วิธีลดน่อง ด้วยการปั่นจักรยาน

ในปัจจุบันการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน ได้กลายมาเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเรามักจะเห็นคนที่ปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกายทั้งแบบคนเดียว หรือปั่นกันเป็นกลุ่มอยู่ตามริมถนน หรือสวนสาธารณะบ่อยครั้ง ซึ่งการปั่นจักรยานนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย ซึ่งหนึ่งในประโยชน์เหล่านั้น ที่เรากำลังจะพูดถึง และความสำคัญในหัวข้อต่อไปนี้ ก็คือ วิธีลดน่อง โดยการปั่นจักรยานนั่นเอง

ข้อดีของการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน

การปั่นจักรยานโดยส่วนใหญ่ จะใช้พลังงานโดยเฉลี่ยประมาณ 300 แคลอลี่ ต่อชั่วโมง ซึ่งการใช้พลังงานในระดับดังกล่าวจะสามารถช่วยในการลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อขา โดยเฉพาะบริเวณต้นขา น่องให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย  และการปั่นจักรยานยังมีข้อดี คือ ดีกว่าการวิ่ง เพราะจะไม่ส่งผลกระทบกับข้อเท้า หัวเข่า และหลัง ในขณะที่ออกกำลังปั่นจักรยานยังช่วยทำให้ลดอัตราการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือดหัวใจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และเมื่อทำการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานเสร็จแล้ว ยังทำให้เกิดสภาวะ After Burner หรือการเผาผลาญไขมันส่วนเกินอย่างต่อเนื่อง หลังจากการปั่นจักรยานแล้วต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะมากกว่าในขณะที่ทำการปั่นด้วยซ้ำ การปั่นจักรยานจึงเป็นวิธีลดน่องได้อย่างดีเยี่ยม

วิธีการปั่นจักรยานเพื่อลดน่องอย่างถูกต้อง

ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนประกอบของน่องโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกล้ามเนื้อ ดังนั้นสำหรับคุณสาวๆที่อยากให้น่องเล็กลงและกระชับมากขึ้น ควรใช้หลักการปั่นจักรยานแบบ “เร็ว นาน เหนื่อย” หรือใช้วิธีการปั่นแบบเกียร์เบาเร็วๆ เน้นไปที่จำนวนรอบการปั่นจำนวนมากๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ขนาดของน่องลดลงได้ แต่ควรระวังอย่าเผลอไปทำการปั่นแบบเกียร์หนัก ที่มีความหนัก และความฝืดในการปั่นที่สูงมาก เพราะถึงแม้วิธีดังกล่าวจะช่วยทำให้น่องกระชับขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ก็จะทำให้น่องมีขนาดใหญ่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่จะช่วยทำให้คุณสาวๆสามารถปั่นจักรยานได้อย่างที่ไม่ต้องกังวลใจกลัวว่าน่องจะโตขึ้น โดยมีวิธีลดน่อง ดังต่อไปนี้

       1.จำนวนรอบในการปั่นจักรยาน เน้นการปั่นให้ได้รอบความเร็วที่ 80 RPM หรือ 80 รอบต่อนาที โดยการปรับเกียร์ให้เบาตามความเหมาะสมของตัวคุณสาวๆเอง โดยเน้นที่จำนวนรอบในการปั่น 

2.น้ำหนักในการปั่น ไม่มากจนเกินไป เพราะถ้าหนักมากเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อมีการออกแรงมาก จนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณน่องมีโอกาสโตขึ้นได้อีก

 3.การตั้งระดับอานที่เหมาะสม ให้ทำการวัด โดยดูว่าสามารถทำการถีบด้วยส้นเท้าได้พอดี เมื่อทำการถีบจะทำให้เท้าสามารถเลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ตามธรรมชาติแล้วกล้ามเนื้อของผู้หญิงจะโตได้ยาก แต่ถ้าหากถีบจักรยานผิดวิธีจะทำให้น่องโตได้ จึงควรระวังในเรื่องนี้

       4.ระดับชีพจร ให้มีอัตราการเต้นอยู่ที่ประมาณ 65-85% ของชีพจรสูงสุด เพื่อให้ร่างกายเกิดการใช้พลังงานในระดับแอโรบิค

5.ระยะเวลาที่เหมาะสมในการปั่น ควรทำการปั่นต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 30 นาที ต่อการปั่นหนึ่งรอบ

      6.ระยะทางในการปั่นจักรยานที่เหมาะสม ควรทำการปั่นจักรยานให้อยู่ในระยะทางประมาณ 25-28 ก.ม. ต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความเหมาะสมของแต่ละคน ถ้าหากปั่นได้ในระยะทางที่น้อยกว่านี้ในเวลาดังกล่าว จะทำให้ร่างกายไม่เกิดการออกกำลังในลักษณะของแอโรบิค ทำให้ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายมีน้อยมาก

7.จำนวนวันในการปั่นจักรยานที่เหมาะสม ประมาณ 3-4 วัน ต่อสัปดาห์

ถ้าหากคุณสาวๆ สามารถทำตามวิธีลดน่อง โดยการปั่นที่ถูกต้องที่ได้แนะนำไปในตอนต้นแล้วสักประมาณ 1 เดือน จะเริ่มสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ ว่าน่องเล็กลง น้ำหนักลดลง หัวใจแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับคุณสาวๆที่อยากใช้วิธีลดน่อง โดยการปั่นจักรยาน แต่ไม่มีจักรยาน ไม่มีพื้นที่ หรือไม่มีเวลาปั่น ก็ยังสามารถประยุกต์การออกกำลังกาย โดยใช้วิธีการปั่นจักรยานอากาศ ซึ่งจะช่วยในการลดน่องให้เล็กลงได้เช่นกัน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

วิธีลดไขมันหน้าท้อง แบบเร่งด่วน ด้วยวิธีที่ปลอดภัย

ปัญหาหน้าท้อง หรือพุงนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครมันก็เป็นสิ่งที่รบกวนใจไม่ใช่น้อย เพราะยิ่งหน้าท้องมีไขมันสะสมตัวอยู่มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้มีขนาดที่เหมาะสมบ่อยตามไปด้วย อีกทั้งยังทำให้ต้องสูญเสียความมั่นใจเมื่อต้องใส่ชุดนุ่มน้อยห่มน้อยโชว์สัดส่วน และหน้าท้องอีกด้วย ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วรอบพุงของชายไทย ควรมีขนาดไม่เกิน 40 นิ้ว ส่วนหญิงไทยควรไม่เกิน 35 นิ้ว ถ้าหากรอบเอวของคุณมีขนาดมากกว่านั้น ก็แสดงว่าปัญหาไขมันหน้าท้อง กำลังมาเยี่ยมเยือนตัวคุณแล้ว

ดังนั้นเพื่อหน้าท้องที่แบนราบไร้ไขมันสะสมหน้าท้อง สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรดีนั้น ในวันนี้บทความชิ้นนี้จะช่วยแนะนำขั้นตอนปฏิบัติอย่างง่ายๆ ในการลดไขมันหน้าท้องได้อย่างง่ายๆด้วยตัวคุณเอง โดยเพียงแค่การขจัดความเครียดออกไปจากตัวคุณเท่านั้นเอง

ความเครียดเกี่ยวข้องกับการสะสมของไขมันหน้าท้องได้อย่างไร

เมื่อเกิดความเครียดขึ้นไม่ว่าจะจากเรื่องอะไรก็ตาม เช่น การทำงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อน ความรัก หรือเครียดในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ความเครียดที่เกิดขึ้นเหล่านั้น จะไปทำการเร่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ให้มีการทำงานมากขึ้น เมื่อเจ้าฮอร์โฒนดังกล่าวมีปริมาณมากเมื่อไหร่ มันก็จะทำการส่งไขมันในร่างกายไปสะสมรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหน้าท้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้รอบพุงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วย ดังนั้นการลดไขมันหน้าท้อง จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็น

วิธีการกำจัดความเครียดด้วยตัวเอง

ความเครียดแม้จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในสังคมเมืองปัจจุบัน ที่เห็นจะมีเรื่องให้เครียดอยู่แบตลอดเวลาราวกับไม่อยากให้เราหยุดพัก แต่ถึงแม้ความเครียดจะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ก็ยังสามารถที่จะใช้เทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อลดความเครียดของตัวเองให้ลดลงได้ โดยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

       1.หลับตาลงแล้วสูดหายใจลึกๆ ประมาณ 3 ครั้ง จะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และความเครียดลดน้อยลง และช่วยลดไขมันหน้าท้องได้อย่างที่ไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

       2.เข้าสังคมพบปะเพื่อนฝูงบ้าง เวลาที่เครียดๆการได้พูดคุยกับเพื่อน เพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยระบายความเครียดที่สะสมเอาไว้ข้างในได้เป็นอย่างดี หรือถ้าหากใครไม่ชอบระบายความเครียดให้คนอื่นฟัง ให้ลองใช้วิธีเขียนระบายมันออกมาในรูปแบบของสมุดบันทึกก็ได้เช่นกัน

       3.พักหลับผ่อนให้เพียงพอ ยิ่งพักผ่อนน้อยเท่าไหร่ อารมณ์ก็จะยิ่งต่ำลง และความเศร้าหมองก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของความเครียด ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันจึงมีส่วนในการเสริมสร้างอารมณ์ให้แจ่มใสตลอดทั้งวัน และทำให้ความเครียดเกิดได้ยากขึ้นอีกด้วย และยังเป็นการช่วยลดไขมันหน้าท้องอีกด้วย

4.หาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง การออกกำลังกายจะช่วยสลายอะดรินารีนส่วนเกินที่สะสมเอาไว้ในร่างกาย เมื่ออะดรินารีนสลายไปจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจต่ำลง และยังดีต่อระบบชีวเคมีในสมองอีกด้วย ซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาความทุกข์ รวมไปถึงความกดดันในจิตใจได้อย่างดีเยี่ยม

       5.สร้างอารมณ์ขันให้กับตัวเอง ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเครียดแนะนำว่า เมื่อเกิดความเครียดให้ทำการหัวเราะ โดยการสรรหาเวลาสำหรับกิจกรรมบันเทิง คุยเรื่องตลกกับเพื่อน หรือดูรายการตลก เพราะการหัวเราะจะสามารถช่วยในการลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

6.ควบคุมสิ่งที่ทานเข้าไป หลายคนมีความเชื่อว่า แอลกฮอล์ คาเฟอีน น้ำตาล ไขมัน บุหรี่ ฯลฯ สามารถช่วยคลายเครียดได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายรับมือกับความเครียดได้แย่ลงมากกว่าเดิม ถ้าหากอยากควบคุมความเครียดด้วยการกิน ควรหันมารับประทาน ผัก ผลไม้ ธัญพืช หรืออาหารที่มีโปรตีนสูงๆ แต่มีไขมันที่ต่ำจะดีกว่า

 7.ลองละทิ้งเรื่องที่ทำให้เครียดเพื่อหาทางระบายออกอย่างสร้างสรรค์ โดยการหันไปทำกิจกรรมอื่นๆที่จะช่วยทำให้คุณสบายใจขึ้นชั่วคราว เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ออกไปเที่ยว เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดความเครียดขึ้นมาแล้ว สำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบระบายความเครียดโดยการกินแหลก ขอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะถึงแม้จะช่วยทำให้หายเครียดลงไปเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ได้รับปริมาณแคลอลี่ที่ไม่น่าพึงพิศมัยกลับมาด้วย และยังเป็นการไปเร่งให้ไขมันหน้าท้องมีการสะสมตัวกันมากขึ้นอีกด้วย

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

กางเกงกระชับสัดส่วนช่วยทำให้ขาเล็ก ได้จริงหรือ

ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน เป็นวงการที่ไม่เคยหยุดการพัฒนาสินค้าประเภทใหม่ๆออกมาให้คุณสาวๆเลือกใช้ เพื่อเนรมิตขาให้ขาเล็กเรียวสมดังใจ ซึ่งคุณสาวๆหลายๆคนอาจจะคิดว่า มีเพียงแค่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หรือยาลดน้ำหนักเท่านั้นที่จะช่วยทำให้ขาเล็กลงได้ดังใจ

แต่ที่จริงแล้ว ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีความก้าวหน้าไปมากกว่านั้นมากมายหลายขุมนัก จนกระทั่งทำให้เกิดเจ้าผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสวมใส่เพื่อลดน้ำหนักอย่าง “กางเกงขาเรียวเล็ก กระชับสัดส่วน สลายไขมัน” ขึ้นมา ซึ่งเจ้าผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวนี้ จะมีคุณสมบัติมหัศจรรย์ในการช่วยลดเรียวขาให้เล็กลงได้อย่างไรนั้น ไปติดตามอ่านได้จากในบทความต่อไปนี้กันเลย

กางเกงขาเล็กขาเรียวเล็ก คืออะไร

กางเกงขาเล็ก จริงๆแล้วก็คือ “กางเกงเลกกิ้งสำหรับรัดขา” เป็นกางเกงที่ถูกผลิตขึ้นมาจากผ้าไนล่อนที่ไม่หนา มีลักษณะเป็นถุงน่อง ผสมกับเลคกิ้ง เมื่อคุณสาวๆที่ต้องการให้ขาเล็กลงทำการสวมเจ้ากางเกงตัวนี้

กางเกงก็จะช่วยเก็บต้นขาที่หย่อนคล้อยให้กระชับกลับเข้าที่ในทันที จากนั้นก็ทำการสวมทับด้วยกางเกงขายาว หรือก็กระโปรงก็สามารถที่จะออกไปเฉิดฉายนอกบ้านได้อย่างมั่นใจ

ซึ่งในปัจจุบันเจ้ากางเกงขาเรียว ได้ถูกผลิตออกมาให้คุณสาวๆเลือกซื้อหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น หุ้มส้น หุ้มถึงข้อเท้า ทั้งแบบหนาหรือแบบบางเหมือนกับถุงน่อง โดยมีสีของกางเกงขาเรียวที่ได้รับความนิยมคือ สีดำ และสีเนื้อ

ความรู้สึกในขณะที่สวมกางเกงขาเรียว

ในขณะที่ทำการสวมใส่กางเกงขาเล็กเรียบร้อยแล้ว จะสามารถรู้สึกได้ถึงความแน่นในบริเวณที่สวมกางเกงขาเรียวได้อย่างชัดเจน ซึ่งความรู้สึกจะคล้ายๆกับคนที่ใส่สเตย์ เนื่องจากเนื้อผ้าก็จะมีความคับมากเช่นเดียวกัน แต่กางเกงขาเรียวถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถระบายอากาศได้ดีมากกว่า

กางเกงขาเรียวเล็กช่วยทำให้ขาเล็กลงได้จริงๆหรือ

            จากคำโฆษณาของผลิตภัณฑ์ได้มีการให้ข้อมูลเอาไว้ดังต่อไปนี้ ตัวเนื้อผ้าของกางเกงขาเรียวมีการถักทอขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษ ที่ช่วยทำการกระชับ และปรับรูปขา ต้นขา น่อง หน้าท้อง ให้เกิดความกระชับเรียวเล็กลงได้

            กางกางขาเรียว ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย เป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ว่าต้นขาของตนเองนั้นจะมีความเรียวสวยงามไม่หย่อนคล้อยอย่างแน่นอน โดยกางเกงขาเล็กเรียวนั้น

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดไขมัน และเนื้อส่วนเกินไม่ให้หย่อนคล้อยอีกด้วย ด้วยการกระตุ้นคล้ายๆกับมีคนกำลังทำการบีบนวดขาอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นการช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณนั้นให้หมดไป เมื่อใส่ปุ๊ปก็จะช่วยให้ลดขาให้เล็กลงทันที่ถึง 5 เซนติเมตร เลยทีเดียว กล่าวโดยสรุป ผลจากการใส่กางเกงขาเรียวมีอยู่ 2 แบบ คือ

  1. ผลชั่วคราว เมื่อสวมใส่กางเกงขาเรียวจะทำให้ขาเล็กลงในทันที แต่เมื่อถอดออกก็จะกลับไปมีขนดใหญ่เท่าเดิม
  2. ผลถาวร คือ การสวมใส่กางเกงขาเรียวเป็นระยะเวลาติดต่อกันวันละประมาณ 8 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน แต่จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานาน ประมาณ 1-3 เดือน จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์

วิธีการใช้กางเกงขาเรียวที่ถูกต้อง

สำหรับวิธีการใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่สวมเอาไว้ภายใต้กางเกง หรือกระโปรงในขณะที่ทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน หรือถ้าหากต้องการก็สามารถที่จะนำมาสวมใส่ในขณะที่นอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนได้เช่นกัน ขอแนะนำให้ทำการใส่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องวันละ 8 ชั่วโมง

การสวมใส่กางเกงขาเล็กในครั้งแรก นับว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญด่านแรกที่คุณสาวๆจะต้องประสบ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆนั้น มักที่จะใส่ยาก เนื่องจากยังไม่เกิดการยืดตัว ดังนั้นจึงควรทำการยืดสินค้าก่อนการสวมใส่ครั้งแรก และเพื่อการส่วมใส่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ให้ทำการกลับด้าน แล้วค่อยๆใส่ย้อนกลับขึ้นมาจนถึงโคนขา

การรักษาความสะอาดและการถนอมผลิตภัณฑ์

            สำหรับการทำความสะอาดกางเกงขาเรียวนั้น ควรทำด้วยความใส่ใจและความอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ ซึ่งควรทำการซักกางเกงขาเรียวด้วยมือ โดยใช้น้ำอุณหภูมิปกติ น้ำยากซักผ้าที่ใช้ควรเป็นชนิดอ่อน ห้ามทำการปั่นแห้ง ห้ามฟอกสี 

ในขณะที่ตากอย่าใช้ที่หนีบหรือวัตถุมีคม ควรพึ่งลมหลังจากที่ซักเสร็จโดยห้ามตากแดด และควรทำการเก็บรักษาโดยที่ไม่ต้องรีด ซึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้นจะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการเก็บดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ของแต่ละคน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ลดห่วงยางรอบเอว

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (CARDIO) เป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยทำให้มีสุขภาพดีหุ่นฟิตเฟิร์มอีกด้วย

สำหรับคุณสาวๆที่ต้องการลดห่วงยางรอบเอวที่เป็นปัญหาหนักอกทิ้งไปอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนี่ล่ะ เป็นตัวเลือกที่คุณสาวๆ ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอคืออะไร

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นวิธีการบริหารร่างกายเพื่อให้ระบบไหลเวียนโลหิตมีการสูบฉีด และเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยรูปแบบการออกกำลังกายจะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การเดิน การว่ายน้ำ ตีเทนนิส ตีแบต เต้นแอโรบิก เป็นต้น

ในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนี้ จะเป็นการออกกำลังอย่างต่อเนื่องโดยใช้เวลาตั้ง 20 นาที ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ว่าคุณสาวๆต้องการออกกำลังไปเพื่ออะไร ซึ่งในวันนี้จะขอเน้นไปที่การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อลดห่วงยางรอบเอวโดยเฉพาะ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยลดไขมันรอบเอวได้อย่างไร

เมื่อคุณรับประทานแป้งเข้าไป แป้งจะถูกเปลี่ยนรูปให้กลายเป็นน้ำตาล ซึ่งถ้าหากเหลือใช้ก็จะถูกนำไปเก็บไว้เป็นไกลโคเจนตามกล้ามเนื้อ หรือตามตับ เมื่อไกลโคเจนมีมากจนล้นที่เก็บ ร่างกายก็จะนำไปเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น รอบเอว เป็นต้น ในรูปแบบของไขมันแทน

แต่เมื่อมีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายอย่างหนักจะทำให้เซลล์มีความต้องการใช้ออกซิเจนที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้น ซึ่งน้ำตาลที่สามารถเบิกมาใช้ง่ายที่สุดก็คือ ไกลโตรเจน ตามกล้ามเนื้อนั่นเอง เมื่อถูกนำมาใช้ที่เก็บก็จะว่างลง ดังนั้นจึงไม่เกิดการล้นไปสะสมเป็นไขมันในอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายนั่นเอง

นอกจากนี้ ช่วงเวลานาทีทองที่เหมาะสมที่สุดในการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ คือ หลังจากการตื่นนอน ก่อนทานอาหารเช้า หรือหลังจากการที่เล่นเวทเทรนนิ่งเสร็จ ช่วงเวลาดั่งกล่าวร่างกายของเราจะมีการใช้พลังงานจากไกลโตรเจน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักในการออกกำลังกายจนเกือบหมด

หลังจากการนอนมาทั้งคืนหรือการฝึกมาตลอดชั่วโมง เมื่อทำการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงเวลาดั่งกล่าว จึงเป็นการยังคับให้ร่างกายมีการนำไขมันมาใช้ในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ทำให้เป็นการช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายและลดห่วงยางรอบเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสำหรับมือใหม่

สำหรับคุณสาวๆมือใหม่ที่อยากออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ควรเริ่มจากการออกกำลังกายขั้นต่ำ 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน เมื่อคิดว่าร่างกายเริ่มเคยชินและกำลังอยู่ตัวแล้ว จึงค่อยๆเพิ่มจำนวนเวลาในการออกกำลังให้มากขึ้นกว่าเดิม

การอบอุ่นร่างกาย เตรียมพร้อมก่อนการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ

ก่อนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คุณสาวๆควรทำการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยท่าต่างๆที่จะขอแนะนำ ดังต่อไป

1. ท่า Power Skip เริ่มจากการยืนตัวตรง แล้วให้ทำวิ่งกระโดดยกเข่าข้างใดข้างหนึ่งให้สูงขึ้น ขณะวิ่งให้ทำการแกว่งแขนด้านที่อยู่ตรงข้ามขึ้นเหนือศีรษะไปตามจังหวะ แล้วทำสลับข้างไปเรื่อยๆ

2. ท่า Hight Kness เป็นการวิ่งอยู่กับที่ แต่ต้องยกเข่าให้สูงขึ้นมากกว่าการวิ่งปกติ งอข้อศอก กดไหล่ตรง พร้อมกับทำการเหวี่ยงแขนไปมาสลับกันเป็นจังหวะ

3. ท่า Jumping Jacks เริ่มจากการยืนชิดเท้าเข้าหากัน มือทิ้งตามสบายอยู่ด้านข้างของลำตัว แล้วให้ทำการกระโดดพร้อมกับแยกขาออกจากกัน พร้อมกับยกแขนขึ้นให้สูงเหนือศีรษะ (คล้ายกับท่ากระโดดตบ) จากนั้นให้กลับสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำซ้ำในจำนวนที่ต้องการ

4. ท่า Butt Kicks  เริ่มจากการยืนตัวตรง โดยให้เท้าแยกออกจากกันพอประมาณ แล้วให้ทำการเคลื่อนไหวบริเวณขาโดยยกขาไปทางด้านหลัง ซึ่งจะเริ่มจากขาข้างใดก่อนก็ได้ จากนั้นให้ทำสลับกันไปเรื่อยๆ ตามจำนวนที่ต้องการ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อลดห่วงยางรอบเอว

หลังจากที่ได้ทำการอบอุ่นร่างกายกันพร้อมแล้ว คราวนี้จะกลับเข้าสู่อาหารจานหลักกัน นั่นคือวิธีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อลดห่วงยางรอบเอวโดยเฉพาะนั่นเอง ซึ่งมีท่าและวิธีการออกกำลังที่แนะนำดังต่อไปนี้

1. ท่า Tabata Crunch เริ่มต้นจากการนอนราบลงไปกับพื้น ยกบริเวณศีรษะขึ้นเหนือพื้น พร้อมกับยกขาทั้งสองข้างขึ้น ส่วนแขนอาจจะยกไว้เหนือศีรษะหรือเอามือทั้งสองข้างแตะเอาไว้บริเวณใบหูของแต่ละข้าง จากนั้นให้ทำการเลื่อนขาเข้าออกจากลำตัวกลางอากาศ

2. ท่า Sprinter Sit-Up เริ่มต้นจากการนอนราบลงไปกับพื้น (ควรหาเบาะมารองก่อนนอน) จากนั้นให้ทำการดันตัวขึ้นเหมือนกับกำลังซิทอัพ แต่ในขณะที่กำลังยกตัวขึ้นนั้น ให้ยกขาข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับมือด้านตรงกันข้าม จากนั้นให้ทำสลับกันให้ได้ 15-20 ครั้ง เมื่อทำครบ 2 ข้าง ให้นับเป็น 1 เซ็ท

3.การว่ายน้ำ การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์ในการบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วย รวมไปถึงกล้ามเนื้อท้องด้วย โดยท่าที่เหมาะที่สุดในการลดห่วงยางรอบเอวคือ การว่ายท่ากรรเชียง ซึ่งเป็นท่าที่ต้องใช้แรงค่อนข้างมากทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพียงอย่างเดียวยังไม่ถือว่าเพียงพอในการลดห่วงยางรอบเอว คุณสาวๆควรทำการออกำลังด้วยการเล่นเวทเทรนนิ่ง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ทั้งการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่ดีอีกด้วย

ข้อควรระวังในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

สำหรับผู้ป่วย ผู้ที่มีโรคเกี่ยวข้องกับความดันโลหิต หรือผู้มีโรคประจำตัวบางอย่าง ควรทำการปรึกษาและได้รับการอนุญาตจากแพทย์ ก่อนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพราะการออกกำลังกายในลักษณะนี้หนักๆมักที่จะทำให้เกิดความดันสูง

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นการช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ที่จำเป็นจะต้องทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จึงจะสามารถลดห่วงยางรอบเอวลงได้ แต่ต้องอาศัยความอึดในการเล่น เพราะมีหลายคนที่ท้อและเลิกเล่นเพราะไม่เห็นผลทันตา

ถ้าหากทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอประมาณ 1 เดือน คุณสาวๆก็จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ด้วยความพยายามของตัวเองอย่างแน่นอน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

เอวเล็กสั่งได้ ออกกำลังกายลดรอบเอวด้วยตัวคุณเอง

ในปัจจุบัน คุณสาวๆบางคนอาจจะทำการสำรวจร่างกายของตัวเอง และพบว่าอยู่ๆก็มี “ห่วงยางส่วนเกิน” ปรากฏขึ้นมาอยู่บริเวณรอบๆเอว ซึ่งเจ้าห่วงยางดังกล่าว มักจะเกิดขึ้นมาจากการการสะสมตัวของไขมัน จากการพฤติกรรมตามใจปากของคุณสาวๆ บวกกับด้วยการไม่ได้ออกกำลังกายเผาผลาญไขมันในแต่ละวันอย่างเหมาะสม

รอบเอวที่ยื่นออกมาอย่างน่าเกลียดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่บั่นทอนทำลายความมั่นใจของคุณสาวๆ ในยามที่จำเป็นจะต้องสวมใส่ชุดที่เปิดเว้าโชว์เนื้อหนังให้คนอื่นเห็น

ถ้าหากคนใดเริ่มเอะใจว่ารอบเอวของตัวเองนั้น เริ่มมีขนาดขยายมากกว่าปกติแล้วล่ะก็อย่ามัวชะล่าใจไป ควรรีบทำการออกกำลังกายเพื่อรีดลดสัดส่วนเอวลงให้รวดเร็วมากที่สุดตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้น จนกระทั่งกลายมาเป็นอย่างเรื้อรังแล้วล่ะก็จะแก้ไขได้อย่างยากมากทีเดียว

สำหรับในวันนี้จะขอพาคุณสาวๆที่กำลังต้องการจะลดรอบเอว ไปรู้จักกับท่ากายบริหารลดรอบเอวอย่างง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง

ท่ากายบริหารเพื่อลดรอบเอวอย่างง่ายๆ

สำหรับท่ากายบริหารเพื่อลดรอบเอวนั้นมีอยู่หลายท่า ซึ่งคุณสาวๆสามารถที่จะเลือกออกกำลังในท่าที่ถนัด หรือชอบเพื่อนำไปใช้ได้ทันที แต่ขอแนะนำว่า ควรออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ อย่าหักโหมจนเกินไป เพราะถึงแม้จะลดรอบเอวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น แต่ถ้าหากบาดเจ็บขึ้นมาย่อมได้ไม่คุ้มเสีย โดยมีท่าบริหารที่แนะนำดังต่อไปนี้

1. ท่า V-Hold เริ่มจากการนั่งให้ก้นชิดขาวางราบไปกับพื้น ใช้มือจับช้อนใต้ข้อพับ เอนหลังและยกขาขึ้นจนส่วนเข่า-ปลายเท้าขนานกับพื้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจึงปล่อยมือ เหยียดขาตรง ค้างท่านี้เอาไว้แล้วนับ 1-8 ในใจ จากนั้นค่อยกลับสู่ท่าเดิม ทำติดต่อกัน 3 ครั้ง เป็นการช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณรอบเอว

2. ท่า Plank/Pelvis truck ทำการนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น ตั้งข้อศอกระดับไหล่ แยกขาออกให้พอดีกับไหล่ จากนั้นยกสะโพกขึ้น ให้เท้าและตัวตั้งฉากกับพื้น เกร็งหน้าท้อง ทำค้างเอาไว้โดยนับ 1-4 จากนั้นให้ผ่อนเข่าลง โดยไม่ให้เข่าแตะพื้น ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย ทำค้างเอาไว้ นับ 1-4 แล้วทำทั้งสองท่านี้สลับกันไปมา 3 รอบ จะเป็นการช่วยกระชับหน้าท้อง และกล้ามเนื้อแนวขวาง เสริมสร้างซิกแพ็ค

3. ท่า Side-Crunch & Pulse นอนหงายแล้วยกศีรษะขึ้น มือประสานกันเอาไว้หลังหัว ชันเข่าขึ้นเป็นมุมฉาก ก่อนเอนออกไปทางด้านซ้าย เกร็งหน้าท้องยกลำตัวขึ้นให้คล้ายกันการทำซิทอัพ แต่ไม่ต้องแตะเข่า ทำซ้ำประมาณ 15-25 ครั้ง จากนั้นให้กลับไปสู่ท่าเตรียมพร้อม

เท้าวางกับพื้น เข่างอเป็นฉาก เหยียดมือซ้ายตึงออกไปหาปลายเท้าแล้วหย่อนลง ทำประมาณ 15-25 ครั้ง เสร็จแล้วให้กลับเข้าสู่ท่าผ่อนคลาย แล้วเปลี่ยนข้างไปทำเช่นเดินกับขาขวา

เมื่อครบทั้งสองข้างให้นับเป็น 1 เซ็ต ให้ทำให้ได้ประมาณวันละ 2 เซ็ต จะเป็นการช่วยออกกำลังกล้ามเนื้อด้านข้างของหน้าท้อง กล้ามเนื้ออกส่วนล่าง และเสริมสร้างซิกแพ็ค

4. ท่า Leg Reach ทำการนอนราบยกไหล่ขึ้นจากพื้น มือประสานเอาไว้หลังศีรษะ หรือวางราบราบขนาบลำตัว ยกขาทั้งคู่ชันขึ้นให้เข่าอยู่ตรงกับสะโพก ขาชี้ออกเป็นมุมฉาก เกร็งหน้าท้องแล้วยกลำตัวขึ้นคล้ายกับท่าซิทอัพ หายใจเข้าออกแล้วค้างเอาไว้ประมาณ 3-5 วินาที หายใจออก

จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นการเหยีดขา 45 องศา แล้วทำค้างเอาไว้ประมาณ 3-5 วินาที ทำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง เป็นท่าที่จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง เสริมสร้างซิกแพ็ค

5. ท่า Squat หรือท่านั่งเก้าอี้อากาศ ให้ทำเหมือนมีเก้าอี้ล่องหนอยู่ จากนั้นให้ค่อยๆลนั่งลงไป แขนยืดตรง หลังตรง โดยทำท่านั่งค้างอบู่ประมาณ 1 นาที

6. ท่า Air Bike หรือท่าจักรยานอากาศ ทำการนอนราบลงกับพื้น สองมือหนุนอยู่หลังศีรษะ แล้วยกขาให้ลอยอยู่ตลอดเวลา จากนั้นให้ทำคล้ายกับการซิทอัพ โดยการยกบิดลำตัวขึ้นมาให้ศอกซ้ายแตะเข่าขวา และสลับไปยกลำตัวบิดให้ศอกขวาไปแตะเขาซ้าย ทำสลับกัน 3 เซ็ต เซ็ทละ 20 ครั้ง
7. ท่า Bride หรือท่าสะพานโค้ง โดยการนอนราบ แล้วยกแผ่นหลัง สะโพก และก้นขึ้นให้ลอยเหนือพื้น หลังตรง โดยทำค้างเอาไว้ประมาณ 1 นาที

นอกจากท่าออกกำลังกายที่ได้ทำการแนะนำไปแล้วนั้น ยังมีการออกกำลังกายอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยในการลดน้ำหนัก ลดรอบเอว และเบิร์นไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี คือ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นประเภทของการออกกำลังกายมากกว่าเป็นท่ากายบริหาร อาทิเช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน เป็นต้น

การออกกำลังกายในลักษณะเหล่านี้จะช่วยทำให้ไขมันหน้าท้องสลายออกไปเป็นอันดับแรกๆ  โดยมีหลักการว่าใน 1 สัปดาห์ ควรทำการออกกำลังในลักษณะดังกล่าวรวมกันให้ได้อย่างน้อย 150 นาที หรือถ้าเป็นการออกกำลังแบบหนักมากๆอย่างต่อเนื่อง ให้ลดลงเหลือเพียง 75 นาที ก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายนั้น เป็นสิ่งที่คุณสาวๆ ควรให้ความสำคัญ และทำเป็นประจำให้กลายเป็นนิสัย เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และหุ่นที่สวยงามคงอยู่กับตัวเราอย่างยาวนานมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ควรที่จะทำการเสริมด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพอย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้เกิดการเบิร์นพลังงานตลอดเวลาอยู่ตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันก็ได้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายชิ้น ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

หมดเวลาอำพรางพุงแล้ว มา ลดหน้าท้อง แบบได้ผลกันเถอะ

หน้าท้อง เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่บ่งบอกว่า สภาพร่างกายของเราในตอนนั้นมีสภาพอย่างไร คนที่มีหน้าท้องมาก จนกลายเป็นพุงยื่นออกมา ย่อมหมายความว่า มีไขมันสะสมในร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นสันญาณอันตรายที่บ่งบอกว่า ถ้าหากยังคงชะล่าใจต่อไป ไขมันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจะทำให้คุณกลายเป็นคนอ้วนไปในที่สุด

นอกจากนี้ไขมันหน้าท้อง ยังเป็นสิ่งที่ลดได้ยาก แล้วยังทำให้สาวๆ หนุ่มๆ สูญเสียความกล้าในการสวมเสื้อผ้าโชว์สัดส่วนหน้าท้องอย่างมั่นใจอีกด้วย

หน้าท้องเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร?

หน้าท้อง เกิดขึ้นจากไขมันโดยการทำงานของตับ ซึ่งทำหน้าที่ในการเปลี่ยนกลูโคสให้กลายเป็นไขมัน จากนั้นจะเก็บสะสมไขมันเอาไว้ใกล้ๆกับตัวเอง หรือบริเวณกลางลำตัว ซึ่งจะอยู่ตามอวัยวะ ภายในช่องท้อง รวมทั้งตับเองด้วย เมื่อมีการสะสมเอาไว้เป็นจำนวนมากๆก็จะทำให้เกิดหน้าท้อง หรือพุงขึ้น

อันตรายจากการมีหน้าท้อง

เมื่อตับมีภาวะไขมันสะสมมากๆ จะถูกเรียกว่า Fatty Liner ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการทำงานของร่างกายตามมา เนื่องจากตับมีหน้าที่เกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงาน ขับสารพิษ เมื่อตับมีปัญหาก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งหมายความว่าการเผาผลาญของร่างกายก็จะลดลงด้วย ทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว

การลดหน้าหน้าท้องยากอย่างไร?

คนเราแต่ละคน จะมีรูปแบบในการลดหรือเพิ่มไขมันในแต่ละส่วนของร่างกายแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะเกิดไขมันสะสมในหน้าท้องก่อนส่วนอื่น บางคนอาจจะเริ่มมีไขมันจากต้นขาหรือก้น ซึ่งความแตกต่างดังกล่าว ทำให้ลำดับขั้นตอนในการลดไขมันแตกต่างกันตามไปด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วลำดับการลดไขมันมักจะตรงกันข้ามกับลำดับการเพิ่ม คนที่เริ่มมีไขมันจากหน้าท้องก่อนส่วนอื่น ก็มักที่จะลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ทีหลังสุด

ลดหน้าท้อง

วิธีการลดหน้าท้องอย่างง่ายๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง

วิธีการลดหน้าท้องสามารถทำได้หลายวิธี แต่จะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความพยายามและความตั้งใจจริง ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จของคุณสาวๆ ในวันนี้จึงขอเสนอวิธีการเล็กๆน้อยๆ แต่ได้ผล ในการลดหน้าท้องกันอย่างง่ายดายด้วยตัวคุณเอง ดังนี้

1. การออกกำลังกายเฉพาะส่วน

การออกกำลังกายเฉพาะส่วนที่ช่วยในการลดหน้าท้องมีอยู่หลายวิธี เช่น การซิทอัพ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เฃ่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป นอกจากนี้ยังสามารถออกกำลังโดยการเต้น ซึ่งใน 1 ฃั่วโมง สามารถช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ถึง 400 แคลอลี่ โดยเฉพาะการเต้นแบบ Belly Dance จะเป็นการเต้นที่ได้ผลดีมากที่สุด

2. การออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน

เป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ โดยไม่ต้องแบ่งเวลาไปออกกำลังกายอย่างจริงจัง เช่น การทำงานบ้าน ทำสวน ก้มๆเงยๆบ้าง ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัว หรือในขณะที่นอนดูโทรทัศน์ให้ลองยกขา โดยวางขาไว้บนเก้าอี้แล้วเกร็งท้อง พร้อมกับยกศีรษะค้างเอาไว้สัก 5 วินาที ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีการบริหารหน้าท้อง โดยการฝึกเกร็งหน้าท้อง ในขณะที่นั่งทำงาน ก็จะช่วยทำให้หน้าท้องของคุณกระชับขึ้นได้ ฝึกทำวันละ 10-15 ครั้ง และการนวดบริเวณหน้าท้อง โดยการวางมือลงบนหน้าท้องแล้วนวดทวนเข็มนาฬิกา จะเป็นการช่วยขับไล่ลมที่เก็บเอาไว้ในช่อท้อง พร้อมยังช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

โดยเฉพาะอาหารที่มีเส้นใย และกากอาหารสูงๆ เป็นการช่วยแก้ปัญหาท้องผูก และอาหารประเภทโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำ เพื่อช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในกลุ่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งทำให้ระบบย่อยอาหาร สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน

ในปัจจุบันมีอาหารมากมายหลายชนิด ที่ถึงแม้รสชาติจะอร่อยถูกปาก แต่ทำให้เกิดการสะสมของไขมัน และยังก่อผลเสียให้กับร่างกาย อาทิเช่น อาหารที่มีรสเค็ม ที่มีส่วนประกอบของเกลือเป็นจำนวนมากๆ อย่างของประเภทหมักดอง ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ หรือน้ำอัดลม ที่มีส่วนประกอบของแก็ซและน้ำตาลจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหน้าท้อง

5. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ

ในแต่ละวันควรที่จะดื่มน้ำเปล่าให้ได้จำนวน 8-10 แก้วต่อวัน ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดรักษาสมดุลของร่างกาย ทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น และยังช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำไม่เกิน 4 ทุ่ม และหลับพักผ่อนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ต่อวัน จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอโมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงานออกมา ซึ่งเป็นการช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

พฤติกรรมบั่นทอนความสวยทั้งๆ ที่จะลดพุงอยู่ได้แล้วแท้ๆ

วันหยุดยาวๆ ติดต่อกันแบบนี้ สาวๆหลายคนก็เอาแต่กินๆ นอนๆ ทั้งโค้ก เค้ก ขนมขบเคี้ยว หลายๆ วันเข้า เอ้านี่พุงมาจากไหน ?? แหมๆ ก็พฤติกรรมการกินและนอนเหล่านี้เนี่ยล่ะ ที่สร้างปัญหาให้สาวๆไม่หยุดหย่อน 

วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากจะลดทอนความใหญ่ของพุงมาฝากกันค่ะ

               หายใจ แขม่วท้อง การหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธี ก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้พุงอวบๆ ของคุณบรรเทาลงได้ เพราะการหายใจเข้าออก อย่างช้าๆ ลึกๆ จะช่วยในเรื่องของระบบเผาผลาญอาหารของเราได้ดีขึ้น  และในขณะที่คุณนั่งทำงานคุณยังสามารถแขม่วท้องไปด้วยเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณไปในตัวนะคะ

               อาหาร  ขอแนะนำว่าแป้ง น้ำตาล ไขมัน  งดค่ะ  งดให้หมด ต้องทำใจงดให้ได้เพราะสิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณต้องตกอยู่ในภาวะพุงระเบิดได้ง่ายๆ เลยทีเดียว  ทางที่ดีควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง  เช่น ผัก ผลไม้  ไม่ว่าจะแบบสดๆหรือแบบสุกๆ ก็ได้ทั้งนั้นจ้า 

               แนะนำต่ออีกนิด  ทานอาหารช้าๆ งดกินจุ๊บจิ๊บระหว่างวัน  ก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ

ลดพุง
               ออกกำลังกาย  ทางเลือกที่ดีที่สุดในการ ลดพุง ลดน้ำหนัก ขอแนะนำให้ลองเล่นฮูลาฮูป  ยิ่งเล่นประกอบจังหวะเพลงมันส์ๆ  แหม มันได้อารมณ์จริงๆนะคะ  ได้ทั้งพุงลดลง แล้วยังรู้สึกสนุกจิตใจเบิกบาน  แต่ไม่ต้องเล่นหักโหมมากจนเอวเจ็บเอวเคล็ดล่ะ เล่นแต่พองามวันละ 20 – 30 นาที ก็พอควรแล้วค่ะ  และต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างอื่นด้วยเช่น  ซิทอัพ หรือแอโรบิคแดนซ์  เท่านี้พุงใหญ่ก็กลายเป็นไม่เหลือพุงเลยค่ะ
สาวๆทั้งหลายทราบแนวทาง ลดพุง กระชับหน้าท้อง บ้างแล้วก็ตั้งใจนะคะ  อย่าให้ปัญหาพุงใหญ่ระเบิดมาทำลายความมั่นใจของคุณ  ของแบบนี้ต้องพยายามค่ะ  ความสวยอยู่ไม่ไกลแล้ว

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ต้นขาเท่า ตอหม้อทางด่วน ลดต้นขาแบบใหนดีล่ะ

         เรียวขาของสาวๆเป็นส่วนสำคัญมากของร่างกาย นอกจากจะใช้ประคองน้ำหนักตัวแล้ว ยังเป็นตัวช่วยดึงดูดสายตาจากเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี เพราะร้อยทั้งร้อยของผู้ชายคงไม่มีใครชอบมองต้นขาใหญ่เป็นตอม่อมากกว่าการได้เห็นเรียวขาแสนงามของสาวๆเป็นแน่ ดังนั้น สำหรับคุณผู้หญิงหากใครมาล้อว่า “นั่นขาคนหรือขาโต๊ะสนุ๊ก” คงเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ ดังนั้น เพื่อจัดการกับปัญหาขาใหญ่นี้ให้หมดไป มาดูกันว่าวิธีลดต้นขาแบบไหนดีที่สุด

 

ทำไมต้นขาถึงใหญ่
การที่เรามีต้นขาใหญ่นั้นเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักก็คือการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากๆ ด้วยปริมาณเกินกว่าความจำเป็นที่ร่างกายนำไปใช้ จึงทำให้เกิดไขมันสะสม โดยมักจะไปสะสมอยู่บริเวณต้นขาในรูปแบบของเซลลูไลท์ ดังนั้น หากเราออกกำลังกายเป็นประจำ หากแต่ยังรับประทานอาหารที่มีไขมันมากอยู่ ก็บอกได้เลยว่าเสียแรงเปล่า สำหรับเหตุผลที่ไขมันส่วนเกินมักจะไปสะสมอยู่ที่ต้นขานั้น เนื่องจากร่างกายเลือกที่จะนำไขมันส่วนเกินเหล่านั้นไปปกป้องอวัยวะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบในการสืบพันธุ์ จึงสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วช่วงต้นขาจะไม่ใหญ่เหมือนสมัยสาวๆ แต่ร่างกายจะนำไขมันเหล่านี้ไปสะสมไว้ช่วงบน ช่วงที่เหนือเอวขึ้นไป ออกมาในลักษณะที่เราเรียกว่าลงพุงแทน
 กระนั้นก็ตาม ยังมีเหตุผลอื่นๆที่ทำให้ต้นขาใหญ่ได้อีก อย่างเช่น ครอบครัวมีโครงสร้างขาใหญ่ หรือครอบครัวเรามักจะตันช่วงล่าง เรียกง่ายๆว่าเกิดจากกรรมพันธ์นั่นเอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เราไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น คำถามที่ว่าวิธีลดต้นขาแบบไหนดี คำตอบก็คือควรเน้นไปที่การดูแลในเรื่องของอาหารการกินและออกกำลังกายเป็นหลัก เพราะจะเป็นวิธีการ­ที่เห็นผลมากที่สุด

 

วิธีลดต้นขาด้วยการออกกำลังกาย
         1.วิ่งระยะไกล ใครที่ไม่รู้ว่าจะลดต้นขาแบบไหนดี ลองหาเวลาออกไปวิ่งเป็นระยะทางไกลๆดู แล้วจะพบว่ามันได้ผลดีมาก จะสังเกตเห็นว่านักกีฬาที่วิ่งกันเป็นประจำจะมีต้นขาและน่องที่เรียวเล็ก กล้ามเนื้อมีความกระชับ นั่นก็เพราะว่ากลไกของร่างกายจะปรับตัวไปตามธรรมชาติ ทั้งนี้การวิ่งระยะสั้นๆอาจไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อย และอาจทำให้น่องขาโตขึ้นอีกด้วย เนื่องจากร่างกายต้องเก็บพลังงานเอาไว้ใช้ในการวิ่งระยะสั้น และยังสร้างกล้ามเนื้อให้มากขึ้นจากการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ
         2.ปั่นจักรยาน ถือเป็นวิธีลดต้นขาอย่างได้ผล โดยให้นอนราบปั่นจักรยานอากาศอย่างน้อย 100 ครั้ง เวลาปั่นต้องออกแรงขาอย่างรวดเร็วห้ามหยุดพักจนกว่าจะครบเซ็ต สำหรับการปั่นจักรยานธรรมดาจะช่วยลดทั้งต้นขาและลดน่องได้ โดยการปั่นจะต้องเอาฝ่าเท้าลง อย่าใช้ปลายเท้าลง ที่สำคัญคือให้ผ่อนเกียร์จักรยานอ่อนๆให้ปั่นง่ายๆ และเน้นความถี่ เพื่อป้องกันเราน่องโต
         3.กระโดดเชือก กระโดดเชือกวันละประมาณ 200 ครั้ง โดยให้ลงน้ำหนักที่ปลายเท้า ซึ่งการลงน้ำหนักปลายเท้าเป็นการใช้กล้ามเนื้อบริเวณน่องและช่วยลดต้นขาได้
         4.ท่า Squats วิธีลดต้นขาแบบไหนดี และได้รับความนิยมมากที่สุด ต้องวิธีนี้เลย เพราะสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการยืนตรง แยกขาห่างออกจากกันให้พอดีกับหัวไหล่ จากนั้นให้ย่อตัวลงไปอยู่ในลักษณะต้นขาขนานกับพื้น โดยให้ย่อค้างไว้จนเริ่มรู้สึกปวดเกร็งบริเวณต้นขา จึงยืดตัวขึ้นในท่ายืนตรง ทำแบบนี้ประมาณ 30 ครั้งเป็นประจำทุกวันจะให้ผลลัพธ์ที่ดี
 ยังมีวิธีลดต้นขาอีกมากมายให้เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ ต้องอาศัยความต่อเนื่องสม่ำเสมอของการออกกำลังกาย และควรทำไปพร้อมกับการควบคุมอาหาร รับประทานแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผักผลไม้ เพียงเท่านี้การมีต้นขากระชับเรียวสวยก็ไม่ใช่แค่ความฝัน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ไม่เก็บไว้แล้ว ทั้งแขน ทั้งเสื้อสายเดี่ยว ลดต้นแขนแบบเร่งด่วนกัน

 

ปัญหาต้นแขน ถือว่าเป็นปัญหาที่กวนใจคุณสาวๆ มาช้านาน คุณสาวๆ บางคนอาจจะหลอกตัวเองว่า แขนตัวเองไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย แต่ครั้นจะรอให้ถึงคราวต้องสวมเสื้อผ้าเปิดไหล่เผยต้นแขนอย่างเสื้อสายเดี่ยว หรือชุดราตรี แล้วมีคนทักว่าต้นแขนใหญ่ให้สูญเสียความมั่นใจก็คงจะสายไปเสียแล้ว

สำหรับในวันนี้ มาดูวิธีที่สามารถช่วยลดต้นแขนแบบเร่งด่วนอย่างง่ายๆ ที่คุณสาวๆสามารถทำได้ด้วยตัวเองกันดีกว่า…

1. การออกกำลังกายเพื่อลดต้นแขน

วิธีการลดไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณต้นแขน ต้องใช้วิธีการออกกำลังกายโดยการออกำลังเบาๆ ไม่ต้องเน้นที่น้ำหนัก แต่ให้เน้นไปที่ความถี่ โดยออกกำลังกายให้บ่อยครั้งเข้าไว้ โดยมีวิธีการออกกำลังกายง่ายๆ ซึ่งสามารถเลือกนำท่าที่เหมาะสมกับเราไปใช้ออกกำลัง ดังต่อไปนี้

อุปกรณ์ที่ใช้ : ดัมเบลล์ 1 กิโลกรัม หรือขวดน้ำ 1 ลิตร

ท่าที่ 1 : ยืนกางขาให้พอดีกับหัวไหล่ 2 ข้าง แล้วถือดัมเบลล์ (หรือขวดน้ำ) แบบหงายมือวางแนบทิ้งกับลำตัว จากนั้นเกร็งแขน ยกดัมเบลล์ ในท่าพับข้อศอกขึ้นมาชิดหัวไหล่ ค่อยๆทำช้าๆ ขึ้นลง สลับซ้ายขวา วันละ 20 ครั้ง

ท่าที่ 2 : ยืนกางขาพอดีกับหัวไหล่ ในมือถือดัมเบลล์ทั้งมือซ้ายและมือขวาอย่างละอัน โดยถือแบบคว่ำมือวางชิดกับลำตัว จากนั้นให้เกร็งแขนแล้วยกดัมเบลล์ขึ้นมาโดยไม่งอแขน ยกขึ้นมาให้ขนานกับพื้นในระดับที่พอดีกับหัวไหล่ ค่อยๆทำขึ้นลง วันละ 20 ครั้ง

ท่าที่ 3 : ยืนกางขาพอประมาณ ย่อเข่าเพียงเล็กน้อย แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับดัมเบลล์ 1 อัน ค่อยๆ ยกขึ้นเหนือหัว เหยียดแขนทั้งสองให้ตรงค้างไว้สักพัก แล้วค่อยๆพับแขนลงด้านหลังให้เป็นรูปตัว L คว่ำ ขั้นตอนนี้ ควรจับให้แน่นเพื่อป้องกันอันตราย ทำวันละ 20 ครั้ง
*วิธีการออกกำลังกายดังกล่าว อาจทำสลับท่ากันวันเว้นวัน*

– ฮูลาฮูปแขน

ใช้ฮูลาฮูปสำหรับบริหารเอวโดยทั่วไป นำมาหมุนไปรอบๆแขนแทน โดยเริ่มจากแขนหมุนไล่ลงไปจนถึงข้อมือสลับซ้ายขวา หรือจะทำพร้อมกันทั้งสองข้าง

– กระโดดเชือก

ในขณะที่กำลังกระโดดเชือก แขนจะเกิดการเกร็งอยู่ตลอดเวลา และแขนก็จะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ในหนึ่งวันควรกระโดดเชือกอย่างน้อย 200-300 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

– การชกลม

ช่วยทำให้กล้ามเนื้อและต้นแขนกระชับเข้ารูป วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่ก้าวเท้าซ้ายหรือขวาออกไปข้างหน้า ยืนให้มั่นคง แล้วกำหมัดเปล่าๆ ต่อยออกไปข้างหน้า ในขณะที่ชกต้องให้ขาข้างที่ชกเหยียดตรง สะโพกมีการบิดตามการชกเล็กน้อย โดยชกสลับกันซ้ายขวา ประมาณ 100 ครั้ง

วิธีการออกกำลังกายที่ได้แนะนำมานั้น ล้วนมีจุดประสงค์ในการเผาผลาญไขมัน และช่วยเสริมสร้างกระชับกล้ามเนื้อต้นแขนทั้งสิ้น ควรเลือกการออกกำลังกายเพียงแค่ 1 อย่าง ใน 1 วัน ที่สำคัญคือ อย่าหักโหมมาก เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ไขมันสลายไปแล้ว ยังอาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้อีกด้วย

2. การออกกำลังกายในชีวิตประจำวันช่วยลดต้นแขนได้

เราสามารถออกกำลังกายได้จากในกิจวัตรประจำวันโดยที่ไม่รู้ตัวอย่างง่ายๆ เพียงแค่การใช้แขนให้มากกว่าเดิม เช่น การเดินแกว่งแขน การยกข้อศอก การถือถุงสินค้าเวลาไปเดินช็อปปิ้ง โดยขอแนะนำว่าเวลาถืออย่าอุ้ม และพยายามขยับขึ้นลงบ้างจะให้ผลเหมือนกับการออกกำลังกายโดยยกดัมเบลเลยทีเดียว

3. การสลายไขมันต้นแขน ด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นทางออกที่สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการของคุณสาวๆที่มีปัญหาในเรื่องต้นแขนใหญ่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักที่ใช้ได้ผลในการรีดไขมันต้นแขนที่ใหญ่มีอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งควรทำการศึกษาหาข้อมูลก่อนใช้ให้ดีเสียก่อน

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

ลดพุงใน 7 วัน เสกตัวเองเป็นคนใหม่ ได้จริงเหรอ

 

ปัญหาเรื่องหน้าท้อง หรือ “พุง” เป็นเรื่องที่ชวนให้หนักใจ พร้อมกับกวนใจพาลให้คุณสาวๆเสียความมั่นใจมาช้านาน เพราะคุณสาวๆไม่ว่าคนไหน ก็คงอยากที่จะมีหน้าท้องที่แบนเนียนราบเรียบชวนให้มองกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณสาวๆจะพยายามแล้วพยายามอีก เพื่อเสาะหาวิธีการที่จะช่วยกำจัดเจ้าไขมันส่วนเกินที่หน้าท้องให้มันหมดไปให้รวดเร็วที่สุด

แต่ถ้าอยากสวย อยากลดหน้าท้องให้ได้ภายใน 7 วัน จริงๆ ถึงฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหากคุณสาวๆ เคร่งครัดกับตัวเองและทำตามวิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ ความปารถนาที่จะมีหน้าท้องที่แบนราบเข้ารูป ก็จะไม่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป

1. การควบคุมอาหาร เริ่มต้นจากการงดขนมขบเคี้ยว อาหารที่มีไขมัน และอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากๆอย่างเด็ดขาด โดยคุณสาวๆอาจเริ่มการควบคุมอาหารโดยใช้เมนูดังต่อไปนี้ เป็นพื้นฐานสำหรับการลดน้ำหนักใน 7 วัน

วันที่ 1
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน – ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น – สลัดผัก

วันที่ 2
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น – โยเกิร์ต 1 ถ้วย

วันที่ 3
เช้า – กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน – เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)
เย็น – สับปะรด 1 ชิ้น

วันที่ 4
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟและขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน – สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น – โยเกิร์ต 1 ถ้วย

วันที่ 5
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น – สลัดผัก

วันที่ 6
เช้า – น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน – ปลานึ่ง หรือ ปลาเผาไม่จำกัด
เย็น – นมสด 1 แก้ว

วันที่ 7
เช้า – ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้น หรือไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน – เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ, หมู)
เย็น – สับปะรด 1 ชิ้น

ข้อควรระวังในการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักในเมนูที่ได้แนะนำไป คือ ถ้าหากรู้สึกหิว หรืออ่อนเพลียให้ดื่มน้ำเปล่าสะอาดมากๆ

2. เลือกอาหารที่มีผลช่วยในการควบคุมน้ำหนัก สำหรับคุณสาวๆหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีอาหารหลายชนิดที่มีผลช่วยในการย่อยอาหาร และเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย ซึ่งจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ดังต่อไปนี้

  • พริกไทย มีผลในการช่วยเร่งการย่อยและการเผาผลาญของร่างกาย
  • ผักผลไม้ มีไขมันน้อย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • น้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้าหลังจากที่ตื่นนอนประมาณ 2-3 แก้ว จะช่วยให้เกิดการล้างจุลินทรีภายในปาก ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดการย่อยอาหารเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย
  • นม ควรดื่มนมเปรี้ยว นมรสจืด หรือนมพร่องมันเนย แทนนมที่มีรสหวาน เพราะจะมีจุลินทรีที่ช่วยในการย่อยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก

3. การนอนแต่หัวค่ำและพักผ่อนให้เพียงพอ การเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานออกมา ซึ่งเป็นการช่วยในการกำจัดไขมันส่วนเกิน และควรพักผ่อนนอนหลับอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมง

4. การออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน การควบคุมอาหารควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการออกกำลังกายเพื่อลดหน้าท้องเองก็มีอยู่หลายวิธี แต่ที่ได้รับความนิยม และสามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง มีดังต่อไปนี้

  • ซิทอัพ + การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ โดยอาจเริ่มจากการซิทอัพ 20 ครั้ง แล้วค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ผสมกับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เช่น การสิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยทำให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไปได้ดียิ่งขึ้น
  • การเต้น การเต้น 1 ชั่วโมง สามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้ถึง 400 แคลอลี่ โดยเฉพาะการเต้นแบบ Belly Dance นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสาวๆ มีทรวดทรงที่กระชับเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
  • แขม่วหน้าท้อง เป็นการออกกำลังกายง่ายๆที่สามารถทำได้อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกด้วย โดยการหายใจเข้าแล้วแขม่วท้องเอาให้ได้มากที่สุด จากนั้นค่อยๆผ่อนลมหายใจออกจากท้องให้มากที่สุด ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
  • การนั่งยกขา โดยการนั่งหลังตรงพิงกับเกาอี้ ค่อยๆยกขาขึ้นให้ปลายเท้าลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ประมาณ 2-5 นิ้ว ขณะที่ทำการยกขาให้ใช้แรงจากหน้าท้องส่วนล่าง โดยยกขาค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วสลับข้าง ให้ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
  • การเดิน ในขณะที่การออกกำลังกายโดยการเดิน หน้าท้องจะเกร็งเองโดยอัตโนมัติ ทำให้หน้าท้องกระชับ และยังช่วยลดต้นขาอีกด้วย

5. การทำดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยโยเกิร์ต เป็นการทำความสะอาดไขมันที่เกาะอยู่ที่ลำไส้ ซึ่งไขมันเหล่านี้จะทำให้กระเพาะอาหาร ตับ และม้าม เกิดการดูดซึมได้น้อยมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในส่วนของม้ามที่ชื้นเพราะไขมัน จะยิ่งทำให้อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมันเป็นผลทำให้อ้วนง่ายขึ้น เมื่อทำการขจัดไขมันเหล่านี้ออกไปด้วยการดีท็อกซ์จะช่วยทำให้หน้าท้องเล็กลงตามไปด้วย

สำหรับส่วนผสมของการทำดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยโยเกิร์ต มีดังต่อไปนี้

1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ครึ่งถ้วย ที่ไม่มีการผสมเนื้อผลไม้ในโยเกิร์ต

2. นมโคสดแท้ 100% ซึ่งไม่ใช่สูตรพร่องมันเนย ไม่ต้องแช่เย็น ขนาด 180-250 มิลลิลิตร

3. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

4. มะนาว 1 ลูก

นำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกันได้ตามใจชอบ แล้วดื่มในตอนเช้าก่อนทานอาหารในช่วงเวลา 05.30-7.00 น. แนะนำว่าควรดื่มให้หมดในครั้งเดียวห้ามผสมทิ้งเอาไว้ เพื่อเป็นการรักษาคุณสมบัติของวิตามินซี และควรดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้ว ก่อนหรือหลังการรับประทานโยเกิร์ตสูตรดังกล่าว

ถ้าหากต้องการให้หน้าท้องแบนราบอย่างรวดเร็วควรทานติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหากมีอาการอยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มทานใหม่ๆ ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติในการทำดีท็อกซ์ ซึ่งเป็นกระบวนการของร่างกายที่กำลังขับของเสียออกมาจากร่างกาย

7. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก สำหรับคุณสาวๆที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในการช่วยลดน้ำหนักก็เถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี โดยเฉพาะกับคุณสาวๆที่ต้องการลดหน้าท้องให้กลับมาแบนราบอย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน

 

        สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.