แก้วมังกร หรือ Dragon fruit เป็นผลไม้ที่หาซื้อง่ายตามท้องตลาด มาพร้อมกับรสชาติแสนอร่อย ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ มีทั้งวิตามินซี ฟอสฟอรัส โปรตีน และแคลเซียม ซึ่งในปัจจุบันมีผลงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นว่าแก้วมังคกรมีประโยชน์สารพัดต่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆของร่างกายเป็นปกติ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น และอีกเหตุผลที่แก้วมังกรกลายเป็นผลไม้ยอดฮิตของสาวๆก็คือ แก้วมังกร ลดน้ำหนักได้

แก้วมังกร ลดน้ำหนักได้อย่างไร
         แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง ช่วยบำรุงการทำงานของระบบขับถ่าย และให้พลังงานต่ำ โดยเนื้อแก้วมังกร 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 66 แคลลอรี่เท่านั้น สำหรับเมล็ดสีดำเล็กๆที่เราเห็นในเนื้อแก้วมังกร มีกรดไขมันซึ่งทำหน้าที่ในการขจัดคอเลสเตอรอล หรือไขมันชนิดไม่ดีออกจากร่างกาย และมีส่วนช่วยในการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีอีกด้วย จึงถือว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือกำลังควบคุมอาหารเป็นอย่างยิ่ง
         แก้วมังกรที่นิยมจำหน่ายกันทั่วไป มี 2 ชนิดใหญ่ๆคือ ชนิดสีขาวและสีแดง แก้วมังกรชนิดสีแดงจะมีรสออกหวานกว่า ส่วนแก้วมังกรสีขาวจะมีรสหวานอ่อนๆ สำหรับคนที่ชอบรับประทานหวานอาจจะไม่ชอบผลไม้ชนิดนี้เพราะรสชาติจะออกไปทางจืดชืดเสียมากกว่า ทว่าผลไม้ธรรมดาอย่างแก้วมังกร ลดน้ำหนักได้ผลชะงัด เนื่องจากมีกากใย บำรุงการทำงานของระบบขับถ่าย และให้พลังงานต่ำอย่างที่ได้บอกไป ทั้งนี้ การบริโภคแก้วมังกรต้องคำนึงว่าอาหารทุกอย่างสามารถทำให้อ้วนได้หากรับประทานมากเกินพอดี จึงควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ควบคู่กับการรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่

กินแก้วมังกรมากๆ แล้วจะเป็นมะเร็งหรือไม่
         มีความเชื่อที่ว่าเมล็ดสีดำเล็กๆที่อยู่ในเนื้อของแก้วมังกรนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง หากใครรับประทานเข้าไปมากๆ จะทำให้สะสมจนเป็นโรคมะเร็ง ผู้คนส่วนหนึ่งที่คิดเช่นนี้จึงไม่กล้ารับประทานแก้วมังกร ทั้งนี้ ความเชื่อดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด เพราะยังไม่มีการศึกษาใดทั้งสิ้นที่สนับสนุนแนวคิดนี้
         ในทางตรงกันข้ามมีผลการศึกษาพบว่าเจ้าเมล็ดสีดำเล็กๆ ในเนื้อแก้วมังกรนี้แหละที่มีสารกลุ่ม FOS ในปริมาณสูง ให้คุณสมบัติเป็นสาร Prebiotic ซึ่งช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ และมีฤทธิ์ในการดูดซับสารเคมีและสารพิษในร่างกาย นอกจากนี้ เมล็ดสีดำเล็กๆเหล่านี้ยังมีกรดไขมันซึ่งทำหน้าที่ในการขจัดคอเลสเตอรอล หรือไขมันชนิดไม่ดีออกจากร่างกาย
         ยิ่งกว่านั้น ในแก้วมังกรมีวิตามินบี1 บี2 คลอโรฟิลล์ รวมถึงวิตามินซีจำนวนมาก และในเมล็ดของแก้วมังกรอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว สามารถต่อต้านปฏิกริยาอ๊อกซิเดชั่น นอกจากจะรับประทานแก้วมังกร ลดน้ำหนัก รู้สึกดับร้อน ผ่อนกระหายแล้ว ยังสามารถบำรุงสุขภาพผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ดูมีน้ำมีนวลเปล่งปลั่งมากขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนม เรียกได้ว่าใช้เป็นผลไม้ที่เกิดมาเพื่อสุขภาพและความสวยความงามอย่างแท้จริง
         สำหรับผู้ที่ไม่ปลื้มในรสชาติของแก้วมังกร รู้อย่างนี้แล้วก็ควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะคุณประโยชน์ที่มีอย่างมากมายในผลไม้นี้ จะช่วยรักษาสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคแบบรอบด้าน ทั้งแก้วมังกร ลดน้ำหนัก รักษาหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่เสมอ เพราะให้แคลลอรี่ต่ำ ขจัดของเสียออกจากร่างกาย ต่อต้านโรคภัยต่างๆ ทั้งยังช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ไม่ยาก ฉะนั้น การรับประทานแก้วมังกรจึงเป็นอีกวิธีในการดูแลสุขภาพ ที่ทำได้แสนง่าย ใครๆก็ทำได้ ไม่จำกัดเพศและวัย หวังว่าทุกคนจะมีรูปร่างที่เพรียวดูดี ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         สมัยนี้จะให้หน้าสวยเป๊ะอย่างเดียวคงไม่ได้ รูปร่างก็ต้องเป๊ะเว่อร์ไม่แพ้กันด้วย เพราะหนุ่มๆเดี๋ยวนี้มาตรฐานสูง ต่อให้เบ้าหน้าดีแค่ไหน หากบั่นท้ายใหญ่เป็นกะละมังก็คงต้องถูกเมิน ดังนั้น สาวๆที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “อ้วน” จึงจำเป็นต้องหันมาดูแลตัวเองก่อนที่จะขึ้นคานไปตลอดชีวิต โดยเริ่มจากสิ่งที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือสะโพกที่บานเป็นจานดาวเทียมนั่นเอง
         บทความนี้ได้หยิบ 2 วิธีสลายไขมันที่บั่นท้ายให้สาวก้นกะละมังได้ลองนำไปใช้ ซึ่งเป็นวิธีแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องทุกข์ทรมานไปกับการพักฟื้น ไม่ต้องอดอาหาร (แต่ต้องควบคุมอาหาร) ไม่ต้องใช้ยาลดความอ้วนใดๆให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียง ที่สำคัญไม่ต้องเปลืองงบประมาณสักแดง ขออย่างเดียวคือความเพียรพยายาม มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ รับรองสะโพกเรียวเล็กจะไม่ใช่แค่ความฝัน ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

 

ท่าโยคะสลายไขมัน
         1.ท่ากิ่งไม้ ให้หายใจเข้า ยื่นแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า จากนั้นทำท่าประนมมือพร้อมทั้งยืดแขน-ขาให้ตึง และค่อยๆหายใจออก
         2.ท่ายืนภูเขา เริ่มจากการยืนตัวตรงกางขาออกประมาณช่วงไหล่แล้วหายใจเข้าลึกๆ กางแขนออก พร้อมยกขาขวาไปด้านหน้า จากนั้นให้เหยียดขาและแขนให้ตึง แล้วค่อยๆหายใจออก
         3.ท่าต้นตาล ให้หายใจเข้า ยืนด้วยขาขวาเพียงข้างเดียวพร้อมเกร็งตัว และยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหยียดให้ตรง จากนั้นหายใจออก และลดแขนทั้งสองข้างลงข้างลำตัว กลับสู่ท่ายืนภูเขาแล้วทำสลับอีกข้าง
         4.ท่าดวงดาว ให้หายใจเข้า งุ้มปลายเท้าเอาไว้ จากนั้นวาดขาขวาให้ตึงออกไปทางด้านข้าง แขนขวาชู้ขึ้นดานบน และค่อยๆหายใจออก
         5.ท่าเครื่องบิน ให้หายใจเข้า วาดขาขวาไปทางด้านหลัง พร้อมลดแขนขวาลง จากนั้นกางแขนทั้งสองข้างโน้มตัวลงเล็กน้อยให้ลำตัวขนานกับพื้น และค่อยๆหายใจออก
         หากฝึกโยคะทั้ง 5 ท่านี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้สะโพกแสนใหญ่ แลดูกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังส่งผลดีต่อเรียวขาให้ดูเล็กลงจนใครเห็นเป็นต้องทัก อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่มีน้ำหนักมากหรือพึ่งเริ่มฝึกให้ยกขาเท่าที่จะทำได้ แต่จะต้องเกร็งสะโพกและขาติดต่อกัน 3-5 รอบ และไม่ควรทำท่าโยคะนี้หลังจากการรับประทานอาหาร

 

วิธีสลายไขมันด้วยการขึ้น-ลงบันได
         วิธีสลายไขมันด้วยการขึ้นบันไดเป็นเทคนิคแสนง่าย เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบอ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย มีรายงานระบุว่าการขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้นสามารถลดน้ำหนักได้ 2.7  กิโลกรัมในเวลา 1 ปี และการเดินขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อีกทั้งเป็นวิธีสลายไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ลดจำนวนลง ทั้งยังเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) หรือไขมันชนิดดีอีกด้วย
         ไม่เพียงแค่นั้น การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรีต่อนาที ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได
         ท่านทราบหรือไม่ การเดินขึ้นบันไดเป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง ที่กำลังได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ ถึงขนาดมีการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดประจำทุกปี ถือเป็นวิธีสลายไขมันที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน สะดวก ทำได้ทุกเวลา อาจเรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น และยังช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง สะโพกแข็งแรง ฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น ที่น่าสนใจคือเป็นการออกกำลังกายที่เกิดอาการปวดข้อน้อยหรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย ตรงกันข้ามกับการวิ่งที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของข้อ เอ็น และกล้ามเนื้อมากกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         เชื่อว่าหลายคนคงพอรู้จักเจ้าสมุนไพรอย่างบอระเพ็ดกันอยู่บ้าง เนื่องจากมันถูกบรรจุไว้ในแบบเรียนหลายยุคหลายสมัย แต่ด้วยรสชาติแสนฝาดขมของมันจึงทำให้สมุนไพรนี้ไม่ค่อยถูกกับเด็กๆสมัยใหม่ กระนั้นก็ตาม บอระเพ็ดมีสรรพคุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดไข้และอาการตัวร้อนจัด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยให้การทำงานของหัวใจสูบฉีดได้ดีขึ้น ช่วยลดน้ำตาลในเลือดเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น นอกจากนี้บอระเพ็ดยังสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี เนื่่องจากบอระเพ็ดจะทำให้ร่างกายของคนเราดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ทันที
         “หวานเป็นลมขมเป็นยา” อย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ เพราะบอระเพ็ดจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรลดความอ้วนอย่างได้ผล วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการใช้บอระเพ็ดลดน้ำหนักว่า มันใช้ได้ผลจริงหรือไม่ และมีวิธีอย่างไร

 

วิธีใช้บอระเพ็ดลดน้ำหนักตามภูมิปัญญาโบราณ
         1.ให้ใช้เถาและต้นสดครั้งละ 30-40 กรัม หรือครั้งละ 2 คืบครึ่ง นำมาโขลกแล้วคั้นเอาน้ำดื่ม หรือนำไปต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน แล้วนำน้ำมาใช้ดื่มก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง ถึงแม้รสชาติของมันจะเลวร้ายจนไม่น่าพิศมัย แต่อย่าลืมภาษิตไทยที่บอกว่า “หวานเป็นลมขมเป็นยา”
         2.ให้ใช้ลำต้นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ตัดขนาด 1 องคุลี จำนวน 7 ท่อน และผ่ามะนาวเขียว 7 ผล โดยผ่าด้านยาว (ห้ามตัดขวาง) ต้มน้ำดื่มไปเรื่อยๆจนจืด สูตรนี้มีการใช้กันมานานโดยได้จากสตรีชาวบ้านผู้ขายเถาบอระเพ็ดที่จตุจักร โดยจะลดน้ำตาลในเลือด รักษาอาการอ่อนเพลียและเวียนศรีษะ สูตรบอระเพ็ดลดน้ำหนักนี้จึงเหมาะสำหรับคนอ้วนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานอย่างยิ่ง
         3.ตามตำหรับยาจากหนังสือยาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ให้นำบอระเพ็ดที่ตากจนแห้งดีแล้วมาบดให้เป็นผง แล้วมาผสมกับน้ำผึ้ง จากนั้นใช้มือปั้นให้ได้ขนาดเท่าเม็ดพุททรา รับประทานก่อนอาหารเช้า 3 เม็ดทุกวัน ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนจะเห็นผลทันที สูตรบอระเพ็ดลดน้ำหนักนี้แก้ปัญหารสขมได้เป็นอย่างดี หรือถ้าใครยังไม่พอใจก็ให้หาแคปซูลมาบรรจุบอระเพ็ดเสียเลย

 

ผลลัพธ์ที่ได้
         เมื่อรับประทานบอระเพ็ดลดน้ำหนักตามสูตรข้างต้น จะทำให้ไม่ค่อยอยากอาหาร รับประทานได้น้อยลง ใครที่เคยมีพฤติกรรมกินจุกกินจิบ บอระเพ็ดจะช่วยแก้นิสัยนี้ได้ นอกจากนี้มันยังเป็นสมุนไพรที่ลดความดัน ลดคลอเลสเตอรอลได้ในร่างกาย ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการลดความอ้วน
         นอกจากสรรพคุณเรื่องการลดน้ำหนักแล้ว บออระเพ็ดสามารถใช้ทำเครื่องสำอางดูแลผิวพรรณได้เนื่องจากในใบมีฤทธิ์ที่ช่วยในการปรับสมดุลผิวให้ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ หรือนำมาทำผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศรีษะให้มีสุขภาพแข็งแรง และยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นผมช่วยได้ในคนที่มีปัญหาผมร่วง และอีกหนึ่งความสนใจคือสมุนไพรนี้ใช้รักษาสิวได้ เพราะสารสกัดในบอระเพ็ดสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งแม้จะยังไม่มีรายงานยืนยันสรรพคุณทางด้านการยับยั้งการเกิดสิวโดยตรง แต่เชื้อแบคทีเรียก็ถือเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดสิว ขณะนี้กำลังมีการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง
         อย่างไรก็ตาม บอระเพ็ดมีสารขมกลุ่มอัลคาลอยด์ ซึ่งมีการศึกษาทางพิษวิทยาโดยทำการทดสอบพิษเฉียบพลันกับหนู โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ไม่พบอาการเป็นพิษใดๆ แต่พบว่าเมื่อให้สารสกัดในขนาดสูงและเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติของการทำงานของตับและไตได้ ดังนั้น หากนำบอระเพ็ดมาใช้และพบอาการผิดปกติ ควรหยุดการใช้สมุนไพรนี้ทันที และห้ามใช้ในผู้ที่มีภาวะเอนไซม์ตับบกพร่อง หรือผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับ หรือโรคไตเป็นเด็ดขาด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         ใครๆก็อยากมีหน้าท้องที่สวยแบนเรียบ เพราะเวลาที่ต้องใส่ชุดโชว์สัดส่วน โชว์หน้าท้อง ย่อมช่วยสะกดสายตาของคนที่มองเอาไว้ ด้วยเหตุผลดั่งกล่าว ทำให้คนจำนวนมากต่างพยายามสรรหาวิธีลดไขมันหน้าท้องอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่คุณทราบไหมว่า ที่จริงแล้วไขมันที่ทุกคนต่างมองว่าน่าเกลียด พร้อมกับพยายามรีดพวกมันออกไปจากร่างกายให้ใกล้เคียงกับศูนย์เปอร์เซ็นที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้น มันก็มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะหน้าที่กันกระแทกรอบๆอวัยวะต่างๆ แต่ถ้าหากคุณมีพวกมันมากจนเกินไป คุณก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่2 โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม รวมไปถึงโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น ดังนั้น การมีปริมาณไขมันอย่างเหมาะสม ด้วยการใช้วิธีลดไขมันหน้าท้องที่ถูกต้อง จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า ไขมันหน้าท้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม?
ก่อนที่คุณจะให้ความสนใจตามหาวิธีลดไขมันหน้าท้องที่ได้ผล อันดับแรกคุณควรทำการสำรวจตัวเองเสียก่อนว่า ไขมันหน้าท้องของคุณอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นในเชิงเทคนิคการแพทย์ที่แม่นยำ คุณสามารถตรวจสอบปริมาณไขมันได้จากการสแกน CT หรือ MRI แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่ง่าย และลงทุนต่ำกว่านั้นเหมือนกัน เช่น การใช้สายวัดตัว พันไปรอบๆเอวของคุณ และตรวจสอบเส้นรอบวัดในขณะที่ยืนอยู่ ถ้าหากคุณเป็นผู้หญิงเพื่อสุขภาพที่ดี คุณไม่ควรมีรอบเอวเกินกว่า 35 นิ้ว ในขณะที่ของผู้ชายจะอยู่ที่ 40 นิ้ว

วิธีลดไขมันหน้าท้องอย่างง่ายๆด้วยตัวคุณเอง
 เมื่อทำการสำรวจตัวเอง และคุณอาจจะพบว่าตัวเองมีไขมันหน้าท้องสะสมตัวอยู่มากจนเกินมาตรฐาน ถ้าหากคุณต้องการที่จะลดมันให้น้อยลง ก็สามารถที่จะปฎิบัติตัวตามวิธีลดไขมันหน้าท้องที่บทความชิ้นนี้กำลังจะขอทำการแนะนำ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้
 1.การออกกำลังกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่มันยังช่วยเผาผลาญ และคสบคุมไขมันทั้งหมดในร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการออกกำลังกายที่ดีที่สุด คือ การออกกำลังติดต่อกันให้ได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ วิธีลดไขมันหน้าท้องอบบนี้จะทำให้อัตราการเต้นจองหัวใจ เหงื่อ รวมไปถึงจังหวะการหายใจของคุณเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ส่วนวิธีออกกำลังกายที่เหมาะที่สุดคือ การวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเดิน เป็นต้น
   2.อาหาร ไม่มีอาหารวิเศษใดๆบนโลกใบนี้ที่จะเนรมิตให้หน้าท้องของคุณกลับมาเรียบเนียนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคุณเริ่มต้นลดน้ำหนักส่วนใหญ่แล้วไขมันที่สะสมอยู่หน้าท้องจะระเหิดหายไปก่อน จากการวิจัยทำให้เราพบว่า คนที่กินเส้นใยที่ละลายน้ำได้เป็นปริมาณ 10 กรัม เป็นประจำทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอาหาร ไขมันสะสมจะน้อยกว่าคนที่กินอาหารตามปกติ ซึ่งอาหารที่ให้เส้นใยเหล่านี้ในปริมาณมากก็ได้แก้แอปเปิ้ล หรือถั่วเขียว เป็นต้น

         3.นอน จากการศึกษาทำให้พบว่าคนที่นอนหลับในปริมาณที่พอเหมาะ 6-7 ชั่วโมง ในตอนกลางคืน ไขมันสะสมในร่างกายจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนที่นอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมง หรือ มากกว่า 8 ชั่วโมง ต่อคืน
 4.ความเครียด ทุกคนต่างต้องเผชิญหน้ากับความเครียด แต่การจัดการกับมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่คุณควรให้ความใส่ใจ การผ่อนคลายด้วยการเข้าสังคม การนั่งสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการรับคำปรึกษาจากคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณมีสุขภาพที่ดี และลดการสะสมตัวของไขมันให้น้อยลง
 แต่ถ้าหากคุณจำเป็นที่จะต้องเลือกว่าควรปฎิบัติตัวได้เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้นเนื่องจากไม่มีเวลา ขอแนะนำให้คุณเลือกการออกกำลังกาย เพราะมันเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์ที่สุดในการจัดการกับ “ความเครียด” และ “โรคอ้วน”   

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         มีหลายคนที่พยายามออกกำลังกาย และรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง แต่น้ำหนักกลับไม่ลดลงเท่าที่ควร สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นภาพลักษ์ที่เหล่าคนดังในจอเงินให้คุณเห็นว่า พวกเขาพยายามมากขนาดไหนในการควบคุมน้ำหนัก ด้วยการกินผลไม้ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่คุณเคยสงสัยหรือเปล่าวว่า มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ที่การทานเพียงผลไม้ ลดน้ำหนักนั้น จะสามารถช่วยทำให้คุณสูญเสียน้ำหนัก และมีหุ่นที่ดีเพรียวสวยเข้ารูปได้จริงหรือเปล่า?

คุณค่าทางโภชนาการทางอาหารของผลไม้
         ผลไม้ที่มีรสหวานมีคุณค่าทางโภชนาการ และสามารถช่วยในการลดความอยากอาหารให้น้อยลง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผลไม้ ลดน้ำหนักช่วยได้มากเมื่อตุณต้องการที่จะสูญเสียน้ำหนักที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ผลไม้ยังแคลอลี่ และไขมันที่ต่ำ แต่มีเส้นใยอาหารสูง ตัวอย่างเช่น สตอเบอรี่ 1 ถ้วย มี 77 แคลอลี่ ไขมัน 0.2 กรัม เส้นใยอาหาร 4.6 กรัม และยังมีส่วนผสมของน้ำสูงอีกด้วย ดังนั้น สตอเบอรี่เพียง 1 ถ้วย จึงสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่ม เหมือนกับการรับประทานอาหารปริมาณ 1 ถ้วย ที่มีปริมาณแคลอลี่สูง

ผลไม้ กับแฟชั่นด้านการลดน้ำหนัก
         คุณต้องทำความเขาใจก่อนว่า น้ำหนักตัวของเราโดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับน้ำ ดังนั้นเมื่ออกกำลังกายน้ำหนักที่ลดลงจะสัมพันธ์กับปริมาณของน้ำที่ร่างกายได้สูญเสียไป และคุณจะได้รับน้ำหรนักตัวเหล่านั้นกลับมาแทบจะในทันทีเมื่อทำการทานอาหาร ดังนั้นการออกกำลังกาย และอดอาหาร จึงแทบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวได้ในระยะยาว
         การทานผลไม้ ลดน้ำหนัก ถือเป็นหนึ่งในแฟชั่นด้านอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าการทานผลไม้ ลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ที่จริงแล้วเมื่อคุณทำการทานผลไม้ที่มีปริมาณแคลอลี่น้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสูญเสียน้ำหนัก หรือมีสุขภาพที่ดีอย่างยาวนาน ดังนั้นการตามแฟชั่นทางด้านอาหาร โดยมีความเชื่อผิดๆฝังหัวว่าทานเพียงแค่ผลไม้ ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วได้นั้น ที่จริงแล้วร่างกายของคนเรานั้นต้องการสารอาหารที่เพียงพอ ผลไม้ไม่มีโปรตีนที่มากเพียงพอต่อความต้องการในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และกระดูกให้มีความแข็งแรง การทานผลไม้เพียงอย่างเดียวจึงอาจะส่งผลให้เกิดอาการขาดสารอาหาร เวียนหัว อ่อนเพลีย ขาดน้ำ และคลื่นไส้ได้
        คลินิกด้านโภชนาการ พบว่า ผลไม้ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากกระบวนการที่มากจนเกินไป นอกจากนี้ผลไม้ยังช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหารด้วยการดีท็อกซ์ และปรับสภาพให้ร่างกายของคุณเข้าสู่โหมดการเผาผลาญไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้น

ผลไม้ ลดน้ำหนัก การผสมผสานที่ลงตัวที่ดีสุดสำหรับสุขภาพ
         แทนที่คุณจะทำการตัดขาดจากการกินอาหารอื่นๆทุกอย่าง แล้วหันมาทานผลไม้เพียงอย่างเดียว คุณควรทำการทานอาหารให้มีความสมดุลทั้งในด้านของโปรตีน ผลไม้สด ผักสด และเมล็ดธัญพืช ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกหิวระหว่างมื้ออาหาร คุณสามารถทานผลไม้ หรือผัก เพื่อลดความอยากอาหารให้น้อยลง ส่วนในมื้ออาหารเอง ควรเสริมความหลากหลายของอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณได้รับสารอาหารที่มากเพียงพอ จากนั้นจึงค่อยปรับปรุงแผนการออกกำลังในการเผาผลาญแคลอลี่ตามความต้องการลดน้ำหนักในปัจจุบันของคุณ
         จากข้อมูลที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น คงจะช่วยทำให้หลายๆคนเห็นภาพในหัวแล้วว่า การทานเพียงแค่ผลไม้ ลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่า? แต่ถ้าหากคุณยังมุ่งมั่นที่จะใช้วิธีการทานผลไม้เป็นหลักในการลดน้ำหนักอยู่ล่ะก็ ขอแนะนำให้เพิ่มโปรตีน และสลัดผักลงปในมื้ออาหารด้วย แล้วคุณจะพบผลลัพธ์น้ำหนักตัวที่ลดลงได้อย่างน่ามหัศจรรย์ โดยที่ยังคงมีสุขภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจที่แข็งแรงเหมือนเดิม
 
 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         เมื่อกล่าวถึงฤดูร้อนหลายๆคนก็คงที่จะคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะช่วยคลายร้อน และยังเป็นสถานที่ที่คุณจะได้มีโอกาสโชว์หุ้น โชว์สัดส่วนของตัวเองให้เพื่อนต่างเพศน้ำลายหกเล่นๆ แต่สำหรับคนที่มีปัญหาเซลูไลท์สะสมอยู่ภายในร่างกายเฉพาะส่วนจนกระทั่งทำให้ใหญ่ บวม ดูน่าเกลียดแล้ว ความฝันที่จะได้อวดหุ่นเพื่อดึงดูดสายตาของคนอื่นๆดังกล่าว คงจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาไขมันสะสมต้นขากวนใจ คุณสามารถติดตามอ่านวิธีวิธีลดไขมันต้นขาอย่างง่ายๆได้จากบทความชิ้นนี้กันเลย

ไขมันต้นขา คืออะไร?
 ไขมันต้นขา มักทำให้ผู้ที่เป็นประสบปัญหามากมาย รวมไปถึงการมีผิวเปลือกส้ม โดยเฉพาะ 90% ของผู้ที่เกิดอาการนี้ มักจะเป็นเพศหญิง ซึ่งเจ้าเซลูไลท์เหล่านี้นอกจากต้นขาแล้ว ยังชอบไปทำการสะสมตัวอยู่ตามบริเวณที่คนอื่นๆสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นก้น หัวเข่า หน้าท้อง และแม้กระทั่งแขน แต่สิ่งที่น่ารำคาญมากที่สุดเมื่อมีไขมันเหล่านี้สะสมอยู่ที่ต้นขาจะทำให้ผิวหนังมีลักษณะเป็นก้อน รอยย่น และร่องบุ๋มลึกดูคล้ายกับลักยิ้ม และจะยิ่งสามารถเห็นชัดเจนได้มากยิ่งขึ้นเมื่อทำการกดผิวบริเวณนั้น
 ในแง่ของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีการค้นคว้าใดที่สามารถฟันธงได้ว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดปัญหาเซลูไลท์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเชื่อกันว่าเกิดขึ้นจากพันธุ์กรรม ฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น การสูบบุหรี่ ความเครียด การดื่มแอลกฮอลล์ในปริมาณมากๆ และขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าในปัจจุบันคุณสาวๆหลายคนอาจจะยังไม่ประสบปัญหาในเรื่องของเซลูไลท์ แต่อัตราการเกิดในผู้หญิงเมื่อทำการเทียบกับผู้ชายในอัตราส่วนร้อยละ 90 ก็มากเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้คุณสาวๆต้องตระหนักว่าปัญหานี้มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองในสักวัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดำม่ใช่การหาวิธีลดไขมันต้นขา แต่ควรเป็นการวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเซลลูไลท์สะสมขึ้นในต้นขามากกว่า

สุดยอดวิธีกำจัดเซลูไลท์ ง่ายเสียจนคาดไม่ถึง
 ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ที่ได้รับความนิยมในฐานะวิธีลดไขมันต้นขาอย่างได้ผลออกมาวางจำหน่ายตามท้องตลาดให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรอยู่เป็นจำนวนมากทีเดียว และยังมีบริการอื่นๆอย่างเช่นการนวด เลเซอร์ การดูดไขมัน เป็นต้น วิธีลดไขมันต้นขาเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นวิธีการเยียวยาลงไปที่ผิวโดยตรง แต่ก็เป็นเพียงผลลัพธ์ในระยะสั้นๆเท่านั้น ถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีลดไขมันต้นขาในระยะยาว ด้วยการซ่อมแซมผิวจากภายในอยู่แล้วล่ะก็ คุณสามารถใช้วิธีง่ายๆอย่างเช่นการทานอาหารที่ถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างเส้นเลือด การไหลเวียนของโลหิต กำจัดเซลลูไลท์ ขจัดสารพิษ บำรุงผิวพรรณ ส่งเสริมการผลิตคอลลเจนและอีลาสติน เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ ซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซลล์ผิวจากฝีมือของอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของผิว และสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาหารที่ช่วยให้คุณสามารถทำเรื่องเหล่านี้ให้เป็นจริงได้ เป็นเพียงอาหารง่ายๆ ที่สามารถหาได้ไม่ยากใกล้ตัวคุณดังต่อไปนี้

         1.แตงโม ในความเป็นจริงการทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมาก ช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณได้มากกว่าการดื่มน้ำโดยตรง และยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยให้คุณอิ่มอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากในการช่วยลดน้ำหนัก
 2.มะเชือเทศ มีส่วนผสมของสารที่ชื่อว่าไลโคปีน ที่ช่วยในการในการเสริมสร้างผิวหนัง ป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจน และยังช่วยในการบำรุงรักษาโครงสร้างของผิวหนังอีกด้วย
 3.ชาขาว ช่วยลดการสลายตัวของคอลลาเจนและอีลาสติน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของผิว ป้องกันเซลูไลท์ ด้วยการปกป้องเนื้อเยื่อเกี่ยวกันในผิว นอกจากนี้ยังช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีในชั้นผิวอีกด้วย

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         ไขมันหน้าท้องเป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับชายและหญิง แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดคือ มันเป็นหนึ่งในปัญหาที่ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไป ที่ร่างกายเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้ท้องน้อยที่เกิดการสูญเสียกล้ามเนื้อเหล่านั้นเกิดพื้นที่ว่างจนกระทั่งไขมันฉวยโอกาสเข้าไปสะสมตัวอยู่ภายในมากขึ้น สาเหตุเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไขมันกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ และสร้าง “พุง” ที่น่าเกลียดขึ้นมาในท้ายที่สุด แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีการลดไขมันหน้าท้องอย่างได้ผลอยู่ล่ะก็ บทความชิ้นนี้ก็จะขออาสาพาทุกท่านที่ปารถนาอยากลดไขมันหน้าท้อง ไปทำความรู้จักกับวิธีการลดไขมันหน้าท้องอย่างลึกซึ้งกันเลยทีเดียว

โอมเพี้ยง! รวมวิธีเสกไขมันหน้าท้องให้หายไปในบัดดล
ถ้าหากคุณสามารถทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดไขมันหน้าท้อง คุณก็พร้อมที่จะมองหาวิธีลดไขมันหน้าท้องอย่างได้ผลแล้ว ซึ่งบทความชิ้นนี้จะค่อยๆช่วยทำการเฉลยเรื่องราวเกี่ยวกับไขมันหน้าท้องให้เห็นทีละข้อๆ เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และพร้อมรับมือลดไขมันหน้าท้องด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ
 1.สาเหตุของการเกิดไขมันหน้าท้อง การบริโภคแคลอลี่อย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มากจนเกินไป จะเป็นการเพิ่มปริมาณสะสมตัวของไขมันในร่างกาย นอกจากเรื่องของอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์จนเกินไปแล้วนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าท้องอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเพศ พันธุ์กรรม ฮอร์โมน รูปร่าง และวิถีชีวิต เป็นต้น การค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดหน้าท้องนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณค้นหาวิธีลดไขมันหน้าท้องอย่างเหมาะสมกับตัวเอง
 2.การออกกำลังกายคือวิธีลดไขมันหน้าท้องที่ดีที่สุด อยากลดไขมันหน้าท้องคุณควรออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายโดยทั่วไป มักจะเป็นเพียงการรีดไขมันที่สะสมตัวออกไปเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การลดไขมันหน้าท้องที่ถูกต้องนั้น ต้องทำควบคู่ไปกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องให้มากขึ้น เพื่อให้พื้นที่ว่างบริเวณหน้าท้องที่ไขมันชอบไปแอบแทรกสะสมตัวอยู่นั้นลดน้อยลง นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังเป็นการพระตุ้นระบบเผาผลาญ ซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดดุลแคลอลี่มากขึ้น
 3.อาหารหลายชนิดช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ ไขมันหน้าท้องถูกจัดเก็บเอาไว้ในรูปแบบของพลังงาน วิธีลดไขมันหน้าท้องที่ง่ายที่สุดคือ การเผาผลาญพลังงานให้มากกว่าจำนวนแคลอลี่ที่คุณกินเข้าไปนั่นเอง ซึ่งมีอาหารหลายประเภทที่มปีริมารแคลอลี่ และให้ไขมันในปริมาณที่ต่ำ เช่น น้ำมันมะกอก วอลนัท เป็นต้น แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารธัญพืชที่ผ่านการกลั่น

         4.การลดน้ำหนักเพื่อให้เหมาะกับรุปร่างของคุณ ควรทำการกำหนดเป้าหมายในการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสม เช่น คนที่มีรูปร่างแบบ Ectomorphs จะสามารถลดไขมันหน้าท้องได้อย่างง่ายดายด้วยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ถ้าหากคุณมีลักษณะร่างกายแบบ mesomorph คุณจำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมากในการลดน้ำหนัก เนื่องจากสภาพของร่างกายที่สะสมไขมันได้ง่าย
5.ปรับแต่งปริมาณการสูญเสียน้ำหนักในร่างกาย คุณสามารถใช้เครื่องคิดเลจช่วยในการคำนวนปริมาณไขมันในร่างกายจากการชั่งน้ำหนัก แล้วเทียบกับอัตราส่วนมาตรฐานของคนที่มีช่วงอายุ รวมไปถึงส่วนสูงที่คล้ายคลึงกัน ถ้าหากพบว่าตัวเองนั้นมีปริมาณไขมันสะสมตัวสูง คุณสามารถเริ่มวางแผนการออกกำลังกาย ไปพร้อมกับคำนวณว่ากิจกรรมออกกำลังกายของคุณนั้น ช่วยลดปริมาณไขมันภายในร่างกายออกไปเป็นปริมาณเท่าใดแล้ว และถ้าหากคุณหาเครื่องคำนวณแคลอลี่โดยเฉพาะมาใช้ได้ จะยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ในการคำนวนน้ำหนักที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมร

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ทุกคนก็คงอยากที่จะมีหุ่นบางดูดียามเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าเข้ารูป แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากร่างกายของคุณกลับอุดมไปด้วยไขมันส่วนเกิน จนกระทั่งทำให้ไขมันส่วนเกินล้นทะลักออกมาจนร่างกายโดยรวมดูน่าเกลียด ซึ่งหลายๆคนที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว คงกำลังมองหาวิธีการว่าลดความอ้วนยังไงดี จึงจะได้มีส่วนโค้งส่วนเว้าเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์ที่ตัวเองชื่นชอบในจอเงิน สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าลดความอ้วนยังไงดีนั้น บทความชิ้นนี้พร้อมมีคำตอบของคำถามให้กับคุณ

ความผมอคืออะไร? ไขมันคืออะไร?
 ร่างกายของคนเรานั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่ก็มีความอ่อนไหวมากที่สุดเช่นกัน โดยพื้นฐานทางธรรมชาติแล้ว คนที่มีไขมันสะสมในร่างกายน้อย ผอม และมีขนาดกระดูกที่เล็กกจะถูกเรียกว่า ectomorphs คนเหล่านี้จะอ้วนยาก แต่ในทางสรีระศาสตร์แล้ว ผู้หญิงมักที่จะเกิดความอ้วนได้ง่ายมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีมวลกล้ามเนื้อที่น้อยกว่า ทำให้มักเกิดการสะสมตัวของไขมัน รวมไปถึงเซลูไลท์มากกว่า อีกทั้งแนวโน้มการสะสมตัวก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อมีการเสื่อมสภาพและลดน้อยลงเรื่อยๆนั่นเอง

ผอมแบบซุปเปอร์สตาร์ คืออะไร?
 ไขมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับมนุษย์ แต่หลายๆคนอาจจะอิจฉาหุ่นของซุปเปอร์สตาร์คนโปรดในชุดว่ายน้ำ และนึกภาพเอาเองว่าสิ่งที่เห็นเหล่านั้นคือหุ่นที่สมบูรณ์แบบ แต่ในความเป็นจริงแล้วกว่าที่จะได้หุ่นเช่นนั้นมา บรรดาเหล่าซุปเปอร์สตาร์เหล่านั้น ล้วนแล้วแต่ต้องลดน้ำหนักกันอย่างบ้าคลั่งเลยทีเดียว
ถ้าหากคุณต้องการที่จะผอมเหมือนกับดาราคนโปรด คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสาเหตุที่จะช่วยทำให้ “ผอม” ได้นั้น นอกจากการลดความอ้วนยังไงดีแล้ว ยังขึ้นอยู่กับอัตราส่วนระหว่างไขมันกับกล้ามเนื้อ เพราะในขณะที่คุณลดน้ำหนัก แต่กลับไม่ได้เพิ่มมวลกล้ามเนื้อเข้าไปแทนที่ช่องว่างไขมันที่หายไปนั้น ในอนาคตพื้นที่ว่างเหล่านั้นก็จะกลับกลายมาเป็นแหล่งสะสมตัวของไขมันชุดใหม่ ดังนั้นการลดความอ้วนยังไงดีควรมุ่งเน้นไปที่การลด พร้อมกับสร้างความกระชับให้กับส่วนต่างๆเหล่านั้น มากกว่าการออกกำลังกาย หรืออดอาหารอย่างบ้าคลั่งเพียงอย่างเดียว

         เป็นที่น่าเสียดาย ที่ผู้หญิงจำนวนมากต่างต้องการเพียงแค่ลดความอ้วนยังไงดี แต่กลับไม่ทราบถึงวิธีการให้ได้มาซึ่งหุ่นที่ดีปราศขากไขมันอย่างถาวร การอดอาการแม้จะช่วยลดปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ภายในร่างกายก็จริง แต่วิธีดังกล่าวจะไม่ช่วยในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ อีกทั้งการไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย จะยิ่งเป็นการปล่อยให้มวลกล้ามเนื้อลดลงอย่างรวดเร็วตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น และในที่สุดเลยทำให้การอดอาหารไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักเท่าที่ควรอย่างที่คนส่วนใหญ่เป็นกัน

ความผอม กับเรื่องของสุขภาพ
 ความผอม ไม่ได้หมายความว่าจะมีสุขภาพที่ดี ในขณะเดียวกันถ้าหากคุณมีน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป ก็จะมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตได้ง่ายก่อนวัยอันควรเช่นกัน ดังนั้นการผอมอย่างพอเหมาะ ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของคุณอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากคุณอยากผอมในขณะเดียวกันก็มีสุขภาพที่ดีร่วมด้วย ควรทำการฝึกฝนร่างกายด้วยการออกกำลังกาย เช่น การออกกำลังกายที่มีแรงต้านทาน หรือลาดเอียง จะช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น การวิ่งในพื้นที่ลาดเอียง การฝึกความอดทนให้กับกล้ามเนื้อโดยการใช้อุปกรณ์ต่างๆในฟิตเนส หรือถ้าหากคุณมีร่างกายที่แข็งแรงมากพอ การออกกำลังกายเป็นคาร์ดิโอเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีเดียว
การมีหุ่นที่เข้ารูปผอมเพรียวนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามโปรดจำไว้เสมอว่าควรลดปริมาณไขมันในร่างกาย ควบคู่ไปกับการสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้การป้องกันไขมันในระยะยาวเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

         คนส่วนใหญ่ต้องการที่จะมีร่างกายที่ผอมเพรียวเข้ารูป อย่างไรก็ตามเนื่องจากอาหารการกินที่เรีกได้ว่าอุดมสมบูรณ์จนเกินไป ทำให้ “โรคอ้วน” ยังคงเป็นหนึ่งในโรคภัยคุกคามคนทั่วโลก ที่ครองอันดับสูงสุดอยู่ในปัจจุบัน แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะผอม ต้องการที่จะลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่คุณควรตระหนักในการทำไงให้ผอมที่ดีที่สุดนั้น ประการแรกคุณจะต้องมีเป้าหมายในการลดน้ำหนักที่ชัดเจน และทำความรู้จักเข้าใจประเภทร่างกายของคุณอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งบทความชิ้นนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเคล็ดลับทำไงให้ผอมอย่างง่ายๆ ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย

How to get “ผอม”
โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงร่างกายของคนผอม คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงคนที่มีสภาพร่างกายในประเภท Ectomorphic ที่มีไขมันในร่างกายน้อย มีกล้ามเนื้อปริมาณน้อย และมีโครงกระดูกที่ละเอียด ในขณะที่คนที่อ้วนง่ายดาย มักจะมีสภาพร่างกายแบบ Ectomorphs ที่มีมวลของกล้ามเนื้อสูง ไขมันสามารถเข้าไปสะสมในร่างกายได้สูง แต่ไขมันเหล่านั้นก็สามารถที่จะสูญเสียไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ทำให้คนที่มีร่างกายในประเภทนี้ จำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการต่อสู้กับจำนวนเปอร์เซ็นต์ของไขมันในร่างกาย พร้อมกับเสริมความจริงจังในการพยายามลดน้ำหนักขึ้นอีกเป็นอย่างมาก ดังนั้นการตรวจสอบก่อนเป็นอับแรกว่า ร่างกายโดยพื้นฐานของตัวเองนั้น มีลักษณะแบบใดกันแน่ ก็จะเป็นการช่วยวางแผนทำไงให้ผอมได้เป็นอย่างดีมากยิ่งขึ้น
 เมื่อคุณทราบแล้วว่าตัวเองมีร่างกายแบบไหน สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต่อไปเพื่อให้ทำไงให้ผอมนั้น คือ การจินตนาการภาพร่างกายต้นแบบที่คุณต้องการจะเป็นให้เหมือนหลังจากที่ลดน้ำหนักแล้ว เช่น คนที่มีสภาพร่างกายประเภท Ectomorphic คุณควรที่จะจินตนาการว่าตัวเองจะต้องมีร่างกายที่ผอมเพรียวเหมือนกับ Scarlett Johansson, Beyonce หรือ Jennifer Lopez ในขณะเดียวกันคนที่มีสภาพร่างกายแบบ Ectomorphs ต้นแบบในการลดน้ำหนักของคุณ ก็ควรที่จะเป็นแบบนั้นได้แก่ เจสสิก้าบีล, เจนนิเฟอร์การ์เนอร์ และเจนนิเฟอร์อนิสตันเป็นตัวอย่างที่ดีทีเดียว
  อย่างไรก็ตามโปรดระลึกเอาไว้อยู่เสมอว่า สุขภาพนั้นสำคัญกว่าการทำไงให้ผอม ดังนั้น เป้าหมายแรกที่คุณควรให้ความสำคัญคือการรักษษ และการบำรุงสุขภาพของตัวเองให้ดี ความผอม ควรเป็นเป้าหมายลำดับที่สอง พร้อมกับตรวจสอบแผนการออกกำลังกาย ตารางลดน้ำหนักของคุณให้มีความสอดคล้องกับหลักการดังต่อไปนี้  

         1.ตรวจสอบว่าร่างกายของคุณอยู่ในประเภทใด และเลือกบุคคลต้นแบบที่จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพของตัวเองหลังจากที่ทำการลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว
 2.ตรวจสอบและติดตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่ามันอยู่ในสภาพที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมกับควบคุมไม่ให้มีน้อยหรือมากจนเกินไป เพราะทั้งคู่ต่างส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกัน
 3.กำหนดน้ำหนักในอุดมคติของคุณ โดยอิงจากประเภทร่างกายของตัวเอง
4.ลดปริมาณแคลลอลี่เพื่อสร้างความขาดดุลของร่างกาย โดยการลดปริมาณแคลอลี่ที่ได้จากอาหารให้น้อยลงกว่าปกติ 15-20% เพื่อรักษาน้ำหนัก และอย่าลืมว่าการอดอาหาร ถือเป็นข้อผิดพลาด ที่ไม่ขอแนะนำให้ทดลองทำ
         5.การหมุนเวียนอาหาร เป็นการเปลี่ยนแปลงปริมาณแคลอลี่ที่ได้รับจากอาหาร เช่น คุณอาจจะกำหนดว่าจะทานอาหารที่มีปริมาณแคลลอลี่ต่ำ 3 วัน ตามด้วย 1 วันที่มีแคลอลี่สูง ซึ่งจะเป็นการช่วยหลอกร่างกายของตัวเอง ไม่ให้เกิดการคาดเดาการเสียน้ำกหนัดแบบเป็นแบบแผนจนเกินไป
 6.กินอาหารมื้อเล็ก 5-6 ครั้ง ตลอดทั้งวัน เพื่อให้การกระบวนการทำงานของระบบเผาผลาญสูงมากยิ่งขึ้น
 เพียงแค่คุณทำตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้ คำถามสุดฮิตอย่างทำไงให้ผอม ก็พร้อมจะกลายเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำที่แสนห่างไกลของคุณอย่างแน่นอน…

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

            เรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคนยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เนื่องจากอาหารการกินที่มีแต่แป้ง น้ำตาล และไขมัน ทำให้ปัจจุบันมีคนไทยไว้พุงกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งหากได้ออกกำลังกายเป็นประจำแล้วล่ะก็ ความอ้วนจะมาเยือนได้ง่ายๆ โดยเมื่อปี 2556 จากสถิติการสำรวจสุขภาพคนไทยพบว่ามีทั้งสิ้น 16 ล้านคน แบ่งเป็นคุณผู้ชาย 4.7 ล้านคน คุณผู้หญิงสูงถึง 11.3 ล้านคน
  กระนั้นแล้ว วันนี้เราจึงนำสมุนไพรลดน้ำหนักที่อยู่ใกล้ๆตัว มาให้ท่านผู้อ่านรับไปพิจารณาแล้วเลือกบริโภคกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ ให้มีหุ่นที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม รูปร่างดีกันถ้วนหน้า

1.มะนาว
การดื่มน้ำมะนาวช่วยรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย ขจัดสารพิษออกจากตับ ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย สำหรับภูมิปัญญาไทยมีการใช้มะนาวมาทำเป็นสมุนไพรขับเสมหะ แก้ไขเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม แก้อาการปวดศรีษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงสายตา บำรุงผิว ที่สำคัญคือมีฤทธิ์ในการกำจัดไขมัน และคลอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี
2.ดอกคำฝอย
มักจะถูกนำมาทำเป็นชาที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด บำรุงเลือด ขับเหงื่อและเป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย จึงเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรลดน้ำหนักที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ชงดื่ม สรรพคุณของดอกคำฝอยคือ มีรสหวานร้อน เป็นยาขับระดู บำรุงประสาท หัวใจ และโลหิต ขับเหงื่อ ใช้ระงับประสาท แก้ไขข้ออักเสบ แก้หวัดน้ำมูกไหล เกสร แก้แสบร้อนตามผิวหนัง เมล็ด รส หวานเย็น เป็นยาถ่าย ขับเสมหะ แก้โรคลม เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก น้ำมันจากเมล็ดรสร้อน แก้อัมพาต แก้ฝี แก้ขัดตามข้อและลดไขมันในเส้นเลือดได้
3.กระเจี๊ยบแดง
  หลายคนนำใบและยอดของกระเจี๊ยบแดงไปใส่ในแกง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวในอาหารแล้ว ใบกระเจี๊ยบแดงยังแก้โรคพยาธิตัวจี๊ด แก้ไอ ละลายเสมหะ ส่วนดอกใช้แก้โรคนิ่วในไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ขัดเบา ละลายไขมันในเส้นเลือด และส่วนกลีบเลี้ยงของดอกหรือกลีบของกระเจี๊ยบแดง สามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต นำไปทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบดื่มช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดความเหนียวข้นของเลือด ขับปัสสาวะ ป้องกันต่อมลูกหมากโตให้คุณผู้ชายได้ด้วย และมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า หากรับประทานกระเจี๊ยบแดงต่อเนื่อง 1 เดือน จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ระดับไขมันในเลือด ทั้งคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันไม่ดี (LDL) ให้ลดลง และยังเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) ได้อีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากกระเจี๊ยบมีรสเปรี้ยวมาก ก็ต้องปรุงให้หวานเพื่อได้รสชาติดีดื่มง่ายขึ้น การนำกระเจี๊ยบมาทำเป็นเครื่องดื่มจึงควรระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลที่ใช้

4.กระเทียม
กระเทียมถูกใช้เป็นผักและอาหารมากกว่าด้านอื่น อาจกล่าวได้ว่าในครัวไทยจะขาดกระเทียมไม่ได้เลยเพราะเอกลักษณ์ของอาหารไทย ซึ่งสรรพคุณด้านยาของกระเทียมนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแก้กลาก เกลื้อน หิด แก้ความดันเลือดสูง ลดไขมันและโคเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว ใส่แผลสดและแผลเป็นหนอง แก้คออักเสบ แก้ปวดหู และอื่นๆอีกหลายด้าน เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรลดน้ำหนักขั้นเทพเลยทีเดียว
5.กะเพรา
น้อยคนนักที่ทราบว่าผักสิ้นคิดเวลาเรานึกอะไรอออกอย่างกะเพรามีสรรพคุณอะไรบ้าง จริงๆแล้วใบกะเพรามีฤทธิ์ขับลมช่วยแก้จุดเสียด แน่นท้อง แก้ปวดท้องอุจจาระ ส่วนน้ำสกัดทั้งต้น สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร สำหรับเมล็ดกะเพรา ก็สามารถพอกตาให้ผงหรือฝุ่นที่เข้าตาหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ รากกะเพราแห้งๆ ยังนำมาชงกับน้ำร้อนดื่มแก้โรคธาตุพิการได้ และสรรพคุณเด็ดของกะเพราอีกประการก็คือ ช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งกะเพราจะช่วยขับน้ำดีในตับออกมาให้ช่วยย่อยไขมันได้ดีขึ้นด้วย
การลดน้ำนหนักให้ได้ผลนั้น นอกจากจะใส่ใจเรื่องอาหารการกิน โดยรับประทานแต่สิ่งที่มีประโยชน์ ลดไขมันไม่ดี งดแป้งและน้ำแล้ว สิ่งที่จะช่วยให้การบริโภคสมุนไพรลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ที่สำคัญความอ้วนจะไม่มาเยือนเราได้ง่ายๆ

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า