วิธีแก้โรคนอนไม่หลับที่ได้ผล หลับสบาย

         คุณทราบหรือไม่ โดยธรรมชาติของมนุษย์เราใช้เวลานอนหลับถึง 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมด แถมเวลานอนหลับ ร่างกายจะฟื้นฟูตัวเอง เพิ่มพลังงานเสมือนการชาร์ตแบตให้ชีวิต ดังนั้น การนอนหลับพักผ่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานอนของบางคนที่เป็นลักษณะหลับๆตื่นๆ หลับไม่สนิท แบบนี้เรียกว่าการนอนของเราไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายตามมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเครียด เกิดริ้วรอยได้ง่าย ทั้งยังส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรง โดยเฉพาะโรคทางจิตวิทยา

         ภาวะการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ในวงการแพทย์เรียกว่าเป็นโรคนอนไม่หลับ” ซึ่งจะแบ่งตามลักษณะอาการเป็น 3 ชนิด ดังนี้
         1.นอนไม่หลับชั่วคราว (Transient insomnia) สาเหตุเพราะมีสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องคิดกังวลหรือปรับตัว เช่น มีเหตุการณ์ตึงเครียดเสียใจเกิดขึ้นฉับพลัน หรือการเดินทางเปลี่ยนสถานที่นอน การเจ็บป่วยฉับพลัน เมื่อสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น ก็จะสามารถนอนหลับได้ปกติ
         2.นอนไม่หลับเป็นระยะๆ (Intermittent insomnia) มักเป็นกลุ่มที่มีอาการต่อเนื่องจากกลุ่มที่ 1 เนื่องจากสถานการณ์ต้นเหตุยังคอยกระตุ้นเป็นระยะๆ ทำให้มีอาการ ไม่หลับที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บ่อยๆ เป็นระยะๆ
         3.นอนไม่หลับเรื้อรัง (chronic insomnia) มีอาการนอนไม่หลับเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 3 สัปดาห์ มีสาเหตุได้หลายอย่าง ได้แก่ การเจ็บป่วยทางกายต่างๆ โรคทางกายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการนอน เช่น การนอนกรน โรคทางจิตเวชต่างๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคจิต ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง


วิธีรักษาโรคนอนไม่หลับ

         การรักษาโรคนอนไม่หลับ มีหลักการคือ 1.ค้นหาสาเหตุหรือหาพฤติกรรมร่วม เช่น การนอนอยู่บนเตียงนานเกินไปอาจจะทำให้เกิดความคิดฟุ้งซ่าน ควรลุกขึ้นมาจดบันทึกว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่ พร่งนี้ควรทำอะไรต่อ เป็นการสงบความคิดอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะช่วยทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น
         2.ปฏิบัติตนตามสุขลักษณะการนอนที่ดี และ 3.อาจใช้ยาช่วยให้นอนหลับ แต่ควรรับประทานเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ควรใช้ยาต่อเนื่องนานเกิน 2-6 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ติดยา หรือต้องพึ่งยาตลอดไป


เคล็ดลับแสนง่าย แก้อาการนอนไม่หลับ

         วันนี้เรามีเทคนิคแสนง่ายที่จะช่วยแก้โรคนอนไม่หลับได้อย่างเห็นผล ทำให้คุณนอนหลับสนิท หลับสบายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
         1.การเข้านอนและตื่นนอนควรให้เป็นเวลา เพราะเมื่อร่างกายปรับตัวจนชินกับการนอนดึกไปแล้วจะกลับมานอนเร็วนั้นเป็นเรื่องที่ยาก
         2.หากนอนไม่หลับ ไม่ควรนอนอยู่บนเตียงเป็นระยะเวลานานๆ เพราะจะเกิดความกังวลจนทำให้นอนไม่หลับ เพราะฉะนั้นควรลุกขึ้นมาเดินสักนิดหน่อยแล้วคอยกลับไปนอนอีกครั้ง

         3.ปิดไฟ อย่าให้มีแสงสว่างมากจนเกินไป โดยธรรมชาติของร่างกายคนเรามีตัวกำหนดว่าถึงเวลานอนแล้วนั้นก็คือ เมลาโทนิน (Melatonin) สารชนิดนี้จะออกก็ต่อเมื่อความมืดมาเยือน เพราะฉะนั้นถ้าเปิดไฟสว่างมากเกินไปมันจะกดการหลั่งของสารเมลาโทนิน (Melatonin) ร่างกายจึงไม่สามารถรับรู้ถึงการนอน
         4.การออกกำลังกายที่ดี จะช่วยให้มีการนอนที่ดี แต่ถ้าหากออกกำลังกายหนักมากและใกล้กับเวลานอนมากจนเกินไป ร่างกายก็ไม่พร้อมเพราะร่างกายเกิดการกระตุ้น ดังนั้น ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ไม่หักโหม และจัดสรรเวลาให้ดี อย่าให้รบกวนเวลานอนหลับพักผ่อนไม่อันขาด

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

หลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก ทำไงดี มีวิธีแก้มาฝาก

         เชื่อว่าหลายคนคงเคยตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับอาการอ่อนเพลีย ไม่ค่อยสดชื่น ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกไปเรียนหรือไปทำงาน รู้สึกหัวไม่แล่น เหมือนนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ทั้งๆที่พอเงยหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าช่วงเวลาในการนอนหลับไม่ได้น้อยลงแต่อย่างใด อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับใครหลายคน ซึ่งมันคืออาการของคนนอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก (ทั้งรู้ตัวและไม่รู้) นั่นเอง

อาการนอนหลับไม่สนิท คืออะไร
อาการหลับไม่สนิท คือการนอนหลับพักผ่อน (แบบหลับสนิท) ไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคหัวใจเพิ่มขึ้น ภูมิต้านทานลดลง และยังอาจส่งผลให้รับประทานมาก อ้วนง่ายขึ้นอีกด้วย ฉะนั้น เราไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเรื่องการนอนหลับไม่สนิท หรือตื่นกลางดึกระหว่างการนอนพักผ่อน ทำให้นอนน้อยลงกลายเป็นความเคยชินจนทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

 

วิธีแก้ อาการหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก
1.อย่านอนผิดเวลาทุกวัน การเข้านอนก็เหมือนการรับประทานอาหาร กล่าวคือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำทุกวัน และทำเป็นเวลา อย่าให้ผิดเวลา โดยควรเข้านอน และตื่นนอนตามตารางเวลาเดิมเป็นประจำ มิเช่นนั้นพอนานๆไป จะทำให้คุณหลับไม่สนิทได้ในที่สุด
2.รู้จักพักระหว่างวัน หากรู้สึกไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน ควรใช้วิธีนั่งท่าสบายๆอยู่ที่โต๊ะ ทำงาน หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้กัน หลับตา และปล่อยตัวตามสบายสัก 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย จะช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวมีแรงมากขึ้น ที่สำคัญคือส่งผลให้คุณหลับในช่วงกลางคืนได้สนิทมากขึ้น
3.ฝึกชี่กง (ลมปราณ) ชี่กงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำจิตใจให้สงบ ช่วยสร้างสมาธิให้กับผู้ฝึก และขจัดความอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี แก้อาการง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวันได้ แถมยังแก้อาการหลับไม่สนิท ตื่นกลางได้อีกด้วย
4.รับประทานอาหารแต่หัวค่ำ หากคุณเป็นคนกินจุบกินจิบ แนะนำให้กำหนดเส้นตายของตัวเองให้รับประทานอาหารได้แค่ช่วงหัวค่ำเท่านั้น เพราะจะช่วยให้อาหารย่อยได้ง่ายและเร็วขึ้น ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้หลับสนิทมากขึ้น
5.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ โดยเฉพาะก่อนนอน เนื่องจากมันจะเข้าไปทำปฏิกิริยาในร่างกาย เป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้มีอาการนอนหลับไม่มสนิท ถึงแม้ว่าการดื่มจนเมาจะทำให้คุณรู้สึกหลับสนิทก็ตาม แต่แอลกอฮอลล์ก็ทำปฏิกิริยากับร่างกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความไม่สบายตัว

6.รับประทานแอปเปิ้ล ผักกาดหอม และนม เพราะอาหารเหล่านี้ประกอบด้วย วิตามินและเอ็นไซม์ที่เป็นสื่อกลางช่วยให้มีอาการง่วงเหงาหาวนอนได้ง่าย จึงทำให้เราหลับสนิทตลอดทั้งคืน ซึ่งอาหารดังกล่าวยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
7.อย่าดื่มน้ำมากเกินไป ก่อนเข้านอน หลายคนชอบดื่มน้ำเปล่ามากๆ แต่ทว่าหากดื่มมากๆก่อนเข้านอน อาจทำให้คุณนอนหลับไม่สนิทได้ เนื่องจากต้องตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะปวดชิ๊งฉ่อง
8.ปรับแต่งห้องนอนให้เหมาะสม เนื่องจากสภาพแวดล้อมส่งผลต่อการนอนหลับเป็นอย่างมาก เช่น การทาห้องนอนสีฟ้าหรือสีขาว จะช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ควรปล่อยให้ห้องนอนรก หรือมีกลิ่นอับ เพราะอาจทำให้คุณหลับไม่สบาย ที่สำคัญคือห้องนอนควรปราศจากเสียงรบก่อนข้างนอก ควรปรับแต่งห้องให้ดูเงียบสงบ อาการถ่ายเทมากที่สุด

 

 

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.

อาการนอนไม่หลับ…แก้อย่างไรดี

         การนอนไม่หลับไม่ใช่โรคร้ายแต่อย่างใด มันเป็นปัญหาสุขภาพอย่างหนึ่งที่จะทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดชื่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหนังสือ หน้าที่การงาน รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทั้งนี้ แต่ละคนอาจมีความรู้สึกต่อการนอนไม่หลับได้หลายแบบ เช่น อาการนอนหลับยาก กว่าจะหลับสนิทก็ใช้เวลานาน หรือบางคนหลับๆตื่นๆ นอนหลับไม่สนิทเสียทีเดียว เป็นต้น วันนี้เรามาดูกันว่า จริงๆแล้วอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ อย่างไร

ทำไมถึงมีอาการนอนไม่หลับ
         1.ปัญหาทางด้านอารมณ์ เช่น ภาวะตึงเครียดในชีวิต สูญเสียบางในอย่างในชีวิต เป็นต้น
         2.การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น แสงสว่างมากเกินไป เสียงดัง อุณหภูมิร้อนเกินไป การเปลี่ยนที่นอนและการเดินทางข้ามเส้นแบ่งเวลาโลก การทำงานกะดึก เป็ต้น 

         3.ปัญหาจากโรคของการนอนหลับโดยตรง เช่น การเคลื่อนไหวแขนขาที่ผิดปกติขณะหลับ การขาดลมหายใจระหว่างการนอนหลับเป็นพักๆ           
         4.ความผิดปกติทางสรีรวิทยา ของผู้ป่วยที่มีความไวกว่าธรรมดา เช่น ภาวะตื่นตัวสูงและตื่นเต้นง่าย           
         5.โรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรคในกลุ่มกังวล โรคจิต เป็นต้น      
         6.อาการเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น สมองเสื่อม ความผิดปกติของฮอร์โมน อาการปวดการไอเรื้อรัง การหายใจลำบาก การตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย ๆ            
         7.การใช้ยาหรือสารบางชนิด

วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ
         1.เลี่ยงอาหารทำให้เกิดลม รวมถึงสิ่งที่ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น น้ำอัดลม ถั่ว มันเทศ หัวหอมใหญ่ พริกหยวก บล็อกโคลี่ มันแกว ข้าวโพด กล้วยหอม และควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก่อนนอน เช่น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม รวมทั้งขนมหวานทุกชนิด เพราะน้ำตาลจะกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัว
         2.หยุดรับประทานก่อนนอน 2 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการเข้านอนในขณะที่อาหารกำลังย่อยอยู่ ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังอาหารค่ำ หรือหากอยากให้ย่อยไว แนะนำให้เดินเล่นในบ้าน จะทำให้กระเพาะทำงานได้ดีขึ้น

         3.อาบน้ำอุ่น หากนอนไม่หลับเป็นประจำ แนะนำให้อาบน้ำอุ่นโดยค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นจาก 35 ถึง 39 องศาเซลเซียส น้ำอุ่นสามารถกล่อมประสาทให้ง่วงนอนได้ หรืออีกวิธีคือให้แช่เท้าในน้ำอุ่นจะช่วยผ่อนคลายเส้นประสาท เส้นโลหิต หลอดน้ำเหลือง ทำให้หลับได้ดีขึ้น
         4.รับประทานน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น น้ำผึ้งเล็กน้อยผสมในน้ำอุ่น หรือชาสมุนไพร จะช่วยทำให้หลับง่ายขึ้นนั่นเอง เพราะมีการใช้น้ำผึ้งเป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ มาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว ทั้งนี้ อย่าลืมว่าควรบริโภคก่อนที่จะนอนประมาณ 2 ชั่วโมง
         5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ช่วงเช้าตรู่หรือตอนเย็น จะช่วยลดความตึงเครียดทางร่างกายและอารมณ์ ช่วยให้หลับได้เร็ว ทั้งยังทำให้ตื่นเร็วขึ้น กระนั้นก็ดี ไม่ควรออกกำลังกายช่วงใกล้เข้านอน เพราะอาจรบกวนการนอนหลับได้
         6.หากิจกรรมสร้างความผ่อนคลาย ถ้าเข้านอนนาน 15-30 นาที แล้วยังไม่หลับให้ลุกขึ้นจากที่นอน แล้วทำกิจกรรมซึ่งให้ความเพลิดเพลิน เช่น ฟังเพลงหรืออ่านหนังสือ และกลับมานอนใหม่ แต่ควรหลีกเลี่ยงการดูทีวี ฟังข่าว เล่นคอมพิวเตอร์ เพราะจะเร้าความรู้สึกตื่นตัวในขณะที่อยากหลับ ที่สำคัญอย่านอนอยู่บนเตียงโดยไม่หลับจนถึงเช้า เพราะจะกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวล

         7.เข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาทุกวัน เพื่อให้เกิดความเคยชิน หากลุกจากเตียงทันทีเมื่อตื่นอย่างตรงเวลา การสัมผัสแสงแดดอ่อนตอนเช้า และออกกำลังกายเบาๆ หลังตื่นนอน 10-15 นาทีก่อนทำกิจกรรมอื่น จะช่วยให้สมองและร่างกายตื่นตัว สามารถปฏิบัติกิจกรรมต่างๆได้ดี และเมื่อได้เวลาเข้านอนก็จะหลับได้อย่างสนิทมากขึ้น
         หากนำเคล็ดลับนี้ไปใช้คุณก็จะนอนหลับสนิทได้ทุกวัน ซึ่งมีผลวิจัยชี้ว่าขณะหลับเซลล์สมองจะหดตัวลงร้อยละ 60 ทำให้กระบวนการน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังที่ถูกส่งมาจากเนื้อเยื่อสมอง เพื่อกำจัดของเสียออกไปทำงานได้ดีขึ้นกว่าตอนตื่นถึง 10 เท่า ดังนั้น การนอนหลับให้สนิทอย่างเพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ใครที่นอนไม่ค่อยหลับจึงควรหาวิธีแก้ไขให้ได้โดยเร็ว

สำหรับใครที่มีปัญหาข้างต้นต้องการหา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่อง สารต้านอนุมูลอิสระ และความเสื่อมของระบบในร่างกาย สมรรถภาพ มะเร็ง เบาหวาน ลดสิว กระ จุดด่างดำ ฝ้า แก่ก่อนวัย และปัญหาผิว ทางเว็บไซต์ขอแนะนำให้ดูคลิปรายการ และคลิปคุณหมอ เรื่องสารสกัด ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน) ด้านล่างนี้ได้เลย หรือ PDF รายละเอียดสินค้า

AESTA – ASTAXANTHIN (แอสตาแซนธิน ออร์แกนิกเข้มข้น นำเข้าจากญี่ปุ่น)
Beauty24 Co.,Ltd.