบัติตาม
 แอโรบิก การเต้นแอโรบิกจะช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึมได้เร็วที่สุด การเต้นแอโรบิกในเวลาครึ่งชั่วโมง เท่ากับว่าทำให้เมตาบอลิซึมทำงานอย่างแอ็กทีฟไปอีก 2-3 ชั่วโมง แต่ก็ต้องเต้นหนักๆ ให้หัวใจเต้นแรงเต็มที่ 120 ครั้งต่อนาที ต่อเนื่องสัก 30 นาที ฉะนั้น หาสวนสาธารณะสักแหล่งไปเต้นแอโรบิก หรือไม่ก็หาวิดีโอสักชุดมาเต้นแอโรบิกอยู่บ้าน รับรองหุ่นหอมเพรียวไม่ไกลเกินเอื้อม
 อย่าลืมรับประทานมื้อเช้า ผู้ที่รับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ จะหุ่นดีกว่าคนที่อดมื้อเช้า เพราะอาหารเช้านั้นช่วยทำให้สมองของเราปลอดโปร่ง สามารถเริ่มทำงานได้ตลอดเวลา มีเรี่ยวแรงออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่
อย่าเครียด ภาวะเครียดนอกจากจะทำร้ายจิตใจแล้ว ยังส่งผลต่อร่างกายให้อ้วนขึ้นด้วย เพราะเวลาที่รู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้อัตราเมตาบอลิซึมช้าลงออกมา ใครที่ไม่อยากอ้วน พยายามหากิจกรรมทำให้ตัวเองผ่อนคลาย จะได้ไม่เครียด
ถ้าหากคุณสาวๆสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้ทำการแนะนำไปแล้วในตอนต้น รับรองว่าความฝันที่ต้องการจะมีร่างกายที่ผอม เพรียวนั้น จะอยู่ไม่ไกลจนเกินเอื้อมแล้ว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

T25 คืออะไร ได้ผลจริงหรืออิงกระแส

            เมื่อพูดถึง T25 หลายคนร้องอ๋อ เพราะกำลังเป็นกระแสนิยมมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในหมู่ดารานักแสดงสาว ที่เรียกได้ว่ามีหุ่นสวย ดูดีในระดับแนวหน้าของวงการบันเทิง โดยใช้สูตร T25 ในการเบิร์นร่างกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม และเพื่อความกระจ่างชัด เรามาค้นหาคำตอบกันว่า T25 คืออะไร หากทำตามแล้วจะช่วยเบิร์นหุ่นให้เพรียวได้จริงหรือไม่

T25 คืออะไร
T25 หรือชื่อเต็มๆ ว่า Focus T25 คือการออกกำลังกายที่เน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อและบริหารร่างกายทุกสัดส่วนอย่างครบถ้วน โดยการเต้นอย่างหนักติดต่อกัน 25 นาที และมีการพูดถึงผลลัพธ์ว่าเหมือนออกกำลังกายนานถึง 1 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งการเคลื่อนไหวร่างกายทุกๆสัดส่วน จะช่วยในการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร ที่สำคัญเป็นการกระชับกล้ามเนื้อ หุ่นเพรียวสวย และทำให้สุขภาพของเราดีขึ้น โดยโปรแกรมลดน้ำหนัก T25 ออกแบบโดย Shaun T เทรนเนอร์เจ้าของโปรแกรมการออกกำลังกายแบบอินแซนนิตี้ (Insanity) ที่โด่งดัง

การออกกำลังกายตามโปรแกรม T25 จะแบ่งเป็น 2 เฟส เริ่มจาก Alpha ซึ่งเป็นขั้นพื้นฐาน เน้นลดน้ำหนักโดยรวมและช่วงล่าง ตามด้วยเฟส 2 คือ Beta หรือขั้นสูง เน้นยกระดับความฟิตและกล้ามเนื้อเป็นหลัก ออกกำลังกายตามตารางที่กำหนด วันละ 25 นาทีเท่านั้น โดยฝึกทั้งหมด 5 วันต่อสัปดาห์ พัก 1 วัน วันถัดมาจะเป็นการยืดกล้ามเนื้อหลังจากที่ออกกำลังกายมาทั้งอาทิตย์
การออกกำลังกายแบบ T25 เหมาะสมบุคคลทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างมนุษย์ออฟฟิศ ที่หาเวลาในการออกกำลังยากเหลือเกิน และข้อดีของการออกกำลังแบบ T25 คือการใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อย แค่สวมชุด รองเท้ากีฬา แผ่นยางปูพื้น และดัมเบลในช่วงเฟส 2 เท่านั้น
อีกจุดเด่นที่ทำให้ T25 ฮิตติดกระแสคือ เป็นโปรแกรมออกกำลังกายที่สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องเข้าฟิตเนสให้ยุ่งยากและเสียทั้งเงินและเวลา ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ บางทีตอนเช้าก่อนอาบน้ำสักครึ่งชั่วโมง ก็สามารถออกกำลังกายแบบ T25 ได้แล้ว

T25 ได้ผลจริงหรือไม่
อีกหนึ่งคำถามที่มาพร้อมกับกระแสติดลมบนของ T25 นั่นคือ หากออกกำลังกายแบบ T25 แล้วสามารถลดน้ำหนัก กระชับหุ่นได้จริงหรือไม่ นนท์ อัลภาชน์ หรือมิ้กกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท ของสหรัฐฯ สาขาฟิตเนส แอนด์ นิวทรีชั่น และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย ECU Edith Cowan University สาขา Strength and Conditioning จากประเทศออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า T25 ไม่สามารถเล่นได้ผลกับทุกคน
“สิ่งที่เวิร์กสำหรับ T25 คือ หลักการของมันก็คือ ใช้ High-intensity interval training คือ การทำอะไรแบบเร็วๆ แล้วก็หยุด อย่างเช่นการวิ่งสปีดๆ แล้วก็หยุดเดิน การออกกำลังกายแบบนี้มันเผาผลาญพลังงานได้เยอะ ซึ่งกลุ่มที่สามารถเล่นแล้วได้ผลดีก็คือ กลุ่มคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีช่องว่างในการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า จุดประสงค์ของมันจริงๆ ก็คือ สามารถสร้างกล้ามเนื้อจริงๆ ได้ในกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มเล่น แต่ถ้าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว มันอาจจะไม่เกิดแรงกระตุ้นพอที่จะทำให้เกิดผล ถ้าอยากสร้างกล้ามเนื้อให้ใหญ่ๆ คือจะไม่เห็นผล แต่ถ้าอยากน้ำหนักลด T25 มันเห็นผล”
จริงอยู่ที่ว่าการออกกำลังกายแบบ T25 มีหลายคนทำแล้วเห็นผล แต่มันขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายด้วย การออกกำลังกายไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งสำคัญคือการรับประทานทานอาหารให้เหมาะสม ถูกต้อง ครบถ้วน ถ้ารับประทานอาหารปริมาณมากและไร้ประโยชน์ การออกกำลังกายต่อให้หนักแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ อีกอย่างคือการทำให้ร่างกายของเราพร้อม เช่นการอบอุ่นร่างกาย โดยเรื่องอายุสำหรับ T25 ไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยง ยิ่งเป็นเด็กๆ กระโดดโลดเต้นแบบ T25 ก็สามารถทำให้กระดูกแข็งแรงได้

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.